แชร์

บทที่ 5 “ร่างของคนอื่น”

ผู้เขียน: รสผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 20:55:46

บทที่ 5

“ร่างของคนอื่น”

เขียนโดย : รสผลไม้

09:45 นาฬิกา

แปลก...วันนี้แปลกมาก จิรพัฒน์มั่นใจว่าช่วงเวลานี้มันน่าจะต้องเป็นช่วงสายของวันแล้วแน่ ๆ แต่ทำไมไม่มีใครมาปลุกเขาไปใส่บาตรละ?

เจ้าจอมหรี่ตาขึ้นเพื่อมองนาฬิกาตรงมุมหัวเตียงสวย แต่ก็ต้องแปลกใจกว่าเดิมเมื่อภาพตรงหน้าแปรเปลี่ยนไป

ภาพของห้องนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและยานอนหลับที่วางอยู่ข้างหมอนสูงที่เขาหนุน ไม่ปกติ โคตรจะไม่ปกติเลย!

จอมรีบยันตัวขึ้นนั่ง สายตาโฟกัสปรับแสงเพื่อมองสำรวจรอบห้องนอน ยิ่งหันไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่ที่มีรูปเดินดินคนสวยแขวนอยู่สร้างความงุนงงให้จิรพัฒน์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก

"กูคงฝันแหละ...ก็บ้าแล้ว!" ประโยคแรกเขาพึมพำกับตนเอง ส่วนในประโยคถัดมาคือตอนนี้เขาได้รับรู้ว่าสิ่งที่คิดและไม่อยากให้มันเกิดขึ้นมันกำลังจะเป็นความจริง

เจ้าจอมรีบดีดตัวพุ่งไปที่โต๊ะเครื่องแป้งสีขาวสวย และสิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นที่สุด ยินดีด้วยมันได้เป็นความจริงแล้ว

จิรพัฒน์ตอนนี้กำลังอยู่ในร่างของเดินดิน!

เจ้าจอมในร่างของดั่งเดินสวรรค์ซึ่งตอนนี้เขาสวมชุดนอนน่ารักเป็นผ้าซาตินตัวบาง จิรพัฒน์รีบเดินออกมานอกห้องนอนเจ้าของร่างนี้อย่างรวดเร็ว

เมื่อยามที่เปิดประตูออกมาก็พบกับห้องโถงและทีวีจอแอลอีดีขนาดยักษ์รวมไปถึงโซฟาที่ตั้งเด่นหราอยู่ จอมสะบัดศีรษะสามสี่ครั้งและถอยหลังกลับเข้าไปในห้อง

มือถือเครื่องสวยของคนน้องถูกเปิดขึ้น เบอร์โทรเพื่อสนิทคนเดียวของเขาถูกพิมพ์ลงเพื่อจะกดโทรหา 'ราชา'

ปลายสายรีบกดรับเบอร์คนแปลกหน้า ด้วยเสียงนุ่มนวล

(สวัสดีครับ)

"ราชา ช่วยกูด้วย!" จิรพัฒน์โวยวาย

(มึงใคร?) ราชาถาม

"เจ้าจอมไง!"

(ตลกอะไรของมึง มันนั่งอยู่หน้าบ้านเนี่ย มึงใคร?)

ราชาเริ่มหงุดหงิด กับความบ้าบินของปลายสายที่โทรมาก่อกวนตน

"กูเจ้าจอมจริง ๆ นะมึง ตื่นมาก็มาอยู่ในร่างของเดินดินอ่ะ ทำไงดี!"

(เดินดิน?)

ราชาหวนนึกถึงเรื่องก่อนหน้าที่เจ้าจอมบอกเขาว่าจะไปใช้คาถามหาเสน่ห์กับใคร ก็ไม่แน่หรอกนะ! ในเรื่องของเร้นลับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

"เออ! มึงบอกลุงกูช่วยกูด้วย"

(กูไม่อยากจะเชื่อหรอก ถึงเจ้าจอมตอนนี้จะแปลกจริง แค่ไหนมึงลองด่ากูให้ฟังหน่อยดิ)

"สมองมึงเพี้ยนป่ะเนี้ย สันดานหมา! พกสติมั้งนะ หรือกูต้องให้กูด่ามึงทุกวันไหม" จิรพัฒน์ด่าอย่างเหลืออด

(บ้า!...จริงเหรอวะ!)

