Share

เด็กหน้าดื้อ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-22 14:52:10

หลังจากประตูถูกปิดลง ความเงียบกลับเข้ามาแทนที่อีกครั้ง แต่บรรยากาศในห้องไม่ได้สงบลงตาม มันเต็มไปด้วยไออุ่นจากแรงสัมผัสที่ยังอบอวลอยู่ในอากาศ หัวใจและความรู้สึกของไอริสที่ยังคงสั่นระรัว

เธอยังยืนอยู่ตรงนั้น พิงประตูที่เพิ่งถูกปิดลง ลมหายใจร้อนและกลิ่นอายจากเขายังติดซึมอยู่ตามผิวของเธอ

มือบางค่อย ๆ ยกขึ้นแตะแผ่วเบาที่ริมฝีปากของตัวเอง ความรู้สึกชาหนึบยังคงไม่จางหายจากรอยสัมผัสนั้น

“คนบ้า บ้าที่สุด”

เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ราวกับต้องการกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพวยพุ่งอยู่ในอก ทั้งสับสน ร้อนรุ่ม และ…อยากเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้อีก แต่ก่อนที่เธอจะจัดการความรู้สึกของตัวเองให้เข้าที่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบา ๆ

 “น้องไอครับ จะลงมาข้างล่างได้รึยัง”

เสียงเขาไม่ได้เร่งร้อน แต่แฝงไปด้วยปลายเสียงที่ขบขัน เหมือนรู้ดีว่าเธอคงยังตั้งหลักไม่ได้

สายตาคมมองเธออย่างใจเย็น แต่มีรอยยิ้มบาง ๆ ติดมุมปากเหมือนเคย รอยยิ้มที่ทำให้เธออยากจะหนีไปหลบมุมให้ไกลที่สุด แต่ขาเจ้ากรรมกลับก้าวตามเขาลงบันไดไปแทน

“ระวังตัวไว้ให้ดีนะคะ”

ร่างบางเดินตามหลังเขาลงบันได ช้า ๆ พร้อมกับพูดพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา แต่เป็นการเอื้อนเอ่ยที่เหมือนกับเตือนตัวเองมากกว่าบอกคนตัวโต

“ถ้าหมายถึงคืนนี้…พี่เต็มใจ เปิดประตูรอให้น้องไอ ย่องเข้าห้องพี่ทุกคืนแน่นอนครับ”

เขาตอบกลับเสียงดังราวกับต้องการจะเปล่าประกาศให้ทุกคนได้ยินอย่างรวดเร็วโดยไม่หันมามอง จนไอริสแทบอยากเอาหน้ามุดหนีเข้ากำแพงด้วยความรู้สึกอับอาย

เมื่อก้าวลงมาถึงชั้นล่าง พิณเพลงเดินเข้ามาหาไอริสทันที ด้วยรอยยิ้มและสายตาที่กำลังล้อเลียน แต่ก็ยังดีที่เพื่อนสนิทของเธอไม่พูดอะไรออกมาให้เขินอายไปมากกว่านี้

“ตกลงใครมาเหรอ”

“พวกพี่ปีสี่วิศวะนะ”

ไอริสมองตามไปก่อนจะชะงักเล็กน้อย ชายหนุ่มในชุดช้อปสีน้ำเงินนั่งอยู่ตรงกลางร้านอยู่หลายคน พร้อมกับคนตัวสูงที่เดินเข้าไปทักทาย

“น้องไอ~”

 เสียงหวานใสดังไกลมาก่อนตัว แต่ไอริสจำได้ดีว่าเป็นเสียงของพวกรุ่นพี่ในสายรหัส อย่างพี่ซีลีน รุ่นพี่ปีสี่จากคณะเดียวกันในหญิงสาวตัวเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซซ์สบาย ๆ แต่กลับดูเซ็กซี่เย้ายวนกำลังเดินตรงเข้ามาหา พร้อมโบกมือให้เธออย่างร่าเริง ถัดมาเป็นพี่บอมพี่รหัสปีสอง ที่มีใบหน้ายิ้มละไม และบุคลิกที่คุ้นเคยจนให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบพี่ชาย

