เธอต้องการแค่อิสระในชีวิตที่ไม่เคยได้ ทว่าเขาก็ทำให้อิสระในชีวิตที่เธอกำลังจะได้มาหายไป เธอไม่เกี่ยวกับความแค้นของเขาเลยสักนิด ทำไมเขาต้องลากเธอเข้าไปในขุมนรกด้วย
View Moreยามแดดร่มลมตกในหมู่บ้านเล็กๆ ย่านชนบทของจังหวัดเชียงใหม่ หญิงสาวตัวเล็กในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นโชว์เรียวขาเนียนกำลังยืนรดน้ำแปลงดอกกุหลาบที่เธอปลูกเอาไว้หลังบ้าน ในขณะที่สายตาคอยลอบมองลูกสาวตัวกลมวัยหนึ่งขวบกว่าที่กำลังนั่งใช้พลั่วพลาสติกสีชมพูสดตักดินเล่นอยู่ไม่ไกล
เป็นประจำทุกเย็นที่หลังจากทำกับข้าวเสร็จ แม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างพัดพารัชชาก็จะพาหนูน้อยเอริญญามานั่งเล่นดินที่หลังบ้านในขณะที่เธอรดน้ำต้นไม้ เพราะเชื่อว่าการให้ลูกได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างไม่ห่วงว่าจะเลอะเทอะหรือกลัวเชื้อโรคจะเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้นกันให้ลูกของเธอ
“แม่ แม่ะ...” เจ้าก้อนกลมผมสีบลอนด์หนานัยน์ตาสีฟ้าเดินตัวป้อมมาหาคนเป็นแม่ก่อนจะยื่นมือป้อมเหมือนแง่งขิงเกาะขาคนเป็นแม่หนึบ จากนั้นก็เงยหน้ายิ้มหวานเผยให้เห็นฟันสี่ซี่
วินาทีนั้นพัดพารัชชารู้ได้ในทันทีว่าลูกเธอท่าจะเล่นจนเหนื่อยแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เธอจะต้องป้อนกล้วยน้ำว้าสุกของโปรดให้ลูกสาวเธอแล้ว
“หิวแล้วล่ะสิ” พัดพารัชชาอุ้มลูกสาวขึ้นก่อนจะเดินไปปิดก๊อกน้ำ จากนั้นก็พาเจ้าตัวกลมมานั่งที่ม้านั่งใต้ชายหลังคาหลังบ้านที่มีกล้วยน้ำว้าเครือใหญ่ห้อยติดอยู่กับเสาบ้าน
“หม่ำ หม่ำ” มือป้อมชี้ไปยังผลกล้วยน้ำว้าสุกสีเหลืองอร่าม ทั้งเรียกร้องอยากจะรับประทานจนปากจู๋เป็นที่น่าเอ็นดูกับคนเป็นแม่ไม่น้อย
ทว่าพัดพารัชชาก็ยังไม่ได้ให้กล้วยกับคนใจร้อนเพราะอยากฝึกให้ลูกของเธอรอให้เป็นและมีมารยาทในการรับของจากผู้ใหญ่
“ทำยังไงก่อนคะ” พัดพารัชชาปอกกล้วยหนึ่งลูกเหลือเปลือกเล็กน้อยเอาไว้ให้จับถนัดมือก่อนจะยื่นตรงหน้าลูกสาวของเธอ
“ขอบ ค่า...” เด็กหญิงยกมือป้อมทั้งสองประกบกันและก้มหัวประหงกอย่างที่คนเป็นแม่เคยสอน จากนั้นก็ยื่นมือทั้งสองรับกล้วยน้ำว้าของโปรดด้วยสีหน้าระรื่น
“เก่งมากค่ะ ค่อยๆ กินนะคะ” ขณะที่นั่งมองเจ้าตัวกลมกัดกล้วยรับประทานดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าหมวยหุ่นเพรียวบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพูสวมกระโปรงทรงดินสอสีดำเดินผ่านประตูหลังบ้านตรงเข้ามาหาเธอพร้อมของพะลุงพะลังเต็มมือ
ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือดาวลดาเพื่อนที่สนิทสนมกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และที่เธอได้มาเช่าบ้านอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนท้องก็เพราะดาวลดาเป็นคนหาบ้านหลังนี้ให้
