แชร์

ตอนที่69 อาจจะเปลี่ยนใจ

ผู้เขียน: มี่เยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-15 22:15:16

รอยยิ้มละมุนและลมหายใจอันอบอุ่นที่ราดรดพวงแก้ม พาให้ใบหน้าขาวผ่องแดงระเรื่อ จ้าวกุ้ยอินเคยคิดเสมอว่าใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลักของมู่เลี่ยงหรงนั้นไม่อาจมีผู้ใดเทียบเทียมได้ แต่ยามนี้ใบหน้าคมสันประหนึ่งเทพสงครามกลับทำให้หัวใจนางเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ชั่วขณะนั้นเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน

เยี่ยนหยางจงประคองใบหน้างามล้ำของจ้าวกุ้ยอินแล้วเคลื่อนริมฝีปากลงจุมพิตโดยไม่ลังเลอีก ยามนี้ความรู้สึกพลุ่งพล่านที่อัดแน่นอยู่ภายในเหมือนจะพวยพุ่งออกมา แต่ยังไม่กล้าตะโบมจูบ เพียงขบเม้มริมฝีปากอิ่มเบา ๆ อย่างออดอ้อน ประหนึ่งกำลังละเลียดชิมน้ำผึ้งอันหอมหวาน กว่าจะผละจุมพิตออกร่างบางก็อ่อนปวกเปียกดังขี้ผึ้งถูกไฟลน

“อือ... พอแล้ว” จ้าวกุ้ยอินร้องประท้วงเบา ๆ เมื่อเขาทำท่าเหมือนจะจูบนางอีก

“ได้อย่างไรเล่า ภรรยาอุตส่าห์ตุ๋นน้ำแกงบำรุงมาเอาอกเอาใจทั้งที สามีย่อมต้องตอบแทนให้สมน้ำสมเนื้อ”

“คนหลงตัวเอง ข้าน่ะหรืออยากเอาอกเอาใจเจ้า” พอพูดถึงตรงนี้นางพลันคิดถึงเรื่องที่เขาออกคำสั่งแบบไร้เหตุผลขึ้นมาอีก จึงมิวายเอ่ยวาจาอย่างกระเง้ากระงอด

“แล้วไม่ใช่หรือไร”

“ก็ไม่ใช่น่ะสิ” จ้าวกุ้ยอินเชิดหน้าใส่เขา ยกมุมปากเผ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่70 ตรงนั้นก็ไม่ได้

    “อะ... จริงสิ ถ้าเป็นตรงนั้นมิดชิดแน่” เยี่ยนหยางจงชี้ไปทางภูเขาหินจำลอง“ตรงนั้นก็ไม่ได้” จ้าวกุ้ยอินบ่นกระปอดกระแปด หากไปตรงนั้นถึงจะลับสายตาผู้คน แต่ผิวบอบบางของตนคงถูกหินครูดเป็นแผล “เรือนก็มิได้เล็ก จะไม่มีห้องนอนสักห้องเลยหรือไร”“มีสิ แต่ข้าชอบบรรยากาศตรงนี้มากกว่า”“แต่ว่า...”“เชื่อข้า ตรงนี้แหละดีที่สุดแล้ว”จ้าวกุ้ยอินหมดวาจา จึงหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรมเยี่ยนหยางจงยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนกระตุกสายคาดเอวของนางออก อาภรณ์สีฟ้าปักลายดอกไห่ถังพลันรุ่ยร่าย เผยโนมเนื้อขาวผุดผาดที่ต้องแสงเงินยวงจากดวงจันทร์สู่สายตา ทำให้เส้นความอดทนทั้งหมดของเขาขาดผึงนัยน์ตาสีนิลคมปลาบจดจ้องจนจ้าวกุ้ยอินสะท้าน ไม่อาจหนีไปไหนได้อีก ยามริมฝีปากแสนยั่วของเขาเคลื่อนลงมาหาตนเองอีกครั้ง นางพลันหลับตา ปล่อยให้เขาจุมพิตนางตามแต่ใจสิเน่หาเยี่ยนหยางจงเสมือนเกาทัณฑ์ที่หลุดออกจากแล่ง นางจะต้านทานได้อย่างไร ทำได้เพียงปล่อยใจปล่อยกายให้เป็นอิสระ ลิ้มรสสัมผัสความปรารถนาอันล้ำลึกและร้อนแรงอย่างเต็มที่เท่านั้น ยามนี้ทุกอย่างกลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด รับรู้แต่เพียงว่าจุมพิตของเขาทั้งดุดันและรุนแรง ประหนึ่งจะช่วงชิง

