LOGINในเมื่อเห็นกับตา จะให้ปั้นหน้าแสร้งทำว่าปกติดีมันก็ยากสำหรับผู้หญิงที่ปากตรงกับใจอย่างเธอจริงๆ
เจิ้งหลุน : คุณโกรธผมรึเปล่า
ซินเจีย : เปล่า
ซินเจียพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
เจิ้งหลุน : ผมคิดถึงคุณ ให้ผมไปรับคุณที่คอนโดเย็นนี้ดีไหม เราจะได้ไปกินข้าวด้วยกัน
ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงดีใจ แต่ตอนนี้มันรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากอ้วกออกมา สายตาของเธอว่างเปล่าเย็นชา หยดน้ำตามันแห้งเหือดไปหมดแล้วจริงๆ
ซินเจีย : ไปกันสองคนเหรอคะ
เจิ้งหลุน : ครับ
ซินเจีย : ชวนเหมยลี่ไปด้วยได้ไหม
ซินเจียที่มีแผนในใจเกริ่นถามไป
เจิ้งหลุน : แล้วแต่คุณเลย
ข้อความโต้ตอบที่ดูปกติธรรมดา ทำให้ซินเจียเคยเชื่อหมดใจ บางครั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกันสามคนเจิ้งหลุนยังโชว์หวานต่อหน้าเพื่อนของเธอเลย
Trrr📞
[เหมยลี่ calling]
หลังจากชายโฉดส่งข้อความมา หญิงชั่วก็เหมือนมีเซนส์โทรมาหาเธอทันที ซินเจียจงใจไม่รับโทรศัพท์ เธอปล่อยให้มันดัง จนกระทั่งสายตัดไป อยากติดต่อเธอให้ได้ ก็คงต้องพยายามมากหน่อยนะเหมยลี่
เหมยลี่ : เป็นอะไรรึเปล่า??
พอไม่รับก็ส่งข้อความ ดูเหมือนเป็นห่วง แต่แท้จริงแล้วคงแค่อยากรู้ว่าเธอทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ได้อยู่กับเจิ้งหลุนรึเปล่าก็แค่นั้นเอง
ซินเจีย : พอดีไม่ค่อยสบาย ฉันลางานกับฝ่ายบุคคลแลัว พี่เขาไม่ได้บอกเธอเหรอ?
เหมยลี่ : บอกแค่ว่าเธอลาพักร้อน แล้วทำไมถึงไม่ติดต่อมาเลย เล่นเงียบหายไปอย่างนี้จะให้ฉันไม่เป็นห่วงเธอได้ยังไง แล้วพี่เจิ้นรู้รึเปล่าว่าเธอไม่สบาย แล้วใครหาข้าวหาปลาให้กิน โอ้ย~ เดี๋ยวฉันแวะไปหาเธอตอนนี้เลย
ข้อความที่ส่งมายาวเหยียด หากเป็นแต่ก่อนเธออ่านแล้วคงรู้สึกดีใจที่มีเพื่อนทั้งรักและเป็นห่วงถึงขนาดจะบึ่งรถมาหาที่คอนโด ช่างเป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ เลย
ซินเจีย : เย็นนี้ว่างไหม
เหมยลี่ : ทำไมเหรอ??
ซินเจีย.: ไปกินข้าวกัน
เหมยลี่ : พี่เจิ้นไปด้วยไหม
ซินเจีย : ต้องไปด้วยอยู่แล้ว
เหมยลี่ : พี่เจิ้นจะไม่ว่าฉันเป็นก้างเหรอ
ตอแหลมาก ตอแหลสุดๆ ซินเจียคิดในใจ เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าโดนเธอปั่นบ้าง เหมยลี่จะรู้สึกยังไง
ซินเจีย : ว่าบ่อยเลยล่ะ!
เหมยลี่ : [.....]
