แชร์

4. ความโมโห เป็นแรงผลักที่ดี (1)

ผู้เขียน: หมอนบนโซฟา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 22:07:12

เอินเอินพาผู้เป็นนายทั้งสองเข้ามาหลบในห้องลับเล็กๆ ของเรือน หลี่น่าที่ไม่รู้เรื่องอันใด ก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น นานกว่าสองเค่อ (30 นาที) เสียงดังโวยวายด้านนอกก็หยุดลง

ก๊อก! ก๊อก!

“ออกมาได้แล้ว พวกมันไปหมดแล้ว” ได้ยินเสียงของผู้นำตระกูล สตรีทั้งสามก็พากันออกจากห้องลับทันที

ภาพที่หลี่น่าเห็นอยู่ตรงหน้า ทำเอานางตกใจไม่น้อย ชายทั้งสองที่นางพึ่งรู้ว่าเป็นบิดาและพี่ชาย เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นผง ทั้งศีรษะของผู้เป็นบิดายังมีแผลแตก จนเลือดไหลอาบหน้า

“ละ เลือด! ไปทำแผลก่อนดีไหม ปล่อยไว้จะติดเชื้อได้” ทุกคนต่างมึนงงกับคำพูดแปลกประหลาดของหลี่น่า จนต้องขอให้นางพูดใหม่อีกที

“หลี่เอ๋อร์ เจ้าว่าอย่างไรนะ”

“เอ่อ เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถิดเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าจะทำความสะอาดบาดแผลให้ท่านก่อน” ร่างอวบตั้งสติ พยายามประมวลคำที่ควรใช้ให้ถูกต้อง และพูดออกมาอย่างชัดเจน จนทุกคนเข้าใจทุกคำที่นางเอ่ย

มือขาวใช้เครื่องมือที่เอินเอินนำมา ทำแผลให้กับบิดาอย่างเบามือ ยังดีที่บาดแผลไม่หนักหนาถึงขั้นต้องเย็บ เพราะหากเป็นเช่นนั้น นางคงมิอาจช่วยได้

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

“ขอบใจเจ้ามาก พ่อมิคิดว่าเจ้าจะรู้เรื่องการแพทย์ด้วย” ผู้อาวุโสที่สุดในเรือนเอ่ยอย่างยิ้มๆ เขาเป็นบิดา ย่อมรู้ดีว่าบุตรสาวนั้นชอบการอ่านตำรา วิธีการและหลักการต่างๆ บุตรสาวของเขาจดจำได้แม่นยำ แต่มิคิดว่านางจะปฏิบัติได้อย่างเชี่ยวชาญด้วยเช่นกัน

“เจ้าค่ะ แล้วเมื่อครู่เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ” คำถามของหลี่น่า ทำเอาทุกคนหันหน้ามองกันอย่างงุนงง

“ก็พวกเจ้าหนี้อย่างไรเล่า พวกเขาก็มาที่เรือนเราประจำ”

“คุณชายเจ้าคะ คือว่า…คุณหนูความจำหดหายเจ้าค่ะ ตอนที่เราพาคุณหนูลงมาจากบ่วงผ้า ตอนนั้นศีรษะคุณหนูชนเข้ากับพื้นดังโป๊ก!!! แล้วก็ลืมทุกสิ่งเลยเจ้าค่ะ” เอินเอินทำท่าทำทาง ดังที่คุณหนูของนางเคยทำให้ดูก่อนหน้า

…ห๊ะอ่า~ ทุกคนตกใจมาก จนช็อกนิ่งไปเลย

“แหะๆ ทุกท่านไม่ต้องตกใจ จริงๆ แล้วมันดังเปาะ! เดียวเท่านั้น” แม้หลี่น่าจะขยายความเพิ่ม แต่ก็ยังไม่ทำให้ทั้งสามคนหายตกใจ ผู้เป็นมารดาถึงขึ้นร้องห่มร้องไห้ออกมา

“โถ่~ หลี่เอ๋อร์ของแม่ ฮื่ออออ เจ้าจำสิ่งใดไม่ได้เลยหรือ เช่นนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะท่านพี่ พาไปหาหมอดีหรือไม่”

“พี่เองก็คิดเช่นนั้น อาเหิง เจ้าช่วยไปตามหมอมาตรวจน้องทีได้หรือไม่”

“ได้ขอรับ หลี่เอ๋อร์รอพี่ก่อนนะ อย่าพึ่งเป็นอันใดไป” หลี่น่าเห็นพี่ชายกำลังจะลุกออกไปจากศาลา นางจึงรีบคว้าแขนชายหนุ่มเอาไว้

