Home / วาย / การันต์กันธีต์ / บทที่ 7 : ไม่เก่งจริง อย่ามาล้อเล่นกับระบบ

Share

บทที่ 7 : ไม่เก่งจริง อย่ามาล้อเล่นกับระบบ

Author: โบกร
last update Last Updated: 2025-10-17 00:29:57

“ถ้าพี่มึงไม่ใช่ผัวมัน แสดงว่าเป็นเมียมันอย่างนั้นเหรอ?”

“ไอ้หมุด!!”

“เอ้า กูแค่ถาม พี่มึงจะมาขึ้นเสียงทำส้นตีนอะไรครับ”

คนพูดเพียงแค่สงสัยจึงถามออกไป แต่ด้วยความที่ปากมันไวกว่าสมอง คำถามที่ออกมาจึงดูเหมือนเป็นการไปกระตุกหนวดเสือเข้าให้ แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ควรจะมาขึ้นเสียงใส่เขา

“หล่อแบบกูถ้าจะมีเมีย กูหาได้ดีกว่ากว่าคนแบบไอ้กานโว้ย อีกอย่างกูชอบสาว ๆ อกบึ้ม ๆ มึงก็รู้”

ธีต์รีบโต้กลับทันควันเพื่อไม่ให้เพื่อนคิดเลยเถิดไปไกลกว่านี้ ส่วนตัวเขานั้นยังไม่อยากคิดสั้นด้วยการคว้าไอ้เด็กเปรตนั่นมาทำเมีย

“เออกูรู้ มึงมันไอ้แก่บ้ากาม”

“ปากมึงนี่นะไอ้หมุด!”

ผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่มตั้งท่าจะลุกจากโซฟาฝั่งตนเองเพื่อมาเพ่นกบาลเพื่อนรักสักดอก แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจนึกคิด เสียงจากบุคคลที่นั่งเงียบมาตลอดอย่าวาโยดังสวนขึ้นมาก่อน

“มึงชอบเขา”

วาโยยังคงอยู่ในชุดสีดำดังเดิมไม่ต่างจากที่ใส่ไปเรียน ประโยคสั้น ๆ แต่ทรงพลานุภาพของเจ้าชายน้ำแข็งทำเอามหาสมุทรเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้น เพราะวันนี้เพื่อนของพวกเขามันพูดจาเกินหนึ่งคำแล้ว

แต่คนที่ร้อนรนจนนั่งไม่ติดเก้าอี้คือธีต์ ร่างสูงถึงกลับชะงักงันแล้วหันไปจ้องตาเพื่อนรักเขม็ง

“มึงหมายถึงใครไอ้โย”

“มึงไง มึงชอบเด็กนั่น”

“เลอะเทอะ” ปากบอกปัดแต่เนื้อตัวเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข สีหน้าฉายชัดเหมือนเด็กทำความผิดแล้วถูกผู้ใหญ่จับได้ “บะ บ้า ใครมันจะไปชอบเด็กเปรตแบบนั้น มึงอย่าพูดมั่วนะ กูลูกมีพ่อมีแม่ พูดแบบนี้กูเสียหายโว้ย” คำพูดมากมายพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก แต่มันไม่สามารถไปลบล้างกับข้อกล่าวหาของเพื่อนได้เลยสักนิด

“แถจนสีข้างถลอกหมดแล้ว”

“โย มึงเงียบปากไปเหมือนเดิมเถอะ ถ้าจะพูดออกมาแล้วไม่สร้างสรรค์”

“หึ กูจะคอยดู”

แก้ววิสกี้ถูกยกจรดริมฝีปากก่อนที่เจ้าของเรือนผมสีเทาจะสาดมันลงคอเหมือนเป็นการเยาะเย้ยเพื่อนรักกลาย ๆ แต่มีหรือที่คนหน้าหนาอย่างธีต์จะยอมรับ ร่างสูงยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างแล้วเบ้ปากเหยียดตรง ก่อนจะพ่นถ้อยคำออกมาด้วยโทนเสียงหนักแน่น

“รอจนแก่ มึงก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นวันนั้น”

วาโยเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดโกหกของเพื่อน เขาเบนสายตากลับไปจ้องมองเหล่านักท่องราตรีด้านล่าง และไม่ลืมที่จะมองไปยัง ‘เด็กนั่น’ ที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการเป็นผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์

 

อีกด้าน

“พี่ขุนพลอันนี้ใส่แก้วแบบไหนนะพี่”

กานถามอีกคนเมื่อออเดอร์ล่าสุด ลูกค้าสั่งเครื่องดื่มที่เขาไม่รู้จัก นั่นทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องหยิบแก้วทรงไหนส่งไปให้พี่ขุนพลชง ส่วนคนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการหยิบจับวัตถุดิบต่าง ๆ สำหรับออเดอร์ก่อนหน้านี้ทำเพียงชี้นิ้วไปที่เหนือศีรษะของกานแล้วเอ่ยบอกให้ผู้ช่วยหยิบแก้วทรงสูงใบนั้นลงมา

