@สนามแข่ง YOLO
ดวงตาหวานกลมโตสีพีนัททอดมองรถแลมโบกินี่สีควันบุหรี่ สัญลักษณ์รูปสิงห์ผงาดด้านข้างสุดเท่ ทะยานมาด้วยความเร็วเหนือคู่แข่งคนอื่น ๆ
5...4...3...2...1 เยส!
“กรี๊ด...ชนะแล้ว ชนะแล้ว เย้ ๆ” ร่างอรชรภายใต้ชุดทะมัดทะแมงกระโดดจนตัวลอยอยู่ข้างสนามโซน vip ก่อนจะหันมาหาอีกคนที่มีท่าทีไม่ต่างกันเลยสักนิด
YOLO คือหัวใจของหนุ่มวิศวะทั้งห้า เป็นมิตรภาพอันเหนียวแน่นจนก่อเกิดสนามแข่งแห่งนี้ และสัญญาลักษณ์ของพวกเขาก็คือสิงห์สีทอง
แก๊ก⁓
ร่างสูงก้าวออกมาจากรถสีควันบุหรี่ ในอ้อมแขนกอดหมวกนิรภัยอันโปรดไว้แน่น ย่างเท้าด้วยความมั่นคงมายังกลุ่มเพื่อนสนิทระบายยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ในสายตาสาว ๆ ทว่าแท้จริงแล้ว
เขาโคตรร้าย!
“ไอ้อชิมันหายหัวไปไหน? ถ้ากูไม่ได้เอาลูกรักมาวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เชี้ยเอ๊ย” วิกเตอร์ กล่าวอย่างหัวเสียพลางส่งหมวกให้กับคนดูแลเอาไปเก็บ จากนั้นเจ้าตัวถึงได้ทิ้งตัวลงนั่งเบาะนุ่มอย่างแรง
เจฟฟ์ พ่นเสียงหัวเราะในลำคอ ร่างกำยำอิงเคาน์เตอร์บาร์ เบี่ยงหน้ามาหาคนเอ่ยกระแทกเสียงแข็งถามหาเพื่อนอีกคน
“ก็ชนะไปแล้ว มึงยังจะหัวเสียทำไมวะ” ยกวิสกี้ในมือขึ้นดื่มพลางปรายตาไปทางคนประสานงานภายในสนาม
“ใช่ ก็ชนะแล้วจะหัวเสียไปทำไม” อาเชอร์ ว่าจบก็วาดแขนไปตามความยาวของพนักโซฟาตรงข้ามวิกเตอร์ ปลายนิ้วลูบไหล่คนที่นั่งอยู่ข้างกันเบา ๆ
“มีแค่เรื่องเดียว น่าจะชินกันได้แล้วไหม?” คนที่พักสายตาได้แม้กระทั่งท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมอย่างไลก้า เปล่งเสียงแหบห้าวออกมาเมื่อทุกคนไม่เคยทำตัวให้ชินสักทีกับเพื่อนที่ถูกเอ่ยถึง
“มันไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” สาวสวยผู้ที่ตกอยู่ในอ้อมแขนกลาย ๆ ของอาเชอร์พูดเสียงเอือม
คนเริ่มต้นซักถามกลอกตาขึ้นสูงเมื่อผลสรุปที่ออกมาไม่ต่างจากที่คาดการณ์ไว้ นี่ถ้าเขาลงสนามช้าไปอีกนิดไม่ต้องเสียชื่อโยโลไปแล้วเหรอ
“มึงจะไปไหน?” เมื่อเห็นว่าคนที่พึ่งลืมตาดันตัวขึ้นจากโซฟาตัวยาวมุ่งหน้าไปทางประตู วิกเตอร์จึงอดคิดไม่ได้ว่าจะตามเพื่อนที่หายหัวไปด้วยหรือเปล่า
“ไปชัก! จะตามกูมาไหม?” เสียงเหนื่อย ๆ ตอบคนขี้สงสัยก่อนจะพ้นประตู
“ชักเหี้ยไร? แต่ละคน เป็นอะไรกันไปหมด”
“น่า! ยังไงก็ชนะ เดี๋ยวพวกมันก็มา” อาเชอร์ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดวอแวเจ้าของเรือนร่างคนข้างกายกล่อมวิกเตอร์ให้ใจเย็นลง
เจฟฟ์พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่เขาจะเดินมาทิ้งตัวลงตำแหน่งของคนขี้เซาที่พึ่งเดินออกไป
“กูให้อีกไม่เกินยี่สิบนาทีมันโผล่หัวมาแน่” คิ้วเข้มยกขึ้นเป็นสัญญาณว่าไอ้คนต้นเรื่องพาเพื่อนปวดหัวมาแน่!