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่69 อาจจะเปลี่ยนใจ

    รอยยิ้มละมุนและลมหายใจอันอบอุ่นที่ราดรดพวงแก้ม พาให้ใบหน้าขาวผ่องแดงระเรื่อ จ้าวกุ้ยอินเคยคิดเสมอว่าใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลักของมู่เลี่ยงหรงนั้นไม่อาจมีผู้ใดเทียบเทียมได้ แต่ยามนี้ใบหน้าคมสันประหนึ่งเทพสงครามกลับทำให้หัวใจนางเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนชั่วขณะนั้นเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนเยี่ยนหยางจงประคองใบหน้างามล้ำของจ้าวกุ้ยอินแล้วเคลื่อนริมฝีปากลงจุมพิตโดยไม่ลังเลอีก ยามนี้ความรู้สึกพลุ่งพล่านที่อัดแน่นอยู่ภายในเหมือนจะพวยพุ่งออกมา แต่ยังไม่กล้าตะโบมจูบ เพียงขบเม้มริมฝีปากอิ่มเบา ๆ อย่างออดอ้อน ประหนึ่งกำลังละเลียดชิมน้ำผึ้งอันหอมหวาน กว่าจะผละจุมพิตออกร่างบางก็อ่อนปวกเปียกดังขี้ผึ้งถูกไฟลน“อือ... พอแล้ว” จ้าวกุ้ยอินร้องประท้วงเบา ๆ เมื่อเขาทำท่าเหมือนจะจูบนางอีก“ได้อย่างไรเล่า ภรรยาอุตส่าห์ตุ๋นน้ำแกงบำรุงมาเอาอกเอาใจทั้งที สามีย่อมต้องตอบแทนให้สมน้ำสมเนื้อ”“คนหลงตัวเอง ข้าน่ะหรืออยากเอาอกเอาใจเจ้า” พอพูดถึงตรงนี้นางพลันคิดถึงเรื่องที่เขาออกคำสั่งแบบไร้เหตุผลขึ้นมาอีก จึงมิวายเอ่ยวาจาอย่างกระเง้ากระงอด“แล้วไม่ใช่หรือไร”“ก็ไม่ใช่น่ะสิ” จ้าวกุ้ยอินเชิดหน้าใส่เขา ยกมุมปากเผ

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่68 รอยยิ้มบาง ๆ

    แม้จะเคยถูกผู้เป็นสามีพาเคลื่อนที่ในลักษณะนี้มาแล้วถึงสองครั้ง แต่คราก่อนเขาเพียงพานางกระโดดข้ามกำแพงที่กั้นแต่ละเขตภายในจวนเท่านั้น ไม่ใช่พากระโจนข้ามหลังคาบ้านผู้อื่นเหมือนตอนนี้จ้าวกุ้ยอินเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมสันที่ประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ อย่างจนใจ ดูเหมือนเยี่ยนหยางจะไม่กลัวเลยว่าทั้งความสูงและความเร็วราวลมพัดอาจจะทำให้ผู้อื่นหัวใจวาย ถึงความจริงนางจะไม่ใช่คนตาขาวขนาดนั้น ทว่าก็ยังหวาดหวั่นพรั่นพรึงทุกคราที่ชายหนุ่มโผนทะยานไปในอากาศทุกครั้งที่ทั้งคู่ลอยคว้าง สองแขนที่คล้องคอเขาอยู่ยิ่งโอบกระชับขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ยามนี้สองร่างแนบสนิทจนแทบไม่เหลือที่ว่าง แนบแน่นเสียจนนางได้ยินเสียงจังหวะหัวใจอันทรงพลังของเขาตุบเต้น...จู่ ๆ หัวใจที่เต้นถี่รัวอย่างตื่นตระหนกของนาง กลับแปลเปลี่ยนเป็นจังหวะมั่นคงดุจเดียวกันกับเขา อาจเป็นเพราะในส่วนลึก รู้ดีว่าวงแขนแข็งแกร่งที่โอบประคองตนเองอยู่ในตอนนี้จะไม่มีวันคลายออกเป็นอันขาด และต่อให้น้ำค้างยามราตรีของฤดูสาทรผสานกับสายลมที่ปะทะเข้ามาจะชวนให้หนาวเหน็บเพียงใด แต่ไออุ่นจากเขากลับโอบล้อมนางเอาไว้จนความหนาวไม่อาจทำให้ร่างบอบบางนี้สะท้านสะเทือนชั่วขณะ

