共有

บทที่7 ลุงหน้ายักษ์

last update 最終更新日: 2025-12-07 05:46:10

ภายในบ้านเช่าหลังเล็กท้ายซอย เสียงพัดลมตั้งโต๊ะตัวเก่งครางฮือๆ ส่ายหน้าไปมาราวกับคนไร้เรี่ยวแรง พัดลมเพียงตัวเดียวที่พยายามพัดพาความร้อนระอุของอากาศเมืองไทย ออกไปจากห้องโถงเล็กๆ แห่งนี้

มุมหนึ่งของห้อง บนโซฟาตัวเก่าที่ถูกใช้งานจนเบาะยุบเป็นหลุม ป้าสมรพี่เลี้ยงจำเป็นและเพื่อนบ้านใจดีวัยหกสิบกว่า กำลังเอนหลังหลับใหลอย่างมีความสุข เสียงกรนเบาๆ สลับกับเสียงพัดลมกลายเป็นจังหวะดนตรีกล่อมโลกยามบ่าย

แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยสองชีวิตที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กลางห้อง ไม่มีทีท่าว่าจะง่วงสักนิด 

"พี่ออโต้ขา... เบาๆ สิ เดี๋ยวป้าสมรตื่นนะคะ"

เสียงกระซิบกระซาบของหนูน้อยอะตอม แฝดน้องสาวตัวกลมดังขึ้นมาแผ่วๆ หนูน้อยในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีชมพูมอมแมมไปด้วยคราบช็อกโกแลตที่มุมปาก มือป้อมๆ ข้างหนึ่งกำตุ๊กตากระต่ายเน่าคู่ใจ ส่วนอีกข้างกำถุงขนมปังกรอบที่เหลือแต่เศษผง

"พี่รู้น่า…"

ออโต้ แฝดพี่ผู้มีมาดขรึมเกินวัย 4 ขวบ ตอบกลับเสียงเบาไม่แพ้กัน 

เด็กชายอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นนั่งขัดสมาธิอยู่หน้ากองหนังสือพิมพ์และนิตยสารเก่าๆ ที่แม่เก็บสะสมไว้ใต้โต๊ะญี่ปุ่น ด้วยความที่แม่ไม่อยู่และป้าสมรหลับ ออโต้จึงถือโอกาสรื้อค้น กองสมบัติที่ดูไม่มีค่าของแม่มาดูเล่นแก้เบื่อ

“พี่ออโต้ พี่ดูอาไรค้า”

นิสัยของแฝดผู้พี่เป็นเด็กนิ่งๆ ทำตัวแก่กว่าอายุ ไม่ค่อยซุกซนเหมือนน้องสาว แม้จะอายุเพียง4ขวบ แต่หนูน้อยมักชอบสังเกต ชอบมองรูปภาพ และชอบต่อตัวต่อ 

รอบตัวของเล่นเก่าๆที่มีไม่มาก เขาเล่นจนเบื่อแล้ว ตั้งแต่รูปภาพระบายสีระบายจนหมดหน้า ตัวต่อก็ไม่รู้จะต่อเป็นรูปอะไร นั่งหายใจเบื่อๆสายตาก็ไปสะดุดกับกองหนังสือเก่าใต้โต๊ะที่แม่เก็บสะสมมาหลายปี

บางทีอาจจะมีอะไรที่แก้เบื่อได้ รูปสวยๆ รูปวิว ที่เคยเห็นแม่ชอบเปิดดู

มือน้อยๆ พลิกหน้ากระดาษอย่างทุลักทุเล เสียงกระดาษกรอบแกรบดังขึ้น ทำเอาอะตอมสะดุ้งโหยง รีบหันขวับไปมองป้าสมร พอเห็นป้ายังอ้าปากกรนอยู่ เธอก็ถอนหายใจฟู่ พุงกลมๆ กระเพื่อมขึ้นลง

"พี่ออโต้หาไรค้า หาขนมเหรอ" อะตอมถามซื่อๆ ความคิดในหัวมีแต่เรื่องของกิน

"ไม่ใช่ขนม พี่หา... รูปสวยๆดู" ออโต้ตอบส่งๆ พลางพลิกหน้าต่อไปเรื่อยๆ

“พี่โต้ขา นี่ๆ ขนมๆ หนมเค้กค่า” เด็กน้อยที่ชื่นชอบขนมเป็นชีวิตจิตใจชี้รูปขนมเค้กก้อนโตที่ออโต้เปิดผ่าน 