ทางเดินริมสนามฝั่งตะวันตก
“ฉันบอกแกแล้ว เป็นไง? สนุกมากเลยใช่ไหมล่ะ” ไลลาสาวสวยผู้ออกความคิดเรื่องมาชมการแข่งรถแม็ตช์สำคัญกล่าวเสียงดี๊ด๊า
“รู้ว่าสนุก แต่ถ้าพี่เจฟฟ์จับได้ล่ะก็...ฉันตายแน่”
วีด้า สาวสวยนัยน์ตาสีพีนัทเหลือบมาทางคนต้นคิด เธอตีหน้ายุ่งทันทีเมื่อเอ่ยถึงพี่ชาย
เจฟฟ์เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสนามแข่ง เขาดูแลพนักงานและความปลอดภัยของที่นี่ รวมถึงตัวเธอเองด้วย ที่ว่าดูแลนั่นหมายถึงให้อยู่บ้านห้ามออกไปไหน ทว่าตนเองกลับมาโผล่ตรงนี้ หากว่าถูกจับได้แล้วละก็...
‘ไม่อยากจะคิด’
ได้นั่งฟังเทศนาจากเขากี่วันถึงจะจบ
“แหม! ก็พูดเกินไป อย่างพี่เจฟฟ์เหรอจะว่าดุแกลงน่ะ” สนิทกันมาไม่รู้ตั้งกี่ปี นับครั้งได้เลยเรื่องที่ว่าพี่ชายซึ่งรักน้องสาวมากอย่างพี่เจฟฟ์จะดุเพื่อนเธอได้ลง
“ไม่ต้องมาพูดดีเลย กลับกันได้แล้ว” วีด้าจับข้อแขนเพื่อนรัก ดึงคนตัวเล็กตามตนเองไปยังลานจอดรถซึ่งตอนนี้เริ่มมีคนอื่น ๆ ทยอยกลับกันบ้างแล้ว
ทว่าในขณะที่วีด้ากำลังเร่งรีบอยู่นั้น เธอไม่รู้เลยว่ามีสายตานิ่งสงบราวกับทะเลลึกแต่แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามกำลังจับจ้องตนเองอยู่
พลันรอยยิ้มมุมปากโค้งเล็กน้อยของชายหนุ่มก็ผุดขึ้น ความอ่อนโยนก็ฉายแทนทับความเยือกเย็นภายในนัยน์ตาคมกริบ
“หึ ๆ ดื้อจริง ๆ เด็กคนนี้ นี่ถ้าเป็นไอ้เจฟฟ์ที่เดินออกมา พี่ไม่อยากจะคิดสภาพ” ไลก้าส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับน้องสาวเพื่อนสนิท เธอคงจะแอบเข้าออกมาเป็นแน่ เพราะไอ้เจฟฟ์มันย้ำนักหนาว่าห้ามวีด้ามาที่นี่เด็ดขาด!
ไลก้าแอบตามวีด้าจนกระทั่งเธอและเพื่อนขับรถออกไปเขาถึงได้ย้อนกลับเข้ามาข้างในอีกครั้ง
ห้องส่วนตัวของ YOLO
วิกเตอร์ดุนกระพุ้งแก้มด้วยปลายลิ้นสากระคายจนมันขึ้นเป็นรูปร่างเด่นชัด ดวงตาคมกริบหรี่ลงระหว่างพุ่งไปหาผู้ที่หายหัวไปตั้งแต่ก่อนแข่งขันในนาทีสุดท้าย ปล่อยให้ตนต้องรับหน้ากับพวกนั้นแทน ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นมันแท้ ๆ ต้องลงไปประลองความเร็ว
“มึงจะอะไรนักหนาวะเตอร์ กูเชื่อใจมึงไงถึงได้ไม่อยู่แข่งกับพวกมัน”
อชิระ เอนหลังพิงโซฟาตัวยาว สายตาดุจเหยี่ยวของวิกเตอร์ทำอะไรเขาไม่ได้ คิ้วเข้มยกขึ้นข้างหนึ่งพลางยิ้มมุมปากกึ่งขำให้กับท่าทีหัวเสียของเพื่อน
“เหอะ! กล้าพูดเนอะ ข้ออ้างทั้งนั้น” วิกเตอร์กดเสียงต่ำ อันที่จริงก็ไม่ได้ไม่พอใจขนาดนั้น เพียงแต่ว่าหมั่นไส้ในความเล่ห์กลของมัน
การแข่งขันประลองความเร็วรายการย่อยจัดขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ใดทุกคนในนี้ย่อมรู้ดี!