ซินเจีย : ล้อเล่นน่ะ อย่าคิดมากสิ
ข้อความที่เงียบหายไป ทำให้ซินเจียเดาว่าเหมยลี่คงกำลังโกรธจนตัวสั่นอยู่แน่นอน ถึงเธอจะโกหก แต่ก็ไม่ได้กลัวบาป เพราะสิ่งที่พวกนั้นทำกับเธอ มันเอามาเทียบกันไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยวเลย
เจิ้งหลุน : คุณแต่งตัวเสร็จรึยัง ผมจอดรถรอที่ด้านล่างคอนโดแล้วนะ
ข้อความที่ส่งมาของแฟนหนุ่มไม่ได้มีผลอะไรเลย หญิงสาวยังคงแต่งหน้า แต่งตัวอย่างเชื่องช้า ถ้ารอได้ก็รอไป รอไม่ได้ก็กลับไปก่อนเลย เวลาที่นัดคือห้าโมงเย็น แต่กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็ปาไปห้าโมงสี่สิบห้านาที
"รอนานไหมคะ"
ซินเจียที่เข้ามานั่งในรถเอ่ยถามแฟนหนุ่ม หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มันทำให้แผลในหัวใจของเธอเริ่มตกสะเก็ด ไม่เจ็บมากเหมือนแต่ก่อน
"ไม่นานครับ"
ตัดบัวต้องไม่ให้เหลือใย แต่ไอ้ใยบางๆ ที่ยังคงเหลืออยู่น้อยนิดนั้นก็ทำให้เธออยากถามเจิ้งหลุนออกไปตรงๆ เหลือเกินว่า...
เคยรักฉันบ้างไหม?
แต่นั่นมันเป็นแค่ความคิดที่แว่บเข้ามาในสมองไม่ถึงห้าวินาที เพราะเธอรู้ดีแก่ใจว่าที่ผ่านมาเจิ้งหลุนไม่เคยรักเธอ เพราะสิ่งที่เขารักก็คือ 'เงิน' ของเธอ ขนาดยังไม่แต่งงานเธอยังเปย์ให้เป็นแสนๆ แล้วนับประสาอะไรกับสินสมรสที่จะแบ่งหารครึ่งกับสามี
"คุณผอมลงรึเปล่า"
คำถามนั้นดึงซินเจียให้หลุดจากภวังค์ เธอเพียงแค่ยิ้มรับบางๆ ให้กับแฟนหนุ่มที่เอาใจเธอด้วยการเปิดเพลงโปรดให้ฟัง ก่อนจะยื่นมือหนามากอบกุมมือเรียวของเธอ หากเป็นแต่ก่อนคงรู้สึกอุ่นซ่านไปถึงหัวใจ แต่ตอนนี้มันเหมือนเธอกำลังกุมก้อนน้ำแข็งเย็นๆ เอาไว้ และมันก็กำลังบาดมือเธอ
"อร่อยไหมที่รัก"
เสียงทุ้มถาม
"ค่ะ"
หญิงสาวพยักหน้า อาหารที่สั่งมารสชาติดี สมราคา แต่พอเหมยลี่มา หมูผัดเปรี้ยวหวานที่กำลังจะกลืนลงไปก็ไร้สรชาติขึ้นมาทันที
"ขอโทษที่มาช้านะ รถติดมากเลย"
เหมยลี่ทำหน้ารู้สึกผิด ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เจิ้งหลุน แทนที่จะนั่งข้างเธอ หญิงสาวได้แต่มองและแค่นหัวเราะในใจ ที่ผ่านมาทำไมเธอถึงได้ไม่ระแคะระคายอะไรเลย
"เดี๋ยวผมไปส่งคุณนะ"
"ค่ะ"
หญิงสาวพยักหน้า ก่อนจะปรายหางตาไปมองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดเป็นพักๆ
"แล้วเหมยลี่ล่ะคะ"
แกล้งถามไป แต่มือเรียวยังเกาะแขนแฟนหนุ่มไม่ห่างจากตัว ผู้หญิงที่ทำงานเก่ง ใช่ว่าจะออดอ้อนไม่เป็นสักหน่อย
"มาเอง ก็กลับเองได้ใช่ไหม"
ซินเจียพูดออกไป ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้แฟนหนุ่มที่ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวจริงๆ
"สงสัยวันนั้นของเดือน"
ซินเจียพูดพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนสนิทที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์ และเดินกระแทกส้นสูงขึ้นแท็กซี่ไป
