Share

กลรักเตชทัต
กลรักเตชทัต
Author: มัญนิตา

กลที่ 1

last update Last Updated: 2025-11-25 18:53:33

“หมายความว่าไง ลาพักร้อนอย่างนั้นเหรอ!” เสียงลูกชายคนโตของบ้านกฤตพัฒน์ดังลั่น เมื่อได้ฟังน้องสาวคนเดียวบอกว่าต้องการลาไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่เชียงราย

“พี่วินจะตะโกนเสียงดังทำไมคะ” ชญานินมองค้อนขวับใส่พี่ชายด้วยใบหน้าแสนงอน แค่เธอจะลาไปเที่ยวนี่มันเรื่องใหญ่ขนาดต้องตะโกนลั่นบ้านเลยหรือไง

เมวินขึงตาบอก “ไม่ให้ลา!”

“นินจะลา”

“ชญานิน”

“เอาน่า วินจะอะไรกับน้องนักหนา ปล่อยน้องไปบ้าง” คุณชลวิภาที่นั่งมองอยู่เอ่ยขัดด้วยสีหน้าอ่อนใจ ทำให้คุณอิทธิราชพยักหน้าว่าตามทันที

“นั่นน่ะสิ แกก็ปล่อยๆ น้องไปบ้างเถอะ”

เมวินทำตาโตมองพ่อ “แต่น้องจะไปเที่ยวถึงเชียงรายเลยนะครับ ไปคนเดียวด้วย จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง น้องเป็นผู้หญิงนะครับพ่อ!”

“พ่อก็ห่วงน่า”

“แม่ก็ห่วง แต่เราต้องให้น้องได้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง จะไปกำหนดชีวิตน้องไม่ได้นะลูก น้องมีชีวิตของน้อง วินเข้าใจที่แม่พูดหรือเปล่า” คุณชลวิภาไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงหวงน้องหนักแบบนี้ หวงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนตอนนี้ชญานินโตเป็นสาวแล้วก็ยังหวง น้องสาวเลยโสดสนิท ทั้งที่หน้าตาฐานะก็ออกจะเพรียบพร้อม

“...” พอไม่มีใครเข้าข้าง เมวินก็ได้แต่ทำหน้าบูด ไม่พูดไม่จา

ชญานินรีบเอ่ยอ้างเรื่องที่คุณพี่ส่งไปเรียน “พี่วินอย่าลืมสิ นินเรียนศิลปะป้องกันตัวแทบทุกอย่างมาแล้วนะ ไปเที่ยวแค่ไม่กี่วัน คงไม่มีปัญหาหรอกค่ะ”

“ยังไงพี่ก็ไม่สบายใจอยู่ดี อย่าไปเลยนะ พี่สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ ว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับนินอะ” เมวินพูดด้วยสีหน้ากังวล

“นินไปเที่ยวบ้านเพื่อน ทางนั้นต้องดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน พี่วินไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย ให้นินไปเถอะนะ นะ...พี่วินคนดี” หางเสียงออดอ้อนเต็มที่ ใบหน้าละห้อยอย่างน่าสงสาร

คุณอิทธิราชกับคุณชลวิภาเห็นลูกสาวใช้ไม้ตายออกมาแล้วก็ได้แต่นึกสงสารลูกชาย เจอไม้นี้เมื่อไร เมวินไม่เคยแข็งใจได้เลย

นาทีต่อมา เมวินก็อ่อนลงจริงๆ เขาถอนใจพูดกับชญานินหน้างอ

“พี่ก็แค่เป็นห่วงนิน”

“นินรู้ แต่พี่วินต้องเชื่อใจนินสิคะ ว่านินดูแลตัวเองได้”

“พี่คงห้ามไม่ได้แล้วใช่ไหม”

“อื้อ! ให้นินไปเถอะนะ น้าา...”

