แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ซินโฟร์เน่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-21 11:09:26

เรียวแขนขาวเนียนละเอียดคว้านไปใต้หมอนที่ตัวเองหนุนนอนเพื่อตามหาเครื่องมือสื่อสารที่ยังคงดังต่อเนื่องรบกวนการนอนไม่หยุด

ไอริสฝืนร่างกายที่แสนเหนื่อยล้าราวกับเธอเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนหลายสิบกิโลออกไป แล้วสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายจากปลายทางทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ทันจะลืมตา

“ฮา โหลวววว”

เสียงหวานครางยืดยาวพยายามเค้นเสียงตัวเองผ่านเครื่องมือสื่อสารออกไป ก่อนจะเริ่มขยับร่างกายที่หนักอึ้ง ‘นี่ฉันเมาขนาดนี้เลยเหรอ’

“ไอ้ซันมึงอยู่ไหนแล้ววะ”

“นี่ใครคะ”

“เห้ยๆ เสียงผู้หญิงวะ กูโทรผิดเปล่าวะ”

คนตัวเล็กที่ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสายดังลอดผ่านมาเป็นเสียงของผู้ชาย กำลังโวยวายราวกับกำลังตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็มีผู้หญิงมารับสาย ทำให้ร่างบางเริ่มขยี้ตาเพื่อตั้งสติ เดียวนะ!! ถ้าปลายสายเป็นผู้ชายและไม่ใช่เพื่อนของเธอ ถ้างั้นปลายทางโทรหาใครหรือแค่โทรผิด

“โอ๊ยยยยยยยย”

คนตัวเล็กรีบกดวางสายแล้วเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างไว ก่อนจะก้มสำรวจมองตัวเองที่รู้สึกวาบหวิวร่างกายแปลก ๆไหนจะน้ำหนักที่พาดกลางลำตัวจนเธอขยับไม่ได้อีก

ดวงตาก้มโตเริ่มสำรวจสิ่งใกล้ตัว สิ่งแรกที่เธอเห็นคือผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนอนกอดเธอเอาไว้ แต่ใบหน้าของเขากลับซุกเข้าหาหน้าอกของเธอทั้งที่ยังหลับสนิท

ความหล่อเหลาครบเครื่องของชายแปลกหน้ายังไม่ดึงดูดสายตาเท่ากับร่างแกร่งที่เต็มไปด้วยร่องรอยจากการจิกข่วน ไหนจะรอยคริสมาร์กสีแดงเหล่านั้นอีก

ระหว่างเธอกับเขามีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งสองเอาไว้ ไอริสดึงผ้าขึ้นมาปิดหน้าอก แต่กลับยิ่งชวนให้สถานการณ์ดูหมิ่นเหม่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อส่วนล่างของเขาปรากฏชัดใต้ผืนผ้าที่แทบปิดไม่มิด…ราวกับจงใจอวดความสมบูรณ์แบบของเรือนกายไร้อาภรณ์ไม่ต่างจากเธอ

ฝ่ามือเรียวบางตบเข้ากลางหน้าผากของตัวเองเบา ๆ อาการเหนื่อยล้าตามร่างกายและความง่วงซึมที่เคยมีหลายไปในพริบตา หลังจากที่เห็นสภาพยับยู่ยี่บนเตียงพร้อมซากอุปกรณ์ป้องกันนับชิ้นไม่ถ้วน

ไอริสก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเธอกับเขา แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมั่นใจได้ว่าเขายังป้องกัน

ร่างบางพยายามเอาแขนของเขาที่พาดกลางลำตัวออก และประคองร่างกายที่ปวดร้าวราวกับเพิ่งโดนรถสิบล้อเหยียบ ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงช้า ๆ พร้อมเก็บรวบเสื้อผ้าของตัวเองบนพื้นขึ้นมาสวมใส่และรีบออกจากห้องไปโดนไม่รอให้เจ้าของห้องที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมาเจอ

มหาลัยคิงส์โนแอล

“ไอริส ยัยไอ”

“ห๊ะ!! แกว่าไงนะ”

“แก ไม่สบายหรือเปล่าเป็นอะไรตัวแกร้อน ๆ นะ”

