“ก็บ้านมึงใกล้สุดไหมล่ะ” อาเชอร์หันมาตอบ
“ไม่ได้” ค้านหัวชนฝา ไม่จำเป็นไม่อยากให้พวกมันไปที่บ้าน น้องสาวเขาอยู่ที่นั่นด้วย เกิดพวกนี้ไปรบกวนเธอทำไง อุตส่าห์หลีกเลี่ยงมาได้ตั้งสี่ปี
“มึงก็น่าจะรู้นะอาร์ นอกจากไอ้ก้าแล้วมีใครได้เข้าไปเหยียบบ้านมันบ้าง ขนาดอยู่มหา’ลัยเดียวกันยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องมันชัด ๆ สักที!”
วิกเตอร์เหลือบตามองคนหวงน้องสาวอย่างเจฟฟ์ตาเขม็ง รู้แค่ชื่อกับคณะที่เรียนนี่ก็นับว่าบุญพวกเขาแล้วมั้ง
“ก็ใครใช้ให้พวกมึงแต่ละคนทำตัวดี ๆ กันทั้งนั้น ในฐานะเพื่อนกูยอมรับว่าพวกมึงพึ่งพาได้ แต่สำหรับน้องกูพวกมึงก็ผู้ชายเลวคนหนึ่ง โอเคนะ” คิ้วหนายกขึ้นแสดงถึงการแบ่งเขตระหว่างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองอย่างเด่นชัด
แน่นอนว่าในฐานะเพื่อนนั้นทุกคนดีชิบหาย แต่หากเป็นเรื่องผู้หญิงละก็...ขอกันน้องสาวออกห่าง ๆ เป็นดีที่สุด
“แต่กูเพื่อนมึงนะ พูดซะเสียเลย” วิกเตอร์ไม่ยอมรับคำใส่ร้าย ในกลุ่มถ้าจะมีใครสักคนได้บทบาทนั้นก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
“มองหน้ากูทำไม หล่อจนละสายตาไม่ได้เลยใช่ไหม?” อชิระเข้าใจความหมายของสายตาวิกเตอร์ แต่แล้วยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักครั้งผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาหาเอง เขาผิดตรงไหน
“เอาความมั่นหน้ามึงเก็บไว้ที่เดิมเหอะอชิ” วิกเตอร์ไม่ยอมให้ง่าย ๆ
“พวกมึงอย่านอกเรื่องดิวะ” เมื่อเห็นว่าประเด็นเริ่มออกไปไกล อาเชอร์จึงรีบดึงพวกนั้นกลับมา จะเอายังไงก็สรุปมาสักอย่าง ไม่ใช่เพราะอยากไปเที่ยวแต่กลัวว่าซอลจะเบื่อแล้วกลับตอนนี้เลยต่างหาก
“นั่นดิ จะเอายังไงก็ว่ามาเจฟฟ์ จะให้พวกกูไปไหม ทำอย่างกับกันพวกกูไว้แล้วน้องมึงจะไม่เจอผู้ชายคนอื่นงั้นแหละ เอาแค่พอดีนี่เพื่อน” พอจะรู้มาบ้างว่าเจฟฟ์มันเลี้ยงน้องสาวคนนี้มาเองกับมือ หวงยิ่งกว่าไข่ในหิน
คงเป็นเหตุผลนี้ที่มันเลือกเรียนทั้งเทควันโดแถมยังติดอันดับหนึ่งของสายดำ เรียนวิชาป้องกันตัวทุกแขนงเรียกได้ว่าตัวเต็งของมหา’ลัย คนอื่น ๆ พอได้ยินว่าเธอคนนั้นเป็นน้องมันก็ไม่มีใครกล้ายุ่งแล้ว
แต่นี่เพื่อน! เว้นหน่อยก็ได้มั้ง จะอะไรนักหนา
“เออ ๆ แต่บอกไว้ก่อนนะ ห้ามเสียงดังเด็ดขาด ห้ามวุ่นวายกับน้องกูด้วย” เห็นสีหน้ารอคอยความหวังของพวกมันแล้วคงเลี่ยงอีกไม่ได้
“มันต้องอย่างนี้สิวะถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนรักกันจริง”