“เฮ้อ!” เมวินยีผมน้องสาวอย่างอ่อนใจ อ้อนขนาดนี้ เขาจะใจแข็งต่อได้ไง “อยากไปก็ไปเถอะ ไปแล้วก็เที่ยวให้สนุก ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”

“รับทราบค่ะ!” ชญานินยกมือขึ้นแตะคิ้วอย่างแข็งขัน

เมื่อเห็นสองพี่น้องตกลงกันได้แล้ว คุณอิทธิราชจึงถามลูกสาวว่าจะไปเที่ยววันไหน

“ไปวันหยุดหน้านี่ละค่ะ นัดกับขิงหอมไว้แล้ว” เธออ้างถึงเพื่อนรักที่จะไปหา ผู้เป็นพ่อก็พยักหน้ารับรู้ อมยิ้มบอกด้วยน้ำเสียงใจดีอย่างที่เคยเป็นเสมอมา

“ไปเถอะ ไปพักผ่อนให้สบายใจแล้วค่อยกลับมา พ่ออนุญาตให้หยุดยาวไปเลย”

“แม่ด้วย” คุณชลวิภายกมือสนับสนุนอีกคน ทำเอาเมวินครางโอด

“พ่อกับแม่เล่นอนุญาตอย่างงี้ นินก็ลอยตัว เที่ยวเพลินไม่ยอมกลับบ้านกันพอดี”

“อื้อ!” ชญานินตอบรับทันที “นินจะเที่ยวให้ฉ่ำไปเลยค่ะ!”

วันเดินทาง

เวลาบ่ายโมงโดยประมาณ หญิงสาวร่างบางสวมเสื้อครอปตัวเก๋กับกางเกงยีนกำลังยืนรอคนมารับอยู่ในสนามบินแม่ฟ้าหลวงของจังหวัดเชียงราย ใบหน้าสวยของเธอทำให้คนมาใช้บริการสนามบินเหลียวมองบ่อยๆ แต่คนถูกมองไม่ได้สนใจสายตาของพวกเขาเหล่านั้นเลย

“นิน ทางนี้ๆ”

ชญานินหันไปตามเสียงเรียกทันที เห็นสาวเหนือตัวเล็กพูดเก่งและเจ้าน้ำตา เจ้าของบ้านไร่ที่เธอจะมาพักผ่อนในครั้งนี้วิ่งเร็วๆ โผเข้ามากอดแน่นเช่นทุกครั้งที่เจอกัน ซึ่งครั้งล่าสุดก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว

พอกอดจนพอใจแล้ว พิชานันท์ถึงผละออกมายิ้มให้ “นี่นินอ้อนท่าไหนยังไง พี่วินถึงปล่อยให้มาหาขิงคนเดียวเนี่ย”

“อ้อนทุกอย่าง พ่อกับแม่เองก็สนับสนุนให้นินมา พี่วินคนเดียวต้านไม่อยู่หรอก”

“แล้วจะอยู่กี่วัน ขิงจะได้วางแผนเที่ยวกันถูก” พิชานันท์ทำตาวาวถาม ก่อนคว้ากระเป๋าเดินทางของเพื่อนลากเดินนำไปหารถ

ชญานินยิ้มกว้างบอก “ไม่มีกำหนดจ้ะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ต้องใช้ให้คุ้มที่สุด”

“ดีเลยสิ นินจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนขิงพอดี”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เดี๋ยวพ่อสินจะไปต่างประเทศแล้วน่ะ”

“อืม เดี๋ยวนินอยู่เป็นเพื่อนขิงเอง เอาให้เบื่อหน้ากันไปเลย”

พิชานันท์หัวเราะลั่น “ไม่เบื่อหรอกน่า นานๆ จะได้อยู่ด้วยกัน มันต้องสนุกแน่ ขิงจะพาเที่ยวให้ทั่วเลย”

“โอเคจ้ะ”

เมื่อพิชานันท์พาชญานินขับรถออกจากสนามบินมาได้สักพัก วิวข้างทางก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากชุมชนตึกสูงเป็นไร่เกษตรของผู้คน มีภูเขาเล็กใหญ่สลับทับซ้อนเป็นฉากหลัง ชญานินเห็นแล้วแทบไม่ละสายตาจากหน้าต่างรถเลย ตอนนี้สายตาเธอมองไร่ชาที่ปลูกลดหลั่นเป็นขั้นบันไดลงมาตามสันเขาอย่างนึกทึ่งกับความสามารถของชาวไร่ และนั้นก็ทำให้เธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนเหลือบมองกระจกมองหลังบ่อยๆ กระทั่งเจ้าตัวส่งเสียงถามขึ้นมานั่นละ

“นินดูรถคันนั้นหน่อยสิ ขิงรู้สึกว่าขับตามเรามาสักพักแล้ว เมื่อกี้ก็ขับมาเบียดรถเราด้วย” พิชานันท์บอกด้วยสีหน้ากังวล เธอดูแล้วรถคันนั้นไม่ใช่รถของคนรู้จัก กระจกยังปิดทึบ มองไม่เห็นเลยว่าใครขับ

