LOGIN"อเมริกาโน่เย็นหนึ่งแก้วค่ะ"
ซินเจียเดินมาสั่งกาแฟในร้านที่ตั้งอยู่ข้างๆ บริษัทก่อนขึ้นไปทำงาน ซึ่งเมนูโปรดที่เธอชอบดื่มและสั่งประจำจนป้าเจ้าของร้านจำได้ก็คือ 'อเมริกาโน่เย็น' พอสั่งเสร็จเธอก็จะไปนั่งรอที่โซฟามุมเดิม หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูไปพลางๆ โดยไม่ได้สังเกตุด้วยซ้ำว่ามีใครแอบมอง
"ไม่เข้าไปทักล่ะ"
เพื่อนสนิทในแผนกสะกิดอี้เทียนที่ชอบอ้างว่า 'ง่วงนอน' และลากเขาให้มานั่งแช่แอร์ในร้านกาแฟเก่าๆ ข้างบริษัททุกวัน ทั้งที่มันไม่เคยดื่มกาแฟหมดแก้วเลย
"ไม่ดีกว่า"
ชายหนุ่มส่ายหน้า หากเป็นแต่ก่อนเขาคงเสนอหน้าเข้าไปชวนเธอคุยนู่น นี่ นั่น ในฐานะคนที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน แล้วก็อ้างว่าบังเอิญเหมือนเคย
"ชอบเขาก็พูดสิวะ จะอมพะนำเพื่อ??"
เพื่อนที่มาด้วยกันทำน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นอี้เทียนไม่คิดจะทำอะไร เอาแต่นั่งถอนหายใจและมองไปยังหญิงสาวที่จะชอบมาซื้อกาแฟร้านนี้ในเวลาเดิมๆ และก็นั่งรอที่โซฟาตัวเดิม เพิ่มเติมคืออี้เทียนจะเลือกนั่งในมุมที่มองเห็นโซฟาตัวนั้นพอดิบพอดี แม่ง! ทำขนาดนี้ ถ้าเขาไม่รู้ว่าเพื่อน 'ชอบ' ก็คงโง่เป็นควายแล้วมั้ง
"พูดไปตอนนี้จะมีประโยชน์อะไรวะ"
ชายหนุ่มตอบกลับ เขาเพิ่งรู้ว่าเธอมีแฟน และมีแพลนว่าจะแต่งงาน วันนั้นทั้งวันเขาแทบทำงานไม่ได้เลย
"ก็มึงมัวแต่ช้า"
ว่าให้เพื่อนสนิทที่จะรุกก็ไม่รุก มัวแต่เนิบๆ ช้าๆ ค่อยเป็น ค่อยไป ความหล่อที่มีไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายก็เลยโดนหมาตัวอื่นคาบไปแดกก่อนซะงั้น
"ตอกย้ำกูเพื่อ??"
อี้เทียนมองค้อนเพื่อนที่ไม่ให้กำลังใจแต่กลับทับถมกัน ก่อนจะพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงปนผิดหวังเบาๆ
"ถ้าผมรู้...."
"ผมจะจีบคุณให้เร็วกว่านี้"
"พี่เจิ้ง ดูนี่ๆ"
เหมยลี่เขย่าแขนชายหนุ่มที่นัดเจอกันและเขาจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเหมือนเคย
"อืม"
เขาตอบรับเบาๆ ไม่ได้สนใจมองไปตามนิ้วเรียวที่กำลังชี้อยู่ด้วยซ้ำ
"กระเป๋าสวยจัง เหมยลี่อยากได้"
ริมฝีปากอวบอิ่มแสร้งพูดขึ้นมาลอยๆ ทว่าดวงตากลับจับจ้องมองไปยังชายหนุ่มว่าจะมีปฏิกิริยายังไง
"......"
ไม่มีการตอบกลับใดๆ และนั่นก็ทำใบหน้าสวยหวานงอง้ำทันที
"แค่กระเป๋าใบเดียวก็ซื้อให้ไม่ได้!"