"ช่วยกูด้วย!"

(อยู่ที่ไหน?)

"เพนท์เฮ้าส์หรูในเครือเยฮวาซีมั้ง"

(อยู่ในร่างเดินดินนายแบบที่มึงชอบจริงดิ?)

"จริง! เพราะคาถาส้นตีนนั้นแน่เลย มึงบอกลุงให้มาช่วยกูด้วยนะ ๆ"

(โทษนะ...มึงเป็นหลานประสาอะไร ไม่รู้เหรอว่าลุงมึงหนีขึ้นเหนือไปเข้าถ้ำบำเพ็ญเพียรตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว!)

(กูบอกแล้วว่าอย่าขโมยคาถาไปใช้มั่ว ๆ นี่เอาไปใช้กับเดินดินจริง ๆ สินะ?)

(แล้วที่อยู่ในร่างมึงตอนนี้ คือเดินดินเหรอวะ) ราชรณวรรัวถามคนน้อง

"กูไม่รู้โว้ยยยย!!" เจ้าจอมกระทืบเท้าลงพื้น เพราะไม่มีอะไรได้ดั่งใจตนเองสักอย่าง ความรู้สึกแบบนี้จิรพัฒน์โคตรจะเกลียดเลย!!

(งั้นมึงก็มาที่ตำหนักเอง กูไม่อยากทิ้งตำหนักไว้กับผีตนอื่นที่อยู่ในร่างมึง)

"นั้นปากมึงเหรอไอ้ราชา!"

สายถูกตัดไป ปล่อยให้เจ้าจอมยืนงง อยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นชินทั้งอย่างนั้น

ณ ตำหนักสายหมอก

เมื่อวางสายจากคนประหลาด ราชารีบเดินลงเรือนสวยไปยันสวนลีลาวดีซึ่งมีร่างของเจ้าจอมนั่งอยู่ทันที เขาต้องการพิสูจน์และต้องพิสูจน์ตอนนี้เดี๋ยวนี้!

"เจ้าจอม"

ร่างของเจ้าจอมสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมกับหันหลังกลับมามองตามเสียงเรียกของคนตัวสูง

"คาถาที่วันนั้นขโมยไปใช้ดีไหม?" ราชาถามหยั่งเชิง

"คาถา...อ๋อ ใช้ดีครับ" อีกฝ่ายครุ่นคิดสักพักจึงตอบกลับ

พูดครับ? ไอ้สันดานหมาสถุนไร้สกุลรูนชาติเนี่ยนะพูดครับ โลกใกล้จะแตกแล้วมั้ง นั้นคือความคิดของราชา

"เจ้าจอม..."

"ครับ?"

"พี่ราชาจะออกไปตลาด จอมจะไปด้วยไหม?"

"ตลาดเหรอครับ?" อีกคนตาลุกวาว ใช้ความคิดเพียงไม่นานเจ้าจอมก็พยักหน้าหงึก ๆ ตกลง

"...งั้นไปกันครับ"

ราชาพยักหน้ารับแล้วเดินนำอีกฝ่ายออกมาจากสวนลีลาวดี

เขาได้ข้อสรุปแล้ว อีกคนไม่น่าใช่จิรพัฒน์จริง หนึ่งเขาไม่เคยแทนตัวเองว่าพี่กับเจ้าจอมในเวลาปกติ ระหว่างเขาสองคนในยามปกติมีเพียงคำว่ากูและมึงเท่านั้น และสองเจ้าจอมไม่พูดครับ แม้แต่กับลุงบังเกิดเกล้าที่เลี้ยงมันมา มันยังไม่เคยพูดเลย นับประสาอะไรกับเขา ส่วนข้อสุดท้าย ไอ้จอมมันเกลียดการเดินตลาด เพราะอีกฝ่ายเคยบอกว่าพื้นตามตลาดมันเฉอะแฉะไม่เหมาะกับชีวิตไฮโซโกหรูของมัน

ณ เพนท์เฮ้าส์หรู

จิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของเดินดินเปิดแอปพลิเคชันทุกอันของอีกฝ่าย เพื่อดูความเป็นมาและความสัมพันธ์ของเจ้าของร่างกับคนอื่นอย่างถี่ถ้วน เขาหวังดีกับดั่งเดินสวรรค์นั่นก็เพราะเขาชอบอีกฝ่าย เจ้าจอมเองก็ไม่อยากทำอะไรให้เดินดินเสียหาย แต่ตอนนี้ขอกลืนคำพูดที่เขาอยากจะพูดออกมาทั้งหมดเมื่อกี้ลงคอ กลืนมันลงไปให้หมด!

