ก๊อก ๆ ๆ!!
"คริส ยัยคริส!!" โอ๊ยยยย เคาะประตูอะไรแต่เช้าเนี่ยคนจะนอน ฮื่อออ เพิ่งจะได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงเองอ่ะ
ก๊อก ๆ ๆ!!
"คริสตัล! ตื่นได้แล้วไม่ไปโรงเรียนรึไง เดี๋ยวก็สายหรอกลูกคนนี้หนิ" ยัง ยังจะเคาะอีก จะนอนนน เอ๊ะ?! แต่เดี๋ยวนะโรงเรียนหรอ? โรงเรียน!! ใช่วันนี้ฉันต้องไปโรงเรียนหนิ
"เฮ้ย! จะสายแล้ว ตายแน่ๆ เลยจะไปทันไหมเนี่ย ตื่นแล้วค่าแม่!" ฉันคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาดู ก็ต้องตกใจเพราะนี่มัน 07:40น.แล้ว มีเวลาอีก 20นาทีเท่านั้น…ฉันรีบตะโกนบอกแม่ทันทีว่าตื่นแล้ว จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองทันที
ตึก! ตึก ๆ ๆ!
"ลงมาสักที ไปโรงเรียนก็ตื่นสายทุกวัน ตั้งแต่เข้าโรงเรียนวันแรก จนตอนนี้จะจบม.6 อยู่ละก็ยังไปสาย" เสียงแม่บ่นฉันเองแหละ บ่นทู๊กกกวันไม่เบื่อบ้างรึไง ก็รู้ว่าตื่นสายทุกวันแล้วยังจะบ่น…
แหะๆ ฉันได้แค่พูดอยู่ในใจนะ ไม่กล้าพูดออกไปหรอก
ขืนพูดไปมีหวังได้โดนตะหลิวฟาดหน้าแน่ๆ
"โธ่แม่~ ก็มันง่วงอ่ะ ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง" ฉันพูดกับแม่ด้วยเสียงอ้อนๆ หรืองัวเงียวะ แต่ชั่งเหอะ เฮ้ออ ยังนอนไม่เต็มอิ่มเรอะ จะว่าไปตอนนี้ก็ยังง่วงอยู่เลย ห้าวววว~
โป๊ก!!
"นี่แน่ะ! ตื่นยัง? แล้วไอ้นิสัยที่ชอบอ่านนิยายจนนอนดึกเมื่อไหร่จะเลิกสักทีห๊ะ รีบไปโรงเรียนเลย เดี๋ยวก็สายจริงๆหรอก ไหนบอกว่าวันนี้มีมหาลัยมาแนะแนว ม.6 ด้วยไม่ใช่รึไง" โอ๊ยย!! โดนจนได้ ไม่โดนหน้าก็โดนหัวนี่แหละ แม่นะแม่ เจ็บชะมัด ชิ! ไปโรงเรียนดีกว่า ลืมเลยว่าจะสายแล้ว
"ไปเลยก็ได้ ไปแล้วนะคะ ฟอดดด!!~ ฮ่าา ชื่นใจ ไปดีกว่า" พูดเสร็จฉันก็รีบไป แต่ไม่ลืมหอมแก้มนุ่มๆ ของแม่ด้วย จากนั้นก็รีบไปโรงเรียนทันที แต่ก็ไม่วายมีเสียงบ่นตามหลังมาอีกนั่นแหละ ฮ่าๆๆ
KH School
แฮ่ก! แฮ่กๆ
ถึงโรงเรียนสักที ว่าแต่เพื่อนฉันอยู่ไหนกันหมดเนี่ย โทรหาพวกมันสักหน่อยดีกว่า
ตู๊ดดดดด~ ตู๊ดดดดด~
"ฮัลโหล ไอ้กันตร์แกอยู่ไหนเนี่ย" ทันทีที่มันรับสายฉันก็ถามมันว่าอยู่ไหน
"พวกกูอยู่โรงอาหารกันหมดละ เหลือมึงคนเดียวเนี่ย เมื่อไหร่จะมา"
"เออๆๆ กูถึงโรงเรียนละ เดี๋ยวกูไปหาพวกมึงที่โรงอาหาร
ละกัน" ติ๊ด!! ฉันวางสายแล้วรีบเดินไปหาพวกมัน
