LOGIN[ห้องแชทบริษัทX]
แอบแซ่บ : อุ้ย~ ปากบอกว่าเพื่อนกัน แต่ลับหลังแอบกินแฟนของเพื่อนนี่นะ แรงมากกกกก!!
นั่นคือข้อความแรกที่ส่งลงไปในห้องแชทของพนักงานบริษัทX ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลจับจ้องที่ตัวเลขคนที่เข้ามาอ่าน จำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าจะหยุดนิ่ง ทำให้ซินเจียที่ตั้งใจเปิดประเด็นยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
เฮ้ย! ส่งผิดกลุ่มปล่าวววว
เล่ามาๆ ฉันอยากรู้
ในบริษัทมีแมวขโมยเหรอ
ตื่นเลยฉัน!
ห้องแชทที่เงียบเหงาครึกครื้นขึ้นทันตา เมื่อข้อความที่ส่งเข้ามาในกลุ่มตอนเวลาแปดโมงเช้าวันจันทร์ไม่ใช่ข้อมูลที่น่าเบื่อของบริษัทอีกต่อไป
แอบแซ่บ : ขอโทษค่ะส่งผิด
ซินเจียกระตุกยิ้มจางๆ นั่งไขว่ห้างมองจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอเปิดประเด็นเรียกแขกเข้ามา ก็ตัดจบที่ส่งผิดห้องนั่นเอง
เล่ามาให้จบ
ฉันขอตามเผือกได้ไหม
เฮ้ย! มาพูดให้อยากรู้ได้ไง
อย่าเพิ่งงงง กลับมาก่อน!
ซินเจียวคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง ปล่อยให้คนในกลุ่มที่อยากรู้เรื่องของชาวบ้านร้อนรนไป ตอนนี้เธอแค่นั่งรอสวยๆ ถ้าเป็นไปตามที่คิด อีกสักเดี๋ยวจะต้องมีคนในบริษัทที่อยากเผือกแอดเธอเป็นเพื่อนแน่ๆ
เจิ้งหลุน : คุณเลือกออร์แกไนซ์จัดงานได้หรือยังครับ พอดีผมมีคนที่รู้จักอยู่ เผื่อคุณจะสนใจ ราคาเป็นกันเอง ลองดูไว้เป็นตัวเลือกนะ
แฟนหนุ่มส่งข้อความมาถาม ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นทางฝ่ายชายที่จะต้องรับผิดชอบ ถ้าหากเป็นแต่ก่อน เธอคงคิดถึงเงินในกระเป๋าของเจิ้งหลุนเป็นอันดับแรก เขาไหวไหม แพงไปหรือเปล่า ออกตัวคิดแทนทุกอย่าง สุดท้ายก็คงยิ้มๆ ตอบกลับไปว่า 'พวกเราจัดงานเล็กๆ ก็ได้ค่ะ'
ซินเจีย : ฉันไม่ค่อยชอบค่ะ จากภาพมันดูธรรมดาเกินไป มิน่าล่ะ! ราคาถึงถูกกว่าเจ้าอื่นๆ
คำตอบที่พิมพ์มาของซินเจียทำคิ้วของเจิ้งหลุนขมวดเข้าหากัน ปกติเธอไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก คำพูดติดปากก็คือ 'อะไรก็ได้'
เจิ้งหลุน : คุณมีที่ถูกใจแล้วเหรอครับ
ซินเจีย : ค่ะ! ฉันกำลังจะส่งให้คุณดูพอดี ราคากำลังดี รองรับแขกได้หนึ่งพันคน ที่สำคัญเขามีโปรโมชั่นถ่ายพรีเวดดิ้งสำหรับคู่รักด้วยนะคะ ฉันเข้าไปดูมาแล้ว สวยมาก
ราคากำลังดีที่ว่าของซินเจีย เจิ้งหลุนคิดว่าน่าจะพอจ่ายไหว ซินเจียไม่ใช่ผู้หญิงหัวสูงอะไร ขนาดกระเป๋าที่ใช้ยังมีไม่กี่ใบเอง
เจิ้งหลุน : แล้วแต่คุณเลย
ซินเจีย : งั้นฉันโทรไปจองนะคะ
