“ตอนนี้เราไม่เหลือทางเลือกแล้วลูกรักไม่ว่าอย่างไร ในเช้าวันพรุ่งนี้รถม้าของวิหารศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางมาที่นี่ หากไม่มีสตรีใดเดินขึ้นบนรถม้า เราจะตายกันหมดนะจานีค..นั่นลูกกำลังฟังพ่ออยู่รึเปล่า?”
แม่งเอ้ย!! สุดท้ายไอ้เกมบ้านี่ก็ส่งฉันมาในบทบาทสุดรันทดอย่างบทบาทของนักบุญหญิงงั้นเรอะ ก็บอกว่าไม่เอาบทบาทนี้ไงล่ะโว้ย!! ทันทีที่ฉันบ่นจบ หน้าต่างของเกมเด้งขึ้นมาในทันที นักบุญหญิง จานีคแห่งตระกูลโอเรียส ค่าเสน่ห์ 20 พลังเวท -2 ความฉลาด 10 ความร่ำรวย -20 ความสวย 98 นั่นแหละ นั่นคือปัญหาที่ฉันกำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ ตัวฉันเห็นแก่เงินอันน้อยนิดในการหาผู้ทดลองเล่นในเกมเสมือนจริง เพราะแบบนั้นก็เลยสมัครไปและได้รับคัดเลือกมา..แต่ทว่าทันทีที่เข้ามาในเกมนี้ฉันก็พบว่าข้อตกลงของเกมที่ได้ให้คำมั่นกับฉันเอาไว้มันไม่ตรงตามที่ตกลงกันเอาไว้เลย ข้อแรก..ฉันออกจากเกมนี้ไปไม่ได้จนกว่าจะผ่านรูททั้งหมด ซึ่งตัวละครชายในเกมนี้มีสิบคน..ใช่แล้วสิบคน จะผ่านทั้งสิบคนไปได้ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเลยงั้นเรอะ! และข้อสอง ฉันเขียนลงไปในใบสัญญาด้วยตัวบรรจงว่าบทบาทที่ฉันอยากได้ คือ..องค์หญิง.. คือบทบาทองค์หญิงไงละโว้ยไม่ใช่นักบุญหญิง!! ถึงแม้เรื่องใบหน้าบทบาทของนักบุญหญิงนั้นจะมีความงดงามมากกว่าบทบาทขององค์หญิงแต่ทว่าเรื่องอย่างอื่นล่ะ ค่าเสน่ห์ที่น้อยนิดจนไม่สามารถเอาชนะตัวละครชายได้ ค่าความฉลาดที่เกือบติดลบและเรื่องการเงินที่ประสบปัญหาใหญ่ที่สุด สรุปว่าบทบาทของนักบุญหญิงนั้นเป็นตัวละครที่ไม่มีใครอยากเล่นเพราะมันยากมากเกินไป.. และในเกมนี้ หากมีค่าเสน่ห์ที่น้อยนิดเช่นนี้ นอกจากจะมัดใจตัวละครชายไม่ได้แล้วยังไม่สามารถขัดขืนตัวละครชายที่มีค่าเสน่ห์ที่มากกว่ายี่สิบอีกด้วย.. นี่มันนรก..ชัดๆ เลย “จานีค นี่ลูกกำลังเมินเฉยต่อคำกล่าวของพ่ออย่างนั้นหรือ พี่สาวของลูกก็หลบหนีไปแล้ว ตอนนี้พ่อเหลือแค่ลูกท่านั้น..แค่ลูกเพียงคนเดียว รีบแต่งงานตัวเข้านอนแต่หัววันเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้เดินทางไปที่วิหารเถอะนะ ค่าพลังเวท -2 ฉันไม่มีพลังอะไรเลยในร่างกายนี้ซึ่งแตกต่างจากพี่สาวที่หลบหนีไปอย่างสิ้นเชิงนั่นคือความชิบหายวายป่วงล่ะ นอกจากจะต้องแสร้งทำเป็นว่าตัวเองมีพลังเวทก็ต้องปกปิดเรื่องที่ตัวเองไม่มีพลังอะไรเลยด้วย แล้วฉันควรจะทำยังไงต่อไป.. “ไม่ต้องคิดที่จะหนีเลยนะจานีค พ่อจะให้คนเฝ้าหน้าประตูห้องนอนของลูกเอาไว้อย่างแน่นหนา หากว่าลูกถูกจับได้ว่าไม่มีพลังเวทแล้วละก็ พ่อจะกล่าวอ้างกับท่านคาดินันว่าลูกอาสาที่จะไปวิหารเพราะลุ่มหลงในตัวของท่านคาดินัน..