Beranda / วัยรุ่น / กรุ่นรักไอริส / คนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

Share

คนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-21 11:11:12

แสงไฟสลัวบนชั้นสองของตึกในห้องพักที่เธออาศัยมาร่วมเดือน หลังจากทำสัญญาเช่าจากญาติของวินมาได้เกือบสองเดือนแล้วเปลี่ยนพื้นที่ชั้นล่างเป็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ เพื่อหาเงินดูแลตัวเองระหว่างเรียน แต่วันนี้เธอกลับต้องย้ายออกอย่างกะทันหัน

ดวงตากลมโตมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง พลางคิดถึงความทรงจำช่วงแรก ๆ ตอนที่เธอกำลังเตรียมร้านนี้ขึ้นมาด้วยความทุ่มเท

 ไอริสโยนกระเป๋าสะพายใบเล็ก ๆ ลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งตามไป กระทั้งกล่องข้าวที่ถูกวางไว้บนโต๊ะ เธอก็หมดแรงแม้แต่จะเปิดฝา

ความรู้สึกของเธอได้พังลงไม่เป็นท่า มันไม่ใช่แค่การถูกนอกใจ แต่มันเหมือนกับเธอกำลังถูกเหยียบย่ำความตั้งใจในการสร้างร้านนี้ขึ้นมา ‘นี่สินะที่เขาบอกกันว่าอย่างไปสร้างความไว้ใจบนที่ของคนอื่น การทำธุรกิจสิ่งแรกที่ควรมีคือสัญญา และครั้งนี้เธอพลาดเองคงโทษใครไม่ได้’

วันนี้ทั้งวันเธอเดินจนแทบไม่มีแรงจะขยับขา แต่ไม่มีที่ไหนตรงใจ เธอเอนหลังพิงพนัก โยนผ้าเช็ดหน้าลงข้างตัว แล้วเงยหน้ามองเพดานห้อง

“เหลือเวลาอีกแค่วันเดียว”

เสียงพึมพำหลุดจากริมฝีปากบางอย่างคิดไม่ตกว่าควรทำยังไงต่อไปดี พร้อมกับมือถือที่วางอยู่ข้างตัวส่งเสียงดังขึ้นกะทันหัน เธอสะดุ้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู

เรียวคิ้วบางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะกดรับสายอย่างลังเล

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีจ้ะ หนูใช่คนที่โทรมาขอเช่าร้านป้าเมื่อเย็นหรือเปล่าจ๊ะ?”

เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นทางปลายสาย ทำให้คนตัวเล็กดีดตัวลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง ก่อนจะก้มมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามาอย่างไม่มั่นใจ

“ค่ะ…ใช่ค่ะ”

 เธอตอบรับเสียงแผ่ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอถึงได้รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงมากกว่าที่เคย เธอไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าของร้านถึงได้โทรกลับมา หรือเธอจะเผลอไปทำข้าวของเขาเสียหายกัน

“คือ ตอนนี้ป้าเปลี่ยนใจแล้ว ป้าจะยอมให้หนูเปิดร้านในที่ของป้า แต่ป้ามีเงื่อนไขว่าต้องให้หลานชายป้าเข้ามาเป็นหุ้นส่วน”

ไอริสเงียบไปชั่วขณะ เหมือนสมองยังตามไม่ทันกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง

“ขอโทษนะคะ ป้าหมายถึงว่า…ให้หนูมาเปิดร้านและทำสัญญาเป็นหุ้นส่วนกับหลานคุณป้าเหรอค่ะ?”

 “ใช่จ้ะ ๆ ไหน ๆ ร้านนี้ก็ขายไม่ออกแล้ว ป้าเองก็ต้องขึ้นเครื่องไปต่างประเทศวันพรุ่งนี้แล้ว ป้าก็ยังอยากให้ร้านเปิดต่อไป ดีกว่าปิดเอาไว้เฉย ๆ แล้วไม่มีคนดูแล แต่หนูไม่ต้องกังวลนะ เดียวเรื่องเงินลงทุนป้าจะจัดการเอง ค่าเช่าไม่ต้องเสีย ส่วนหนูลงแรงบริหารร้านดี ๆ กำไรเราก็แบ่งกันคนละครึ่ง”

ดวงตาของไอริสเบิกกว้าง ความรู้สึกตื้นตันจุกแน่นอยู่ในอก เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

“หนู…หนูไม่รู้จะขอบคุณยังไงดีเลยค่ะ ขอบคุณจริง ๆ นะคะ หนูจะตั้งใจให้ดีที่สุด!”

