LOGINหลังจากเสร็จกิจมาร์ตินเดินลงมาร่วมวงนั่งดื่มกับเพื่อนๆ ที่ห้องวีไอพีตามเดิม คืนนี้เขาปิดโซนนี้ฉลองให้กับชัยชนะ และก็มีรุ่นพี่รุ่นน้องของเขาตามมานั่งสมทบด้วยนับสิบ
“มึงเห็นหน้าไอ้บรู๊คไหมไอ้สัส...หน้าหงอยเป็นไก่เหงาเลยมึง ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะดังประสานเสียงกันทันทีที่โจอี้พูดจบ
“พวกผมเล่นข้างลูกพี่ งานนี้รวยเละเลยคร้าบบบบ” เจมส์พูดออกมาอย่างนึกชอบใจ เขาลงพนันรอบนอกสนาม และก็ได้ค่าตอบแทนมาอย่างล้นหลาม
“แล้วนี่เมียนางแบบของมัน ที่มึงสอยมาหายไปไหนแล้ววะ?” โจอี้ถามขึ้น
“กูไล่กลับไปแล้ว”
“โห...ไอ้สัสไม่เสียดายเหรอวะ หุ่นแม่งอย่างเอ็กซ์”
“น้ำแตกแล้วก็แยกย้ายดิวะกูไม่เคยกินซ้ำ” เขาพูดพร้อมกับเอาหลังพิงโซฟาแสดงสีหน้าอย่างผู้ชนะ
“เชี้ย....แม่งน่าเสียดาย!”
“โห...ลูกพี่ ถ้าไม่คิดจะสานต่อส่งมาให้ผมก็ได้นะครับ” เจมส์รุ่นน้องของเขาพูดขึ้นอย่างนึกเสียดายในตัวเธอ
“มึงไปตามหาเอาเอง ป่านนี้กลับไปหาไอ้บรู๊คแล้วมั้ง”
“กูว่าน่าจะไม่กล้ากลับไปนะ เพราะดูเธอตอกกลับใส่หน้ามันซะขนาดนั้น มันคงไม่โง่เอายัยนั่นต่อแล้วล่ะมั้ง” โจอี้พูดตอบทั้งที่ตอนนั้นเขาก็งงกับท่าทีของนางแบบสาวสวยคนนั้นเหมือน ที่เธอตอบกลับไอ้บรู๊คไปอย่างเจ็บแสบ
“อืม....” มาร์ตินยกยิ้มมุมปากพร้อมกระดกเหล้าติดกันไม่หยุด
“เบาๆ หน่อยเจ้านาย...พรุ่งนี้มีของเข้ามาล็อตใหญ่นะเว้ย!” อีธานกระซิบบอก
“อืม....” เขาตอบกลับอีธาน และก็ต้องกับมาคิดหนักเรื่องอาวุธเถื่อนที่ต้องขนมาพักที่คฤหาสน์ของเขาก่อนที่จะส่งต่อในอีก 3 เดือนข้างหน้า
บทบาทที่เขาต้องรับหน้าที่แทนพ่อทั้งที่ไม่เต็มใจจะรับมันเลยสักนิด เมื่อไหร่พ่อจะกลับมาสักทีก็ไม่รู้ เขาอยากเป็นแค่เด็กวิศวะที่เที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ เพียงเท่านั้น
เช้าวันต่อมา
วันนี้รถตู้ขนกล่องอาวุธเถื่อนมาจากท่าเรือหลายสิบคัน เข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ชานเมืองที่เขาอาศัยอยู่ ที่นี่ไม่มีใครกล้ามากวน เพราะบารมีพ่อที่สร้างเอาไว้
“พวกมึงรีบขน” มาร์ตินสั่งลูกน้องให้เอาอาวุธลงไปเก็บในห้องลับ นั่นก็คือชั้นใต้ดินของตัวบ้าน
คฤหาสน์หรูที่กว้างขวางมีคนอยู่เพียงไม่กี่คน ถ้าไม่มีอีธานกับแม่นม เขาก็คงจะเป็นคนที่เหงาน่าดูที่ต้องอาศัยในคฤหาสน์หลังใหญ่นั่นเพียงลำพังคนเดียว
“มึงช่วยดูความเรียบร้อยให้กูด้วย” เขาหันไปสั่งอีธานที่ยืนอยู่ข้างๆ และดูความเรียบร้อยโดยรอบ
ที่นี่มีบอดี้การ์ดนับร้อยที่ยืนเฝ้าเป็นกำแพงชั้นนอก นี่ยังไม่นับรวมโซนด้านในที่มีลูกน้องของเขายืนอยู่เกือบทุกจุดของตัวบ้าน
“กูอยากไปเที่ยวทะเลว่ะ? เบื่อๆ เซ็งๆ” มาร์ตินบ่นให้อีธานฟัง เพราะอึดอัดกับเรื่องที่พ่อฝากเอาไว้มาก
“วันนี้มีงานต้องทำอีกเยอะครับนาย”
“อะไรอีกวะ?”
