LOGINทั้งหัวเสียกับคำพูดเพื่อน ทั้งเหนื่อยกับงานที่รุมเร้ามาหลายวัน แต่เมื่อก้าวขามาถึงรถยนต์ที่จอดรออยู่ นายแพทย์ธาดาก็ไม่อาจเอาเปรียบให้ผู้หญิงขับรถให้นั่งได้ ทั้งที่หากเป็นสถานการณ์ปกติ ก็ไม่แปลกเลยที่ดีเทลยาจะอาสาขับรถไปส่งหมอกลับบ้าน คงเป็นเพราะเขาคิดว่าเธอเป็นเด็กของเขานั่นแหละ “ลงมาเถอะ ผมขับให้”
จิลลาทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย เธอมีคำถามหลายอย่างอยู่ในหัว แต่ก็รู้ว่าควรรอ ดูจากสีหน้านิ่งเย็นของหมอคนรัก แบบนี้คือกำลังโกรธมาก พูดไปอาจจะยิ่งเถียงกันเปล่าๆ เธอเรียนรู้มาตั้งแต่ยังเด็กว่าการสาดคำพูดร้ายกาจใส่กันด้วยอารมณ์ไม่เคยให้ผลดีกับใครทั้งนั้น รังแต่จะนำมาซึ่งความแตกสลาย เธอโตมาอย่างเด็กบ้านแตก เรื่องแบบนี้เธอรู้ซึ้งดีไม่น้อย
พารถเข้าจอดยังบ้านจัดสรรหลังใหญ่ในโครงการหรู จิลลาก็เหลือบตามองสีหน้าคนรักอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหายบึ้งตึงแล้วหญิงสาวจึงยกน้ำลำไยเย็นๆ มาเสิร์ฟ และเอ่ยถามถึงสิ่งที่คาใจ
“หมอผู้หญิงคนนั้น ใครเหรอคะ”
ยกน้ำดื่มอยู่ก็เหมือนอยากจะสำลัก เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาใสแจ๋วของจิลลาก็ทำให้หมอหนุ่มทั้งอึดอัดทั้งรู้สึกไม่สบายตัวอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงจะหงุดหงิดและไม่อยากตอบ เขาก็ยังพยายามอะลุ่มอล่วยกับจิลลาอีกสักนิด
“รุ่นน้องน่ะ มาเป็นหมอสกินที่โรงพยาบาล”
“อ๋อ รุ่นน้องนั่นเอง จิลตกใจหมดเลยค่ะ ก็เห็นหมอธาบอกว่าจะไปเดตด้วย” หญิงสาวยังถามต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เพียงแต่เธออยากสื่อให้ชายหนุ่มรู้ว่าไม่ชอบใจกับสิ่งที่เขาพูด เธออยู่แบบเงียบๆ ได้เพราะเข้าใจเหตุผลของเขา แต่นั่นหมายความว่าหมอธาดาควรสำรวมให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ใช้กิริยาตะโกนบอกชาวบ้านว่าโสดตลอดเวลา
“ผมต้องมีเพื่อน มีสังคมนะจิลลา แล้วผมกับหมอที่คุณพูดถึงน่ะ เราสนิทสนมกันมาตั้งแต่พี่ชายเขาแล้วด้วยซ้ำ” นายแพทย์หนุ่มละเรื่องที่เคยคบหากันในช่วงมหาวิทยาลัยไว้ในใจ เพราะขี้เกียจจะต้องมานั่งอธิบายยืดยาว ความจริงช่วงนี้เขาใช้ชีวิตยิ่งกว่ากบจำศีลเสียด้วยซ้ำ ตื่นเช้า ทำงาน กลับบ้าน วนเป็นกิจวัตรอยู่แบบนี้ ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว ซึ่งเขาคิดว่าตัวเองกำลังเข้าสู่จุดอิ่มตัว ก็จุดอิ่มตัวกับจิลลานั่นแหละ ไม่รู้สิ มันไม่ค่อยสุขหัวใจไม่ค่อยหวือหวาเท่าช่วงแรกเริ่ม แถมยังรู้สึกอีกว่าถูกก้าวก่ายหนักหน่วงจนน่ารำคาญ
“เพื่อนก็เพื่อนสิคะ จิลไม่ได้ว่าอะไรหมอซะหน่อย” น้ำเสียงของจิลลาอ่อนลงไปอีก เธอเชื่อคำยืนยันจากปากเขา ของแบบนี้ถ้าวันหนึ่งมันจะมีขึ้นมาจริงๆ เธอคงได้รับรู้แน่ ผ่านความผิดปกติของเขาเองนั่นแหละ เพียงแต่กว่าจะถึงวันนั้น หญิงสาวก็อยากเตือนสติให้ธาดารู้ตัวก่อนจะเลยเถิด แต่ก็ไม่วายจะบอกคำหวานแบบที่เขาชื่นชอบปิดท้าย “ที่จิลหวงก็เพราะคุณน่ารักนะคะ กลัวสาวๆ คนอื่นจะมาหลงเสน่ห์หมอธาแบบจิลไง”