“มึงอะตัวดีเลยเตอร์” ไลก้าเอ่ยปากเสียงเบา
“อะไรวะ?” คนที่ควรจะหมายหัวต้องไอ้คนนั่งตีเนียนอยู่ตรงหน้าเขานี้ปะวะ
“เอ้า! กูนึกว่ามึงนอน ลุกขึ้นมาเล่นโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ขณะที่ทุกคนเตรียมตัวเพื่อย้ายที่ดื่มกัน คนที่คิดว่าไม่น่าจะสนใจอะไรอย่างไลก้ากลับดีดตัวลุกนั่งในท่าเตรียมพร้อมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วยังกดมือถือไม่หยุดอีก ผิดวิสัยนิสัยของเจ้าตัวมาก
“อยากรู้ไปทุกเรื่อง นู้นไอ้อาเชอร์กับซอลออกไปแล้ว เดี๋ยวก็ตามพวกมันไม่ทันหรอก” ไลก้าเก็บมือถือลงกระเป๋าพร้อมกับดันหลังวิกเตอร์ที่พยายามจะรู้ให้ได้ว่าเขากำลังคุยอยู่กับใคร
“ก็มึงทำตัวน่าสงสัยเองนี่หว่า” ยังไม่วายหันกลับมาต่อปากต่อคำคนทำตัวแปลกไป แต่กระนั้นก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะมันกำรอบหลังคอเขาไว้แล้ว หากพูดต่ออาจจะถูกมันหักคอเอาได้
‘แล้วมันเป็นอะไรทั้งไอ้เจฟฟ์ ไอ้ก้า มือหนักกันชิบหาย’
ลานจอดรถ
ตื้ด... ตื้ด...
‘ไปไหนของเธอ?’ เจฟฟ์ยืนพิงรถสีแดงเพลิงของตนเอง รอสายจากน้องสาวที่ไม่มีทีท่าว่าจะรับ ปกติวีด้าไม่เป็นแบบนี้ แล้วยังถูกพวกข้างหลังรบเร้านั้นอีก สายตาจ้องกดดันกันชิบ!
(ค่ะพี่เจฟฟ์) ตอบรับเสียงเหนื่อย หลังจากปล่อยให้ปลายสายรออยู่นาน
“เป็นอะไร ทำไม่เสียงเป็นแบบนั้น” หัวคิ้วเข้มขมวดเป็นปม
(วีพึ่งวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ไม่มีอะไรค่ะ)
“อืม นอนหรือยัง”
(ยังค่ะ กำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่จะกลับกี่โมงคะ) สองนิ้วไขว้กันไว้ด้านหลัง อย่าให้เธอต้องตกนรกเลย
“กำลังจะกลับ เพื่อนพี่มันจะตามกันไปด้วย แต่งตัวให้มิดชิดแต่ถ้าไม่อยากลงมาก็นอนไปเลย พี่จะพาพวกมันออกมานั่งข้างนอก”
(งั้นวีลงไปดูอะไรในครัวไว้รอพี่แล้วกัน)
“เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องนะ”
(ไม่เหนื่อย ๆ วีโอเคค่ะ)
“อืม พี่วางนะ”
(ค่ะ อ้อ...ดื่มหรือเปล่า)
“นิดหน่อย ไม่ต้องห่วงแค่นี้โอเคมาก” มุมปากได้รูปกระตุกเบา ๆ
(ค่ะ วีรอพี่นะ)
เจฟฟ์ลดมือถือลง ถ้อยคำห่วงใยจากน้องสาวทำให้เขายิ้มได้เสมอ วีด้าอายุห่างกันสองปี เราอยู่ด้วยกันสองคนมาตั้งแต่เขาเริ่มขึ้นมัธยมปลาย ป๊ากับม๊าส่วนมากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ นาน ๆ ครั้งจะกลับมาอยู่ด้วยกัน ถามว่าเป็นแบบนี้ตนเองและน้องสาวรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไหม
บอกเลยว่าไม่! ป๊าม๊าใช้ทั้งชีวิตเลี้ยงเรามาอย่างดี เขาโตแล้วสามารถดูแลน้องสาวได้ ก็ควรให้พวกท่านได้ท่องเที่ยวอย่างที่ตั้งใจถึงจะถูก
“ต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ” ควันลอยฟุ้งเหนือใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาคมดุหยุดอยู่ที่เจฟฟ์ อชิระได้ยินทุกประโยคของเพื่อนกำชับน้องสาว อีกนิดมันจะทำตัวเป็นพ่อหล่อนแล้ว หวงอะไรขนาดนั้น เขาเองก็มีน้องสาวยังไม่ถึงขั้นนี้เลย
“อะไรที่ว่าขนาดนี้ มันดึกแล้ว น้องกูเข้านอนเร็วก็ต้องถามก่อน มึงมีปัญหาอะไร”
หยัดตัวออกห่างจากรถ หันไปเปิดประตูค้างไว้ก่อนจะหันมาทาง
‘เสือตัวร้าย’
“หรือจะไม่ไปก็ได้นะ แบบนั้นยิ่งดีเลย” ว่าจบเขาก็หย่อนตัวลงนั่งประจำตำแหน่งคนขับ ท่อนแขนวางพาดขอบประตูที่เปิดเลื่อนกระจกลงมา
อชิระกระตุกใบหน้าอันหล่อเหลาชนิดทำคนมองดุนกระพุ้งแก้มด้วยความหมั่นไส้ นัยน์ตาสีน้ำตาลซินนาม่อนระยิบระยับยามเมื่อภายในหัวขบคิดวาจาท้าทายของเจฟฟ์ เขารู้ว่าเพื่อนก็แค่จะกันซีนทุกคนออกห่างจากน้องสาวของมัน
แต่นั่นมันไม่รู้เลยว่ายิ่งเป็นการกระตุ้นให้คนที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรมาก่อนอย่างตน อยากเห็นหน้าเธอคนนั้นแบบใกล้ชิดจริง ๆ สักครั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าข่าวลือหนาหูเรื่องความสวยหยาดฟ้ามาดิน แท้จริงแล้วจะสักแค่ไหน?
20 นาทีต่อมา...
วีด้าวิ่งออกมารับพี่ชายเมื่อเห็นว่าเขาเดินนำเพื่อนคนอื่น ๆ เข้ามา รอยยิ้มหวานแต่งแต้มดวงหน้าแสนสวย ดวงตากลมโตมีประกายโดดเด่น จมูกเรียวเล็กรับกับใบหน้ารูปไข่ราวกับประติมากรรมชั้นเยี่ยมที่ถูกรังสรรค์ออกมาจากพระเจ้า ทรวดทรงองเอวหรือก็สมส่วนอรชร เอวเล็กคอดเมื่อเทียบกับสะโพกกลมกลึงนั้นเข้ากันอย่างลงตัวเลยทีเดียว
“ช้าหน่อย เดี๋ยวก็ได้ล้มพอดี” เจฟฟ์อ้าแขนรับน้องสาวตัวน้อยของเขา ปากหยักยกยิ้มให้กับความซุกซนของเธอ ก่อนจะโอบไหล่เล็กแล้วหันกลับมาทางเพื่อนที่ยืนรอด้านหลัง
เขาแนะนำแค่พอเป็นพิธีไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าใครที่สนิทหรือให้ความสำคัญมากสุด กระทั่งมาถึงไลก้า เขาไม่ได้แนะนำเพราะต่างก็คุ้นเคยกับเธอดีอยู่แล้ว
“งั้นเดี๋ยววีไปเอาน้ำมาให้นะคะ” คนตัวเล็กแหงนหน้าบอกกับพี่ชาย
“อืม ฝากด้วย” วางมือบนศีรษะเล็ก ก่อนจะเดินนำคนอื่น ๆ ไปโซนด้านหลัง
“ถึงว่าทำไมมึงหวงน้องนัก! อย่างกับตุ๊กตา น่ารักสุด ๆ กูนึกว่านางฟ้า” วิกเตอร์เอ่ยเสียงกังวานเมื่อเดินมาถึงซุ้มหลังบ้าน
ผัวะ!