“แก้วสูง ๆ อยู่บนหัวเรา”

“อ้อ ขอบคุณครับ”

เมื่อได้แก้วสำหรับชงเครื่องดื่มแล้ว ขั้นตอนต่อไปของกานคือการนำเอาแก้วมาวางเรียงตามลำดับคิวเพื่อให้บาร์เทนเดอร์ตัวจริงได้หยิบไปชงเครื่องดื่ม ระหว่างนั้นกานก็ลอบมองใบหน้าของรุ่นพี่ที่ยิ้มแย้มและดูมีความสุขเสียเหลือเกินในยามที่ได้เนรมิตเครื่องดื่มหลากสีสันออกมา

“ดูเหมือนพี่จะหลงรักงานนี้มากเลยนะครับ” ใจมันอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ออกไป

“อืม พี่ชอบเวลาที่คนเขากินเหล้าที่เราชงแล้วมีความสุข แต่พี่ไม่ได้บอกว่าการกินเหล้าเป็นเรื่องดีนะ”

“ผมเข้าใจครับ ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“ดีแล้ว พี่แค่คิดว่าชงเหล้ามันก็เป็นเหมือนงานศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง แค่เปลี่ยนจากการยืนมอง มาเป็นลิ้มลอง”

ขุนพลว่าจบพร้อมกับยกมือขึ้นไปลูบกลุ่มผมนุ่มของกานเบา ๆ จนคนที่ไม่ทันตั้งตัวนิ่งไป แต่กานไม่ได้ถอยห่างหรือผลักไสอีกคนแต่อย่างใด เขาทำเพียงพูดจาติดเล่นออกมา

“เล่นไรเนี่ยพี่”

“มันเขี้ยวเด็ก”

“โห ผมตัวโตเท่าควาย ไม่เด็กแล้วนะครับ”

“ก็ยังเด็กอยู่ดี”

“โถ่ พี่ขุนพล”

กานลากเสียงในตอนท้ายเสียยาวยืด จนขุนพลมองตามแล้วอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ บาร์เทนเดอร์หนุ่มชักมือกลับมาแล้วชวนเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะรุกผู้ช่วยส่วนตัวหนักเกินไป ทั้งที่วันนี้เพิ่งเจอหน้ากันเป็นวันแรก

แต่ดูท่าแล้ว เขาน่าจะพ่ายแพ้ให้กับใบหน้ากวน ๆ ของกาน ที่พอได้ทำงานร่วมกัน อีกฝ่ายนั้นช่างดูซื่อขัดกับหน้าตาเสียเหลือเกิน

“พักไปหาข้าวกินได้แล้ว เราช่วยพี่มาหลายชั่วโมง ช่วงนี้คนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยสั่งอะไรเพิ่มหรอก”

“อ่า ก็ได้ครับ พี่ขุนพลเอาไรไหม กานจะสั่งมาให้ด้วย”

“เอาเป็นข้าวผัดทะเลก็ได้ บอกป้านีว่าของขุนพล แกรู้ว่าต้องทำยังไง”

ป้านี คือหัวหน้าเชฟของบาร์ ที่รู้ใจขุนพลมากที่สุดว่าชายหนุ่มมักจะสั่งข้าวผัดทะเลที่ไม่ใส่มะเขือเทศและหอมหัวใหญ่ แต่ให้ผัดใส่ต้นหอมและแครอทแทน

“โอเคครับบอส รอไอ้กานคนนี้สักครู่ เดี๋ยวจะรีบไปสั่งแล้วยกมาเสิร์ฟให้ถึงที่”

ไม่พูดเปล่า กานยังยกสามนิ้วขึ้นมาแตะที่ขมับข้างขวาเหมือนตนเพิ่งจะรับคำสั่งจากเจ้านายมา แถมยังเลือกใช้คำที่คนฟังได้ยินแล้วยิ่งรู้สึกมันเขี้ยวเข้าไปใหญ่

“ไป ๆ ก่อนที่พี่จะอดใจไม่ไหวแล้วยีผมเราจนเป็นรังนกขึ้นมาจริง ๆ”

“คิกคิก ไปแล้วครับ”

กานหมุนตัวจ้ำอ้าวไปที่ครัวอย่างว่องไว เมื่อรู้ชะตากรรมว่าหากเขายังยืนพูดจากวนพี่ขุนพล มีหวังผมที่พยายามปาดเจลมาอย่างหล่อคงได้เละไม่เป็นทรง

ทุกการกระทำของคนทั้งสองตกอยู่ภายใต้สายตาของใครบางคนที่ชั้น 2 ของร้าน ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งร้อนรนจนก้นแทบไม่ติดเบาะ อีกทั้งใบหน้าหล่อเหลายังเอาแต่แนบสนิทไปกับกระจกจนแทบจะรวมร่างเป็นหนึ่งเดียว เพียงเพราะกำลังจับจ้องมองกานและบาร์เทนเดอร์ ฝ่ามือหนากำเข้าหากันแน่น แววตาวาวโรจน์ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ในนั้น

 

“แม่ง มีจับหัวกันด้วยมึง ไอ้หมุดมึงเห็นไหม?”