"ไปคอนโดผมนะครับ"
ชายหนุ่มส่งสายตาออดอ้อนแฟนสาว ท่าทีห่างเหินของเธอทำเขาแอบกังวลใจ จึงอยากใช้ความสัมพันธ์ทางกายทำให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิม
รู้ทั้งรู้ว่าเจิ้งหลุนหมายถึงอะไร แต่คนที่มันหมดใจและเจ็บอย่างเธอไม่มีอารมณ์ แค่รสจูบหวานๆ ที่ทำเธอหลง แต่ตอนนี้มันขมจนอยากอาเจียนออกมา มือหนาที่สอดเข้ามาภายใต้กระโปรงไม่ได้ทำให้เธอว้อนท์ขึ้นมาเลย
"อย่าค่ะ"
หญิงสาวร้องห้าม แต่มือของแฟนหนุ่มก็ยังรุ่มร่ามไม่หยุด
"ฉันบอกว่าไม่ไงคะ!"
เสียงหวานตวาดดัง ดวงตาที่มองมามีแววตำหนิอย่างชัดเจน ทำไมแต่ก่อนเธอถึงหน้ามืด ตามัว เออๆ ออๆ ไปกับผู้ชายที่นึกอยากทำก็ทำโดยไม่แคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายเลย
"คุณจะไปไหน"
ชายหนุ่มถามเมื่ออยู่ๆ หญิงสาวก็เปิดประตูรถลงไป
"ฉันจะกลับไปนอนที่คอนโดตัวเอง"
แน่นอนว่าเธอไม่พอใจ แต่ส่วนหนึ่งมันก็เป็นการแสดงด้วยเหมือนกัน ผู้ชายที่กำลังมีอารมณ์ ถ้าไม่มีที่ลง จะทำยังไง มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะสั่งให้คนขับรถแท็กซี่ตามรถของแฟนหนุ่มห่างๆ ไม่ให้รู้ตัว
เป็นไปอย่างที่เธอคิด...
เหมยลี่ลงจากแท็กซี่มายืนรอ ถึงหน้าของ เธอจะบูด แต่พอชายหนุ่มเปิดประตูรถลงไปง้อแป๊บเดียวก็หายโกรธ เดินคลอเคลียขึ้นไปนั่งตำแหน่งเดียวกันกับที่เธอเคยนั่งก่อนหน้านี้
"ให้ขับตามไปไหมครับ"
ลุงขับรถแท็กซี่ถาม
"ตามไปเลยค่ะ"
รถสีขาวไม่ได้ตรงกลับไปที่คอนโด แต่ขับเลี้ยวเข้าม่านรูดแถวนั้นแทน ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างซินเจียไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อนำมารวมกับข้อมูลที่เธอได้มาจากนักสืบมันก็เพียงพอที่เธอจะแฉสองคนนี้ให้อายจนไม่มีที่ยืน
ในบริษัทจะมีกลุ่มไลน์ของบริษัทที่จะเอาไว้แจ้งประกาศนู่น นี่ นั่น ซึ่งเอาไว้เป็นอีกช่องทางสำหรับกระจายข่าวสารให้คนทั้งบริษัทรับรู้ แต่ส่วนใหญ่คนจะใช้ในการเมาท์มอยกันมากกว่า โทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเธอมีเครื่องที่ใช้ประจำ กับอีกเครื่องที่เพิ่งซื้อมา เธอเพิ่งแกะซิมใส่สดๆ ร้อนๆ เลย
ทุกอย่างง่ายแสนง่าย เธอแค่สแกนคิวอาร์โค้ดที่ทางบริษัทให้มา ไลน์ใหม่ที่ใช้ชื่อว่า 'แอบแซ่บ' ก็แอดเพิ่ม [บริษัท X ] เป็นเพื่อนทันที รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นตรงมุมปาก ในขณะที่ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังรูปโปรไฟล์ ถึงจะไม่เห็นหน้าชัดๆ และเห็นเพียงแผ่นหลังไกลๆ แต่คงไม่ยากเกินกว่าจะคาดเดา โดยเฉพาะไอ้ข่าวคาวๆ มันน่าตามเผือก ตามขุดยิ่งกว่าอะไรดี และนับจากนาทีนี้เป็นต้นไป
ฉัน 'ซินเจีย'
เพื่อนรักแสนดีคนนี้...