ชญานินละสายตาจากไร่ชามามองดูกระจกข้างรถ เห็นรถคันหนึ่งขับตามหลังมาจริงๆ แต่ไม่ได้ขับจี้ขนาดนั้น อยู่ห่างพอสมควร “ใช่รถของคนรู้จักขิงหรือเปล่า”

“ไม่ใช่”

“งั้นเร่งความเร็วหน่อยดีกว่า” บอกโดยไม่ละสายตาจากรถคันนั้น

“โอเค” สาวเหนือกดเท้าเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วทันที พอเห็นว่ารถคันนั้นไม่ได้ตามมา สองสาวพลันหันมองตากันอย่างโล่งใจ

ใครจะรู้

จู่ๆ รถคันนั้นพลันเร่งเครื่องตามมาขับมาปาดหน้ารถของพวกเธอในตอนที่เพิ่งวางใจกันนี่ละ!

เอี๊ยดดดดดด

“ว้าย!!”

พวกเธอร้องออกมาอย่างตกใจ ขณะพิชานันท์รีบหักพวงมาลัยรถหลบ แต่เพราะรีบร้อนไป เลยทำรถเสียหลัก เกือบพุ่งตกขอบถนนแล้ว ดีที่เหยียบเบรกทัน

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ชญานินได้แต่จับราวเหนือศีรษะเอาไว้แน่น พอทุกอย่างหยุดนิ่ง จึงหันไปถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง “ขิงโอเคนะ”

“โอเคอยู่” พิชานันท์พยักหน้าบอกเสียงสั่น หน้าซีดไปหมด ด้วยไม่เคยเจอเหตุอุกอาจอย่างนี้มาก่อน ชญานินกำลังจะเอ่ยปลอบ ก็เหลือบเห็นผู้ชายตัวใหญ่ท่าทางนักเลงโตลงจากรถคันนั้น เดินตรงมาหาพวกตน

“ใครน่ะ ขิงรู้จักไหม”

“รู้จักสิ” สายตาพิชานันท์จ้องคนเดินใกล้เข้ามาวาววับ “นั่นมันลูกน้องของเสี่ยวงศกร คนที่ขิงเคยเล่าให้ฟังว่ามาขอซื้อที่ดินท้ายไร่ไง ไม่รู้มาขับปาดหน้าเราทำไม แต่พวกนี้ไม่ใช่คนดีอะไร นินหยิบปืนของพ่อสินในช่องเก็บของข้างหน้าออกมาไว้เลย กันไว้ดีกว่าแก้”

ไม่รอให้เพื่อนพูดจบ ชญานินเปิดช่องเก็บของคว้าปืนสั้นมาเตรียมพร้อมอย่างคล่องแคล่วทันที เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นตอนที่เธอเอาปืนเหน็บไว้หลังเอวแล้วเอาเสื้อคลุมมาสวมปิดไว้พอดี สองสาวหันหน้าส่งสายตาให้กัน ก่อนพิชานันท์จะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลดกระจกลงเล็กน้อย พออีกฝ่ายก้มลงมาคุย เธอก็โวยวายอย่างหัวเสีย

“มีอะไร! มาขับรถปาดหน้าแบบนี้ได้ไง ถ้ามีอุบัติเหตุขึ้นจะทำไง!”

“คุณวายุอยากคุยกับคุณพิชานันท์นิดหน่อยครับ”

“วายุ? วายุไหน ไม่รู้จักอะ”

“ลงมาเถอะครับ อย่าให้ต้องใช้กำลังเลย”

“ก็บอกว่าไม่รู้จัก! คนชื่อวายุมีเป็นร้อยเป็นพัน ไปบอกเขาลงมาคุยกับฉันเองสิ ถ้าไม่เห็นหน้าก่อน ฉันไม่ลงไปหรอก!”

พอถูกพิชานันท์ทำมึนขึงตาใส่แบบไม่ยอมง่ายๆ สุดท้ายนักเลงโตก็ได้แต่มองอย่างหงุดหงิดแล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถ ชญานินยกนิ้วให้เพื่อนสาวทันที

“เหอะ! พ่อสินไม่ยอม มันเลยจะมาเข้าทางขิงสินะ ฝันไปเถอะ!”

