หลังจากจบมื้ออาหารเอสก็เป็นคนพาพัดพารัชชาเอาของไปเก็บในห้องนอนของเธอที่อยู่บนชั้นสองของบ้าน ห้องนอนของหญิงสาวเป็นห้องนอนใหญ่ด้านข้างและหลังห้องเป็นกำแพงกระจกที่เปิดม่านออกก็จะเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของสวนหย่อมและต้นไม้ใหญ่ ในห้องก็มีของอำนวยความสะดวกครบครัน ที่เธอแทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลย
เก็บสัมภาระให้พัดพารัชชาเรียบร้อย เอสก็พาหญิงสาวเดินรอบบ้านเพื่อให้เธอรู้ว่าที่นี่มีกี่ห้อง แล้วแต่ละห้องมีไว้ทำอะไรบ้าง ชั้นบนของบ้านหลังนี้มีสองห้องนอนใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกัน และมีห้องออกกำลังกายที่อยู่ติดกับบันได ส่วนชั้นล่างด้านขวาก็จะมีห้องเก็บของและอีกหนึ่งห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ตัวบ้านด้านซ้ายท้ายสุดเป็นห้องครัว และด้านหน้าก็เป็นห้องรับแขก ในทุกๆ วันจะมีคนมาส่งอาหารสด ส่วนคนที่มาทำความสะอาดที่นี่จะมาอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง
พัดพารัชชาได้เดินจนทั่วบ้านก็เริ่มมีสีหน้าห่อเหี่ยวลง ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยอยู่บ้านหลังใหญ่ ทว่าก็ไม่เคยจะต้องอยู่โดดเดี่ยวในบ้านเช่นนี้ หากเธอจะต้องอยู่ในอพาร์ทเม้นท์หรือห้องเช่าเล็กๆ ที่มีคนอื่นอยู่ด้วยในตึกเดียวกัน เธอจะไม่รู้สึกวังเวงว้าเหว่เช่นนี้เลย เห็นทีโทรทัศน์จอแบนขนาดห้าสิบนิ้วในห้องนั่งเล่น ท่าจะเป็นเพื่อนที่ดีให้เธอได้อย่างเดียว
เดินดูรอบบ้านเรียบร้อยก็มีช่างตัดชุดสาวสวยผมบลอนด์สองคนเข้ามาจัดแจงช่วยกันวัดตัวให้กับเธอ เลยทำให้พัดพารัชชารู้ว่าเรื่องการแต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องเป็นไปตามที่บริษัทต้องการทุกอย่าง
ใช้เวลาไม่นานนักการวัดตัวของพัดพารัชชาก็เรียบร้อย หลังจากช่างตัดเสื้อผ้าทั้งสองออกไปได้ หญิงสาวก็ไม่คิดเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ
“ที่นี่เขาตัดชุดให้พนักงานทุกคนเลยเหรอคะ” อยากจะรู้ว่าค่าใช้จ่ายที่บริษัทต้องเสียให้พนักงานต่อเดือนเป็นเงินเท่าไร แล้วจะคุ้มค่ากันไหมที่ให้สวัสดิการกับพนักงานมากมายขนาดนี้
“เฉพาะเลขาครับ เพราะเลขาต้องดูดีที่สุดเวลาไปทำงานกับเจ้านาย”
“ที่นี่เขาให้ความสำคัญกับเลขาทุกบริษัทไหมคะ”
“ครับ ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนนั่นแหละครับ เพราะถ้าพนักงานทุกคนถูกองค์กรดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี พนักงานก็จะรักองค์กรและทุ่มเทการทำงานให้เป็นอย่างดีครับ”
“ค่ะ ฉันเองก็จะทุ่มเททำงานให้เต็มที่เหมือนกันค่ะ” สวัสดิการดีขนาดนี้เธอไม่ทุ่มเทก็คงจะไม่ได้ นับว่าเธอเองก็โชคดีกว่าใครๆ หลายคนที่เรียนจบแล้วได้งานที่ดีๆ ทำเลย ไม่ต้องไปดั้นด้นหาให้เหนื่อย คงเป็นฟ้าที่เห็นว่าเธอลำบากมามากพอแล้วเลยอยากให้ชีวิตของเธอมีแสงสว่างและได้อิสระอย่างที่อยากได้
