“ฉันหวังว่าแกจะไม่ไปหลงเสน่ห์ไอ้เวรนั่นไปอีกคนนะ ยัยอาริส” เขาบ่นขึ้นมาพึมพำคนเดียวก่อนที่จะจอดรถใต้คอนโด รับแฟนสาวดาวคณะคนล่าสุดไปมหาลัยด้วยกัน
ในใจก็ยังคิดเรื่องเหตุการณ์คืนนั้น วันที่เขาต้องเสียแฟนสาวนางแบบที่เขาพึ่งจะคบได้ไม่กี่วันไป
@สนามแข่งรถ
บรู๊คกับมาร์ติน เรียนคณะวิศวะเหมือนกันเขาทั้งคู่อยู่ปี 4 แต่ต่างสถาบันกัน
ทั้งคู่เขม่นกันมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เขายังเคยยกพวกชกต่อยกันอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะไปท้าแข่งรถกันที่สนาม
รถคันใหม่ล่าสุดของบรู๊คเข้าจอด ณ จุดปล่อยตัวในสนามแข่ง วันนั้นมีพี่น้องในคณะ และคนมาเชียร์กันอย่างหนาตา มาร์ตินเอารถสปอร์ตสีแดงคันใหม่ล่าสุดที่เครื่องแรงไม่แพ้กันกับบรู๊คขับมาจอดเทียบ
ทั้งคู่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ รอบสนามได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งหน้าตาและความเท่ห์ของพวกเขาก็ไม่ได้ธรรมดา อยู่ในระดับท็อปของมหาลัยด้วยกันทั้งคู่
สาวสวยที่ยืนอยู่ข้างบรู๊คคอยเทคแคร์เขาอยู่ไม่ห่าง ด้วยความเป็นคู่รักที่พึ่งคบกันใหม่ๆ
“มึงจะเดิมพันด้วยอะไร?” บรู๊คเอ่ยถามคนที่ทำหน้ากวนประสาทใส่เขาอยู่
“รถของมึงเป็นไง?” บรู๊คมองรถคันใหม่ล่าสุดที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้ครอบครองมัน และพ่อก็พึ่งจะซื้อให้เขาในวันเกิดเมื่อไม่กี่วันมานี้
“ดูท่าทางมึงจะหวงรถคันนี้มากสินะ” มาร์ตินหรี่ตามอง และถามเขาอย่างเย้ยหยัน พร้อมพ่นบุหรี่ออกเป็นควันฟุ้งด้วยท่าทีที่กวนประสาท
“เงินสัก 3 ล้านเป็นไง?” บรู๊คเบี่ยงเบนความสนใจโดยเปลี่ยนเป็นเงินสดแทน
“เงินกูมีเยอะแล้วกูไม่ต้องการ” เขาปัดตกเรื่องของเดิมพันของบรู๊ค
“แล้วมึงจะเอาอะไรวะ?” บรู๊คขมวดคิ้วถาม
มาร์ตินปลายตามองไปยังนางแบบสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ
เจนิส เธอสวยแล้วดูโดดเด่นกว่าสาวๆ ทั้งหลายที่ยืนอยู่ในสนามทั้งหมด
บรู๊คกำมือเธอไว้แน่น แต่หญิงสาวก็มีท่าทีที่ไม่ค่อยตกใจกับคำพูดของมาร์ตินสักเท่าไหร่
เธอแอบมองมาร์ตินตาเยิ้มโดยไม่ให้แฟนเธอรู้ตัว ก็เขาทั้งหล่อทั้งเท่ห์ขนาดนี้ แถมยังรวยล้นฟ้าอีกตังหาก เธอไม่จำเป็นต้องขัด เพียงแต่คิดว่าถ้าได้ครอบครองคนที่สาวๆ จ้องจะจับแบบเขาได้มันคงจะดีสำหรับตัวเธอ ไม่ต้องไปทำงานเดินแบบให้เสียเวลาก็มีเงินใช้อย่างสุขสบาย
“เจนิส...ผมไม่อยากทำอย่างนั้น” บรู๊คกอดแฟนสาวไว้แน่นพร้อมเอาหน้าผากไปชนกับเธอ มองหน้าเธอด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ เพราะกลัวว่าเธอจะว่าเขาเอาเธอมาเป็นของเดิมพัน เขาห่วงความรู้สึกคนตรงหน้ามากที่สุด และพร้อมที่จะยอมแพ้เพราะรักเธอมาก แต่....