“ยัยหนู” สายตาของดาวลดาไม่ได้สนใจจะหันมองเพื่อนแม้แต่น้อย วางของได้ก็อุ้มเจ้าก้อนกลมขึ้นมาหอมซ้ายหอมขวาด้วยความคิดถึง
“อาว อาว” เด็กหญิงเห็นหน้าน้าสาวใจดีก็ยิ้มร่าพร้อมกับเรียกชื่อคนที่อุ้มเสียงดัง
“น้าดาวจ้ะ” พัดพารัชชาเอ่ยสอนให้ลูกสาวเธอเรียกเพื่อนเธอด้วยคำที่ถูกต้อง
“ย้า... อาว”
“เก่งจังเลยค่ะ” ดาวลดาชมหลานสาวที่ว่าง่าย ดูท่าแล้วเอริญญาท่าจะเก่งเหมือนแม่ ยิ่งรู้เช่นนี้เธอก็ยิ่งหลงหลานสาวคนนี้หนักขึ้นไปอีก
“เฮอะ เฮอะ” คนถูกชมหัวเราะปากบาน พร้อมกัดกล้วยน้ำว้าเข้าปากคำโต
“อุ้ย คงต้องสอนให้หัวเราะแบบกุลสตรีใหม่แล้วล่ะ” ดาวลดายิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะหันหน้าไปมองพัดพารัชชา
“แล้วที่ว่ามีธุระจะคุย มีเรื่องอะไรเหรอ”
“คือ...” ดาวลดาปล่อยเจ้าก้อนกลมก่อนที่สีหน้าเปื้อนยิ้มจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าของความกังวล “ฉันรู้มาว่ามีนายทุนจะมากว้านซื้อที่ตรงนี้ แล้วป้าใจก็ดูท่าว่าจะขายด้วยเพราะนายทุนให้ราคาดี”
พัดพารัชชาได้ยินเช่นนั้นก็หน้าเสียและเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับรู้เรื่องแบบนี้ “ฉันว่าป้าใจน่าจะขาย เห็นพูดอยู่ว่าถ้ามีเงินสักก้อนก็จะย้ายไปขายของที่กรุงเทพ ฉันคงต้องหาที่อยู่ใหม่แต่เนิ่นๆ แล้วสินะ” แม้จะรู้สึกใจหายกับเรื่องที่ยังไม่เกิด แต่ประสบการณ์ก็สอนให้พัดพารัชชาเดินหน้าต่อโดยเร็ว เพราะเธอต้องเป็นเสาหลักให้กับลูกสาว ห้ามอ่อนแอหรือย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ เด็ดขาด
“แกรอให้ป้าใจมาบอกแกก่อนแล้วกันว่าจะเอายังไง แล้วถ้าป้าใจขายที่จริง เดี๋ยวฉันจะช่วยหาที่เช่าใหม่ให้”
“อืม ขอบใจมาก” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มให้เพื่อนเธอได้เห็นว่าเธอไม่ได้มีปัญหากับการที่จะต้องย้ายที่อยู่ เพราะเธออยู่ที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีลูกอยู่ด้วยก็พอแล้ว
หญิงสาวในเดรสชุดนอนสีหวานนอนตะแคงตบก้นเจ้าก้อนกลมที่กำลังตาเยิ้มเพราะกำลังจะหลับ พัดพารัชชาคิดถึงเรื่องเมื่อเย็นที่ดาวลดาเข้ามาคุยด้วยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาทั้งที่บอกตัวเองอยู่เสมอว่าห้ามย่อท้อแม้จะมีอุปสรรคใดๆ ก็ตาม