“ว่าแต่...สวยปะวะ?” ไอ้อชิมันแค่จะล่อสาว ๆ ให้เดินเข้ามาในกรงเพื่อที่มันจะได้ขย้ำง่าย ๆ เท่านั้นแหละ เลวจริง ๆ
คำถามของวิกเตอร์ดึงความสนใจอีกสามชีวิตที่ทำตัวเหมือนธาตุอากาศให้หันกลับมาทางพวกเขาอีกครั้ง
อาเชอร์ปรายตาเต็มเป็นด้วยแสงระยิบระยับอยากรู้อยากเห็นมากอย่างรอคอยคำตอบ แตกต่างกับซอลสาวสวยที่นั่งเคียงคู่กับเขามองมาทางเพื่อนด้วยสายตาเอือม ๆ เหมือนเคย
ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยยิ้มที่เหมือนลมพัดเย็นสบายแต่กลับแฝงไปด้วยพายุรุนแรงหากมีมรสุมก่อกวนจิตใจเขา เจฟฟ์มองเพื่อนขาดเสมอ
โดยเฉพาะอชิระ
‘เสือที่ว่าร้ายยังเทียบมันไม่ได้’
“ไม่รู้ ไม่ได้มองหน้า จัดเสร็จก็ต่างคนต่างแยกย้ายเปล่าวะ” อชิระไหวไหล่ตอบ ไม่ว่าจะกับใครเขาไม่เคยสนใจจะมองหน้าพวกเธอเลยสักครั้ง ไม่คิดจะจำเลยด้วยซ้ำ ขืนทำแบบนั้นจริงประสาทคงกินเขาก่อนแน่ ๆ
“กูยอมมึงเลย” ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาเปรียบความ ‘สามารถ’ ของไอ้อชิ แต่จะว่ามันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ในเมื่อผู้หญิงพวกนั้นเต็มใจที่จะนอนกับมันเอง แต่ช่างเรื่องนั้นก่อน เพราะตอนนี้เขาอยากทำอย่างอื่นมากกว่าเช่น...
“ไปต่อกันดีกว่า ไหน ๆ วันนี้กูก็ชนะแล้ว มึงต้องเลี้ยง” วิกเตอร์เสนออย่างอารมณ์ดี เขาไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ในเมื่อยอมเสียเหงื่อไปแล้วก็ต้องมีอะไรแลกกลับคืนมาบ้าง
“กูเห็นด้วย ไปต่อกันดีกว่า” อาเชอร์เสริมทัพหน้าระรื่นทันที ทว่ายังไม่ทันจะได้ดี๊ด๊านานก็ต้องหุบยิ้มลงฉับพลัน
“แต่ซอลไม่อยากไป เสียงดัง” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มค้านคำเดียว ทุกคนต่างก็เงียบกริบ
แก๊ก~
“อะไร?” เสียงเหนื่อย ๆ เอ่ยถามทันทีเมื่อก้าวเข้ามาแล้วเจอกับบรรยากาศที่เงียบผิดปกติ ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่อชิระ
“เป็นอะไรกัน?” แม้ว่ามันจะหายหน้าไปแต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกไม่น่าเป็นมันที่ทำให้ห้องที่คึกคักอยู่เสมอเงียบลงได้
“พวกมันอยากไปต่อ แต่ซอลไม่โอเค”
ไลก้าพยักหน้าเข้าใจ แล้วเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อหามุมเอนกายเพราะที่ของตนถูกยึดไปแล้ว
YOLO เปรียบเสมือนสิงห์ฝูงใหญ่ สิงห์ที่เต็มไปด้วยความร้อนแรง มีพลังเปี่ยมล้นอยู่ในตัว ทว่าในเวลาเดียวกันก็รักพ้องเพื่อนและคนรอบข้างเอามาก ๆ
“งั้นก็ไม่ต้องไปไง” ร่างสูงเอนตัวลงแล้วปิดเปลือกตาทันทีเมื่อหลังติดพื้นนุ่มไม่ต่างจากแมวป่า ขอให้มีพื้นที่ว่างเขาก็สามารถข่มตาหลับได้
“แล้วแต่ กูยังไงก็ได้” อชิระยังแกว่งแก้วสีอำพันในมือเล่น ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องเป็นที่ไหน ดื่มตรงไหนก็เหมือนกันหมด เมาแล้วก็นอน แต่หากเป็นในห้องนี้ก็แค่ไม่มีของสวย ๆ งาม ๆ ให้ดูก็แค่นั้น
ปลายเท้าขยับไปมายามที่ภาพเรือนกายผุดผ่องโยกขยับท่ามกลางเสียงเพลง ‘หึ’ เสียงต่ำในลำคอดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มดุจนักล่ากระตุก
ทว่าคนออกความคิดนัยน์ตาละห้อยเบนไปหาตัวช่วยสุดท้าย มีแค่อาเชอร์คนเดียวพอจะแก้สถานการณ์ได้
คนมันอยากดื่มโว้ยยย...แข่งก็ที่นี่ หมกอยู่แต่ในนี้ ยังจะดื่มแค่ในห้องนี้อีก เฉาตายพอดี
วิกเตอร์ส่งสายตาวิงวอนให้กับเพื่อนช่วยเกลี้ยกล่อมซอลหน่อย..
“ไม่อยากไปขนาดนั้นเลย งั้นเป็นที่อื่นได้ไหม อย่างเช่น...บ้านไอ้เจฟฟ์” อาเชอร์วาดมือลงสะโพกสวย เสียงทุ้มเอ่ยถามคนข้างกายอ่อนนุ่มพลางยื่นข้อเสนอเป็นสถานที่แห่งใหม่ ซึ่งพอเธอได้ยินจากนั่งเงียบก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับด้วยยิ้มหวาน
‘อยากจูบ’ มันทำให้อาเชอร์มีความคิดนี้เข้ามาในหัว
“เอ้า! แล้วทำไมเป็นบ้านกู ใครเป็นคนต้นคิดก็ไปบ้านคนนั้นสิวะ บ้านไอ้อชิก็ได้” เจฟฟ์ดีดตัวขึ้นจากเบาะนั่งตัวยาวอย่างร้อนรน
‘ใครใช้ให้ออกความคิดแบบนี้ออกมากันวะ!’
วีด้าคล้ายคนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างรวดเร็วให้มาอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก เรียวปากหยักขยับขบเม้มจากนุ่มนวลค่อย ๆ ร้อนแรงเพิ่มระดับตามอารมณ์ เสียงหายใจกระเส่ารุนแรง ลิ้นเปียกแฉะแตะขอบปากนุ่มของเธอไล้เลียจากอีกมุมไปอีกมุมเรียกร้องต้องการรุกล้ำเข้ามาด้านใน ทั้งที่รู้อย่างนั้นควรจะต่อต้านแต่กลับโอนอ่อนคล้อยตาม เปิดปากให้ความอุ่นซ่านแทรกสอดล่วงล้ำเข้ามาหยอกเย้าปลายลิ้นของตัวเองได้อย่างง่ายดายอชิระรั้งท้ายทอยเล็กขยับเข้ามาใกล้ เบี่ยงใบหน้าในองศาที่สามารถตักตวงเอาความหวานจากกลีบปากอุ่นอย่างเต็มที่ ทุกอณูภายในความอุ่นชื้นมีทั้งตื่นกลัวและอยากค้นหา เป็นจูบไม่ประสาแต่กลับทำให้เขาไม่อยากหยุด ท่อนแขนใหญ่คว้าเอวคอดเข้าแนบชิดกายแกร่ง จงใจบดเบียดตัวเองเข้าหาความนุ่มจากเรือนร่างเล็ก แรงเสียดสีของร่างกายทำให้เขาอยากทำมากกว่าแค่จูบ มันอยากมากกว่าแค่ได้สอดลิ้นตวัดพันกัน มือที่อยู่เหนือเอวลูบไล้ผ่านผิวนุ่มลงมาสะโพกสวย“อื้อ...”วีด้าประท้วง ทั้งจูบดูดดื่มทั้งสัมผัสเร่าร้อนจนร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วลงอึก⁓ อชิระผละริมฝีปากร้อนจัดออกจากคนที่กำลังทรงตัวได้ยาก ระยะห่างของใบหน้ายัง