“วันนี้ต้องเข้าไปดูความเรียบร้อย ของคาสิโนอีกหลายที่เลยครับ และผับ บาร์ อีกหลายแห่ง นายต้องเข้าไปเซ็นเอกสารนะครับ”
“เอกสารอะไรอีกวะ?”
“ช่วงนี้สิ้นเดือน นายต้องเข้าไปเซ็นจ่ายเงินเดือนลูกน้อง แล้วก็เรื่อง...ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกครับ”
“เออ!” เขาตอบอีธานอย่างหัวเสีย
“มึงดูความเรียบร้อยตรงนี้ให้ดีแล้วกัน กูไปนอนก่อน เสร็จแล้วก็มาเรียกกู”
“ครับนาย”
โต๊ะอาหาร
“ทานข้าวก่อนสิคะ...เดี๋ยวค่อยออกไปทำงานต่อก็ได้ วันนี้ป้าทำแต่ของที่คุณตินชอบทั้งนั้นเลยนะคะ”
“จริงเหรอครับแม่นม”
“ค่า...” หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาเรียกทั้งสองคนเอาไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปด้านนอก
“ผมอยากทานฝีมือแม่นมมานานแล้ว แต่ไอ้อีธานสิครับมันรีบอะไรของมันทุกวันก็ไม่รู้”
ช่วงนี้เขาต้องรับหน้าที่แทนพ่อจนไม่มีเวลาได้เจอกับแม่นมของเขาเลย มาร์ตินทิ้งคราบความแข็งกร้าวออก เดินไปโอบกอดแม่นมของเขาอย่างออดอ้อน
“ทำตัวเป็นเด็กสามขวบเลยนะมึง” อีธานพูดใส่คนเอาแต่อ้อนแม่แท้ๆ ของเขาไม่หยุด
“เดี๋ยวมีแฟนก็ลืมแม่นมคนนี้แล้วมั้งคะ?”
“ไม่หรอกครับผมยังไม่มีแฟน”
“อย่าไปเชื่อมันครับแม่ผู้หญิงมันเยอะจะตาย”
“เอาไว้ผมมีแฟนเมื่อไหร่จะพามาให้แม่นมรู้จักเป็นคนแรกเลยนะครับ” เขาพูดกับเธออย่างอ่อนโยน และออดอ้อน
“อ้อนพอแล้วมึง ระวังลูกน้องเห็นแล้วมันจะหมดความนับถือมึงนะ”
“กูขี้เกียด เก๊กหน้าโหดตลอดเวลาแล้ว หน้าหล่อๆ ของกูเสียทรงหมด”
“วันนี้แม่ทำเองเลยเหรอครับ” อีธานละสายตาจากเพื่อนที่กำลังอ้อนแม่ของเขาหันไปสนใจอาหารฝีมือแม่ที่อยู่บนโต๊ะแทน
“ใช่ลูก...มีของที่ทั้งสองคนชอบนั่นแหละ”
“แม่นมครับรู้ไหมว่าเมื่อไหร่ พ่อของผมจะกับมา?”