ร่วมสามเดือนแล้วที่พัดพารัชชาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เยอรมัน ตั้งแต่วันที่เธอมาถึงบ้านพักหลังโตหลังนี้ เธอยังไม่เคยได้พบปะหน้าของประธานบริษัทแม้แต่ครั้งเดียว
ทุกๆ เย็นเธอจะได้รับอีเมลจากแฮร์ริคว่าวันพรุ่งนี้เธอจะต้องไปทำอะไรที่ไหนเท่านั้น ซึ่งงานหลักๆ ของเธอก็มีเพียงแค่เดินทางไปพร้อมกับเอสเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของซุปเปอร์มาเก็ตวันละหนึ่งสาขา พร้อมกับส่งรายงานความเรียบร้อยให้แฮร์ริคผ่านอีเมลเท่านั้น
เท่ากับว่าเธอทำงานอยู่กับเอสสองคน อีกทั้งวันหยุดชายหนุ่มก็เข้ามาดูแลความเรียบร้อยของบ้านและความเป็นอยู่ของเธอ จนเธอและเอสเสมือนเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว แม้จะอายุห่างกันแต่เธอก็รู้สึกพูดคุยถูกคอและถูกชะตากับเขามากพอสมควร ด้วยเพราะเขาไม่เคยทำให้เธออึดอัดที่ต้องอยู่ใกล้ผู้ชายอย่างเขาแม้แต่นิดเดียว
และเป็นเขาอีกนั่นแหละที่สอนให้เธอได้รู้จักการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ให้เป็นยิ่งขึ้น เอสสอนทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ รวมไปถึงการระวังภัยในรูปแบบต่างๆ ทำให้การเป็นอยู่ที่นี่ของพัดพารัชชาไม่ได้ลำบากและน่ากังวลอย่างที่เธอกลัวในตอนก่อนจะมาที่นี่
ในยามที่แสงสว่างของพระอาทิตย์หมดลง เป็นประจำทุกวันที่พัดพารัชชาต้องรีบส่งอีเมลรายงานความเรียบร้อยของซุปเปอร์มาเก็ตที่เธอแฝงตัวเป็นลูกค้าไปใช้บริการ หลังจากนั้นสาวเจ้าก็เดินไปปิดม่านของห้องนอนและเตรียมตัวไปอาบน้ำ
สาวเจ้าใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วหญิงสาวในชุดนอนแขนยาวขายาวสีเทาก็เข้ามานั่งที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คของเธอต่อ เพราะรู้ว่าแฮร์ริคจะตอบกลับอีเมลของเธอและสั่งงานที่ต้องจัดการในวันพรุ่งนี้
“ไปญี่ปุ่นเหรอ” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ริมฝีปากบางอ้าค้างหลังจากอ่านคำสั่งเจ้านาย แล้วเธอจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างล่ะเนี่ย
ตื๊ด ตื๊ด... พัดพารัชชารีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมารับสายเอส “พลอยกำลังจะโทรหาคุณเอสพอดีเลยค่ะ เมื่อกี้พลอยเพิ่งได้รับอีเมลจากคุณแฮร์ริคว่าให้ไปดูสาขาที่ญี่ปุ่นพรุ่งนี้ แล้วพลอยต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ ที่อยู่เราต้องจองเองไหม”
(คุณพลอยใจเย็นๆ ครับ คุณแฮร์ริคสั่งให้ผมจัดการให้แล้ว ตั๋วเครื่องบินก็มีแล้ว คุณพลอยไม่ต้องกังวลอะไรนะครับ เพราะคุณแฮร์ริคให้ผมไปกับคุณ คุณพลอยแค่เตรียมของใช้ส่วนตัวจำเป็นกับอุปกรณ์ทำงานไปก็พอครับ)
“มีคุณเอสไปด้วยพลอยค่อยโล่งอกค่ะ”
(ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับที่ต้องเดินทางกะทันหันแบบนี้)
