“ก็บ้านมึงใกล้สุดไหมล่ะ” อาเชอร์หันมาตอบ
“ไม่ได้” ค้านหัวชนฝา ไม่จำเป็นไม่อยากให้พวกมันไปที่บ้าน น้องสาวเขาอยู่ที่นั่นด้วย เกิดพวกนี้ไปรบกวนเธอทำไง อุตส่าห์หลีกเลี่ยงมาได้ตั้งสี่ปี
“มึงก็น่าจะรู้นะอาร์ นอกจากไอ้ก้าแล้วมีใครได้เข้าไปเหยียบบ้านมันบ้าง ขนาดอยู่มหา’ลัยเดียวกันยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องมันชัด ๆ สักที!”
วิกเตอร์เหลือบตามองคนหวงน้องสาวอย่างเจฟฟ์ตาเขม็ง รู้แค่ชื่อกับคณะที่เรียนนี่ก็นับว่าบุญพวกเขาแล้วมั้ง
“ก็ใครใช้ให้พวกมึงแต่ละคนทำตัวดี ๆ กันทั้งนั้น ในฐานะเพื่อนกูยอมรับว่าพวกมึงพึ่งพาได้ แต่สำหรับน้องกูพวกมึงก็ผู้ชายเลวคนหนึ่ง โอเคนะ” คิ้วหนายกขึ้นแสดงถึงการแบ่งเขตระหว่างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองอย่างเด่นชัด
แน่นอนว่าในฐานะเพื่อนนั้นทุกคนดีชิบหาย แต่หากเป็นเรื่องผู้หญิงละก็...ขอกันน้องสาวออกห่าง ๆ เป็นดีที่สุด
“แต่กูเพื่อนมึงนะ พูดซะเสียเลย” วิกเตอร์ไม่ยอมรับคำใส่ร้าย ในกลุ่มถ้าจะมีใครสักคนได้บทบาทนั้นก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
“มองหน้ากูทำไม หล่อจนละสายตาไม่ได้เลยใช่ไหม?” อชิระเข้าใจความหมายของสายตาวิกเตอร์ แต่แล้วยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักครั้งผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาหาเอง เขาผิดตรงไหน
“เอาความมั่นหน้ามึงเก็บไว้ที่เดิมเหอะอชิ” วิกเตอร์ไม่ยอมให้ง่าย ๆ
“พวกมึงอย่านอกเรื่องดิวะ” เมื่อเห็นว่าประเด็นเริ่มออกไปไกล อาเชอร์จึงรีบดึงพวกนั้นกลับมา จะเอายังไงก็สรุปมาสักอย่าง ไม่ใช่เพราะอยากไปเที่ยวแต่กลัวว่าซอลจะเบื่อแล้วกลับตอนนี้เลยต่างหาก
“นั่นดิ จะเอายังไงก็ว่ามาเจฟฟ์ จะให้พวกกูไปไหม ทำอย่างกับกันพวกกูไว้แล้วน้องมึงจะไม่เจอผู้ชายคนอื่นงั้นแหละ เอาแค่พอดีนี่เพื่อน” พอจะรู้มาบ้างว่าเจฟฟ์มันเลี้ยงน้องสาวคนนี้มาเองกับมือ หวงยิ่งกว่าไข่ในหิน
คงเป็นเหตุผลนี้ที่มันเลือกเรียนทั้งเทควันโดแถมยังติดอันดับหนึ่งของสายดำ เรียนวิชาป้องกันตัวทุกแขนงเรียกได้ว่าตัวเต็งของมหา’ลัย คนอื่น ๆ พอได้ยินว่าเธอคนนั้นเป็นน้องมันก็ไม่มีใครกล้ายุ่งแล้ว
แต่นี่เพื่อน! เว้นหน่อยก็ได้มั้ง จะอะไรนักหนา
“เออ ๆ แต่บอกไว้ก่อนนะ ห้ามเสียงดังเด็ดขาด ห้ามวุ่นวายกับน้องกูด้วย” เห็นสีหน้ารอคอยความหวังของพวกมันแล้วคงเลี่ยงอีกไม่ได้
“มันต้องอย่างนี้สิวะถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนรักกันจริง”