หมอจะตรวจพบได้อย่างไรเล่า ก็เป็นเรื่องโกหกนี่

“พี่เหิงมิต้องไปหรอกเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าสบายดี เพียงจดจำเรื่องราวไม่ได้เท่านั้น พวกท่านช่วยกันเล่าเรื่องทุกอย่างให้ข้าฟังก็พอเจ้าค่ะ” หญิงสาวสังเกตเห็นถึงความกังวลบนใบหน้าของบิดาอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าทุกคนลำบากใจที่จะเอ่ยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“เอ่อ หากพวกท่านไม่สะดวกใจ-”

“มิได้เป็นเช่นนั้น เอาเถิดๆ พ่อจะเล่าทุกสิ่งให้เจ้าฟัง…” ทั้งบิดา มารดา พี่ชาย และเอินเอิน ต่างผลัดกันเล่าเรื่องราวให้หลี่น่าฟัง จนนางได้รู้ความเป็นไปทุกสิ่ง

เหอหลี่น่ามีอายุเพียง 18 หนาว นางเป็นบุตรสาวของเศรษฐีสกุลเหอ เหอเข่อซิงกับฮูหยินเหอซูเจิน มีพี่ชายวัย 21 หนาว นามว่า เหอเหิงเยว่ สกุลของนางเป็นสกุลเศรษฐีอันดับหนึ่งของแคว้น มาตั้งแต่รุ่นปู่ทวดย่าทวด แม้ผู้คนจะเอ่ยว่าเหอเข่อซิงมิได้มีปัญญาเฉียบแหลมเช่นผู้นำสกุลเหอคนก่อน อาศัยบารมีเก่าของบรรพบุรุษเท่านั้น แต่บิดาของนางก็สืบทอดกิจการต่างๆ มาได้เป็นอย่างดี

แต่แล้วชะตากลับพลิกผัน เพียงเพราะท่านพ่อรู้จักกับพวกสกุลเถียน เสนาบดีเถียนตงเข้ามาติดต่อซื้อขายของหายากบางอย่างกับท่านพ่อ จากนั้นทั้งสองตระกูลจึงติดต่อค้าขายกันจนสนิทชิดเชื้อ

รุ่นบิดามารดารู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี รุ่นลูกรุ่นหลานก็พูดจากันถูกคอ โดยเฉพาะคุณหนูเหอหลี่น่าที่หลงรักบุตรชายคนรองของเสนาบดีเถียน นามว่า เถียนอี้ ชายผู้นี้ทั้งสุขุม อ่อนโยน สมกับเป็นบัณฑิตที่พึ่งได้รับตำแหน่งขุนนาง เมื่อสองครอบครัวรู้ว่าบุตรหลานรักใคร่กัน จึงได้มีการจัดการหมั้นหมายขึ้น

เรื่องราวก็ดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี ทว่าวันหนึ่งเสนาบดีเถียนได้แนะนำ ให้บิดาของนางรู้จักพ่อค้าต่างแคว้นคนหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญเรื่องการลงทุนสร้างกิจการ สกุลเหอที่คิดจะสร้างกิจการเพิ่มอยู่แล้ว จึงได้สนใจและลงทุนสร้างกิจการกับพ่อค้าต่างแคว้นผู้นั้น

แต่แล้วครอบครัวของนางกลับถูกพ่อค้าผู้นั้นคดโกง จนสิ้นเนื้อประดาตัว บ่าวรับใช้ต่างหนีหาย มิตรสหายก็หมางเมิน คนเคยให้ความเคารพก็เหยียบย่ำ เพียงเพราะไม่มีเงินมีทองเช่นเก่าก่อน คงจะมีเพียงสกุลเถียน ที่ยังให้ความช่วยเหลืออยู่บ้าง

“เท่าที่ฟัง สกุลเถียนก็เป็นคนดีไม่น้อยนะเจ้าคะ”

“หึ! ก็แค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ” เหิงเยว่แค่นยิ้มออกมา ก่อนจะเล่าเรื่องราวให้น้องสาวฟังต่อ

หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากสกุลเถียน บิดาของนางก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและคืนเงินให้สกุลเถียน บิดาของนางเริ่มกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน สร้างกิจการขึ้นมาใหม่ แต่ด้วยท่านพ่อเคยแต่รับช่วงต่อจากท่านปู่ มิเคยต้องเริ่มสร้างด้วยตนเอง ทำให้กิจการใหม่ของท่านพ่อล้มไม่เป็นท่า บิดาของนางจึงหันมาใช้แรงแลกเงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัวก่อน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   17. กลัว (2)