“พลอยแค่เห็นว่าต้องเดินทางก็ทันหันก็เลยกังวลเรื่องที่พักค่ะ ส่วนเรื่องงานพลอยไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ คิดว่าที่นั่นน่าจะมีปัญหา คุณแฮร์ริคถึงให้ไปดูกะทันหัน”
(คุณพลอยสู้มากเลยนะครับ)
“เรื่องงานพลอยสู้ตายค่ะ ยิ่งมีคุณเอสไปด้วยพลอยก็ยิ่งอุ่นใจมากขึ้น”
(งั้นพักผ่อนเถอะนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปรับแต่เช้า)
“ค่ะ” วางสายจากเอสได้พัดพารัชชาก็ยกยิ้มมุมปาก เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมามากเมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้เอสจะเดินทางไปกับเธอด้วย จะว่าไปเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขาสำคัญกับเธอมากกว่าที่คิดก็ตอนนี้ คราแรกเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลือเรื่องงานเธอได้หลายอย่าง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาสามารถทำให้เธออุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ตัวด้วย หากไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เขาไปกับเธอ คืนนี้คงข่มตานอนไม่หลับแน่
หญิงสาวตัวเล็กในชุดเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสีครีมสวมทับด้วยเสื้อกันหนาวสีชมพูเดินลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กตามชายหนุ่มผมบลอนด์เทาในชุดสูทคลุมตัวยาวสีดำออกไปยังหน้าสนามบินผู้โดยสารขาเข้า ผู้คนในสนามบินวันนี้ค่อนข้างคึกคักเพราะเป็นฤดูท่องเที่ยวของที่ญี่ปุ่น สาวเจ้ามองซ้ายมองขวาด้วยความตื่นเต้น เพราะตอนนี้ชาวต่างชาติดูท่าจะเยอะกว่าคนพื้นเมืองที่นี่ อย่างว่าฤดูใบไม้ผลิใครๆ ก็อยากจะมาเที่ยวญี่ปุ่น เธอเองยังฝันว่าอยากจะมา ทว่าก็ไม่ได้คิดได้ฝันว่าจะได้มาเร็วขนาดนี้
“เดินทางไปที่พักก่อนเลยไหมครับ หรือจะหาอะไรกินก่อน” เอสหันมาคุยกับคนที่เดินตามหลังมาติดๆ
“พลอยกินอาหารบนเครื่องจนอิ่มแล้วล่ะคะ คุณเอสล่ะคะหิวไหม ถ้าคุณเอสหิว เราไปร้านอาหารแถวนี้ก่อนก็ได้ค่ะ”
“ผมว่าตรงไปโรงแรมเลยดีกว่าครับ ผมอยากไปที่นั่นก่อนมืด อยากให้คุณพลอยเห็นวิวสวยๆ ที่นั่นเร็วๆ ครับ”
“ก็ได้ค่ะ”
“แต่ว่า บ้านนี้เป็นบ้านคุณแฮร์ริคนะคะ พลอยว่ามันไม่น่าจะเหมาะถ้าคุณจะนอนค้างที่นี่”“คุณแฮร์ริครู้เรื่องของเราทุกอย่างครับ แล้วเขาก็อนุญาตให้ผมอยู่กับพลอยตั้งนานแล้ว ที่ผมไม่ได้เข้ามาอยู่เพราะผมกลัวว่าพลอยจะหาว่าผมคิดแต่จะมาฉวยโอกาสกับตัวพลอย”“คิดอะไรแบบนั้นล่ะคะ พลอยจะอุ่นใจมากๆ ต่างหากถ้าคุณอยู่ใกล้พลอย”เอสก้มลงพรมจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบา แสดงออกให้คนรักของเขาได้เห็นว่าเขารักและทะนุถนอมเธอเพียงใด สีหน้าและแววตาของเขาตอนนี้แม้จะมีความกังวลอยู่มาก ทว่าก็ไม่ได้คิดจะพูดระบายอะไรออกมา ตอนนี้เขาขอแค่เก็บบรรยากาศของความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกันกับพัดพารัชชาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นใต้แสงสลัวของโคมไฟในห้องนอนใหญ่ สองหนุ่มสาวกำลังอิงแอบแนบชิดกันบนเตียงนุ่มเพื่อเก็บความรู้สึกดีๆ ให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะต้องแยกจาก และไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรที่พวกเขาทั้งสองจะได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันเช่นนี้“ถ้าผมเป็นพ่อมดก็คงดีนะครับ” เอสเอ่ยกับคนตัวเล็กที่กำลังนอนหนุนแขนของเขา“ทำไมเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเบิกมองคนรักอย่างฉงนในคำพูดของเขา“ผมก็จะใช้เวทมนต์เสกให้ผมไปอยู่กับพลอยทุกวัน หรือไม่ก็เสกให้พลอยมาอ
วันเวลาพ้นผ่านไปอีกร่วมหนึ่งเดือนกว่า หลังจากพัดพารัชชาตกลงคบหากับเอส ทั้งสองก็สวีทหวานกันจนน้ำตาลยังอาย เมื่อก่อนตัวติดกันมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งติดกันมากกว่านั้นหลายเท่าเอสเข้ามาหาพัดพารัชชาตั้งแต่เช้าตรู่ของทุกวัน ทั้งสองจะต้องรับประทานอาหารด้วยกันทุกมื้อ และหลังจากกลับมาจากทำงานเอสก็ยังอยู่กับพัดพารัชชาจนดึกทุกวัน ชีวิตปัจจุบันตอนนี้ของพัดพารัชชาจึงมีแต่รอยยิ้ม เพราะความรักและความสุขมันอัดแน่นจนไม่สามารถสาธยายมันออกมาเป็นคำพูดได้“ของโปรดมาแล้วค่า...” เป็นอีกวันที่พัดพารัชชาผัดแตงกวาใส่กุ้งเป็นมื้อเย็นให้กับเอส ก่อนหน้าไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะชอบเมนูโปรดของเธอ จนได้ลองทำให้เขาได้รับประทานหลังจากตกลงคบกัน และแล้วเมนูนี้ก็เป็นอาหารหลักของมื้อเย็นเลยก็ว่าได้“แฟนผมทำอาหารอร่อยที่สุดเลยครับ” เอสเอ่ยชมแฟนสาวที่กำลังหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“เคยกินแค่ผัดแตงกวาที่พลอยทำอย่างเดียว รู้ได้ไงคะว่าพลอยทำอาหารอร่อยที่สุด”“ถึงพลอยทำผัดแตงกวาอร่อยอย่างเดียว ผมก็ยังจะชมว่าแฟนผมทำอาหารอร่อยที่สุดอยู่ดีครับ ผมอยากชม แล้วก็อยากกินอาหารฝีมือแฟนผมทุกวันเลย”พัดพารัชชาหน้าเห่อแดงขึ้นมาดื้อๆ
วินาทีที่สาวเจ้ารู้ว่าของสงวนกำลังถูกล่วงล้ำ หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเพียงวินาทีแรกที่เอสพาความใหญ่โตเข้ามาในตัวของเธอ ความเจ็บปวดก็เริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในกายทันที “อ๊าย...”เอสรีบเรียกร้องความสนใจให้คนตัวเล็กบรรเทาความเจ็บโดยการบดจูบไปที่ริมฝีปากบางอีกรอบ ในขณะเดียวกันเขาก็ยังกดแช่ตัวตนที่เข้าไปในตัวของหญิงสาวยังไม่ถึงครึ่งเอาไว้แน่นิ่ง“อื้อ...ฮือ ฮือ ฮือ...” เสียงร้องของความเจ็บปวดถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของชายหนุ่ม เขาพยายามร่ายลีลาจูบที่นุ่มนวลที่สุดเพื่อเรียกอารมณ์วาบหวามของพัดพารัชชาขึ้นมาอีกรอบ มือหนาทั้งสองยกลูบศีรษะของเธอเบามือ ทั้งยังคอยส่งสายตาที่อ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมความเจ็บของเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขารู้ว่าการที่เธอร่วมเตียงกับเขาครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายเอสร่ายลีลาเล้าโลมหญิงสาวได้ไม่นานนักคนตัวเล็กก็เริ่มเคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ของเขาได้สำเร็จอย่างที่เขาได้ตั้งใจ เจ้าโลกตัวโตก็เลยได้คลืบคลานเข้าไปในร่างกายของคนตัวเล็กจนสุดลำ แม้มันจะสร้างความเจ็บปวดให้พัดพารัชชามากมาย ทว่าเอสก็สามารถทำให้เธอบรรเทาความเจ็บได้ด้วยบทรักนุ่มนว
และแล้วไข่มุกสีชมพูเม็ดงามก็ได้ตกมาอยู่ในมือของพัดพารัชชาจนได้ หญิงสาวที่มีกล่องไข่มุกอยู่ในมือแทบจะไม่อยากวางของสำคัญแม้แต่วินาทีเดียว เพราะราคาที่เจ้านายของเธอจ่ายไป หากเธอทำหายเชื่อได้เลยว่าชาตินี้เธอก็ไม่มีปัญหาเงินมาคืนเขา“น้ำไหมครับคุณพลอย” เอสผายมือไปยังแก้วเครื่องดื่มหลากหลายที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะอาหาร“ค่ะ กำลังหิวพอดีเลย” สาวเจ้าหยิบแก้วที่มีน้ำสีชมพูสวยขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ แล้วเธอก็ต้องหน้าเหยเกเพราะมันไม่ได้หวานชื่นใจอย่างที่เธอคิด“มีแอลกอฮอล์นี่คะ”เอสเห็นหญิงสาวเอ่ยเช่นนั่นเลยหยิบแก้วเครื่องดื่มสีเดียวกับเธอขึ้นมาดื่มบ้าง“อ๋อ ใช่ครับ คุณพลอยไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เหรอครับ”“ดื่มได้ค่ะ แต่ไม่พลอยไม่ค่อยได้ดื่มเท่าไรก็เลยไม่คุ้นคอนิดหน่อย”“งั้นเรากลับกันดีกว่าครับ”“ค่ะ”นั่งรถมาได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีพัดพารัชชาก็เริ่มร้อนวูบวาบภายในร่างกายขึ้นมาดื้อๆ อีกทั้งหัวใจยังเต้นแรง ตาพร่ามัว เธอยกมือคลึงศีรษะเบาๆ ก่อนจะปรับจุดโฟกัสของสายตาใหม่ ทว่าก็ยังรู้สึกว่าร่างกายและการมองเห็นของตัวเองไม่ปกติ แล้วจู่ๆ เอสก็ขับรถเข้าไปจอดข้างทางกะทันหันพัดพารัชชารีบหันไปมองชายหนุ่ม ตอนนี้เธอเห็น
“พลอยเป็นลูกของภรรยาน้อยคุณพ่อน่ะค่ะ ภรรยาแรกกับพี่สาวต่างแม่ของพลอยเลยไม่ยินดีที่จะมีพลอยอยู่ในบ้าน พลอยต้องทนอยู่ที่นั่นเพื่อเรียนให้จบ คิดว่าหางานทำได้ก็จะได้มีชีวิตอิสระ แล้วพลอยก็ดีใจมากๆ ที่ได้งานดีๆ ทำ ชีวิตของพลอยตอนนี้เหมือนฟ้าหลังฝนเลยค่ะ คุณเอสรู้จักคำว่าฟ้าหลังฝนไหมคะ”“ก็พอเข้าใจนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้คุณพลอยนะครับ ที่ไทยคุณพลอยมีเพื่อนเป็นเซฟโซน พออยู่ที่นี่ ตรงนี้ ผมขอเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณนะครับ” เอสเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นคำพูดของเขาทำพัดพารัชชาหน้าแดงเป็นลูกตำลึง รู้ตัวเลยว่าตัวเองเก็บอาการไม่อยู่ “ขอบคุณนะคะ”ในวินาทีนี้ทั้งสองสายตาสอดประสานกันไม่มีใครลดสายตาลงง่ายๆ เหมือนว่าคนทั้งคู่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความสุขที่ไม่มีอะไรมาขัดขวาง ใบหน้าของทั้งสองเริ่มใกล้กันมากขึ้นจนพัดพารัชชาได้เห็นรายละเอียดบนใบหน้าของคนที่เธอชอบได้ชัดเจนขึ้น หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วก็เริ่มแรงขึ้นจนสาวเจ้าหูอื้อไม่ได้ยินเสียงรบกวนภายนอก เธอไม่สามารถหายใจเป็นจังหวะ และใบหน้าก็แดงขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตื๊ด ตื๊ด... และแล้วเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์มือถือพัดพารัชชาก็มาทำลายห้วงภวังค์ของ