“ไอ้พี่ธีต์ ปากบอกไม่ชอบเขา แต่มึงจ้องเขาไม่พักเลยนะ”

“กูไม่ได้ชอบโว้ย แค่บาร์ตรงนั้นมันอยู่ในระดับสายตากู”

“จับดูสีข้างตัวเองหน่อยก็ดีนะพี่มึง กูว่าน่าจะเป็นแผลฉกรรจ์แล้วมั้ง”

มหาสมุทรสุดจะเอือมระอากับความปากอย่างใจอย่างของเพื่อน ที่ตั้งแต่โดนไอ้โยตอกหน้าหงาย พี่มันก็เอาแต่เอียงคอ 45 องศา แล้วโน้มตัวจนคางแทบจะเกยไปกับโซฟาเพื่อที่จะจ้องมองเด็กนั่น ‘แล้วยังหน้าหนามาเถียงเขาว่าบาร์อยู่ในระดับสาย กูจะบ้า ในระดับสายตาของพวกเขาตอนนี้มันคือเวที ซึ่งอยู่คนละมุมกับบาร์ชงเหล้าเลย’

“พี่มึงจะแถกับพวกกูสองคนได้ แต่ขอร้องว่าอย่าไปแถแบบนี้ให้ใครเขาได้ยิน กูขายขี้หน้าแทน”

“สรุปมึงเป็นเพื่อนกูหรือเพื่อนไอ้กานกันวะ เห็นเข้าข้างมันนัก กูนี่คนถูกกระทำนะ”

“นั่นเพราะมึงไปทำเขาก่อนต่างหาก”

“โว้ย พูดกับมึงแล้วกูหงุดหงิด ไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า”

ที่จริงเขาไม่ได้ปวดหนักเบาอยากเข้าห้องน้ำอะไร แต่เนื่องจากเพิ่งจะโดนสองเพื่อนรักจับทางเข้าให้ บวกกับเมื่อครู่เห็นว่าไอ้เด็กเปรตนั่นมันผละตัวออกจากบาร์เทนเดอร์คนนั้น จึงอยากจะตามลงไปพูดจาให้รู้ความ

หากบอกไอ้หมุดกับไอ้โยออกไปตรง ๆ ว่าเขาจะตามไอ้กานไป มีหวังเพื่อนรักทั้งสองได้แหกอกเขาพอดี

“อย่าให้กูรู้นะว่าไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำจริง ๆ”

“ปวดขี้โว้ย หรือมึงจะให้กูนั่งขี้ใส่ถังน้ำแข็งแทนโถส้วม ห้ะ!” ธีต์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปใกล้จุดวางเครื่องดื่มที่มีถังน้ำแข็งตั้งอยู่ “กูพร้อมนะ” เขาถกเสื้อที่ใส่ขึ้นเล็กน้อยจนสาว ๆ ในห้องมีโอกาสได้ลอบมองซิกซ์แพ็กรำไรเป็นอาหารตา

“โอ้ยพี่มึง จะทำอะไรไม่เกรงใจหน้าขี้เหร่ ๆ ของมึง ก็ช่วยเกรงใจคนหล่อแบบกูและน้องข้าวฟ่างกับเพื่อนเขาด้วย จัญไรฉิบ!”

“กูกลัวมึงไม่เชื่อว่ากูปวดขี้จริง ๆ”

ปู้ดดดดด~

ธีต์เบี่ยงก้นของตัวเองไปอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของมหาสมุทร ก่อนจะผายลมออกมายกใหญ่ และด้วยความที่เพื่อนรักนั่งอยู่บนโซฟา ส่วนเขายืนอยู่นั้น ตำแหน่งของก้นจึงแทบจะชนเข้ากับหน้าของเพื่อน แน่นอนว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อัดเข้าเต็ม ๆ หน้ามหาสมุทรจนน้องข้าวฟ่างที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แทบอ้วกออกมา

“อ้ากกกก! ไอ้พี่ธีต์ ไอ้เวร

“อ้ากกกก! ไอ้พี่ธีต์ ไอ้เวร”

มหาสมุทรตะโกนด่ากับการกระทำไร้มารยาทของเพื่อน “ตดเหม็นขนาดนี้ ขี้จ่อก้นมึงแล้วมั้ง ไอ้ควาย” คนหล่อยกมือขึ้นมาโบกพัดไปที่ใบหน้าเพื่อหวังให้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของเพื่อนจางลงไปจากปลายจมูก

“กูปวดขี้อ่ะ กลัวมึงไม่เชื่อ”

“มึงรีบไปเข้าห้องน้ำเลยนะ”