“เจนิส เชื่อว่าพี่บรู๊คคงไม่แพ้” เธอพูดให้กำลังใจแต่ก็แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
“เอาไง? มึงอย่ามาทำให้กูเสียเวลา” มาร์ตินเร่งถามคนที่เอาแต่ครุ่นคิดพร้อมทั้งเอาเท้าขยี้บุหรี่ให้ดับลงตรงหน้า
“แล้วถ้ามึงแพ้มึงมีอะไรมาแลกกับกู?”
“รถคันนี้” มาร์ตินชี้ไปที่รถคันใหม่ของตัวเองที่มี 1 คนเท่านั้นที่ได้ครอบครองมัน และมันก็คือเขา
“มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอวะ?” บรู๊คพูดอย่างเย้ยหยัน
“รถกูเกือบร้อยล้าน มึงยังไม่พอใจ? กูบวกให้อีก 20 ล้านเป็นไง?”
“มันไม่มากไปหน่อยเหรอวะ? ไอ้ติน” อีธานกระซิบถาม มาร์ตินได้แต่ยิ้มมุมปากส่งกลับไปให้
“เออ...ค่อยสมที่จะแข่งวันนี้หน่อย”
หญิงสาวนางแบบทึ่งกับความหล่อรวยของมาร์ตินเข้าไปอีก ถ้าวันนี้บรู๊คจะแพ้หรือจะชนะเธอก็ได้เปรียบเสมอ ไม่เห็นจำเป็นที่เธอจะต้องโวยวายแฟนหนุ่มเลยสักนิด ที่ต้องเป็นของเดิมพันในคืนนี้
ตอนนี้รถทั้งสองคันอยู่ที่จุดปล่อยตัวพร้อมที่จะออกสตาร์ท
ข้างๆ สนามมีการเดิมพันอยู่นอกรอบ เสียงเชียร์และเสียงกรี๊ดดังกึกก้อง วันที่เขาแข่ง ข่าวมันดังไปทั่วมหาลัยของทั้งสองฝ่ายรวมทั้งพวกที่ชอบเดิมพันกันเป็นประจำ วันนี้กองเชียร์เลยดูหนาตาเป็นพิเศษ
ปัง! เสียงปืนปล่อยตัว
รถของทั้งคู่ออกตัวพร้อมกัน และก็สูสีกันมาก กองเชียร์ข้างสนามต่างลุ้น เพราะการเดิมพันด้านนอกก็สูงไม่แพ้กับในสนามเลยสักนิด
โค้งแรกบรู๊ค ชิงแซงได้ก่อนแต่ก็ทิ้งระยะห่างกันอยู่ไม่มากเท่าไหร่ รถของมาร์ตินตามจี้มาติดๆ จนเขาเทียบกับรถของบรู๊คได้
“กูไม่ยอมเสียรถให้มึงหรอกไอ้บรู๊ค” มาร์ตินมองหน้าคู่แข่งระหว่างรถขนาบข้างกัน
“ไอ้สัส....” บรู๊คมองหน้ามาร์ตินและพยายามเร่งแซงในโค้งสุดท้าย แต่มาร์ตินอยู่ในเลนที่ได้เปรียบ และเบียดเขาเข้าเส้นชัยไป เพียงแค่ทิ้งช่วงห่างไม่ถึง 1 ไม้บรรทัด
“เชี้ย....แม่ง” บรู๊คระบายอารมณ์โดยการทุบไปที่พวงมาลัยรถอย่างแรง ก่อนที่จะมองหน้าแฟนสาวนางแบบที่เขารักมากที่สุดในตอนนี้ ผ่านกระจกรถ
เขาเดินลงไปหาเธอพยายามที่จะเข้าไปกอดปลอบความรู้สึกของเธอ แต่หญิงสาวกับบ่ายเบี่ยงและเดินเข้าไปหาคู่อริของเขาแทน
“เจนิส....?” ใบหน้าเขามีแต่คำถามกับกิริยาที่เปลี่ยนไปไวโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว
มาร์ตินโอบเอวนางแบบสาวเอาไว้ และยิ้มอย่างเย้ยหยันให้กับคู่แข่งที่พ่ายแพ้เขาในคืนนี้
“เจนิส?”