เรียวมือเล็กยกหลังมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันเหมือนกับว่าปัญหาทุกอย่างที่กำลังรุมเร้าคลี่คลายลงตัวสักที

“ดีจ้ะ งั้นไว้พรุ่งนี้มาคุยรายละเอียดกันนะ”

“ได้เลยค่ะ หนูจะไปแต่เช้าเลยค่ะ!”

เธอวางสาย ราวกับยังไม่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ริมฝีปากเริ่มคลี่ยิ้มจาง ๆ เปี่ยมด้วยความหวัง แล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาพิณเพลงทันที พร้อมเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านน้ำตาแห่งความดีใจ

ไอริสยิ้มให้กลับตัวเองกับข่าวดีที่เธอเพิ่งได้รับ แล้วมองไปรอบห้องที่เต็มไปด้วยกล่องเก็บของบางส่วนที่วางระเกะระกะ ก่อนจะยิ้มให้ตัวเองอีกครั้ง

พรุ่งนี้เธอจะกลับไปที่ร้านนั้น ไม่ใช่ในฐานะคนที่เดินผ่าน แต่ในฐานะหุ้นส่วนเจ้าของร้าน และเธอสัญญากับตัวเองว่า เธอจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมืออีกเป็นครั้งที่สอง

เช้าวันต่อมา

หลังจากที่ทำสัญญาเสร็จไอริสกับพิณเพลงเดินทางมาที่ร้านตั้งแต่เช้า วันนี้ทั้งสองคนตั้งใจลาเรียนหนึ่งวัน เพื่อมาช่วยกันทำความสะอาดร้านและย้ายของจากที่พักเดิมเพราะมีเวลาเหลือแค่วันนี้วันสุดท้าย

คนตัวเล็กหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์คาเฟ่เล็ก ๆ ที่อยู่ถัดมา เธอยิ้มจาง ๆ พลางหันกลับไปมองที่หน้าร้านอีกครั้ง

“ไอ…ไอมาทำอะไรที่นี่เหรอ”

วินถามอดีตคนรักด้วยเสียงต่ำ เจือปนไปด้วยความสงสัยไม่เชื่อว่าจะได้มาเจอกับคนตัวเล็กที่นี่ เพราะวันนี้เขากับฝ้ายตั้งใจจะเข้ามาติดต่อขอซื้อร้านนี้แล้วเปลี่ยนร้านให้เป็นร้านเหล้าหลังมหาลัยแทน

“แล้วคุณคิดว่าฉันจะมาเดินเที่ยวเล่นแถวนี้หรือไง?”

 ไอริสหันไปสบตาเขาโดยตรง ดวงตาของเธอสงบไม่มีความสั่นไหวหรืออาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่ เธอเองก็ไม่ได้คิดว่าจะเจอกับสองคนนี้เหมือนกัน

“ถ้าไอจะมาดักรอวิน วินว่าหยุดเถอะนะยังไงวินก็เลือกฝ้าย”

หญิงสาวกระตุกยิ้มเล็กน้อย ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเคยรักผู้ชายแบบนี้ ก่อนพูดขึ้นด้วยเสียงหยัน

“ไอไม่ได้มารอวิน ไอมาทำสัญญากับเจ้าของร้านนี้”

“แต่ฉันไม่ให้ คนที่จะได้ร้านนี้ต้องเป็นฉันกับวิน อย่างเธอจะไหวเหรอ? ร้านนี้แพงนะ”

“ทำไมเพื่อนฉันต้องขออนุญาตเธอด้วยล่ะ ในเมื่อไอริสเพิ่งทำสัญญากับเจ้าของที่นี่ไปแล้วเมื่อเช้า”

พิณเพลงที่ได้ยินเสียงดังโวยวาย ก็รีบเดินออกมาหาเพื่อนของเธอทันที ก่อนจะเจอกับใครบางคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่