มือเล็กๆ ของอะตอมทิ้งถุงขนมที่ถือ แล้วทำท่าหยิบขนมเค้กก้อนสีชมพูราดซอสสตรอเบอรี่สีแดงเข้าปากแก้มยุ้ยๆบานออกเพราะเจ้าตัวยิ้มแต้ คิดว่าได้กินเค้กจริงๆ

ออโต้มองน้องสาวแล้วหัวเราะคิก จินตนาการของอะตอมไม่มีใครมาหยุดได้เลย เขาเปิดดูรูปไปเรื่อยๆ มีผู้หญิงใส่ชุดสวยๆเต็มไปหมด 

ดวงตากลมโตที่มีแววฉลาดเฉลียวเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับหน้าหนึ่งในนิตยสารเล่มนั้น

มันเป็นบทสัมภาษณ์พิเศษของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปี ภาพประกอบขนาดครึ่งหน้ากระดาษโชว์ให้เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่าในชุดสูทสีเข้ม ใบหน้าคมคายหล่อเหลาแต่บึ้งตึงเล็กน้อยเหมือนคนยิ้มยาก

"โห..." อะตอมลากเสียงยาว "พี่ออโต้... ทำไมลุงคนนี้หน้าเหมือนพี่ออโต้เลยค้า เหมือนเปี๊ยบเลยค่า แค่ลุงตัวโตกว่า"

ออโต้เม้มปากแน่น หนูน้อยก็คิดเหมือนน้องสาว แต่ไม่หรอก เขาหล่อกว่า แม่บอกว่าเขาหล่อที่สุดในโลก

"หรือว่า..." อะตอมทำท่าครุ่นคิด เอียงคออย่างใช้ความคิด "หรือว่าลุงคนนี้จะเป็นพี่ออโต้ตอนโตค้า"

"ไม่ใช่หรอกลุงคนนี้อาจจะเป็น ต้องเป็นพี่ชายของพ่อเรา"

"พี่ชายของพ่อ หมายถึงอาเหยอค้า"

"ไม่ใช่อา แต่เป็นลุง"

"ลุง... เหมือนลุงป้างที่ขายไอติมไหมค้า" หนูน้อยนึกไปถึงลุงป้างคนขายไอศครีมหน้าปากซอยที่แม่พาเธอกับพี่ชายไปกินบ่อยๆ

ออโต้พยักหน้า "แม่บอกว่าเรามีพ่อ แต่พ่อไปทำงานที่ดาวอังคาร..." ออโต้พูดเสียงเบาลง นึกถึงคำบอกเล่าของแม่ที่ได้ยินมาตั้งแต่จำความได้ 

“ดาวอังคารอยู่ไหนอ่ะพี่โต้ อยู่บนภูเขาไหม” มือป้อมๆล้วงลงไปในถุงพลางหยิบเศษขนมเข้าปาก

"พี่ว่าดางอังคารอยู่ในทะเล"

"ทะเล ที่มีน้ำสีฟ้าๆใช่ไหมค้า"

ออโต้พยักหน้า อะตอมเลยพยักตามพี่ชาย

“ลุงคนนี้ เป็นพี่ชายของพ่อแน่ๆ”

"งั้น เราให้ลุงพาพวกเราไปเจอพ่อดีไหมค้า"

"พาไปเจอพ่อเหรอ..." อะตอมทวนคำนั้นเบาๆ คำว่าพ่อสำหรับเด็กแฝดคือบุคคลในจินตนาการ

"ใช่ค่า…"

"อาจจะไม่ใช่ก็ได้…" ออโต้ปลอบน้อง แม้ตัวเองจะไม่ค่อยแน่ใจนัก 

"อะตอมอยากเจอพ่อ…ถ้าพ่อรวย เราอาจจะได้กินเค้กทุกวันก็ได้นะ" อะตอมตาลุกวาว น้ำลายสอ

"แต่เราจะไปตามหาลุงที่ไหนล่ะ…" ออโต้ขมวดคิ้ว

"งั้นเราไปหาลุงเลยไหม? ไปตอนนี้เลย!" อะตอมทำท่าจะลุกขึ้น 

"เราไม่รู้จักบ้านเขาสักหน่อย" ออโต้ดึงมือน้องให้นั่งลง "แล้ว เราบอกแม่ไม่ได้นะ"

"ทำไมอะ?"

