LOGINมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง
"มาช้าจังล่ะรีน หรือว่าเมื่อคืนแกดื่มหนัก" เยลลี่เพื่อนสาวคนสนิทรีบโบกมือควักเรียก เธอมาจองที่นั่งประจำตรงโต๊ะหินอ่อนข้างอาคารเรียน เวลาเช้าเช่นทุกวัน เพราะอีกฝ่ายมักชอบมาสายเพราะติดเที่ยวปาตี้หนักวันเว้นวัน
พวกเธอเลือกเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ เน้นสาขาการออกแบบแฟชั่น เข้ากับนิสัยจัดจ้านของเจ้าตัว ทำให้เรื่องแต่งกายแต่ละวัน สร้างจุดดึงดูดแก่เพศตรงข้ามไปด้วย
"เมาจนได้เรื่องเลยแหละ รถโครตติดด้วยไม่รู้คนจะแย่งกันมาทำไมหนักหนา" ร่างอรชรในชุดนักศึกษากระโปรงตัวสั้น อวดเรียวขาขาวให้บุรุษแง้มมอง ทิ้งกายลงนั่งพลางยกมือซับเหงื่อผุดข้างขมับ
"แกเห็นข่าวยัยข้าวฟ่างหรือยัง" คนบอกรีบยื่นโทรศัพท์มือถือกดแอพพลิเคชั่นข่าวให้ดู
"ในที่สุดก็คั่วกันจริงสินะ..สารเลว" ภาพสองชายหญิงนัวเนียกันในผับ ล้วงลึกกันอย่างเปิดเผย ไม่อายช่างภาพเป็นถึงนายแบบชื่อดัง
~ช่างมีความสุขเหลือล้น มีเพียงเธอคนเดียวยังผูกใจเจ็บ~
"งั้นก็จบเถอะเนอะ แกก็สวยๆมีใหม่ไป"
"มันง่ายไปเยล ฉันเนี้ยแหละจะเป็นแม่มดสาบแช่งพวกมัน โทษฐานกล้าหักหลังฉันคอยดู" สายกระเป๋าในมือแทบฉีกขาด เล็บยาวสีจัดจ้านจิกเกร็ง แต่มุมปากดันยิ้มร้ายเสมือนมีความคิดแล่นผ่านสมอง
. .ช่วงเที่ยง"แกว่าอาจารย์คณะเราแปลกไหม อยู่ๆสั่งงานปุ๊บจะเอาปั๊บ หัวใครจะคิดแบบไวกัน" เสียงใสบ่นร่ายยาว กอดหนังสือเรียนปึกใหญ่แนบอก ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบอ่านมันเลยสักนิดเดียว ความหิวประท้วงเร่งสับก้าวส้นสูงกระฉับกระเฉง มุ่งตรงโรงอาหารเพื่อซื้อมื้อเที่ยงรับประทาน
"จะแปลกก็แปลกแต่เราไม่มีทางเลือกนี่ รีบกินแล้วไปหามุมเงียบๆทำกัน"
"ตรงไหนจะเงียบ...ว๊าย!!!" ยังพูดไม่ทันขาดคำ ร่างอรชรเซถลาเกือบชนมุมขอบโต๊ะ แหลมประมาณปลายมีดคม ยังดีที่เยลลี่คว้าไว้ได้ทัน ส่วนผู้เดินชนแสร้งก้มหน้าขอโทษผิดจากดวงตาหลบซ่อนเล่ห์
"ข้าวขอโทษ..รีนเจ็บตรงไหนไหม" ข้าวฟ่างเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เมื่อมีคนระแวกนั้นมองดูเหตุการณ์ ใครต่างก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนยอมคน
"มีตาก็แหกดูสิ ชนแรงอย่างกับควายขวิดคิดว่าไม่เจ็บได้ไง" แน่นอนว่าเสียงจัดจ้านสวนกลับทันควัน ข้าวฟ่างคือคู่แข่งตัวฉกาจ ไม่รู้โกรธแค้นอะไรหนักหนาถึงราวีไม่เลิก กระทั่งคัดเลือกดาวคณะที่เสนอตัวเอง แต่คนอื่นดันลงคะแนนเลือกมารีนมากกว่า
"เราพูดดีๆนะรีน ถ้างั้นเราขอโทษอีกรอบนะ"
"ตอแหล" เมื่อความเจ็บแค้นในใจมันสุมทรวง ถ้อยคำด่าหยาบคายพลั่งพลูออก ยิ่งเรียกผู้คนมารุมดู ส่วนเยลลี่รีบดึงแขนเพื่อนสาว เพื่อเลี่ยงความรุนแรง
"ข้าวพูดด้วยดีๆนะ คนแบบนี้อย่าไปเสียเวลาพูดกับพวกมันเลย" ปริ่มคือสาวประเภทสองรูปร่างอ้วนท้วม เพื่อนสนิทคนเดียวข้าวฟ่างรีบดึงแขนรั้งไว้ ไม่ให้หญิงสาวเข้าไปจับมือขอโทษ แล้วกึ่งบังคับจูงกันออกจากจุดที่ยืนอยู่ โดยมีสายตาเหยียดหยามเหลียวมอง
"อิซากศพหมาอืด!"