“ไม่จริง อย่างเธอเหรอจะมีปัญญาซื้อที่นี่”

ฝ้ายกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจ เพราะเธอเป็นคนใช้โทรศัพท์ของแฟนหนุ่มส่งข้อความให้อีกฝ่ายเร่งให้ย้ายออกไปเอง อีกทั้งเมื่อวานเธอก็ได้ข่าวว่าไอริสมาดูร้านที่นี่เลยตั้งใจจะมาแย่งซื้อตัดหน้าไป

ความจริงฝ้ายก็ไม่ได้รู้สึกชอบอะไรในตัววินขนาดนั้น เพียงแต่เธอไม่ชอบไอริส ที่ดูจะเด่นและเป็นที่สนใจจากทุกคนรอบตัว มากกว่าเธอที่ได้รับเลือกให้เป็นลงประกวดดาวคณะ แต่สุดท้ายก็ได้มารู้ทีหลังว่าสาเหตุที่เธอได้รับเลือกก็เพราะไอริสปฏิเสธการลงประกวดครั้งนี้ มันทำให้เธอรู้แพ้ จนอยากแย่งทุกอย่างของไอริสมาเป็นของตัวเองให้หมด

“จริงค่ะ ฉันคงไม่มีปัญญาซื้อที่นี่ แต่ฉันเพิ่งทำสัญากับเจ้าของที่นี่ในฐานะเป็นหุ้นส่วนร้าน ก่อนที่เขาจะบินไปต่างประเทศเมื่อเช้าเอง”

คำพูดนั้นเรียบนิ่ง แต่กลับทำคนฟังเจ็บราวกับเอามีดบาง ๆ กรีดลงกลางใจ วินนิ่งไปมือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว

“ไอ…”

เขาเอ่ยขึ้นราวกับอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ไอริสยกมือห้ามก่อน

“ขอโทษนะ ฉันไม่มีเวลาพอจะคุยกับ ‘คนเก่า’ แล้วน่ะ”

เธอเน้นคำนั้นชัดเจน ก่อนจะหันหลังกลับ สองสามก้าวที่เธอเดินออกไป มันเต็มไปด้วยความมั่นใจ เสียงจากด้านหลังยังแว่วมาเบา ๆ

“ออกไปจากร้านนี้ เธอไม่มีสิทธิ์”

เรียวแขนเล็กถูกอีกฝ่ายกระชากให้หันกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้จนเกิดรอยแดง ก่อนจะถูกดึงมาไว้ในอ้อมกอดของใครบางคนจนแผ่นแนบชิดอย่างไม่ทันตั้งตัว

“มาอยู่ตรงนี้เอง…”

น้ำเสียงทุ้มอบอุ่นของซันดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่อ้อมแขนจะโอบกระชับรอบไหล่ของเธอให้แน่นขึ้นอย่างเป็นเจ้าของ

วินเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มแปลกหน้าที่โอบกอดร่างของไอริสเอาไว้อย่างหวงแหน

“มันเป็นใคร...ไอ”

มาวินถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ซันไม่แม้แต่จะหันไปมองอีกฝ่าย เขาก้มลงพูดกับไอริสเบา ๆ ข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนเธอรู้สึกขนลุก

“ขอโทษที่มาช้า”

เธอรู้ว่าเป็นเขาตั้งแต่แรก แม้จะไม่ได้หันกลับไปมอง ถึงจะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เธอก็จำกลิ่นน้ำหอมของคนที่ยืนซ้อนแผ่นหลังเธอตอนนี้ได้ดี

“มันเป็นใครไอ...บอกวินมา”

“เป็นผัว”

“…”

คำพูดนั้นกระแทกใจวินเต็มแรง คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เธอแค่ยกมือขึ้นแตะเบา ๆ ที่แขนของเขา ราวกับเป็นการตอบรับในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดว่ามันคือเรื่องจริง

“ทำไมกับมันถึงยอมง่ายจังวะ ที่กับวินทำไมไอต้องทำเป็นเล่นตัว”

ผลัวะ!!