จบคำพูดของคนทำตัวดี๊ด๊าไม่เท่าไหร่ เสียงฝ่ามือกระทบท้ายทอยก็ดังขึ้น
“เก็บอาการของมึงหน่อย บอกว่าไง นั่นน้องกู” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงเก้าอี้ตัวยาว
คนถูกฝ่ามือพิฆาตแทบหลับแต่กลับมาได้ จับท้ายทอยตัวเองปอย ๆ
“สัสนี่หัวกูแทบหลุด นี่เพื่อนไหม รู้ว่าเป็นน้องมึงก็พูดตามความจริงไม่ได้คิดอะไรนี่หว่า จริงจังไปไหนวะ” ก่อนมาก็ไอ้ก้า ถึงนี่ก็ไอ้เจฟฟ์เขาจะสมองฝ่อก่อนเรียนจบไหม
“อย่าให้รู้ว่าคิด”
“เออ ไม่คิดโว้ย”
เจฟฟ์กับวิกเตอร์ยังไม่มีใครยอมลงให้กัน ดังนั้นอีกสี่ชีวิตจึงไม่ได้ใส่ใจ
อาเชอร์วางเครื่องดื่มที่แวะซื้อกันมาลงที่โต๊ะตัวใหญ่ มีซอลช่วยหยิบออกมาวางเรียง
ไลก้ายึดมุมที่มีแสงน้อยหน่อย
ส่วนคนที่ตีหน้านิ่งที่สุดเห็นจะเป็นอชิระ แต่ทว่าในความนิ่งสงบนั้นมีคลื่นบางอย่างก่อกวนภายใน
ดวงตาสีพีนัทตอนกำลังยิ้มให้กับพี่ชายเปล่งประกายยิ่งกว่าดาวบนท้องฟ้าเสียอีก เสียงเล็กทว่าหวานรื่นหูยังก้องกังวานอยู่ในหัวใจ เขาโดนสะกดด้วยรอยยิ้มของเธอ เหมือนทุกอย่างหยุดอยู่แค่นั้น รอบตัวเบลอไปหมดมีแค่เรือนกายเล็กที่เด่นชัด
กระทั่งไหล่ถูกกระทบจากฝ่ามือของไลก้า สติทั้งหมดของเขาถึงได้กลับมา
‘เข้าข้างในสิ ขาตายหรือไงถึงไม่ขยับ’
นั่นแหละเขาถึงได้เดินตามมันเข้ามา...
วีด้าคล้ายคนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างรวดเร็วให้มาอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก เรียวปากหยักขยับขบเม้มจากนุ่มนวลค่อย ๆ ร้อนแรงเพิ่มระดับตามอารมณ์ เสียงหายใจกระเส่ารุนแรง ลิ้นเปียกแฉะแตะขอบปากนุ่มของเธอไล้เลียจากอีกมุมไปอีกมุมเรียกร้องต้องการรุกล้ำเข้ามาด้านใน ทั้งที่รู้อย่างนั้นควรจะต่อต้านแต่กลับโอนอ่อนคล้อยตาม เปิดปากให้ความอุ่นซ่านแทรกสอดล่วงล้ำเข้ามาหยอกเย้าปลายลิ้นของตัวเองได้อย่างง่ายดายอชิระรั้งท้ายทอยเล็กขยับเข้ามาใกล้ เบี่ยงใบหน้าในองศาที่สามารถตักตวงเอาความหวานจากกลีบปากอุ่นอย่างเต็มที่ ทุกอณูภายในความอุ่นชื้นมีทั้งตื่นกลัวและอยากค้นหา เป็นจูบไม่ประสาแต่กลับทำให้เขาไม่อยากหยุด ท่อนแขนใหญ่คว้าเอวคอดเข้าแนบชิดกายแกร่ง จงใจบดเบียดตัวเองเข้าหาความนุ่มจากเรือนร่างเล็ก แรงเสียดสีของร่างกายทำให้เขาอยากทำมากกว่าแค่จูบ มันอยากมากกว่าแค่ได้สอดลิ้นตวัดพันกัน มือที่อยู่เหนือเอวลูบไล้ผ่านผิวนุ่มลงมาสะโพกสวย“อื้อ...”วีด้าประท้วง ทั้งจูบดูดดื่มทั้งสัมผัสเร่าร้อนจนร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วลงอึก⁓ อชิระผละริมฝีปากร้อนจัดออกจากคนที่กำลังทรงตัวได้ยาก ระยะห่างของใบหน้ายัง