และพ่อที่รักลูกสาวมากอย่างพ่อก็ไม่อาจขัดใจลูกได้ ฉะนั้นแล้วหากมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ลูกจะต้องรับโทษเพียงผู้เดียวเท่านั้นนะจานีค จงปิดปากให้เงียบและเสแสร้งทำเป็นนักบุญหญิงที่สูงส่งอย่างสุดความสามารถเลยนะ เพื่อตัวลูกเองและเพื่อที่ชีวิตน้อยๆ ของลูกจะได้มีโอกาสหายใจต่อไป” ก็พอจะรู้ว่าพ่อในเกมนี้ไม่ได้ดีเลิศอะไรเลย แต่ก็ไม่คิดว่าท่านดยุคตระกูลโอเรียสจะทำใจขายลูกสาวให้กับวิหารได้..นั่นคือสาเหตุที่พี่สาวของจานีคหลบหนีไป เพราะเมื่อเข้าไปอยู่ในวิหารแล้ว..มันก็เหมือนกับการเข้าไปเพื่อบำบัดความต้องการของคาดินันเท่านั้น.. แต่ไม่ใช่กับฉันหรอกนะ เพราะว่าฉันอยากจะไปที่นั่นจะแย่ หากไม่เริ่มต้นเกมนี้ในฐานะนักบุญหญิง เช่นนั้นฉันก็ไม่มีโอกาสที่จะจบรูททั้งสิบได้นะสิ โอเคฉันรู้ว่ามันยากแต่ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก ค่าเสน่ห์ 20 เอาวะ ถึงแม้ว่าจะมีเสน่ห์อันน้อยนิดแค่นี้แต่ว่า..ฉันจะไม่ยอมอ่อนไหวกับท่านคาดินันผู้นั้นหรอกนะ รถม้าสีงาช้างจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์โอเรียสในตอนเช้า ผู้ที่เดินทางมารับฉันคือท่านชายตระกูลไบร์ดัว อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่สาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรับใช้นักบุญหญิงที่เดินทางเข้ามาในวิหาร “ข้ามีชื่อว่ามาไคครับท่านนักบุญหญิง ยินดีต้อนรับสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์..” เขากำลังทำตามธรรมเนียมเพื่อเข้ารับการสาบานตน มาไคคุกเข่าลงก่อนจะจุมพิตลงไปบนรองเท้าของจานีค เพื่อสาบานว่าเขาจะภักดีต่อเธอ ชื่อ มาไค ไบร์ดัว ค่าเสน่ห์ที่สามารถพิชิตใจ 35 พลังเวท – พละกำลัง 100 ความฉลาด 70 ความหล่อ 80 เรือนผมสีแดงของเขาทำเอาฉันเหม่อเลยให้ตายสิ เขาอยู่ในชุดอัศวินสีขาวที่ดูทรงเกียรติและใบหน้านั้นก็มีความเย็นชาที่ผสมปนเปไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ในช่วงเวลาที่เขาจุมพิตลงบนรองเท้าของฉันมันให้ความรู้สึกจั๊กจี้หัวใจแบบบอกไม่ถูก “คงจะดีหากว่าท่านเลือกที่จะจุมพิตที่ฝ่ามือหรือว่าแก้มของข้ามากกว่าจะจุมพิตที่รองเท้า..มัน..อาจจะสกปรกค่ะ และข้าไม่อยากให้ท่านทำเช่นนั้นอีก” มาไคเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่เขาประคองฝ่ามือของนักบุญหญิงคนใหม่ขึ้นรถม้า บิดาของท่านนักบุญมิได้มาส่ง มีเพียงแค่สตรีร่างบางผู้นี้เท่านั้นที่เดินออกมาจากคฤหาสน์โอเรียส “มิมีส่วนใดของท่านนักบุญหญิงที่จะสกปรก..ท่านสะอาด หมดจดและเลอค่า” อ่า..การมีคนมาพูดแบบนี้ต่อหน้ามันก็ออกจะหน้าเขินไปหน่อยแฮะ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเกมฮาเร็มก็ตามที แต่ผู้สร้างสามารถสร้างสรรค์ตัวละครในเกมนี้ออกมาได้หล่อเหลาและเสมือนจริงแบบนี้ได้อย่างไรกัน “แล้วข้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะจุมพิตที่ฝ่ามือหรือว่าแก้มของท่านด้วยหากว่าท่านไม่อนุญาต” เขาดูสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติเลย นี่คือตัวละครแรกแท้ๆ ที่ฉันจะต้องพิชิต แต่เขากลับให้ความรู้สึกว่าการจะพิชิตใจเขานั้นไม่ได้ง่ายเลย “แล้วถ้าหากว่าข้าอนุญาต..