ดวงตากลมโตคู่สวยเปิดปรือขึ้นมาท่ามกลางห้องที่ยังคงมืดสนิท เพราะม่านหนาทำให้แสงแดดภายนอกไม่อาจลอดเข้ามาได้ เธอกวาดสายตาเพ่งสำรวจผ่านความมืดสลัวนั้น ก็พบตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอหมดแรงกำลังนอนคว่ำหน้าระบายลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ท่อนแขนกำยำข้างหนึ่งวางพาดหน้าท้องแบนราบของเธอเอาไว้ แม้ในห้องจะไม่ได้สว่างนัก แต่หญิงสาวก็สามารถมองเห็นรอยสักรูปมังกรขนาดใหญ่นั้นได้อย่างชัดเจน
ความทรงจำแสนวาบหวามของค่ำคืนที่ผ่านมาแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง แต่แทนที่เรนนี่จะแสดงท่าทีตกใจหวาดกลัว ใบหน้านั้นกลับเรียบเฉย ก่อนที่มุมปากบางจะคลี่รอยยิ้มเป็นปริศนาออกมาช้า ๆ
เธอเฝ้ารอจนแน่ใจว่าชายหนุ่มหลับสนิท ก่อนจะค่อย ๆ หยัดกายขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกระชับผ้าห่มผืนใหญ่ให้ช่วยปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้
มือเล็กยกขึ้น แล้วจึงออกแรงบีบลงบนพวงแก้มของตัวเองแรง ๆ ไม่นานก็เกิดรอยสีแดงระเรื่อบนพวงแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะย้ายมาบีบปลายจมูกตนเองเช่นกัน
นัยน์ตาคู่สวยซึ่งมักเอ่อคลอด้วยน้ำหล่อเลี้ยงทำให้ใบหน้าหวานของเรนนี่มักจะดูน่าทะนุถนอมเป็นทุนเดิม เพียงแค่เธอลืมตาค้างเอาไว้ครู่หนึ่ง ดวงตาก็แสบแดงขึ้นมาเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้
ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้ว การแสดงของหญิงสาวจึงเริ่มขึ้น
“อึก...ฮืออออ”
ไหล่ขาวสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับเสียงสะอื้นเบา ๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็สามารถทำให้ร่างกำยำข้างกายค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นมาได้ตามที่คาด
ฝ่ามือเล็กกำผ้าห่มเอาไว้แน่น ยิ่งเห็นว่าลูคัสกำลังขยับตัวตื่น เธอก็แสร้งกระเถิบกายออกห่าง
ร่างน้อยสั่นระริกด้วยท่าทางเจ็บช้ำ ใบหน้าแดงก่ำพร้อมเม็ดน้ำตารื้นรอบดวงตา ช่วยส่งเสริมให้บทบาทที่เธอแสดงนั้นดูสมจริงเข้าไปใหญ่
หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ตวัดสายตาคมกริบมองเชลยสาวตัวเล็กที่กำลังอยู่ในความหวาดกลัว ลึก ๆ แล้วเขาก็รู้สึกสะใจไม่น้อย แต่อีกใจมันรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
ลูคัสสะบัดศีรษะขับไล่ความอ่อนไหวที่เกิดขึ้น ใบหน้าหล่อร้ายไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมา นอกจากรำคาญเสียงสะอื้นที่ปลุกเขาตื่นเท่านั้น
ร่างเปลือยเปล่าอัดแน่นด้วยมัดกล้ามอย่างคนชอบออกกำลังกาย แผงอกกว้างมีรอยสักรูปมังกรตัวใหญ่ขดกายพาดขึ้นไปถึงลำคอ ยิ่งทำให้มาเฟียหนุ่มดูน่าเกรงขามและร้อนแรงไม่น้อยไปกว่ากัน
แก้มที่ผ่านการบีบร้อนผ่าวโดยไม่ต้องเสแสร้งเมื่อหนุ่มข้างกายหยัดตัวขึ้น อวดเรือนกายแข็งขันด้านล่างอย่างไม่ปิดบัง ทำเรนนี่จำต้องก้มหน้าหลับตาเป็นฝ่ายกระดากอายเสียเอง
ท่อนขาแกร่งก้าวลงจากเตียงก้มคว้ากางเกงสแล็กขึ้นมาสวมใส่อย่างลวก ๆ พร้อมเสยเส้นผมยุ่งเหยิงของตนเองขึ้น โดยไม่ได้ทันสังเกตว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขามีสายตาระยิบระยับของสาวตัวเล็กแอบมองไปด้วย
พรึ่บ
ทันทีที่เขาหันมา เรนนี่ก็สลับพลิกโหมดกลับไปเป็นนั่งร้องไห้ตัวสั่นได้อย่างรวดเร็ว จนมาเฟียหนุ่มไม่เห็นถึงความผิดปกติใด ๆ
เขาไล่สายตามองผ้าปูเตียงยับเยิบ และสภาพน่าสงสารของหญิงสาวที่ถูกเขาทารุณกรรมอย่างหนักหน่วงตลอดคืนนิ่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยออกมา
“ฉันให้เวลาเธอจัดการตัวเองสิบนาที แล้วจะมารับลงไปข้างล่าง”
“อึก...จะพาฉันไปไหน...จะปล่อยฉันแล้วใช่ไหม”
“ปล่อย? หึ โลกสวยไปหน่อยไหมเรนนี่...ฉันบอกเธอแล้วไงว่าหลังจากนี้เธอต้องอยู่ที่คฤหาสน์ของฉันเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ครอบครัวเธอทำ!”