พิณเพลงทาบฝ่ามือลงบนหน้าผากของเพื่อนสนิท ที่กำลังนั่งใจลอย จนเธอต้องเรียกซ้ำอยู่หลายครั้งกว่าเพื่อนของเธอจะตอบรับด้วยความเป็นห่วง

“ฉันเลิกกับวินแล้วนะ”

“ไอ แกโอเคใช่ไหม”

พิณเพลงถามไอริสอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงพร้อมดึงเพื่อนสาวมาสวมกอดเพื่อให้กำลังใจ เธอเข้าใจว่าที่เพื่อนของเธอมีอาการเมอลอยแบบนี้เป็นเพราะกำลังเสียใจจากการที่ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มจนเริ่มเจ็บป่วยด้วยพิษไข้

“ฉันโอเคที่เลิกกับวิน...ไม่รู้สิอาจจะเพราะทำใจมาสักระยะแล้วมั้ง”

ไอริสกอดพิณเพลงเอาไว้ ก่อนลอบถอนหายใจเบา ๆ ก็อย่างที่เธอบอกว่ามาวินเริ่มเปลี่ยนไปได้สักระยะ และเธอก็เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้มาอยู่บ้าง โดยที่เธอตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าเธอจะยอมเสียน้ำตาให้ผู้ชายแบบนั้นแค่ครั้งเดียว

“ฉันว่าแกไปพักที่ห้องพยาบาลก่อนไหม ฉันจะไปส่งแกเอง”

“อือ”

เพราะร่างกายที่ปวดระบมและเริ่มมีอาการเห่อร้อนตามร่างกายเพราะพิษไข้ ทำให้เธอเลือกจะไปนอนพักที่ห้องพยาบาลตามที่เพื่อนแนะนำ สองสาวพยายามเดินลัดเลาะรอบอาคารตรงไปยังจุดหมาย

แต่เมื่อพวกเธอเปิดประตูห้องพยาบาลเข้าไป เธอกลับรู้สึกก้าวขาไม่ออกจนหยุดยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้าทางเข้า เพราะสายตาเธอกับไปสะดุดเข้ากลับคนตัวโตที่นอนหลับสนิทบนเตียงและมันจะไม่มีอะไรเลย หากเขาไม่ใช่ผู้ชายที่เธอตื่นมาเจอเมื่อเช้า

“แกไหวไหม หน้ามืดหรือเปล่า”

“มะ ไม่เป็นไร ฉันโอเค”

คนตัวเล็กรีบตอบเพื่อนสนิท ก่อนจะเริ่มปรับสีหน้าและลมหายใจให้เป็นปกติ เพราะไม่อยากให้เพื่อนสงสัย แล้วเดินไปในห้องพยาบาล

“แกนอนพักที่นี่ เลิกคลาสฉันจะมารับกลับพร้อมกัน”

“อืม”

หลังจากที่พิณเพลงเธอเดินออกไป ดวงตากลมโตก็แอบจ้องมองไปที่ใบหน้าของคนบนเตียงข้างกัน เรียวนิ้วบางยกขึ้นทาบริมฝีปากตัวเอง อดคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอไม่ได้ ยิ่งตอนเรียวลิ้นหนาสอดแทรกเข้ามาหยอกเย้าในโพรงปากของเธอ มันดูลุ่มหลง อ่อนโยน แล้วเร่าร้อนพอ ๆ กับสัมผัสจากฝ่ามือหนาแสนซุกซนที่บีบเคล้นไปตามร่างกายของเธอจนแดงเถือก

แต่เธอเรียนที่นี่มาสักระยะกลับไม่เห็นหรือรู้มาก่อนว่าผู้ชายคนนี้จะเรียนที่เดียวกับเธอ คนตัวเล็กพยายามสลัดภาพในหัวที่ทำเอาเธอรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณท้องน้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นไข้จนต้องมานอนซมแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกใจเต้นระรัว ‘แล้วทำไมแกต้องไปคิดถึงจูบของเขาด้วยละ’