“คุณพลอย” เอสรีบพยุงตัวพัดพารัชชาเอาไว้ในอ้อมอกได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเธอคงได้เจ็บตัวเยอะกว่านี้แน่นอน“เจ็บไหมครับ” เขาก้มมองไปยังเท้าของเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล“พลอยโอเคค่ะ โอ้ย...” พัดพารัชชาพยายามจะยืนเองให้ได้ ทว่าความเจ็บที่ข้อเท้าก็มีมากเสียจนยืนไม่อยู่ ตัวของเธอเลยกลับไปอยู่ในอ้อมอกอุ่นๆ ของเอสอีกครั้ง“เรากลับห้องกันก่อนดีกว่าครับ” ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบช้อนตัวหญิงสาวขึ้นเขาอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าสาว เพราะรู้ว่าปล่อยให้เธอเดินกลับเองคงไม่ได้แน่“ขอโทษที่ต้องอุ้มนะครับ แต่ผมคิดว่ามันไวที่สุดในการพาคุณกลับ”“ฉันต้องขอบคุณคุณเอสมากกว่าค่ะ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงอ่อนพร้อมทั้งซุกใบหน้าอยู่กับอกของเอสตลอดเวลา เสียงหัวใจของเขาทำให้คนที่เขินกับการกระทำของเขาอยู่ก่อนหน้าเริ่มใบหน้าร้อนผ่าวเห่อแดงมากขึ้น จนรู้ตัวเองเลยว่าหากเธอได้เงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มตอนนี้ อีกฝ่ายได้จับได้แน่ว่าเธอกำลังเขินเอสพาพัดพารัชชากลับมาถึงห้องเรียบร้อย เขาก็รีบหายานวดคลายกล้ามเนื้อมานวดข้อเท้าให้หญิงสาวในทันทีดวงตาคู่สวยมองคนที่กำลังนวดข้อเท้าให้เธอไม่วางตา ตอนนี้พัดพารัชชาละสายตาจากผู้ชายที่แสนดีตรงหน้าไม่ได้จริง
เมื่อวันที่พัดพารัชชาต้องทำหน้าที่ตรวจดูซุปเปอร์มาเก็ตในเครือของบริษัทสาขาที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น สาวเจ้าทำหน้าที่แฝงตัวเป็นลูกค้าพร้อมๆ กับเอส เธอตรวจดูราคาสินค้า ตรวจดูความเป็นระเบียบ หรือแม้กระทั่งทำตัววุ่นวายอยู่กับพนักงานขอให้ช่วยเหลือหลายอย่างอยู่ร่วมชั่วโมงกว่าแต่เธอก็ไม่เห็นความผิดปกติ จนเริ่มสงสัยว่าสาขานี้จะไม่มีปัญหาอย่างที่แฮร์ริคเป็นห่วง“คุณเอสคะ ที่นี่ก็เรียบร้อยดีนี่คะ พลอยว่าเราลองเปิดเผยตัวว่าเป็นคนของบริษัทแล้วขอเข้าไปดูหลังร้านไหมคะ”“อย่าดีกว่าครับ คุณแฮร์ริคไม่ชอบให้ใครทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง เราทำหน้าที่ของเราได้ดีที่สุดแล้วนะครับ เราอยู่ที่นี่กันนานจนดูผิดปกติแล้วด้วย เรารีบเอาของในรถเข็นไปจ่ายเงินดีกว่าครับ”“ก็ได้ค่ะ”พัดพารัชชาเดินทางกลับมาที่โรงแรมเรียบร้อยก็รีบเตรียมพิมพ์รายงานส่งไปยังอีเมลของแฮร์ริค ทั้งยังตั้งคำถามต่อท้ายไปว่าพรุ่งนี้จะให้เธอไปดูงานที่สาขาไหนอีกหรือไม่ มือเรียวเริ่มกดพิมพ์ลงท้ายข้อความด้วยความสงสัยว่าทำไมท่านประธานของบริษัทถึงคิดว่าซุปเปอร์มาเก็ตสาขาที่ให้เธอไปดูวันนี้มีปัญหา ทั้งที่ทุกอย่างดูเรียบร้อย ถึงเรียบร้อยมากเสียด้วย ทว่าคำที่เอสเอ