"ก็ถ้าบอกแม่... แม่ต้องร้องแงแน่ๆ" หนูน้อยจำได้ดีว่าทุกครั้งที่ถามถึงพ่อ แววตาของแม่จะดูเศร้า แม้แม่จะยิ้ม 

อะตอมพยักหน้าเข้าใจทันที เธอรักแม่ที่สุด และไม่อยากเห็นน้ำตาของแม่ "งั้นตอมจะไม่บอกแม่... เป็นความลับนะ จุ๊ๆ" หนูน้อยเอานิ้วป้อมๆแตะริมฝีปาก

"ความลับ" ออโต้พยักหน้า

“งั้นพี่จะเก็บรูปลุงเอาไว้ก่อน”

ออโต้พยายามจะดึงหน้านิตยสารหน้านั้นออกมาจากเล่ม

แควก!

เสียงฉีกกระดาษดังกว่าที่คิด ทั้งสองคนสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองป้าสมรพร้อมกัน ป้าสมรขยับตัวเล็กน้อย ส่งเสียงงึมงำในลำคอ ก่อนจะพลิกตัวหันหน้าเข้าหาพนักโซฟาแล้วกรนต่อ

สองแฝดมองหน้ากันแล้วหัวเราะคิกคัก

ออโต้ค่อยๆ พับกระดาษแผ่นนั้นแล้วเดินเอาไปยัดเข้าไปในปลอกหมอนลายหมีพูห์ที่หนุนเป็นประจำ

"เก็บไว้ในนี้ แม่ไม่เห็นแน่ๆ" ออโต้กระซิบ "พรุ่งนี้เราค่อยมาดูรูปลุงใหม่นะ"

"หนูจะคุยกับรูปลุง ขอไก่ทอดลุงทุกวันเลย!" อะตอมยิ้มแก้มปริ

กริ๊ก... แอ๊ดดดด

เสียงกุญแจไขประตูรั้วหน้าบ้านดังขึ้น

"แม่มาแล้วค่า เย้ๆ" อะตอมร้องบอก

สองพี่น้องรีบดีดตัวลุกจากพื้น ผลักกองนิตยสารกลับเข้าไปใต้โต๊ะญี่ปุ่นอย่างลวกๆ แล้ววิ่งเตาะแตะไปที่หน้าประตู

บานประตูเปิดออก ทั้งสองที่มองใบหน้าของแม่ที่แต่งหน้าเป็นแม่มดแก่ๆ ใส่วิกแปลกๆดูเหนื่อยมาก ในมือทั้งสองข้างหิ้วถุงพะรุงพะรัง ทั้งถุงกับข้าวและของใช้

"แม่จ๋าาาาา~"

"แม่ค้าบ!"

เสียงใสแจ๋วของลูกน้อยเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ มินตราที่กำลังจะหมดแรง รู้สึกเหมือนได้รับพลังพิเศษ เธอวางของลงแล้วย่อตัวอ้าแขนรับร่างเล็กๆ สองร่างที่กระโจนเข้าใส่

"โอ๊ยๆๆ ลิงทะโมนของแม่ เบาๆ หน่อยลูก แม่กระดูกจะหักแล้วเนี่ย" มินตราหัวเราะร่า แม้เรี่ยวแรงแทบจะหมดไปกับนายประธานนั่น แต่กอดอุ่นๆ ของลูกก็ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

"แม่เหนื่อยไหมค้า… อะตอมคิดถึ๊งคิดถึง" ลูกสาวตัวน้อยซุกหน้าลงกับอกแม่ ออดอ้อนเสียงหวาน

"เหนื่อยจ้ะ แต่พอเห็นหน้าหนูแม่ก็หายเหนื่อยแล้ว" มินตราหอมแก้มยุ้ยๆ ฟอดใหญ่ "แล้ววันนี้ดื้อกับป้าสมรไหมเนี่ย"