จะว่าไปก็ลืมแนะนำตัวเองไปเลย สวัสดี ฉันชื่อคริสตัล คาริสา นิธิกร กำลังจะจบ ม.6 อายุ18ปี ส่วนนิสัยเป็นยังไงนั้นติดตามต่อไปเรื่อยๆ ก็จะรู้เองแหละ มีเพื่อนสนิท 3คน คือ น้ำหนาว
แสงเหนือ และคนที่รับสายฉันเมื่อกี้ ก็คือไอ้โลกันตร์ เพื่อนชายคนเดียวของฉันเอง…เดินมาถึงโรงอาหารก็มองหาเพื่อนทันที นั่นไงฉันไอโลกันตร์มันโบกมือเป็นลิงกังให้ฉันอยู่
"ไงมึง สายทุกวันเลยนะ มัวฝันถึงพระเอกในนิยายของมึงอยู่รึไง" ไอ้โลกันตร์ดูมันพูดเข้า แต่ก็จริงนั่นแหละ อร๊ายยเขิน~ อยากมีแฟนแบบพระเอกในนิยายบ้างจัง
"มึงก็พูดไป~ แล้วไงอ่ะ ผู้ชายในนิยายมันก็แค่จินตนาการของกูป่ะ กูจะมโนยังไงก็ได้" ฉันตอบไอโลกันตร์มัน อย่ามาว่าพระเอกนิยายกูนะ เดี๋ยวกูก็กัดคอแม่ง!! แฮร่!!
"เออ ไอคริสพูดถูก ผู้ในนิยายมันจะเอาไปฝัน ไปมโนยังไงก็ได้ ไม่เหมือนผู้ชายในชีวิตจริง เหอะ!" เห็นแมะ แสงเหนือยังเห็นด้วยกับฉันเลย
"ทำไม ผู้ชายในชีวิตจริงมันยังไง" โลกันตร์มันถามด้วยความสงสัยว่าผู้ชายในชีวิตจริงที่แสงเหนือพูดหมายความว่ายังไง
"ก็ห่วยไง!! เจ้าชู้ กะล่อน เจ้าเล่ห์ โดยเฉพาะมึงเลยไอกันตร์!" นั่นไง! เริ่มละ ไอสองคนนี้มันเริ่มจะทะเลาะกันอีกละ แต่ก็จริงอย่างที่แสงเหนือพูดนะ ชีวิตจริงผู้ชายมันห่วยแตก ดูอย่างชีวิตฉันตอนนี้สิ มีแต่ผู้ชายแบบนั้นมาวนเวียน น่ารำคาญ น่าเบื่อ
"อ้าวเฮ้ย พูดงี้ก็สวยดิ่ไอเหนือ กูเกี่ยวอะไรด้วยวะ กูออกจะสุภาพบุรุษ" ดูมันทำท่าทาง ชมตัวเองแล้วยังจะยืนเก๊กหล่อกลาง
โรงอาหารอีก
"สุภาพบุรุษกับผีนะสิ มึงอ่ะตัวดีเลยไอ้สัส คนเ-ี้ยไรลื่นอย่างกับปลาไหลติดไซเรน!" ฮ่าๆๆ ไอเหนือมันพูดซะฉันเห็นภาพเลย บางคนในโรงอาหารที่ได้ยินไอเหนือถึงกับหัวเราะออกมาเหมือนกัน ก็คงจะเห็นด้วยกับแสงเหนือ เพราะโลกันตร์มันเจ้าชู้มาก ส่วน
ไอกันต์ก็หน้าบึ้งสิ มันกำลังจะพูดแต่ก็โดนขัดขึ้นมาซะก่อน
"โอ๊ยยยย!! พอๆๆ พวกแกจะทะเลาะกันทำไมเนี่ย จะจบม.6กับอยู่แล้ว ก็ยังจะทะเลาะกันอีก ไม่เบื่อบ้างรึไง" ยัยน้ำหนาวห้ามสองคนนั้นที่กำลังกัดกัน แต่จะห้ามได้นานแค่ไหนกัน เดี๋ยวพวกมันก็ทะเลาะกันอีก จะดีกันก็ต่อเมื่อรวมหัวกันเล่นอะไรพิเรนทร์ๆ
นั่นแหละ ถึงจะเข้าขากันได้ดี
"เบื่อ!! / เบื่อ!! เชอะ!" มันสองพูดพร้อมกันแล้วสะบัดหน้าไปคนละทาง คอจะเคล็ดไหมนั่น