    “ห้องนี้หรือ”“มิใช่เจ้าค่ะ ห้องนี้เป็นห้องตำราของท่านพ่อ” หลี่น่าเดินไปได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ทักขึ้นมาอีก“หรือว่าจะเป็นห้องนี้”“นั่นเป็นห้องเก็บป้ายวิญญาณของบรรพชนเจ้าค่ะ”“อีกไกลหรือไม่”“เดินเลี้ยวไปทางซ้ายก็จะถึงแล้ว อยู่ติดกับห้องนอนของพี่เหิงพอดี ท่านทนมิไหวแล้วหรือเจ้าคะ คิกๆ” หญิงสาวปิดปากขำ จนดวงตาที่กลมโตหยีลงอย่างน่ารัก“อะฮึ่ม!” สตรีตรงหน้ายามยิ้มขบขำเช่นนี้ ช่างน่าเอ็นดูนัก ทั้งที่นางมิได้งามล่มเมือง รูปร่างก็มิได้เอวบางร่างน้อยอย่างสตรีงามผู้อื่น ทว่าส่วนเว้นส่วนโค้งกลับดึงดูดสายตาให้จับจ้อง มิรู้เบื่อ“ถึงแล้วเจ้าค่ะ”“อืม เจ้าออกไปรอด้านนอกก็ได้ ข้าจำทางได้แล้ว”“ท่านปวดหนักหรือ คึๆ” ท่าทีป้องปากกระซิบ พร้อมกับสายตาที่หยอกล้อ ทำเอาหวังหย่งถึงกับหน้าตึง แต่ยังมิทันได้เอ่ยเตือน อีกฝ่ายก็หนีหายไปเสียก่อนหวังหย่งเข้าไปในห้องสุขาเพียงชั่วครู่ ก็เดินย่องออกมา ดวงหน้าคมหันซ้ายหันขวา เพื่อดูให้แน่ใจว่ามิมีผู้ใดอยู่บริเวณนี้ ร่างสูงรีบเดินไปยังห้องตำราของเรือนหากว่าจะหาเอกสารสำคัญ ย่อมต้องหาในห้องตำราเป็นที่แรก“ท่านแม่ทัพทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ” ยังไม่ทันที่หวังหย่งจะเปิดเข้าไปใน

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   16. กลัว (1)

    “ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่เหิง ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” หลี่น่ายื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างของรถม้าคันหรู ทั้งยังโบกไม้โบกมือให้ครอบครัว ที่กำลังกวาดลานหน้าเรือนอยู่เกวียนขนของและรถม้าคันหรู เคลื่อนเข้ามาจอดในลานกว้างหน้าเรือนสกุลเหอ เข่อซิงเองก็นึกแปลกใจที่บุตรสาวนั่งรถม้าเข้ามา ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม เจ้าของรถม้าก็ปรากฏกายขึ้น“มะ แม่ทัพใหญ่! บุตรสาวข้าไปสร้างเรื่องเดือดร้อนหรือ”“ท่านแม่ทัพโปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาต่างก้มคำนับต่อแม่ทัพใหญ่ของแคว้นอย่างหวาดกลัว หลี่น่าได้แต่ยืนงงกับท่าทางของบิดาและมารดานางมิได้ทำสิ่งใดผิดเสียหน่อย“ท่านพ่อท่านแม่ ข้ามิได้สร้างเรื่องนะเจ้าคะ”“เจ้าเงียบเสีย ท่านแม่ทัพโปรดเห็นใจนางเถิดขอรับ น้องสาวข้าผู้นี้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามาก รอดตายมาได้ก็จดจำสิ่งใดมิได้ แม้แต่นามของตน ไหนจะพูดจากพิลึกพิลั่นนี่อีก เห็นแก่ว่านางวิปลาสเถิดขอรับ”“โอ้ยยยย พี่เหิงคิดว่าข้าบ้าหรือ แม่ทัพจ้าว! ท่านพูดสิ่งใดบ้างเถิด”“ท่านเหอ ฮูหยิน คุณชาย ข้าเพียงนำไหและจอกสุราที่คุณหนูเหอต้องการมาให้เท่านั้น” เสียงนิ่งทรงพลัง ทำให้คนสกุลเหอทั้งสาม หยุดโวยวายลงได้ แต่มิวายหันมาหาหลี่