ไม่มีคำพูดหรือเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมา นอกจากหมัดที่กระแทกเข้าหน้าอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง

“มีของดีแต่ไม่รู้จักรักษา ก็อย่าปากหมากับผู้หญิงของกู”

“…”

“ไปกันเถอะ”

ซันกระซิบบอกไอริสอย่างนุ่มนวล เธอพยักหน้า แล้วปล่อยให้เขาจูงมือพาเดินออกมา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กรุ่นรักไอริส   ปล่อยตัวหรือปล่อยใจ

    แสงแดดยามสายลอดผ่านผ้าม่านสีเข้ม แทรกเข้ามาเพียงริ้วบาง ๆ ในห้องที่ยังเงียบสงบ สีสันภายในถูกขับเน้นด้วยโทนดำหม่น ราวกับสะท้อนสีของท้องฟ้ายามราตรีไม่มีผิดเรือนร่างเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อไอริสขยับตัวช้า ๆ แต่ความอ่อนล้าของร่างกายยังถ่วงให้เธอจมอยู่กับเตียงมากกว่าจะลุกขึ้น แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเวลานี้ควรตื่นขึ้นมาได้แล้ว แต่ทุกส่วนของร่างกลับหนักอึ้งจนเกินจะขยับกลิ่นอุ่นคุ้นเคยจากผ้าห่มและหมอนที่รองศีรษะ ล้วนเป็นกลิ่นกายของเขา อบอุ่น ปลอดภัย และดึงรั้งให้เธอหลับใหลต่ออย่างง่ายดาย ความเหนื่อยล้าที่ยังตกค้างจากการถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไร้เรี่ยวแรง ทำให้เธอแทบไม่เหลือพลังจะฝืนลุกขึ้นมาสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แต่กลับต่างจากครั้งไหน ๆ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีแรงผลักดันจากความอยากเอาชนะ มีเพียงแค่เขาและเธอ ที่ปล่อยให้สัมผัสนำพาความต้องการไป จนลืมทุกอย่างรอบตัวเธอจดจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขา ทั้งน้ำเสียง แรงกอด จังหวะหายใจ เสียงแหบพร่าที่กระซิบใกล้ข้างหู และมือของเขาที่โอบรั้งเธอไว้แน่นจนเหมือนจะหลอมละลายเข้าไปด้วยกัน เพราะครั้งนี้เธอเต็มใจไ

  • กรุ่นรักไอริส   อุ้มเดิน

    ไอริสเงยหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ อย่างเหนื่อยหอบ เขายังคงกดแนบแก่นกายอยู่ในตัวเธอ ไม่ผละออก ไม่แม้แต่จะขยับถอย มือหนารั้งสะโพกเธอไว้แน่น หวงแหนราวกับยังไม่อยากปล่อยสัมผัสอุ่นร้อนให้หลุดจากอ้อมแขนไปไหน เพื่อซึมซับความรู้สึกของกันและกัน“หนูกำลังตัวสั่น”เสียงเขาทุ้มต่ำ พึมพำชิดข้างแก้ม ลมหายใจของเขาก็หอบเหนื่อยไม่ต่างจากเธอ ไอริสเม้มปากแน่น แก้มเห่อร้อนแดงจัด ขาทั้งสองข้างยังโอบรอบสะโพกเขาโดยไม่รู้ตัวร่างกายเธอเบาหวิวเหมือนไม่ได้อยู่กับพื้นอีกต่อไป แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เขาก็ขยับสะโพกออก พร้อมหยิบกล่องอุปกรณ์ป้องกันขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วจัดการแกะเปลี่ยนอันใหม่เอามาสวมลงไปอีกครั้ง“พี่ซันพอแล้ว”“แน่ใจเหรอครับ ว่าหนูไม่อยากให้พี่ทำต่อ”เสียงแหบทุ้มต่ำกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหูอย่างคลอเคลีย แต่แฝงแรงปรารถนาอย่างชัดเจน ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบ แต่เป็นคำถามที่บ่งบอกว่าเขายังไม่อยากหยุดไอริสได้แต่เบี่ยงหน้าหลบด้วยความเขินอาย ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่เสียดสีกับร่องรักของเธออีกครั้งคนตัวโตค่อย ๆ ขยับสะโพกเพื่อถูไถ่แท่งเอ็นร้อนให้เส้นเลือดปูดโปนและรอยหยักสัมผัสไปกับความเปียกแฉะภา