จากที่พูดลอยๆ น้ำเสียงหวานก็เปลี่ยนเป็นกระแทกกระทั้นด้วยความน้อยใจ เรียวแขนที่เกี่ยวกันไว้ก็คลายออกทันที
"ใจเย็นๆ สิเหมยลี่ ช่วงนี้พี่ช็อต"
"ช็อตอะไรนักหนา"
เหมยลี่ที่ไม่ได้ทุกอย่างดังใจถาม
"พี่เอาเงินไปใช้จ่ายเตรียมงานแต่งไง"
"มันจะหมดสักเท่าไหร่เชียว"
หญิงสาวทำเสียงขึ้นจมูก กะอีแค่งานแต่งเล็กๆ เชิญคนมาร่วมงานแค่ไม่กี่คน ค่าใช้จ่ายมันจะไปเยอะแยะอะไร เหมยลี่คิดในใจ เพราะเธอรู้นิสัยของเพื่อนรักคนนี้ดี
"พี่ไม่อยากซื้อให้ก็บอกมา ไม่ต้องมาอ้างเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นหรอกค่ะ"
หญิงสาวสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางน้อยใจของเธอทำให้ชายหนุ่มต้องรีบง้อทันที
"ทำไมพี่จะไม่อยากซื้อให้ล่ะครับ"
"เหมยลี่ไม่อยากได้แล้ว จะกลับ ช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้ด้วย"
หญิงสาวแสร้งทำตัวเฉยชา ตอนแรกตกลงกันว่ากินข้าวเสร็จแล้วก็จะไปต่อที่คอนโดของพี่เจิ้งต่อ แต่ตอนนี้บอกตรงๆ เธอหมดอารมณ์ ไม่อยากให้ชายหนุ่มแตะเนื้อต้องตัว
"ไหนบอกจะไปต่อที่คอนโดพี่ไง"
"ไม่อยากไปแล้ว"
"แต่พี่คิดถึงเหมยลี่นะ"
หญิงสาวไม่ตอบอะไร เธอมักจะใช้ไม้นี้กับเจิ้งหลุนประจำ ถ้าหากไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็อย่าหวังว่าเธอจะยอมขึ้นให้จนเสร็จ ท่าทีที่ดึงดันจะกลับห้องท่าเดียวทำให้ชายหนุ่มที่ง้อมากว่าห้านาทีถอดใจ เขามองไปที่กระเป๋าใบหรูนั่นสลับมองใบหน้าสวยหวานที่ทำให้ลุ่มหลง
"ไปดูกระเป๋ากันเถอะ"
เขาชวนคนตัวเล็กที่พอได้ยินคำว่า 'กระเป๋า' ก็ตาลุกวาว ใบหน้างอง้ำเปลี่ยนมาสดใสทันที
"พี่จะซื้อให้เหมยลี่เหรอคะ"
"ครับ"
เขาพยักหน้า ในหัวคำนวณราคา และกำลังบวกลบกับเงินที่มีอยู่ในบัญชี ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเหมยลี่ทำให้เขาพรูลมหายใจ และยอมที่จะติดหนี้บัตรเครดิตและผ่อนจ่ายเพื่อเธอ
"รักพี่เจิ้งที่สุด"
เรียวแขนที่คลายออก ตอนนี้กลับมาเกี่ยวคล้องไว้ดังเดิม เธอผุดรอยยิ้มหวานให้กับแฟนของเพื่อนที่ตอนนี้ก็มีสถานะเป็นแฟนของเธอเหมือนกัน และถึงจะใช้แฟนคนเดียวกัน เธอก็มั่นใจว่าเจิ้งหลุนทั้งรักและหลงเธอ
"พี่ก็รักเหมยลี่ครับ"
คำพูดของชายหนุ่มทำให้เหมยลี่ได้ใจ เธอมองเขาด้วยสายตาวาววับสื่อความนัย เมื่อโดนตามใจให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ ร่างบางก็เขย่งปลายเท้าขึ้นมาจุ๊บแก้มสากเป็นรางวัล ก่อนจะกระซิบถ้อยคำที่ทำให้ความเป็นชายของเขาร้อนรุ่มขึ้นมา
"เดี๋ยวคืนนี้...."
"เหมยลี่ขึ้นให้นะ!"
[ห้องแชทบริษัท X]รถอย่างหรูเลยเขามีเจ้าของหรือยังบอกมานะว่า...แฟนใคร?ถัดจากเรื่องดอกไม้ ก็เป็นเรื่องรถหรูราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบริษัท เห็นจอดอยู่นาน ไม่รู้มาทำธุระ หรือว่ามารับใคร ถ้าเป็นลุงแก่ๆ หัวล้านๆ คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะเจ้าของรถที่เดินลงมาหน้าตาหล่อไม่น้อยไปกว่าดาราเลยเขามีเจ้าของแล้วว้าย~ เธอตกข่าวนะจ๊ะฟาดด้วยรูปซะเลย!มุมปากสวยได้รูปยิ้มจางๆ เมื่อเห็นรูปของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถคันหรูไป แน่นอนว่ามุมมันได้ และรูปแอบถ่ายของเธอก็ดูดีซะด้วย@เหมยลี่ แฟนเธอเหรอ?@เหมยลี่ ไปหามาจากไหน?@เหมยลี่ ผู้หล่อและรวยมาก!!!ข้อความที่แท็กมายิ่งทำให้เหมยลี่ได้ใจ ยิ่งคนพูดถึงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดว่าผู้ชายที่แย่งมาได้คือของดี และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน หญิงสาวคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม คนที่มันคลิ้กกัน แค่มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ภาษากายก็สื่อถึงกัน "หิวไหมคะ""หิวครับ หิวมาก"ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มแฝงความนัย เสน่ห์ของเธอมันชวนให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มจริงๆ"คุณอยากกินอะไรคะ""ให้ผมเลือกเหรอครับ""ค่ะ"ห
[ห้องแชทบริษัท X]สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันเหรอ??เรื่องจริงใช่ไหม???ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเห็นดอกไม้ไหม...ช่อใหญ่เว่อร์อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ใครคบใคร ใครเลิกใคร เป็นเรื่องที่ชวนให้เผือกอยากเสือกมากที่สุด พอมีคนจุดประเด็นปุ๊บ คนอื่นก็แห่ตามมาเมาท์ในแชทปั๊บ และถึงบางคนจะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่อย่าลืมสิว่าโซเชี่ยลมันไว รูปแอบถง แอบถ่าย มีให้เห็นกันตรึมถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันฟาดด้วยรูป(เพิ่มรูปภาพ)ไม่นะ ฉันไม่พร้อมจะอกหักคบกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้ข่าวพวกนี้ต้องมีคนเชื่อ และไม่เชื่อผสมปนกันไป แต่พอมีรูปภาพจากมือดีมายืนยัน จากไม่เชื่อก็เริ่มเอนเอียง และคล้อยตามภาพที่เห็นว่า เออ! มีมูลมิน่าล่ะ ไม่เคยเห็นผู้ชายคบใครที่แท้เขามีตัวจริงโอ้ย! ฉันอิจจฉาแรงซินเจียโชคดีสุดๆ ไปเลยห้องแชทในกลุ่มบริษัทพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามที่อี้เทียนต้องการ ข่าวลือก่อนหน้านั้นโดนกลบชนิดที่ว่าไม่มีคนขุดคุ้ยหรือพูดถึงอีกต่อไป และข่าวลือใหม่ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์นั้นก็ทำเอาเขายิ้มไม่หุบเลย คู่รักคู่ใหม่ของบริษัทยินดีด้วยนะทำงานเก่งทั้งคู่เขาเหมาะสมกันอยู
[มีข้อความเข้า]ไห่ถาง : มึงอย่าลืมเอารถมาคืนด้วยนะเจิ้งหลุน : เออๆ กูไม่ลืมหรอกเจิ้งหลุนพิมพ์ข้อความตอบกลับเพื่อนที่ให้เขายืมรถมาใช้สองวัน แลกเปลี่ยนกับการแนะนำสาวๆ สวยๆ ให้สักคน [มีข้อความเข้า] พรุ่งนี้ครบกำหนดเช่านาฬิกา ถ้าคืนช้าทางร้านจะขออนุญาติปรับวันละสี่ร้อยหยวนข้อความแจ้งเตือนส่งมาจากร้านเช่าของแบรนด์เนมที่เจิ้งหลุนใช้บริการประจำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูท เข็มขัด จนไปถึงรองเท้าหนัง เขาเช่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุดที่ได้มาก็เป็นนาฬิกาที่เตะตาเขาเข้าอย่างจัง ถึงจะต้องวางมัดจำแพงกว่าทุกครั้ง เขาก็ยอม"แม่งเอ้ย! ทำอย่างกับว่ากูจะไม่คืน"ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นข้อความ เขาทิ้งตัวลงนั่งในห้องขนาดเล็กที่ไม่เหมาะจะอยู่กันสองคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพาผู้หญิงมานอนด้วยสักครั้งเดียว ผู้หญิงที่เขาเคยคบๆ มาถ้าไม่สวยมาก ก็ต้องรวยมาก แต่ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ไม่มีทางที่เขาจะเดินหน้าจีบ'สวยไหม'เจิ้งหลุนถามลงไปในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนิสัยชอบอวด ชอบโชว์เหมือนกัน 'แม่ง! ได้กินแต่ของดี''หาอย่างนี้ให้กูสักคน''เอามันส์ไหมวะ'นิสัยชอบอวดของเจิ้งหลุนไม่เคยแก้ได้ เวล