ร่างบางจัดแจงดึงผ้าห่มมาคุมร่างกาย ก่อนจะเลือกพลิกตัวนอนหันหลังให้คนตรงหน้า ยังไงซะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาก็เป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ที่ผ่านมาแล้วก็จบไปไม่คิดสานต่อให้ใครมารับผิดชอบ เพราะคืนนั้นเธอตั้งใจจะจบลงที่เตียงกับเขาเอง

แต่สุดท้ายความหนักอึ้งของเปลือกตาก็ทำให้เธอหมดแรงฝืนลืมตาอีกต่อไป เปลือกตาของเธอปิดลงพร้อมกับลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

ดวงตาคมที่ดูเหมือนว่ากำลังหลับสนิทของคนตัวโตลืมตาขึ้นมา พร้อมยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นก้าวเดินไปล็อกประตูห้องพยาบาล เพื่อไม่ให้ใครเข้ามารบกวน

ร่างแกร่งเดินมาหยุดยืนอยู่ปลายเตียงที่มีใครบางคนนอนอยู่ ใบหน้าเรียบนิ่งยังคงจ้องมองคนตัวเล็กอยู่แบบนั้นราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างในใจ

ซันจดจำหญิงสาวที่นอนหลับบนเตียงได้ดี เขาเห็นเธอตั้งแต่ตอนเดินถือเค้กเขามาในคลับก็นึกแปลกใจ เพราะเขามาคลับแห่งนี้ค่อนข้างบ่อยแต่กลับไม่เคยเจอคนตัวเล็กสักครั้ง

คนตัวสูงลอบมองร่างบางราวกับเสือร้ายเจอเหยื่อที่พลัดหลงเข้ามา เขายอมรับว่าถูกใจเธอตั้งแต่ได้เห็นครั้งแรก จนไม่อาจละสายตาได้ และดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขาถึงได้ส่งเนื้อกวางแสนหวานมาให้เขาถึงที่

เมื่อเค้กที่คนตัวเล็กถือเข้ามาเป็นเค้กของแฟนตัวเองสั่งให้ผู้หญิงอีกคน เขาจำได้ว่าตัวเองนั่งมองร่างบางที่ยกเครื่องดื่มคนเดียวเงียบ ๆ เพียงลำพังอยู่นานพอสมควร เห็นแต่งตัวเรียบร้อยน่ารัก ใครจะคิดว่าคอแข็งพอสมควร

ทุกอย่างที่เป็นผู้หญิงคนนี้ช่างขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกจริง ๆ ‘เป็นผู้หญิงที่สวย แม้กระทั่งร้องไห้ก็ยังสวย’

เขายังจำรสจูบแสนหวานของร่างบางที่พยายามลุกล้ำเข้ามาหาเขาก่อนได้เป็นอย่างดี ยิ่งมารู้ว่าเขาได้เป็นคนแรกของเธอก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจที่แฟนแสนห่วยแตกของเธอปล่อยให้ของดีแบบนี้หลุดมือมาได้ไง

ร่างแกร่งเดินอ้อมปลายเตียงมาสอดแทรกตัวเองไปบนเตียงเดียวกันกับเจ้าของร่างบางที่หลับสนิทจนไม่รู้สึกตัว มีเพียงแค่เสียงครางต่ำเบา ๆ ในลำคอ ที่กำลังต่อต้านเพราะถูกรบกวนการนอน

“อื้มมมมม”

“ชูว์”

แขนแกร่งสอดรั้งใต้ลำคอคนตัวเล็ก ก่อนดึงอีกฝ่ายเข้ามาซบอกแกร่ง แล้วลูบหัวอีกฝ่ายช้า ๆ เหมือนต้องการกล่อมให้อีกคนกลับสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง

เมื่อเห็นคนตัวเล็กเริ่มหลับสนิท ซันก็เริ่มได้สติอีกครั้งว่าตัวเองกำลังเผลอทำตัวแปลก ๆ อย่างการเอาตัวเอายัดเยียดไปอยู่บนเตียงอีกฝ่ายเพียงเพราะอยากกอดและคิดถึงกลิ่นหอม ๆ ของร่างบางที่เพิ่งผ่านสมรภูมิรักด้วยกันอย่างร้อนแรง