“แพ้แล้วก็อยู่อย่างคนแพ้เถอะค่ะ”
”นี่เธอ” บรู๊คถึงกับอึ้ง
ทั้งท่าทีที่เปลี่ยนไปไวฉึบของแฟนสาว กับท่าทางเย้ยหยันของมาร์ติน คืนนั้นเป็นคืนที่เขาจำมันได้ดีไม่มีวันลืม และเขาก็เป็นคู่อริตลอดการที่ไม่มีทางลงรอยกันได้
@ ลูธคลับ
“พี่มาร์ตินคะ....” สาวสวยเดินเข้าไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่างยั่วยวน
มาร์ตินพาเธอมาชั้น 3 ของคลับที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ เธอพยายามมัดใจมาร์ตินโดยท่าทางที่ยั่วยวน
เสื้อตัวบางถูกเจ้าของถอด และโยนออกไปด้านข้าง ก่อนที่จะขึ้นมาคร่อมคนที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์อยู่อย่างไม่นึกสนใจในตัวเธอเลยสักนิด เธอได้แต่สงสัยว่าทำไมเขาไม่สนใจเธออย่างที่เป็นก่อนหน้านี้
“เลิกสนใจมือถือแล้วมาสนุกกันเถอะค่ะ”
“อยากได้ก็ทำเอา” เขาพูดพร้อมนอนราบไปกับเตียง แต่สายตาก็ไม่ได้ลดละไปจากมือถือเลยสักนิด เขาสนใจงานขนอาวุธที่จะทำในวันพรุ่งนี้มากกว่า
นางแบบสาวสวยพยายามทำทุกอย่างให้เขาติดใจในตัวเธอ ถ้าคืนนี้เธอทำให้เขาพอใจมันคงจะดีถ้าได้ครอบครองผู้ชายที่หล่อรวย ทรงเสน่ห์อย่างมาร์ติน
เธอถอดเสื้อของเขาออก และเขาก็ยอมเธอแต่โดยดี หน้าท้องที่มีรอนกล้ามสวยทำให้เธอหลงใหลในตัวเขาเข้าไปอีก เธอถอดกางเกงยีนต์แบรนด์หรูราคาแพงของเขาออกกองไปกับพื้นข้างเตียง มาร์ตินปลายตามองเธอ และก็ยกยิ้มมุมปาก
ความจริงเขาไม่ได้พิศวาสอะไรนางแบบคนนี้เท่าไหร่นัก เพียงแต่คิดจะเอาชนะไอ้บรู๊คคู่อริของเขาก็เท่านั้น
เธอลูบไล้และมองเขาอย่างเร่าร้อน ร่างหนาทำให้นางแบบสาวเริ่มมีอารมณ์กามพลุ่งพล่าน
เธองัดท่อนเอ็นของเขาออกมาจากกางเกงในแบรนด์หรู เท่าที่เธอคำนวณจากสายตาขนาดมันยังไม่พองตัวมันก็ดูจะใหญ่อยู่มาก
ตอนนี้เธอเริ่มกำรูดท่อนเอ็นเพื่อสร้างอารมณ์ให้มันขยายตัวขึ้น บีบเค้นอกกลมมาถูไถรอบเอ็นอวบ โยกตัวขึ้นลง ก่อนที่จะจับมันเข้ามาในโพรงปากดูดเม้มให้เกิดการพองตัวจนคับช่องปากของเธอขึ้น
อ๊อก อ๊อก อ๊อก
ท่อนเอ็นขนาด 60+ กำลังเหยียดตรงจนเส้นเอ็นปูดโปนโดยรอบ แทงเข้าไปในคอส่วนลึก สาวสวยถึงกับตาลุกวาว เอาท่อนเอ็นออกจากปากมาดูให้เห็นเต็มๆ ตาเพราะเท่าที่เธอเคยเจอมายังไม่เคยเห็นใครใหญ่ได้เท่าเขามาก่อน
มาร์ตินคนที่ครบเครื่องไม่ได้มีดีที่หน้าตาและฐานะทางบ้านเพียงเท่านั้น อาวุธลับของเขาก็ยังน่าลองอีกตังหาก อาวุธลับที่คับปากของหญิงสาวทำให้เธอรูดขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างนึกชอบใจ
“ถุงยาง?” ก่อนที่เธอจะขึ้นมาคร่อมและพยายามจะกดร่องสวาทของเธอให้ตรงกับท่อนเอ็นของเขา มาร์ตินหยิบถุงยางขนาดพิเศษส่งให้เธอ
เมื่ออาวุธลับพร้อมรบ เธอกดสะโพกลงไปอีกครั้ง ทั้งๆ ที่มันมีน้ำหล่อลื่น เยิ้มแหยะแต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรค ที่ร่องเธอจะกลืนกินท่อนเอ็นลำใหญ่เธอพยายามกดตัวลง และต้องยั้งเอาไว้เพราะมันก็ยังเจ็บอยู่ไม่น้อย จนมาร์ตินนึกรำคาญ จับสะโพกบางให้อยู่กับที่และกระทุ้งสะโพกหนาสวนเข้าร่องของเธออย่างแรงหลายต่อหลายครั้ง จนมันเข้าไปเกือบสุดลำ
ปัก~ปัก~ปัก~~อ้าส์~~
“พี่มาร์ตินขา....เบาๆ หน่อย เจนิสเสียว” เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บแสบปนเสียว เพราะดูท่าทางมันจะเกิดการฉีกขาด แต่ก็พยายามอดทนเอาไว้เพื่อเอาใจผู้ชายใต้ร่าง
“จะยั้งทำไมเสียเวลา”
เขาส่งแรงชายกระแทกขึ้นมาไม่หยุด เป็นเวลานานเกือบชั่วโมง เขาไม่ได้อยากได้เธอถึงขนาดต้องโชว์ลีลารักที่เร่าร้อน เลยไม่ได้เปลี่ยนท่าอะไรกับเธอมาก แต่แค่นี้สาวเจ้าก็รู้แล้วว่าเขาร้อนแรงแค่ไหน
ปัก~ปัก~ปัก เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้อง
อ้าส์......พี่ติน....กรี๊ด......เธอเสร็จและส่งเสียงร้องเรียกชื่อของเขาดังออกมายาว ส่วนเขาก็คำรามเปร่งเสียงที่เสียวสุดขีดส่งตามเธอไปติดๆ ก่อนที่จะดึงถุงยางออกทิ้งลงไปกับถังขยะและเดินเข้าห้องน้ำไปทำความสะอาดร่างกายของตัวเอง
“ต่ออีกหรือเปล่าคะ?”
“เธอไหว? เมื่อกี้ยังขาสั่นอยู่เลยหนิ” เขาถามเธออย่างเย้ยหยัน
“เจนิสทนได้”
“กลับไปได้แล้ว”
“แต่...”
“มีอะไร?”
“เจนิสอยากอยู่กับพี่”
“น้ำแตกแล้วก็แยกย้ายฉันไม่คิดจะผูกมัด”
“ไม่คิดจะรับผิดชอบกันหน่อยเหรอคะ”
“จะให้รับผิดชอบอะไร ในเมื่อเธอคือของเดิมพันในสนาม ไม่มีใครบังคับ”
เขาเดินไปหยิบเงินสดที่มีติดไว้ที่หัวเตียงพร้อมส่งให้เธอ
“1 แสน พอไหม?”
“เจนิสไม่ต้องการแบบนี้ เจนิสไม่ได้ขายตัว”
“เอาไป...ฉันไม่อยากเอาใครฟรีๆ และก็กลับไปได้แล้ว”
“เลว!”