"ไม่ดื้อเลยค้าบ พวกเราเป็นเด็กดี เฝ้าป้าสมรหลับ" ออโต้รีบตอบ 

มินตราหัวเราะกับความซื่อของบุตรชาย ลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดู 

คนที่ถูกพูดถึงเดินออกมาพอดีพร้อมกระเป๋าสะพาย “มินมาแล้วเหรอ ป้ากลับก่อนนะ”

มินตราขอบคุณป้าที่ช่วยมาดูแลลูกแฝดของเธอ ไม่ลืมบอกอะตอมกับออโต้ไหว้ขอบคุณสมรด้วย

ทั้งสามคนมองหญิงที่สูงวัยกว่าเดินออกประตูไป

"แม่จ๋า ให้อะตอมนวดให้ไหมค้า"

อะตอมจูงมือแม่ให้เดินไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่สองมือน้อยๆ จะเริ่มบีบนวดลงบนขาของมินตรา แรงของเด็ก 4 ขวบแทบไม่ได้ช่วยให้หายปวดเมื่อย แต่มันช่วยนวดหัวใจของคนเป็นแม่ให้พองโต

ออโต้เองก็วิ่งไปเอาน้ำเย็นในตู้เย็น "น้ำค้าบ"

มินตรารับแก้วน้ำมาดื่ม น้ำตาพาลจะไหลด้วยความตื้นตัน เธอมองหน้าลูกแฝดทั้งสองด้วยความรักสุดหัวใจ

"ขอบใจมากนะลูก... แม่สัญญาเลยนะ ว่าแม่จะทำงานหนักๆ หาเงินเยอะๆ ให้หนูได้กินขนมอร่อยๆ นะ"

"แม่ไม่ต้องเหนื่อยมากก็ได้นะคับ..." ออโต้พูดขึ้นมาลอยๆ สายตาแอบเหลือบมองไปที่หมอนใบนั้นแวบหนึ่ง "เดี๋ยว... เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแม่แล้ว"

"หือ ใครจะมาช่วยแม่ลูก" มินตราถามขำๆ

"ยักษ์ค้าบ" ออโต้ตอบสีหน้าจริงจัง

อะตอมหัวเราะคิกคัก "ใช่ค่า ลุงย้ากตัวโตๆ หน้าดุๆจะมาซื้อหนมเคกให้หนูกินทุกวันค่า..."

มินตราขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความงุนงงกับคำพูดแปลกๆ ของลูก วันนี้ท่าทางจะดูนิทานเรื่องยักษ์มาแน่ๆ เธอคิดว่าเป็นเพียงจินตนาการตามประสาเด็กๆ

"จ้าๆ ยักษ์ก็ยักษ์... งั้นตอนนี้เรามาดูซิว่าแม่ซื้ออะไรมาฝาก..." มินตราเอื้อมมือไปหยิบถุงกับข้าว "แท่น แท๊น! น่องไก่ทอดห้าชิ้น! ของโปรดใครเอ่ย"

"ของหนูค่า"

ความลับเรื่องพ่อถูกพักไว้ชั่วคราว อะตอมกระโดดโลดเต้นกับน่องไก่ของโปรด ส่วนออโต้ก็ยิ้มกว้างออกมา

ในบ้านเช่าหลังเล็กสุดซอย เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่นของสามแม่ลูก

มินตรามองลูกชายลูกสาวที่ถือน่องไก่ แล้วนึกไปถึงคนเป็นพ่อ

5ปีที่ผ่านมา เธอยังคงคิดถึงชายคนนั้นมาตลอด 

แต่จะมีประโยชน์อะไร เมื่อเรื่องในคืนนั้นเธอกับเขาไม่ได้รักกัน

มันเป็นแค่ความผิดพลาด...

