LOGIN“สวัสดีค่ะคุณหมอ จิลเป็นดีเทลยา พอดีเอาเอกสารมาอัปเดตอาจารย์ธาดาค่ะ” ไม่ใช่แค่พูด หญิงสาวยังยื่นนามบัตรให้ด้วย เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น เธอต้องเรียกเขาแบบให้เกียรติและห่างเหินที่สุด
“อ๋อค่ะ” แพทย์หญิงยิ้มรับ ความสนใจต่อตัวจิลลาก็ลดลงทันที เปลี่ยนเป็นคุยเล่นกับธาดาอีกสองสามประโยค และไหว้ลาหมอกันต์ธีก่อนจะแยกย้าย
อาจารย์หมอคนดีหันกลับมามองที่ข้างตัว ผู้หญิงอีกคนที่บอกว่ามารอรับเขากลับบ้านก็หายวับเหมือนล่องหน กวาดสายตาไปทางลานจอดรถถึงได้เห็นหลังไวๆ
“น้องจิลเขาไปโน่นแล้ว และกูคงไม่ไปส่ง มึงเดินกลับเองนะ” กันต์ธีบอกเพื่อนด้วยสีหน้าเย็นชาตามปกตินิสัย
“เขาไปรอกูที่รถนั่นแหละ” ธาดาบอกเพื่อนด้วยความมั่นอกมั่นใจ และในจังหวะนั้นข้อความก็เด้งมาที่หน้าจอสมาร์ตโฟน ยืนยันว่าสิ่งที่คิดเป็นความจริง
“มึงทำดุ ทำขึงขังขนาดนั้นทำไมวะ”
“กูทำห่าอะไรรึยัง นี่ก็ดูแลดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาแล้วนะโว้ย”
“โถ เมื่อก่อนก็เห็นปากดี สอนกูอย่างงั้นอย่างงี้ เก่งดีนัก”
“มันไม่เหมือนกันนี่หว่า คุณหวานเป็นเมียมึง แต่จิลลาไม่ใช่เมียกูซักหน่อย” ธาดาบอกตามความจริง เขาช่วยเหลือและชื่นชอบในความสวยความน่ารักและอ่อนหวานของเด็กสาวก็จริง แต่ไม่ได้คิดหวังจะเชิดชูแต่งงานร่วมหอลงโรงกันเสียหน่อย เขาไม่เคยคิดกับจิลลาถึงขั้นนั้นเลย ตั้งแต่แรกก็เข้าหาเพราะความสวย ผิดไปสักนิดที่เธอดันไม่ใช่คนรักสนุกฉาบฉวย เกมการจีบหญิงจึงดึงยาวอยู่หลายเดือน พอได้แล้วก็กลายเป็นยิ่งหลง ยิ่งหลงก็เลยยิ่งลากกันมาจนเข้าสองปี
“นี่มึงหลอกกินฟรีเขาเหรอ” กันต์ธีถามโต้งๆ
“ฟรีเหี้ยอะไร” ตั้งแต่เกิดมาเป็นผู้เป็นคนจนอายุเข้าสู่วัยสามสิบกว่า กะลิ้มกะเหลี่ยเสเพลมาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ทว่าเขายังไม่เคยลงทุนเปย์ผู้หญิงคนไหนแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเท่านี้มาก่อน รถยนต์หรูราคาเกือบสี่ล้าน บ้านหลังใหญ่ที่เพิ่งซื้อเมื่อปีก่อนก็ร่วมยี่สิบล้าน ทั้งหมดนี่เขาตั้งใจยกให้จิลลาในวันที่เราต้องยุติความสัมพันธ์ “กูไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นนะโว้ย เด็กมันน่าเอ็นดู กูก็เทกแคร์เท่าที่ทำได้”
นายแพทย์กันต์ธีเข้าใจความหมายของเพื่อน แต่ที่ข้องใจคือธาดาได้บอกเงื่อนไขความสัมพันธ์นี้ไปหรือเปล่า เพราะจากที่สังเกตด้วยสายตา ผู้แทนยาคนนั้นดูห่วงใยและแสดงออกอย่างคนรัก แบบคนที่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ถึงจะดูหัวอ่อนและเชื่อฟังธาดา แต่ก็เป็นลักษณะผู้หญิงอ่อนหวานที่ไว้หน้าแฟนเท่านั้น ไม่ใช่วิสัยของเด็กเลี้ยงที่มีหน้าที่แค่รับเงิน “แล้วมึงเคยบอกไหมว่าเขาเป็นแค่เด็กเลี้ยงนั่นน่ะ”