ท่านจะทำมันไหมคะ” มาไคเบนสายตามองไปทางอื่น “เรื่องนั้นถึงแม้ว่าท่านจะอนุญาตแต่ข้าก็ไม่อาจแตะต้องร่างกายของนักบุญหญิงได้ตามใจ..” “แล้วถ้าหากว่านั่นคือคำสั่ง หากว่ามันคือคำสั่งท่านจะทำมันไหมคะ?” คำสั่งที่ว่านั่นคือการให้เขา..แตะต้องร่างกายของท่านอย่างนั้นหรือ? ครั้งแรกที่มาไคมองเห็นใบหน้านี้เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ท่านนักบุญหญิงช่างงดงามและยากจะละสายตาออกไปจากใบหน้านั้น ท่านเย้ายวนในแบบที่เขาอยากจะกระโจนใส่ท่านด้วยซ้ำ แต่ทว่าเขาทำเช่นนั้นมิได้.. รถม้าหยุดนิ่งทำให้บทสนทนาของจานีคไร้คำตอบ ขณะที่เธอกำลังจะเดินลงมาจากรถม้า กรอบหน้าต่างสีแดงก็เด้งขึ้นมา โปรดระวังการถูกล่อลวง คาดินันแซลัส อัมโบรเซอร์ ค่าเสน่ห์ที่สามารถพิชิตใจ 100 พลังเวท ไร้ขีดจำกัด พละกำลัง 100 ความฉลาด 100 ความหล่อ 100 นั่นคือกราฟอะไรกัน? ความเพอร์เฟคนี้มันคืออะไร? “ยินดีต้อนรับเข้าสู่วิหารนะครับ..จานีค” ฉันก้าวขาไม่ออกด้วยซ้ำเมื่อมองสบตากับสายตานั้น ภาวะฉุกเฉิน..คุณถูกล่อลวงด้วยค่าเสน่ห์อันมากมายของคาดินันแซลัส “ดูเหมือนนักบุญหญิงคนใหม่ของเราจะไม่สบายใจที่ต้องจากบ้านมาอย่างนั้นสินะครับ เช่นนั้นแล้ว..ข้ายิ่งต้องทำให้เจ้ารู้ว่าที่นี่อบอุ่นมากแค่ไหน บางทีมันอาจจะอุ่นจนร้อนเลยล่ะ มานี่สิจานีค..มากับข้า”ผมสีทองของเขานั้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่เจิดจ้าและในวินาทีที่เขาสั่งให้ฉันเดินเข้าไปหาเขา ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกมนต์สะกด เพราะค่าเสน่ห์ของเขานั้นมันมากเกินกว่าที่เธอจะยอมรับได้นี่คือตัวละครตัวที่สิบที่ฉันจะต้องพิชิต แต่ทว่าทำไม..ฉันต้องเจอเขาเป็นคนที่สองด้วยนะ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยค่าเสน่ห์20ของฉันจะเอาอะไรไปสู้กับค่าเสน่ห์100ของเขากันนะ บ้าชะมัดเลย!“ขออภัยด้วยครับท่านค่าดินัน แต่ท่านนักบุญหญิงพึ่งจะเดินทางมาที่นี่ และข้าอยากพานางไปที่ห้องพักก่อน..อีกทั้งท่านนักบุญหญิงต้องเปลี่ยนชุดและเข้าร่วมพิธีต้อนรับอีกนะครับ..”ดวงตาของแซรัสหรี่ลงเล็กน้อย เขากำลังไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างมากที่มาไคกำลังขัดขวางเขาแต่ทว่านี่มันพึ่งจะเริ่มต้น ยังมีเวลาอีกมากมายให้เขาได้เพลิดเพลินไปกับการดื่มด่ำกับร่างกายที่แสนหอมหวานนั่น..“เช่นนั้นเจ้าก็พานักบุญหญิงคนใหม่ของเราไปที่พักเถิดมาไค..”อัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นไม่ธรรมดาเพราะพี่ชายของเจ้านั่นคือแกรนด์ดยุคและยศของหมอนั่นคือท่านชายด้วยซ้ำเขาไม่อยากจะมีปัญหาที่มากวนใจ อะไรที่ปล่อยไปได้ก็ควรจะปล่อยไปก่
มาไคยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเอง เมื่อกระดิ่งถูกสั่นขึ้นและในยามนี้เขาจะต้องเดินทางไปที่ห้องนอนของท่านนักบุญหญิงนางงดงาม..ถึงแม้จะมิได้เย้ายวนเท่าไหร่ แต่ทว่ารอยยิ้มนั้นก็ทำให้เขารู้สึกสั่นไหวได้ไม่ยากเขาไม่รู้ว่าท่านนักบุญจะเรียกใช้ด้วยเหตุผลอันใด แต่ทว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ตัวเองปฏิเสธการรับใช้ท่านนักบุญหญิงมาไคดึงสติของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่เขาจะได้เดินไปที่ห้องของท่านนักบุญหญิงด้วยใบหน้าที่เฉยชาต่อทุกสิ่ง ทันทีที่เขาเข้ารับการปฏิญาณตน นั่นหมายความว่าเขาจะต้องคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของตนเอง อีกหน้าที่หนึ่งของอัศวินศักดิ์สิทธิ์คือการรับใช้ท่านนักบุญหญิง รับใช้ที่ว่านั่นคือ..การรับใช้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงเธอดูเหมือนลูกกระต่ายตัวน้อยที่ตื่นกลัวในยามที่เห็นหน้าท่านคาดินัน ท่านนักบุญหญิงสั่นไหวมากจนเขารู้สึกเป็นห่วง ถึงได้ก้าวเข้าไปเพื่อที่จะขัดขวางการชักชวนของท่านคาดินัน เขารู้ว่านั่นคือการ กระทำที่อุกอาจเป็นอย่างยิ่ง อัศวินเช่นเขาไม่ควรขัดใจท่านคาดินัน..แต่ตัวของท่านคาดินันเองก็ขัดใจเขาไม่ได้เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่อัศวินศักดิ์สิทธิ์แต่เพราะยศเก่าของเขาคือยศท่านช
ชุดนักบุญหญิงสีขาวถูกสวมลงบนร่างกายของฉัน ทักษะการแต่งหน้าทำผมของมาไคนั้นน่าทึ่งมากทีเดียว เขาบอกว่าตัวเองฝึกอย่างหนักเพื่อที่จะมารับใช้และดูแลเธอเขาเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองเพื่อขออนุญาตไปเตรียมตัวบ้าง เพราะเขาเองก็จะต้องเข้าร่วมพิธีนี้เหมือนกันเมื่ออยู่คนเดียวฉันคิดว่าจะต้องคุยกับระบบของเกมนี้ให้รู้เรื่องสักหน่อย“นี่ ฉันต้องการคู่มือการใช้ อย่างเช่นวิธีการเพิ่มค่าเสน่ห์ของตัวเองหรือว่าวิธีที่ทำให้ตัวละครในเกมนี้มาสนใจอะไรแบบนั้น.."“ติ้ง!!”"วิธีเพิ่มค่าเสน่ห์ทางลัดนั้น..ไม่มีค่ะคุณผู้เล่น เพราะค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณผู้เล่นสามารถพิชิตใจตัวละครในเกมนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่นในตอนนี้คุณผู้เล่นมีค่าเสน่ห์อยู่ที่ 25 ค่าเสน่ห์ที่เพิ่มมา 5 หน่วยนั้นเพิ่มมาจากค่าเสน่ห์ของคุณอัศวินมาไคที่ลดลง หากคุณผู้เล่นสามารถพิชิตใจคุณอัศวินมาไคได้ ค่าเสน่ห์ของผู้เล่นจะเพิ่มมาเป็น 35 จาก 20 นั่นหมายความว่าค่าเสน่ห์จะเพิ่มขึ้นในทุกครั้งที่สามารถพิชิตใจตัวละครชายได้..มีข้อควรระวังด้วยนะคะ หากว่าคุณผู้เล่นพบเจอตัวละครชายที่มีค่าเสน่ห์มากเกินไป ในบางครั้งจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้โปรดระมั