เธอเดินกระทืบเท้าออกอาการหัวเสีย เข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินออกมาก็ไม่เห็นเขาอยู่ในห้องนี้แล้ว เธอแค่เป็นเหยื่อในการปั่นหัวของเขากับแฟนเธอเท่านั้น ถ้าจะให้กลับไปหาบรู๊คก็คงจะไม่ได้เพราะก่อนหน้านี้ก็ตอกกลับใส่หน้าเขาไว้อย่างเจ็บแสบ
ระหว่างเดินไปที่ลิฟต์ เขาแกล้งโอบเอวเธอตลอดจนเธอรู้สึกอึดอัด มันไม่ดีแน่ถ้ามีผู้ใหญ่เดินผ่านมาเห็น จะหาว่าเธอใจง่ายพึ่งได้กับเขา และเดินออกมาจากห้อง “ปล่อยอาริสได้แล้ว เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” “ทำไมเธอกลัวใครเข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ?” “มันไม่ใช่แบบนั้น เราใส่ชุดนักศึกษากันทั้งคู่นะคะ มันไม่เหมาะ” เขาปล่อยกอดออกยักคิ้วให้กับยัยหน้าเก๋หัวโบราณ เขาเดินมาส่งเธอขึ้นรถ ก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับไปขึ้นรถสปอร์ตที่อีธานจอดรอไว้ก่อนแล้ว “ยังไงมึง...ได้ไหม?” อีธานเอ่ยแซว “กูแค่จะแกล้งเธอเท่านั้น” มาร์ตินยิ้มร้ายออกมา มาร์ตินกับอีธานตรงไปที่คลับ ส่วนอาริสขึ้นรถได้ก็รีบเร่งกลับบ้านทันที เช้าวันต่อมา วันนี้พวกรุ่นพี่เรียกรวมตัว เพราะจะมีประกาศไปรับน้องนอกสถานที่ “น้องๆ คะ วันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปรับน้องกันที่ต่างจังหวัด แต่เรามีคณะที่เราจับฉลากได้ไปกับพวกเขาด้วยนะคะ นั่นก็คือ คณะสถาปัตย์” “เฮ้อ...โล่งอกไปที” อาริสถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ดีที่มันไม่ใช่คณะของคนที่เธออยากจะหนี หลังจากเลิกเรียน มาร์ตินกับอีธา
มาร์ตินรีบเดินเข้ามาที่คณะเพื่อที่จะพรีเซนต์งานตามที่อาจารย์สั่ง “ส่งเธอเรียบร้อยแล้วเหรอวะ?” อีธานกระซิปถาม “เออ” “เธอจะไม่ปากโป้งใช่ไหม?” “กูบอกเธอไปแล้ว” “เชื่อใจได้แค่ไหนวะมึง...ถ้าเธอบอกไอ้บรู๊คเราจะเกมส์กันนะเว้ย” มาร์ตินได้แต่ครุ่นคิดตอนลงจากรถเธอแค่สัญญากับเขาไว้เท่านั้น เขาเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของเธอแล้วก็เกิดอาการใจอ่อนนึกว่าไม่มีพิษมีภัยอะไร ลืมนึกถึงคู่อริที่เป็นพี่ชายของเธอไปซะอย่างนั้น เขาคงต้องทำอะไรบางอย่างกับเธอซะแล้วสิ Rrrrr เธอหยิบมือถือที่สั่นเพราะมีข้อความเข้ามาหลายข้อความขึ้นมาเปิดดู มันมีข้อความแปลกๆ ของใครไม่รู้เข้ามาหาเธอ “เลิกเรียนมาหาพี่ที่คณะ” เป็นข้อความที่เพิ่มเพื่อนมาใหม่เธอยังไม่ได้กดรับ ในไลน์ รูปคุ้นๆ จนเธอต้องขยายดู “พี่มาร์ติน...เขามีไลน์ของฉันได้ไง?” เธอบ่นพึมพำ พรางนึกถึงข้อความเชิงบังคับแต่มาเฟียอย่างเขาไม่ยากที่จะหาไลน์ของฉันได้ “วันนี้อาริสต้องกลับบ้าน” เธอส่งข้อความตอบกลับ “อย่าให้ฉันต้องไปหาเธอที่คณะ” เธอเปิดอ่านข้อความชวนขน