“ตกลงเขาเป็นใครน่ะ” ชญานินนิ่วหน้าถาม

“ลูกชายเสี่ยวงศกรแหละ มีดีแค่หน้าตา นิสัยนี่เลวสุดๆ”

ราวกับจะรู้ว่าพิชานันท์พูดถึงตัวเองอยู่ ชายหนุ่มคนหนึ่งพลันก้าวลงมาจากรถคันนั้นพอดี

“นั่นเขาเหรอ”

สาวตัวเล็กพยักหน้ารับ แววตาจ้องมองคนมาขวางทางอย่างเคร่งเครียด กลางวันแสกๆ แบบนี้ วายุมาขับรถปาดหน้าเธอทำไม คิดจะทำอะไรกันแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 6

    เมื่อกลับมาถึงไร่ก็พอดีกับสินธร พ่อของพิชานันท์กลับจากทำงานในไร่ แม้เรื่องดักฉุดจะผ่านมาสองสามวันแล้ว แต่สินธรยังอดห่วงไม่ได้จริงๆ จึงเรียกสองสาวไปถามไถ่“ไปเที่ยวกันมาสนุกไหมลูก ไม่มีใครมาวุ่นวายด้วยอีกนะ”“ไม่มีเลยค่ะ” พิชานันท์ส่ายหน้าบอกทันที “พวกมันไม่ทำเรื่องเดิมๆ หรอก น่าจะคิดได้ ว่าถ้ามีอะไรขึ้นกับพวกเรา ตัวเองจะถูกสงสัยเป็นคนแรก”“ไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้ว อีกไม่กี่วันพ่อต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่รู้พวกมันจะฉวยโอกาสมาเล่นงานเราตอนนั้นไหม ถ้าไม่ใช่งานสำคัญจริงๆ พ่อคงเลื่อนออกไปแล้ว” พ่อเลี้ยงวัยกลางคนพูดอย่างกังวล แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ ไม่ง่ายเลยที่จะนัดเจรจากับคู่ค้าคนนี้ ถ้าเจรจาตกลงร่วมงานกันได้ ไร่รุ่งรวินท์จะได้ทั้งกำไรและช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น เขาเลยเลื่อนนัดออกไปไม่ได้จริงๆพิชานันท์ไม่อยากทำให้บิดาเป็นห่วง รีบบอกด้วยสีหน้าขึงขังเลยทีเดียว “พ่อไม่ต้องห่วง ขิงรับรองว่าช่วงที่พ่อไม่อยู่ ขิงจะไม่ดื้อไม่ซนเลย”“ให้มันจริงเถอะ เราน่ะตัวดี!” สินธรว่าอย่างรู้นิสัยกันดี “พ่อไปตั้งหลายวัน ไม่มีคนคุมแบบนี้ จะก่อเรื่องอะไรบ้างก็ไม่รู้”“โธ่! ขิงไม่ก่อเรื่องหรอกน่า”“สัญญากับพ่อก่อนว

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 5

    เวลาดึกสงัดคืนนั้นณ เพิงเล็กๆ บนต้นไม้ในป่าท้ายไร่เศรษฐกรเตชทัตพาพวกตนุภัทรมาถึงไม่นาน เสียงผิวปากก็ดังมาจากข้างล่างสองครั้ง นี่เป็นสัญญานที่คนของเขาต้องส่งให้ก่อนจะขึ้นมา พอเขาผิวปากยาวๆ ตอบกลับไป ชายสี่คนก็ไต่บันไดขึ้นมาทันที ที่เพิงนี้ไม่มีไฟสว่าง อาศัยแสงจันทร์พอมองเห็นกันรางๆ คนมาใหม่หน้าตาดูธรรมดามาก แต่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย รับหน้าที่จับตาดูเสี่ยวงศกรมาสักพักแล้วเมื่อมากันครบแล้ว เตชทัตจึงถามเข้าเรื่องอย่างไม่เสียเวลา “มีข่าวอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้พวกมันเคลื่อนไหวบ้างไหม”หนึ่งในสี่คนนั้นตอบทันที “ไม่มีเลยครับ เหมือนทางนั้นจะระวังตัวมากขึ้น อาจเริ่มสงสัยอะไร หรือไม่ก็กำลังจะทำงานใหญ่”“อย่าประมาท จับตาดูไว้ให้ดี มันนิ่งมานานแล้ว คงจะเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้แน่นอน” เขาสั่งกำชับ พอนึกถึงเรื่องในวันนี้จึงเสริมไปอีก “บางทีมันอาจจะยุ่งเรื่องที่ดินท้ายไร่รุ่งรวินท์ บ่ายนี้เกิดเรื่องไม่ค่อยดีกับคนของไร่นั้นด้วย”คนบางคนได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคนของไร่รุ่งรวินท์ก็มุ่นคิ้วถามทันที“เกิดเรื่องไม่ดีกับคนของไร่รุ่งรวินท์? เรื่องอะไรวะ”เตชทัตปรายตามองน้องชายแวบหนึ่ง ก่อนบอก “ขิงหอมเกือบโดนวายุฉุ