"เลิกทะเลาะกันแล้วก็ไปที่ห้องโสดฯได้แล้ว ต้องไปฟังมหาลัยที่มาแนะแนวอีก ยังไม่รู้เลยว่ามหาลัยที่มาคือมหาลัยอะไร เดี๋ยวก็ไม่มีที่นั่งอีก" เพราะครั้งก่อนที่มีมหาลัยมาแนะแนว คนในห้องโสตจะเยอะมาก ไม่ได้มีแค่นักเรียนชั้นม.6 เท่านั้น แต่จะมีชั้นอื่นๆด้วย
โรงเรียนนี้พิเศษอย่างหนึ่งคือ ให้โอกาสนักเรียนมาฟังมหาลัยแนะแนวนักเรียนที่กำลังจะจบ เพื่อเป็นแนวทางการเรียนต่อให้กับนักเรียน เหอะ! แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เข้ามาฟังการแนะแนวอะไรทั้งนั้นไง! โดยเฉพาะหญิงที่มาดูนักศึกษาผู้ชาย!!
"ฉันขอไปห้องน้ำก่อนนะ พวกแกจะไปด้วยไหม" ฉันรู้สึก
ปวดฉี่อ่ะเลยจะไปห้องน้ำก่อน ก็เลยถามพวกมันว่าจะไปด้วยไหม
"เออไป/ ไป /กูไปด้วย เดี๋ยวเข้าไปแล้วกว่าจะได้ออกมา" สรุปก็ไปกันทั้งหมดนี่แหละ
อ๋อลืมบอกไปว่าวันนี้ชั้นม.6ไม่มีเรียน เนื่องจากสอบเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้จะเรียกว่าจบม.6แล้วก็ได้ แค่รอรับใบจบ แล้วไปสอบเข้ามหาลัย แต่ที่มาวันนี้ก็เพราะมาฟังการแนะแนวจากมหาลัยโดยเฉพาะเลย เพราะฉันยังไม่รู้เลยน่ะสิว่าจะเรียนที่ไหน และอยากเรียนอะไร บางทีถ้ามหาลัยที่มาแนะแนววันนี้น่าสนใจฉันอาจจะไปเรียนที่นั่นเลยก็ได้
"เฮียกับป่ะป๊าเร็วๆ สิคะ! น้องเรนอยากไปโรงเรียนแล้วนะ" สาวน้อยน่ารักในชุดนักเรียนลายสก๊อต กำลังกระโดดเด้งขึ้นลงราวกับกระต่ายตัวน้อย พลางเอ่ยเร่งผู้เป็นพ่อ "จะรีบอะไรขนาดนั้นคะลูกสาว นี่มันยังเช้าอยู่เลย" เสียงหวานเอ่ยถามลูกสาวตัวน้อยอย่างอ่อนโยน มือป้อมๆ กอดขาเรียวของแม่ไว้แน่น พลางส่งสายตาออดอ้อนให้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู จนทุกคนที่มองอยู่พากันยิ้มให้กับความสดใสของเธอ "ก็น้องเรนตื่นเต้นนี่คะ ที่จะได้ไปโรงเรียนแล้ว!" ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะตื่นเต้นขนาดนี้ เพราะวันนี้เป็นวันที่ยัยตัวแสบจะได้ไปโรงเรียนวันแรกและครั้งแรก แต่... "อยู่บ้านก็ไม่มีเพื่อนเลย เพราะเฮียไปโรงเรียน น้องคาริสก็ยังเด็ก เล่นกับน้องเรนไม่ได้ น้องเรนเหง๊าาเหงาค่ะคุณแม่ขา~" ปากเล็กแบะคว่ำลงพลางทำหน้าตาเหงาหงอยเหมือนหมาซึม!? หึ! ทำเป็นตีหน้าเศร้า รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วมีแผนอื่นซ่อนอยู่...แต่ก็นะ เอาเป็นว่าแม่จะตามน้ำหนูไปก่อนก็แล้วกัน "เหงาจริงรึเปล่าเจ้าตัวแสบ! ไม่ใช่ว่ามีวัตถุประสงค์อื่นหรอกหรอ หื้ม!?" ร่างสูงเดินออกมาจากบ้าน พร้อมเด็กชายวัยกำลังโตอีกสองคนเอ่ยขึ้น "วัตถุประสงค์อะไรคะ ไม่มี๊! ไม่มี!!" มือน้