“ป้าก็ยังไม่รู้เลยค่ะคุณหนู” เธอตอบเขาไม่ได้ เพราะสามีเธอที่ตามเจ้านายใหญ่ไปก็ยังไม่ได้ติดต่อเธอกลับมาเหมือนกัน
แอนนามองหน้ามาร์ตินแล้วก็เกิดนึกสงสาร เขาไม่เคยเจอแม่ตัวเองตั้งแต่เด็ก มาร์ตินมีเพียงเธอเท่านั้นที่คอยให้ความอบอุ่นแทนแม่แท้ของเขา
เธอรับใช้ที่นี่มานาน และก็รู้ว่าแม่ของมาร์ตินคือใคร แต่ก็หายไปไม่ติดต่อกลับมาเป็นสิบๆ ปี ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีถึงไหนแล้วก็ไม่รู้
วันที่เธอไปรับมาร์ตินออกจากโรงพยาบาล เธอยังจำมันได้ติดตา เธอสงสารเด็กน้อยแบเบาะที่นอนอยู่ในห้องของโรงพยาบาลเพียงคนเดียวจับใจ แม่ของเขาหายไปโดยไม่ลา ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ตามหาเลยทั้งนั้น หลังจากนั้นมาร์ตินก็ดื่มนมในอกของเธอแทน เพราะเธอก็พึ่งคลอดอีธานออกมาได้เพียงสามเดือนเท่านั้น
“อ้าว....ทานเยอะๆ ลูก” เธอตักอาหารที่มาร์ตินกับอีธานชอบ นั่นก็คือกุ้งชุบแป้งทอด ที่ทั้งสองแย่งกันกินตั้งแต่เด็กๆ เธอตักกุ้งนั้นให้มาร์ตินก่อน เพราะนึกเอ็นดูมาร์ตินเป็นพิเศษ เรื่องนี้ลูกชายของเธอเข้าใจดี และสงสารมาร์ตินไม่แพ้กับเธอด้วยเช่นกัน
เธอสอนให้อีธานดูแลเจ้านายน้อยให้ดี และรักเขาให้ได้เหมือนน้องชายที่เปรียบเสมือนคลานตามกันมา
หลังจากทานข้าวกับแม่นมเสร็จ เขาทั้งสองตรงไปที่คาสิโนขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมือง
โดยขึ้นรถตู้ พร้อมลูกน้องนับสิบที่ติดตามมา การเข้ามาที่คาสิโนมันต้องน่าเกร็งขาม เผื่อมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ปลอดภัยจะได้ให้ลูกน้องช่วยเหลือทัน พ่อของเขาบอกไว้แบบนั้น เพราะที่บ่อนมันมีแต่พวกเจ้าพ่อขาใหญ่ เข้ามาใช้บริการกันเป็นประจำ บางคนยืมเงินของบ่อนไปอีก และไม่ยอมคืนต้องตามล้างตามเช็คกันหลายสิบราย เรื่องนี้มาร์ตินเบื่อมาก เขาให้ลูกน้องที่ประจำบ่อนเป็นคนตาม และให้อีธานจัดการคุมอีกครั้ง
มาร์ตินเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะทำงานประจำในตำแหน่งที่พ่อเขาเคยนั่งอยู่
“ว่าไงวะ ไอ้ชาติ” เขาทักทายผู้จัดการของบ่อนที่เขาให้มันเป็นธุระคอยดูแล
“ตอนนี้เก็บหนี้ได้เกือบคบแล้วครับนาย มีแต่เสี่ยปืนที่ยังคงเบี้ยวอยู่ครับ”
“กูให้โอกาสมันอีกครั้ง...มึงไปบอกมันว่าอย่าให้กูเล่นบทโหด บอกมันไปว่ากูโหดได้มากกว่าพ่อกูอีกนะ กูได้ข่าวว่าลูกสาวมันสวยหนิ?”
“ครับนาย”
“แล้วเรื่องอื่นล่ะ?” มาร์ตินถามทั้งที่ไม่ได้มองหน้าสุชาติเลยสักนิด ยังคงก้มมองเอกสารหนาเตอะ และตั้งหน้าตั้งตาเซ็น
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับนาย”
“ดีมากมึงอย่าให้มีอะไรพลาด ไม่งั้นกูจะจัดการมึงเป็นคนแรก”
“ขะ...ครับนาย”
แกร่ก สุชาติรายงานเสร็จแล้วก็รีบเปิดประตูออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
แปะๆ เสียงตบมือที่ดังอยู่ตรงโซฟายาวตัวข้างๆ
“เก่งมากครับเจ้านาย” อีธานเอ่ยชมปนความล้อเลียน
“แม่งอย่างเก๊ก สมแล้วที่รับบทมาเฟียแทนพ่อมึง”
“เฮ้อ....ไอ้สัส....อย่างเกร็ง เบื่อจะเป็นมาเฟียว่ะ อยากเป็นแค่หนุ่มหล่อเพย์บอยเต็มทนแล้ว”
“อดทนหน่อยมึง เดี๋ยวนายใหญ่ก็กลับมา”
“กูต้องรออีกเมื่อไหร่วะ? กูบอกแล้วว่าไม่ต้องไปตามหาแม่กูแล้ว กูไม่อยากเจอ”
“เอาน่ามึง คืนนี้ชวนพวกไอ้แม็กไปล่อสาวที่ทะเลหน่อยเป็นไง?”
