‘วินให้เวลาไอ แค่สามวัน มาย้ายของออกไปให้หมดด้วย’
ไอริสได้รับข้อความนั้นจากแฟนเก่าของเธอเมื่อสองวันก่อน หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาในห้องพยาบาลเพียงลำพัง เธอไม่เพียงแค่ถูกนอกใจ เขายังไล่เธอออกจากร้านอย่างไม่ไยดี
ถ้าแค่หยุดขายชั่วคราว เธอยังพอประคองตัวได้จากเงินเก็บที่มีอยู่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ร้าน แต่มันรวมถึงที่พักอาศัยชั้นบนที่เธอเคยใช้อยู่ก็ต้องย้ายออกด้วย เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเคยหลงรักผู้ชายแบบนั้นมาก่อน
ผ่านมาสองวันแล้วที่เธอต้องใช้เวลาหลังเลิกเรียนเพื่อออกตระเวนหาสถานที่เช่าแห่งใหม่ ที่เหมาะสำหรับสำหรับเปิดร้าน และที่พักอาศัยของตัวเอง
“ทำไม ทำเลดี ๆ มันหายากจังนะ”
ไอริสก้มมองดูรายชื่อที่เธอค้นหาข้อมูลจากในอินเตอร์มาก่อนแล้ว รายชื่อถูกขีดออกจนเกือบหมด หลังจากที่เธอมาดูสถานที่จริง แต่มันกลับไม่ตรงตามที่ลงโฆษณา บางที่ทั้งเปลี่ยวทั้งรกร้าง
เธอยังคงเดินต่อไปตามทางเดินแคบ ๆ ระหว่างอาคารพาณิชย์สองหลัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ขณะเงยหน้ามองตึกเก่าเบื้องหน้า กระจกหน้าร้านบางบานแตกร้าว รอยปูนร่อนตามเสาให้ความรู้สึกให้ความรู้สึกน่ากลัว วังเวงและไม่น่าเข้าใกล้
‘อย่าเพิ่งท้อสิไอริส’
เธอเตือนตัวเองอีกครั้งแล้วค่อย ๆ ถอยออกมา ก่อนจะขีดรายชื่อออกไปอีกครั้ง แม้ว่าวันนี้เธอจะเดินหาร้านใหม่มาตั้งแต่เช้าและดูมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบแห่ง แต่ก็ยังไม่เจอร้านที่ใช่อย่างที่ต้องการเลยสักแห่ง
มือเล็กหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับเหงื่อเบา ๆ เพราะอากาศร้อนอบอ้าวจนเหงื่อไหลซึมตรงขมับ แล้วตัดสินใจเดินต่อไป เพราะเธอเหลือเวลาไม่มาก ก่อนจะหันไปเห็นตึกอีกหลังที่อยู่เยื้องออกไป สีอาคารถูกทาทับใหม่จนดูสะอาดตา หน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติได้ดีและติดป้าย ‘ให้เช่า’ ห้อยอยู่ชัดเจน หรือจะเป็นที่นี่ดี
ไอริสสูดลมหายใจลึกเข้าปอด แม้จะรู้สึกว่าที่นี่จะดีกว่าผ่าน ๆ มา แต่ทำเลก็ยังไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไร เธอตัดสินใจจดเบอร์โทรจากป้ายลงในสมุดโน้ตเล่มเล็กเอาไว้หากหมดหนทางแล้วจริง ๆ ที่นี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ก่อนจะหันหลังเดินต่ออย่างช้า ๆ อย่างน้อยเธอก็เริ่มมองเห็นหนทางบ้างแล้ว ถึงแม้ทำเลตรงนี้อยู่ลึกและห่างไกลผู้คนมากเกินไปก็ตาม
แม้เธอจะยังไม่รู้คำตอบว่าจะลงเอยที่ไหน แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ เธอยังคงเดินต่อไป จนกระทั่ง… เธอมาหยุดยืนหน้าร้านเล็ก ๆ หลังตึกคณะสถาปัตยกรรม สถานที่คุ้นเคยที่ทำให้เธอชะงักไปชั่วครู่
เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมาที่ร้านแห่งนี้ ตอนที่เข้ามาสมัครเรียนใหม่ ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะปิดตัวลง ทั้ง ๆ ที่ร้านขายดีขนาดนั้น ดวงตากลมโตมองสำรวจไปรอบบริเวณอย่างรู้สึกสนใจ
“ที่นี่…”
เธอพึมพำเบา ๆ ขณะเดินเข้าไปใกล้ ก่อนแนบหน้าผากลงบนกระจกเย็นเฉียบ ดวงตากลมโตไล่มองภายในร้านที่ยังคงเค้าโครงเดิมไว้ทุกประการ หากได้เปิดร้านอีกครั้งที่นี่จริง ๆ เธอจะตกแต่งแบบไหนดีนะ? กลิ่นขนมอบตอนเช้าจะหอมแค่ไหน? กัน
ความรู้สึกตื่นเต้นกำลังก่อตัวในใจของเธอ มันทั้งถูกใจและถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก จนมีความคิดบางอย่างในใจเธอแว่วขึ้นเบา ๆ หรือเธออาจจะได้เริ่มต้นใหม่จากตรงนี้…ก็ได้นะ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่ระบุไว้ใต้ป้าย เสียงสัญญาณดังไม่กี่ครั้ง ก่อนหญิงวัยกลางคนรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ หนูสนใจอยากขอเช่าร้านที่ประกาศขายหลังมหาวิทยาลัยคะ อยากสอบถามว่าร้านให้เช่าไหมค่ะ?”