ทันทีที่มาไคออกมาจากห้องของท่านนักบุญหญิงสิ่งแรกที่เขาเห็นคือนักบุญฟลิน ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้องเขา“เพราะใกล้ที่จะเริ่มพิธีอันแสนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านคาดินันจึงเมตตาให้ข้านำชุดนี่มาให้ท่านอัศวินครับ ช่วยกรุณาแต่งกายอย่างเต็มยศเพื่อที่จะได้ปกป้องท่านนักบุญหญิงด้วยนะครับ”มาไคก้มหน้าลงเพื่อเป็นการขอบคุณ เขารับกล่องเสื้อผ้านั้นมาด้วยความรู้สึกไม่ไว้ใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่สามารถปฏิเสธการรับสิ่งของที่ท่านคาดินันส่งให้ได้“ฝากท่านนักบุญไปขอบคุณท่านคาดินันด้วยนะครับ”ฟลินพยักหน้า แน่นอนว่าเขาจะต้องยืนอยู่หน้าห้องของท่านอัศวินเพื่อส่งท่านอัศวินเข้าห้องตามมารยาทมาไคเข้ามาในห้องพักของตนเอง เขาวางกล่องปริศนานั้นเอาไว้ก่อนจะเดินไปยกแก้วน้ำชาที่เย็นชืดขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย หากช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ในบางทีเขาอยากจะกระโดดขย้ำท่านจานีคไปแล้วก็ได้ หรือไม่เขาอาจจะเผลอใช้มือของตัวเองสัมผัสลงไปบนเนินอกที่เต่งตึงนั้นสักครั้ง ไล้ไปตามหน้าท้องคอดกิ่วหรือไม่ก็ตามเส้นขนสีเงินที่ขึ้นอยู่รำไรที่ด้านล่าง แม้กระทั่งในจุดที่ลับที่สุดก็ยังคงมีสีที่เหมือนกับดอกกุหลาบ..ท่านจานีคของเขานั้น..งดง
ความนุ่มอุ่นอันน่าพึงพอใจกำลังโอบรัดตัวตนของเขาที่กำลังขยายตัวอยู่ในปาก คราแรกแซลัสไม่คิดด้วยซ้ำว่าปากเล็กๆ ของเธอจะอ้าออกเพื่อรับเขาเข้าไปได้..แต่ทว่าเธอทำได้มันน่ารักตรงไหนรู้ไหม ตรงที่ถึงแม้ว่าท่าทางของเธอจะแสดงออกถึงความจำนน แต่ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เธอจ้องมองราวกับว่าจะทำให้เขาจุมพิตที่ปลายเท้าของเธอให้ได้ในสักวันหนึ่งนี่คือความสนุกสนานเล็กๆ ของแซลัส การต่อต้านที่แสนหวานและเกลียวลิ้นที่ค่อยๆ เล็มชิมจุดอ่อนไหวที่ส่วนปลายอย่างเชื่องช้าเขาร้องครางลอดใต้ไรฟัน ส่วนกลางกำลังขยายใหญ่อีกครั้งหนึ่งราวกับร่างกายของเขากำลังจะบอกว่าไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ในวินาทีที่เธอพรมจูบส่วนหัวไปตลอดท่อนลำเขากดเข้าที่ท้ายทอยของเธอเพื่อบ่งบอกให้จานีคอ้าปากออกเพื่อรับเขาเข้าไปในนั้น เขาขยับเอวกระทั้นเข้าไปในริมฝีปากนุ่มๆตามอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในมือของจานีคจับเข้าที่บั้นท้ายของท่านแซลัส เธอกำลังพยายามผลักเขาออกไป เพราะดูเหมือนว่าตัวเธอจะหายใจไม่ทัน แต่มันไม่เป็นผล..เขากระทั้นเข้าไปอีกพักหนึ่งก่อนที่ในปากจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวอ่อนๆ และรสฝาดเฝื่อนที่กำลังเอ่อท้นเข้ามาในริมฝีปากเขา