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่67 อินเอ๋อร์ เจ้าทำอันใดกับข้ากันแน่

    ภายในเรือนกลาง จ้าวกุ้ยอินเอนกายอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย เนตรหงส์หรี่เรียวโชนไฟโทสะอยู่ราง ๆ จนไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ ขนาดเจ้าจิงจิงยังต้องหลบไปอยู่บนต้นไม้ด้านนอก เหลือเพียงเจ้าเสวี่ยฉิวที่กำลังโดนลูบเส้นขนไปมา และดูเหมือนว่ามันจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ครุกรุ่นของผู้เป็นนาย จึงไม่กล้าร้องประท้วงสักแอะ ได้แต่นอนหน้าละห้อยปล่อยให้มือขาวผ่องไล้ผ่านลำตัวไปเรื่อย ๆยิ่งฟังรายงานของชิวเยวี่ย จ้าวกุ้ยอินก็ยิ่งหงุดหงิด เยี่ยนหยางจงไม่ยินดีกับรสชาติน้ำแกงของนางยังพอว่า แต่กลับสั่งห้ามไม่ให้ตนเองเข้าครัวอีก หากไม่เชื่อฟังก็จะจัดการกับบ่าวคนอื่น ๆ เหมือนที่ทำกับชิวสุ่ยนางเป็นนาย ดังนั้นจะต้องคุ้มครองบ่าวไพร่ของตนเอง หากผู้อื่นหารกล้ามารังแก ก็ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าหน้านางเช่นกันเมื่อคิดถึงใบหน้าซีดเซียวของชิวเยวี่ย ปกตินางกำนัลน้อยผู้นี้ร่าเริงยิ่งกว่าอะไร นี่คงตกใจกับท่าทางน่ากลัวของอีกฝ่ายมาแน่ ๆ “เยี่ยนหยางจง เจ้าคนพาล แน่จริงมาลงกับข้าสิ ไปรังแกคนของข้าทำไม” จู่ ๆ จ้าวกุ้ยอินก็บริภาษออกมาอย่างเหลืออด“อืม ฮูหยินเรียกข้าหรือ? แสดงว่ากำลังคิดถึงสามีสินะ” พอได้ยินเสียงทุ่มนุ่มลอยมาจากหน้าประตู จ้าว

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่66 แววตาเยียบเย็น

    ก่อนหน้านั้นผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแม่ทัพไป๋หู่ไม่ใช่บุรุษหลงใหลสตรี ยามพบแม่นางน้อยที่ใดก็มักจะหลบเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา ดังนั้นชื่อเสียงของเขาจึงดีงามมาโดยตลอด แต่ยามนี้นางพิสูจน์แล้วว่าคำเล่าลือเหล่านั้นเป็นเรื่องหลอกลวง แท้ที่จริงซื่อจื่อไคกั๋วกงก็ไม่ต่างจากบุรุษทั่วไป ไม่เช่นนั้นเขาจะขยันโปรยพิรุณพร่างพรมไปทั่วเรือนหลังทุกเช้าค่ำเช่นนี้หรือจ้าวกุ้ยอินมองปิ่นทองประดับทับทิมที่เยี่ยนหยางจงมอบให้ในวันแต่งงานด้วยแววตาเยียบเย็น ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มเยาะหยันคนเลว คนมักมาก คนบ้าตัณหา อย่าได้มาหาข้าเชียว ครั้นแล้วก็กระแทกปิ่นในมือลงบนโต๊ะเครื่องแป้งอย่างแรง จนตลับเครื่องประทินโฉมกระเด้งกระดอน เกิดเสียงกรุ๊งกริ๊งชิวอิงเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าปิ่นชิ้นนั้นมาเก็บลงกล่อง แล้วเลือกเครื่องประดับชุดใหม่มาแทน นางตระหนักแล้วว่าแท้ที่จริงในหัวใจของท่านหญิงไม่ได้สงบนิ่งดังที่แสดงออก ดูจากสีหน้าแววตาในยามนี้ เจ้านายไม่มีทางยินยอมให้นางจิ้งจอกเหล่านั้นขึ้นมาปีนศีรษะเป็นแน่ เห็นแบบนี้ตนเองค่อยสบายใจ“ชิวอิง ข้าตรองดูแล้ว ที่เจ้าพูดมาก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล หากผู้เป็นฮูหยินเอกเช่นข้าไม่สนใจใยด