“มึงอะตัวดีเลยเตอร์” ไลก้าเอ่ยปากเสียงเบา
“อะไรวะ?” คนที่ควรจะหมายหัวต้องไอ้คนนั่งตีเนียนอยู่ตรงหน้าเขานี้ปะวะ
“เอ้า! กูนึกว่ามึงนอน ลุกขึ้นมาเล่นโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ขณะที่ทุกคนเตรียมตัวเพื่อย้ายที่ดื่มกัน คนที่คิดว่าไม่น่าจะสนใจอะไรอย่างไลก้ากลับดีดตัวลุกนั่งในท่าเตรียมพร้อมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วยังกดมือถือไม่หยุดอีก ผิดวิสัยนิสัยของเจ้าตัวมาก
“อยากรู้ไปทุกเรื่อง นู้นไอ้อาเชอร์กับซอลออกไปแล้ว เดี๋ยวก็ตามพวกมันไม่ทันหรอก” ไลก้าเก็บมือถือลงกระเป๋าพร้อมกับดันหลังวิกเตอร์ที่พยายามจะรู้ให้ได้ว่าเขากำลังคุยอยู่กับใคร
“ก็มึงทำตัวน่าสงสัยเองนี่หว่า” ยังไม่วายหันกลับมาต่อปากต่อคำคนทำตัวแปลกไป แต่กระนั้นก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะมันกำรอบหลังคอเขาไว้แล้ว หากพูดต่ออาจจะถูกมันหักคอเอาได้
‘แล้วมันเป็นอะไรทั้งไอ้เจฟฟ์ ไอ้ก้า มือหนักกันชิบหาย’
ลานจอดรถ
ตื้ด... ตื้ด...
‘ไปไหนของเธอ?’ เจฟฟ์ยืนพิงรถสีแดงเพลิงของตนเอง รอสายจากน้องสาวที่ไม่มีทีท่าว่าจะรับ ปกติวีด้าไม่เป็นแบบนี้ แล้วยังถูกพวกข้างหลังรบเร้านั้นอีก สายตาจ้องกดดันกันชิบ!
(ค่ะพี่เจฟฟ์) ตอบรับเสียงเหนื่อย หลังจากปล่อยให้ปลายสายรออยู่นาน
“เป็นอะไร ทำไม่เสียงเป็นแบบนั้น” หัวคิ้วเข้มขมวดเป็นปม
(วีพึ่งวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ไม่มีอะไรค่ะ)
“อืม นอนหรือยัง”
(ยังค่ะ กำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่จะกลับกี่โมงคะ) สองนิ้วไขว้กันไว้ด้านหลัง อย่าให้เธอต้องตกนรกเลย
“กำลังจะกลับ เพื่อนพี่มันจะตามกันไปด้วย แต่งตัวให้มิดชิดแต่ถ้าไม่อยากลงมาก็นอนไปเลย พี่จะพาพวกมันออกมานั่งข้างนอก”
(งั้นวีลงไปดูอะไรในครัวไว้รอพี่แล้วกัน)
“เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องนะ”
(ไม่เหนื่อย ๆ วีโอเคค่ะ)
“อืม พี่วางนะ”
(ค่ะ อ้อ...ดื่มหรือเปล่า)
“นิดหน่อย ไม่ต้องห่วงแค่นี้โอเคมาก” มุมปากได้รูปกระตุกเบา ๆ
(ค่ะ วีรอพี่นะ)
เจฟฟ์ลดมือถือลง ถ้อยคำห่วงใยจากน้องสาวทำให้เขายิ้มได้เสมอ วีด้าอายุห่างกันสองปี เราอยู่ด้วยกันสองคนมาตั้งแต่เขาเริ่มขึ้นมัธยมปลาย ป๊ากับม๊าส่วนมากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ นาน ๆ ครั้งจะกลับมาอยู่ด้วยกัน ถามว่าเป็นแบบนี้ตนเองและน้องสาวรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไหม
บอกเลยว่าไม่! ป๊าม๊าใช้ทั้งชีวิตเลี้ยงเรามาอย่างดี เขาโตแล้วสามารถดูแลน้องสาวได้ ก็ควรให้พวกท่านได้ท่องเที่ยวอย่างที่ตั้งใจถึงจะถูก
“ต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ” ควันลอยฟุ้งเหนือใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาคมดุหยุดอยู่ที่เจฟฟ์ อชิระได้ยินทุกประโยคของเพื่อนกำชับน้องสาว อีกนิดมันจะทำตัวเป็นพ่อหล่อนแล้ว หวงอะไรขนาดนั้น เขาเองก็มีน้องสาวยังไม่ถึงขั้นนี้เลย
“อะไรที่ว่าขนาดนี้ มันดึกแล้ว น้องกูเข้านอนเร็วก็ต้องถามก่อน มึงมีปัญหาอะไร”
หยัดตัวออกห่างจากรถ หันไปเปิดประตูค้างไว้ก่อนจะหันมาทาง
‘เสือตัวร้าย’
“หรือจะไม่ไปก็ได้นะ แบบนั้นยิ่งดีเลย” ว่าจบเขาก็หย่อนตัวลงนั่งประจำตำแหน่งคนขับ ท่อนแขนวางพาดขอบประตูที่เปิดเลื่อนกระจกลงมา
อชิระกระตุกใบหน้าอันหล่อเหลาชนิดทำคนมองดุนกระพุ้งแก้มด้วยความหมั่นไส้ นัยน์ตาสีน้ำตาลซินนาม่อนระยิบระยับยามเมื่อภายในหัวขบคิดวาจาท้าทายของเจฟฟ์ เขารู้ว่าเพื่อนก็แค่จะกันซีนทุกคนออกห่างจากน้องสาวของมัน
แต่นั่นมันไม่รู้เลยว่ายิ่งเป็นการกระตุ้นให้คนที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรมาก่อนอย่างตน อยากเห็นหน้าเธอคนนั้นแบบใกล้ชิดจริง ๆ สักครั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าข่าวลือหนาหูเรื่องความสวยหยาดฟ้ามาดิน แท้จริงแล้วจะสักแค่ไหน?
20 นาทีต่อมา...
วีด้าวิ่งออกมารับพี่ชายเมื่อเห็นว่าเขาเดินนำเพื่อนคนอื่น ๆ เข้ามา รอยยิ้มหวานแต่งแต้มดวงหน้าแสนสวย ดวงตากลมโตมีประกายโดดเด่น จมูกเรียวเล็กรับกับใบหน้ารูปไข่ราวกับประติมากรรมชั้นเยี่ยมที่ถูกรังสรรค์ออกมาจากพระเจ้า ทรวดทรงองเอวหรือก็สมส่วนอรชร เอวเล็กคอดเมื่อเทียบกับสะโพกกลมกลึงนั้นเข้ากันอย่างลงตัวเลยทีเดียว
“ช้าหน่อย เดี๋ยวก็ได้ล้มพอดี” เจฟฟ์อ้าแขนรับน้องสาวตัวน้อยของเขา ปากหยักยกยิ้มให้กับความซุกซนของเธอ ก่อนจะโอบไหล่เล็กแล้วหันกลับมาทางเพื่อนที่ยืนรอด้านหลัง
เขาแนะนำแค่พอเป็นพิธีไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าใครที่สนิทหรือให้ความสำคัญมากสุด กระทั่งมาถึงไลก้า เขาไม่ได้แนะนำเพราะต่างก็คุ้นเคยกับเธอดีอยู่แล้ว
“งั้นเดี๋ยววีไปเอาน้ำมาให้นะคะ” คนตัวเล็กแหงนหน้าบอกกับพี่ชาย
“อืม ฝากด้วย” วางมือบนศีรษะเล็ก ก่อนจะเดินนำคนอื่น ๆ ไปโซนด้านหลัง
“ถึงว่าทำไมมึงหวงน้องนัก! อย่างกับตุ๊กตา น่ารักสุด ๆ กูนึกว่านางฟ้า” วิกเตอร์เอ่ยเสียงกังวานเมื่อเดินมาถึงซุ้มหลังบ้าน
ผัวะ!