“กูก็ไม่ได้ใจเหี้ยมกับเขาขนาดนั้นไง ไม่ใช่มึงนี่ไอ้คุณหมอกันต์” เรื่องปากหมา พูดจาไม่คิดต้องยกให้ไอ้กันต์ธี อยู่ๆ จะให้เขาเดินไปบอกหญิงสาวว่ามาคบกันในสถานะเด็กเสี่ย มันจะดูถูกและทำร้ายหัวใจเธอเกินไปไหม
“เออๆ งั้นกูจะบอก ถ้าผู้หญิงเขาไม่ได้คิดแบบเดียวกับมึงก็ระวังมีปัญหาแล้วกัน” นายแพทย์กันต์ธีเอ่ยเตือนเพื่อนด้วยความห่วงใย
“กูก็เลยต้องปรามๆ อยู่นี่ไง”
“กูหมายความว่ามึงควรพูดให้ชัด”
“พูดอะไร”
“เอ้า ก็พูดว่าเลี้ยงเขาชั่วคราว ไม่ได้คิดจริงจัง” เห็นธาดานิ่งอึ้งไป กันต์ธีก็แอบยิ้มเยาะ ก่อนจะพูดต่อ “เด็ดขาด ชัดเจน ก่อนจะสร้างปัญหาให้มึงไง”
“แต่การกระทำกูมันก็ออกจะชัดนะ” หมอออร์โทแถต่อ “ไม่ให้เปิดตัวกับใคร ไม่พาไปเจอครอบครัว แล้วกูก็ไม่เคยบอกรักเขาเลยด้วย”
“นี่อะนะ ที่มึงบอกว่าไม่ได้เหี้ยมกับน้องเขา” กันต์ธีส่ายหัว “แต่มึงเหี้ยมากเถอะไอ้ธา”
“เออน่า กูจัดการทุกอย่างได้ จิลลาเขายังเด็กแหละ” ตอนตามจีบกันใหม่ๆ มันมีใครที่ไหนพูดว่าขอคบระยะสั้นหรือขอฟันแล้วจ่ายเงินก็จบกัน แบบนั้นมันสำหรับผู้หญิงที่เป็นเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ต่างหาก จิลลาเข้าหาเขาเพราะเธอมาขายอย่างอื่น และเขาแค่อยากได้เธอ แต่ไม่ได้อยากมีเมียเป็นเด็กผู้หญิงคนนี้ ยิ่งอยู่กันมายิ่งรู้สึกว่าไม่รอด เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ไร้น้ำใจถึงขนาดตะโกนใส่หน้าว่าเธอเป็นแค่เด็กเลี้ยง ทุกอย่างมันเลยดำเนินมาเรื่อยๆ ในรูปแบบที่คล้ายเป็นแฟน เขาไม่ได้หลอก แค่ไม่ได้บอกด้วยวาจาก็เท่านั้น “เดี๋ยวอยู่ๆ ไปเขาก็เข้าใจเองว่ากับกูมันเป็นไปไม่ได้ กูไม่ได้จริงจัง”
กันต์ธีไม่ได้ทักท้วง เพียงแต่ไหวไหล่เบาๆ ให้กับความคิดของเพื่อนสนิท “มึงหลอกเขา เขาเจ็บ แต่ถ้ามึงหลอกตัวเอง มึงจะยิ่งเจ็บกว่าอีกหลายเท่านะไอ้ธาดา”
ผมเกิดที่บ้านย่านสุขุมวิท…เป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด พ่อของผมเป็นนายตำรวจใหญ่โต ส่วนแม่ก็เป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่โตเหมือนกัน แน่นอนว่าใหญ่ปะทะใหญ่ สุดท้ายแตกหักผมกลายเป็นเด็กที่พ่อแม่เลิกราหย่าร้าง เวลาส่วนใหญ่ของพ่อถูกใช้ในหน้าที่ราชการที่ต่างจังหวัด เวลาส่วนใหญ่ของแม่ก็ถูกใช้ที่ในต่างประเทศเมื่อต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจในกลุ่มงานโรงแรม