เพราะสภาพชีวิตของนายแบบคนนี้ อุบาทว์กว่าที่จอมคิดไว้อยู่มากโข เงินในบัญชีธนาคารของคนสวยมีเพียงห้าสิบหกสตางค์ เนื่องจากโอนให้มารดาหมดแล้ว ส่วนเงินสดนั้นจิรพัฒน์เดินค้นทั่วห้องแล้วมีเพียงยี่สิบห้าบาท

"แล้วกูจะใช้ชีวิตยังไงละโว้ย!!!" กระเป๋าสตางค์Pradaสุดหรูถูกปาลงพื้นห้องอย่างไม่ไยดี

หลังจากระบายอารมณ์จนพอใจเจ้าจอมจึงเดินไปล้างหน้าแปรงฟัน เพื่อสงบสติอารมณ์เดือดของตนเอง

"อืม...สวย มองในกระจกยังสวย" เจ้าจอมใช้มือลูบใบหน้าของเดินดิน ปากก็พึมพำกับร่างของอีกคนในกระจกด้วยความหลงใหล

เมื่อเสร็จกิจวัตรจิรพัฒน์จึงเดินออกมาหยุดอยู่กลางห้องโถงขนาดใหญ่ ในสภาพชุดนอนผ้าซาตินที่สวมอยู่ตั้งแต่แรกเริ่มตื่นมาในร่างนายแบบคนงาม

ชายหนุ่มเท้าเอวมองทีวีจอแอลอีดีขนาดยักษ์ ตากระตุกวูบเบา ๆ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเลื่อนสายตาไปหาอย่างอื่นแทน

"บ้านก็หลังใหญ่ เงินสักพันจะมีให้กูใช่ไหมเนี่ย?" จอมบ่นพึมพำ แล้วใช้เท้าถีบโซฟาหนังตรงกลางห้องสองสามที

"ทำอะไรนะดิน?"

เสียงนุ่มดังขึ้นด้านหลังของเจ้าจอม เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็น 'พระเพลิง' และ 'อาร์ก้า' นายแบบที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน เพลิงอัคคีเจ้าจอมเคยเจอแล้วและเพิ่งเจอเมื่อวานด้วย เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายอยู่สนามแข่งน่าจะเป็นคนรู้จักของราชา

เจ้าจอมในร่างของเดินดินไม่สนใจคนทั้งคู่ จากการอ่านไดอารี่ในโทรศัพท์ของเดินดินเขาพบว่าจริง ๆ แล้วอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเพื่อนรวมงานสุด ๆ จิรพัฒน์เดินสะบัดหน้าหนีไปอีกทางแล้วทิ้งตัวนั่งลงโซฟาหนังเฮงซวยที่เขาเพิ่งจะถีบเมื่อกี้ โทรศัพท์ถูกยกขึ้นมากดเบอร์หาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอีกครั้ง

(ว่าไง)

"ไอ้สัสราชา!!!"

(น้องครับใจเย็น ๆ นะ พี่อยู่ข้างนอก)

เจ้าจอมรีบเอาโทรศัพท์มือถือออกจากหูเพื่อดูว่าเขาโทรผิดหรือเปล่า แต่เบอร์ก็ยังคงเป็นเบอร์ของราชรณวรเช่นเดิม

"มึงเป็นใคร?"

(เสียใจจริง ๆ นะครับ ที่จำเสียงพี่ไม่ได้)

"ไอ้เหี้ยราชา มึงเป็นบ้าเหรอ!!"

(ตอนนี้ทำธุระอยู่ครับ ไม่ต้องมาที่ตำหนักนะไม่สะดวก)

"...มึงอยู่กับ...เอ่อ เจ้าจอมเหรอ?"