“โอ้ ร้านใหม่ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย จะเปิดร้านวันไหนครับสุดสวย”

บอมพูดพลางมองไปรอบ ๆ ร้าน ก่อนจะหันมายิ้มให้ไอริส พร้อมกับวางฝ่ามือหนาไว้บนศีรษะคนตัวเล็กแล้วยีผมเบา ๆ

“พี่ ๆ รู้ได้ไงคะ ว่าไอย้ายร้าน”

“เรานั่นแหละมีอะไรทำไมถึงไม่บอกให้พวกพี่ช่วย ถ้าพี่ไม่ถามจากพิณเพลงจะรู้ไหมว่าน้องในสายกำลังลำบาก”

“ขอบคุณนะคะ แต่ไอเกรงใจ”

            ไอริสบอกกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเกรงใจ จึงไม่ได้บอกใครเพราะกลัวจะไม่อยากไปรบกวน

“ไม่เป็นไร ๆ วันนี้พี่เลยพาแรงงานชายหนุ่มสุดหล่ออย่างนายบอมมาช่วยจัดร้าน ใช้งานได้เต็มที่”

“เรื่องใช้งานแรงงานบอกพี่มาได้เลย ว่าแต่มีของให้ขนมั้ย ไหนล่ะ กล่องไหนก่อนดี?”

“พี่บอม พี่ซีลีน ขอบคุณนะคะ”

ไอริสยิ้มกว้างอย่างดีใจ พูดคุยหยอกล้อด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย

“งั้นช่วยไอ เอาของเข้าร้านหน่อยนะคะ”

“ได้เลยครับผม”

มือเล็กโบกไปที่กล่องอุปกรณ์ที่วางกองอยู่ บอมไม่รอช้า ยกกล่องขึ้นอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเอ่ยห้ามคนตัวเล็ก เมื่อเห็นว่าไอริสกำลังจะมาช่วยเขายกของ พร้อมกับทำท่าเบ่งกล้ามให้ดูว่าเขาแข็งแรงมาก แค่นี้สบาย

“หนูไม่ต้องยกหรอก เดี๋ยวพี่จัดการเอง ขืนจับของหนัก เดี๋ยวมือนิ่ม ๆ พังหมด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้ชายร่างบ๊อปอายแบบพี่จัดการเอง”

คำพูดและท่าทางที่พี่รหัสเธอทำ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากไอริส รวมถึงทุกคนได้เป็นอย่างดี แต่กลับไปสะดุดกับสายตาของใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

ซันยืนพิงผนังแถวเคาน์เตอร์ มือกอดอก ดวงตาคมจ้องภาพตรงหน้า โดยไม่แม้แต่จะปิดบังสายตา ริมฝีปากที่เคยยิ้มเย้าแหย่ตอนอยู่กับไอริส บัดนี้กลับขบเม้มแน่นจนเห็นสันกรามชัด

คนตัวโตยืนมองเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาคมกลับมองไล่ตามทุกการเคลื่อนไหวของเธอกับชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่โดยเฉพาะเวลาที่อีกฝ่ายยกกล่อง คอยหยิบจับสิ่งของอยู่ใกล้ตัวเธอ หรือโน้มตัวพูดคุยกันอย่างสนิทสนม

“เดี๋ยวพี่ถือให้ ไอไปจัดของตรงเคาน์เตอร์นั่นเลย”

เสียงของบอมดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือช่วยหยิบของส่งให้ไอริส แต่การหมุนตัวที่ผิดจังหวัดทำให้ร่างบางต้องถอยหลังออกไปไม่ให้ชนกัน จนเธอเดินเซไปชนอกอีกฝ่ายที่ยืมจ้องเธอกับพี่รหัสไม่วางตา