แล้วเวลาของผมจึงถูกใช้ไปกับคุณย่ามากที่สุด รองจากนั้นผมใช้มันอยู่กับตัวเองเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปีพ่อก็แต่งงานใหม่มีลูกเล็กๆ จากนั้นแม่ก็แต่งงานอีกครั้งกับเศรษฐีฝรั่ง ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมก็เหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่ผมเงียบ ทุกคนกลับดูเป็นเดือดเป็นร้อน คงคิดนั่นแหละว่าผมจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา แน่นอนว่าผมรู้สึกตัวเองแปลกแยกและไม่เป็นส่วนหนึ่งของใครก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร สิ่งที่เรียนรู้อีกอย่างคือผมควรจะยิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งพ่อทั้งแม่จะได้ไปใช้ชีวิตกับครอบครัวใหม่อย่างมีความสุขบางสัปดาห์ผมถูกเกณฑ์ไปนอนบ้านพ่อบางสัปดาห์ผมถูกเกณฑ์ไปนอนบ้านแม่ผมเฝ้าถามว่าที่ไหนกันแน่คือบ้านของผมเมื่อบ้านพ่อและบ้านแม่ไม่ใช่บ้านของเรา ผู้ที่เป็นบ้านของผมในวัยเด็ก
ในเดือนที่ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง จิลลาก็ได้ใส่ชุดเจ้าสาว…ไม่น่าเชื่อว่าในที่สุดปลายทางของเธอกับหมอธาดาจะมาลงเอยกันได้ทั้งที่โคตรทุลักทุเลกว่าจะเสร็จงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรส ก็กินเวลาเข้าไปเกินเที่ยงคืน เธอยืนจนขาแข็ง หญิงสาวพิงร่างกับผนังกำแพงเย็นเฉียบของห้องหอ ส่วนหมอหนุ่มย่อตัวลงคุกเข่า ช่วยถอดรองเท้าส้นสูงให้กับภรรยา“ถอดชุดมาเดี๋ยวนี้ ผมจะพาไปแช่น้ำอุ่น” ธาดายืดตัวขึ้น ยื่นมือปลดซิปที่ด้านหลัง และช่วยดึงสายระโยงระยางของชุดเจ้าสาวออก ส่วนตัวเองก็สลัดทักซีโดทิ้งไปเหมือนกัน“จิลรักคุณจังเลยค่ะ” หญิงสาวบอกรักสามีที่กำลังช้อนอุ้มเธอเดินเข้าไปวางในอ่างจากุซซี“เหนื่อยไหมครับ” นายแพทย์เจ้าบ่าวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้านี้จิลลาร่างกายอ่อนแอมาก เธอป่วยบ่อยเพราะโหมงานหนัก พอเขาย้ายกลับมาประจำในกรุงเทพฯ มารดาเขาก็ชักจูงจิลลาให้เข้าไปทำงานที่โรงแรมด้วยกัน คงคิดว่าในอนาคตจะหวังพึ่งลูกชายคนเดียวไม่ได้แล้วล่ะมั้ง เลยหันไปเคี่ยวเข็ญเอากับลูกสะใภ้แทนก่อนหน้าจะถึงฤกษ์แต่งงานสักสิบวันเห็นจะได้ หญิงสาวมีอาการคล้ายคนแพ้ท้อง เขาเลยลองให้เธอเช็กตรวจ แต่จิลลาก็บอกว่าเธอคุมกำเนิดไม่เคยปล่อย และผลตร