จบคำพูดของคนทำตัวดี๊ด๊าไม่เท่าไหร่ เสียงฝ่ามือกระทบท้ายทอยก็ดังขึ้น
“เก็บอาการของมึงหน่อย บอกว่าไง นั่นน้องกู” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงเก้าอี้ตัวยาว
คนถูกฝ่ามือพิฆาตแทบหลับแต่กลับมาได้ จับท้ายทอยตัวเองปอย ๆ
“สัสนี่หัวกูแทบหลุด นี่เพื่อนไหม รู้ว่าเป็นน้องมึงก็พูดตามความจริงไม่ได้คิดอะไรนี่หว่า จริงจังไปไหนวะ” ก่อนมาก็ไอ้ก้า ถึงนี่ก็ไอ้เจฟฟ์เขาจะสมองฝ่อก่อนเรียนจบไหม
“อย่าให้รู้ว่าคิด”
“เออ ไม่คิดโว้ย”
เจฟฟ์กับวิกเตอร์ยังไม่มีใครยอมลงให้กัน ดังนั้นอีกสี่ชีวิตจึงไม่ได้ใส่ใจ
อาเชอร์วางเครื่องดื่มที่แวะซื้อกันมาลงที่โต๊ะตัวใหญ่ มีซอลช่วยหยิบออกมาวางเรียง
ไลก้ายึดมุมที่มีแสงน้อยหน่อย
ส่วนคนที่ตีหน้านิ่งที่สุดเห็นจะเป็นอชิระ แต่ทว่าในความนิ่งสงบนั้นมีคลื่นบางอย่างก่อกวนภายใน
ดวงตาสีพีนัทตอนกำลังยิ้มให้กับพี่ชายเปล่งประกายยิ่งกว่าดาวบนท้องฟ้าเสียอีก เสียงเล็กทว่าหวานรื่นหูยังก้องกังวานอยู่ในหัวใจ เขาโดนสะกดด้วยรอยยิ้มของเธอ เหมือนทุกอย่างหยุดอยู่แค่นั้น รอบตัวเบลอไปหมดมีแค่เรือนกายเล็กที่เด่นชัด
กระทั่งไหล่ถูกกระทบจากฝ่ามือของไลก้า สติทั้งหมดของเขาถึงได้กลับมา
‘เข้าข้างในสิ ขาตายหรือไงถึงไม่ขยับ’
นั่นแหละเขาถึงได้เดินตามมันเข้ามา...