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • กับดักรักลวงใจท่านประธาน   บทที่8 เกือบไป

    บทที่ 8: ความลับในห้องลองเสื้อบรรยากาศในรถลีมูซีนคันหรูที่กำลังแล่นไปบนทางด่วนเงียบกริบจนได้ยินเสียงแอร์ทำงาน ออสตินนั่งไขว่ห้าง กอดอก สายตาคมกริบภายใต้แว่นกันแดดสีชาจ้องมองไปยังสิ่งมีชีวิต ที่นั่งตัวลีบติดประตูรถอีกฝั่งอย่างไม่วางตามินตราในคราบป้าแว่นนั่งเกร็งจนตะคริวจะกินขา มือไม้เย็นเฉียบกำสายกระเป๋าแน่น พยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับเบาะหนังสีดำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้"คุณมินตรา..." จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ"คะ... คะท่านประธาน!" มินตราสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองเจ้านายที่ดูเหมือนพญามารจำศีล"ยาดมยี่ห้ออะไร?""คะ?" มินตรางุนงง ปรับอารมณ์ไม่ถูก"ผมถามว่า ยาดม หรือยาหม่อง หรือน้ำมันมวย หรืออะไรก็ตามที่คุณชโลมมาบนตัวเนี่ย... ยี่ห้ออะไร?" ออสตินถามพลางย่นจมูกเล็กน้อยด้วยความขัดใจตั้งแต่เช้าที่เธอเดินเข้ามาในออฟฟิศ กลิ่นหอมละมุนของแป้งเด็กที่เขาโหยหาเมื่อวาน หายวับไปกับตา แทนที่ด้วยกลิ่นฉุนกึกของสมุนไพรไทยร้อยแปดชนิดที่ตีกันมั่วไปหมดจนเขาเวียนหัว กลิ่นนี้มันรุนแรงจนกลบทุกกลิ่นในรัศมีสามเมตร"อ๋อ... ยาหม่องตราฤาษีเหยียบโลกค่ะท่าน ผสมกับยาดมสมุนไพรสูตรคุณยายข้างบ้าน พอดี... พอ

  • กับดักรักลวงใจท่านประธาน   บทที่7 ลุงหน้ายักษ์

    ภายในบ้านเช่าหลังเล็กท้ายซอย เสียงพัดลมตั้งโต๊ะตัวเก่งครางฮือๆ ส่ายหน้าไปมาราวกับคนไร้เรี่ยวแรง พัดลมเพียงตัวเดียวที่พยายามพัดพาความร้อนระอุของอากาศเมืองไทย ออกไปจากห้องโถงเล็กๆ แห่งนี้มุมหนึ่งของห้อง บนโซฟาตัวเก่าที่ถูกใช้งานจนเบาะยุบเป็นหลุม ป้าสมรพี่เลี้ยงจำเป็นและเพื่อนบ้านใจดีวัยหกสิบกว่า กำลังเอนหลังหลับใหลอย่างมีความสุข เสียงกรนเบาๆ สลับกับเสียงพัดลมกลายเป็นจังหวะดนตรีกล่อมโลกยามบ่ายแต่สำหรับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยสองชีวิตที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กลางห้อง ไม่มีทีท่าว่าจะง่วงสักนิด "พี่ออโต้ขา... เบาๆ สิ เดี๋ยวป้าสมรตื่นนะคะ"เสียงกระซิบกระซาบของหนูน้อยอะตอม แฝดน้องสาวตัวกลมดังขึ้นมาแผ่วๆ หนูน้อยในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีชมพูมอมแมมไปด้วยคราบช็อกโกแลตที่มุมปาก มือป้อมๆ ข้างหนึ่งกำตุ๊กตากระต่ายเน่าคู่ใจ ส่วนอีกข้างกำถุงขนมปังกรอบที่เหลือแต่เศษผง"พี่รู้น่า…"ออโต้ แฝดพี่ผู้มีมาดขรึมเกินวัย 4 ขวบ ตอบกลับเสียงเบาไม่แพ้กัน เด็กชายอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นนั่งขัดสมาธิอยู่หน้ากองหนังสือพิมพ์และนิตยสารเก่าๆ ที่แม่เก็บสะสมไว้ใต้โต๊ะญี่ปุ่น ด้วยความที่แม่ไม่อยู่และป้าสมรหลับ ออโต้จึงถือโอกาสร