“แต่คุณเริ่มไม่น่ารักแล้วนะจิลลา” ธาดาวางแก้วน้ำลำไยที่เหลือเพียงน้ำแข็งก้อนลง หันมาเอาเรื่องอีกฝ่ายแทน
“จิลทำอะไรผิดเหรอคะ”
“วันนี้คุณตั้งใจมาที่งานสัมมนา ทำแบบนั้นทำไม”
“จิลอยากไปรับคุณค่ะ แค่นั้นเอง” จิลลาจ้องตาคนรักนิ่งๆ มีหลายครั้งที่เธอน้อยอกน้อยใจ แต่ก็เข้าใจดีว่าทั้งหมดมันเริ่มต้นเพราะชายหนุ่มยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเป็นแบบนี้ เธอถึงได้อดทนและมองหาหนทางอื่นไว้รอ หากไม่ได้ทำงานเป็นผู้แทนยาแล้ว บางทีสถานการณ์หลังจากนี้คงง่ายขึ้น “จิลไม่ได้ตั้งใจไปกวนนะคะ”
เห็นเขายังเงียบเฉย จิลลาก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ ยกมือคล้องกับท่อนแขนของหมอหนุ่ม “อย่าโมโหเลยนะคะ”
ธาดาหลุบตามองเรือนร่างที่ซบอยู่บนไหล่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย อยากถอนมือนิ่มที่จับไว้ออก แต่ก็ทำไม่ลงอีก สุดท้ายก็ปล่อยให้จิลลากอดเกี่ยวไว้อย่างนั้น แม้จะเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางความวุ่นวายตามที่ไอ้กันต์ธีเตือน แต่เขาก็ยังชอบสัมผัสและเนื้อตัวของหญิงสาวที่สุด ความปรารถนาและรักร้อนแรงระหว่างกันกระมังที่ยังพอเหนี่ยวรั้งให้เขากลับมาหาจิลลาอยู่ทุกวี่วัน ใช้เวลาด้วยยาวนานกว่าที่เคยใช้กับผู้หญิงทุกคนในชีวิต
อีกอย่าง จิลลาเป็นเด็กสาวที่ใสซื่อที่สุดเท่าที่คนกร้านโลกอย่างเขาเคยเล่นสนุกด้วย เพราะแบบนี้เขาถึงได้สงสารและใจอ่อนกับเธอมากกว่าใคร ยอมให้ล้ำเส้นไปบ้างโดยไม่ถือสาหาความ
“ผมทำงานเหนื่อยมากนะ จิลอย่าดื้อกับผมได้ไหม”
“จิลไม่ดื้อกับคุณหรอกค่ะ จิลรักคุณหมอ” จิลลาออดอ้อน แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเช่นเดียวกัน
หมอหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถเป็นวาดแขนโอบกอดเธอไว้ แม้จะปวดหัวขึ้นมาตุบๆ เขาให้คำว่ารักคืนกลับไปไม่ได้ก็จริง แต่เต็มใจมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้หญิงสาวเสมอ “ผมจะดูแลคุณไม่ให้คุณลำบากเลยนะ”
แขนเรียวสวยกอดกระชับนายแพทย์ธาดาให้แน่นขึ้น ตื้นตันและตีความหมายไปอีกแบบ รับรู้ถึงความรับผิดชอบของผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในวัยพร้อมจะสร้างครอบครัว คำมั่นที่บอกว่าจะดูแลใครสักคนเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความทุ่มเทและเสียสละ มันยิ่งใหญ่กว่าคำว่ารักของเธอเสียอีก
หญิงสาวขอบตารื้นด้วยน้ำใสคลอขัง “จิลก็จะพยายามเพื่อคุณเหมือนกันค่ะ”
สบตากับจิลลา หมอหนุ่มก็อึ้งจนพูดสิ่งอื่นใดไม่ได้อีก มันจริงจังและเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างที่ไม่แบ่งไว้เผื่อใจสักนิด ความรู้สึกท่วมท้นของเธอกำลังทำให้เขาหายใจแทบไม่ออก