“ถ้าแม่มีเงินเยอะกว่านี้อีกหน่อยก็ดีสินะ” พัดพารัชชาเอ่ยเสียงแผ่วเบา เธอก้มลงไปพรมจูบเรือนผมลูกน้อยก่อนจะห่มผ้าให้กับเจ้าตัวกลมที่หลับลงไปได้ ตอนนี้ร้านขนมหวานทางช่องทางออนไลน์ที่เธอเปิดขายก็มีรายได้มากพอสมควร ทว่ามันก็ไม่พอที่จะไปซื้อบ้านพร้อมที่ดินอยู่ได้จริงๆ นึกย้อนกลับไปว่าหากตอนนั้นเธอหน้าด้านสักนิด ทวงมรดกที่พ่อของเธอทิ้งเอาไว้ให้กับแม่เลี้ยงของเธอก็คงจะดี อย่างน้อยเงินก้อนนั้นก็ทำให้เธอและลูกมีที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องเช่าที่อยู่เช่นนี้
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เธอเรียนจบ ชีวิตในช่วงนั้นราวกับเคราะห์ซ้ำกำซัด เพราะความที่เธออยากจะมีอิสระหลุดพ้นจากบ้านที่ทุกคนตราหน้าว่าเธอเป็นลูกเมียน้อย ทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
หญิงสาวตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มรวบผมสีน้ำตาลขมวดเป็นโดนัทอยู่กลางศีรษะในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ขากระบอกสะพายกระเป๋าสีน้ำตาลเดินเข้าไปในร้านปิ้งย่างเกาหลีในชั้นสี่ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“พลอย ทางนี้” ดาวลาที่รออยู่ปากทางเข้าประตูหน้าร้านมองเห็นพัดพารัชชาก็รีบเสียงกวักไม้กวักมือ เมื่อเพื่อนเดินเข้ามาหาก็รีบพาเข้าไปที่ห้องของพวกเธอที่มีอทิตยา สาวเจ้าเนื้อเพื่อนสนิทกันอีกคนที่รออยู่ก่อนหน้าแล้ว
“นั่งสิ ฉันย่างหมูเผื่อแกเอาไว้แล้วนะ” อทิตยาที่วุ่นอยู่กับการพลิกหมูชิ้นโตไปมาบนเตาย่างพยักเพยิดไปยังจานหมูย่างฝั่งตรงข้าม
“ขอบใจนะ” พัดพารัชชาเดินเข้าไปด้านในสุดของโต๊ะ และหย่อนก้นนั่งลงที่ที่เพื่อนนั้นเตรียมเอาไว้ให้
“วันนี้ฉันเลี้ยงเอง ฉลองที่เราเรียนจบแล้วแกก็ได้เกียรตินิยมด้วยนะพลอย” อทิตยาเอ่ยขึ้น
“งั้น ไม่เกรงใจแล้วนะ” ไม่บ่อยนักที่พัดพารัชชาจะไม่ปฏิเสธที่เพื่อนจะเลี้ยงอาหาร ทว่าวันนี้เธอเหลือเงินติดตัวไม่มากแล้วจริงๆ เพราะเมื่อวานดันขัดใจแม่ใหญ่ของเธอก็เลยถูกหักค่าขนมไปสองอาทิตย์ แต่เธอก็ไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้ให้กับเพื่อนๆ ได้รู้
“เออ...ถ้าแกได้งานแล้วแกจะออกจากบ้านหลังนั้นเลยไหม” ดาวลดาโพล่งถามพัดพารัชชา เธอรู้มาตลอดว่าเพื่อนเธออยู่บ้านหลังโตและเกิดมาในครอบครัวที่อู้ฟู่มีอันจะกินก็จริง ทว่าพัดพารัชชาก็เกิดมาจากลูกคนใช้ในบ้าน ทำให้ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อยตั้งแต่เล็กยันโต และถูกกระทำโดยภรรยาคนแรกกับพี่สาวต่างแม่มาโดยตลอด แต่ที่ต้องอดทนอยู่ที่นั่นเพราะต้องการที่จะมีคนส่งเรียนให้จบ
“อืม ฉันก็อยากจะออกไปให้เร็วที่สุด”
“แล้วสองแม่ลูกนั่นจะยอมให้แกออกไปง่ายๆ เหรอ” อทิตยาไม่อยากจะคิดว่าสองแม่ลูกนั่นที่ใช้พัดพารัชชารองมือรองเท้าตลอดจะยอมให้เพื่อนของเธอออกไปจากบ้านง่ายๆ
“ไม่รู้สิ แต่ยังไงฉันก็จะไป”
“ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องไปรองมือรองเท้าคนที่ไม่เห็นหัวแกอีก” ดาวลดาพอจะยิ้มออกเมื่อเห็นว่าพัดพารัชชาเด็ดเดี่ยวเช่นนี้