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่65 ใบหน้าจิ้มลิ้ม

    แม่นมจางมองภาพตรงหน้าแล้วลอบส่ายศีรษะ เห็นอยู่ว่าต่างคนต่างแอบชำเลืองมองอีกฝ่ายแท้ ๆ แต่กลับทำเป็นวางเฉยใส่กันเสียอย่างนั้น แบบนี้จะไม่ให้คนแก่อย่างนางปวดเศียรเวียนเกล้าได้อย่างไร ถึงกระนั้นก็ทำสิ่งใดไม่ได้ เพราะตนเองก็เป็นเพียงบ่าวอวุโส หากมากวาจาในเวลาที่ไม่เหมาะไม่ควรอาจทำให้ท่านหญิงมีโทสะได้ไม่นานนักชิวเยวี่ยก็เดินนำแม่นางหน้าตาสะสวยสี่คนเข้ามาภายในห้องโถงกลางพวกนางหยุดยืนเบื้องหน้าเยี่ยนหยางจง พลางช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงซ่อนรอยยิ้มขวยอายที่ฉาบอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้ม ในขณะที่ยอบกายคำนับอย่างนอบน้อม“บ่าวคารวะซื่อจื่อเจ่าค่ะ” ทั้งสี่นางกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียงเสมือนนัดกันไว้“พวกนางคือคนที่ข้าคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี เพื่อปรนนิบัติท่านพี่โดยเฉพาะ” จ้าวกุ้ยอินหันไปพูดกับสามีด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนไม่สามารถจับคลื่นอารมณ์ใด ๆ ได้“เป็นเช่นนี้เอง ไหน... ให้ข้าดูหน้าชัด ๆ สิ” เยี่ยนหยางจงวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะด้านข้าง แล้วหันไปให้ความสนใจสตรีรูปร่างสะโอดสะองทั้งสี่ พอพวกนางได้ยินคำสั่งก็ค่อย ๆ เงยศีรษะขึ้นมา แต่ละนางรูปโฉมงดงาม ดวงตาหวานหยาดเยิ้ม ยามชม้อยชม้ายม

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่64 กินน้ำส้มสายชู

    หลายวันต่อมา ค่ายทหารนอกเมืองหลวงร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีดำสนิทยืนอยู่ริมน้ำ สองมือไพล่หลังขณะทอดมองเงาแว่งเว้าของจันทราบนผืนน้ำเย็นยะเยือกเบื้องหน้า สายลมพัดพาผ้าคลุมไหล่สีแดงสะบัดไปตามแรง ทว่าความหนาวเหน็บและน้ำค้างยามราตรีไม่อาจบาดผิวสีทองแดงที่ถูกสงครามเคี่ยวกรำจนแข็งแกร่งดุจภูผาได้หลิวหยงมองแผ่นหลังกว้างของแม่ทัพหนุ่ม ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเข้าไปทำลายความสงบของอีกฝ่ายดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็เดินเข้าไป เพราะเรื่องที่ต้องรายงานล้วนเป็นสิ่งที่อยู่ในความสนใจของผู้เป็นนายเสียงฝีเท้าที่แม้จะเบาเพียงใดปลุกเยี่ยนหยางจงจากภวังค์ หลังจากสดับเสียงนั้นเพียงอึดใจ ก็รู้ทันที่ว่าผู้มาคือใคร“ได้ความแล้ว?”“ขอรับท่านแม่ทัพ” หลิวหยงหยุดฝีเท้า อดนึกชื่นชมแม่ทัพหนุ่มมิได้ ทั้งที่กำลังอยู่ในห้วงคิดแท้ ๆ แต่สัมผัสยังคงเฉียบคมนัก“ปลาติดเบ็ดหรือยัง?”“ขอรับ เป็นไปตามที่ท่านแม่ทัพคาดการณ์ไว้ไม่ทีผิด สายของเรารายงานว่าอีกไม่กี่วันเป้าหมายก็จะลงมือแล้ว”“ดี…ดีมาก ให้พวกเขาลงมือเสียทีเถิดข้าจะได้จัดการทำความสะอาดจวนให้หมดจดภายในครั้งเดียว” นัยน์ตาเหยี่ยวคมกริบฉายแววเหี้ยมเกรียม มุมปากกระดกรอยยิ้มเยียบเย