“ความคิดมึงดีมากไอ้เพื่อนรัก” เขายกยิ้มมุมปากให้กับข้อเสนอของอีธาน
@คฤหาสน์ ตระกูลลูเธอร์ มาร์ตินวางเธอลงที่เตียงอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะปัดผมที่ปกปิดใบหน้าสวย เขาประคองคนเมาขึ้นมาจูบอย่างปลอบประโลม พลางใช้ลิ้นหนาชิมรสหวานในปากของเธอ คนเมาที่พอได้สติ มองหน้าเขาอย่างชอบใจ ด้วยที่คุ้นกับรสสัมผัสจูบ “พี่ติน” “ไม่เรียกพี่มาเฟียแล้วเหรอ” “อาริส...” เขาไม่รอให้เธอพูดอะไรต่อ ยังบรรจงจูบ ดูดปากแลกลิ้นเธออยู่แบบนั้นอยู่นานสองนานจนเธอเริ่มเกิดอารมณ์ เธอถอดเสื้อของเขาออก พร้อมลูบไล้ไปที่กล้ามหน้าท้อง และจุดกลางกาย “รีบเหรอ” เสียงทุ้มหนาเอ่ยถามส่อสายตาเชิญชวน “จะให้รออะไรล่ะคะ” เธอผลักเขาลงไปกับเตียง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมเขาแทน “ทำไมเมาแล้วร้อนแรงจัง?” “ก็หน้าพี่มันยั่วอาริสหนิคะ” “พี่ยั่วเราตรงไหน” เขาพูดพร้อมถอดกางเกงยีนต์ของเขาออกให้เหลือเพียงร่างกายที่ล่อนจ้อน อาริสมองกลางกายที่เธอนั่งทับอยู่ เพราะมันเริ่มจะตื่นตัว ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลยสักนิด “พี่ถอดหมดแล้ว...เราไม่คิดจะถอดหรือไง?” “พี่ก็ถอดให้อาริสสิคะ...อาริสถอดไม่ไหว
“วันนี้เราจะไปไหนกันดีจ๊ะเพื่อนสาว” เสียงใสเอ่ยถามเพื่อนๆ หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายจบ “ฉันหูฝาดหรือเปล่าวะแก...” ลูน่าพูดมาด้วยความสงสัย เพราะไม่ได้ยินเสียงเพื่อนจอมแสบของเธอแบบนี้มานานแล้ว “ไม่รู้ล่ะ! วันนี้ฉันว่างพวกแกทำตัวให้ว่างด้วย ห้ามมีใครมีนัดที่ไหน หรือถ้ามีก็ยกเลิกซะ” “แกจะชวนพวกฉันไปไหน?” “ไปเที่ยวคลับ...วันนี้ฉันจะ ดื่ม จะแดนซ์ให้สุดเหวี่ยงไปเลย” อาริสพูดพร้อมลุกขึ้นเต้นออกอาการดีใจสุดฤทธิ์ “แล้วว่าที่สามีแกให้ไปเหรอ?” “วันนี้พี่ตินกลับดึก...ฉันก็เป็นอิสระ” “แกจะไปที่ไหน” ลูน่าถาม “คลับที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ลูธคลับ” “ยัยโรส กรุณาทำตัวให้ว่างด้วย ยกเลิกนัดพี่เจมส์ 1 วัน” อาริสหันไปตวัดสายตามองเพื่อนสาวที่กำลังพิมพ์ตอบแชทกับผู้ของนางอยู่ “ได้อยู่แล้วเพื่อนสบายมาก...ไหนๆ วันนี้เพื่อนรักได้ออกจากกรงทองเสียทีฉันจะไม่ว่างได้ไงล่ะ” โรสพูดพร้อมกอดคอเพื่อนรักอย่างดีใจ พวกเธอไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้วตั้งแต่ยัยเพื่อนตัวดีเข้าพิธีหมั้น “เสียดายว่ะ...ที่วันนั้นเรานัดกันไปบาร์โฮส