พัดพารัชชาตั้งมั่นแล้วว่ายังไงเธอก็จะต้องออกไปจากบ้านหลังนั้นให้ได้ เธอเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เพิ่งเรียนจบ ทว่าก็หวังว่าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งในมหาวิทยาลัยชื่อดังจะทำให้เธอได้ที่ทำงานดีๆ เงินเดือนสูงๆ เพียงพอที่จะมีเงินไปเช่าห้องเล็กๆ อยู่และเก็บเงินจากการทำงานเพื่อสร้างตัว บ้านหลังใหญ่โตที่เธอเคยอยู่ตั้งแต่เกิดแม้จะมีทุกอย่างครบครัน แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าที่นั่นเป็นสวรรค์ เพราะมันไม่ต่างอะไรกับนรกบนดินแม้แต่นิดเดียว
ตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยรู้ว่าแม่นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร มีแค่เพียงพ่อที่ให้ความเอ็นดู ต่างแม่ใหญ่และพี่สาวต่างแม่ที่คอยพูดย้ำกับเธอเสมอว่าเธอเป็นแค่ลูกเมียน้อย ในครั้งที่พ่อของเธอไปต่างประเทศหลายๆ วัน ข้าวบางมื้อเธอถูกแม่ใหญ่นั้นห้ามให้รับประทาน ดีที่แม่บ้านพอจะเอ็นดูเธอบ้างเลยแอบเอาอาหารมาให้เธอ
ในวันที่เธอเรียนจบมัธยมปลาย พ่อของเธอก็มาเสีย เธอไม่มีโอกาสได้ไปงานศพของพ่อเพราะแม่ใหญ่ไม่ให้เธอไป เหตุด้วยไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นลูกอีกคนของพ่อ บ้านที่เธอไม่ได้อยากอยู่คราแรกก็เริ่มร้อนสำหรับเธอขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่คนเป็นพ่อเสีย เธอก็ถูกแม่ใหญ่และพี่สาวปฏิบัติไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้าน ยิ่งกว่านั้นเมื่อเธอทำอะไรไม่ได้อย่างใจก็เกิดการทุบตีเธอจนรอยช้ำมีติดตัวไปแทบทุกวันในมหาวิทยาลัย
ทำให้อทิตยาและดาวลดาคอยเค้นถามอยู่ตลอดว่าไปโดนอะไรมา ทว่าเธอก็ไม่เคยคิดจะบอก จนสุดท้ายดาวลดาจะลากเธอไปหาตำรวจ ทำให้เธอต้องจำใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านให้ฟังทุกอย่าง และถึงแม้เธอจะไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นเพียงใด แต่เธอก็ต้องอดทน เพราะยังไงแม่ใหญ่ก็ต้องส่งเสียให้เธอเรียนให้จบตามพินัยกรรมที่พ่อของเธอได้เขียนเอาไว้ให้กับทนาย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่ยกบริษัทอสังหาให้กับ พิมพิรายา ลูกสาวคนโตของเขา