จากที่ตั้งใจจะจบลงแค่รอบเดียวก็เลยเถิดจนเกือบเช้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ทุกอย่างที่เป็นคนอ้อมกอดมันกลับปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้ร้อนรุ่มจนไม่สามารถควบคุมได้ ‘ก็แค่เซ็กซ์ที่เขารู้สึกว่ายังไม่เบื่อเลยอยากได้ซ้ำอีกสักหน่อยก็เท่านั้นก็เหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้มีความหมายอะไร’

ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปใต้สาบเสื้อนักศึกษาของคนตัวเล็กก่อนจะวางมือลงบนหน้าอกอวบอิ่มที่ฟูเต็มไม้เต็มแล้วปิดตาลงสู่ห้วงนิทราตามร่างบางที่หลับสนิท
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 65

    บ้านสวนคาเฟ่ไอริสแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านม่านไม้เลื้อยที่เกาะระแนงด้านหน้า เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดผสมกับกลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเหมือนทุกเช้าที่ผ่านมาร่างเล็กในเดรสผ้าฝ้ายสีขาวบางเบานั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ไม้ เธอลูบหน้าท้องกลมเบา ๆ อย่างเผลอไผล ก

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 64

    ซันมองเข้าไปในดวงตาสวยคู่นั้นก็จะเลื่อนมือข้างหนึ่งมาตรึงข้อมือเรียวของเธอไว้เหนือศีรษะ กดแผ่นหลังบางแนบกับผนังเย็น ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากอย่างร้อนแรงเรียวลิ้นหนาสอดเข้ามาหยอกล้อในโพรงปากนุ่มราวกับหลงใหลในรสหวานที่ไม่มีวันพอ รสจูบของเขาอ่อนโยนแต่ก็เร่าร้อนราวกับไฟฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามร

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 63

    Dragon Clubภายใต้แสงไฟสลัวและเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม “Dragon Club” ยังคงคึกคักไม่ต่างจากทุกคืน ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการกันแน่นขนัด ทั้งบนฟลอร์และรอบบาร์เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเร่าร้อนและแอลกอฮอล์ที่ลอยคลุ้งในอากาศบนโซฟาหนังริมกระจกบานใหญ่ ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่ปลดกระดุมไว้เพียงครึ่งเผย

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 62

    หลังจากช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีผ่านไปเพียงไม่นาน ซันเอ่ยกับ ไอริสเบา ๆ“ไปบ้านสวนกันนะ พี่มีอะไรจะให้”เขาไม่รอให้เธอถามอะไรอีก มือหนาเลื่อนมากุมมือเล็ก ๆ นั้นไว้ ก่อนจะพาไปขึ้นรถ แล้วขับรถพาเธอมาจนถึงบ้านสวน ในบ่ายที่แสงแดดกำลังนวลพอดีแต่เมื่อรถเลี้ยวมาถึงทางเข้า เธอกลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตก

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 61

    สองปีต่อมาเสียงประกาศชื่อบัณฑิตดังก้องอยู่ภายในหอประชุมใหญ่ บรรดานักศึกษาในชุดครุยสีดำขลิบทองทยอยเดินขึ้นเวทีตามลำดับรายชื่อ หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวร่างบางเจ้าของดวงตากลมโตที่ในวันนี้ดูโดดเด่นไม่แพ้ใครผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ทว่าเปล่งประกาย ใต้ครุยสถาปั

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 60

    มือเรียวบางเริ่มบีบครีมกะทิมะพร้าวเป็นวงกลมบนเนื้อเค้กให้สูงขึ้นเล็กน้อย โดยเว้นพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ราดซอสตะโก้เผือกที่เตรียมแล้ว จากนั้นก็บีบครีมกะทิลงไปอีกชั้นตามด้วยเนื้อเค้กที่แบ่งไว้ ก่อนจะบาดครีมกะทิมะพร้าวสีขาวละมุนรอบเนื้อเค้กให้เรียบ ตกแต่งหน้าเค้กด้วยซอสตะโก้เผือก ปิดท้ายด้วยการนำเอาไข่แดง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status