LOGIN"เห็นข้อความเมื่อเช้าไหม"
"เห็นสิ"
"เธอว่าเรื่องจริงไหม"
"จริง ไม่จริง ไม่รู้ แต่ฉันแอดเพื่อนไปแล้ว"
"อุ้ย~ แรงมากกกกก!"
หัวข้อสนทนาในห้องแชทในวันนี้คงไม่พ้นเรื่องที่มีพนักงานที่ใช้นามแฝงว่า 'แอบแซ่บ' ส่งข้อความเข้ามาผิดกลุ่ม พอรู้ตัวว่าส่งผิดก็พิมพ์ขอโทษแล้วก็เงียบหายไป ปล่อยให้คนในห้องแชทของบริษัทที่โดนกระตุกต่อมเผือกอยากรู้ความจริง รีบกดแอดเพิ่มเพื่อนทันที
รับแอดด้วยค่าาา
เกาะขารอเผือก
ใบ้หน่อยได้ไหม
เปิดชื่อมาเลยค่ะ!
ข้อความที่แท็กมาทำให้ซินเจียอารมณ์ดีเกือบทั้งวัน เธอนั่งอ่านข้อความในห้องแชทที่กำลังพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างออกรส แม้กระทั่งพนักงานที่นั่งกินข้าวในโรงอาหารก็ยังหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเมาท์มอย
'เธอว่าเป็นใคร'
'มั่นมากเลยนะที่แย่งแฟนเพื่อน'
'ฉันล่ะอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นจริงๆ"
ขนาดยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริง หรือไม่จริง คนในบริษัทก็เริ่มให้ความสนใจ นามแฝง 'แอบแซ่บ' เป็นใคร ข้อความนั้นเป็นเรื่องจริงไหม แล้วใครที่กล้าแย่งแฟนเพื่อนกัน ในห้องแชทของบริษัทเต็มไปด้วยคำถามที่ผุดขึ้นมา แต่ทว่ากลับไม่มีใครให้คำตอบได้สักคน ซินเจียผุดยิ้มจางๆ ขณะนั่งอ่านข้อความที่เริ่มมีคนทำตัวเป็นนักสืบขุดคุ้ยว่าภาพโปรไฟล์ที่เห็นเพียงแผ่นหลังไกลๆ ใช่คนเดียวกันกับผู้หญิงที่แย่งแฟนเพื่อนหรือเปล่า เรื่องนี้ยังเป็นประเด็นพูดต่ออีกหลายวัน และนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใครบางคนร้อนรนถึงขนาดต้องถ่อมาหาเธอถึงที่แผนกพัฒนา
"เธอเห็นข้อความที่ส่งมาในแชทกลุ่มไหม"
"เห็นสิ ทำไมเหรอ"
ซินเจียที่โดนลากมาคุยในห้องน้ำถาม ท่าทีของเธอยังคงนิ่ง น้ำเสียงดูไม่สนใจ เพราะยังไม่อยากทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว
"ข่าวมั่วจริงๆ"
คนมันร้อนตัว ก็ต้องคิดว่าเป็นข่าวมั่วสินะ ซินเจียได้แต่หัวเราะในใจ ขณะเดียวกันใบหน้าสวยเฉี่ยวของเธอยังคงราบเรียบดังเดิม
"รู้ได้ไงว่าข่าวมั่ว"
หยั่งเชิงถามเพื่อนไป
"เพื่อนแท้เขาไม่แย่งแฟนเพื่อนหรอก"
จ้า~ พูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำเหลือเกินนะว่า 'เพื่อนแท้ไม่แย่งแฟนเพื่อน' ซินเจียแอบเบ้ปากเล็กน้อยไปกับท่าทีตอแหลนั้น ก่อนจะแสร้งพยักหน้าเออๆ ออๆ ตามน้ำไปเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อสนิทใจว่าเธอไม่ได้ระแคะระคายอะไรเลย
"ก็จริง"
"ใช่ไหมล่ะ"
พอเห็นว่าซินเจียคล้อยตาม เหมยลี่ก็เริ่มสบายใจ เพราะหลังจากที่เธอเห็นข้อความนั้น บอกตรงๆ ว่านอนไม่หลับเลย ถึงพนักงานที่ใช้นามแฝง 'แอบแซ่บ' จะไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่รูปโปรไฟล์ที่เห็นแผ่นหลังไกลๆ เป็นเธอแน่นอน
"งั้นฉันกลับไปทำงานก่อนนะ"
เมื่อมั่นใจว่าเพื่อนตัวเองยังคงโง่เหมือนเดิม เหมยลี่ก็กลับไปทำงานที่แผนกของตัวเองอย่างสบายใจ ภาพของสองสาวที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน เป็นภาพที่ทุกคนในบริษัทเห็นจนชิน เพราะตั้งแต่ที่พวกเธอเข้ามาทำงาน ก็ตัวติดกัน ถึงขั้นได้ฉายาว่าเป็น 'ปาท่องโก๋' ประจำบริษัทเลย
เหมยลี่กับซินเจียเป็นเพื่อนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกันคือ 'มันสมอง' ซินเจียเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ส่วนเธอรั้งท้าย กว่าจะเรียนจบได้ก็เกือบเอาตัวเองไม่รอด
เรียนก็เรียนด้วยกัน...