เจิ้งหลุน : ครับ
หญิงสาวหายไปจากบทสนาในห้องแชทสักพัก ก่อนจะพิมพ์มาว่า
ซินเจีย : ฉันโทรไปจองคิวแล้ว ให้เบอร์คุณไปแล้วด้วย เดี๋ยวตอนบ่ายๆ ทางนู้นเขาจะโทรมาพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับคุณนะคะ อ่อ! ต้องจ่ายค่ามัดจำสถานที่ล่วงหน้าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย คุณโอเคไหมคะ
เจิ้งหลุน : โอเคครับ
ผู้ชายที่ตามใจทุกอย่าง มันคือหลุมพรางที่นำมาซึ่งความเจ็บปวด ภาพจำเมื่อสามปีก่อนผุดขึ้นมา วันนั้นเธอลงไปซื้อกาแฟที่คาเฟ่ใต้บริษัท แต่ดันลืมเอากระเป๋าเงินลงมา ท่าทีลุกลี้ลุกลนของเธอไปเตะตาเจิ้งหลุนเข้า
'ค่ากาแฟเท่าไหร่ครับ'
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามพนักงาน ก่อนหันมาส่งยิ้มเป็นมิตรให้เธอ
'ขอบคุณนะคะ'
'ไม่เป็นไรครับ'
มันคือบทสนทนาของคนที่เพิ่งรู้จักกัน หลังจากวันนั้นเธอก็บังเอิญเจอกับเขาอีกครั้ง ความบังเอิญทำให้เราสองคนนั่งคุยกัน และแลกเบอร์ติดต่อกันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา...
ถ้าวันนั้น...
ฉันไม่ลืมกระเป๋าเงินก็คงดี!
ซินเจียพึมพำ ทิ้งตัวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงาน แววตาที่มองไปยังข้อความโต้ตอบเหล่านั้นดูว่างเปล่าไร้เยื่อใย ความรักมันจางหาย คงเหลือแต่ความเจ็บปวดทิ้งไว้ และตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้วที่เธอจะเอาคืนบ้าง
@บ่ายโมงครึ่ง
Trrrr📞
[เจิ้งหลุน calling]
ซินเจียละสายตาจากหน้าจอคอมเหล่มองโทรศัพท์ที่กำลังดัง เมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรมา ดวงตาคู่สวยก็ดูมืดครึ้มลง
'ออแกไนซ์คงโทรหาแล้วสินะ'
หญิงสาวพึมพำก่อนจะกดรับโทรศัพท์และกรอกเสียงหวานลงไป ทำเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจเธอรู้ดีว่าเจิ้งหลุนคงร้อนใจน่าดู
"แพงไปไหมซินเจีย"
คำแรกที่ชายหนุ่มโพล่งออกมาช่างบ่งบอกได้ถึงนิสัยที่แท้จริง
"ก็คุณบอกว่าแล้วแต่เลย"
ซินเจียตามน้ำไป ก่อนจะใช้คำพูดที่สื่อไปทางน้อยใจว่า
"คุณไม่อยากแต่งงานกับฉันเหรอคะ"
"ไม่ใช่ครับ แต่..."
เจิ้งหลุนที่โทรมาด้วยอารมณ์ตกใจเพราะราคาแพจเกจแต่งงานมันเกินจากงบที่เขาตั้งเกือบสามเท่าตัว จัดงานได้สามครั้งเลยนะนั่น แล้วไอ้รายละเอียดยิบย่อยที่ต้องจ่ายแยกอีก ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรี อาหารว่าง ของขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ซินเจียเลือกใช้ของเจ้าเดียวกันเหตุผลของเธอคือ 'สะดวกดี'
"เลื่อนงานแต่งไปก่อนก็ได้นะคะ"
"ไม่ครับ!"
"แต่คุณบอกว่าแพงไป"
ซินเจียแสร้งพูดเหมือนกำลังน้อยใจ แต่แววตาของเธอกลับเป็นประกาย ก่อนจะผุดรอยยิ้มสะใจออกมา
"ไม่เป็นไร ถ้าคุณชอบ ผมก็ชอบด้วย"
ชายหนุ่มกัดฟันพูด ก่อนจะวางสายไป ตอนแรกเขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะจัดงานเล็กๆ พอเป็นพิธี เชิญแขกมาร่วมงานแค่ไม่กี่คน แต่ซินเจียกลับอยากแต่งงานในสวน มีดนตรี มีการแสดงที่ไม่จำเป็นเลย ค่าใช้จ่ายที่เกินกำลังไปมาก ทำเจิ้งหลุนนั่งกุมขมับ ถึงเงินในบัญชีมีไม่พอ แต่เขาก็อยากจัดงานให้ผ่านไปเร็วๆ
"ถือซะว่าเป็นการลงทุน"
บอกตัวเองที่จำใจโอนเงินมัดจำไปห้าสิบเปอร์เซนต์ ซึ่งสำหรับเขามันเป็นจำนวนเงินที่ถือว่าไม่ได้น้อยเลย ยิ่งเห็นยอดเงินในบัญชีที่เหลือไม่มาก เจิ้งหลุนก็ยิ่งออกอาการหงุดหงิดก่อนจะสบถออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า
แม่งเอ้ย!
จะจัดงานใหญ่ๆ ให้เปลืองทำไมวะ
[ห้องแชทบริษัท X]รถอย่างหรูเลยเขามีเจ้าของหรือยังบอกมานะว่า...แฟนใคร?ถัดจากเรื่องดอกไม้ ก็เป็นเรื่องรถหรูราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบริษัท เห็นจอดอยู่นาน ไม่รู้มาทำธุระ หรือว่ามารับใคร ถ้าเป็นลุงแก่ๆ หัวล้านๆ คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะเจ้าของรถที่เดินลงมาหน้าตาหล่อไม่น้อยไปกว่าดาราเลยเขามีเจ้าของแล้วว้าย~ เธอตกข่าวนะจ๊ะฟาดด้วยรูปซะเลย!มุมปากสวยได้รูปยิ้มจางๆ เมื่อเห็นรูปของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถคันหรูไป แน่นอนว่ามุมมันได้ และรูปแอบถ่ายของเธอก็ดูดีซะด้วย@เหมยลี่ แฟนเธอเหรอ?@เหมยลี่ ไปหามาจากไหน?@เหมยลี่ ผู้หล่อและรวยมาก!!!ข้อความที่แท็กมายิ่งทำให้เหมยลี่ได้ใจ ยิ่งคนพูดถึงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดว่าผู้ชายที่แย่งมาได้คือของดี และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน หญิงสาวคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม คนที่มันคลิ้กกัน แค่มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ภาษากายก็สื่อถึงกัน "หิวไหมคะ""หิวครับ หิวมาก"ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มแฝงความนัย เสน่ห์ของเธอมันชวนให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มจริงๆ"คุณอยากกินอะไรคะ""ให้ผมเลือกเหรอครับ""ค่ะ"ห
[ห้องแชทบริษัท X]สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันเหรอ??เรื่องจริงใช่ไหม???ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเห็นดอกไม้ไหม...ช่อใหญ่เว่อร์อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ใครคบใคร ใครเลิกใคร เป็นเรื่องที่ชวนให้เผือกอยากเสือกมากที่สุด พอมีคนจุดประเด็นปุ๊บ คนอื่นก็แห่ตามมาเมาท์ในแชทปั๊บ และถึงบางคนจะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่อย่าลืมสิว่าโซเชี่ยลมันไว รูปแอบถง แอบถ่าย มีให้เห็นกันตรึมถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันฟาดด้วยรูป(เพิ่มรูปภาพ)ไม่นะ ฉันไม่พร้อมจะอกหักคบกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้ข่าวพวกนี้ต้องมีคนเชื่อ และไม่เชื่อผสมปนกันไป แต่พอมีรูปภาพจากมือดีมายืนยัน จากไม่เชื่อก็เริ่มเอนเอียง และคล้อยตามภาพที่เห็นว่า เออ! มีมูลมิน่าล่ะ ไม่เคยเห็นผู้ชายคบใครที่แท้เขามีตัวจริงโอ้ย! ฉันอิจจฉาแรงซินเจียโชคดีสุดๆ ไปเลยห้องแชทในกลุ่มบริษัทพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามที่อี้เทียนต้องการ ข่าวลือก่อนหน้านั้นโดนกลบชนิดที่ว่าไม่มีคนขุดคุ้ยหรือพูดถึงอีกต่อไป และข่าวลือใหม่ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์นั้นก็ทำเอาเขายิ้มไม่หุบเลย คู่รักคู่ใหม่ของบริษัทยินดีด้วยนะทำงานเก่งทั้งคู่เขาเหมาะสมกันอยู
[มีข้อความเข้า]ไห่ถาง : มึงอย่าลืมเอารถมาคืนด้วยนะเจิ้งหลุน : เออๆ กูไม่ลืมหรอกเจิ้งหลุนพิมพ์ข้อความตอบกลับเพื่อนที่ให้เขายืมรถมาใช้สองวัน แลกเปลี่ยนกับการแนะนำสาวๆ สวยๆ ให้สักคน [มีข้อความเข้า] พรุ่งนี้ครบกำหนดเช่านาฬิกา ถ้าคืนช้าทางร้านจะขออนุญาติปรับวันละสี่ร้อยหยวนข้อความแจ้งเตือนส่งมาจากร้านเช่าของแบรนด์เนมที่เจิ้งหลุนใช้บริการประจำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูท เข็มขัด จนไปถึงรองเท้าหนัง เขาเช่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุดที่ได้มาก็เป็นนาฬิกาที่เตะตาเขาเข้าอย่างจัง ถึงจะต้องวางมัดจำแพงกว่าทุกครั้ง เขาก็ยอม"แม่งเอ้ย! ทำอย่างกับว่ากูจะไม่คืน"ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นข้อความ เขาทิ้งตัวลงนั่งในห้องขนาดเล็กที่ไม่เหมาะจะอยู่กันสองคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพาผู้หญิงมานอนด้วยสักครั้งเดียว ผู้หญิงที่เขาเคยคบๆ มาถ้าไม่สวยมาก ก็ต้องรวยมาก แต่ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ไม่มีทางที่เขาจะเดินหน้าจีบ'สวยไหม'เจิ้งหลุนถามลงไปในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนิสัยชอบอวด ชอบโชว์เหมือนกัน 'แม่ง! ได้กินแต่ของดี''หาอย่างนี้ให้กูสักคน''เอามันส์ไหมวะ'นิสัยชอบอวดของเจิ้งหลุนไม่เคยแก้ได้ เวล
[เหมยลี่โพสต์อินสทา]@ผู้ชายชวนมาดื่มเบาๆ แคปชั่นมาพร้อมกับภาพข้อมือของผู้ชายที่กำลังจับมือเธอ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ก็จงใจถ่ายให้เห็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่กำลังเป็นกระแสใน 'ทิ้กท็อก' ถ้าใครใส่เขาก็ว่ารวย ร้วย รวย และบังเอิญผู้ชายที่เธอมาดื่มด้วยดันมีซะด้วยสิ!ใครอ่ะเหมยลี่?แค่เห็นข้อมือก็รู้ว่ารวยหาให้ฉันด้วยสักหนึ่งคน!ข้อความแซวของเพื่อนๆ ทำให้เหมยลี่ผุดรอยยิ้มที่เหนือกว่าออกมา ก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่ว่า...คนในความลับ🙊ปากบอกว่าคนในความลับ แต่แคปชั่นและภาพที่จงใจโพสต์ลงก็บอกให้รู้แล้วว่าลับถึงขั้นไหน เหมยลี่ที่อยากจะเอาชนะซินเจียสุดใจ เธอไม่ยอมหยุดแค่ดื่มเหล้าแล้วแยกย้ายกันไปนอน"เหล้าแรงจังเลยค่ะ""ไหวไหมครับ""เหมยลี่เมาแล้วแน่เลย"หญิงสาวพูดเสียงยานคาง แสร้งทำเป็นซบหน้าตรงแผ่นอกกว้าง ก่อนจะส่งสายตาหวานเหมือนหญิงสาวที่ไม่ประสา รอยยิ้มที่ส่งมามันยั่วยวนจนเจิ้งหลุนอดใจไม่ไหว ก้มลงประกบอย่างดูดดื่มจนแทบลืมหายใจ และมือเรียวก็ลูบไล้แถวต้นขาของเขาเบาๆ"ผมจะทนไม่ไหวเอานะครับ"ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเมา แต่มือกลับเลื้อยเก่งปลุกเร้าอารมณ