“เออ ๆ ไปละเนี่ย”

ธีต์ยกยิ้มแล้วเดินออกไปจากห้องทันที การผายลมเมื่อครู่ที่จริงมันก็แค่ ‘ธีต์การละคร’ ที่เขาทำขึ้นเพื่อให้สมจริงเท่านั้น และแม้ว่าเขาจะเดินพ้นเขตห้อง VVIP มาแล้ว แต่เสียงตะโกนด่าทอชื่อของตนยังคงดังไล่หลังมาให้ได้ยิน

ซึ่งมันไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน ‘ไอ้หมุด’ กำลังด่าลามไปถึงผมหงอกบนหัวของพ่อเขาอยู่นั่นเอง

อีกด้าน

กานยื่นมือออกไปรับข้าวสองจานจากป้านี โดยแววตาใสมองข้าวผัดสองจานที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ เพราะเขาคิดไม่ออกว่าจะสั่งอะไร เลยเลือกที่จะบอกป้านีให้ทำเป็นข้าวผัดเหมือนพี่ขุนพลไปเลย ป้าแกจะได้ผัดแค่กระทะเดียวแล้วแบ่งเป็นสองจาน

“ขอบคุณครับป้านี”

“เลิกงานแล้วกานอย่าลืมมาเอาข้าวกลับไปกินที่บ้านด้วยนะ”

“มีข้าวเหลือด้วยเหรอครับป้านี”

กานตาโตเป็นประกายเมื่อการมาทำงานใหม่ที่บาร์แห่งนี้มันพ่วงมาด้วยข้าวฟรีไม่ต่างจากในตอนที่เสิร์ฟข้าวต้มอยู่ร้านเจ๊ตุ้มกับพี่ยุ้ยเลย

“เหลือเยอะ ป้าทำแบ่งทุกคน คุณปูนเขาไม่ชอบให้พวกของสดค้างคืน แกบอกว่าเอาไปทำอาหารวันถัดไปแล้วมันไม่อร่อย เลยอนุญาตให้ป้าทำอาหารแจกจ่ายพนักงานในร้านให้เอากลับไปกินที่บ้านได้”

ป้านีพูดไปพลางลงมือปรุงรสชาติอาหารในกระทะ ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นตามวัยหันมาส่งยิ้มให้กาน แม้ว่าเด็กตรงหน้าจะเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่วันเดียว แต่เธอนึกเอ็นดูกานมันนัก เพราะอายุของกานน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับหลานชายที่อยู่ต่างจังหวัด

“พี่ปูนใจดีเนอะป้านี”

“ใช่ แกใจดีมาก ทุกคนที่นี่เลยรักแก”

“กานดีใจจัง ที่ได้มาทำงานที่นี่ ขอบคุณนะครับป้านี”

เนื่องจากสองมือถือจานข้าวอยู่ กานจึงก้มหัวลงเพื่อแสดงการขอบคุณแก่หัวหน้าเชฟ และไม่ลืมที่จะส่งยิ้มทิ้งท้ายก่อนจะหมุนตัวนำข้าวออกไปเสิร์ฟให้กับหัวหน้าของเขาอีกคน

“ข้าวผัดทะเลสูตรพี่ขุนพลนี่หน้าตาดีใช่ย่อย”

ร่างสูงเดินไปพร้อมกับพูดจาขึ้นมาอยู่คนเดียว ใบหน้ายิ้มแย้มไปตลอดทางเดิน แต่ต้องหุบยิ้มลงแทบไม่ทัน เมื่อตาของเขามันเงยหน้าขึ้นไปสบเข้ากับดวงตาของใครบางคนเข้า

“เห้ย! มึง”

“ทำไม กูหล่อขนาดนี้ มึงร้องเหมือนเห็นผีเลยนะ”

“มึงตามกูมาทำไม”

กานมองไอ้หัวขี้ตาขวาง สิ่งแรกที่ผุดเข้ามาในหัวของเขาคือคนตรงหน้าตามรอยตนมาแน่ ๆ นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ‘กูย้ายที่ทำงานใหม่แล้วยังตามมาหลอกหลอนอีกจนได้’

“ให้มันน้อย ๆ หน่อยไอ้กาน ใครบอกว่ากูตามมึงมา”

ธีต์รีบแก้ต่าง ร่างสูงยืนพิงร่างกายท่อนบนไปกับผนังทางเดินด้วยท่าทีสบาย ๆ อันที่จริงเขาตามอีกคนมาอย่างที่มันว่า ก่อนจะดักรอจนได้จังหวะที่อีกฝ่ายอยู่คนเดียวแล้วโผล่หน้าออกมาให้เห็น แต่จะให้ยอมรับกันโต้ง ๆ มันก็ไม่ได้ไหม

“ถ้าแค่บังเอิญมาแดกเหล้าก็เชิญตามสบาย”

“ระริกระรี้นักนะมึง”

“ที่พูดถึงอยู่นี่หมายถึงกูหรือปลากระดี่?”