"ไปๆเถอะ อายคนอื่นเค้ารีน" จนทั้งสองพากันมานั่งตรงพุ่มไม้ ข้างตึกคณะบริหารที่น้องชายเรียนอยู่ สงบสติอารมณ์ได้เพียงไม่นาน นิสัยเลือดร้อนดันเริ่มสูบฉีดใหม่ นึกได้ตอนไหนก็โมโหเมื่อนั้น
"ข้าวก็ไม่ได้กิน โมโหก็โมโห นัดตบกับมันสักรอบให้รู้กันไปเลย" น่าเจ็บใจชะมัด ในเมื่อพื้นที่ตั้งกว้าง แต่ทำไมถึงเดินชนได้ จิตใจที่เสแสร้งแสดงหน้าเรียบร้อย ทำตัวน่าสงสารดูสมเพชต่อสายตาสิ้นดี
ต่างจากเธอที่คนอื่นว่านิสัยร้ายรุนแรง กว่าตัวโกงในละครอีกหลายเท่า เพียงเพราะอ่อนหวานไม่เป็น"มีแต่เสียกับเสียนะ รีนต้องใจเย็นลงบ้าง" แต่ที่รู้ตอนนี้คือเพื่อนสาวดียิ่งกว่าแม่พระหนุนนำ ทำคนไม่สนใจธรรมะหันขวับจ้อง
"เลิกเรียนแล้วไปบวชไปยัยเยล"
"จะให้พี่เยลไปบวชทำไม ผมก็เฉาแย่สิ" ทว่าเสียงของน้องชายดังขึ้นดึงดูดทุกคนหันเหลียว บุคคลมาเยือนใหม่ในชุดนักศึกษาชายหลุดรุ่ย ทุกอย่างเน้นผิดกฎระเบียบชัด
"เลิกหม้อเพื่อนฉัน แล้วนี่จะรีบไปไหนไม่เข้าเรียนบ่ายหรอ" พี่สาวรีบคว้าเอาข้อมือน้องชาย ที่ความสูงนำกว่าเธอไปหลายเท่า
"ไม่อะ ไปหาอะไรสนุกทำกับพวกเฮียซายน์หน่อย"
"ทำอะไร" พอพูดถึงชื่อบุคคลตัวต้นเหตุของการมาสาย มือบางผละออกทันที นั่งลงสนใจงานกับเพื่อนสาวต่อ ปล่อยให้ฮาเกนเออออไปคนเดียว
"ปะทะอริ"
......................................................
