Share

บทที่6 ตบตา

last update Last Updated: 2025-03-20 14:36:10

“ฝ่าบาททรงคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ขอรับท่านแม่ทัพ ไยจึงทรงตัดสินพระทัยเช่นนี้ได้”

หนึ่งในสี่นายกองเอ่ยขึ้น เมื่อเขาไม่เข้าใจ ในสิ่งที่ฮ่องเต้ตัดพระทัยกับเรื่องนี้ โดยมิทรงคิดถึงผลกระทบที่อาจร้ายแรงมิแพ้กัน กองทัพขาดกุนซือ ย่อมมิต่างจากเสียดวงตาไปข้างหนึ่งก็มิปาน

          “หนอนคงเริ่มอยากกินท้อทั้งลูกแล้วกระมัง ระวังตัวกันเอาไว้ให้ดี เรื่องนี้ย่อมต้องมีเบื้องหลัง พวกเจ้ารู้จักเขาดี ว่าคนเช่นนั้นย่อมมีตัวแทนอยู่เสมอ เพียงแต่เขาจะให้ใครทำหน้าที่ทดแทนเท่านั้น”

          ลู่ฉางเอินไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาตรง ๆ เขารู้ดีว่าในค่ายของเขามีหนอนที่คอยซอนไซอยู่มิน้อย การกระทำของพวกเขาทุกอย่าง มักตรงกันข้ามกับความเป็นจริงเสมอ ใครจะมาตื่นตกใจ กับการที่กุนซืออย่างเฉินเซียนถูกเรียกตัวไปจากกองทัพ แต่เมื่อมีละครให้เล่น ก็ต้องสมบทบาทกันสักหน่อย

          น้ำเสียงของทุกคนดูเคร่งเครียด แต่ทว่าเวลานี้ มันกลับตรงกันข้าม เพราะใบหน้าของทุกคน ล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง คนเยี่ยงลู่เฉินเซียนและฮ่องเต้น่ะหรือ จะไม่มีหมากสำรอง แต่การทำเหมือนกองทัพกำลังระส่ำระสายสักหน่อยก็ดี หนอนตัวอ้วน จะได้รีบคลานไปแจ้งข่าว ให้นายมันหยามใจ

สิ่งที่ทำให้แม่ทัพใหญ่หนักใจนั้น คือทำอย่างไรที่จะให้บุตรชายจากไป โดยมิพรากหลานรักของเขาไปไกลตา อีกทั้งเรื่องราวระหว่างบุตรชาย กับแม่ทัพแดนเหนือจ้าวตงซินนั่นอีกเล่า ด้วยเขาเกรงว่าแม่ทัพหนุ่มผู้นั้น จะมิได้ตายเพราะศัตรูจากต่างแคว้น แต่จะเป็นบุตรชายของเขา ที่เป็นคนลงมือเสียเอง

          แผนการแยกพวกเขาออกจากกันของหนอนร้าย เหมือนจะเป็นเรื่องที่คนพวกนั้นคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าแม่ทัพชราเช่นเขา หากขาดมันสมองสำคัญ ผู้มากด้วยเล่ห์กลเช่นบุตรชายคนเล็กไป ก็ง่ายต่อการกำจัดกองทัพลู่ให้พ้นทาง ส่วนคนสำคัญของฮ่องเต้ ก็ถูกแยกจากให้ห่างไกลมิต่างกัน

          พวกเจ้าวางแผนเป็นฝ่ายเดียวได้หรืออย่างไรกัน หนอนโง่! พวกเจ้าตกลงไปในหลุมพรางของฮ่องเต้ กับท่านอ๋องสิบแปดแล้วต่างหาก ‘เจ้าช่างคาดการณ์ทุกอย่างได้แม่นยำนักเฉินเซียน ครั้งนี้อยู่ที่เจ้าจะจัดการแล้ว’ ลู่ฉางเอินยกจอกสุราขึ้นดื่ม ก่อนจะยิ้มมุมปากด้วยความพึงใจ กับการแสดงละคร ที่ดูจะจริงจังของสี่นายกองกับรองแม่ทัพ ซึ่งกำลังพากันแข่งโอดครวญ เรื่องของกุนซือ

          ‘ให้ห้าอีแปะ แต่ทำงานประหนึ่งได้พันตำลัง หึ ๆ’ ลู่ฉางอันกลั้นหัวเราะ จนไหล่หนาไหวสะท้าน เมื่อเห็นท่าทาง จวนเจียนจะขาดใจของคนทั้งห้า

จวนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เมื่อคิดว่าการถกเถียงกัน สมควรยุติได้แล้ว ทั้งห้าคนก็เงียบเสียงลงเสียดื้อ ๆ ก่อนจะพากันยกสุราขึ้นดื่มต่อ เหมือนเมื่อครู่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกไป

          “พรุ่งนี้...ข้าจะให้คนไปตามน้องสามเองนะขอรับท่านพ่อ”

ลู่ฉงเอ่ยขึ้น เขาคิดถึงหลานสาวเป็นที่สุด จึงรีบอาสาไปตามตัวน้องชาย เพื่อมาหารือ เรื่องการเดินทางไปยังชายแดนทิศเหนือ ท่านแม่ทัพลู่ชำเลืองมองบุตรชาย ด้วยสายตามิพอใจ ยิ่งดวงตาเป็นประกาย และรอยยิ้มอย่างมีความหวังของลู่ฉง เขารู้ดีถึงเป้าหมายของบุตรชาย ‘ฝันไปเถอะ’

          “ไม่ต้อง! พวกเจ้าทุกคน เตรียมการเรื่องศึกกับเหลียวไปเถอะ ข้าจะไปคุยกับเขาเอง อีกอย่าง...ข้าคิดถึงเจ้าเด็กอ้วนนั้นด้วย ดีซะอีก...พ่อนางมิอยู่ ข้าจะได้ขโมยนางมาอยู่ด้วย”

จบคำพูดของผู้เป็นพ่อ ลู่ฉงมีสีหน้าเหมือนคนกำลังจะตกลงสู่ก้นเหวก็มิปาน เขาตั้งใจว่าจะไปกอดหลานสาวตัวน้อยให้หายคิดถึง ไยตาเฒ่าผู้ร้ายกาจ จึงใช้อำนาจในทางที่มิชอบเช่นนี้ จงใจกลั่นแกล้งมิให้พบหน้าหลานสาว

          “ท่านพ่อน่าจะตื่นจากความฝันได้แล้วนะขอรับ หลันเอ๋อร์เชื่อฟังน้องสามจะตายไป ต่อให้สิบท่านพ่อ ก็มิอาจเอาตัวนางมาได้หรอก”

เมื่อถูกผู้เป็นพ่อดับฝัน พอได้โอกาส ชายหนุ่มก็มิยอมปล่อยให้การเอาคืนหลุดลอยไปเช่นกัน

          แม่ทัพลู่มองลูกชายคนรองตาขวาง สรุปพวกมันเป็นลูกเขา หรือบิดาเขากันแน่ เป็นมาตั้งแต่บุตรชายคนโตลู่หยาง ที่ฝีปากจัดจ้าน สุดท้ายก็หนีเขาไปสอบจองหงวน จนได้เป็นผู้ตรวจการ อยู่หัวเมืองทิศเหนือ นานๆ ครั้งจะกลับเมืองหลวง บางครั้งก็ส่งหลานชายของเขา ลู่หยวนชีกับลู่หยางหลง มาเยี่ยมเยียนแทนอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนลู่ฉง ติดตามเขาทำผลงาน จนเลื่อนขึ้นเป็นรองแม่ทัพ และยังไร้คู่ชีวิต หรือจะพูดกันตามตรง นั่นคือมิมีสตรีใดเอาไปทำสามีนั่นเอง ด้วยฝีปากที่เชือดเฉือน จนหญิงสาวหลายคนถอยห่าง บางคนถึงขั้นเลิกสนทนาไปเลยก็มี  

บุตรชายคนเล็กลู่เฉินเซียน แม้จะรับตำแหน่งกุนซือให้กองทัพ แต่มักออกเดินทางท่องเที่ยว ในยามชายแดนสงบ จนเมื่อเก้าปีก่อน เฉินเซียนกลับบ้าน มาพร้อมเด็กทารกเพศหญิงคนหนึ่ง 

พร้อมประกาศว่านางคือลูกสาวแท้ๆ ที่เกิดกับสตรีต่างแคว้น คนนอกไม่มีใครรู้ ว่ามารดาที่แท้จริงของลู่หลันฮวาคือผู้ใด มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ ว่ามารดาของนางคือใคร ทว่าก็ไม่มีผู้ใดคิดจะเอ่ยถึงหรือแม้แต่จะเอ่ยชื่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กุนซือจ้าวหัวใจ   ตอนที่18 ระวัง!