รถสปอร์ตคำรามเบาลง เมื่อเข้ามาจอดที่หน้าคณะนิเทศ “จุ๊บ!” “พี่ตินพอได้แล้ว...จะจูบอะไรนักหนา” เธอต้องผละกอดออกเพราะเขาหอมเธอไม่หยุด ทั้งที่ทำเรื่องอย่างว่ามาตลอดทั้งคืน คนอะไรก็ไม่รู้หื่นกับฉันไม่เลิก ตอนนี้เราย้ายมาอยู่ที่คอนโดที่เขาซื้อเอาไว้ ก็ไอ้ห้องแห่งความลับ ที่มันไม่ค่อยลับเท่าไรนั่นแหละค่ะ บางทีฉันก็งองแงขอกลับไปนอนที่บ้านฉันบ้าง แต่เขาก็ไม่ยอมยังจะตามฉันไปทุกที่ หมดกันชีวิตในรั้วมหาลัยที่ฉันคิดเอาไว้ว่ามันจะสนุก และเป็นอิสระ อุตส่าห์หนีจากพี่ชายจอมเผด็จการที่ชอบตั้งกฏกับฉันไป ซะทุกอย่างแล้วนะ ตอนนี้ฉันต้องมาเจอว่าที่สามีในอนาคตที่พยายามทำตัวติดกับฉันแจ นี่ถ้าขึ้นไปนั่งเรียนกับฉันได้คงขึ้นไปแล้วละมั้ง ฉันต้องการอิสระบ้าง แต่ทำไม! มันไม่เคยได้อย่างที่ฉันคิดเลยนะ แต่มันก็ดีที่มีเขานะคะ เขาดูแลฉันดีทุกอย่างวันไหนที่ไม่ได้เจอก็จะเหงาแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ เอาเป็นว่าฉันโชคดีที่ผู้ชายคนนี้ยอมหยุดเจ้าชู้เพราะฉันก็แล้วกัน เขาพูดเรื่องแต่งงานทุกวันจนฉันก็เริ่มรำคาญ บางทีฉันไม่ตอบก็อยากจะทำให้ฉันท้องซะ
มาร์ตินช่วยงานพ่อของเขาบ้างเป็นบางครั้ง และไปส่งเธอทุกเช้า และไปรับเธอทุกเย็น“ยังไงครับลูกพี่...เรียนจบแต่คนไม่จบเหรอครับ?” เจมส์พูดมาอย่างล้อเลียนที่เห็นรุ่นพี่จบ แล้วยังมานั่งที่ใต้ตึกคณะอยู่“กูมาเฝ้าเมียกู...และกูก็จะมาบอกมึงว่าให้ช่วยส่องให้กูด้วย อย่าให้ใครมายุ่งกับเธอเด็ดขาด ไม่งั้นกูจะเล่นมึง”“อ้าว! แล้วผมเกี่ยวอะไรด้วย”“บิ๊กไบค์คันใหม่ล่าสุด 1 คัน มึงพอใจไหม?”“ได้เลยครับ...ผมจะกันท่าให้อย่างดี”“เออ”มาร์ตินขับรถสปอร์ตไปรับเธอที่หน้าคณะเมื่อดูเวลาที่ข้อมือ“ทำไมวันนี้มาเร็วจัง”“พี่นั่งอยู่ที่ตึกวิศวะ...ไม่ได้ไปไหน” วันหมั้น “ดีใจไหมที่ได้หมั้นกับพี่” มาร์ตินกระซิบถามทั้งที่พึ่งจะจบพิธีหมั้นช่วงเช้า“ดีใจสิคะ”เขายืนสวมกอดเธอไว้แน่น ทั้งที่อยู่ในห้องนอนของเขา“ถ้าพี่ไปทำงานแล้วห้ามให้ใครมาจีบนะ”“รู้แล้วค่า...ที่รัก”“แล้วก็รีบเรียนให้จบเราจะได้แต่งงานกันสักที”“จะแต่งเลยเหรอ อาริสขอเที่ยวก่อนไม่ได้หรือไง? สักอีก 2 ปีค่อยแต่ง”“ไม่ได้พี่อยากมีลูกแล้ว”“แต่อาริสอยากเที่ยวก่อนหนิ”“แต่งแล้วก็เที่ยวได้”“โหย...อยากเที่ยวแบบโสดๆ”“โสดบ้าอะไร...พูดอะไรเกรงใจแหวนในมือหน่อยนะ”