วีด้าออกมาพร้อมกับเหยือกน้ำใบใหญ่และแก้วครบจำนวนของเพื่อนพี่ชาย เธอวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะหันมาทางเจฟฟ์“วีเตรียมของไว้นิดหน่อย เดี๋ยวเอาออกมาให้นะคะ” “ไม่ได้ทำครัวเละใช่ไหม พี่ไม่อยากลุกขึ้นมาเก็บตอนเช้านะ” เจฟฟ์เอี่ยวหน้ามาล้อน้องสาว และเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็หลุดออกมาเมื่อเธอย่นจมูกรั้น ๆ ตอบกลับคำพูดของตน “งั้นเดี๋ยวกูไปดูวี” ไลก้าผุดลุกจากที่นั่งก่อนที่วีด้าจะเดินฝ่าความมืดกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง “ให้ฉันไปดีกว่าไหม นายนั่งดื่มกับพวกนี้ดีกว่า” ซอลเมื่อเห็นว่าควรเป็นตัวเองมากกว่าที่ต้องไปช่วยน้องสาวเจฟฟ์ ทว่ากลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยเจ้าของบ้าน“ไม่ต้องหรอกให้ไอ้ก้านั่นแหละไป มันรู้จักที่นี่ดีหลับตาเดินยังได้เลย” “ทีกับไอ้ก้ามึงไม่หวงน้องบ้างวะ” สิ้นคำวิกเตอร์ก็แทบหลบเท้าของเจฟฟ์ไม่ทัน “ไอ้ที่อยู่ในมือน่ะยัดเข้าไป เดี๋ยวจะไม่ได้กินดีอะมึง กวนประสาท”“โหดแต่กับกูนี่แหละ อย่าให้ต้องไปเรียนบ้างแล้วกัน รับรองว่าความไวเหนือชั้นกว่ามึงแน่” “อย่าดีแต่พูด สี่ปีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้านอกจากตีนเอาไว้เหยียบเกียร์มึงน่ะ” วิกเตอร์หมดคำจะแก้ตัว เพราะนอกจากความเร็วของฝีเท้าในการเหยียบคันเร่งแ
“ก็บ้านมึงใกล้สุดไหมล่ะ” อาเชอร์หันมาตอบ“ไม่ได้” ค้านหัวชนฝา ไม่จำเป็นไม่อยากให้พวกมันไปที่บ้าน น้องสาวเขาอยู่ที่นั่นด้วย เกิดพวกนี้ไปรบกวนเธอทำไง อุตส่าห์หลีกเลี่ยงมาได้ตั้งสี่ปี“มึงก็น่าจะรู้นะอาร์ นอกจากไอ้ก้าแล้วมีใครได้เข้าไปเหยียบบ้านมันบ้าง ขนาดอยู่มหา’ลัยเดียวกันยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องมันชัด ๆ สักที!”วิกเตอร์เหลือบตามองคนหวงน้องสาวอย่างเจฟฟ์ตาเขม็ง รู้แค่ชื่อกับคณะที่เรียนนี่ก็นับว่าบุญพวกเขาแล้วมั้ง “ก็ใครใช้ให้พวกมึงแต่ละคนทำตัวดี ๆ กันทั้งนั้น ในฐานะเพื่อนกูยอมรับว่าพวกมึงพึ่งพาได้ แต่สำหรับน้องกูพวกมึงก็ผู้ชายเลวคนหนึ่ง โอเคนะ” คิ้วหนายกขึ้นแสดงถึงการแบ่งเขตระหว่างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองอย่างเด่นชัด แน่นอนว่าในฐานะเพื่อนนั้นทุกคนดีชิบหาย แต่หากเป็นเรื่องผู้หญิงละก็...ขอกันน้องสาวออกห่าง ๆ เป็นดีที่สุด“แต่กูเพื่อนมึงนะ พูดซะเสียเลย” วิกเตอร์ไม่ยอมรับคำใส่ร้าย ในกลุ่มถ้าจะมีใครสักคนได้บทบาทนั้นก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ“มองหน้ากูทำไม หล่อจนละสายตาไม่ได้เลยใช่ไหม?” อชิระเข้าใจความหมายของสายตาวิกเตอร์ แต่แล้วยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักครั้งผู้หญิงพวกนั้นเข