ทำงานก็ทำที่เดียวกัน
แต่ทำไมซินเจียถึงได้ทุกอย่างดีกว่าเธอ!
"หัวหน้าให้ฉันไปทำโปรเจ็คพิเศษ"
น้ำเสียงของซินเจียเต็มไปด้วยความดีใจ และนำข่าวดีมาบอกเพื่อนสนิทอย่างเหมยลี่คนแรก
"จริงเหรอๆ"
"อื้อ"
หญิงสาวพยักหน้ารับหงึกๆ เธอจับมือของเพื่อนรักแน่น เธอตั้งใจว่าถ้าหัวหน้าโปรเจ็คเห็นเธอทำงานดีจะลองขอหัวหน้าให้เหมยลี่มาร่วมโปรเจ็คนี้ด้วยอีกคน
"ดีใจด้วยนะ อย่างนี้ต้องฉลอง"
แรกๆ เธอก็ยินดีกับซินเจียจากใจ แต่หลังๆ ทำไมอะไรๆ ก็เรียกใช้แต่ซินเจียคนเดียว จากที่ได้รับโอกาสร่วมทำโปรเจ็ค ก็เขยิบจากพนักงานทั่วไปขึ้นมาเป็นผู้ช่วยฝึกหัด หลังจากนั้นสองปีหัวหน้าก็เสนอชื่อของซินเจียเป็น 'หัวหน้า' ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณท์ มีหน้า มีตา มีห้องทำงานเป็นส่วนตัว ในขณะที่เธอยังเป็นแค่พนักงานทั่วไป โดนใช้งานจับฉ่ายไปวันๆ
ไม่ยุติธรรม...
ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!
ซินเจียสูงเพรียว สวยโดดเด่นดูมั่นใจ ส่วนเหมยลี่นั้นแทบจะตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง บุคคลิกของเธอจะดูน่ารักตามแบบฉบับผู้หญิงไซส์มินิ เมื่อสองคนไปไหนมาไหนด้วยกัน คนที่ยิ้มเก่งอย่างเหมยลี่ย่อมเป็นจุดดึงดูดให้ผู้ชายมอง
"ถ้าให้กูเลือกนะ สวยที่สุดในบริษัทเราก็คงต้องยกให้น้องเหมยลี่แผนกจัดซื้อป่ะวะ"
"เห็นด้วย ตัวเล็กๆ น่าฟัดชะมัดเลย"
เหมยลี่ที่เพิ่งโดนหัวหน้าใช้ให้ไปซื้อกาแฟหลบหลังผนังทันที เมื่อได้ยินหนุ่มๆ ในที่ทำงานกำลังจัดอันดับสาวสวย พอได้ยินชื่อของตัวเองใบหน้าสวยหวานก็ยิ้มไม่หุบ ความสวยของเธอเป็นสิ่งเดียวที่มั่นใจ และคิดว่าจะใช้ประโยชน์จับผู้ชายรวยๆ ใช้ชีวิตเจ้าหญิงหลังแต่งงาน ซึ่งในสามคนที่ยืนคุยกัน มีหนึ่งคนที่เธอเล็งเอาไว้ก็คือ 'อี้เทียน' หนุ่มหล่อแผนกไอที มีดีกรีเป็นถึงหลานชายของประธานบริษัทนั้นเอง
"มึงล่ะว่าไง"
สะกิดเพื่อนที่ไม่ได้มีท่าทีสนใจ อยากพูดอยากจัดอันดับใครสวยที่สุดในบริษัทก็เชิญ
"กูเฉยๆ"
อี้เทียนตอบ
"ถ้ามึงไม่ชอบผู้หญิงไซส์มินิ แววตาใสซื่ออย่างน้องเหมยลี่ของกู อย่าบอกนะว่ามึงชอบแบบ....