หลายปีต่อมา คริสตัล "เดี๋ยวป้าจันทร์กับพี่ๆ ช่วยกันยกอาหารออกไปวางด้านนอกเลยนะคะ" ร่างเพรียวสวยกล่าวกับเหล่าแม่บ้าน ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารภายในครัว วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของเฮียและลูกชายฉันเอง คือคิรันและคิริน หลายคนก็คงจะรู้แล้วว่าคิรันคือใคร...เด็กน้อยมหัศจรรย์ที่อยู่ในความฝัน ได้มาเกิดเป็นลูกของฉันเอง! แต่ประเด็นคือ..เขาไม่ได้มาคนเดียว! ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองอุ้มท้องลูกแฝดก็ตอนคลอด แถมยังเกิดวันเดียวกันกับพ่อของพวกเขาด้วยอีก! ตอนนั้นฉันทั้งตกใจและก็ดีใจเหมือนกัน ที่รู้ว่าได้ลูกแฝด แต่คนที่ดีใจมากกว่าฉัน ก็ไม่พ้นคุณพ่อมือใหม่นั่นแหละ ถึงขั้นร้องป่าวประกาศลั่นโรงพยาบาล หึ! จนเกือบจะโดนยามไล่เลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะเล่นใหญ่ไปถึงไหน "ได้ค่ะนายหญิง!" แม่บ้านตอบรับคำสั่งของนายสาว "เฮ้อ! หนูบอกแล้วไงคะ ว่าให้เรียกหนูว่าคริสตัลก็พอ~" ร่างบางถอนหายใจเสียงดัง ใบหน้ายู่เล็กน้อยกับสรรพนามที่ถูกเรียก "โธ่~ อย่างอนสิคะนายหญิง ก็พวกเราชินกับการเรียกแบบนี้แล้วนี่หน่า..." แม่บ้านสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจ "งึก! ก็เพราะว่าทุกคนไม่ยอมเรียกชื่อหนูกันตั้งแต่แรกนี่..." "สรุป
เอี๊ยดด ปัง! "หนูคริสตัล ทำไมตาแดงแบบนั้นลูก!" คาร่าถามคริสตัลที่ลงมาจากรถด้วยดวงตาที่บอบช้ำและแดงก่ำ "ตาคิมแกทำอะไรน้อง! แล้วทำไมถึงขับรถช้านัก ป๊ากับม๊าถึงบ้านนานแล้ว เราสองคนก็ยังกลับไม่ถึงบ้านสักที" คาร่าหันไปถามคิมหันต์เสียงเข้ม "ป๊า ม๊า อ๊ากกกก!! เมียผมท้องแล้วครับ! เมียผมท้องแล้ว ได้ยินไหม!!" "วู้วว! เมียกูท้องแล้วเว้ย!!" "ทุกคนรู้ไหม ว่าตอนที่ผมได้ยินหมอบอกว่าคริสตัลท้อง ผมต้องอดทนมากแค่ไหนที่จะไม่ร้องตะโกนออกมากลางโรงพยาบาล!" ทันทีที่ลงมาจากรถ คิมหันต์ก็ตะโกนร้องป่าวประกาศด้วยความดีใจ ปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดที่อยู่ในใจ ตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลออกมา "เฮ้ออ ที่แกเงียบ และทำหน้าเรียบเฉยตอนออกมาจากห้องตรวจ ก็เพราะแบบนี้สินะ!" เจ้าสัวหยางถึงกับถอนหายใจกับการกระทำของลูกชาย ที่ทำเอาทุกคนใจหายใจคว่ำหมด เพราะคิดว่าไม่อยากมีลูกซะอีก "ฮึก! ฮื้อออ!