“แต่ว่า บ้านนี้เป็นบ้านคุณแฮร์ริคนะคะ พลอยว่ามันไม่น่าจะเหมาะถ้าคุณจะนอนค้างที่นี่”“คุณแฮร์ริครู้เรื่องของเราทุกอย่างครับ แล้วเขาก็อนุญาตให้ผมอยู่กับพลอยตั้งนานแล้ว ที่ผมไม่ได้เข้ามาอยู่เพราะผมกลัวว่าพลอยจะหาว่าผมคิดแต่จะมาฉวยโอกาสกับตัวพลอย”“คิดอะไรแบบนั้นล่ะคะ พลอยจะอุ่นใจมากๆ ต่างหากถ้าคุณอยู่ใกล้พลอย”เอสก้มลงพรมจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบา แสดงออกให้คนรักของเขาได้เห็นว่าเขารักและทะนุถนอมเธอเพียงใด สีหน้าและแววตาของเขาตอนนี้แม้จะมีความกังวลอยู่มาก ทว่าก็ไม่ได้คิดจะพูดระบายอะไรออกมา ตอนนี้เขาขอแค่เก็บบรรยากาศของความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกันกับพัดพารัชชาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นใต้แสงสลัวของโคมไฟในห้องนอนใหญ่ สองหนุ่มสาวกำลังอิงแอบแนบชิดกันบนเตียงนุ่มเพื่อเก็บความรู้สึกดีๆ ให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะต้องแยกจาก และไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรที่พวกเขาทั้งสองจะได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันเช่นนี้“ถ้าผมเป็นพ่อมดก็คงดีนะครับ” เอสเอ่ยกับคนตัวเล็กที่กำลังนอนหนุนแขนของเขา“ทำไมเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเบิกมองคนรักอย่างฉงนในคำพูดของเขา“ผมก็จะใช้เวทมนต์เสกให้ผมไปอยู่กับพลอยทุกวัน หรือไม่ก็เสกให้พลอยมาอ
วันเวลาพ้นผ่านไปอีกร่วมหนึ่งเดือนกว่า หลังจากพัดพารัชชาตกลงคบหากับเอส ทั้งสองก็สวีทหวานกันจนน้ำตาลยังอาย เมื่อก่อนตัวติดกันมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งติดกันมากกว่านั้นหลายเท่าเอสเข้ามาหาพัดพารัชชาตั้งแต่เช้าตรู่ของทุกวัน ทั้งสองจะต้องรับประทานอาหารด้วยกันทุกมื้อ และหลังจากกลับมาจากทำงานเอสก็ยังอยู่กับพัดพารัชชาจนดึกทุกวัน ชีวิตปัจจุบันตอนนี้ของพัดพารัชชาจึงมีแต่รอยยิ้ม เพราะความรักและความสุขมันอัดแน่นจนไม่สามารถสาธยายมันออกมาเป็นคำพูดได้“ของโปรดมาแล้วค่า...” เป็นอีกวันที่พัดพารัชชาผัดแตงกวาใส่กุ้งเป็นมื้อเย็นให้กับเอส ก่อนหน้าไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะชอบเมนูโปรดของเธอ จนได้ลองทำให้เขาได้รับประทานหลังจากตกลงคบกัน และแล้วเมนูนี้ก็เป็นอาหารหลักของมื้อเย็นเลยก็ว่าได้“แฟนผมทำอาหารอร่อยที่สุดเลยครับ” เอสเอ่ยชมแฟนสาวที่กำลังหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“เคยกินแค่ผัดแตงกวาที่พลอยทำอย่างเดียว รู้ได้ไงคะว่าพลอยทำอาหารอร่อยที่สุด”“ถึงพลอยทำผัดแตงกวาอร่อยอย่างเดียว ผมก็ยังจะชมว่าแฟนผมทำอาหารอร่อยที่สุดอยู่ดีครับ ผมอยากชม แล้วก็อยากกินอาหารฝีมือแฟนผมทุกวันเลย”พัดพารัชชาหน้าเห่อแดงขึ้นมาดื้อๆ