3 เดือนต่อมา“ไงครับ...รักกันจนได้เนอะ”“หวานแหวว”เสียงเพื่อนที่เดินเข้ามาใหม่เอ่ยแซวที่เห็นทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกัน“เออ! ไอ้ติน วันนี้แม่กูบอกว่าให้ไปกินข้าวที่บ้าน”“มีอะไรวะ”“กูก็ไม่รู้”“อาริสไปกับพี่ไหม?”“พี่ตินไปเถอะค่ะ...ช่วงนี้อาริสต้องกลับบ้าน เพราะแม่กับพ่อกลับมาแล้ว”“เหรอครับ”ณ คฤหาสน์ ตระกูล ลูเธอร์หลังจากเลิกเรียน รถสปอร์ตหรูได้ขับเข้ามาจอดด้วยมีอีธานเป็นคนขับมาร์ตินเดินเข้าไปในตัวบ้าน“แม่นมครับ”“มาแล้วเหรอคะคุณหนู”หญิงวัยกลางคนวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางที่ดีใจ“มีอะไรเหรอครับแม่นม?”“มาทางนี้ค่ะ...”แอนนาเดินนำมาร์ตินมายังห้องอาหาร บนโต๊ะอาหารมีพ่อของเขานั่งหันหลังอยู่กับผู้หญิงอีกคน และดูจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับพ่อของเขา“กลับมาแล้วเหรอครับพ่อ...งั้นผมก็สบายแล้วดิ”“มานั่งตรงนี้” มาร์คัสสั่งให้ลูกชายมานั่งข้างๆเขาจ้องมองใบหน้าผู้หญิงอีกคนอย่างแปลกใจ ที่ตอนนี้ในตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา“นี่ลูกของเราใช่ไหม?”“ใช่”“นี่แม่แก” มาร์คัสพูดกับลูกชายห้วนๆ สไตล์ลูกผู้ชายมาร์ตินมองเธอด้วยความตกใจ เขาไม่นึกว่าจะได้เจอแม่ของเขาจริงๆ“มาร์ติน แม่ขอโทษ” เธอลุกขึ้นมาจากเก้าอี
หลังเลิกเรียนมาร์ติน รีบแยกตัวออกจากเพื่อน มาที่ห้างดัง ที่แฟนของไอ้เจมส์มันส่งข่าวมาว่าอาริสจะมาดูหนังกับสิงห์ที่นี่เขารีบเดินไปที่ชั้นของโรงหนัง และก็เห็นทั้งคู่กำลังเลือกหนังกันอย่างกระหนุงกระหนิงมาร์ตินยืนแอบมองอยู่ห่างๆ เขาออกอาการโมโห ที่ไอ้สิงห์มันเข้าใกล้เธอได้ขนาดนั้น“ยัยเด็กบ้า!!!” มาร์ตินถึงขั้นสบถให้กับคนที่เข้าใจเขาผิดตอนนี้เธอเดินแยกออกไปที่ห้องน้ำ และมันก็เป็นจังหวะดีที่เขาจะเข้าหาเธอได้“อาริสขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม?”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...แค่นี้เอง” เธอหันไปบอกกับสิงห์ก่อนที่จะแยกตัวเดินออกไปที่ห้องน้ำ“หึ! มีความสุขดีหนิ?”หลังจากที่อาริสทำธุระเสร็จ เธอเดินออกจากห้องน้ำ ตรงทางเดินมีเขายืนดักรอเธออยู่เธอพยายามรีบก้าวเท้าเดินหนี แต่คนตัวสูงก็จับตัวเธอเอาไว้“เขาลากเธอไปที่ลานจอดรถ”“ปล่อยฉันนะ” เธอร้องจนเขาต้องเอามือปิดปากร่างบางโดนกดให้นอนราบไปที่หน้ากระโปรงรถ พร้อมกับคนด้านบนที่โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้“หยุดนะที่นี่มันไม่เหมาะ...พี่จะทำอะไร?”“แล้วที่ไหนเหมาะ...เธอช่วยบอกหน่อย?”“ปล่อย...ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะเข้าไปดูหนังจะถึงเวลาแล้ว”“ใครบอ