~" เสียงร้องไห้จากร่างบางดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมองก้วยความตกใจ "หนูคริสตัล!" "คริสตัล! หนูเป็นอะไรครับ เจ็บตรงไหนบอกเฮียสิ!" คิมหันต์ใจหล่นวูบ เมื่อได้ยินเสียงร้องจากแม่ของลูก รีบวิ่งเข้าไปจับร่างบางหมุนซ้ายหมุนขวา เพื
"ป๊าม๊าสวัสดีครับ / ค่ะ" "สวัสดีลูก คริสตัลตอนนี้หนูเป็นยังไงบ้างลูก ดีขึ้นรึยัง" คาร่าถามไถ่ลูกสะใภ้ด้วยเสียงอ่อนนุ่ม "ดีขึ้นแล้วค่ะม๊า แผลปิดสนิทแล้ว" "ดีแล้วล่ะจ้ะ แต่ที่ม๊าถามไม่ใช่แค่เรื่องนั้นหรอก..." "เอ่อ แล้วมีเรื่องอะไรอีกหรอคะ" คริสตัลถามอย่างงุนงง นอกจากเรื่องที่เธอบาดเจ็บ ก็ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรแล้วนี่หน่า… "ก็พี่เขาบอกม๊าว่าช่วงนี้หนูอารมณ์อ่อนไหวง่าย หนูโอเครึเปล่าลูก มีอะไรไม่สบายใจบอกม๊าได้นะ" คาร่าเดินเข้าไปกุมมือบางเบาๆ พลางเอ่ยด้วยความเป็นห่วง "เอ่อ ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้หนูไม่สบายใจหรอกค่ะ แต่ว่าา..." คริสตัลอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไงดี "…แต่ว่า หนูไม่รู้ว่าช่วงนี้ตัวเองเป็นอะไร ถึงได้มีอารมณ์แบบนั้น" "หนูขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง โดยเฉพาะเฮีย..." ร่างบางก้มหน้าพูดเสียงหงอย "ไม่เป็นไรครับ เฮียแค่เป็นห่วงกลัวว่าเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของหนูมาก จนทำให้หนูเป็นแบบนี้" อีกอย่างหนึ่งเขากลัวว่าเธอจะคิดมากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า "เรื่องมันผ่านไปแล้ว หนูไม่ได้กลับไปคิดถึงมันหรอกค่ะ และตอนนี้หนูก็สบายดี ไม่ได้เป็นอะไรจริ
หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มาชีวิตคู่ของคิมหันต์และคริสตัลก็สงบสุขสักที ตั้งแต่วันที่คริสตัลถูกจับตัวและถูกทำร้ายอาการสาหัส หลังจากออกจากโรงพยาบาลชายหนุ่มก็ดูแลเอาใจใส่ร่างบางเป็นอย่างดี ทั้งคู่ตัวติดกันแทบจะไม่ได้ห่างกันเลยนอกจากเวลาเรียน โดยเฉพาะคริสตัลที่ช่วงนี้เหมือนจะติดคิมหันต์เป็นพิเศษ "เฮีย~หนูง่วงนอนแล้วค่ะ" ร่างเล็กสวมชุดนอนลายการ์ตูนน่ารัก เดินขยี้ตาเข้ามาในห้องทำงานที่มีร่างสูงนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียด "รออีกนิดนะครับ เฮียขอตรวจเอกสารอีกนิดหนึ่ง ใกล้จะเสร็จแล้ว" คิมหันต์พูดเสียงราบเรียบ ตอนนี้เขากำลังเร่งเคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จก่อนวันขึ้นรับตำแหน่งและวันแต่งงานของทั้งสองคน "งึก! เฮียพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ!" คริสตัลหน้างอง้ำทันทีที่ได้ยินร่างสูงพูดแบบนั้น "ถ้างั้นหนูไปนอนก่อนก็ได้ครับ เฮียยังทำงานไม่เสร็จ..." คิมหันต์บอก เขารู้ว่าคนตัวเล็กอยากให้เขากล่อมนอน แต่จะทำยังไงได้ในเมื่องานเขายังไม่เสร็จ อีกอย่างหนึ่ง ไม่อยากให้เธอเสียเวลามานั่งรอเขาแล้ว เพราะกว่าจะทำงานเสร็จก็คงจะดึกมากๆ "แล้วทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรกว่างานยังไม่เสร็จ บอกให้หนูนั่งรออยู่ตั้งนาน!
ติ๊ดๆๆๆๆ!! สัญญาณชีพจรดังขึ้นรัวๆ อย่างผิดปกติ ทำให้พยาบาลต้องรีบวิ่งไปตามหมอมาดูอาการ "คิรัน คอปเตอร์! หนูเป็นอะไรครับ ฟื้นขึ้นมาหาพี่สิ! ฮึก!" คริสตัลร้องตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างเล็กก็กระตุกเกร็งแล้วนิ่งไป "ฮื้ออ คิรันอย่าเป็นอะไรนะ!!" "พวกคุณออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ!" พยาบาลบอกกับทั้งสองคน "เกิดอะไรขึ้น คอปเตอร์เป็นอะไร!" หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาลถามขึ้น "คนไข้เกิดอาการช็อก และชีพจรเต้นผิดปกติค่ะ ผู้อำนวยการ!!" "คุณป้าครับ..." "ตาคิม! เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" หญิงวัยกลางคนมองไปยังหนุ่มสาวที่ยืนอยู่อย่างแปลกใจ "ฮึก! ช่วยคิรัน...อึก! ช่วยคอปเตอร์ด้วยนะคะ หนูขอร้อง~ ฮึก!" คริสตัลยกมือไหว้ขอร้องหมอให้ช่วยเด็กน้อยทั้งน้ำตา "ผมจะพยายามครับ" ตี๊ดดดดด!!~ สัญญาณชีพจรขึ้นเป็นเส้นตรง พร้อมกับเสียงตี๊ดที่ลากยาว เป็นการบอกว่าเด็กน้อยหัวใจได้หยุดเต้นแล้ว หมอและพยาบาลจึงรีบช่วยกันปั๊มหัวใจทันที "กรี๊ดดด ม่ายย!~ ฮื้อออ คิรัน!" คริสตัลร้องไห้อย่างขาดสติ แล้วทรุดตัวสลบไป เนื่องจากเพิ่งฟื้นมาทำให้ร่างกายยังไม่แข็งแรง บวกกับการเสียใจอย่างหนัก "คริสตัล! คริส