“ทีอยู่กับกูทำหน้าเหมือนจะตาย กูเห็นอยู่กับไอ้บาร์เทนเดอร์นั่น ยิ้มหน้าบานไปถึงไหนต่อไหน”

“ไอ้ธีต์ ถ้าลืมแดกยาระงับประสาทก็กลับไปแดก อาการแย่นะมึงอะ”

เขาส่ายหน้าอย่างสุดจะทนกับคำพูดจากวนส้นตีนของอีกฝ่าย ก่อนจะประคองจานข้าวผัด แล้วเลือกที่จะเดินเลี่ยงไอ้หัวขี้ไปอีกฝั่งเพราะไม่อยากอยู่เสวนากับมันให้เปลืองน้ำลาย ‘สู้เก็บน้ำลายไว้ถุยทิ้งยังจะดีกว่า’

“เดี๋ยวก่อน” คนพูดคว้าเข้าที่แขนของรุ่นน้องแล้วกระชากให้หยุด “กูยังพูดไม่จบ ใครอนุญาตให้มึงเดินหนีกู” แววตาดุ ๆ จ้องมองไปที่ดวงหน้าของกาน ทำเอาอีกคนถึงกับคิ้วขมวด

“กูไม่มีเรื่องจะพูดกับมึง ถ้าเหงาปากมากขนาดนั้น ทีหลังหาตะกร้อมาครอบเอาไว้สิ จะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่น”

พูดจบก็ขืนตัวหวังสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม “ปล่อยกูไอ้ธีต์”

“ไม่!”

ไม่รู้อะไรเข้าสิงธีต์ เขากระชากแขนกานเข้าหาตัว จนจานข้าวผัดเกือบร่วงหลุดมือ โชคยังดีที่กานประคองตัวกลับมาได้

“มึงเป็นส้นตีนอะไร เห็นไหมว่าจานข้าวกูเกือบหล่นลงพื้น”

“ไม่เห็น”

“โอ้ย มีอะไรมึงก็รีบ ๆ พูดมา พี่กูเขารอกินข้าว”

“พี่?”

“เออ พี่ มึงจะทำไม”

“ยืนใกล้จนแทบจะสิงร่างแบบนั้น กูนึกว่ามึงมาเป็นเด็กมันเสียอีก”

“มึงว่ายังไงนะ”

กานเริ่มหมดความอดทนกับคนตรงหน้า ที่วัน ๆ นอกจากจะไม่ทำอะไรสร้างสรรค์แล้ว เวลาพูดจายังไม่เคยให้เกียรติเขาสักครั้งที่พบกัน หากไอ้หัวขี้มันพูดไม่เข้าหูเขาอีกแค่ประโยคเดียว เขาสัญญาเลยว่าจะซัดมันให้น่วม

“มึงขายเหรอ?”

ประโยคต่อมาของธีต์ทำเอาฟางเส้นสุดท้ายของคนฟังขาดผึง ใบหน้าร่าเริงในยามรับข้าวมาจากป้านีก่อนหน้านี้พลันหายไป หลงเหลือเอาไว้แต่ความเคร่งขรึม เขากัดกรามด้วยความโกรธที่ถูกอีกฝ่ายดูถูกซึ่ง ๆ หน้า แววตาเดือดดาลกวาดมองไปยังของใกล้ตัว ก่อนจะเห็นว่ามันมีโต๊ะว่างอยู่ใกล้ ๆ สองมือหนาประคองจานข้าวผัดไปวางลงเอาไว้บนโต๊ะให้เรียบร้อย เพราะสิ่งที่เขาจะทำหลังจากนี้ อาหารที่มีค่าขนาดนั้นไม่สมควรได้รับความเสียหาย

ผลั่ก!

เพราะหากในสถานการณ์นี้จะมีใคร หรือสิ่งใดเสียหาย สิ่งนั้นควรจะเป็นคนตรงหน้าเขามากกว่า ร่างสูงหันกลับมาปล่อยกำปั้นเข้าไปที่ปลายคางของธีต์จนอีกคนไม่ทันตั้งตัวเซถอยหลังไปหลายก้าว แต่เจ้าของหมัดตอนนี้โมโหจนไม่ยอมรามือง่าย ๆ กานเดินตรงปรี่เข้าไปหาคนที่กำลังยกมือลูบคางตัวเอง โดยที่พูดอะไรไม่ออก เพราะเมาหมัดของรุ่นน้องเข้าอย่างจัง

ผลั่ก! อั่ก!