วีด้าออกมาพร้อมกับเหยือกน้ำใบใหญ่และแก้วครบจำนวนของเพื่อนพี่ชาย เธอวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะหันมาทางเจฟฟ์“วีเตรียมของไว้นิดหน่อย เดี๋ยวเอาออกมาให้นะคะ” “ไม่ได้ทำครัวเละใช่ไหม พี่ไม่อยากลุกขึ้นมาเก็บตอนเช้านะ” เจฟฟ์เอี่ยวหน้ามาล้อน้องสาว และเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็หลุดออกมาเมื่อเธอย่นจมูกรั้น ๆ ตอบกลับคำพูดของตน “งั้นเดี๋ยวกูไปดูวี” ไลก้าผุดลุกจากที่นั่งก่อนที่วีด้าจะเดินฝ่าความมืดกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง “ให้ฉันไปดีกว่าไหม นายนั่งดื่มกับพวกนี้ดีกว่า” ซอลเมื่อเห็นว่าควรเป็นตัวเองมากกว่าที่ต้องไปช่วยน้องสาวเจฟฟ์ ทว่ากลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยเจ้าของบ้าน“ไม่ต้องหรอกให้ไอ้ก้านั่นแหละไป มันรู้จักที่นี่ดีหลับตาเดินยังได้เลย” “ทีกับไอ้ก้ามึงไม่หวงน้องบ้างวะ” สิ้นคำวิกเตอร์ก็แทบหลบเท้าของเจฟฟ์ไม่ทัน “ไอ้ที่อยู่ในมือน่ะยัดเข้าไป เดี๋ยวจะไม่ได้กินดีอะมึง กวนประสาท”“โหดแต่กับกูนี่แหละ อย่าให้ต้องไปเรียนบ้างแล้วกัน รับรองว่าความไวเหนือชั้นกว่ามึงแน่” “อย่าดีแต่พูด สี่ปีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้านอกจากตีนเอาไว้เหยียบเกียร์มึงน่ะ” วิกเตอร์หมดคำจะแก้ตัว เพราะนอกจากความเร็วของฝีเท้าในการเหยียบคันเร่งแ
“ก็บ้านมึงใกล้สุดไหมล่ะ” อาเชอร์หันมาตอบ“ไม่ได้” ค้านหัวชนฝา ไม่จำเป็นไม่อยากให้พวกมันไปที่บ้าน น้องสาวเขาอยู่ที่นั่นด้วย เกิดพวกนี้ไปรบกวนเธอทำไง อุตส่าห์หลีกเลี่ยงมาได้ตั้งสี่ปี“มึงก็น่าจะรู้นะอาร์ นอกจากไอ้ก้าแล้วมีใครได้เข้าไปเหยียบบ้านมันบ้าง ขนาดอยู่มหา’ลัยเดียวกันยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องมันชัด ๆ สักที!”วิกเตอร์เหลือบตามองคนหวงน้องสาวอย่างเจฟฟ์ตาเขม็ง รู้แค่ชื่อกับคณะที่เรียนนี่ก็นับว่าบุญพวกเขาแล้วมั้ง “ก็ใครใช้ให้พวกมึงแต่ละคนทำตัวดี ๆ กันทั้งนั้น ในฐานะเพื่อนกูยอมรับว่าพวกมึงพึ่งพาได้ แต่สำหรับน้องกูพวกมึงก็ผู้ชายเลวคนหนึ่ง โอเคนะ” คิ้วหนายกขึ้นแสดงถึงการแบ่งเขตระหว่างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองอย่างเด่นชัด แน่นอนว่าในฐานะเพื่อนนั้นทุกคนดีชิบหาย แต่หากเป็นเรื่องผู้หญิงละก็...ขอกันน้องสาวออกห่าง ๆ เป็นดีที่สุด“แต่กูเพื่อนมึงนะ พูดซะเสียเลย” วิกเตอร์ไม่ยอมรับคำใส่ร้าย ในกลุ่มถ้าจะมีใครสักคนได้บทบาทนั้นก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ“มองหน้ากูทำไม หล่อจนละสายตาไม่ได้เลยใช่ไหม?” อชิระเข้าใจความหมายของสายตาวิกเตอร์ แต่แล้วยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักครั้งผู้หญิงพวกนั้นเข