คำสารภาพรักเมื่อกี้ทำซินเจียตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอี้เทียนแอบชอบเธอ หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขอจีบเธอไป ท่าทางเขาดูเขินอาย ไม่ต่างอะไรจากเธอชอบเธอตอนไหน...ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่... มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ทำไมผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ ทุกคนในบริษัทอย่างเขาถึงได้มาชอบผู้หญิงที่ดูธรรมดาและไม่โดดเด่นอะไรอย่างเธอ"คุณล้อฉันเล่นรึเปล่าคะ"ซินเจียเอ่ยถามผู้ชายที่ยังคงสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง และน้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นก็เกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล้อกันเล่นขำๆ อย่างที่เธอถามไป"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"ความเขินอายที่แฝงในดวงตาคมคู่นั้นของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูนิ่ง แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงจนสังเกตุได้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยความในใจ แล้วเธอล่ะควรตอบเขากลับไปว่าอย่างไรดี"คือฉัน..."คำตอบไม่ทันได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี"คุณรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ""เอ่อ...ค่ะ"เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา พอเห็นชื่อของใครโทรมา
"มึงอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ"อาเฉินสะกิดบอกอี้เทียนเมื่อได้ยินสาวๆ ในแผนกเมาท์กันถึงเรื่องช่อดอกไม้ที่ส่งตรงถึงหน้าแผนกพัฒนา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินว่าช่อดอกไม้ระบุชื่อใคร เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ใส่เกียร์หมารีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนทันที และด้วยความที่หวังดีไง ก็เลยใส่ไฟหวังกระตุ้นให้เพื่อนตื่นตัว"หมาคาบไปแดกแน่มึง""ถ้ามัวแต่ช้าได้แดกแห้วแทนแน่ๆ""กูสมน้ำหน้ารอได้ไหม"ถึงคำพูดจะกดดัน แต่เขาก็หวังดีกับไอ้อี้เทียนจริงๆ ถ้ามันยังมัวแต่ช้า ไม่เริ่มจีบจริงจัง ความหล่อของมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่เอาใจ แต่ไอ้อี้เทียนกลับขี้อายไม่ออกตัวสักที ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้ แม่ง! มีแววแดกแห้วสูงมากเพื่อนกู"ข่าวจริงป่ะวะ"คนที่วางแผนจะสารภาพความในใจถึงกับต้องถามซ้ำอีกที "ข่าวมั่วมั้ง""ไอ้เฉินอย่ากวนตีน!"จากที่คิดว่าจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่รีบร้อนจีบอีกฝ่ายจนเกินไป ตอนนี้เขากลับอยู่นิ่งเหมือนเดิมไม่ไหว เพราะอยู่ๆ ก็มีผู้ชายที่มองเห็นเสน่ห์ในตัวของซินเจียเหมือนกัน ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นรุกแรง ต่างจากเขาที่เอาแต่มองและยังไม่เริ่มต้นจีบเลย "กูเพิ่งไปดูปฏิทินมา วันนี้เป็นวันดี ถ้ามึงไ