มาไคอุ้มเธอออกไป และในทันทีที่จานีค อยู่ในอ้อมแขนนั้น เธอก็หลับตาลงในทันทีราวกับว่าร่างกายนั้นไม่สามารถยืนไหวตั้งแต่แรก เธอแค่รอให้ประตูนี้เปิดเท่านั้น ถึงจะแสดงท่าทางอ่อนแอออกมาแซลัสแค่นหัวเราะ เขาเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เช่นเดียวกันกับใบหน้าที่เขาเดินเข้าไปฟลินรีบเดินเข้ามาหานายท่านของเขาในทันที“มีอะไรจะรับสั่งให้ข้าไปจัดการไหมครับ อย่างเช่น..ให้ข้าจัดการขับไล่สตรีผู้นั้นออกจากการเป็นนักบุญหญิง”หากว่าสตรีผู้นั้นไม่สามารถทำให้ท่านผู้สูงศักดิ์นี้พึงพอใจแล้วละก็ ฟลินก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องเก็บนางเอาไว้“ใจเย็นก่อนฟลิน นางพึ่งจะเข้ามารับตำแหน่งนักบุญหญิง จะให้นางออกไปจากที่นี่หลังจากที่เข้ามาเพียงแค่วันเดียวได้อย่างไรกัน จะมีคนกล่าวออกมาว่าวิหารของเราใจร้าย ข้าไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นเช่นนั้น อีกอย่าง..ข้าถูกใจนางนะ”จานีคคือเรื่องสนุกเล็กๆ ในชีวิตของแซลัส เขาคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น..การได้มองเห็นทุกความทรมานที่มันมาจากความเย่อหยิ่งของนางทำให้เขา..รู้สึกสนุกเหมือนกับมองเห็นพวกหนูที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาจากท่อน้ำอันแสนโสมมเก็บนางเอาไว้ดูเล่นน่าจะดี ก็จานีคน
เมื่อมาไคกลับมาถึงวิหาร เขาก็รีบถือห่อยาไปที่ห้องครัวในทันทีก่อนจะทำการต้มยาตามที่หมอหลวงสั่งมา เขาเป็นห่วงท่านจานีคมากทีเดียว แต่ทว่าเพราะในยามนี้ท่านจานีคมีพี่ชายของเขาคอยดูแลอยู่ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเบาใจไปได้บ้าง ว่าท่านจานีคจะปลอดภัยภายใต้การดูแลของไมเนอร์เราคือฝาแฝดที่ไมเนอร์เป็นผู้ลืมตาดูโลกออกมาก่อน แต่ทว่าใบหน้าของเรากลับไม่ได้เหมือนกันขนาดที่จะมองเป็นคนคนเดียว เขามีเส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ แต่ไมเนอร์กลับมีเส้นผมสีดำที่เหมือนท่านพ่อมากกว่าเขาเลือกที่จะสละยศแกรนด์ดยุคให้ไมเนอร์ หลังจากนั้นเขาก็พาตัวเองมาเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ส่วนหนึ่งมาไคไม่อยากให้ระหว่างเราสองพี่น้องมีเรื่องของการแย่งชิงอำนาจเกิดขึ้นมา เขาอยากให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องคงอยู่..ฉะนั้นแล้วอะไรที่เขาพอจะเสียสละให้ไมเนอร์ได้ มาไคยินดีที่จะทำมาไคถือถ้วยยาเดินตรงไปยังห้องพักของท่านจานีค เขาเปิดประตูอย่างแผ่วเบาเพราะคิดว่าท่านจานีคคงกำลังนอนหลับอยู่..บอกตามตรงว่ามาไคแปลกใจเล็กน้อยที่เขาไม่เห็นไมเนอร์นั่งเฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงตามที่เขาร้องขอ..เขาเดินตรงไปที่เตียงนอน และสิ่งที่เขาเห็นมันคือท่านจานีคที่กำลังนอนหลับอย