ฝ่าเท้าข้างขวาถูกยกขึ้นกลางอากาศ ตอนนี้กานโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาส่งพลังโมโหทั้งหมดไปที่ฝ่าเท้าแล้วถีบเข้าไปที่หน้าท้องของคนปากหมาก่อนจะถอยหลังออกมายืนชมผลงานด้วยความพึงพอใจที่ได้ระบายความโกรธออกไปให้ทุเลาลง

“ถ้าพูดอะไรออกมาแล้วมันไม่มีประโยชน์ เก็บปากมึงไว้อมเหรียญสิบตอนตายเถอะ”

“อะ-”

“ถ้าโง่จนไม่มีสมองก็หุบปากเน่า ๆ ของมึงไปซะ”

กานไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้โต้กลับ เขาหมุนตัวเดินไปหยิบจานข้าวผัดขึ้นมาถือด้วยความระมัดระวังดังเดิม ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที โดยไม่หันไปเหลียวแลอีกคนที่ตอนนี้ล้มลงไปกองกับพื้นก้นจ้ำเบ้าส่งเสียงโอดโอยเป็นที่เรียบร้อย

โชคดีที่การแจกฝ่าตีนของเขาเมื่อครู่ไม่มีใครเห็น เพราะช่วงเวลานี้ทางร้านเปิดเพลงจังหวะเบา ๆ ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะนั่งพูดคุยอยู่ที่โต๊ะ ไม่ลุกขึ้นเต้นหรือเดินพลุกพล่านเหมือนก่อนหน้านี้

“คิดว่ามีปากแล้วจะมาพูดใส่กูยังไงก็ได้เหรอ รู้จักไอ้กานน้อยไปแล้ว ห้าวไม่รู้กาลเทศะแดกตีนกูเข้าไปเป็นไงละมึง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • การันต์กันธีต์   ตอนจบ : วันเกิดปีนี้พี่ธีต์ไม่ต้องฉลองคนเดียวอีกต่อไปแล้วนะ

    “ธีต์เสาร์นี้ว่างไหม”กานถามขณะนั่งอยู่บนที่นั่งฝั่งคนขับ แววตาใสมองไปยังคนข้าง ๆ ที่กำลังง่วนอยู่กับการเปิดแผนที่ร้านอาหารที่จะไปกินอยู่ในโทรศัพท์“แป๊บนะ ขอดูตารางงานก่อน”เรียวนิ้วเลื่อน ๆ อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์อยู่ชั่วครู่ เนื่องจากช่วงนี้ธีต์งานเยอะเป็นพิเศษ เพราะเจ้าตัวกับเพื่อนกำลังจะก่อสร้างโชว์รูมรถ แววตาคมเพ่งมองหน้าจอก่อนจะหันหน้ามาบอกแฟน“ช่วงเช้าติดงานนิดหน่อย ว่างตั้งแต่บ่ายสองเป็นต้นไป มีอะไรหรือเปล่า”“งั้นเราไปกินข้าวที่บ้านพ่อกับแม่มึงได้ใช่ไหม”เนื่องจากสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาและธีต์ไม่ได้เข้าไปกินข้าวในเย็นวันเสาร์อย่างที่ตกลงไว้ เนื่องจากงานที่รัดตัว ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะเห็นอกเห็นใจลูกชายและเป็นห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า“อืม ดีเหมือนกัน พ่อโทรมาบ่นจนหูชาแล้ว”“ท่านคงคิดถึง”“ทำไงได้อะเนอะ ดันมีลูกชายฉลาด งานการรัดตัว”“มึงนี่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่ลดลงเลยนะ”“อะไรลดลงเหรอ”“ความมั่นหน้า”กานว่าออกมายิ้ม ๆ แต่คนฟังไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไร ออกจะถูกใจธีต์เสียด้วยซ้ำ เพราะเรื่องมั่นหน้า และมั่นใจ เจ้าของเรือนผมสีส้มไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว “ถ้าไม่มั่นหน้าจะได้มึงมาเ

  • การันต์กันธีต์   บทที่ 48 : ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอสินะ

    “ลูกกาน ลองชิมแกงรัญจวนดูนะลูก เมนูโปรดแม่เลย”คุณหญิงของบ้านตักแกงสุดโปรดไปวางลงบนจานข้าวของว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อาหารบนโต๊ะวันนี้สีสันแสบสะท้านทรวงมาก เมนูแต่ละอย่างรสชาติจัดจ้านซึ่งดูแปลกตาไปจากทุก ๆ วัน เนื่องจากสายธารเป็นคนชอบอาหารรสจัด ยามใดที่คุณแม่ยังสวยอยู่บ้าน ป้านวลจึงมักจัดอาหารทั้งรสชาติเผ็ดและจืดขึ้นพร้อมกัน“ขอบคุณครับคุณแม่”“กินเยอะ ๆ นะลูก ตาธีต์เลี้ยงเราดีไหม ทำไมหนูตัวบางแบบนี้ ไม่ได้ ๆ หลังจากนี้ต้องกินข้าวเยอะ ๆ นะ”“ได้ครับผม”กานส่งยิ้มกลับไปพร้อมด้วยคำตอบแสนสุภาพ ร่างสูงโปร่งขณะนี้นั่งอยู่ข้าง ๆ แม่ของธีต์ โดยมีคุณลุงนั่งอยู่หัวโต๊ะเช่นเคย ส่วนไอ้ผมส้มของเขานั้นตอนนี้นั่งหน้ายับอยู่ฝั่งตรงข้ามผู้เป็นแม่ เนื่องจากถูกสั่งไม่ให้นั่งข้างเขา“แม่ ผมเลี้ยงกานดีมากนะครับ อาหารมีให้ไม่เคยขาด”“ธีต์ลูก แม่บอกแล้วว่าให้จ้างครูมาสอนภาษาไทย ดูพูดเข้า นึกว่าให้อาหารหมา”“แม่ครับ”ใบหน้าหล่อเหลายิ่งยับย่นเข้าไปอีกเมื่อถูกแม่ตัวเองแซวต่อหน้าแฟน เห็นทีหลังจากนี้เขาต้องไปลงเรียนภาษาไทยให้มากขึ้นเสียแล้ว เพราะเขาเองไม่ได้อยู่กับกานตลอดเวลา ดังนั้นเวลาห่างกับแฟนเขาจึ