หนึ่งปีต่อมา_ สายลมเย็นพัดผ่านสวนข้างบ้าน ยามบ่ายคล้อย ต้นไม้สูงร่มรื่น ชวนดอกไม้บริเวณนั้นส่งกลิ่นมวลหอม เจ้าของบ้านเน้นออกแบบสถานที่ด้วยตัวเอง อยากให้เวลาครอบครัวมีความสุขร่วมกัน เขานอนบนเสื่อผ้าทอข้างลำตัวภรรยา ช่วยถือพัดโบกไล่แมลงตอม"ดาริณคะ น้องเราเค้าอิ่มนมแล้วนะ" มารีนค่อยๆเอ่ยบอกลูกสาวตัวน้อย กำลังเห่อน้องชายหนักมาก จ้องแต่จะจับขวดนมป้อนทารกแทนมารดา ไม่ยอมไปเล่นสนุกตามวัย"หื้ม...มะหม่ำ...อ่อ..." ดาริณพึ่งอายุสองขวบยังพูดไม่ทันชัดดี ขัดกับการกระทำพอผู้ใหญ่บอกห้ามอะไร หนูน้อยมักโต้แย้งทันตลอด รีบทิ้งตัวนั่งซุกในอ้อมแขนบิดา ทว่าใบหน้าบึ้งตึงหันจ้องทางแม่"พาเรนหน่ะอิ่มแล้ว ถ้าน้องกินจุเดี๋ยวพุงระเบิด" บางทีเธอก็ไม่เข้าใจ ดูลูกสาวถอดนิสัยจากเธอไปเสียหมด แถมซายน์ยังเข้าข้างเวลาโดนดุ"ให้น้องนอนก่อนดีไหม ดาริณเล่นกับป๊ะป๊านะคะ" บัดนี้น้ำเสียงเข้มแปรเปลี่ยน ใส่โทนอ่อนนุ่มคุยกับลูกสาวสุดที่รัก รีบลุกนั่งอุ้มเจ้าตัวน้อยใส่ตัก หยิบของเล่นหลอกล่อจนมารีนส่ายหัว แค่หุ่นยนต์ใช้เศษผ้าเย็บติดกัน ไว้ให้พาเรนนอนกอดระหว่างรอชงนม ใบหน้าแก้มป่องดันยิ้มแย้มทันตาเห็น ผิดจากตอนอยู่กับผู้เป็นแม
@ บ้านซายน์"ทำไมทำหน้าแบบนั้น" น้ำเสียงเข้มจำต้องอ่อนลง ยามเห็นหน้าสวยสลด ผิดกับเวลาด่าสามีปานกินเลือดกินเนื้อ อารมณ์โมโหเลอะเลือนเกือบผลิตน้ำตาให้คนปลอบ ไลล่ายิ่งเอาใจซ้ำนอนกระดิกหางออเซาะใต้โซฟา ฝ่ามือหนาค่อยบรรจงจับสำลีชุบน้ำเกลือ ไล่เช็คแผลสดเบาแรง สงสารภรรยาสาว คงเจ็บแสบตอนโดนสัมผัส"คนมันเจ็บนะ""ทีเวลาด่าผัว ไม่เห็นนึกถึงความรู้สึกบ้างเลย" คนบอกยังก้มหน้าก้มตาทำแผล แม้รู้ว่าถ้าหากเงยขึ้น คงสบตากลมแดงกร้าวกราด แต่ก็อยากให้คนฟังรับรู้เวลาน้อยใจ บรรยากาศเงียบสนิท เพราะลูกสาวโดนปู่ย่าเห่อมากเกินควร แอบมารับไปตอนบุพการีออกจากบ้าน เน้นย้ำให้วินค่อยรายงานตอนเจ้านายกลับมา"นายโกรธฉันลงหรอซายน์ เราเป็นสามีภรรยาคือคนคนเดียวกันนะ" ถึงเวลาเธออ้อนคืน จับข้อมือหนารั้งไว้ เอียงใบหน้าเผยแววตาเป็นประกาย รู้ว่าสามีอ่อนไหวเวลามองคืน"ใครจะโกรธเมียตัวเองลงเล่า เลิกใส่นะชุดแบบนี้ น่าจับกระแทกตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้ว" เขากระตุกชายกระโปรงชุดเดรสให้ขาดมากกว่าเดิม โยนลำสีเปลื้อนเลือดในมือใส่ถังขยะ แล้วจัดการดันไหล่มนนอนราบลงเบาะโซฟา"ไลล่ามองอยู่" น้ำเสียงหวานเอ่ยเตือน สัตว์สี่ขากระพริบตาปริบ รา