น้ำเสียงที่เคยเรียบเฉยแข็งกร้าวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงความแค้นที่มีต่อครอบครัวหญิงสาว
“ฮือออออ ขอร้อง อย่าทำอะไรฉันอีกเลย แค่เรื่องเมื่อคืน...อึก มันก็มากเกินไปแล้ว”
“นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น...อย่าลืมเธอมีเวลาแค่สิบนาที!”
ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนัก แต่ลูคัสก็ไม่สนใจ หมุนกายก้าวออกไปจากห้องปล่อยให้เรนนี่ทำใจกับชะตากรรมอันเลวร้ายของตนเอง
ปึง
สิ้นเสียงปิดประตูเสียงร้องไห้ก็หยุดลงเช่นเดียวกัน หลังมือยกขึ้นปาดคราบน้ำตาปลอม ๆ ออกจากใบหน้า พร้อมมุมปากยกขึ้น เปลี่ยนภาพคุณหนูสาวแสนบอบบางให้ดูร้ายขึ้นทันตา
เรนนี่อมยิ้มอารมณ์ดีกับบทบาทที่เพิ่งแสดงจบ วาดเรียวขาลงจากเตียงด้วยท่าทางมาดมั่น
แต่แล้วใบหน้าที่กำลังเบิกบานเต็มที่ก็ต้องเหยเกขึ้นมากับความแสบสันยังกลางกายสาว
เธอสูดปากเป่าลมเข้าออกเพื่อปรับตัวรับกับความเจ็บแปลบนี้ ก่อนจะก้าวเข้าไปยังห้องน้ำกว้างซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเตียง โดยไม่คิดจะหาสิ่งใดปกปิดร่างกายเย้ายวนของตนเองเลย
มือน้อยเอื้อมกดสวิตช์ไฟ ไม่นานแสงสว่างก็สาดส่องทำให้เห็นห้องน้ำขนาดใหญ่ซึ่งถูกตกแต่งเอาไว้อย่างเป็นระเบียบไม่ต่างจากโรงแรม
หญิงสาวยกยิ้มพอใจ ค่อย ๆ ก้าวมายืนมองภาพสะท้อนผ่านกระจกกว้าง
ผิวกายขาวราวหิมะมีร่องรอยสีกุหลาบกระจายทั่วตั้งแต่ช่วงลำคอ เนินอก ไม่เว้นแม้กระทั่งหน้าท้องแบนราบ ทุกบริเวณที่ชายหนุ่มทิ้งรอยเอาไว้ยังคงร้อนผ่าว ตอกย้ำให้คนตัวเล็กนึกถึงสัมผัสวาบหวามที่เพิ่งเกิดขึ้น
หน้าอกสวยกลมกลึงขนาดพอดีมือยังคงมีรอยแดงจาง ๆ ปรากฏรอบจากการถูกมือใหญ่บีบเคล้นรุนแรง จุกสีหวานแดงก่ำไวต่อสัมผัส ภาพทั้งหมดทำให้เรนนี่คิดถึงความเสียดเสียวที่เพิ่งเคยได้รับเป็นครั้งแรก
ท้องน้อยของเธอบิดมวนร้อนรุ่มอย่างไม่อาจต้านทานได้ ไม่นานหญิงสาวก็รับรู้ถึงความเปียกชื้นไหลซึมออกมาจากดอกไม้งามซึ่งบัดนี้บอบซ้ำสุด ๆ
“หึหึ เด็ดสมกับที่รอคอยจริง ๆ”
เรนนี่กรีดยิ้มร้ายให้กับเงาสะท้อนพร้อมหมุนกายเข้าไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อไคลอย่างสบายอารมณ์ ไม่หลงเหลือภาพลักษณ์ของคุณหนูสาวแสนขี้กลัวให้เห็นอีกต่อไป
สายน้ำเย็นฉ่ำไหลออกมาจากฝักบัวด้านบน อาบไล้เรือนกายเย้ายวนให้เปียกชุ่ม มือเล็กลูบไล้ไปตามสัดส่วนโค้งเว้าที่ทำให้เหล่าชายหนุ่มต้องน้ำลายหกเชื่องช้า ระบายยิ้มพึงพอใจกับการตัดสินใจสุดบ้าระห่ำของตนเอง
ย้อนกลับไปเมื่อห้าเดือนก่อน
พิธีแต่งงานระหว่างทายาทสองตระกูลใหญ่แห่งเกาะฮ่องกงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยใช้โรงแรมในเครือของทางบ้านเจ้าบ่าว
ห้องจัดเลี้ยงกว้างถูกเนรมิตให้สวยงามราวกับภาพฝัน ทุกอย่างถูกตกแต่งด้วยสีแดงสำหรับงานมงคลในครั้งนี้