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 4

    ‘ไร่เศรษฐกร’ เป็นไร่ชาเก่าแก่ของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนเขาที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ในไร่ส่วนใหญ่ปลูกต้นชาเป็นทิวแถว อีกส่วนหนึ่งยังมีสภาพเป็นป่าเขาเหมือนเดิม ด้วยมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ชาของไร่นี้จึงมีคุณภาพดีมาก เป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบชาทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ ‘ชาเศรษฐกร’ หรือที่คนเก่าแก่ละแวกนี้เรียกกันว่า ‘ชาเศรษฐี’ นั่นละปัจจุบันไร่เศรษฐกรคือผู้ผลิตชาที่ดีที่สุดของเมืองไทย แต่ละปีทำยอดสั่งซื้อทั้งในและนอกประเทศได้หลายสิบล้านบาท โดยการบริหารจัดการของพ่อเลี้ยงเตชทัต เศรษฐกร ชายหนุ่มหน้าเข้มวัย 32 ปีหลังก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนบิดาอย่างเต็มตัว เตชทัตได้บุกเบิกการทำไร่ชาแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา ขยายพื้นที่นำชาสายพันธุ์ดีๆ มาลงปลูก แปรรูปส่งออกไปตีตลาดชาฝรั่ง สร้างชื่อเสียงและเม็ดเงินมาสู่ไร่แบบทวีคูณ เมื่อขยายตลาดชาประสบความสำเร็จแล้ว เขายังหันมาสนใจเรื่องการทำไร่หมุนเวียน แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวหมุนเวียนไปตามฤดูกาล แบ่งเอาผลผลิตส่วนหนึ่งมาใช้บริโภคภายในไร่เอง อีกส่วนส่งออกไปขาย สร้างรายได้อีกทาง ทุกวันน

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 3

    เจอกระสุนเฉียดหูไป วายุรู้เลยว่าอยู่ต่อก็ไม่ได้อะไร เขาจึงถลึงตาตวาดบอกคนยิงใส่ว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” แล้วหมุนตัวเดินกลับมาขึ้นรถทันที ฝ่ายลูกน้องรีบพยุงกันเดินตาม แต่เดินยังไม่ถึงรถ เสียงเย็นชาก็ดังไล่หลังมา“อย่าฝากไว้นานนะ เดี๋ยวจะขึ้นสนิม”“...!”คล้อยหลังพวกวายุจากไป ชญานินพลันได้สติ รีบสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดของคนหน้าเข้มที่แล่นออกไปให้แน่ใจว่าจะไม่ย้อนมาอีก เขาก้มมองเธอเล็กน้อย ก่อนคลายแขนออกให้“ไม่อยากจะจับนักหรอก”ชญานินแค่นยิ้มลูบแขนตัวเองป้อยๆไม่อยากจับ?แต่จับซะแขนเธอเป็นจ้ำเลยนะ!ท่าทางของเธอทำให้พิชานันท์เข้ามาถามเสียงร้อนรน “เจ็บเหรอ!”“นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”พิชานันท์ยังคงกวาดตามองจนแน่ใจว่าเพื่อนไม่เป็นไรจริงๆ จึงหันไปพูดกับคนมาช่วยพวกตนเอาไว้ “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ได้ผ่านมาช่วยไว้ พวกเราคงแย่แน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพยักหน้าบอก “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”“เกือบเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะหันมาแนะนำให้เพื่อนรู้ว่าเขาเป็นใคร “นินสงสัยแย่แล้วใช่ไหม นี่คือพ่อเลี้ยงเตชทัต เจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยเลยนะ” ว่าแล้วก็หันไปเอ่ยกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม “นี่เพื่อนของขิงเองค่