เอสเช่ารถจากสนามบินเรียบร้อยก็พาพัดพารัชชาออกจากสนามบิน ในระหว่างทางทั้งสองไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก เพราะเอสต้องรีบขับรถเพื่อไปให้ถึงที่หมายโดยเร็ว ส่วนพัดพารัชชาก็ตื่นตาไปกับต้นซากุระที่ออกดอกผลิบานไปทั่วสองข้างถนนเป็นระยะ เธอไม่พลาดที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือเก็บภาพประทับใจเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเธอถึงจะได้มาเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง“เก็บเมมโมรี่เอาไว้ถ่ายตอนถึงที่พักเราด้วยนะครับ ผมว่าพอถึงที่นั่นคุณพลอยต้องประทับใจกับความสวยงามมากกว่าตามสองข้างทางที่นี่แน่”“จริงเหรอคะ แล้วที่ที่เราจะไปพักมีอะไรเหรอคะ”“เดี๋ยวคุณพลอยก็เห็นเองครับ”“โอเคค่ะ ถ้าคุณเอสเซอร์ไพรซ์ ต้องเป็นที่สวยมากแน่ๆ”“แน่นอนครับ ผมอยากให้คุณพลอยประทับใจที่สุด”“เชื่อไหมคะว่าพลอยอยากจะมาที่ญี่ปุ่นมากๆ คิดว่าเก็บเงินเที่ยวต่างประเทศได้ที่แรกที่จะไปก็คือญี่ปุ่น งานที่พลอยได้ทำเป็นงานที่ได้เงินเดือนตามที่ฝันแล้ว ยังได้เที่ยวในที่ที่เคยฝันอยากไปด้วย”“คุณพลอยไม่เคยได้เที่ยวต่างประเทศเลยเหรอครับ”“ไม่หรอกค่ะ พลอยไม่ได้มีเงินเที่ยวขนาดนั้น”“อย่างงั้นผมจะคอยเป่าหูคุณแฮร์ริคให้ส่งคุณพลอยไปต่างประเทศบ่อยๆ นะครับ”“พลอยไป
หลังจากจบมื้ออาหารเอสก็เป็นคนพาพัดพารัชชาเอาของไปเก็บในห้องนอนของเธอที่อยู่บนชั้นสองของบ้าน ห้องนอนของหญิงสาวเป็นห้องนอนใหญ่ด้านข้างและหลังห้องเป็นกำแพงกระจกที่เปิดม่านออกก็จะเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของสวนหย่อมและต้นไม้ใหญ่ ในห้องก็มีของอำนวยความสะดวกครบครัน ที่เธอแทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลยเก็บสัมภาระให้พัดพารัชชาเรียบร้อย เอสก็พาหญิงสาวเดินรอบบ้านเพื่อให้เธอรู้ว่าที่นี่มีกี่ห้อง แล้วแต่ละห้องมีไว้ทำอะไรบ้าง ชั้นบนของบ้านหลังนี้มีสองห้องนอนใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกัน และมีห้องออกกำลังกายที่อยู่ติดกับบันได ส่วนชั้นล่างด้านขวาก็จะมีห้องเก็บของและอีกหนึ่งห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ตัวบ้านด้านซ้ายท้ายสุดเป็นห้องครัว และด้านหน้าก็เป็นห้องรับแขก ในทุกๆ วันจะมีคนมาส่งอาหารสด ส่วนคนที่มาทำความสะอาดที่นี่จะมาอาทิตย์ละหนึ่งครั้งพัดพารัชชาได้เดินจนทั่วบ้านก็เริ่มมีสีหน้าห่อเหี่ยวลง ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยอยู่บ้านหลังใหญ่ ทว่าก็ไม่เคยจะต้องอยู่โดดเดี่ยวในบ้านเช่นนี้ หากเธอจะต้องอยู่ในอพาร์ทเม้นท์หรือห้องเช่าเล็กๆ ที่มีคนอื่นอยู่ด้วยในตึกเดียวกัน เธอจะไม่รู้สึกวังเวงว้าเหว่เช่นนี้เลย เห็นทีโทรทัศน์จ