  • การันต์กันธีต์   บทที่ 47 : แม่ยายและว่าที่ลูกสะใภ้หมายเลขหนึ่ง

    ไม่นานหลังจากที่ธีต์วิ่งออกไป ร่างสูงก็กลับมาพร้อมกับลุงหมอเจ้าของไข้ และพยาบาลอีกหนึ่งคน ธีต์ถอยออกมายืนอยู่ข้าง ๆ พ่อของเขา เพราะไม่อยากรบกวนการทำงานของลุงหมอ เขาปล่อยให้กานถูกซักถามและตรวจเช็กอาการอยู่บนเตียง“กานฟื้นแล้วครับพ่อ”ธีต์หันไปฟ้องพ่อราวกับเด็ก ๆ ที่กำลังดีใจกับเรื่องบางอย่างจนออกนอกหน้า ธรณ์พยักหน้ารับ พลางมองไปยังแววตาของลูกชายที่เขาไม่ได้เห็นมันทอแสงประกายระยิบระยับมาร่วมอาทิตย์ด้วยความเอ็นดู“ผมดีใจมาก ๆ เลยครับ”“พ่อก็ดีใจ หมดเคราะห์สักทีนะเรา”“เดี๋ยวถ้ากานหายดี ผมจะพาน้องไปอาบน้ำมนต์กับหลวงตาครับ”“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ นู่น ลุงหมอตรวจเสร็จแล้ว”ธรณ์เบนสายตาไปยังหมอประจำตระกูล ซึ่งขณะนี้ตรวจอาการของคนป่วยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ธีต์ได้ยินดังนั้นจึงไม่รอช้า เขาสืบเท้าเข้าไปหาลุงหมอทันควัน“น้องเป็นยังไงบ้างครับลุงหมอ”“อาการโดยรวมตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะ ให้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”“กานจะได้กลับบ้านแล้วเหรอครับ”“ใช่ ลุงดีใจด้วยนะ”“ขอบคุณมากครับลุงหมอ”คนฟังแทบจะก้มลงกราบลุงหมอที่พื้น เพราะเขาถือว่าลุงหมอคือคนสำคัญที่

  • การันต์กันธีต์   บทที่ 46 : คำบอกรักจากพี่ธีต์ที่ไปไม่ถึงคนฟัง

    “กินเยอะ ๆ”ธรณ์ตักไก่กระเทียมไปวางลงบนจานข้าวของลูกชาย พร้อมกำชับด้วยโทนเสียงหนักแน่น เนื่องจากเจ้าธีต์เอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมา“ผมไม่หิวเลยครับพ่อ”“ไม่หิวก็ต้องฝืนกินเข้าไป แกจะได้มีแรง”“ครับ”รับปากออกไปแต่มือยังเขี่ยข้าวในจานไม่หยุดจนผู้เป็นพ่อต้องยกมือขึ้นไปตบบนหลังมือของลูกชายเพื่อเรียกสติ “ธีต์ กินข้าวหน่อยนะลูก”“ครับ”ข้าวไก่กระเทียมคำแรกถูกส่งเข้าปากด้วยความฝืดคอ แต่ทว่าธีต์ก็พยายามเคี้ยวข้าวแล้วกลืนลงท้องไปด้วยความจำใจ เนื่องจากมีสายตาของพ่อมองกดดันเขาอยู่ กระทั่งเขากินข้าวไปอีกสองสามคำ จู่ ๆ พ่อก็โพล่งเรื่องงานหมั้นขึ้นมา“พ่อไปยกเลิกงานหมั้นให้แล้วนะ”“พ่อว่ายังไงนะครับ ยกเลิกงานหมั้น?”“อืม เมื่อเช้าพ่อไปบ้านลุงภูมา”“เกิดอะไรขึ้นครับ ก่อนหน้านี้พ่อยังบังคับผมอยู่เลย” ธีต์ถามออกไปตามตรง พลางมองใบหน้าของพ่อด้วยความสงสัย“ที่กานตกสระว่ายน้ำเมื่อวาน พ่อให้ช่างเขามาดูกล้องวงจรปิดมุมนั้น ปรากฏว่าหนูแพรเป็นคนผลักกานตกสระว่ายน้ำ”ธีต์วางช้อนในมือกระแทกลงบนจานจนเกิดเสียงดังเมื่อสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้เป็นเรื่องจริง แม้ว่าในใจจะแอบให้ความคิดด้านลบที่ว่าแพรเป็นคนผลักกานตกน้ำไม่