จะเป็นคนเปิดหน้ากากของเธอเอง!
[ห้องแชทบริษัท X]รถอย่างหรูเลยเขามีเจ้าของหรือยังบอกมานะว่า...แฟนใคร?ถัดจากเรื่องดอกไม้ ก็เป็นเรื่องรถหรูราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบริษัท เห็นจอดอยู่นาน ไม่รู้มาทำธุระ หรือว่ามารับใคร ถ้าเป็นลุงแก่ๆ หัวล้านๆ คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะเจ้าของรถที่เดินลงมาหน้าตาหล่อไม่น้อยไปกว่าดาราเลยเขามีเจ้าของแล้วว้าย~ เธอตกข่าวนะจ๊ะฟาดด้วยรูปซะเลย!มุมปากสวยได้รูปยิ้มจางๆ เมื่อเห็นรูปของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถคันหรูไป แน่นอนว่ามุมมันได้ และรูปแอบถ่ายของเธอก็ดูดีซะด้วย@เหมยลี่ แฟนเธอเหรอ?@เหมยลี่ ไปหามาจากไหน?@เหมยลี่ ผู้หล่อและรวยมาก!!!ข้อความที่แท็กมายิ่งทำให้เหมยลี่ได้ใจ ยิ่งคนพูดถึงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดว่าผู้ชายที่แย่งมาได้คือของดี และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน หญิงสาวคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม คนที่มันคลิ้กกัน แค่มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ภาษากายก็สื่อถึงกัน "หิวไหมคะ""หิวครับ หิวมาก"ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มแฝงความนัย เสน่ห์ของเธอมันชวนให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มจริงๆ"คุณอยากกินอะไรคะ""ให้ผมเลือกเหรอครับ""ค่ะ"ห
[ห้องแชทบริษัท X]สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันเหรอ??เรื่องจริงใช่ไหม???ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเห็นดอกไม้ไหม...ช่อใหญ่เว่อร์อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ใครคบใคร ใครเลิกใคร เป็นเรื่องที่ชวนให้เผือกอยากเสือกมากที่สุด พอมีคนจุดประเด็นปุ๊บ คนอื่นก็แห่ตามมาเมาท์ในแชทปั๊บ และถึงบางคนจะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่อย่าลืมสิว่าโซเชี่ยลมันไว รูปแอบถง แอบถ่าย มีให้เห็นกันตรึมถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันฟาดด้วยรูป(เพิ่มรูปภาพ)ไม่นะ ฉันไม่พร้อมจะอกหักคบกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้ข่าวพวกนี้ต้องมีคนเชื่อ และไม่เชื่อผสมปนกันไป แต่พอมีรูปภาพจากมือดีมายืนยัน จากไม่เชื่อก็เริ่มเอนเอียง และคล้อยตามภาพที่เห็นว่า เออ! มีมูลมิน่าล่ะ ไม่เคยเห็นผู้ชายคบใครที่แท้เขามีตัวจริงโอ้ย! ฉันอิจจฉาแรงซินเจียโชคดีสุดๆ ไปเลยห้องแชทในกลุ่มบริษัทพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามที่อี้เทียนต้องการ ข่าวลือก่อนหน้านั้นโดนกลบชนิดที่ว่าไม่มีคนขุดคุ้ยหรือพูดถึงอีกต่อไป และข่าวลือใหม่ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์นั้นก็ทำเอาเขายิ้มไม่หุบเลย คู่รักคู่ใหม่ของบริษัทยินดีด้วยนะทำงานเก่งทั้งคู่เขาเหมาะสมกันอยู