  • กับดักรักลวงใจท่านประธาน   บทที่6 กลิ่น

    บรรยากาศภายในห้องทำงานกว้างขวางบนชั้นผู้บริหารสูงสุดของเอ็มไพร์ทาวเวอร์ในยามบ่ายแก่ๆ นั้นตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด กองเอกสารสัญญาก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ใหม่วางระเกะระกะอยู่เต็มโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ออสตินนั่งหน้าเครียด คิ้วขมวดจนเป็นปม นิ้วเรียวยาวเคาะโต๊ะเป็นจังหวะถี่รัวบ่งบอกถึงความหงุดหงิดที่พุ่งสูง"คุณมินตรา!"เสียงทุ้มต่ำตวาดเรียกชื่อเลขาหน้าห้องผ่านอินเตอร์คอม เสียงนั้นดังก้องจนมินตราที่กำลังนั่งจัดตารางของเจ้านายเดือนนี้อยู่ถึงกับสะดุ้งโหยง ปากกาในมือแทบร่วง"คะ... ค่ะท่านประธาน!" เธอกดปุ่มตอบรับเสียงสั่น"เข้ามานี่เดี๋ยวนี้ เอาสรุปโครงการที่ระยองมาด้วย ผมต้องการตัวเลขที่แน่นอนตอนนี้!""รับทราบค่ะ"มินตราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขยับแว่นตากรอบหนาให้เข้าที่ จัดทรงวิกผมทรงป้าให้ดูรุงรังน้อยที่สุด ก่อนจะคว้าแฟ้มเอกสารทันทีที่เปิดประตูเข้าไป รังสีที่ไม่น่าเข้าใกล้จากร่างสูงที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานก็แผ่พุ่งออกมา ออสตินเงยหน้าขึ้นมองเธอแวบหนึ่งด้วยสายตาตำหนิ"ช้า... ฉันเรียกสามวินาทีต้องถึงโต๊ะ" เขาบ่นอุบ"ขอประทานโทษค่ะท่าน พอดีดิฉัน...""ช่างเถอะ มาดูนี่" ออสตินตัดบท กวักมือเรียกเธออย่าง

  • กับดักรักลวงใจท่านประธาน   บทที่ 5: เงาอดีต

    นาฬิกาดิจิทัลบนผนังบอกเวลาเกือบตีหนึ่ง ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนชั้นสูงสุดของคอนโดมิเนียมย่านดังที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา ออสตินทิ้งตัวลงบนโซฟาหนังสีดำตัวยาว เขาปลดเนกไทราคาแพงโยนทิ้งไปบนพื้นอย่างไม่ไยดี ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนออกเพื่อระบายความอึดอัดที่สุมอยู่ในอก"น่ารำคาญ..."ชายหนุ่มสบถออกมาเสียงต่ำ มือหนาคว้าแก้ววิสกี้ที่รินค้างไว้ขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ความร้อนของแอลกอฮอล์บาดลึกไปในลำคอ แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับไฟโทสะที่กรุ่นอยู่ในใจเขาตลอดทั้งบ่ายสาเหตุของความหงุดหงิดไม่ใช่เรื่องหุ้นตก ไม่ใช่เรื่องคู่แข่งทางธุรกิจ... แต่เป็นยัยป้าเลขาหน้าใหม่ที่ชื่อมินตราคนนั้น…ทั้งที่เขากลั่นแกล้ง หวังจะเห็นเธอทำงานพลาด แต่กลายเป็นว่าตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เธอทำงานได้ดีเยี่ยมไม่มีที่ติจนน่าขนลุก เอกสารทุกชิ้นถูกจัดหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบ ตารางงานถูกจัดใหม่จนมีประสิทธิภาพสูงสุด กาแฟที่เธอชงมาให้ก็รสชาติดีจนเขาหาเรื่องติไม่ได้ยิ่งเธอทำดี เขายิ่งหงุดหงิด!มันเหมือนทฤษฎีของเขาถูกสั่นคลอน ปกติผู้หญิงที่เข้ามาทำงานกับเขามีแค่สองประเภท คือ 'สวยแต่โง่' หรือ 'เก่งแต่ขี้อวด' แต่ยัยป้านี่กลั