  • การันต์กันธีต์   บทที่ 45 : ความรักของพ่อ ความรักของแฟน

    “คุณธรณ์ค่ะ ช่างเข้ามาดูเรื่องกล้องวงจรปิดแล้วค่ะ”หลังจากที่ธรณ์ปล่อยให้ลูกชายได้อยู่เฝ้ากานที่โรงพยาบาล แม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปเฝ้าใกล้ ๆ ได้ แต่สภาพจิตใจของลูกชายในตอนนี้ หากให้กลับมาพักที่บ้านคงได้ระเบิดบ้านทิ้งแน่ ๆ เขากับนวลจึงอาสามาเก็บข้าวของ พร้อมเตรียมอาหารเย็นแล้วค่อยนำกลับไปให้เจ้าธีต์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เห็นว่าคืนนี้หมอเขาไม่ให้อยู่เฝ้าตลอดทั้งคืน ธีต์เลยจะไปนอนโรงแรมใกล้ ๆ แทนโดยสิ่งแรกที่ทำเมื่อกลับมาถึงบ้าน คือการโทรตามช่างที่รับผิดชอบดูแลเรื่องกล้องวงจรปิดในบ้านมาพบ เพราะเขาต้องการหาสาเหตุว่ากานตกลงไปสระน้ำได้อย่างไร“อืม นวลให้ช่างเข้ามาได้เลย”“สักครู่นะคะ”ไม่นานช่างผู้ชายสองคนได้พากันเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของธรณ์ โดยช่างประจำมาพร้อมกล่องเครื่องมือครบครัน ส่วนอีกคนดูท่าแล้วน่าจะเป็นผู้ช่วยช่าง เพราะธรณ์ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตามาก่อน เนื่องจากปกติช่างประจำรายนี้มักจะมาทำงานด้วยตัวคนเดียวมากกว่า“ผมอยากเห็นภาพเหตุการณ์บ่ายสามไปจนถึงสี่โมงเย็นของวันนี้ ช่างพอจะเช็กให้ได้ไหม”“ได้ครับคุณธรณ์”“ฝากด้วยนะช่าง”“ครับ”ช่างลงมือทำหน้าที่ของตนต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ

  • การันต์กันธีต์   บทที่ 44 : ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย

    โรงพยาบาล XX“คุณลุงค่ะ คุณลุงต้องเชื่อน้องแพรนะคะ น้องแพรไม่รู้เลยค่ะ ว่ากานเค้าตกลงไปในสระว่ายน้ำได้ยังไง”“คงเป็นอุบัติเหตุ ไม่เป็นไร เรารอคุณหมอออกมาก่อนเถอะ”ธรณ์พูดปลอบใจหญิงสาวรุ่นลูก เพราะคนที่เข้าไปเห็นกานจมอยู่ก้นสระว่ายน้ำคนแรกคือเด็กสาวตรงหน้า หลังจากที่เขานั่งรอดอกกรรณิการ์อยู่พักใหญ่ กานก็ไม่กลับเข้ามาสักที ครั้นจะเดินออกไปตามกลับพบหญิงสาววิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาภายในบ้าน พร้อมกับละล่ำละลักบอกว่ากานจมน้ำอยู่ในสระโชคยังดีที่คนขับรถอยู่บริเวณนั้น จึงได้กระโดดลงไปในสระแล้วนำร่างกานขึ้นมา ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยตอนนี้เขา นวล และแพร ต่างพากันยืนรออยู่ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน“คุณธรณ์ไปนั่งเก้าอี้ก่อนไหม เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลเอง”“ไม่ล่ะนวล ชั้นขอยืนรอตรงนี้ พอหมอเขาพากานออกมา กานจะได้เห็นเราชัด ๆ”“แต่ว่า-”“ชั้นไม่เป็นไรจริง ๆ นวล”ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นเป็นเชิงห้าม เพราะไม่ว่านวลจะคะยั้นคะยอให้เขาไปนั่งรอมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาร้อนใจจนไม่สามารถนั่งรอเฉย ๆ ได้ แววตาของคนที่เคยเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส ในเวลานี้ช่างต่างกันลิบลับ เพราะมันถูกแทนไปด้วยความเป็นห่วง“พี่ธีต์ว่ายังไงบ้างคะคุณลุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status