@สนามแข่ง YOLOดวงตาหวานกลมโตสีพีนัททอดมองรถแลมโบกินี่สีควันบุหรี่ สัญลักษณ์รูปสิงห์ผงาดด้านข้างสุดเท่ ทะยานมาด้วยความเร็วเหนือคู่แข่งคนอื่น ๆ 5...4...3...2...1 เยส!“กรี๊ด...ชนะแล้ว ชนะแล้ว เย้ ๆ” ร่างอรชรภายใต้ชุดทะมัดทะแมงกระโดดจนตัวลอยอยู่ข้างสนามโซน vip ก่อนจะหันมาหาอีกคนที่มีท่าทีไม่ต่างกันเลยสักนิดYOLO คือหัวใจของหนุ่มวิศวะทั้งห้า เป็นมิตรภาพอันเหนียวแน่นจนก่อเกิดสนามแข่งแห่งนี้ และสัญญาลักษณ์ของพวกเขาก็คือสิงห์สีทอง แก๊ก⁓ร่างสูงก้าวออกมาจากรถสีควันบุหรี่ ในอ้อมแขนกอดหมวกนิรภัยอันโปรดไว้แน่น ย่างเท้าด้วยความมั่นคงมายังกลุ่มเพื่อนสนิทระบายยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ในสายตาสาว ๆ ทว่าแท้จริงแล้ว เขาโคตรร้าย!“ไอ้อชิมันหายหัวไปไหน? ถ้ากูไม่ได้เอาลูกรักมาวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เชี้ยเอ๊ย” วิกเตอร์ กล่าวอย่างหัวเสียพลางส่งหมวกให้กับคนดูแลเอาไปเก็บ จากนั้นเจ้าตัวถึงได้ทิ้งตัวลงนั่งเบาะนุ่มอย่างแรงเจฟฟ์ พ่นเสียงหัวเราะในลำคอ ร่างกำยำอิงเคาน์เตอร์บาร์ เบี่ยงหน้ามาหาคนเอ่ยกระแทกเสียงแข็งถามหาเพื่อนอีกคน “ก็ชนะไปแล้ว มึงยังจะหัวเสียทำไมวะ” ยกวิสกี้ในมือขึ้นดื่มพลางปรายตาไปทางคนประสานงานภาย
"พี่ฉันอยู่เธอไม่ต้องกลัว" อชิตารีบขัด จากนั้นก็กระตุกแขนไลลา รายนั้นพอถูกดึงก็รีบลุก"เดี๋ยวฉันมา พี่อชิระก็อยู่ พอพี่เจฟฟ์มาจะได้ไม่ห่วง" ไลลาหันกลับมาบอกเพื่อนนั่งตัวตรงอยู่กับที่ ก่อนจะหันไปยิ้มให้อชิระที่มองมาทางตนและน้องสาวด้วยยิ้มมุมปาก'ยิ้มหล่อชะมัด'วีด้ามองเพื่อนทั้งสองเปิดประตู อยากจะรั้งหรือไม่ก็วิ่งตามออกไปแต่ก็กลัวพวกนั้นจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องกลัวที่อยู่ห้องนี้ จึงปิดปากเงียบแล้วปล่อยให้อชิตาและไลลาปิดประตูลง"ทำไม! อยู่กับพี่มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ" โน้มตัวเท้าแขนคร่อมวีด้าไม่ต่างกับว่าเขากำลังโอบกอดเธอไว้ด้วยวงแขนใหญ่ สายตาคมจับจ้องลงลึกเข้าไปในดวงตาสวยเต็มไปความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะคาดเดา........"พี่อชิ!" เสียงเปล่งออกมาจากกลีบปากบวมเจ่อเรียกเจ้าของร่างกำยำคร่อมอยู่เหนือเรือนกายไม่เต็มเสียง เมื่อความนุ่มของแผ่นหลังที่แนบชิดไม่ใช่พนักของมันแต่เป็นพื้นราบยาวของโซฟาแทนเธอปล่อยใจไปกับเขาแม้แต่ตัวเองนอนราบลงกับโซฟาตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้?"พี่ชอบวี เป็นของพี่เถอะนะ" เขาชอบทุกอย่างที่เป็นวีด้า เธอทำให้เขากระหาย อยากครอบครอง ไม่สนใจว่าครั้งหนึ่งเพื่อนได้ลั่นวาจาเอาไ