(บิงโก! พาน้องออกมาตลาดสดครับ)

"ไอ้สัส!! อย่านะ อย่านะ!!!"

(ไม่ทันแล้ว ฮ่าๆ)

"อย่างแย่!!!!"

(จะวางแล้วนะ)

"ไม่ ๆ คือมึงต้องโอนเงินมาให้กู กูจะใช้ชีวิตยังไง ทั้งตัวมียี่สิบห้าบาทเนี่ย!" จอมโวยวาย

(มิจป่ะ? มิจฉาชีพน่ะ)

"ให้ไว!!"

(แล้วทำไมไม่มีเงิน ก็ทำงานนี่)

"กูจะรู้ไหม!!!"

(ไว้ว่าง ๆ เดี๋ยวพี่ไปโอนให้ครับ)

สายถูกตัดไปโดยที่ไม่รอฟังความเห็นของเพื่อน เจ้าจอมมองโทรศัพท์เครื่องสวยอย่างอึ้งๆ

แล้วมันจะว่างตอนไหนละวะ ไอ้สันดานควาย!

แต่ความคิดอีกอย่างก็แล่นเข้ามาในหัวของเจ้าจอม ตอนนี้มันเป็นการดีไม่ใช่เหรอ ที่เขาจะกลับตำหนัก ก็ร่างของเขาไม่อยู่ที่ตำหนักนี่ แถมยังไม่รู้ด้วยว่าวิญญาณที่อยู่ในนั้นเป็นของเดินดินจริงไหม ถ้าเป็นของผีสางตนอื่นละ?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 46 “END”

    ตอนที่ 46“Saturn”ดั่งดาวที่อยู่เคียงเดือน ดั่งดวงอาทิตย์ที่อยู่เคียงคู่โลก ดังอากาศที่ลอยอยู่ตามท้องนภา ดังเวลาที่ไม่มีวันหยุดเดิน.ความรักของเมืองเหนือที่มอบให้จิรพัฒน์ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.กลับกันแล้ว...ความรักของเจ้าจอมที่มอบให้สุวภัทน์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้เวลาจะเวียนไหว้หมุนวนไปหลายร้อยภพก็ตามแต่.ดอกกุหลาบถูกจัดเรียงใส่แจกันสวยด้วยมือเรียวของอดีตหมอผีหนุ่มอย่างจิรพัฒน์ ในขณะที่ราชานั่งมองน้องคนสนิททำกิจกรรมดังกล่าวด้วยความเอ็นดูบัดนี้เจ้าของรัตติกาลจันทร์อัปสรเปลี่ยนมือเป็นราชรณวรแล้ว ส่วนลุงนินนั้นปลีกวิเวกเน้นทางธรรม เข้าป่าฝ่าดงละทางโลก ตำหนักสายหมอกจึงมีเพียงราชรณวรและจิรพัฒน์ที่คอยดูแล และมีดั่งเดินสวรรค์แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกับเมืองเหนือและคนอื่น ๆณ สุสานอี้ฟางศพของสุวนีย์แม่เลี้ยงของเดินดินถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งใหญ่ของประเทศ ด้วยความเคารพอันน้อยนิดที่เดินดินมีให้อีกฝ่ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูปูเสื่อดั่งเดินสวรรค์มาอย่างดีดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลงหน้าสุสานเป็นการทำความเคารพบุพการีไม่แท้ด้วยความนอบน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 45 “เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”