“เอ่อ...พี่บอมถอยหลังมาเกือบชนกันเลยค่ะ”

เธอพูดพลางหัวเราะเก้อ ๆ และนั่นก็ยิ่งทำให้สายตาของซันหรี่ลง ซันเบนหน้าหลบไปอีกทาง ก่อนจะเดินกระแทกเท้าเล็กน้อยกลับขึ้นไปหลังร้านโดยไม่พูดอะไร ทิ้งไว้แค่บรรยากาศบางอย่างที่หนักอึ้งพาดกลางอากาศ

พิณเพลงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กระตุกยิ้มน้อย ๆ มองตามร่างสูงที่เดินจากไป แล้วกระซิบเบา ๆ ข้างหูไอริส

“เอ๊ะ…ดูท่าหนุ่มวิศวะของแกจะไม่ค่อยปลื้มพี่บอมเท่าไหร่นะ?”

“พูดอะไรของแกพิณเพลง...หยุดคิดเลยนะ”

ไอริสตอบกลับเสียงเบา หน้าเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ แต่พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ภายในใจของเธอแอบรู้สึกถึงบางอย่างโดยเฉพาะอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของร่างแกร่ง

 เสียงพูดคุยและหัวเราะเฮฮาจากชั้นล่างยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง แต่อีกฝั่งหนึ่งทางหลังร้านกลับเงียบลงชั่วครู่ ซันเดินเข้ามาด้านใน พร้อมวางของที่พวกเพื่อนช่วยกันขนขึ้นมาลงแรง ๆ เหมือนต้องการระบายอะไรบางอย่างไปกับเสียงกระแทกนั้น

“มึงกระแทกแรงขนาดนั้น กล่องไม่พังก่อนเหรอวะ”

เสียงของลม หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเอ่ยดังขึ้นขำ ๆ ก่อนเจ้าตัวจะเดินตามเข้ามาจากทางด้านหลัง

“หรือมึงกำลังหงุดหงิดอะไร?”

 ซันไม่ตอบในทันที เพียงแต่ถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย เขาทรุดตัวลงนั่งกับโซฟาเก่า ๆ ปล่อยศีรษะพิงพนัก แล้วมองเพดานด้วยแววตาที่บอกไม่ชัดว่ากำลังเหนื่อย…หรือหงุดหงิดอะไรกันแน่

“เมื่อกี้กูเห็นนะ ไอ้รุ่นพี่นั่นมันยืนใกล้เด็กของมึงแนบชิดจนจะสิงกันอยู่แล้ว”

เสียงแหบทุ้มจากไนท์ เพื่อนอีกคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนกล่องลัง เอ่ยขึ้น หวังปั่นหัวเพื่อนตัวเองให้ร้อนรุ่มยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ใช่เด็กกู”

ซันยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองแรง ๆ ราวกับอยากสะบัดอะไรบางอย่างออกจากหัว ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วตอบเสียงเรียบ แต่แฝงไปอารมณ์ขุ่นเคือง

“ก็แค่เด็ก…ดื้อ ๆ คนหนึ่ง”

เขาเอ่ยเสียงเบาแต่ชัดเจนพอให้ทุกคนได้ยิน แต่สายยังมองออกไปตามเสียงหัวเราะของคนตัวเล็กที่ดังอยู่หน้าร้าน

“ถ้าไอ้หน้าอ่อนได้ไปก็ไม่ซีเรียสใช่ป่ะ”

“มะ ไม่เห็นจะต้องซีเรียสอะไรเลย กูแค่เล่น ๆ แก้เบื่อไปงั้นแหละ”

“หึ แล้วกูจะจำไว้”

เดย์เลิกคิ้วสูง มองสีหน้าของเพื่อนตัวเองที่พยายามทำให้ดู ‘ไม่รู้สึก’ แต่แววตากลับไม่ได้สอดคล้องกับคำพูดเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าเล่น ๆ ทำไมตอนเห็นเด็กนั้นยิ้มกับคนอื่น หน้ามึงถึงหงิกขนาดนั้นวะ?”