ที่สุดช่วงเวลาที่หมอธาดารอคอยก็เวียนมาถึงในเดือนมีนาคมของปีถัดไป ในวันที่ทุเรียนของเจนภพเก็บผลผลิตได้อีกครั้งจิลลาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะในปีแรกเธอไม่ได้อยู่ดูการเก็บเกี่ยวซื้อขาย แถมในปีนี้ทุเรียนก็สมบูรณ์ขึ้นมากจากการดูแลประคบประหงมของพี่ชาย หมอนทองลูกกลมเต็มพูนับสิบตันถูกตัดลงมารอชั่งขายเพื่อส่งออก ชาวบ้านย่านนี้ล้วนแล้วแต่ประกอบอาชีพเป็นชาวสวนปลูกทุเรียนเป็นหลัก โดยเมื่อถึงเวลาเก็บผลผลิตบรรดาล้งชาวจีนจะเข้ามาทาบทามซื้อขายให้ราคาดีถึงหน้าสวน“โห พี่เจน เยอะมากเลย เก่งมากๆ อะ” น้องสาวคนสวยเดินเข้าไปจับมือพี่ชายด้วยความปลาบปลื้ม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเขาเท่านั้น ต่อไปเมื่อมีทุนรอนมากขึ้น บวกกับเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ เธอมั่นใจว่าเจนภพจะค่อยๆ สะสมที่ดินทำกินและต่อยอดการทำสวนเกษตรแบบที่เขาใฝ่ฝันไปได้อีกมากมาย“รวยใหญ่แล้ว น่าอิจฉาคนหนุ่มจริงๆ จะว่าไปย่ามีที่ดินนะ เจนมาหุ้นกับย่าไหมลูก”“ผมไปช่วยย่าทำสวนดีกว่าครับ ทำฟรีให้ทั้งชาติเลย”ทำฟรีให้ทั้งชาติเลย… ธาดาทำปากบิดเบี้ยวเลียนแบบความขี้ประจบประแจงของเจนภพ ดูเอาเถอะพอรู้ว่าหลานชายคนใหม่จะตัดทุเรียนล็อตใหญ่ขาย ผู้เป็นย่าก็อุตส่าห์
“เอาเลย อยากแกล้งก็แกล้งเลย นังโมนาเชียร์จินนี่สุดใจ” มนภาไม่คิดห้ามเพื่อน รู้ว่าอย่างไรเสียคนที่จิลลารักที่สุดก็คือหมอกระดูกคนนั้น เพราะรักแล้วจะทำร้ายจิตใจได้มากสักแค่ไหนกันเชียว คงแค่ทำให้รู้สึกตัว วันข้างหน้าจะได้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกละเลยถูกหลบซ่อน และหากหมอธาดาฉลาดเขาก็ควรรู้ว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องวางจิลลาไว้แบบไหนถึงจะได้เธอคืนยิ่งดึกน้ำค้างยิ่งลงแรงลมทะเลพัดกระโชกธาดายืนพิงอิงสะโพกกับแผงประตูรถหรู ยังรอคอยรอรับจิลลากลับบ้านอย่างอดทนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดหญิงสาวผมยาวดำขลับในชุดแดงเพลิงก็กลับมา“งานเลิกแล้วเหรอครับ”จิลลาพยักหน้าเขาเห็นสีแก้มก็รู้ว่าเธอคงดื่มมาบ้าง จึงเข้ามาช่วยประคองเดินไปยังเบาะนั่งข้างตัว“กลับบ้านนะ” ธาดาบอกหญิงสาวอีกครั้งและเธอก็ทำเพียงพยักหน้า ยกให้เป็นหน้าที่ของธาดาที่จะพาเธอกลับไปยังจุดหมายปลายทาง“โกรธจิลไหมคะ” เธอถามขึ้นก่อนที่จะลงจากรถเมื่อมาถึงบ้านน็อกดาวน์ของเขา“เปล่าหรอกครับ แต่ผมแค่น้อยใจนั่นแหละ” ไม่มีประโยชน์ที่จะโกหก เพราะรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เธอเคยสัมผัส ซึ่งเขาก็เข้าใจมันแ