  • กรุ่นรักไอริส   ห้องทำขนม

    “พะ พี่ซัน”เสียงหวานของไอริสหลุดลอยออกมาอย่างแผ่วเบา เธอพยายามตั้งสติไม่ให้หลงเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาที่กำลังยั่วเย้าอารมณ์ของเธอให้เตลิดไปไกล แต่เธอกลับถูกต้อนให้ตกลงไปในห้วงราคะของเขาด้วยไออุ่นร้อนจากลมหายใจที่เป่ารดวนเวียนอยู่ข้างแก้มร่างสูงยังคงยืนอยู่ตรงหน้าบดเบียดร่างกายส่วนล่างของเขาให้แนบชิดคลอเคลียไปกับเรือนร่างของเธอจนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากลมหายใจของเขา มือหนายังคงวนเวียนอยู่บนบริเวณต้นขา ไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหนไกล แต่กลับลูบไล้เนิบช้า เฉียดใกล้รอยแยกเนินเนื้อนุ่มที่เริ่มเปียกแฉะคนตัวสูงกดจูบเบา ๆ บนเนินไหล่ ก่อนจะลากริมฝีปากลงต่ำอย่างเชื่องช้าจนถึงเนินอกแล้วใช้ปลายจมูกไล้ขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง เขากดจูบริมฝีปากซ้ำ ๆ ราวกับตั้งใจจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ทุกจุดที่เลื่อนผ่าน“อืมมมม”เสียงหวานของเธอเริ่มสั่นไหว พร้อมกับร่างกายที่สั่นระริก เมื่อเขาเลื่อนมือขึ้นจากต้นขา ค่อย ๆ สอดเข้าใต้ชายกระโปรงที่ขยับเลิกขึ้นจากตอนถูกอุ้มขึ้นมาบนโต๊ะ ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือร้อนแนบเข้ากับผิวเปลือยเปล่าใต้ลูกไม้บางตัวนั้น“พี่ซัน อย่า…”เสียงเธอเบาหวิว พยายามร้องห้ามอย่างติด ๆ ขัด ๆ แต่แว

  • กรุ่นรักไอริส   กำแพงเมืองจีน

    “แก ๆ ดูนี่สิ!”พิณเพลงยื่นมือถือมาตรงหน้าไอริส หน้าจอแสดงภาพของนักแสดงชายจากซีรีส์จีนย้อนยุคที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ “โอ๊ย หล่ออะแก!”เสียงไอริสกรี๊ดออกเบา ๆ อย่างลืมตัว ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบ ขณะที่รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้า“ดูหุ่นสิ! โอ้โห…ซิกแพคแน่นมาก กล้ามแขนก็แบบ…แน่นสุด!”เธอพึมพำออกมาเบา ๆ อย่างลืมตัว แขนเล็ก ๆ เอื้อมไปเกาะเพื่อนสนิทด้วยท่าทีเคอะเขินไม่ต่างกัน“ไอ…ดูนี่สิ เขามีตารางบินมาไทยวันนี้นะ”“จริงเหรอ!?”สายตาไอริสกวาดมองไปรอบร้าน พอเห็นว่าวันนี้ลูกค้าไม่ได้เยอะมาก สินค้าก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว เธอก็รีบคว้าแขนเพื่อนสนิทอย่างพิณเพลงให้ลุกไปด้วยกันทันที“เดี๋ยวไอ จะไปไหน”“ไปหาสามีทิพย์! ตั้งแต่เปิดร้านมายังไม่ได้หยุดเลย ไปเป็นเพื่อนไอหน่อยนะ ” ร่างบางเกาะแขนเพื่อนแน่น เอาหน้าซบไหล่พร้อมส่งสายตาออดอ้อนสุดฤทธิ์“ไม่ได้”ไอริสที่ได้ยินคำปฏิเสธก็เริ่มทำหน้าเหงาหงอยขึ้นมาทันที ก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่ร้าน เพราะเพื่อนสนิทไม่ยอมไปด้วย หากแต่จะให้เธอไปเองคนเดียวก็ไม่กล้า“ไม่ได้...จะไปหน้าสด ชุดไม่สวยแบบนี้ไม่ได้”เธอหันกลับทันควัน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นชั้