    “เก่งมากคุณหนูลู่ ฝีมือดีมิแพ้บิดาเจ้าเลยสักนิด”ท่านอ๋องสิบแปดเอ่ยชมเด็กสาว ที่ตอนนี้ยิ้มแต้ส่งให้แก่ทุกคน ก่อนจะหันไปไหวไหล่ให้แก่คู่ปรับของตนเอง ซึ่งองค์ชายเสวี่ยนหรงเทียน ทำเพียงเบะปากตอบนางเท่านั้น โดยที่หญิงสาวมิทันสังเกตเห็นแววตาเป็นประกาย ที่พาดผ่านดวงตาขององค์ชาย ทว่ามันกลับไม่รอดสายตาของพี่ชายทั้งสองของนางไปได้“ขอบพระทัยเพคะท่านอ๋อง หม่อมฉันเผอิญโชคช่วยมากกว่าเพคะ”ลู่เยว่ฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส และยังคงมีท่าทางเสมือนเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจ ซึ่งสำหรับทุกคนนั้นช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก ยกเว้น...เขาองค์ชายผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ยังเยาว์ จนถึงทุกวันนี้“มันโชคดีจนน่าแปลกใจมากกว่า เสด็จอาว่าจริงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุดองค์ชายหลงเทียนก็ได้เอ่ยขึ้น เมื่อเขารู้สึกคลางแคลงใจกับเรื่องนี้ เขามั่นใจว่าอย่างไรก็ต้องมีสิ่งผิดปกติ มิเช่นนั้นแล้ว...กวางตัวนี้ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน“อย่างไรรึหรงเทียน อามิเห็นว่าจะมีอันใดที่ดูผิดปกติสักอย่าง เจ้าเป็นบุรุษ จงมีน้ำใจของนักกีฬาให้มาก ยังมีสัตว์ป่าอีกหลายตัวที่รอให้เจ้าพิสูจน์ฝีมือ ครั้งนี้เจ้าอาจพลาด แต่ทว่ามันยังมีครั้งหน้าอยู่อีก อย

  • กุนซือจ้าวหัวใจ   ตอนที่17 กลั่นแกล้ง

    เสวี่ยนเซียวเหยาตำหนิชายหนุ่มอยู่ในใจ ยิ่งมองหน้าสาวน้อยเยว่ฉีที่อมยิ้มน้อย ๆ กับชายคนนั้น เขาก็อดคิดถึงใครบางคน เมื่อหลายปีก่อนมิได้ มือเรียวจะเลื่อนไปลูบตรงอกเสื้อ เพื่อสัมผัสบางอย่างที่เขาพกติดตัวตลอดเวลา มิเคยให้ห่างกายเลยสักครั้ง‘ไยท่านหายไปเลย หรือท่านรู้แล้วว่าข้าคือผู้ใด’ความรู้สึกที่แอบซ้อนมาตลอดนั้น บางครั้งก็ทำให้เขาอึดอัดมิน้อย แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อใจของเขานั้น ได้ถวิลหาเพียงคนที่มอบจูบแรกให้แก่เขาเมื่อหลายปีก่อนยิ่งนานวันเข้า เขายิ่งมิคิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับหญิงงาม ที่พระเชษฐาทรงแนะนำให้ ในตำหนักอ๋องไร้ซึ่งสนมนางใน ทรงรักการอยู่แบบสงบ มิฝักใฝ่เรื่องเช่นนั้นเพราะใจของเขานั้น รอใครบางคนอยู่ และเขาเองก็อยากจะพิสูจน์เช่นกัน ว่าแท้ที่จริงแล้ว เขาคิดกับคนผู้นั้นอย่างไร แล้วอีกฝ่ายจะคิดเช่นไรกับเขา เมื่อรู้ว่าแท้ที่จริงเขาคือใคร เสวี่ยนเซียวเหยารู้สึกเจ็บแปลบอยู่กลางอก เมื่อนึกถึงว่าหากเจ้าของหยกม่วงลืมเลือนเขาไปแล้วจริง ๆ มันรู้สึกจุกจนหายใจแทบไม่ออก เลยทีเดียว...ลู่เฉินเซียนชักม้ากลับไปหาผู้นำกลุ่ม ด้วยใบหน้าเรียบตึง พอ ๆ กับคนที่หันหน้ากลับไปยังป่า ที่จะทำการล่าต่อ โดยที