    ตอนที่ 45“เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”ภายในห้องนอนของจิรพัฒน์ ดอกกุหลาบช่องามถูกวางไว้ข้างเตียง มือซึ่งขึ้นเส้นเลือดนิดหน่อยของจิรพัฒน์ จับช่อดอกไม้เบา ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ หากแต่เมื่อได้รับมักรู้สึกพิเศษเสมอเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุวภัทน์เดินมาหา เจ้าจอมจึงละสายตาจากช่อดอกไม้และหันมาหาคนพี่แทน"สวยไหมคะ?"คะขา? คะขา? คะขา?"สวยครับ""พี่คิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบดอกไม้..."ดอกไม้ที่ว่ามันแปลว่าดอกไม้จริง ๆ ใช่ไหม?มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าของจิรพัฒน์ราวกับต้องการสำรวจความเพอร์เฟกต์ของใบหน้าคมซ่อนหวานตรงหน้าปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของเจ้าจอมไปมาคล้ายกับต้องการสัมผัสมันอยู่อย่างนั้น เมืองเหนือขบกรามแน่นกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อเจ้าจอมใช้ปากของตนรับเอาก้านนิ้วของเขาเข้าไปลิ้มรส ลิ้นเรียวตวัดชิมก้านนิ้วเหมือนทานไอศกรีมแท่งเล็กก็ไม่ต่าง น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากของจิรพัฒน์ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้สายตาออดอ้อนเหลือบมองมาที่คนพี่ ภาพตรงหน้ามันช่างตราตรึงในใจของสุวภัทน์ยิ่ง"อืมมมม~"[MuangNuea Talk]ผมว่า...ผมไม่เคยต้านทานตัวตนของเจ้าจอมได้เลยสักครั้งผมหมายถึง...ตัวตนในมุมน

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 44 “เพลิงอัคคี”

    ตอนที่ 44“เพลิงอัคคี”พิธีกรรมเสร็จสิ้นพร้อมกับหยดเลือดของสาปอักษรที่หยดลงสู่พานเป็นหยดสุดท้าย ที่จิรพัฒน์และราชาเคยสงสัยบัดนี้คงได้คำตอบแล้ว สาเหตุที่ว่าเสือป่าเก็บเลือดตัวเองไว้ในตู้เย็นของสนามแข่งทำไม เหตุก็เพราะเลือดของเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณได้ และผู้ที่ใช้มันคือเจตตินทร์ เทพสงครามผู้มากบารมี"เสร็จแล้ว"เสียงของผู้อาวุโสเอ่ยกล่าว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่ายเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ทั้งหมดจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งไว้เพียงราชาและเดินดินอยู่ที่ตำหนักสายหมอกเท่านั้นด้านจิรพัฒน์และลุงนิน ยืนมองวิญญาณของช่อลดาที่อยู่สวนลีลาวดีโดยไม่ได้พูดกล่าวอะไรออกไป หากแต่เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยพูดแทน"โชคดีนะลูก ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกใบนี้...""...""พี่นิน ช่อจะขึ้นไปอยู่บนนู้นแล้วนะ""สะเหล่อทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขึ้นไปอยู่บนนั้นอะไรของมึงล่ะ""พี่นินจ๊ะ...""รู้ทั้งรู้ว่าวิญญาณจะดับสลายก็ยังจะเสือกไปแลกเปลี่ยนกับทวยเทพ" ลุงนินสุดจะทนกับความคิดของช่อลดาน้องสาวตนเหลือเกินเพียงเพราะเจ้าจอมของเมืองเหนือแล้วไม่สมหวังหรือถึงขั้นต้องยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณของตนเพื่อให้ลูกตัวเองสมหวังในความรัก ช่างสิ้

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 43 “ON THE FLOOR”

    ตอนที่ 43“ON THE FLOOR”รถยนต์คันงามเข้าเส้นชัยไปได้อย่างรวดเร็ว สมฉายานักแข่งไร้พ่ายประจำสนาม ท่ามกลางความยินดีของกองเชียร์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์กระโดดขึ้นยืนปรบมือด้วยความดีใจ เหมือนไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแชมเปญถูกแจกจ่ายให้ผู้ได้รับชัยชนะสามอันดับแรก เพลิงอัคคีมองไปที่ดั่งเดินสวรรค์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยอมรับว่าไม่เคยเห็นคนน้องมีความสุขและสดใสมากขนาดนี้มาก่อน เพลิงรู้สึกเหมือนปล่อยวางเรื่องเดินดินได้เกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรเสียเขาก็เป็นห่วงดั่งเดินสวรรค์เหมือนคนในครอบครัวด้วยใจจริงณ ตำหนักสายหมอกเจ้าของตำหนักเดินขึ้นเรือนไม้หลังงามไปด้วยความใจเย็นลุงนินกลับมาแล้ว.....จิรพัฒน์ที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บ้านหรูสไตล์ยุโรปของตนรีบทิ้งสายยางในมือและวิ่งไปหาผู้เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตนทันที"ลุง!!""มึงจะตะโกนทำไม""ลุงหายไปไหนมา?""..."เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้จิรพัฒน์ได้รับรู้ เจ้าจอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นและก้าวลงจากตำหนักไป โทรศัพท์ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายหาราชรณวรโดยลุงนินด้วยความรู้สึกหลากหลายเพียงไม่นานนักราชาก็เดินทางมาถึงตำหนักส