  • กรุ่นรักไอริส   น่ากินเหมือนขนม

    “คนบ้า…”เสียงหวานยังคงบ่นพึมพำในลำคอ ก่อนจะชำเลืองมองร่างสูงที่ผละตัวออกจากเธอ ก่อนเดินไปหยุดอยู่หน้าเตาอบพร้อมกับจังหวะหัวใจของเธอที่ยังสั่นระรัวไม่หยุดติ๊ง!เสียงเตาอบดังขึ้นและเงียบลงแทบในเวลาเดียวกัน ไอริสค่อย ๆ เปิดเตา ก่อนจะยกถาดขนมที่เพิ่งสุกออกมาวางบนตะแกรงพัก มือเรียวบางสั่นเล็กน้อยขณะยกถาดเอาขนมออกจัดวางอย่างเบามือไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมของขนมลอยกรุ่นคลอเคล้ากลิ่นเนยผสมกลิ่นวนิลลาจาง ๆ อบอวลไปทั่วห้อง แต่กลิ่นหอมของเค้กนั้นแทบจะสู้กลิ่นกายของเขาไม่ได้ เธอรู้ดีว่าเขายังยืนอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว และความรู้สึกที่ถูกจ้องมองอย่างตั้งใจนั้น… มันทำให้ลมหายใจของเธอติดขัด“พี่เรียนมาทั้งวัน คงเหนื่อยแล้ว… ขึ้นไปพักเถอะค่ะ”เธอเอ่ยเบา ๆ โดยไม่หันกลับไปมอง พยายามเบี่ยงสายตาจากเขามาที่ขนมบนตะแกรง แล้วหันไปหยิบวัตถุดิบสำหรับเตรียมทำขนมคืนนี้แทน“ไม่เหนื่อย”เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาช้า ๆ พร้อมกับก้าวขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว ข้อมือบางก็ถูกจับไว้เบา ๆ จากมือของเขา ก่อนจะหมุนตัวเธอให้กลับมาเผชิญหน้าเขา“สนใจแต่ลูกค้ากับขนม…”เขากระซิบบอกเบา ๆ ราวกับกำลังน้อย

  • กรุ่นรักไอริส   ความรู้สึกที่ค่อย ๆ เปลี่ยน

    เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดลอดผ่านกระจกหน้าร้านเข้ามาอย่างอบอุ่น กลิ่นขนมอบใหม่จากเตา หอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งร้านไอริสยืนอยู่หน้าตู้เค้ก ตรวจความเรียบร้อยภายในร้านเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะฝากร้านกับพี่ ๆ พนักงานซึ่งเป็นคนเก่าที่เคยช่วยดูแลร้านระหว่างที่เธอไปเรียนเป็นโชคดีของเธอที่ร้านอยู่แค่หลักตึกคณะ สามารถเดินไปได้และใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่ยังไม่ทันได้หยิบกระเป๋าและของใช้ส่วนตัว ก็เห็นเงาของร่างสูงมายืนอยู่ไม่ไกลซันยืนอยู่ในชุดนักศึกษาวิศวะ เสื้อยืดสีขาวพับแขนลวก ๆ ทับด้วยช็อปที่พาดไว้บนไหล่ กับทรงผมที่ยุ่งนิดหน่อยตามสไตล์คนเพิ่งตื่น แต่กลับดูดีจนเธอรู้สึกหมั่นไส้“จะไปเรียนใช่ไหม เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”เสียงทุ้มต่ำของคนตัวโตบอกเธอเสียงเรียบ เขาพูดง่าย ๆ เหมือนแค่ชวนไปซื้อข้าวหน้าปากซอย โดยไม่ถามเธอเลยสักคำว่าจะยอมให้เขาไปส่งไหม“ร้านอยู่ใกล้แค่หลังตึก ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ”เธอถอนหายใจเบา ๆ ใครจะอยากให้เขาไปส่งกันเล่า เมื่อวานหลังจากจัดร้านเรียบร้อย พิณเพลงก็ไม่วายเอาแต่พูดถึงเขากับเพื่อน ๆ หนุ่มวิศวะคนดังของมหา’ลัย ที่เห็นจากกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันก็ต้องยอมรับว่าทั้งหล่อ ทั้งดูดีแบบก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status