เรนนี่ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากอเมริกายังคงมึนหัวจากการต้องนั่งอึดอัดบนเที่ยวบินหลายชั่วโมงติดกัน ใบหน้าที่มักจะประดับด้วยรอยยิ้มวันนี้ดูนิ่งขรึมจนหนุ่ม ๆ หลายคนไม่กล้าเข้ามาทักทาย
น้องสาวเจ้าบ่าวอยู่ในชุดกี่เพ้าเข้ารูปสีแดงสด เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกเกล้าขึ้นอวดใบหน้ารูปไข่เล็ก ๆ น่ารัก เธอนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้แถวหน้า ขนาบข้างด้วยบิดามารดาซึ่งก็แต่งตัวเต็มยศไม่ต่างกัน
เธอไม่ได้ฟังบทสนทนาของพ่อแม่ตัวเองมากนัก หรือจะเรียกว่าไม่อยู่ในอารมณ์จะสร้างภาพปั้นยิ้มเลยเพราะอาการเวียนหัวที่กำลังเล่นงาน
“ม้า...หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“โอเคไหมเรนนี่ วันนี้เราดูไม่สดใสเลย”
“น่าจะเจ็ตแล็กน่ะค่ะ รู้สึกมึน ๆ หัว”
“งั้นไปล้างหน้าล้างตาหน่อย อีกสักพักก็จะเริ่มพิธีแล้ว…อาเว่ย ดูแลคุณหนูด้วย” เฟยหลงเอ่ยกับลูกสาวเสร็จก็หันไปเรียกลูกน้องซึ่งยืนคอยดูแลความปลอดภัยของพวกเขา
“ครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำนิ่ง ๆ แล้วก้าวตามคุณหนูคนสวยออกไปด้านนอกห้องจัดเลี้ยง
เสียงซุบซิบฮือฮาด้วยความตื่นเต้นเรียกความสนใจให้เรนนี่หันกลับไปมองเช่นกัน สิ่งแรกที่ทิ่มเข้าตาเธอคือใบหน้าที่โคตรหล่อ ชนิดดารา เน็ตไอดอลยังต้องชิดซ้าย
ร่างสูงโปร่งสวมชุดสูทสีดำสนิท ใบหน้าหล่อร้ายนั้นนิ่งเรียบไม่ปรากฏอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งนั้น
หญิงสาวยืนมองค้างราวกับตกอยู่ในภวังค์ แต่ใจดวงน้อยกลางอกซ้ายก็เหมือนถูกบีบรัดอย่างรุนแรงเมื่อนัยน์ตาสีดำสนิทของชายคนนั้นเหลือบขึ้นมาสบตากับเธอพอดี
ขนในกายเธอลุกวาบ ความเย็นสลับร้อนวิ่งพล่านไปทั่วร่างอย่างควบคุมไม่อยู่ เหมือนคนจะเป็นลม อาการแปลก ๆ ของเธอทำให้เว่ยหลานลูกน้องคนสนิทที่เดินตามมาสะกิดเรียกเบา ๆ
“คุณหนูครับ...เป็นอะไรไหม”
“มะ...ไม่เป็นไร”
เธอตอบกลับติด ๆ ขัด ๆ พยายามสะบัดหัวเรียกสติ ก่อนจะหันกลับไปมองชายปริศนาคนนั้นอีกครั้งด้วยความสนใจ
เสน่ห์มหาศาลนั้นโดดเด่นออกมาแม้เขาจะยืนพูดคุยอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักธุรกิจหลายคน ชายหนุ่มคลี่ยิ้มจาง ๆ ให้กับบทสนทนาอันแสนน่าเบื่อ และแรงดึงดูดบางอย่างก็ทำให้เขาหันกลับมามองทางเธออีกครั้ง
คนตัวเล็กระบายยิ้มหวานเบนสายตาหลบราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้จะส่งยิ้มให้ ก่อนจะหมุนกายเดินไปเข้าห้องน้ำตามที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรก
“คนเมื่อกี้ใครน่ะ” เสียงหวานเอ่ยถามกับลูกน้องด้านหลัง ขณะทั้งคู่เดินกลับเข้ามาในงาน
“คนไหนครับ”
คำถามตอบกลับแสนซื่อบื้อของเว่ยหลานทำเธอพ่นลมหายใจยาว ก่อนจะย้ำให้เจาะจงขึ้นอีก
“คนที่หล่อออร่ามาแต่ไกลเมื่อกี้”
“น่าจะเป็นคุณลูคัส”
“ลูคัส?” เธอทวนคำ รู้สึกคุ้นหูชื่อนี้อย่างประหลาด
และเหมือนเว่ยหลานจะรู้ทันความคิด จึงช่วยเฉลยออกมา
“ครับ ลูคัส...ลูคัส หยาง น้องชายเจ้าสาว”
“...”