“พี่เจนจะกลับบ้านได้วันไหนคะ”“ไม่เกินวันมะรืนครับ” หมอหนุ่มตอบหญิงสาวเมื่อพาเธอกลับถึงบ้านน็อกดาวน์ด้วยกัน แต่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ก่อน “จิลอยากไปเที่ยวหรือแวะไปไหนไหม”“เดี๋ยวเย็นนี้พี่อธิปจะมารับไปที่บ้านค่ะ”“ทำไมต้องไปด้วย”“ก็แล้วทำไมจะไปไม่ได้คะ” จิลลาหันหน้ามาแหวกลับ เมื่อก่อนเธอศรัทธาเขา เกรงใจเขาสารพัด แต่เสียใจด้วยที่ตอนนี้สิทธิพิเศษเหล่านั้นไม่เหลือหลออยู่อีกแล้ว หากมีคำไหนที่เขาพูดไม่ดีกับเธอ เธอก็จะพูดไม่ดีกับเขาคืนไปบ้าง เอาไงก็เอากันสิ“ผมหมายถึงว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า” หมอหนุ่มทำคอย่น ไม่อยากให้จิลลาโกรธเลย เขาอยากให้เธออารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส จะได้มองเขาในแง่ดี เผื่อจะหายโกรธกันเร็วขึ้นอีกสักวันสองวัน“จริงๆ เรามีนัดเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารริมทะเลกันนิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวบอกชื่อร้านให้หมอหนุ่มฟัง เขาพยักหน้ารับว่ารู้จักร้านนี้เพราะเป็นร้านดังของอำเภอ“เดี๋ยวผมออกไปส่งคุณเองก็ได้นะ” เห็นเธอตั้งท่าจะปฏิเสธ เขาก็เลยอธิบายต่ออย่างใจเย็น “อธิปเพื่อนคุณ จะได้ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา”“เอางั้นก็ได้ค่ะ” จิลลาเบนหน้าไปซ่อนยิ้ม หมั่นไส้ชายหนุ่มเป็นกำลัง ยิ่งตอนที่เขาแกล้งเน้นเสียงคำว่า
“อร่อยจังเลยครับ”“หมอพูดเป็นครั้งที่สิบหกแล้วค่ะ”“ครั้งที่สิบเจ็ดก็จะพูดว่าอร่อยเหมือนเดิม”จิลลากลอกตามองบน เห็นเธอทำดีด้วยนิดหน่อยก็ลามปามเชียวนะ แต่เมื่อเหลือบสายตามองมือที่ตักต้มยำปลากระป๋องเข้าปากกินคู่กับไข่ดาวเหมือนหิวโซนั่น เธอก็แอบสงสารจนใจอ่อนลงไปอีก สภาพนายแพทย์ไฮโซตอนที่เดินกลับมาจากสวนทุเรียนของเจนภพ มันทั้งเปียกซ่กทั้งเหม็นน้ำหมักคละคลุ้ง คงเป็นไอ้ฮอร์โมนพืชของพี่ชายเธอนั่นแหละ จำได้ว่าเมื่อก่อนเขารังเกียจเดียดฉันท์เจนภพสารพัด วันนี้เวลาหมุนผ่าน เธอหนีหาย ทิ้งพี่ชายไว้ตามลำพัง ก็ได้หมอคนดีคนเดิมนั่นแหละที่คอยอุปถัมภ์เกื้อกูลพี่ชายเธอตลกดีชะมัดจัดการมื้อเช้าจนเกลี้ยงเกลา หมอธาดาก็ขับรถพาหญิงสาวมาเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล เพียงแต่เขาขอให้เธอสวมใส่หน้ากากปิดบังเสียก่อน อีกอย่างจิลลาก็บอกว่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่มาก่อนแล้ว หมออย่างเขาเลยเบาใจลง ปล่อยให้พี่น้องได้คุยกันตามสบาย“วันนี้ฉีดฮอร์โมนให้กูแล้วใช่ไหม มันถึงวันแล้วนะ”“เออ”“ดีมากไอ้หมอ”ธาดาขยับปากอยากจะด่า ทว่าหันไปเห็นดวงตากลมใสของจิลลาที่มองมา เขาก็ได้แต่ฉีกยิ้มให้เจนภพ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มยิ่งกว่าพน