[มีข้อความเข้า]ไห่ถาง : มึงอย่าลืมเอารถมาคืนด้วยนะเจิ้งหลุน : เออๆ กูไม่ลืมหรอกเจิ้งหลุนพิมพ์ข้อความตอบกลับเพื่อนที่ให้เขายืมรถมาใช้สองวัน แลกเปลี่ยนกับการแนะนำสาวๆ สวยๆ ให้สักคน [มีข้อความเข้า] พรุ่งนี้ครบกำหนดเช่านาฬิกา ถ้าคืนช้าทางร้านจะขออนุญาติปรับวันละสี่ร้อยหยวนข้อความแจ้งเตือนส่งมาจากร้านเช่าของแบรนด์เนมที่เจิ้งหลุนใช้บริการประจำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูท เข็มขัด จนไปถึงรองเท้าหนัง เขาเช่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุดที่ได้มาก็เป็นนาฬิกาที่เตะตาเขาเข้าอย่างจัง ถึงจะต้องวางมัดจำแพงกว่าทุกครั้ง เขาก็ยอม"แม่งเอ้ย! ทำอย่างกับว่ากูจะไม่คืน"ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นข้อความ เขาทิ้งตัวลงนั่งในห้องขนาดเล็กที่ไม่เหมาะจะอยู่กันสองคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพาผู้หญิงมานอนด้วยสักครั้งเดียว ผู้หญิงที่เขาเคยคบๆ มาถ้าไม่สวยมาก ก็ต้องรวยมาก แต่ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ไม่มีทางที่เขาจะเดินหน้าจีบ'สวยไหม'เจิ้งหลุนถามลงไปในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนิสัยชอบอวด ชอบโชว์เหมือนกัน 'แม่ง! ได้กินแต่ของดี''หาอย่างนี้ให้กูสักคน''เอามันส์ไหมวะ'นิสัยชอบอวดของเจิ้งหลุนไม่เคยแก้ได้ เวล
[เหมยลี่โพสต์อินสทา]@ผู้ชายชวนมาดื่มเบาๆ แคปชั่นมาพร้อมกับภาพข้อมือของผู้ชายที่กำลังจับมือเธอ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ก็จงใจถ่ายให้เห็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่กำลังเป็นกระแสใน 'ทิ้กท็อก' ถ้าใครใส่เขาก็ว่ารวย ร้วย รวย และบังเอิญผู้ชายที่เธอมาดื่มด้วยดันมีซะด้วยสิ!ใครอ่ะเหมยลี่?แค่เห็นข้อมือก็รู้ว่ารวยหาให้ฉันด้วยสักหนึ่งคน!ข้อความแซวของเพื่อนๆ ทำให้เหมยลี่ผุดรอยยิ้มที่เหนือกว่าออกมา ก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่ว่า...คนในความลับ🙊ปากบอกว่าคนในความลับ แต่แคปชั่นและภาพที่จงใจโพสต์ลงก็บอกให้รู้แล้วว่าลับถึงขั้นไหน เหมยลี่ที่อยากจะเอาชนะซินเจียสุดใจ เธอไม่ยอมหยุดแค่ดื่มเหล้าแล้วแยกย้ายกันไปนอน"เหล้าแรงจังเลยค่ะ""ไหวไหมครับ""เหมยลี่เมาแล้วแน่เลย"หญิงสาวพูดเสียงยานคาง แสร้งทำเป็นซบหน้าตรงแผ่นอกกว้าง ก่อนจะส่งสายตาหวานเหมือนหญิงสาวที่ไม่ประสา รอยยิ้มที่ส่งมามันยั่วยวนจนเจิ้งหลุนอดใจไม่ไหว ก้มลงประกบอย่างดูดดื่มจนแทบลืมหายใจ และมือเรียวก็ลูบไล้แถวต้นขาของเขาเบาๆ"ผมจะทนไม่ไหวเอานะครับ"ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเมา แต่มือกลับเลื้อยเก่งปลุกเร้าอารมณ