@ สามปีต่อมา"เดินให้มันไวไวหน่อยสิซายน์ ป่านนี้นาเบลรอแย่แล้ว" บัดนี้มารีนอยู่ในฐานะภรรยา หลังแต่งงานได้ปีกว่า ตะเบงเสียงบ่นต่อเนื่อง เมื่อเธอแต่งตัวบนเรือนร่างลุคเซ็กซี่เสร็จร่วมชั่วโมง แล้วหันมากดดันสามีหนุ่ม ขณะอุ้มลูกสาวตัวน้อยวัยทารกย่างสี่เดือน พึ่งกล่อมจนหลับสนิทส่งให้บรรดาพี่เลี้ยงระดับมืออาชีพ ที่ทางครอบครัวมารีนจัดจ้าง"ดาริณพึ่งหลับเอง หัดแต่งตัวเบาๆได้ไหม เดี๋ยวลูกก็โตเลียนแบบหรอก" คนบ่นส่ายหัวไปมา รับกุญแจรถสปอร์ตคันหรูจากมือลูกน้อง ผายมือเชิญให้ภรรยาไปนั่งฝั่งประจำตำแหน่ง มักชอบบอกว่าเขาเปลี่ยนไปไม่เอาใจใส่เช่นเดิม มารีนไม่เคยทิ้งภาพลักษณ์นักดีไซน์ ยังรับงานมีแบรนด์ของตัวเอง ยังไม่พอแค่นั้น...แถมออกแบบชุดลูกสาวชนิดเว่อร์เวิน ประหนึ่งคนอุ้มคือรันเวย์อวดชุดแฟชั่น"นับวันเริ่มบ่นมากกว่าเมียแล้วนะ" ขณะพูดเธอยังส่งลิปสติกสีแดงสด ให้คนด้านข้างยัดใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ต เพราะเธอไม่ชอบถือสัมภาระยกเว้นเครื่องมือสื่อสาร ไปในสถานที่บันเทิง เผื่อรบกวนอารมณ์ผ่อนคลาย"แล้วจะกลับกี่โมงคืนนี้ เดี๋ยวดาริณตื่นมาไม่เจอ" นับวันซายน์ยิ่งทำตัวติดลูกสาว มากกว่าผู้เป็นแม่ ว่างจากงานในคาสิโน
@ ชั่วโมงถัดมา ณ สวนหย่อมเล็กๆหลังบ้านซายน์ คนสองคนกำลังนั่งเล่นบนเสื่อผืนน้อย โดยปูราบไปกับพื้นหญ้าอ่อน เงาต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ส่งกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ ผีเสื้อบินร่ายล้อมเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย"ป้าอิมน่ารักดีเนอะ เอ็นดูลูกเขยหนักกว่าลูกตัวเองอีก" คนตัวสูงรั้งลำตัวบอบบางเข้าหา เอนตัวลงนอนอิงตักเล็ก เงยใบหน้ามองคนรัก อมยิ้มพอใจเมื่ออีกฝ่ายเบะปากหมั่นไส้ มารดาทางฝั่งหญิงสาว พูดเปรยวางอนาคตเสียเรียบร้อย แม้เขาจะเชิญมารับรู้ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ทว่ากลับผิดคาดได้รับผลที่ดีเกินควร อาจขาดบิดาทั้งสองไปก็ตาม แต่คงไม่ใช่เรื่องยากอีก"ขนาดนี้แล้วยังเรียกป้าอยู่อีกเหรอ" มือบางดึงแก้มสากกลั่นแกล้ง ช่างวางแผนเสียเรียบร้อย ก่อนเธอจะเดินทางกลับประเทศ มีมารดาสุดที่รักคอยรายงานนั่นเอง"อะอ้ำ....อาย๋อยยย" เธอหยิบผลไม้หั่นชิ้นเล็กขึ้นรับประทาน พอเห็นคนนอนตักอ้าปากกว้าง ราวอ้อนขอชิมรสตามบ้าง มือบางยิ่งแกล้งกว่าเดิม ชูแกว่งไปแกว่งราวมาผู้ชนะหัวเราะลั่น"ถ้าไม่ให้ฉันเรียกว่าป้า แล้วเรียกอะไรดีล่ะ" คนบอกรีบพุ่งงับผลไม้ชิ้นเล็กช่วงทีเผลอ จนมือที่ถืออยู่ยอมปล่อย แล้วหยิบทิชชู่เช็ดปากแถมให้หนึ่งที ท่าทางเอาใจ