วินาทีที่สาวเจ้ารู้ว่าของสงวนกำลังถูกล่วงล้ำ หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเพียงวินาทีแรกที่เอสพาความใหญ่โตเข้ามาในตัวของเธอ ความเจ็บปวดก็เริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในกายทันที “อ๊าย...”เอสรีบเรียกร้องความสนใจให้คนตัวเล็กบรรเทาความเจ็บโดยการบดจูบไปที่ริมฝีปากบางอีกรอบ ในขณะเดียวกันเขาก็ยังกดแช่ตัวตนที่เข้าไปในตัวของหญิงสาวยังไม่ถึงครึ่งเอาไว้แน่นิ่ง“อื้อ...ฮือ ฮือ ฮือ...” เสียงร้องของความเจ็บปวดถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของชายหนุ่ม เขาพยายามร่ายลีลาจูบที่นุ่มนวลที่สุดเพื่อเรียกอารมณ์วาบหวามของพัดพารัชชาขึ้นมาอีกรอบ มือหนาทั้งสองยกลูบศีรษะของเธอเบามือ ทั้งยังคอยส่งสายตาที่อ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมความเจ็บของเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขารู้ว่าการที่เธอร่วมเตียงกับเขาครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายเอสร่ายลีลาเล้าโลมหญิงสาวได้ไม่นานนักคนตัวเล็กก็เริ่มเคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ของเขาได้สำเร็จอย่างที่เขาได้ตั้งใจ เจ้าโลกตัวโตก็เลยได้คลืบคลานเข้าไปในร่างกายของคนตัวเล็กจนสุดลำ แม้มันจะสร้างความเจ็บปวดให้พัดพารัชชามากมาย ทว่าเอสก็สามารถทำให้เธอบรรเทาความเจ็บได้ด้วยบทรักนุ่มนว
และแล้วไข่มุกสีชมพูเม็ดงามก็ได้ตกมาอยู่ในมือของพัดพารัชชาจนได้ หญิงสาวที่มีกล่องไข่มุกอยู่ในมือแทบจะไม่อยากวางของสำคัญแม้แต่วินาทีเดียว เพราะราคาที่เจ้านายของเธอจ่ายไป หากเธอทำหายเชื่อได้เลยว่าชาตินี้เธอก็ไม่มีปัญหาเงินมาคืนเขา“น้ำไหมครับคุณพลอย” เอสผายมือไปยังแก้วเครื่องดื่มหลากหลายที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะอาหาร“ค่ะ กำลังหิวพอดีเลย” สาวเจ้าหยิบแก้วที่มีน้ำสีชมพูสวยขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ แล้วเธอก็ต้องหน้าเหยเกเพราะมันไม่ได้หวานชื่นใจอย่างที่เธอคิด“มีแอลกอฮอล์นี่คะ”เอสเห็นหญิงสาวเอ่ยเช่นนั่นเลยหยิบแก้วเครื่องดื่มสีเดียวกับเธอขึ้นมาดื่มบ้าง“อ๋อ ใช่ครับ คุณพลอยไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เหรอครับ”“ดื่มได้ค่ะ แต่ไม่พลอยไม่ค่อยได้ดื่มเท่าไรก็เลยไม่คุ้นคอนิดหน่อย”“งั้นเรากลับกันดีกว่าครับ”“ค่ะ”นั่งรถมาได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีพัดพารัชชาก็เริ่มร้อนวูบวาบภายในร่างกายขึ้นมาดื้อๆ อีกทั้งหัวใจยังเต้นแรง ตาพร่ามัว เธอยกมือคลึงศีรษะเบาๆ ก่อนจะปรับจุดโฟกัสของสายตาใหม่ ทว่าก็ยังรู้สึกว่าร่างกายและการมองเห็นของตัวเองไม่ปกติ แล้วจู่ๆ เอสก็ขับรถเข้าไปจอดข้างทางกะทันหันพัดพารัชชารีบหันไปมองชายหนุ่ม ตอนนี้เธอเห็น