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   15. ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (3)

    “ข้าทำเรื่องดีเจ้าค่ะ เอ่อ…ข้าจะเปิดร้านสุราหวานเจ้าค่ะ” มือขาวยกขึ้นมาป้องปาก กระซิบกระซาบเสียงเบา มิให้ผู้อื่นได้ยิน“เช่นนั้นหรือ เอาไว้ข้าจะส่งไปให้ที่เรือนเจ้า”“ประเดี๋ยวเจ้าค่ะ ข้าขอไปเลือกเองได้หรือไม่ นะ นะ ข้าจะได้เลือกเอาแค่ที่จำเป็นอย่างไรเจ้าคะ” เพราะเคยชินกับการอยู่ใกล้ชิดกับบิดาและพี่ชาย หลี่น่าจึงเผลอเกาะแขนแกร่งเสียแน่น ทั้งยังส่งสายตาออดอ้อน จนคนมองเสียอาการ“อะแฮ่ม! เช่นนั้นก็กลับเรือน ฮุ่ยหวง…” เพียงแค่สายตาที่ส่งมา ก็ทำให้รองแม่ทัพเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงได้แยกตัวออกไปอีกทางหวังหย่งพาหลี่น่าและเอินเอินมาที่เรือนของตน ก่อนจะพาไปเลือกไหสุราและจอกสุราตามที่หญิงสาวต้องการ ยังดีที่วันนี้ท่านย่าของเขาไม่อยู่เรือน หากไม่แล้ว คงต้องเอ่ยอธิบายเสียยาวเหยียดเป็นแน่“เจ้าเลือกเอา อยากได้อันใดก็บอกบ่าวไพร่” หวังหย่งให้บ่าวไพร่เปิดหีบไม้ที่ใช้เก็บจอกสุรา ให้หญิงสาวดู“นี่…เหมือนของใหม่เลยนะเจ้าคะ” ทั้งลวดลายและรูปลักษณ์ของจอกสุรา ไม่แตกหักหรือมีรอยร้าวสักนิด“เอาไปเถิด เรือนข้ามีมาก มิได้ใช้งาน จนต้องนำมาเก็บที่ห้องเก็บของนี่อย่างไรเล่า”“อ่า~ มิใช่ว่าพึ่งให้คนไปซื้อมาใหม่ เพื่อ

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   14. ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (2)

    เช้าวันรุ่งขึ้นหลี่น่าลุกขึ้นมาออกกำลังกายตามปกติ ก่อนจะมาท่านมื้อเช้าและไปจัดการเรื่องการขนน้ำผลไม้ไปไว้ในห้องใต้ดิน ด้วยมิอยากจ้างคนงานมาจัดการ หลี่น่ากับเอินเอิน จึงจัดการขนไหน้ำผลไม้ยังไม่เน่าเสียมาไว้ในห้องใต้ดินด้วยตนเอง“เห้อ! กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่”“จริงเจ้าค่ะ แหะๆ”“ทนเอาหน่อยนะเอินเอิน หากว่าเราขายสุราหวานได้ดีตามที่คาดไว้ ครอบครัวเราก็จะมีกินมีใช้ มีเงินไว้จ่ายหนี้สินที่ติดค้างอยู่” หลี่น่าลูบศีรษะเล็กของคนสนิท“บ่าวทนไหวเจ้าค่ะ สงสารก็แต่พวกท่าน ที่ต้องมาลำบากเช่นนี้”“อย่าคิดอันใดให้มากความเลย ข้าว่าเราไปทำมื้อเที่ยงไว้รอทุกคนเถิด ช่วงบ่ายเราจะต้องออกไปหาภาชนะใส่สุราหวานของเราเสียที” ว่าแล้วสองนายบ่าวก็พากันเข้าครัว แม้ว่าหลี่น่าจะทำสิ่งใดไม่เป็น แต่ก็พอช่วยหยิบจับนู่นนี่ได้..“เราจะเริ่มจากที่ใดก่อนดีเจ้าคะ” หลังจากทานมื้อเที่ยง หลี่น่าก็ขออนุญาตบิดามารดาออกมาหาไหและจอกสุราเก่า“ข้าจะลองไปถามโรงน้ำชาดูก่อน” หากว่าไปถามร้านขายสุรา แล้วเรานำไหเหล่านั้นมาขายสุราแข่งกับเขา มันดูน่าเกลียดเกินไปหน่อย“เถ้าแก่เจ้าคะ ที่ร้านพอจะมีไหหรือจอกชาเก่าที่ไม่ใช้แล้วหรือไม่