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!"อื้อ...ซะซายน์..มะมัน..หลายรอบแล้ว...อ๊า..." คนตัวเล็กใต้ร่างกำยำ ส่งเสียงร้องกระท่อนกระแท่นบอก ผิวกายซาบซ่านหลังผ่านศึกสวาทหลายชั่วโมง จนเหนื่อยล้าเกือบหลับตาแบบไม่รู้ตัว ส่วนไลล่าได้ทีรีบวิ่งหนีลงชั้นล่าง เผยอาการปกติว่าเจ้าของมันสร้างเรื่องโกหก สองขาเรียวยังโดนยกพาดบ่ากว้างสูงขึ้น ส่งผลให้จุดประสานเชื่อมต่อจนลึกสุดความยาว เข้าทักทายโพรงนุ่มกลืนกินท่อนเอ็นอุ่นสุดลำ น้ำเมือกใสทะลักปนสีขาวขุ่น หลดย้อยบนผ้าปูที่นอนสร้างคราบเปอะเปื้อนตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!"อ่าส...มันไม่ได้ปล่อยนานไงที่รัก" คนตัวสูงก้มลงบอกผ่านเสียงกระสัน เลื่อนมือกดเนินสาวก่อนเร่งจังหวะระเรงรัว ลากลิ้นสากคลอเคลียซอกคอระหง ขบเม้มเป็นรอยเจ้าของพึงพอใจ แล้วใช้มืออีกข้างบีบขย้ำเต้าเนื้ออวบ ยอดประทุมถันแข็งชูชัน ถูไถแผงอกกว้างยิ่งกระตุ้นอารมณ์ปรารถนา เพิ่มแรงกระแทกกระชั้นถี่ ตามด้วยกระตุกเกร็งอย่างหนัก"อ่าสรีน..." ถ้อยคำกระเซ้าบอก หลังเสร็จกิจกรรมถาโถม ซายน์ทิ้งลำตัวบนร่างอรชรเบาๆ แล้วเบี่ยงข้างนอนสวมกอดมารีนไว้ในอกแกร่ง ใช้ปลายขาเขี่ยผ้านวมผืนหนา ตวัดขึ้นมาดึงคลุมสองเรือนร่างเปลือยเป
"ถ้าโดนเมียฉันแค่นิดเดียว ต่อให้เป็นผู้หญิง ฉันจะไม่ปราณีเลย!" น้ำเสียงเข้มบอกผ่อนรอดไรฟันเรียงขาว พุ่งคว้าร่างอรชรแนบแผงอกกว้าง สันมือหนากำแน่นแสดงเส้นเลือดขึ้นปูด บ่งบอกระดับอารมณ์ และความสำคัญชัดเจนหญิงสาวชัดเจนเปรี๊ยะ~ เปรี๊ยะ~"ว้าววว....." ฮาเกนอุทานพร้อมตบมือดังสนั่น รู้สึกพอใจยิ่งนักยามรุ่นพี่คนสนิท ปกป้องพี่สาวสายเลือดเดียวกันเหนือสิ่งอื่นใด ใช้ปลายเท้าสะกิดหน้าขาภาคิน เขานิ่งอึนเหมือนเห็นซายน์เป็นคนละคน "ไม่จริง มันก็แค่ของเล่น ถ้าเขาเบื่อแกก็โดนทิ้งเหมือนกัน" นางแบบสาวโวยวายเสียสติ ไม่กล้าใช้ความรุนแรง กลัวอำนาจกลุ่มมาเฟีย"ไม่เหมือนเนอะ เธอใช้เงินแลก ส่วนรีนใช้ความรักย่ะ" นาเบลชิ่งเถียงกลับ เธอมองรุ่นพี่คนนี้ออก การกระทำชัดเจนกว่าถ้อยคำอธิบายเสียอีกซิลค์และต้นไม้มองหน้ากันเงียบๆ จับแก้วเหล้าชนสยบบรรยากาศร้อนระอุ ท่าทีเย็นชากดดันกลุ่มบอดี้การ์ด เร่งล็อคสองแขนนางแบบสาว อุ้มลงไปคืนถิ่นชั้นล่างหมับ!!"นะนายจะทำอะไรอะ เห็นไหมคนอยู่ตั้งเยอะ" จู่ๆคนตัวสูงดันจับร่างอรชรอุ้มขึ้นท่าเจ้าสาว ชุดเดรสตัวสั้นร่นอวดเรียวขา ยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม ท่ามกลางหลายสายตามุ่งมอง ทว่านิส