คนที่เปิดประเด็นเงียบไป แต่นิ้วกลับชี้ไปที่ผู้หญิงตัวสูง ใบหน้าสวย แววตาเฉี่ยว รูปร่างเพรียวลมสมส่วน ที่สองมือกำลังหอบหิ้วของพะรุงพะรัง
"หุบปากไปเลย"
อี้เทียนทำเสียงเข้มใส่เพื่อนที่รู้ทัน ก่อนจะวิ่งไปเสนอตัวช่วยผู้หญิงใบหน้านิ่งที่เตะตาเขาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน ใบหน้าคมเข้มที่ดูเขินอาย ใบหูที่เริ่มแดงยามเสนอตัวเข้าไปช่วยทำให้เหมยลี่ที่ยืนมองอยู่ใกลๆ กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อก็ยังไม่รู้สึกตัว ดวงตาคู่สวยมองด้วยความอิจฉาขณะทั้งคู่เดินไปด้วยกัน ก่อนจะพึมพำรอดไรฟันว่า
"ซินเจีย..."
"ฉันเกลียดเธอ!"
[ห้องแชทบริษัท X]รถอย่างหรูเลยเขามีเจ้าของหรือยังบอกมานะว่า...แฟนใคร?ถัดจากเรื่องดอกไม้ ก็เป็นเรื่องรถหรูราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบริษัท เห็นจอดอยู่นาน ไม่รู้มาทำธุระ หรือว่ามารับใคร ถ้าเป็นลุงแก่ๆ หัวล้านๆ คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะเจ้าของรถที่เดินลงมาหน้าตาหล่อไม่น้อยไปกว่าดาราเลยเขามีเจ้าของแล้วว้าย~ เธอตกข่าวนะจ๊ะฟาดด้วยรูปซะเลย!มุมปากสวยได้รูปยิ้มจางๆ เมื่อเห็นรูปของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถคันหรูไป แน่นอนว่ามุมมันได้ และรูปแอบถ่ายของเธอก็ดูดีซะด้วย@เหมยลี่ แฟนเธอเหรอ?@เหมยลี่ ไปหามาจากไหน?@เหมยลี่ ผู้หล่อและรวยมาก!!!ข้อความที่แท็กมายิ่งทำให้เหมยลี่ได้ใจ ยิ่งคนพูดถึงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดว่าผู้ชายที่แย่งมาได้คือของดี และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน หญิงสาวคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม คนที่มันคลิ้กกัน แค่มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ภาษากายก็สื่อถึงกัน "หิวไหมคะ""หิวครับ หิวมาก"ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มแฝงความนัย เสน่ห์ของเธอมันชวนให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มจริงๆ"คุณอยากกินอะไรคะ""ให้ผมเลือกเหรอครับ""ค่ะ"ห
[ห้องแชทบริษัท X]สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันเหรอ??เรื่องจริงใช่ไหม???ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเห็นดอกไม้ไหม...ช่อใหญ่เว่อร์อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ใครคบใคร ใครเลิกใคร เป็นเรื่องที่ชวนให้เผือกอยากเสือกมากที่สุด พอมีคนจุดประเด็นปุ๊บ คนอื่นก็แห่ตามมาเมาท์ในแชทปั๊บ และถึงบางคนจะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่อย่าลืมสิว่าโซเชี่ยลมันไว รูปแอบถง แอบถ่าย มีให้เห็นกันตรึมถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันฟาดด้วยรูป(เพิ่มรูปภาพ)ไม่นะ ฉันไม่พร้อมจะอกหักคบกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้ข่าวพวกนี้ต้องมีคนเชื่อ และไม่เชื่อผสมปนกันไป แต่พอมีรูปภาพจากมือดีมายืนยัน จากไม่เชื่อก็เริ่มเอนเอียง และคล้อยตามภาพที่เห็นว่า เออ! มีมูลมิน่าล่ะ ไม่เคยเห็นผู้ชายคบใครที่แท้เขามีตัวจริงโอ้ย! ฉันอิจจฉาแรงซินเจียโชคดีสุดๆ ไปเลยห้องแชทในกลุ่มบริษัทพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามที่อี้เทียนต้องการ ข่าวลือก่อนหน้านั้นโดนกลบชนิดที่ว่าไม่มีคนขุดคุ้ยหรือพูดถึงอีกต่อไป และข่าวลือใหม่ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์นั้นก็ทำเอาเขายิ้มไม่หุบเลย คู่รักคู่ใหม่ของบริษัทยินดีด้วยนะทำงานเก่งทั้งคู่เขาเหมาะสมกันอยู
[มีข้อความเข้า]ไห่ถาง : มึงอย่าลืมเอารถมาคืนด้วยนะเจิ้งหลุน : เออๆ กูไม่ลืมหรอกเจิ้งหลุนพิมพ์ข้อความตอบกลับเพื่อนที่ให้เขายืมรถมาใช้สองวัน แลกเปลี่ยนกับการแนะนำสาวๆ สวยๆ ให้สักคน [มีข้อความเข้า] พรุ่งนี้ครบกำหนดเช่านาฬิกา ถ้าคืนช้าทางร้านจะขออนุญาติปรับวันละสี่ร้อยหยวนข้อความแจ้งเตือนส่งมาจากร้านเช่าของแบรนด์เนมที่เจิ้งหลุนใช้บริการประจำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูท เข็มขัด จนไปถึงรองเท้าหนัง เขาเช่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุดที่ได้มาก็เป็นนาฬิกาที่เตะตาเขาเข้าอย่างจัง ถึงจะต้องวางมัดจำแพงกว่าทุกครั้ง เขาก็ยอม"แม่งเอ้ย! ทำอย่างกับว่ากูจะไม่คืน"ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นข้อความ เขาทิ้งตัวลงนั่งในห้องขนาดเล็กที่ไม่เหมาะจะอยู่กันสองคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพาผู้หญิงมานอนด้วยสักครั้งเดียว ผู้หญิงที่เขาเคยคบๆ มาถ้าไม่สวยมาก ก็ต้องรวยมาก แต่ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ไม่มีทางที่เขาจะเดินหน้าจีบ'สวยไหม'เจิ้งหลุนถามลงไปในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนิสัยชอบอวด ชอบโชว์เหมือนกัน 'แม่ง! ได้กินแต่ของดี''หาอย่างนี้ให้กูสักคน''เอามันส์ไหมวะ'นิสัยชอบอวดของเจิ้งหลุนไม่เคยแก้ได้ เวล
[เหมยลี่โพสต์อินสทา]@ผู้ชายชวนมาดื่มเบาๆ แคปชั่นมาพร้อมกับภาพข้อมือของผู้ชายที่กำลังจับมือเธอ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ก็จงใจถ่ายให้เห็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่กำลังเป็นกระแสใน 'ทิ้กท็อก' ถ้าใครใส่เขาก็ว่ารวย ร้วย รวย และบังเอิญผู้ชายที่เธอมาดื่มด้วยดันมีซะด้วยสิ!ใครอ่ะเหมยลี่?แค่เห็นข้อมือก็รู้ว่ารวยหาให้ฉันด้วยสักหนึ่งคน!ข้อความแซวของเพื่อนๆ ทำให้เหมยลี่ผุดรอยยิ้มที่เหนือกว่าออกมา ก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่ว่า...คนในความลับ🙊ปากบอกว่าคนในความลับ แต่แคปชั่นและภาพที่จงใจโพสต์ลงก็บอกให้รู้แล้วว่าลับถึงขั้นไหน เหมยลี่ที่อยากจะเอาชนะซินเจียสุดใจ เธอไม่ยอมหยุดแค่ดื่มเหล้าแล้วแยกย้ายกันไปนอน"เหล้าแรงจังเลยค่ะ""ไหวไหมครับ""เหมยลี่เมาแล้วแน่เลย"หญิงสาวพูดเสียงยานคาง แสร้งทำเป็นซบหน้าตรงแผ่นอกกว้าง ก่อนจะส่งสายตาหวานเหมือนหญิงสาวที่ไม่ประสา รอยยิ้มที่ส่งมามันยั่วยวนจนเจิ้งหลุนอดใจไม่ไหว ก้มลงประกบอย่างดูดดื่มจนแทบลืมหายใจ และมือเรียวก็ลูบไล้แถวต้นขาของเขาเบาๆ"ผมจะทนไม่ไหวเอานะครับ"ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเมา แต่มือกลับเลื้อยเก่งปลุกเร้าอารมณ