นึกย้อนไปถึงวันแรกที่พบกันบนเรือสำราญ เธอใสบริสุทธิ์และอ่อนต่อโลก เขาอยากได้แต่ก็กลัวการเกาะติด ผ่านมาสองปีแล้ว เด็กสาวสวยใสในวันนั้นกลับสวยขึ้นยิ่งกว่าเดิม เธอเติบโตขึ้นในโลกของผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว จิลลายังเป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาคนเดิม เด็กสาวที่หลงเชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งที่โอบกอดเธอ จูบเธอ และนอนกับเธอทุกค่ำคืนจะเป็นรักแท้
ในโลกนี้มีผู้ชายเห็นแก่ตัวและสารเลวมากมายเหลือเกิน แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ธาดาคิดว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ผมเกิดที่บ้านย่านสุขุมวิท…เป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด พ่อของผมเป็นนายตำรวจใหญ่โต ส่วนแม่ก็เป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่โตเหมือนกัน แน่นอนว่าใหญ่ปะทะใหญ่ สุดท้ายแตกหักผมกลายเป็นเด็กที่พ่อแม่เลิกราหย่าร้าง เวลาส่วนใหญ่ของพ่อถูกใช้ในหน้าที่ราชการที่ต่างจังหวัด เวลาส่วนใหญ่ของแม่ก็ถูกใช้ที่ในต่างประเทศเมื่อต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจในกลุ่มงานโรงแรม แล้วเวลาของผมจึงถูกใช้ไปกับคุณย่ามากที่สุด รองจากนั้นผมใช้มันอยู่กับตัวเองเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปีพ่อก็แต่งงานใหม่มีลูกเล็กๆ จากนั้นแม่ก็แต่งงานอีกครั้งกับเศรษฐีฝรั่ง ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมก็เหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่ผมเงียบ ทุกคนกลับดูเป็นเดือดเป็นร้อน คงคิดนั่นแหละว่าผมจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา แน่นอนว่าผมรู้สึกตัวเองแปลกแยกและไม่เป็นส่วนหนึ่งของใครก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร สิ่งที่เรียนรู้อีกอย่างคือผมควรจะยิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งพ่อทั้งแม่จะได้ไปใช้ชีวิตกับครอบครัวใหม่อย่างมีความสุขบางสัปดาห์ผมถูกเกณฑ์ไปนอนบ้านพ่อบางสัปดาห์ผมถูกเกณฑ์ไปนอนบ้านแม่ผมเฝ้าถามว่าที่ไหนกันแน่คือบ้านของผมเมื่อบ้านพ่อและบ้านแม่ไม่ใช่บ้านของเรา ผู้ที่เป็นบ้านของผมในวัยเด็ก
ในเดือนที่ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง จิลลาก็ได้ใส่ชุดเจ้าสาว…ไม่น่าเชื่อว่าในที่สุดปลายทางของเธอกับหมอธาดาจะมาลงเอยกันได้ทั้งที่โคตรทุลักทุเลกว่าจะเสร็จงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรส ก็กินเวลาเข้าไปเกินเที่ยงคืน เธอยืนจนขาแข็ง หญิงสาวพิงร่างกับผนังกำแพงเย็นเฉียบของห้องหอ ส่วนหมอหนุ่มย่อตัวลงคุกเข่า ช่วยถอดรองเท้าส้นสูงให้กับภรรยา“ถอดชุดมาเดี๋ยวนี้ ผมจะพาไปแช่น้ำอุ่น” ธาดายืดตัวขึ้น ยื่นมือปลดซิปที่ด้านหลัง และช่วยดึงสายระโยงระยางของชุดเจ้าสาวออก ส่วนตัวเองก็สลัดทักซีโดทิ้งไปเหมือนกัน“จิลรักคุณจังเลยค่ะ” หญิงสาวบอกรักสามีที่กำลังช้อนอุ้มเธอเดินเข้าไปวางในอ่างจากุซซี“เหนื่อยไหมครับ” นายแพทย์เจ้าบ่าวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้านี้จิลลาร่างกายอ่อนแอมาก