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่63 รอคอยคำตอบ

    “เจ้าจะถามอะไร” ไป๋หลันมองจ้าวกุ้ยอินด้วยแววตาระแวดระวัง สะใภ้คนนี้ของนางนอกจากท่าทางหยิ่งผยองจนน่าหมั่นไส้แล้ว ยังจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรอีกหรือไม่ ดูท่าตนเองคงต้องระมัดระวังให้ดี มิเช่นนั้นอาจหลงกล ตกลงรับปากเรื่องที่ไม่อาจแก้ไข แบบนั้นจะยิ่งยุ่งยาก“ท่านแม่ หากผู้ใดสามารถคลอดบุตรชายให้ท่านพี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือสตรีนางไหน ก็เป็นอันใช้ได้แล้วใช่หรือไม่” เนตรหงส์เปล่งประกายแพรวพราวจดจ้องแม่สามี นิ้วเรียวเกาลงที่คอของเสวี่ยฉิวช้าๆ ระหว่างรอคอยคำตอบอย่างใจเย็นเป็นที่สุดไป๋หลันครุ่นคิดครู่หนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วจึงตอบออกมา “ใช่ ขอเพียงจงเอ๋อร์มีทายาท ข้ากับท่านกั๋วกงก็เบาใจแล้ว”พอได้ยินดังนั้น ริมฝีปากอิ่มก็ปรากฏรอยยิ้มงดงามตระการตามากกว่าเดิม ก่อนเผยความคิดของตนเองต่ออย่างใจเย็น นางต้องมั่นใจว่าแม่สามีจะไม่สามารถโต้แย้งตนเองได้ในภายหลัง “ท่านแม่ ความจริงแล้วสะใภ้มีความคิดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลดีต่อตนเองและจวนไคกั๋วกง เพียงไม่แน่ใจว่าท่านแม่จะเห็นดีด้วยหรือไม่”“ลองพูดมาก่อน ข้าจะตรองดู” ไป๋หลันไม่พลีพลามรับปาก แต่ก็อยากรู้ว่าจ้าวกุ้ยอินมีแผนการอันใด จึงให้โอกาสอีกฝ่ายเผยสายสนกลใน“หากให้

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่62 ข้าเป็นสตรีจิตใจกว้างขวาง มากด้วยคุณธรรม

    เยี่ยนหยางจงแล่นไปยังคอกม้า พอไปถึงก็จัดการสวมบังเหียนให้เจ้ามังกรเพลิงอาชาศึกตัวโปรดด้วยตนเอง ท่ามกลางความงุนงงของคนเลี้ยงม้า หนุ่มน้อยทำตัวไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าต้องเข้าไปช่วยเจ้านาย หรือจะยืนมองเฉย ๆ แบบนี้ต่อไปดี แต่ดูจากสีหน้าของท่านแม่ทัพน้อยแล้ว กระทั่งหายใจแรงเขาก็ไม่ควร จึงได้แต่ยืนสงบนิ่งประหนึ่งว่าตนเองเป็นเพียงอากาศธาตุอยู่ตรงมุมคอกหลังจากเตรียมอาชาเรียบร้อยแล้ว เยี่ยนหยางจงก็ทะยานขึ้นไปบนหลังเจ้ามังกรเพลิง กระทุ้งเท้าเข้าที่ข้างลำตัวของมันทีหนึ่ง เจ้ามังกรเพลิงที่ไม่ได้ออกไปไหนกับเจ้านายเสียนาน ก็ส่งเสียงร้อง “ฮี้” แล้วตะบึงออกไปจากคอกราวพายุ“เปิดประตู!” เสียงแหบห้าวทรงพลังเปล่งมาแต่ไกล เล่นเอาทุกคนที่ได้ยินสะดุ้งโหยง พอหันไปทางต้นเสียง เห็นแม่ทัพหนุ่มบังคับอาชาศึกสีแดงกำยำเร่งมาทางนี้ คนเฝ้าประตูไหนเลยจะกล้าชักช้า รีบเปิดทางกันแทบไม่ทัน พอรู้ตัวอีกครั้งก็เหลือเพียงฝุ่นที่คละคลุ้งอยู่ในอากาศเสียแล้วเยี่ยนหยางจงออกจากจวนพร้อมด้วยโทสะที่อัดแน่นอยู่เต็มท้อง เขาไม่แม้แต่จะสนใจว่าตนเองกำลังควบม้าในเขตเมืองด้วยความเร็วเกินกำหนด คิดแต่อยากจะไปให้พ้น ๆ จากสตรีสองคนที่พยายามคิดแทนเ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status