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 2

    จากตรงนี้ไปหาไร่รุ่งรวินท์ห่างกันไม่ไกล ถ้าขอความช่วยเหลือจากคนที่ไร่ น่าจะทันอยู่ พิชานันท์จำได้ว่าพ่อไปติดต่องานในเมือง แต่ยังมีหัวหน้าคนงานอยู่ติดไร่เสมอ เธอจึงกดมือถือโทรหาอีกฝ่ายทันที พอเขารับสายก็รัวบอกเลย “น้าชาติรีบออกมาหาขิงด่วนเลยค่ะ ตอนนี้ขิงอยู่ก่อนถึงไร่เราไม่มาก วายุมันพาคนมาดักรออยู่ ไม่รู้คิดจะทำอะไร รีบออกมาเลยค่ะ!”(“อะไรนะครับ! คุณหนูไม่ต้องห่วง ผมจะรีบพาคนไปเดี๋ยวนี้!!”)“เร็วๆ นะคะ” บอกแค่นั้นแล้วพิชานันท์ก็วางสายทันที หันมาพูดกับชญานินด้วยความไม่แน่ใจ “อีกเดี๋ยวคนที่ไร่จะมารับ เราต้องยื้อเวลาไว้ จะไหวไหมเนี่ย”ไหวหรือเปล่าไม่รู้ แต่พอวายุเดินนำลูกน้องมาหา และส่งนักเลงคนนั้นมาบอกให้พวกเธอลงจากรถได้แล้ว พวกเธอก็ทำได้สูดหายใจเข้าลึกๆ สบตาให้กำลังใจกันแวบหนึ่ง ก่อนจะลงจากรถแบบนิ่งๆการออกมาเผชิญหน้ากับผู้ชายตัวใหญ่สี่ห้าคนกลางถนนโล่งๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี แต่อยู่ในรถก็ไม่ดีเช่นกัน ถ้าพวกมันเข้ามาทุบหรือขับรถชน แล้วลากไปทั้งรถทั้งคนก็น่ากลัวเหมือนกัน ฉะนั้นลงมาคุยถ่วงเวลารอคนมาช่วยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นยังวิ่งหนีได้...จะหนีรอดหรือเปล่าก็อีก

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 1

    “หมายความว่าไง ลาพักร้อนอย่างนั้นเหรอ!” เสียงลูกชายคนโตของบ้านกฤตพัฒน์ดังลั่น เมื่อได้ฟังน้องสาวคนเดียวบอกว่าต้องการลาไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่เชียงราย“พี่วินจะตะโกนเสียงดังทำไมคะ” ชญานินมองค้อนขวับใส่พี่ชายด้วยใบหน้าแสนงอน แค่เธอจะลาไปเที่ยวนี่มันเรื่องใหญ่ขนาดต้องตะโกนลั่นบ้านเลยหรือไงเมวินขึงตาบอก “ไม่ให้ลา!”“นินจะลา”“ชญานิน”“เอาน่า วินจะอะไรกับน้องนักหนา ปล่อยน้องไปบ้าง” คุณชลวิภาที่นั่งมองอยู่เอ่ยขัดด้วยสีหน้าอ่อนใจ ทำให้คุณอิทธิราชพยักหน้าว่าตามทันที“นั่นน่ะสิ แกก็ปล่อยๆ น้องไปบ้างเถอะ”เมวินทำตาโตมองพ่อ “แต่น้องจะไปเที่ยวถึงเชียงรายเลยนะครับ ไปคนเดียวด้วย จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง น้องเป็นผู้หญิงนะครับพ่อ!”“พ่อก็ห่วงน่า”“แม่ก็ห่วง แต่เราต้องให้น้องได้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง จะไปกำหนดชีวิตน้องไม่ได้นะลูก น้องมีชีวิตของน้อง วินเข้าใจที่แม่พูดหรือเปล่า” คุณชลวิภาไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงหวงน้องหนักแบบนี้ หวงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนตอนนี้ชญานินโตเป็นสาวแล้วก็ยังหวง น้องสาวเลยโสดสนิท ทั้งที่หน้าตาฐานะก็ออกจะเพรียบพร้อม“...” พอไม่มีใครเข้าข้าง เมวินก็ได้แต่ทำหน้าบูด ไม่พูดไม่จาชญานิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status