เธอป่วยบ่อยเพราะโหมงานหนัก พอเขาย้ายกลับมาประจำในกรุงเทพฯ มารดาเขาก็ชักจูงจิลลาให้เข้าไปทำงานที่โรงแรมด้วยกัน คงคิดว่าในอนาคตจะหวังพึ่งลูกชายคนเดียวไม่ได้แล้วล่ะมั้ง เลยหันไปเคี่ยวเข็ญเอากับลูกสะใภ้แทนก่อนหน้าจะถึงฤกษ์แต่งงานสักสิบวันเห็นจะได้ หญิงสาวมีอาการคล้ายคนแพ้ท้อง เขาเลยลองให้เธอเช็กตรวจ แต่จิลลาก็บอกว่าเธอคุมกำเนิดไม่เคยปล่อย และผลตร
ที่สุดช่วงเวลาที่หมอธาดารอคอยก็เวียนมาถึงในเดือนมีนาคมของปีถัดไป ในวันที่ทุเรียนของเจนภพเก็บผลผลิตได้อีกครั้งจิลลาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะในปีแรกเธอไม่ได้อยู่ดูการเก็บเกี่ยวซื้อขาย แถมในปีนี้ทุเรียนก็สมบูรณ์ขึ้นมากจากการดูแลประคบประหงมของพี่ชาย หมอนทองลูกกลมเต็มพูนับสิบตันถูกตัดลงมารอชั่งขายเพื่อส่งออก ชาวบ้านย่านนี้ล้วนแล้วแต่ประกอบอาชีพเป็นชาวสวนปลูกทุเรียนเป็นหลัก โดยเมื่อถึงเวลาเก็บผลผลิตบรรดาล้งชาวจีนจะเข้ามาทาบทามซื้อขายให้ราคาดีถึงหน้าสวน“โห พี่เจน เยอะมากเลย เก่งมากๆ อะ” น้องสาวคนสวยเดินเข้าไปจับมือพี่ชายด้วยความปลาบปลื้ม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเขาเท่านั้น ต่อไปเมื่อมีทุนรอนมากขึ้น บวกกับเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ เธอมั่นใจว่าเจนภพจะค่อยๆ สะสมที่ดินทำกินและต่อยอดการทำสวนเกษตรแบบที่เขาใฝ่ฝันไปได้อีกมากมาย“รวยใหญ่แล้ว น่าอิจฉาคนหนุ่มจริงๆ จะว่าไปย่ามีที่ดินนะ เจนมาหุ้นกับย่าไหมลูก”“ผมไปช่วยย่าทำสวนดีกว่าครับ ทำฟรีให้ทั้งชาติเลย”ทำฟรีให้ทั้งชาติเลย… ธาดาทำปากบิดเบี้ยวเลียนแบบความขี้ประจบประแจงของเจนภพ ดูเอาเถอะพอรู้ว่าหลานชายคนใหม่จะตัดทุเรียนล็อตใหญ่ขาย ผู้เป็นย่าก็อุตส่าห์
“เอาเลย อยากแกล้งก็แกล้งเลย นังโมนาเชียร์จินนี่สุดใจ” มนภาไม่คิดห้ามเพื่อน รู้ว่าอย่างไรเสียคนที่จิลลารักที่สุดก็คือหมอกระดูกคนนั้น เพราะรักแล้วจะทำร้ายจิตใจได้มากสักแค่ไหนกันเชียว คงแค่ทำให้รู้สึกตัว วันข้างหน้าจะได้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกละเลยถูกหลบซ่อน และหากหมอธาดาฉลาดเขาก็ควรรู้ว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องวางจิลลาไว้แบบไหนถึงจะได้เธอคืนยิ่งดึกน้ำค้างยิ่งลงแรงลมทะเลพัดกระโชกธาดายืนพิงอิงสะโพกกับแผงประตูรถหรู ยังรอคอยรอรับจิลลากลับบ้านอย่างอดทนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดหญิงสาวผมยาวดำขลับในชุดแดงเพลิงก็กลับมา“งานเลิกแล้วเหรอครับ”จิลลาพยักหน้าเขาเห็นสีแก้มก็รู้ว่าเธอคงดื่มมาบ้าง จึงเข้ามาช่วยประคองเดินไปยังเบาะนั่งข้างตัว“กลับบ้านนะ” ธาดาบอกหญิงสาวอีกครั้งและเธอก็ทำเพียงพยักหน้า ยกให้เป็นหน้าที่ของธาดาที่จะพาเธอกลับไปยังจุดหมายปลายทาง“โกรธจิลไหมคะ” เธอถามขึ้นก่อนที่จะลงจากรถเมื่อมาถึงบ้านน็อกดาวน์ของเขา“เปล่าหรอกครับ แต่ผมแค่น้อยใจนั่นแหละ” ไม่มีประโยชน์ที่จะโกหก เพราะรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เธอเคยสัมผัส ซึ่งเขาก็เข้าใจมันแ