  • กุนซือจ้าวหัวใจ   บทที่16 ขุ่นเคือง

    ครึ่งชั่วยามต่อมาเมื่อเข้าสู่เขตป่า ลู่ฉงได้รับหน้าที่​พาทหารออกต้อนสัตว์ป่า​ ส่วนลู่เฉินเซียนทำหน้าที่ คอยอารักขาใกล้ชิด​เจ้านายทั้งสาม พร้อมองครักษ์ส่วนพระองค์อีกบางส่วน​ รวมทั้งคนติดตามของคุณหนูลู่เยว่ฉี อีกสองคนลู่เฉินเซียนอดมิได้ ที่จะคอยชำเลืองมอง คนที่นั่งบนหลังม้าเคียงข้าเขาในตอนนี้ และแน่นอนว่าเขารู้สึกขุ่นเคือง กับความดื้อรั้นของอ๋องสิบแปดผู้นี้นัก ​ด้วยก่อนหน้าที่จะมาถึงตรงนี้ เขาได้เอ่ยทัดทานอีกฝ่าย ว่ามิควรอยู่ตรงนี้​ เพราะอาจเป็นอันตรายได้​ แต่คำตอบที่ได้รับ ทำให้เขาเองถึงกับพูดมิออกเช่นกัน​‘เจ้ารู้จักข้าดีแล้วหรือ ถึงได้คิดว่า​คนเช่นข้า อ่อนแอถึงเพียงนั้น’ใช่แล้ว...เขามิเคยรู้จักอ๋องสิบแปด เสวี่ยนเซียวเหยามาก่อนเลย ​จึงมิรู้ว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานดุจสตรีเช่นนี้ จะหยิ่งผยองเกินกว่าที่คิดไปมากทีเดียว ‘สักวัน...เจ้าต้องเจอดีเข้าจนได้ ​ต่อให้เจ้าเป็นน้องชายฮ่องเต้ ก็มิได้หมายความว่าร่างกายเจ้า จะแข็งดุจเหล็กกล้าเสียเมื่อไหร่กัน’ ชายหนุ่มได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ​ใบหน้าหล่อเหลาที่ช่วงครึ่งบนของวงหน้า​ ที่ได้ปิดบังด้วยหน้ากากเสือดำ​ มองเห็นเพียงเรียวปากหยักที่ยังยกยิ

  • กุนซือจ้าวหัวใจ   บทที่15 องครักษ์พิเศษ

    “ฮ่าๆ”สามพี่น้องแอบนินทาน้องสาวที่ตอนนี้ ได้นั่งในฐานะตัวแทนสกุลลู่ เด็กสาววัยสิบห้า นางเป็นลูกหลงของพ่อแม่ ด้วยอายุห่างจากพี่ชายคนเล็กถึงสิบปี ทำให้นางไม่เคยถูกขัดใจจากทั้งสามเลยลู่เยว่ฉีแอบชำเลืองมองชายหนุ่ม ที่สวมหน้ากากพยัคฆ์ทั้งสาม ด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ นางเมื่อยจะตายอยู่แล้ว ที่ต้องนั่งปั้นหน้าวางท่า เป็นบุตรีที่เพียบพร้อม ทั้งที่ความเป็นจริง นางอยากจะถอดชุดรุ่มร่ามสีหวานนี่ออกเต็มทีแล้วทุกคนเงียบเสียงลงในทันที เมื่อบุรุษในชุดมังกร ก้าวเข้ามาในลานพร้อมด้วยสตรีผู้เป็นคู่บารมี ทุกคนได้ยืนขึ้นทำความเคารพ กันอย่างพร้อมเพรียง การล่ากำลังจะเริ่มแล้ว“ทุกท่านเชิญตามสบาย วันนี้เป็นวันที่เราทุกคน มาเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อย่าได้มากพิธีไป”ฮ่องเต้เอ่ยขึ้น หลังจากเข้านั่งประจำที่ของตนเองแล้ว สายตามังกรกวาดมองไปรอบบริเวณ เพื่อดูเหล่าผู้มาแข่งขันในครั้งนี้“ขอบพระทัยฝ่าบาท”ทุกคนเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพียง โดยมิต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า ถึงคำพูดใด ๆ เป็นที่รู้กันดี ว่าฮ่องเต้ชอบความเรียบง่าย ยิ่งเวลานี้ออกมาอยู่นอกเขตวังหลวง ยิ่งทรงสั่งห้ามพิธีการต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องยุ่งยาก การออกล่า