2 ปีให้หลัง....วันเสาร์เป็นวันที่วีด้าโหยหาที่สุดนับตั้งแต่ร่วมกันเปิดบริษัทกับไลลาและซันเดย์เธอก็วิ่งวุ่นจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน โดนสามีบ่นหลายครั้งว่าไม่สนใจเขา เอาแต่ทำงาน... ทำอย่างกับว่าตัวเองงานไม่เยอะงั้นแหละYOLO เดี๋ยวนี้มีดารา นายแบบ คนมีชื่อเสียงเข้าไปฝึกที่สนามพวกเขากันเยอะเลย โด่งดังใหญ่แล้ว!พรึ่บ⁓ร่างกายที่กำลังดื่มด่ำกับความอุ่นสบาย ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่คิ้วขมวดเมื่อความเย็นกระทบผิว“อื้อ~”“ตื่นได้แล้วยัยขี้เซา จะสิบโมงละนะ ข้าวเช้าก็ไม่ยอมกิน ถ้าป๊ากับพี่ชายเธอรู้สามีคนนี้จะรับมือไหวเหรอ หื้ม?” ก้มลงกระซิบข้างใบหูขาว เห็นว่าเธอครางพึมพำก็กดจูบซอกคอระหงจนเธอหันขวับมาค้อนวงใหญ่“แค่วันเดียวเอง พี่ไม่บอกพวกเขาจะรู้เหรอคะ” ดันตัวขึ้นบอกสามีเสียงงัวเงีย ก็ไม่ใช่เพราะเขาหรือไงเธอถึงได้เพลียแบบนี้“ร้ายขึ้นทุกวัน” บีบจมูกรั้นเบา ๆ“อื้อ... ไหน ๆ ก็สายแล้วนอนต่อได้ไหม”“หยุดเลย” ประคองท้ายทอยเล็กเอาไว้ก่อนที่เธอจะเอนตัวราบลงไปเสียก่อน“ถึงจะสายก็ต้องกิน ถ้าปวดท้องขึ้นมาพี่จะตีเธอจริง ๆ นะวีด้า” ขยับตัวขึ้นกลางเตียงเพื่อให้ศีรษะเล็กหนุนขาได้ถนัด“พี่จะตีเมียลงเหรอคะ จะทนเห็นน้ำ
หนึ่งปีต่อมา…โรงแรม The Lush Nestวันที่ 02 / 10 /25xxบรรยากาศภายในห้องโถงขนาดใหญ่ของโรงแรมถูกเนรมิตอย่างงดงาม แซนเดอเลียร์ระยิบระยับทิ้งตัวระย้าจากด้านบน แสงสีนวลส่องสว่างขับให้ทั่วทุกพื้นที่อบอวลไปด้วยความตระการตาภาพถ่ายขนาดเท่าตัวคนจริง ๆ เป็นรูปของชายหนุ่มสวมชุดทักซิโดสีเข้มทั้งชุด คุกเข่าต่อหน้าหญิงสาวสวมชุดราตรีสีมุกผ้าลูกไม้ ใบหน้าทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขแม้จะมองผ่านรูปยังซึมซับความรู้สึกนั้นได้ จึงเป็นจุดเด่นให้อยากเก็บภาพความทรงจำอันแสนตราตรึงในงาน...แต่งงานระหว่าง อชิระ ธาดากุล & วีด้า เมย์แกนคู่บ่าวสาวคนแรกของแก๊งสิงห์ ทั้งสองเข้าประตูวิวาห์ในวัยที่เหมาะสมและพร้อมทุกอย่าง ต่างได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบนอกจากทำหน้าที่เป็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวแล้ว ทั้งอชิระและวีด้าก็แทบไม่ได้จัดการเกี่ยวกับงานครั้งนี้ พ่องานแม่งานอย่างแจ็คกี้ เลย์ เคที่และรีน่าล้วนดำเนินการให้กับลูกทั้งสองจนหมดแขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นแวดวงสังคมที่อยู่ในระดับผู้มีชื่อเสียง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่าย เจฟฟ์ ไลก้า อาเชอร์ วิกเตอร์และ