“พี่เจนจะกลับบ้านได้วันไหนคะ”“ไม่เกินวันมะรืนครับ” หมอหนุ่มตอบหญิงสาวเมื่อพาเธอกลับถึงบ้านน็อกดาวน์ด้วยกัน แต่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ก่อน “จิลอยากไปเที่ยวหรือแวะไปไหนไหม”“เดี๋ยวเย็นนี้พี่อธิปจะมารับไปที่บ้านค่ะ”“ทำไมต้องไปด้วย”“ก็แล้วทำไมจะไปไม่ได้คะ” จิลลาหันหน้ามาแหวกลับ เมื่อก่อนเธอศรัทธาเขา เกรงใจเขาสารพัด แต่เสียใจด้วยที่ตอนนี้สิทธิพิเศษเหล่านั้นไม่เหลือหลออยู่อีกแล้ว หากมีคำไหนที่เขาพูดไม่ดีกับเธอ เธอก็จะพูดไม่ดีกับเขาคืนไปบ้าง เอาไงก็เอากันสิ“ผมหมายถึงว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า” หมอหนุ่มทำคอย่น ไม่อยากให้จิลลาโกรธเลย เขาอยากให้เธออารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส จะได้มองเขาในแง่ดี เผื่อจะหายโกรธกันเร็วขึ้นอีกสักวันสองวัน“จริงๆ เรามีนัดเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารริมทะเลกันนิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวบอกชื่อร้านให้หมอหนุ่มฟัง เขาพยักหน้ารับว่ารู้จักร้านนี้เพราะเป็นร้านดังของอำเภอ“เดี๋ยวผมออกไปส่งคุณเองก็ได้นะ” เห็นเธอตั้งท่าจะปฏิเสธ เขาก็เลยอธิบายต่ออย่างใจเย็น “อธิปเพื่อนคุณ จะได้ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา”“เอางั้นก็ได้ค่ะ” จิลลาเบนหน้าไปซ่อนยิ้ม หมั่นไส้ชายหนุ่มเป็นกำลัง ยิ่งตอนที่เขาแกล้งเน้นเสียงคำว่า
“อร่อยจังเลยครับ”“หมอพูดเป็นครั้งที่สิบหกแล้วค่ะ”“ครั้งที่สิบเจ็ดก็จะพูดว่าอร่อยเหมือนเดิม”จิลลากลอกตามองบน เห็นเธอทำดีด้วยนิดหน่อยก็ลามปามเชียวนะ แต่เมื่อเหลือบสายตามองมือที่ตักต้มยำปลากระป๋องเข้าปากกินคู่กับไข่ดาวเหมือนหิวโซนั่น เธอก็แอบสงสารจนใจอ่อนลงไปอีก สภาพนายแพทย์ไฮโซตอนที่เดินกลับมาจากสวนทุเรียนของเจนภพ มันทั้งเปียกซ่กทั้งเหม็นน้ำหมักคละคลุ้ง คงเป็นไอ้ฮอร์โมนพืชของพี่ชายเธอนั่นแหละ จำได้ว่าเมื่อก่อนเขารังเกียจเดียดฉันท์เจนภพสารพัด วันนี้เวลาหมุนผ่าน เธอหนีหาย ทิ้งพี่ชายไว้ตามลำพัง ก็ได้หมอคนดีคนเดิมนั่นแหละที่คอยอุปถัมภ์เกื้อกูลพี่ชายเธอตลกดีชะมัดจัดการมื้อเช้าจนเกลี้ยงเกลา หมอธาดาก็ขับรถพาหญิงสาวมาเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล เพียงแต่เขาขอให้เธอสวมใส่หน้ากากปิดบังเสียก่อน อีกอย่างจิลลาก็บอกว่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่มาก่อนแล้ว หมออย่างเขาเลยเบาใจลง ปล่อยให้พี่น้องได้คุยกันตามสบาย“วันนี้ฉีดฮอร์โมนให้กูแล้วใช่ไหม มันถึงวันแล้วนะ”“เออ”“ดีมากไอ้หมอ”ธาดาขยับปากอยากจะด่า ทว่าหันไปเห็นดวงตากลมใสของจิลลาที่มองมา เขาก็ได้แต่ฉีกยิ้มให้เจนภพ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มยิ่งกว่าพน