ดวงตากลมกะพริบปริบ ๆ กับคำตอบ หัวสมองของเธอขาวโล่งไปชั่วขณะเมื่อทราบว่าหนุ่มที่ตนถูกตาต้องใจคือศัตรูคู่อริของตระกูล
ท่อนขาเพรียวยาวบนส้นสูงก้าวกลับเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง เธอไม่ได้พูดคุยอะไรกับเว่ยหลานต่อ เข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างบิดามารดาเช่นเดิม
สายตาเป็นประกายมักหันมองไปยังที่นั่งอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นแขกของเจ้าสาว ก็พบชายหนุ่มคนเดิมนั่งอยู่แถวหน้าสุดเช่นกัน ตอกย้ำว่าเขาคือลูคัสหยาง น้องชายลูน่าจริง ๆ
“ป๊า...ม้า” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนทั้งคู่ในขณะที่ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อของลูคัสเช่นเดิม
“หื้ม? ยังไม่หายปวดหัวเหรอเรนนี่” หลินเจียอีหันมาถามลูกสาวอย่างห่วงใย
“ป๊า ม้า...หนูอยากได้ผู้ชายคนนั้น!”
“ฮะ!”
“ใครกัน!”
ทั้งคู่สะดุ้งรีบหันไปมองตามสายตาหยาดเยิ้มของลูกสาวสุดที่รัก แล้วเฟยหลงก็ต้องหน้าตึงเปรี๊ยะเมื่อเห็นหน้าชายที่ลูกสาวหมายถึงชัด ๆ
“อย่าได้แม้แต่จะคิดเรนนี่! นั่นมันลูกลี่หมิง! ป๊าไม่มีวันยอมให้แกแต่งงานเข้าตระกูลนั้นเด็ดขาด” บิดาตอบกลับเสียงเข้มแสดงออกถึงความไม่พอใจชัดเจน
“ทำไมล่ะ นี่ก็งานแต่งพี่ดีแลนกับลูกสาวบ้านนั้น ให้หนูแต่งอีกคน สองตระกูลจะได้ยิ่งแน่นแฟ้นไง”
รอยยิ้มร้ายบนใบหน้าหวานราวนางฟ้าผุดขึ้นมาเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอ่อนหวานแบบที่เธอมักแสดงออกให้คนอื่นเห็น
“ไม่ใช่เรื่องตลกนะเรนนี่! เป็นสาวเป็นแส้ พูดแบบนี้ออกมาได้ไง” มารดาบ่นอุบพร้อมหยิกแขนขาว ๆ ของลูกสาวไปทีหนึ่ง
“หยุดคิดเรื่องนี้ไปเลยเรนนี่ ต่อให้ป๊าจะเป็นคนเสนอเรื่องงานแต่งในครั้งนี้ แต่ก็ใช่ว่าป๊าจะยอมรับคนตระกูลหยางง่าย ๆ ไอ้พวกนั้นมันร้ายจะตาย! ป๊าไม่มีทางยอมให้แกแต่งเข้าตระกูลนั้นเด็ดขาด!”
สิ้นคำพูดของหลินเฟยหลงชายใกล้วัยเกษียณก็หันกลับไปกอดอกแน่นเป็นการปิดจบบทสนทนาไร้สาระ ใบหน้าชายชราตึงเปรี๊ยะบอกบุญไม่รับ ทำให้ลูกสาวคนโปรดไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ถึงแบบนั้นสาวหัวดื้อก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แผนการร้าย ๆ มากมายผุดขึ้นมาเต็มหัว พร้อมจับจ้องเหยื่อหนุ่มสุดหล่อไม่คลาดสายตาไปตลอดทั้งพิธีการในช่วงเช้า