คำสารภาพรักเมื่อกี้ทำซินเจียตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอี้เทียนแอบชอบเธอ หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขอจีบเธอไป ท่าทางเขาดูเขินอาย ไม่ต่างอะไรจากเธอชอบเธอตอนไหน...ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่... มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ทำไมผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ ทุกคนในบริษัทอย่างเขาถึงได้มาชอบผู้หญิงที่ดูธรรมดาและไม่โดดเด่นอะไรอย่างเธอ"คุณล้อฉันเล่นรึเปล่าคะ"ซินเจียเอ่ยถามผู้ชายที่ยังคงสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง และน้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นก็เกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล้อกันเล่นขำๆ อย่างที่เธอถามไป"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"ความเขินอายที่แฝงในดวงตาคมคู่นั้นของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูนิ่ง แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงจนสังเกตุได้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยความในใจ แล้วเธอล่ะควรตอบเขากลับไปว่าอย่างไรดี"คือฉัน..."คำตอบไม่ทันได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี"คุณรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ""เอ่อ...ค่ะ"เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา พอเห็นชื่อของใครโทรมา
"มึงอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ"อาเฉินสะกิดบอกอี้เทียนเมื่อได้ยินสาวๆ ในแผนกเมาท์กันถึงเรื่องช่อดอกไม้ที่ส่งตรงถึงหน้าแผนกพัฒนา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินว่าช่อดอกไม้ระบุชื่อใคร เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ใส่เกียร์หมารีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนทันที และด้วยความที่หวังดีไง ก็เลยใส่ไฟหวังกระตุ้นให้เพื่อนตื่นตัว"หมาคาบไปแดกแน่มึง""ถ้ามัวแต่ช้าได้แดกแห้วแทนแน่ๆ""กูสมน้ำหน้ารอได้ไหม"ถึงคำพูดจะกดดัน แต่เขาก็หวังดีกับไอ้อี้เทียนจริงๆ ถ้ามันยังมัวแต่ช้า ไม่เริ่มจีบจริงจัง ความหล่อของมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่เอาใจ แต่ไอ้อี้เทียนกลับขี้อายไม่ออกตัวสักที ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้ แม่ง! มีแววแดกแห้วสูงมากเพื่อนกู"ข่าวจริงป่ะวะ"คนที่วางแผนจะสารภาพความในใจถึงกับต้องถามซ้ำอีกที "ข่าวมั่วมั้ง""ไอ้เฉินอย่ากวนตีน!"จากที่คิดว่าจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่รีบร้อนจีบอีกฝ่ายจนเกินไป ตอนนี้เขากลับอยู่นิ่งเหมือนเดิมไม่ไหว เพราะอยู่ๆ ก็มีผู้ชายที่มองเห็นเสน่ห์ในตัวของซินเจียเหมือนกัน ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นรุกแรง ต่างจากเขาที่เอาแต่มองและยังไม่เริ่มต้นจีบเลย "กูเพิ่งไปดูปฏิทินมา วันนี้เป็นวันดี ถ้ามึงไ