คำสารภาพรักเมื่อกี้ทำซินเจียตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอี้เทียนแอบชอบเธอ หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขอจีบเธอไป ท่าทางเขาดูเขินอาย ไม่ต่างอะไรจากเธอชอบเธอตอนไหน...ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่... มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ทำไมผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ ทุกคนในบริษัทอย่างเขาถึงได้มาชอบผู้หญิงที่ดูธรรมดาและไม่โดดเด่นอะไรอย่างเธอ"คุณล้อฉันเล่นรึเปล่าคะ"ซินเจียเอ่ยถามผู้ชายที่ยังคงสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง และน้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นก็เกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล้อกันเล่นขำๆ อย่างที่เธอถามไป"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"ความเขินอายที่แฝงในดวงตาคมคู่นั้นของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูนิ่ง แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงจนสังเกตุได้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยความในใจ แล้วเธอล่ะควรตอบเขากลับไปว่าอย่างไรดี"คือฉัน..."คำตอบไม่ทันได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี"คุณรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ""เอ่อ...ค่ะ"เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา พอเห็นชื่อของใครโทรมา
"มึงอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ"อาเฉินสะกิดบอกอี้เทียนเมื่อได้ยินสาวๆ ในแผนกเมาท์กันถึงเรื่องช่อดอกไม้ที่ส่งตรงถึงหน้าแผนกพัฒนา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินว่าช่อดอกไม้ระบุชื่อใคร เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ใส่เกียร์หมารีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนทันที และด้วยความที่หวังดีไง ก็เลยใส่ไฟหวังกระตุ้นให้เพื่อนตื่นตัว"หมาคาบไปแดกแน่มึง""ถ้ามัวแต่ช้าได้แดกแห้วแทนแน่ๆ""กูสมน้ำหน้ารอได้ไหม"ถึงคำพูดจะกดดัน แต่เขาก็หวังดีกับไอ้อี้เทียนจริงๆ ถ้ามันยังมัวแต่ช้า ไม่เริ่มจีบจริงจัง ความหล่อของมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่เอาใจ แต่ไอ้อี้เทียนกลับขี้อายไม่ออกตัวสักที ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้ แม่ง! มีแววแดกแห้วสูงมากเพื่อนกู"ข่าวจริงป่ะวะ"คนที่วางแผนจะสารภาพความในใจถึงกับต้องถามซ้ำอีกที "ข่าวมั่วมั้ง""ไอ้เฉินอย่ากวนตีน!"จากที่คิดว่าจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่รีบร้อนจีบอีกฝ่ายจนเกินไป ตอนนี้เขากลับอยู่นิ่งเหมือนเดิมไม่ไหว เพราะอยู่ๆ ก็มีผู้ชายที่มองเห็นเสน่ห์ในตัวของซินเจียเหมือนกัน ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นรุกแรง ต่างจากเขาที่เอาแต่มองและยังไม่เริ่มต้นจีบเลย "กูเพิ่งไปดูปฏิทินมา วันนี้เป็นวันดี ถ้ามึงไ