ซันเบนหน้าหนี ทำเป็นไม่สนใจคำพูดนั้น เขาหยิบขวดน้ำขึ้นมาจิบอย่างเนือย ๆ แต่ไม่ได้หลบเลี่ยงไปทั้งหมด สีหน้าเขาแม้จะเรียบนิ่ง แต่แววตากลับติดคล้ายหงุดหงิดเล็กน้อยอยู่ลึก ๆ

“ก็แค่…รำคาญสายตา”

เขาตอบเรียบ ๆ พร้อมวางขวดน้ำลงดัง กึก

“เด็กอะไร ยิ้มให้ใครก็ง่าย พูดเพราะกับใครก็ง่าย จะให้กูจริงจังกับอะไรแบบนี้เหรอ”

คนตัวโตเริ่มส่งเสียงโวยวาย กลบเกลือนอาการของตัวเองที่เริ่มจะหลุดออกมาทีละน้อย หลังจากโดนเพื่อน ๆ ตัวดีปั่นหัวไม่หยุด

“เอ้อ…ก็ไม่ต้องจริงจัง” ลมหัวเราะ

“แต่กูว่า…มึงอะ กำลังจริงจังอยู่แบบไม่รู้ตัว”

ซันมองหน้าเดย์ก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเหยียดยิ้มที่มุมปากแบบฝืน ๆ

“กูเนี่ยนะ? จริงจังกับเด็กนั่น?”

เขาหัวเราะสั้น ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นลูบท้ายทอย

“ก็แค่ของเล่น…น่ารักดีตอนทำท่าจะหนี แต่ก็วิ่งกลับมาให้กอดเองทุกที”

“แน่ใจนะว่ามึงยัง ‘เล่น’ อยู่?”

เป็นเสียงของไนท์ดังขึ้นแทน แต่คราวนี้กลับเจือปนด้วยความจริงจัง ซันไม่ตอบ เขาหันหลังให้เพื่อน แล้วเดินออกไปที่ริมหน้าต่างก่อนจะพ่นควันสีขาวออกมา หวังจะใช้นิโคตินดับอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม และสับสนอยู่ในใจ

ร่างสูงไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อนสนิท เขายังคงยืนนิ่งอยู่ในภวังค์ ปล่อยให้สายลมยามบ่ายปะทะใบหน้า แล้วทอดสายตามองออกไปหน้าร้าน ยิ่งเห็นไอริสยิ้มกว้างขณะพูดคุยกับรุ่นพี่ของเธอ ใจของเขามันก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ถึงจะบอกตัวเองว่าไม่คิดอะไร แต่ดูเหมือนหัวใจกลับไม่ยอมเชื่อฟัง

“ก็แค่เด็กดื้อเปล่าว่ะ มีอะไรสำคัญให้จริงจังกัน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กรุ่นรักไอริส   ปล่อยตัวหรือปล่อยใจ