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 42 “ความจริงจากลุงนิน”

    ตอนที่ 42“ความจริงจากลุงนินและการจากไปของเหมันต์”เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังเล็กในป่าลึกของตัวเอง เหมันต์ก็จัดการกวาดของทุกอย่างลงบนพื้นของบ้านทันที น้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มคู่งาม ชายหนุ่มผิวสองสีใบหน้าคมพยายามกักเก็บอารมณ์ไว้แต่คราแรกบัดนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหมันต์ยกมือหนาขึ้นมาปิดบังใบหน้าตน ซึ่งยามนี้น้ำตาไหลไม่มีท่าว่าจะหยุดได้เลยแม้แต่น้อยฮึก ฮึก ฮึก~เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องจัดแข่งกับเสียงสะอื้นของหมอผีหนุ่ม การรอคอยของเขามันไร้ค่าสิ้นดี อยู่ไปก็เหมือนคนที่ตกนรกทั้งเป็น สู้ตกตายไปเสียยังจะดีกว่า ไม่น่าเลย...ไม่น่าพาเจ้าจอมมาทำอะไรแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วผลกรรมทั้งหมดก็ตกแด่เขา ผู้เป็นดั่งคนคอยเปิดประตูสู่ความเลวทรามในใจของจิรพัฒน์ไซยาไนด์ชนิดไร้สีสันถูกนำมาผสมน้ำเปล่าหวังดื่มเพื่อจบชีวิตตน มือเรียวยาวลูบไล้ขอบแก้วน้ำสีใสไปมา เหมันต์มีความคิดจะจบชีวิตอยู่หลายครา แน่นอนว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวปลิดชีพผู้อื่น เขาคิดตลอด คิดมาตลอด เพียงแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ในการรอคอยจิรพัฒน์มันทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจเดิมทีเหมันต์นั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ด้วยงานที่ทำอาจจะดูเลวทรามไปบ้าง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีความร

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 41 “ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”

    ตอนที่ 41“ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”"กูฝากดูหน่อย" ราชาเอ่ยพูดกับเมืองเหนือด้วยใบหน้ากังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"แล้วทำไมมึงต้องพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้นด้วยวะ?""เหนือ...กูรู้นะว่ามึงชอบจอม มึงรับได้เหรอถ้ากูกับจอมยังเป็นแบบนี้อยู่""ไม่" เมืองเหนือรีบสั่นศีรษะปฏิเสธทันที"เห็นไหม มึงหวงเจ้าจอมจะตาย กูถึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ไง กูต้องขีดเส้นให้ชัดเจน""ทั้งหมดที่ทำไปอาจจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่เพราะกูชอบน้องดิน ถ้ายังไม่ชัดเจนเรื่องจอมอยู่แบบนี้ เดินดินจะรู้สึกยังไงวะ?" ราชาพูดต่อเมืองเหนือเคยแอบสงสัยอยู่บ้างว่าราชรณวรนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์ เพียงแต่ไม่กล้าฟันธง เพราะเพื่อนเขาคนนี้เป็นพวกชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจอยู่พอควรที่ราชายอมบอกกับเขาตรง ๆ ว่าตัวเองนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์อีกฝ่ายตบไหล่สุวภัทน์สองสามทีก่อนจะขอตัวกลับไปหาเดินดินซึ่งรออยู่ที่คฤหาสน์ของสุวภัทน์นานแล้วส่วนเจ้าแดงเองก็ขอตามราชรณวรไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ในเขตของตำหนักสายหมอกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรูทรงยุโรปของจิรพัฒน์ ตัวของแดงเองก็ไม่อยากจะอยู่เช่นกันณ คฤหาสน์ของเมืองเหนือ"เมื่อไหร่พี่ราชาจะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status