อชิระหายใจเข้ารุนแรงเมื่อภาพที่เห็นอยู่เบื้องล่างทำขนกายลุกซู่ เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมส้มเคลื่อนไหวใบหน้าอยู่กึ่งกลางความเป็นชาย เพียงแค่ลมอุ่น ๆ กระทบยังไม่ทันที่เธอจะสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของอาวุธประจำกาย เขาก็เกร็งท้องน้อยจนเหน็บจะกินเอา!นิ้วเรียวยาวเสยกลุ่มผมสลวยแล้วทัดเข้ายังใบหูขาว...“ถ้าเธอไม่ใช่เจ้าของหัวใจของพี่ ต่อให้มีคนมาห้อมล้อมนับร้อยนับพันพี่ก็ไม่สนใจ แต่นี่เป็นเธอ จะให้ไม่หึง ไม่หวงก็เอามีดมาทิ่มพี่เลยเถอะวีด้า”“ทำแบบนั้นวีจะเอาอะไรมาไว้ทิ่มตัวเองล่ะ”“เชี้ย! โคตรยั่วเลยว่ะ มานั่งบดกันเลยมาถ้าจะขนาดนี้ เสียวหัวไปหมดแล้วเนี่ย”“งั้น...เอาอย่างอื่นบดให้นะคะ”“ซะ ซี้ด...”กายใหญ่สะท้านทันทีเมื่อปลายลิ้นสีชมพูเลียรอยหยักหัวแดงก่ำ พร้อมกับน้ำลายยืดออกเป็นสายยามที่กลีบปากอวบขยับอ้าอม ดูดดุนลิ้นรอบ ๆ ปลายหัวบานหยัก เขาถูกเธอกระตุ้นด้วยไฟเร่าร้อน เหมือนถูกเกลียวคลื่นซัดสาดให้วนอยู่กับอารมณ์วาบหวามซ้ำ ๆ‘เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?’เธอช้อนมองเจ้าของเสียงครางต่ำกระหึ่มในลำคอ นัยน์ตาคมดุเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันเร่าร้อนที่พร้อมจะแผดเผาทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า กับลิ้นเปียกชื้นท
Mittap Universityวีด้านั่งอยู่ภายในห้องที่เคยเป็นศูนย์รวมของแก๊งสิงห์ แม้ว่าพวกเขาจะเรียนจบไปแล้วได้ปีกว่า ๆ ทว่าก็ยังแวะเวียนมายังสถานศึกษาแห่งนี้เป็นนิจ จะด้วยเหตุอะไรนั้นก็ยากที่จะพูดแต่ที่มาบ่อยสุดก็เห็นจะเป็นคนที่ยืนอิงขอบตู้ตัวยาวข้างห้อง ร่างสูงกอดอกด้วยท่าทีไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก นัยน์ตาสีซินนาม่อนก็เรียบนิ่งยิ่งกว่าสายลม ริมฝีปากที่เคยยกยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ก็ไม่หลงเหลือ ที่เด่นชัดนั่นก็คือลมหายใจกระชากรุนแรงเป็นระยะ ชวนหัวใจเต้นตุบ ๆ ต่อม ๆ“วีก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร น้องมันก็แค่ตามซันมา พี่อย่าอารมณ์เสียได้ไหมคะ กว่าจะว่างมาเจอกันได้ไม่ง่ายเลยนะ”คงต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ไม่งั้นห้องนี้อาจจะพังก็ได้ เธอไม่อยากถูกพี่ชาย หรือคนอื่น ๆ ล้อเวลาเข้ามาแล้วเห็นว่ามีโซฟา หรือไม่ก็โต๊ะตรงหน้านี้เปลี่ยนใหม่อีกแล้ว“แล้วมันต้องตามติดเธอแบบนั้นไหม พี่สาวตัวเองก็อยู่ด้วย มันจงใจเข้าหาเธอชัด ๆ แม่ง! ไล่ออกเลยดีไหม เกลียดขี้หน้ามันว่ะ”มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นว่าไอ้เด็กนั่นมาวอแวแฟนเขา มาทีไรก็เดินตามเธอต้อย ๆ เหมือนพี่สาวไม่มีผิด ถ้าไม่เห็นแก่ที่ว่า ซันเดย์เป็นเพื่อนที่วีด้ารักมาก คงได้ตะบ