“พลอยเป็นลูกของภรรยาน้อยคุณพ่อน่ะค่ะ ภรรยาแรกกับพี่สาวต่างแม่ของพลอยเลยไม่ยินดีที่จะมีพลอยอยู่ในบ้าน พลอยต้องทนอยู่ที่นั่นเพื่อเรียนให้จบ คิดว่าหางานทำได้ก็จะได้มีชีวิตอิสระ แล้วพลอยก็ดีใจมากๆ ที่ได้งานดีๆ ทำ ชีวิตของพลอยตอนนี้เหมือนฟ้าหลังฝนเลยค่ะ คุณเอสรู้จักคำว่าฟ้าหลังฝนไหมคะ”“ก็พอเข้าใจนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้คุณพลอยนะครับ ที่ไทยคุณพลอยมีเพื่อนเป็นเซฟโซน พออยู่ที่นี่ ตรงนี้ ผมขอเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณนะครับ” เอสเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นคำพูดของเขาทำพัดพารัชชาหน้าแดงเป็นลูกตำลึง รู้ตัวเลยว่าตัวเองเก็บอาการไม่อยู่ “ขอบคุณนะคะ”ในวินาทีนี้ทั้งสองสายตาสอดประสานกันไม่มีใครลดสายตาลงง่ายๆ เหมือนว่าคนทั้งคู่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความสุขที่ไม่มีอะไรมาขัดขวาง ใบหน้าของทั้งสองเริ่มใกล้กันมากขึ้นจนพัดพารัชชาได้เห็นรายละเอียดบนใบหน้าของคนที่เธอชอบได้ชัดเจนขึ้น หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วก็เริ่มแรงขึ้นจนสาวเจ้าหูอื้อไม่ได้ยินเสียงรบกวนภายนอก เธอไม่สามารถหายใจเป็นจังหวะ และใบหน้าก็แดงขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตื๊ด ตื๊ด... และแล้วเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์มือถือพัดพารัชชาก็มาทำลายห้วงภวังค์ของ
“คุณพลอย” เอสรีบพยุงตัวพัดพารัชชาเอาไว้ในอ้อมอกได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเธอคงได้เจ็บตัวเยอะกว่านี้แน่นอน“เจ็บไหมครับ” เขาก้มมองไปยังเท้าของเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล“พลอยโอเคค่ะ โอ้ย...” พัดพารัชชาพยายามจะยืนเองให้ได้ ทว่าความเจ็บที่ข้อเท้าก็มีมากเสียจนยืนไม่อยู่ ตัวของเธอเลยกลับไปอยู่ในอ้อมอกอุ่นๆ ของเอสอีกครั้ง“เรากลับห้องกันก่อนดีกว่าครับ” ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบช้อนตัวหญิงสาวขึ้นเขาอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าสาว เพราะรู้ว่าปล่อยให้เธอเดินกลับเองคงไม่ได้แน่“ขอโทษที่ต้องอุ้มนะครับ แต่ผมคิดว่ามันไวที่สุดในการพาคุณกลับ”“ฉันต้องขอบคุณคุณเอสมากกว่าค่ะ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงอ่อนพร้อมทั้งซุกใบหน้าอยู่กับอกของเอสตลอดเวลา เสียงหัวใจของเขาทำให้คนที่เขินกับการกระทำของเขาอยู่ก่อนหน้าเริ่มใบหน้าร้อนผ่าวเห่อแดงมากขึ้น จนรู้ตัวเองเลยว่าหากเธอได้เงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มตอนนี้ อีกฝ่ายได้จับได้แน่ว่าเธอกำลังเขินเอสพาพัดพารัชชากลับมาถึงห้องเรียบร้อย เขาก็รีบหายานวดคลายกล้ามเนื้อมานวดข้อเท้าให้หญิงสาวในทันทีดวงตาคู่สวยมองคนที่กำลังนวดข้อเท้าให้เธอไม่วางตา ตอนนี้พัดพารัชชาละสายตาจากผู้ชายที่แสนดีตรงหน้าไม่ได้จริง
Comments