  • กุนซือจ้าวหัวใจ   บทที่14 มิเห็นนาง

    เจ็ดปีต่อมา ณ เมืองฉางกวง ในการแข่งขันล่าสัตว์ ของเหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนาง ได้จัดขึ้นยังป่าในเขตเมืองฉางกวง ครั้งนี้แม่ทัพลู่ฉางเอินไม่ได้เข้าร่วม ในการอารักษ์ขาฮ่องเต้ แต่เขาได้ส่งบุตรชายทั้งสาม ให้มาทำหน้าที่แทนอย่างลับๆ ซึ่งมีเพียงฮ่องเต้ และองครักษ์คนสนิทเท่านั้นที่รู้ ว่าทั้งสามที่ซ่อนใบหน้าอยู่ภายใต้ หน้ากากพยัคฆ์ คือสามทายาท ของท่านแม่ทัพลู่ฉางเอิน สามองครักษ์ ผู้มีหนาม หยาง ฉง เฉิน นักรบผู้ไร้ที่มาในความเข้าใจของเหล่าเชื้อพระวงศ์ และขุนนางทั้งหลาย“น้องสามเจ้าเป็นอันใดไปเล่า ข้าเห็นเอาแต่จ้องมองท่านอ๋องสิบแปดมิวางตา”เป็นลู่ฉงที่เอ่ยถามออกมา เมื่อเขาสังเกตเห็นน้องชาย มองท่านอ๋องสิบแปดมิวางตาอยู่เป็นนานเฉินเซียนรู้สึกคุ้นหน้าอ๋องสิบแปดยิ่งนัก แต่เขาก็ไม่เคยที่จะได้พบปะ หรือทำความรู้จักกับชินอ๋องผู้นี้เลยสักครั้ง เพียงแค่รู้สึกเหมือนเคยพบกัน ที่ไหนมาก่อนก็เท่านั้น‘อ่า...ข้าลืมไปได้อย่างไร ว่าท่านอ๋องสิบแปด เป็นญาติกับเหยาเอ๋อร์ หากนางเติบโตมา ก็ต้องมีใบหน้าคล้ายคลึงกับท่านอ๋องอยู่มิน้อยสินะ’ สายตาเหยี่ยว สอดส่องหาใครบางคนไปทั่วทั้งลาน แต่ก็มิอาจพบ...‘แต่ทำไมนางม

  • กุนซือจ้าวหัวใจ   บทที่13 คู่หมั้น

    แม้แต่คนที่กำลังตกอยู่ ในอ้อมแขนแกร่งของอีกฝ่าย ซึ่งได้ประกาศว่าเป็นคู่หมายของเขาเมื่อครู่ ด้วยความตกตะลึง และความที่ยังเยาว์วัยอยู่ ทำให้ได้แต่ยืนนิ่งมิได้ขยับกาย จนคนตัวโตกว่า ถอนริมฝีปากออกไปแล้ว นั่นเอง ต้วนเหยาจึงได้กลับมาหายใจเป็นปกติ“พี่ขอโทษเหยาเอ๋อ แต่พี่มิอยากได้ยินคำว่า ‘ไม่’ จากเจ้าเข้าใจไหม เวลานี้พี่ล่วงเกินเจ้าแล้ว นับจากนี้เจ้าคือคู่หมายของพี่อย่างแท้จริง พรุ่งนี้พี่จะให้ท่านพ่อ ทำการสู่ขอหมั้นหมายเจ้าเอาไว้ก่อน”ต้วนเหยาทั้งโกธรและอับอาย ก่อนจะผลักร่างแกร่งออกให้ห่างกาย แล้ววิ่งออกจากสวนไปอย่างรวดเร็ว แต่จะทำร้ายอีกฝ่าย ก็มิใช่สิ่งที่ควรทำ ในเมื่อเขาเป็นผู้เริ่ม ที่หลอกลวงเฉินเซียนก่อนเฉินเซียนกำลังจะพุ่งตามเด็กสาวไป แต่มีบุรุษในชุดองครักษ์ ออกมาขวางทางเขาเอาไว้เสียก่อน ทำให้ชายหนุ่มแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อย ว่าไยองครักษ์จากวังหลวง ถึงได้ตามติดคุณหนูสกุลต้วน แทนที่จะเป็นคนของสกุลต้วน“ได้โปรดคุณชายลู่ อย่าได้คิดตามเจ้านายพวกเราไปเลย มิเช่นนั้นเราจำเป็นต้องลงมือกับท่าน”เฉินเซียนได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ก่อนจะทรุดนั่งลงคุกเข่าด้วยความสับสน เมื่อเขายังคิดไม่ตก ถึงความเป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status