เช้าวันต่อมา 07:10 น. ตั้งแต่เมื่อคืนฉันนอนอึดอัดมาตลอดคืน ก็คนบ้าที่เอาแต่ใจทำเรื่องอย่างว่ากับฉันเสร็จก็มานอนกอดฉันเอาไว้แน่น เขาบอกว่าไม่มีแรงกลับห้องของเขา “ปล่อยได้แล้วมันอึดอัด” เสียงหวานพยายามบอกกับคนที่หลับตาพริ้ม เธอมองไปที่ปลายคางของคนกรอบหน้าคม สันจมูกสูงโด่ง “อื้ม....” เขาบิดขี้เกียด และหรี่ตามองฉัน “วันนี้อาริสต้องไปมหาลัยนะ” “ก็ไปอาบน้ำ” เขาพูดพร้อมปล่อยกอดออก “อาริสไม่มีชุดนักศึกษา” “เดี๋ยวหาให้” ฉันดีดตัวออกมาจากผ้านวม พยายามตั้งสติยืนอยู่ที่ปลายเตียงสักพัก ก่อนที่จะเดินไปห้องน้ำ ที่ฉันต้องตั้งหลักอยู่นานเพราะว่าตรงน้องสาวของฉันมันบวมและแสบมากจนก้าวขาเดินไม่ออก ฉันพยายามเดินให้เป็นปกติ เพราะเขากำลังจ้องมองมาที่ฉัน ฉันเข้าไปสำรวจตัวเองในห้องน้ำ ที่ต้นคอของฉันมันมีรอยแดง อยู่สองจุด ก็เมื่อคืนเขาทำมันเอาไว้นะสิ ฉันอาบน้ำเสร็จก็ออกมาในชุดกระโจมอก นั่งเป่าผมอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะไม่มีเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่จะใส่ หวังว่าแม่บ้านของเขาน่าจะเอาชุดอะไรมาให้ฉันใส่ไปก่อน และเขาคงแวะพาฉันซื้อช
ก่อนที่จะไปที่ลูธคลับ อีธานขับพามาร์ติน มาที่คาสิโนหรู เพื่อมาคุยเรื่องหนี้พนันของเสี่ยปืน “ไงมึง?” เมื่อสุชาติเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานที่มีเจ้านายของเขานั่งรออยู่อีธานก็ยิงคำถามกับสุชาติทันที “มันนิ่งครับนาย และมันเหมือนจะให้เอาลูกสาวมันมาขัดดอกให้นายจริงๆ” “เงินสิบล้าน มันไม่ยอมเสีย แต่อยากเสียลูกสาวอย่างนั้นเหรอวะ?” มาร์ตินพูดส่อแววตาโกรธ เขาไม่นึกเลยว่าคนที่รักลูกสาวอย่างเสี่ยปืนจะทำได้ขนาดนี้ “แล้วมึงจะเอามั๊ยลูกเสี่ยปืน” อีธานกระซิบถาม “เอากี่ครั้งถึงจะหมดหนี้วะ?” “ก็เอาไปตลอด...ดูท่าทางเสี่ยปืนอยากได้มึงเป็นลูกเขยนะ อีกอย่างลูกสาวเสี่ยแม่งก็โคตรสวย มึงไม่สนหน่อยเหรอวะ?” “หึ!” มาร์ตินหัวเราะในลำคอเขาไม่เคยปฏิเสธสาวสวยที่เข้าหา กับชอบทำเรื่องอย่างว่าซะด้วยซ้ำ และคืนนั้นเขาเกือบจะได้ลูกสาวเสี่ยปืนอยู่แล้วเชียว แต่ดันไปนึกถึงหน้ายัยเด็กนั่น คนที่เขาเปิดซิงไปเมื่อคืนนะสิ เธอทำให้เขาหมดอารมณ์ไปซะดื้อๆ “มึงลองไปเจรจากับมันอีกที ถ้ากูไม่ต้องการลูกสาวมัน มันจะใช้หนี้ให้กูได้เมื่อไร? ได้ข่าวว่าที่ดินมันเยอะไม่ใช่