    แสงแดดยามสายลอดผ่านผ้าม่านสีเข้ม แทรกเข้ามาเพียงริ้วบาง ๆ ในห้องที่ยังเงียบสงบ สีสันภายในถูกขับเน้นด้วยโทนดำหม่น ราวกับสะท้อนสีของท้องฟ้ายามราตรีไม่มีผิดเรือนร่างเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อไอริสขยับตัวช้า ๆ แต่ความอ่อนล้าของร่างกายยังถ่วงให้เธอจมอยู่กับเตียงมากกว่าจะลุกขึ้น แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเวลานี้ควรตื่นขึ้นมาได้แล้ว แต่ทุกส่วนของร่างกลับหนักอึ้งจนเกินจะขยับกลิ่นอุ่นคุ้นเคยจากผ้าห่มและหมอนที่รองศีรษะ ล้วนเป็นกลิ่นกายของเขา อบอุ่น ปลอดภัย และดึงรั้งให้เธอหลับใหลต่ออย่างง่ายดาย ความเหนื่อยล้าที่ยังตกค้างจากการถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไร้เรี่ยวแรง ทำให้เธอแทบไม่เหลือพลังจะฝืนลุกขึ้นมาสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แต่กลับต่างจากครั้งไหน ๆ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีแรงผลักดันจากความอยากเอาชนะ มีเพียงแค่เขาและเธอ ที่ปล่อยให้สัมผัสนำพาความต้องการไป จนลืมทุกอย่างรอบตัวเธอจดจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขา ทั้งน้ำเสียง แรงกอด จังหวะหายใจ เสียงแหบพร่าที่กระซิบใกล้ข้างหู และมือของเขาที่โอบรั้งเธอไว้แน่นจนเหมือนจะหลอมละลายเข้าไปด้วยกัน เพราะครั้งนี้เธอเต็มใจไ

  • กรุ่นรักไอริส   อุ้มเดิน

    ไอริสเงยหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ อย่างเหนื่อยหอบ เขายังคงกดแนบแก่นกายอยู่ในตัวเธอ ไม่ผละออก ไม่แม้แต่จะขยับถอย มือหนารั้งสะโพกเธอไว้แน่น หวงแหนราวกับยังไม่อยากปล่อยสัมผัสอุ่นร้อนให้หลุดจากอ้อมแขนไปไหน เพื่อซึมซับความรู้สึกของกันและกัน“หนูกำลังตัวสั่น”เสียงเขาทุ้มต่ำ พึมพำชิดข้างแก้ม ลมหายใจของเขาก็หอบเหนื่อยไม่ต่างจากเธอ ไอริสเม้มปากแน่น แก้มเห่อร้อนแดงจัด ขาทั้งสองข้างยังโอบรอบสะโพกเขาโดยไม่รู้ตัวร่างกายเธอเบาหวิวเหมือนไม่ได้อยู่กับพื้นอีกต่อไป แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เขาก็ขยับสะโพกออก พร้อมหยิบกล่องอุปกรณ์ป้องกันขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วจัดการแกะเปลี่ยนอันใหม่เอามาสวมลงไปอีกครั้ง“พี่ซันพอแล้ว”“แน่ใจเหรอครับ ว่าหนูไม่อยากให้พี่ทำต่อ”เสียงแหบทุ้มต่ำกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหูอย่างคลอเคลีย แต่แฝงแรงปรารถนาอย่างชัดเจน ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบ แต่เป็นคำถามที่บ่งบอกว่าเขายังไม่อยากหยุดไอริสได้แต่เบี่ยงหน้าหลบด้วยความเขินอาย ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่เสียดสีกับร่องรักของเธออีกครั้งคนตัวโตค่อย ๆ ขยับสะโพกเพื่อถูไถ่แท่งเอ็นร้อนให้เส้นเลือดปูดโปนและรอยหยักสัมผัสไปกับความเปียกแฉะภา