แสงแดดยามเย็นส่องลอดผ่านใบไม้ที่พลิ้วไหวตามสายลมอ่อน ๆ เสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ภายในบ้านดังขึ้น ขณะกำลังช่วยกันจัดเตรียมอาหารมื้อเย็น แจ็คกี้และเลย์ช่วยกันเรียงไก่ทอดน่องใหญ่ที่พึ่งพักให้สะเด็ดน้ำมันลงบนจาน กลิ่นหอมของอาหารกระจายไปทั่วบริเวณ รีน่าและเคที่จัดโต๊ะอาหารใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับมองภาพที่ลูก ๆ กำลังช่วยกันตกแต่งไฟดวงเล็ก ๆ เพิ่มบรรยากาศมือเย็นให้สวยงามยิ่งขึ้นวีด้า อชิตาช่วยกันปอกผลไม้เอาไว้สำหรับตบท้ายมื้อค่ำ รอยยิ้มแสนหวานของทั้งสองสาวยิ่งเพิ่มความสดใสให้กับบรรยากาศโดยรอบ อชิระและเจฟฟ์ต่างก็ยิ้มตามพวกเธอ ก่อนที่จะหันมาจัดงานในมือให้เสร็จก่อนค่ำ“มึงก็แขวนให้มันดี ๆ หน่อยได้ไหมวะ” เจฟฟ์ชี้นิ้วให้คนยืนอยู่ขั้นบันไดเอาสายไฟพันกับกิ่งไม้ให้เรียบร้อย“มาทำเองไหมเจฟฟ์ กูก็ถามแล้วว่าพอยัง มึงบอกเองว่าได้แล้ว!” คนถูกใช้ให้เปลี่ยนตำแหน่งอีกชักเริ่มหัวเสีย ลิ้นร้อนดันกระพุ้งแก้ม พยายามไม่ยกเท้ายันไอ้คนเรื่องมาก หากไม่อยู่ต่อหน้าบุพการีของทั้งสองฝ่ายคงจัดหนักมันไปแล้ว!“อะไรกันตาอชิ ไม่ดีก็แค่ทำใหม่ ไม่เห็นต้องใช้เสียงแบบนั้นกับตาเจฟฟ์เลยนี่” เคที่เอี้ยวตัวมาทางลูกชายเมื่อได้ยินเสีย
วีด้ากลับมาจากบ้านไรอันก็พอดีกับเวลาอาหารเย็น ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงเมื่อเห็นรถยนต์ที่คุ้นเคยจอดอยู่นอกรั้วบ้าน มองหาเจ้าของก็ไม่เจอ นึกว่าเจ้าตัวน่าจะอยู่แถวนี้ก็ไม่เห็นถึงขับรถตัวเองเข้ามาจอดด้านใน ควานหามือถือระหว่างออกมาจากตัวรถ เพื่อโทรหาคนที่เงียบหายไปตลอดทั้งวัน กระทั่งเดินเข้ามาภายในตัวบ้านจึงได้เห็นว่าคนที่ตามหากำลังเดินออกมาจากห้องครัว“ทำไมพี่ถึงมาอยู่ในบ้านคะ?” แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าพี่อชิจะเข้ามาได้ ซ้ำยังใส่ชุดพี่ชายของเธอด้วย ก่อนจะมองผ่านไหล่กว้างไปก็เห็นว่าป๊าก็อยู่ในนั้นเช่นกัน ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น!’ยังไม่ทันที่อชิระจะเปิดปากตอบแฟนสาว ผู้ที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน“อ้าวยัยหนูกลับมาแล้วเหรอ” คนพึ่งเดินออกมาจากห้องครัวพอเห็นลูกสาวก็เดินผ่านอชิระมาหาเธอก่อน โอบไหล่เล็กไว้ในอ้อมแขนแล้วพาไปยังโซฟาหน้าทีวี วีด้าเดินผ่านแฟนหนุ่มไปแต่ส่งสายตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ติดที่ผู้เป็นบิดาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เอ่ยคำใด จึงขยับปากถามแบบไร้เสียง‘ทำไมอยู่ที่นี่’ แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นแค่ยิ้มบาง ๆ อชิระที่เริ่มจับทางพ่อที่หวงลูกสาวได้แล้ว เดินตามทั้งสองไปรีน่านั่งอยู่ก่อน