“อ๋อ ขอโทษนะคะ ร้านนี้ไม่ได้ให้เช่าค่ะ ต้องการขายอย่างเดียว พอดีกำลังจะย้ายไปต่างประเทศเลยต้องการเงินก้อนนะคะ”
ไอริสเงียบไปนิดหนึ่ง ก่อนจะฝืนยิ้มบาง ๆ แล้วเงยหน้ามองขึ้นไปที่ชั้นสองของร้านอย่างนึกเสียดายแล้วตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
เธอกดวางสาย มือบางยังจับโทรศัพท์แน่น แต่หัวใจกลับเต้นช้าลงอย่างแปลกประหลาด ความรู้สึกของเธอเหมือนกับคนที่ถูกดึงให้ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มใหม่อีกครั้ง
ดวงตากลมโตเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เพื่อข่มความรู้สึกเหนื่อยล้าที่ตีตื้นขึ้นมาอยู่ภายในใจ ก่อนจะสังเกตเห็นท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี แล้วมองร้านที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
ไอริสยิ้มให้ตัวเองผ่านเงาที่สะท้อนบนกระจกใสเบื้องหน้า ก่อนจะตัดใจหันหลังแล้วเดินต่อไปยังร้านขายข้าวเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลแทน
“คุณป้าค่ะ กะเพราหมูกรอบไข่ดาวหนึ่งกล่องค่ะ”
“ได้เลยจ้ะ รอแป๊บนะ ว่าแต่หนูมาทำอะไรแถวนี้ ป้าไม่ค่อยเห็นหน้าเลย”
“มาดูร้านที่อยู่ตรงฝั่งนู้นค่ะ อยากเช่าทำร้านเบเกอรี่”
“อ้าว แล้วโทรติดไหม? แถวนี้คนเยอะนะ ถ้าได้เช่า ขายดีเลยแหละ”
“ติดค่ะ แต่เจ้าของเขาจะขายอย่างเดียว หนูไม่มีทุนมากขนาดนั้นหรอกค่ะ”
คนตัวเล็กตอบกลับเสียงแผ่ว แล้วส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคุณป้าเจ้าของร้านท่าทางใจดี ก่อนจะรับข้าวกล่องแล้วเดินออกจากร้านอย่างเงียบ ๆ
“ป้าครับ…ผู้หญิงเมื่อกี้มาทำอะไรเหรอครับ?”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากชายหนุ่มรูปร่างร่างสูงที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าร้าน พร้อมกับเพื่อน ๆ อีกสามคนที่เดินเข้าร้านไปก่อน
เพราะตึกคณะสถาปัตยกรรมอยู่ติดกลับตึกวิศวกรรมที่พวกเขาเรียนอยู่ และพวกเขามักจะเอารถมาจอดทางด้านหลังมหาลัยเป็นประจำ วันนี้จึงทำให้มีโอกาสได้วนมาเจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
“เห็นว่ามาถามเช่าร้านตรงหัวมุมน่ะจ้ะ ทำเลดีนะ แต่เจ้าของเขาจะขายอย่างเดียว ราคาก็ใช่จะถูก ๆ นังหนูมันคงไม่มีเงินซื้อหรอกก็เลยเดินหน้าเศร้าออกไป”
“ขอบคุณครับ”
ชายหนุ่มมองตามร่างเล็กที่กำลังเดินลับสายตาไป ก่อนจะเดินตรงไปยังร้านที่ติดป้ายขาย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่แปะไว้ด้านหน้า
จากวันนั้นที่คิดว่าร่างบางจะมาตามหาเขา ให้รับผิดชอบเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผ่าน แต่กลับผิดคาด เพราะเธอดูจะไม่สนใจเขาเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นเขาที่เดินอยู่ไม่ไกล
‘มันน่าจับมาลงโทษอีกสักรอบสองรอบเอาซะให้เข็ด’
ซันที่แอบสังเกตเห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่นาน จนอดไม่ได้จะคิดถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ราวกับขนมหวานบนตัวเธอ ใบหน้าที่แสนดื้อรั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ แต่กลับยิ่งดึงดูดสายตาเขาให้จ้องมองไม่วางตา ยิ่งมองยิ่งคิดถึงผิวขาวเนียนละเอียดที่เคยได้สัมผัสทั้งในร่มและนอกร่มผ้าก็ยิ่งรู้สึกโมโหที่ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้จักดูแลตัวเองตากแดดจนผิวแดงไปหมด
รออยู่ไม่นานก็มีเสียงมาตามสาย
"สวัสดีค่ะ"
"ผมสนใจซื้อร้านครับ...แต่ผมมีเงื่อนไขอยู่หนึ่งข้อ"