  • กรุ่นรักไอริส   ห้องทำขนม

    “พะ พี่ซัน”เสียงหวานของไอริสหลุดลอยออกมาอย่างแผ่วเบา เธอพยายามตั้งสติไม่ให้หลงเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาที่กำลังยั่วเย้าอารมณ์ของเธอให้เตลิดไปไกล แต่เธอกลับถูกต้อนให้ตกลงไปในห้วงราคะของเขาด้วยไออุ่นร้อนจากลมหายใจที่เป่ารดวนเวียนอยู่ข้างแก้มร่างสูงยังคงยืนอยู่ตรงหน้าบดเบียดร่างกายส่วนล่างของเขาให้แนบชิดคลอเคลียไปกับเรือนร่างของเธอจนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากลมหายใจของเขา มือหนายังคงวนเวียนอยู่บนบริเวณต้นขา ไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหนไกล แต่กลับลูบไล้เนิบช้า เฉียดใกล้รอยแยกเนินเนื้อนุ่มที่เริ่มเปียกแฉะคนตัวสูงกดจูบเบา ๆ บนเนินไหล่ ก่อนจะลากริมฝีปากลงต่ำอย่างเชื่องช้าจนถึงเนินอกแล้วใช้ปลายจมูกไล้ขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง เขากดจูบริมฝีปากซ้ำ ๆ ราวกับตั้งใจจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ทุกจุดที่เลื่อนผ่าน“อืมมมม”เสียงหวานของเธอเริ่มสั่นไหว พร้อมกับร่างกายที่สั่นระริก เมื่อเขาเลื่อนมือขึ้นจากต้นขา ค่อย ๆ สอดเข้าใต้ชายกระโปรงที่ขยับเลิกขึ้นจากตอนถูกอุ้มขึ้นมาบนโต๊ะ ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือร้อนแนบเข้ากับผิวเปลือยเปล่าใต้ลูกไม้บางตัวนั้น“พี่ซัน อย่า…”เสียงเธอเบาหวิว พยายามร้องห้ามอย่างติด ๆ ขัด ๆ แต่แว

  • กรุ่นรักไอริส   กำแพงเมืองจีน

    “แก ๆ ดูนี่สิ!”พิณเพลงยื่นมือถือมาตรงหน้าไอริส หน้าจอแสดงภาพของนักแสดงชายจากซีรีส์จีนย้อนยุคที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ “โอ๊ย หล่ออะแก!”เสียงไอริสกรี๊ดออกเบา ๆ อย่างลืมตัว ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบ ขณะที่รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้า“ดูหุ่นสิ! โอ้โห…ซิกแพคแน่นมาก กล้ามแขนก็แบบ…แน่นสุด!”เธอพึมพำออกมาเบา ๆ อย่างลืมตัว แขนเล็ก ๆ เอื้อมไปเกาะเพื่อนสนิทด้วยท่าทีเคอะเขินไม่ต่างกัน“ไอ…ดูนี่สิ เขามีตารางบินมาไทยวันนี้นะ”“จริงเหรอ!?”สายตาไอริสกวาดมองไปรอบร้าน พอเห็นว่าวันนี้ลูกค้าไม่ได้เยอะมาก สินค้าก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว เธอก็รีบคว้าแขนเพื่อนสนิทอย่างพิณเพลงให้ลุกไปด้วยกันทันที“เดี๋ยวไอ จะไปไหน”“ไปหาสามีทิพย์! ตั้งแต่เปิดร้านมายังไม่ได้หยุดเลย ไปเป็นเพื่อนไอหน่อยนะ ” ร่างบางเกาะแขนเพื่อนแน่น เอาหน้าซบไหล่พร้อมส่งสายตาออดอ้อนสุดฤทธิ์“ไม่ได้”ไอริสที่ได้ยินคำปฏิเสธก็เริ่มทำหน้าเหงาหงอยขึ้นมาทันที ก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่ร้าน เพราะเพื่อนสนิทไม่ยอมไปด้วย หากแต่จะให้เธอไปเองคนเดียวก็ไม่กล้า“ไม่ได้...จะไปหน้าสด ชุดไม่สวยแบบนี้ไม่ได้”เธอหันกลับทันควัน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นชั้