บนโต๊ะอาหารคนเดียวที่อาริสจะสนธนาโต้ตอบด้วยก็คือแม่นม เธอไม่แม้นแต่จะอยากมองหน้าคนที่ป่าเถื่อนกับเธอเมื่อคืนเอาซะเลย ในใจตอนนี้มีแต่ความโกรธและเกลียด แววตาที่เธอมองเขาเปลี่ยนไป ไม่ละมุนเหมือนแต่ก่อน “เดี๋ยวแม่ไปดูเด็กๆ ในครัวก่อนนะอีธาน คุณมาร์ติน” “ครับแม่” ทั้งคู่ประสานเสียงกันตอบ เธอถึงขั้นหงอยที่เห็นแม่นมเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร หลังจากที่ทานเข้าเสร็จ แม่นมก็เข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง บนโต๊ะอาหารตอนนี้เหลือเพียงเธอกับมาร์ติน และอีธานที่ยังนั่งอยู่ “วันนี้กูต้องทำอะไรบ้างวะ?” มาร์ตินหันไปถามเพื่อนรักที่ควบหน้าที่เลขาจำเป็น “ว่างช่วงเช้า...แต่ตอนเย็นก็คงต้องเข้าไปที่คลับตามเดิม” “แล้วเรื่องหนี้ของเสี่ยปืนมันมาเคลียร์ยังวะ?” “เดี๋ยวกูโทรไปหาไอ้ชาติก่อน” อีธานปลีกตัวลุกออกไปโทรศัพท์ทันที ทิ้งทั้งคู่ให้นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร “จะปล่อยฉันกับบ้านได้หรือยัง?” เธอถามเสียงห้วนให้กับคนที่นั่งเล่นแต่มือถือ ทำให้หางคิ้วเขากระตุก แต่เขาก็เปลี่ยนมาทำเมินไม่สนใจในคำพูดของเธอ “หูหนวกเหรอ หึ?” สายตาคมหันมอ
เซ็กครั้งแรกของเธอ เขาทำมันนานเกินไปแล้วนะ เพราะตอนนี้แสงแดดยามเช้าได้ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง แต่เขาก็ยังไม่คิดจะหยุด ปัก ปัก ปัก เสียงที่เปล่งเรียกชื่อเขาดังมาหลายต่อหลายครั้งจนนับครั้งไม่ถ้วนและครั้งนี้ก็เหมือนกัน “กรี๊ดดดดด” เสียงกรี๊ดดังลั่นบ้าน จนมาร์ตินต้องเอามือปิดปากบาง เพราะมันเป็นเวลาเช้าตรู่ เขากลัวแม่นมกับอีธานจะเดินมาได้ยิน “เสร็จแล้ว?” คิ้วหนาเลิกขึ้นถามคนใต้ร่าง และผ่อนจังหวะเอวให้เบาลง “...” หญิงสาวได้แต่นิ่งเธอเงียบเพราะไม่เข้าใจที่เขาถาม ก็ที่เขาทำครั้งนี้มันครั้งแรกของเธอนะสิ จะให้เธอตอบยังไงล่ะ! คนอ่อนประสบการณ์ หรือจะสู้คนเจนจัดอย่างเขาได้ น้ำตาเธอไหลคลอมาที่หางตาทั้งสองข้าง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ “เธอเสร็จแต่ฉันยัง” “ห๊ะ! ว๊าย...” เขาอุ้มร่างบางขึ้น ในท่าเหมือนลิงอุ้มแตง และเสียบท่อนเอ็นขนาด 60+ของเขาเข้าไปอีกครั้ง “พอแล้ว...ฉันไม่ไหวแล้ว” สวบ! อ่ะ..อ๊า..อ้าส์ เสียงห้ามเหมือนเสียงยุ เขาไม่ฟังที่เธอร้องห้ามเลยสักนิด ท่านี้ทำเธอจุกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมันเข้าไปลึกมาก ม