@สนามแข่ง YOLOดวงตาหวานกลมโตสีพีนัททอดมองรถแลมโบกินี่สีควันบุหรี่ สัญลักษณ์รูปสิงห์ผงาดด้านข้างสุดเท่ ทะยานมาด้วยความเร็วเหนือคู่แข่งคนอื่น ๆ 5...4...3...2...1 เยส!“กรี๊ด...ชนะแล้ว ชนะแล้ว เย้ ๆ” ร่างอรชรภายใต้ชุดทะมัดทะแมงกระโดดจนตัวลอยอยู่ข้างสนามโซน vip ก่อนจะหันมาหาอีกคนที่มีท่าทีไม่ต่างกันเลยสักนิดYOLO คือหัวใจของหนุ่มวิศวะทั้งห้า เป็นมิตรภาพอันเหนียวแน่นจนก่อเกิดสนามแข่งแห่งนี้ และสัญญาลักษณ์ของพวกเขาก็คือสิงห์สีทอง แก๊ก⁓ร่างสูงก้าวออกมาจากรถสีควันบุหรี่ ในอ้อมแขนกอดหมวกนิรภัยอันโปรดไว้แน่น ย่างเท้าด้วยความมั่นคงมายังกลุ่มเพื่อนสนิทระบายยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ในสายตาสาว ๆ ทว่าแท้จริงแล้ว เขาโคตรร้าย!“ไอ้อชิมันหายหัวไปไหน? ถ้ากูไม่ได้เอาลูกรักมาวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เชี้ยเอ๊ย” วิกเตอร์ กล่าวอย่างหัวเสียพลางส่งหมวกให้กับคนดูแลเอาไปเก็บ จากนั้นเจ้าตัวถึงได้ทิ้งตัวลงนั่งเบาะนุ่มอย่างแรงเจฟฟ์ พ่นเสียงหัวเราะในลำคอ ร่างกำยำอิงเคาน์เตอร์บาร์ เบี่ยงหน้ามาหาคนเอ่ยกระแทกเสียงแข็งถามหาเพื่อนอีกคน “ก็ชนะไปแล้ว มึงยังจะหัวเสียทำไมวะ” ยกวิสกี้ในมือขึ้นดื่มพลางปรายตาไปทางคนประสานงานภาย
"พี่ฉันอยู่เธอไม่ต้องกลัว" อชิตารีบขัด จากนั้นก็กระตุกแขนไลลา รายนั้นพอถูกดึงก็รีบลุก"เดี๋ยวฉันมา พี่อชิระก็อยู่ พอพี่เจฟฟ์มาจะได้ไม่ห่วง" ไลลาหันกลับมาบอกเพื่อนนั่งตัวตรงอยู่กับที่ ก่อนจะหันไปยิ้มให้อชิระที่มองมาทางตนและน้องสาวด้วยยิ้มมุมปาก'ยิ้มหล่อชะมัด'วีด้ามองเพื่อนทั้งสองเปิดประตู อยากจะรั้งหรือไม่ก็วิ่งตามออกไปแต่ก็กลัวพวกนั้นจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องกลัวที่อยู่ห้องนี้ จึงปิดปากเงียบแล้วปล่อยให้อชิตาและไลลาปิดประตูลง"ทำไม! อยู่กับพี่มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ" โน้มตัวเท้าแขนคร่อมวีด้าไม่ต่างกับว่าเขากำลังโอบกอดเธอไว้ด้วยวงแขนใหญ่ สายตาคมจับจ้องลงลึกเข้าไปในดวงตาสวยเต็มไปความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะคาดเดา........"พี่อชิ!" เสียงเปล่งออกมาจากกลีบปากบวมเจ่อเรียกเจ้าของร่างกำยำคร่อมอยู่เหนือเรือนกายไม่เต็มเสียง เมื่อความนุ่มของแผ่นหลังที่แนบชิดไม่ใช่พนักของมันแต่เป็นพื้นราบยาวของโซฟาแทนเธอปล่อยใจไปกับเขาแม้แต่ตัวเองนอนราบลงกับโซฟาตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้?"พี่ชอบวี เป็นของพี่เถอะนะ" เขาชอบทุกอย่างที่เป็นวีด้า เธอทำให้เขากระหาย อยากครอบครอง ไม่สนใจว่าครั้งหนึ่งเพื่อนได้ลั่นวาจาเอาไ