  • กับดักรักลวงใจท่านประธาน   บทที่ 4: เลขาคนใหม่

    อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ใจกลางย่านธุรกิจ บรรยากาศภายในชั้นผู้บริหารสูงสุดที่ปกติจะเงียบสงบและเต็มไปด้วยความหรูหรา วันนี้กลับคุกรุ่นไปด้วยรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากห้องทำงานใหญ่ที่ปลายสุดทางเดิน"ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้! ฉันบอกว่าอย่าอ่อย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!"เพล้ง!เสียงตวาดลั่นดุจฟ้าผ่าตามมาด้วยเสียงแก้วแตกกระจาย ดังทะลุประตูไม้สักบานหนาออกมา ทำเอาบรรดาผู้สมัครงานสาวสวยห้าคนที่นั่งรออยู่หน้าห้องถึงกับสะดุ้งโหยง ตัวสั่นงันงกราวกับลูกนกตกน้ำวินาทีต่อมา ประตูห้องท่านประธานก็ถูกกระชากเปิดออก ร่างระหงของเลขาคนสวยในชุดเดรสรัดรูปวิ่งร้องไห้โฮออกมาด้วยสภาพน้ำตานองหน้า เครื่องสำอางราคาแพงไหลเยิ้มเปรอะเปื้อนใบหน้า"ฮือๆๆ... โรคจิต ใครจะไปทนทำงานด้วยได้วะ" เธอตะโกนก้องก่อนจะวิ่งหนีหายเข้าไปในลิฟต์ ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมฉุนกึกและความหวาดผวาให้แก่ผู้ที่ยังเหลืออยู่"คนต่อไป! เข้ามา!"เสียงทุ้มต่ำดังลอดออกมาจากห้องนั้น มันไม่ใช่คำเชิญชวน แต่เหมือนเรียกไปรับโทษ ผู้สมัครสาวสวยคนแรกที่นั่งอยู่ใกล้ประตูที่สุดหน้าซีดเผือด เธอลุกขึ้นยืนขาสั่นพับๆ หันมามองเพื่อนร่วมชะตากรรมแล้วส่ายหน้า"มะ... ไม

  • กับดักรักลวงใจท่านประธาน   บทที่ 3: ภารกิจแปลงโฉม... ยัยป้าหน้ามึน

    "แม่จ๋า..."เสียงเล็กๆ ที่เจือความน่าเอ็นดูดังขึ้นทำลายความเงียบของเช้าวันใหม่ในบ้านเช่าหลังเล็กชานเมืองมินตราที่กำลังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเก่าสะดุ้งตื่น ร่างบางรีบดีดตัวลุกจากฟูกนอนที่ปูอยู่กับพื้นห้องโล่งๆ"สายป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย" มินตราพึมพำกับตัวเอง พลางรีบกุลีกุจอวิ่งไปดูที่มุมครัวเล็กๆภาพที่เห็นคือ ออโต้ลูกชายคนโตวัย 4 ขวบ ยืนเขย่งปลายเท้า เกาะขอบเคาน์เตอร์ครัว จ้องมองหม้อหุงข้าวเก่าคร่ำครึด้วยสายตานิ่งๆ คิ้วน้อยๆ ขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังสงสัยว่าทำไมแสงไฟสีแดงถึงไม่ทำงาน ส่วนมือป้อมๆ ก็พยายามกดสวิตช์ย้ำๆ"แม่จ๋า กดแล้วมันเด้งขึ้นมาตลอดเลย" เด็กชายฟ้องเสียงอ่อย หันมามองแม่ด้วยแววตาที่ถอดแบบมาจาก ผู้ชายคนนั้น ราวกับแกะ ทั้งดวงตาคมกริบที่ดูนิ่งเกินวัยและโครงหน้าที่ฉายแววหล่อแต่เด็ก แต่ในเวลานี้มันเต็มไปด้วยความผิดหวังแบบเด็กๆ ที่หิวข้าว"โธ่ลูก... หม้อใบนี้มันเกเรอีกแล้วเหรอครับ" มินตราถอนหายใจเฮือกใหญ่ รีบเข้าไปดู ก็พบว่าหม้อหุงข้าวคู่ยากนิ่งสนิทไปแล้วจริงๆ "สงสัยคราวนี้จะพังจริงๆ แล้วล่ะลูก เอายังไงดีล่ะเนี่ย""ฮืออออ... แม่จ๋า อะตอมหิววววว ท้องร้องจ๊อกๆ แล้ววว"เสียงร้องงอ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status