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   13. ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (1)

    หลังจากที่ขอให้ท่านลุงเหวินจงหมักสุราไว้ให้ หลี่น่าก็กลับมาพักที่เรือนอย่างสบายใจกับผีน่ะสิ!นับจากที่ตัดสินใจว่าจะนำสุราหวานไปวางขาย หลี่น่าก็ไม่ได้หยุดพักหายใจเลยแม้แต่น้อย ทั้งเรื่องเครื่องมือเครื่องใช้ ทั้งเรื่องวิธีการทำ ก็มีปัญหาเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน“จะทำอย่างไรดีเจ้าคะคุณหนู” หลี่น่ากำลังตักชิมน้ำผลไม้ที่นางคั้นเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน ก็พบว่าน้ำเหล่านั้นทำท่าคล้ายจะเน่าเสีย รสชาติและกลิ่นต่างแปลกไป“เพราะไม่มีตู้เย็น เลยเป็นเช่นนี้”“เอ่อ อันใดคือตะ ตู้เย็นเจ้าคะ”“เป็นที่ที่เย็นมากๆ ใช้เก็บของมิให้เน่าเสียน่ะ” หลี่น่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ เสียดายน้ำผลไม้ที่คั้นไว้ เห็นทีจะต้องทิ้งแล้วทำใหม่“…”“นำไหที่เสียไปทิ้งเถิด แล้วคั้นใหม่ ข้าจะลองไปถามท่านพ่อดูว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร” ครอบครัวของนางเป็นสกุลพ่อค้า คงจะมีวิธีการเก็บสินค้าให้สดใหม่อยู่เสมอ“ได้เจ้าค่ะ” แม้เอินเอินจะเสียดายมากเท่าใด แต่ก็จำใจต้องเทน้ำผลไม้พวกนั้นทิ้ง..หลังจากครอบครัวสกุลเหอทานมื้อเย็นเสร็จ ก็พากันมานั่งเล่นพูดคุยกันที่ศาลาหลังเรือน เป็นโอกาสให้หลี่น่าได้ถามไถ่วิธีแก้ปัญหากับบิดา“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าติดปัญหาเจ

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   12. ลงมือด้วยตนเอง (3)

    ทั้งกลิ่นและรสชาติ แตกต่างจากสุราที่ขายในโรงสุรายิ่งนัก กลิ่นของสาโทที่ท่านลุงเหวินจงหมักเอง จะมีกลิ่นหอมของข้าว แต่ก็ได้กลิ่นเปรี้ยวที่เกิดจากการหมักดองเช่นกัน“รสชาติดีกว่าสุราที่ข้าดื่มนัก”“แท้จริงแล้วสุราที่คุณชายดื่มก็ทำเช่นนี้เหมือนกันขอรับ แต่เขาจะเอาไปเข้าเครื่องกลั่น เพื่อจะได้เก็บไว้นาน ซึ่งรสชาติก็จะเปลี่ยนไปด้วย”“จริงสิ ท่านลุงพาข้าไปดูผลไม้ที่ส่งขายไม่ได้ทีเถิด” หลี่น่าอยากลองผสมน้ำผลไม้กับสาโทเต็มที อยากรู้ว่ารสชาติจะออกมาเป็นดังที่นางคาดไว้หรือไม่“ทางนี้เลยขอรับ” เดินแยกออกไปไม่นาน ก็พบกับกองผลไม้ที่ไม่สามารถส่งขายได้ บ้างก็เน่าเสีย บ้างก็ลูกเล็กเกินไปหลี่น่าเดินเข้าไปคัดเลือกผลที่ยังพอจะนำมาคั้นน้ำได้ นางเลือกผลส้มมาเกือบยี่สิบลูก ใช้มีดหั่นครึ่งส้มแต่ละผล แล้วจึงบีบคั้นน้ำออกมา“ข้าขอสาโทสักจอกเถิด” มือขาวรับเอาสาโทมาผสมกับน้ำส้มที่ตนเองคั้นสดเอาไว้ ก่อนจะใช้ตะเกียบแตะเพื่อชิมทุกการกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของเหิงเยว่ เอินเอิน และเหวินจงทั้งหมด“เจ้าเชี่ยวชาญนัก” หลี่น่าเพียงยกยิ้มให้พี่ชาย แล้วเลือกผลส้มมาคั้นเพื่อผสมกับสาโทให้ครบทุกคน กว่าจะทำได้ในปริมาณที่ม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status