  • กรุ่นรักไอริส   น่ากินเหมือนขนม

    “คนบ้า…”เสียงหวานยังคงบ่นพึมพำในลำคอ ก่อนจะชำเลืองมองร่างสูงที่ผละตัวออกจากเธอ ก่อนเดินไปหยุดอยู่หน้าเตาอบพร้อมกับจังหวะหัวใจของเธอที่ยังสั่นระรัวไม่หยุดติ๊ง!เสียงเตาอบดังขึ้นและเงียบลงแทบในเวลาเดียวกัน ไอริสค่อย ๆ เปิดเตา ก่อนจะยกถาดขนมที่เพิ่งสุกออกมาวางบนตะแกรงพัก มือเรียวบางสั่นเล็กน้อยขณะยกถาดเอาขนมออกจัดวางอย่างเบามือไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมของขนมลอยกรุ่นคลอเคล้ากลิ่นเนยผสมกลิ่นวนิลลาจาง ๆ อบอวลไปทั่วห้อง แต่กลิ่นหอมของเค้กนั้นแทบจะสู้กลิ่นกายของเขาไม่ได้ เธอรู้ดีว่าเขายังยืนอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว และความรู้สึกที่ถูกจ้องมองอย่างตั้งใจนั้น… มันทำให้ลมหายใจของเธอติดขัด“พี่เรียนมาทั้งวัน คงเหนื่อยแล้ว… ขึ้นไปพักเถอะค่ะ”เธอเอ่ยเบา ๆ โดยไม่หันกลับไปมอง พยายามเบี่ยงสายตาจากเขามาที่ขนมบนตะแกรง แล้วหันไปหยิบวัตถุดิบสำหรับเตรียมทำขนมคืนนี้แทน“ไม่เหนื่อย”เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาช้า ๆ พร้อมกับก้าวขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว ข้อมือบางก็ถูกจับไว้เบา ๆ จากมือของเขา ก่อนจะหมุนตัวเธอให้กลับมาเผชิญหน้าเขา“สนใจแต่ลูกค้ากับขนม…”เขากระซิบบอกเบา ๆ ราวกับกำลังน้อย

  • กรุ่นรักไอริส   ความรู้สึกที่ค่อย ๆ เปลี่ยน

    เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดลอดผ่านกระจกหน้าร้านเข้ามาอย่างอบอุ่น กลิ่นขนมอบใหม่จากเตา หอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งร้านไอริสยืนอยู่หน้าตู้เค้ก ตรวจความเรียบร้อยภายในร้านเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะฝากร้านกับพี่ ๆ พนักงานซึ่งเป็นคนเก่าที่เคยช่วยดูแลร้านระหว่างที่เธอไปเรียนเป็นโชคดีของเธอที่ร้านอยู่แค่หลักตึกคณะ สามารถเดินไปได้และใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่ยังไม่ทันได้หยิบกระเป๋าและของใช้ส่วนตัว ก็เห็นเงาของร่างสูงมายืนอยู่ไม่ไกลซันยืนอยู่ในชุดนักศึกษาวิศวะ เสื้อยืดสีขาวพับแขนลวก ๆ ทับด้วยช็อปที่พาดไว้บนไหล่ กับทรงผมที่ยุ่งนิดหน่อยตามสไตล์คนเพิ่งตื่น แต่กลับดูดีจนเธอรู้สึกหมั่นไส้“จะไปเรียนใช่ไหม เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”เสียงทุ้มต่ำของคนตัวโตบอกเธอเสียงเรียบ เขาพูดง่าย ๆ เหมือนแค่ชวนไปซื้อข้าวหน้าปากซอย โดยไม่ถามเธอเลยสักคำว่าจะยอมให้เขาไปส่งไหม“ร้านอยู่ใกล้แค่หลังตึก ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ”เธอถอนหายใจเบา ๆ ใครจะอยากให้เขาไปส่งกันเล่า เมื่อวานหลังจากจัดร้านเรียบร้อย พิณเพลงก็ไม่วายเอาแต่พูดถึงเขากับเพื่อน ๆ หนุ่มวิศวะคนดังของมหา’ลัย ที่เห็นจากกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันก็ต้องยอมรับว่าทั้งหล่อ ทั้งดูดีแบบก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status