[เหมยลี่โพสต์อินสทา]@ผู้ชายชวนมาดื่มเบาๆ แคปชั่นมาพร้อมกับภาพข้อมือของผู้ชายที่กำลังจับมือเธอ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ก็จงใจถ่ายให้เห็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่กำลังเป็นกระแสใน 'ทิ้กท็อก' ถ้าใครใส่เขาก็ว่ารวย ร้วย รวย และบังเอิญผู้ชายที่เธอมาดื่มด้วยดันมีซะด้วยสิ!ใครอ่ะเหมยลี่?แค่เห็นข้อมือก็รู้ว่ารวยหาให้ฉันด้วยสักหนึ่งคน!ข้อความแซวของเพื่อนๆ ทำให้เหมยลี่ผุดรอยยิ้มที่เหนือกว่าออกมา ก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่ว่า...คนในความลับ🙊ปากบอกว่าคนในความลับ แต่แคปชั่นและภาพที่จงใจโพสต์ลงก็บอกให้รู้แล้วว่าลับถึงขั้นไหน เหมยลี่ที่อยากจะเอาชนะซินเจียสุดใจ เธอไม่ยอมหยุดแค่ดื่มเหล้าแล้วแยกย้ายกันไปนอน"เหล้าแรงจังเลยค่ะ""ไหวไหมครับ""เหมยลี่เมาแล้วแน่เลย"หญิงสาวพูดเสียงยานคาง แสร้งทำเป็นซบหน้าตรงแผ่นอกกว้าง ก่อนจะส่งสายตาหวานเหมือนหญิงสาวที่ไม่ประสา รอยยิ้มที่ส่งมามันยั่วยวนจนเจิ้งหลุนอดใจไม่ไหว ก้มลงประกบอย่างดูดดื่มจนแทบลืมหายใจ และมือเรียวก็ลูบไล้แถวต้นขาของเขาเบาๆ"ผมจะทนไม่ไหวเอานะครับ"ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเมา แต่มือกลับเลื้อยเก่งปลุกเร้าอารมณ
คำสารภาพรักเมื่อกี้ทำซินเจียตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอี้เทียนแอบชอบเธอ หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขอจีบเธอไป ท่าทางเขาดูเขินอาย ไม่ต่างอะไรจากเธอชอบเธอตอนไหน...ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่... มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ทำไมผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ ทุกคนในบริษัทอย่างเขาถึงได้มาชอบผู้หญิงที่ดูธรรมดาและไม่โดดเด่นอะไรอย่างเธอ"คุณล้อฉันเล่นรึเปล่าคะ"ซินเจียเอ่ยถามผู้ชายที่ยังคงสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง และน้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นก็เกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล้อกันเล่นขำๆ อย่างที่เธอถามไป"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"ความเขินอายที่แฝงในดวงตาคมคู่นั้นของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูนิ่ง แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงจนสังเกตุได้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยความในใจ แล้วเธอล่ะควรตอบเขากลับไปว่าอย่างไรดี"คือฉัน..."คำตอบไม่ทันได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี"คุณรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ""เอ่อ...ค่ะ"เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา พอเห็นชื่อของใครโทรมา
"มึงอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ"อาเฉินสะกิดบอกอี้เทียนเมื่อได้ยินสาวๆ ในแผนกเมาท์กันถึงเรื่องช่อดอกไม้ที่ส่งตรงถึงหน้าแผนกพัฒนา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินว่าช่อดอกไม้ระบุชื่อใคร เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ใส่เกียร์หมารีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนทันที และด้วยความที่หวังดีไง ก็เลยใส่ไฟหวังกระตุ้นให้เพื่อนตื่นตัว"หมาคาบไปแดกแน่มึง""ถ้ามัวแต่ช้าได้แดกแห้วแทนแน่ๆ""กูสมน้ำหน้ารอได้ไหม"ถึงคำพูดจะกดดัน แต่เขาก็หวังดีกับไอ้อี้เทียนจริงๆ ถ้ามันยังมัวแต่ช้า ไม่เริ่มจีบจริงจัง ความหล่อของมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่เอาใจ แต่ไอ้อี้เทียนกลับขี้อายไม่ออกตัวสักที ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้ แม่ง! มีแววแดกแห้วสูงมากเพื่อนกู"ข่าวจริงป่ะวะ"คนที่วางแผนจะสารภาพความในใจถึงกับต้องถามซ้ำอีกที "ข่าวมั่วมั้ง""ไอ้เฉินอย่ากวนตีน!"จากที่คิดว่าจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่รีบร้อนจีบอีกฝ่ายจนเกินไป ตอนนี้เขากลับอยู่นิ่งเหมือนเดิมไม่ไหว เพราะอยู่ๆ ก็มีผู้ชายที่มองเห็นเสน่ห์ในตัวของซินเจียเหมือนกัน ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นรุกแรง ต่างจากเขาที่เอาแต่มองและยังไม่เริ่มต้นจีบเลย "กูเพิ่งไปดูปฏิทินมา วันนี้เป็นวันดี ถ้ามึงไ