ตอนนี้ค่าเสน่ห์ของฉันนั้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 30 แล้ว เพิ่มมาจากเดิมอีก 5 น่าจะเพิ่มมาจากความสงสารและเห็นใจของท่านมาไคแน่นอนแล้วถ้าหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด หากว่าฉันสามารถพิชิตใจของมาไคได้แล้ว ฉันอาจจะสามารถพิชิตใจพี่ชายของมาไคต่อได้เลยก็ได้เพราะว่า แกรนด์ดยุคไมเนอร์นั้นใช้ค่าพลังในการพิชิตใจ 45...มันอาจจะไม่ได้ยาก...“แค่ก..แค่ก”เสียงไอนั้นทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหยิบน้ำอุ่นส่งให้มาไค สามวันหลังจากที่ฉันนอนซมอยู่บนเตียง ฉันหายดีราวกับไม่เคยป่วยมาก่อน อาจจะเพราะพิษไข้พวกนั้นย้ายจากฉันไปติดพวกเขาสองคนแทน ทั้งท่านมาไคและท่านไมเนอร์ต่างกำลังนอนป่วยกันอยู่ในตอนนี้“นี่คือความผิดของข้าใช่ไหมคะ ท่านมาไคไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าข้าจะดูแลท่านเอง ให้สาสมกับที่ท่านดูแลข้าเป็นอย่างดีในระหว่างที่ข้ากำลังป่วย”ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตามหลังจากที่ฉันเข้ารับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกับท่านคาดินันแซลัส หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี หากว่าฉันยังไม่มีค่าเสน่ห์ถึง100ก็ไม่ควรเสนอหน้าไปต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นหรอกวิหารกว้างใหญ่มากทีเดียว และที่พักของนักบุญหญิงก็เ
120 ?ค่าตัวเลขที่ปรากฏต่อสายตานั้นทำให้จานีคต้องกะพริบตาซ้ำอีกครั้ง ใช่แล้วในคราแรกเธอคิดว่าตัวเอง..ตาฝาด ตาฝาดไปแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่บอกกับเธอว่านี่คือเรื่องจริง ตัวเลขที่เธอเห็นมันไม่ใช่ในความฝันก่อนวันหวยออกแต่อย่างใด มันคือค่าเสน่ห์ที่จะต้องพิชิตใจเจ้าของร่างที่นั่งอยู่ข้างเธอจริงๆ“คุณกำลังตกอยู่ในสถานะถูกล่อลวง”“เควสพิเศษปรากฏ ทำความรู้จักตัวละครลึกลับเพื่อปูทางไปยังตอนจบแสนสุข แค่ทำให้ตัวละครลีออน วอลต์ สนใจในตัวคุณเท่านั้น”สำเร็จภารกิจ ได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มจำนวน 5 หน่วยภารกิจล้มเหลว –ค่าเสน่ห์ 5 หน่วยหากถูกลบค่าเสน่ห์ ความสามารถในการพิชิตใจของไมเนอร์ ไบร์ดัวจะถูกยกเลิกเพราะคุณผู้เล่นมีค่าพลังไม่ถึง 45 ตามกำหนดกรุณาทำเควสพิเศษ อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ“.......”นี่ฉันจะต้องคำเควสในสภาพที่ตัวเองถูกล่อลวงแบบนี้จริงดิ ร่างกายร้อนแทบมอดไหม้ สองแก้มแดงเห่อร้อนคล้ายจะมีควันพุ่งออกมา แค่รับมือท่านคาดินันแซลัสที่กำลังเอาแต่ใจก็เกินความสามารถแล้ว ยังจะต้องมาพบเจอกับการต้องทำให้..นักเวทลีออนสนใจอีกงั้นเรอะ!!แต่การยินยอมนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อมองดูค่าเสน่ห์ของตัวเองลดลงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถ
“ไมเนอร์..เจ้ารู้ดีว่าน้องเป็นคนอย่างไร มาไคเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขามักจะเก็บทุกเรื่องเอาไว้ในหัวใจดวงน้อยของเขา ฉะนั้นแล้วในฐานะที่เจ้าคือพี่..อย่าปล่อยให้หัวใจดวงน้อยๆ ของมาไคแบกรับเรื่องราวมากมายเอาไว้เพียงลำพังนะลูกรัก..”ไมเนอร์รู้ดีว่าชีวิตของเขาในตอนนี้ คนที่เรียกได้ว่าครอบครัวคือท่านแม่และมาไคท่านพ่อของเราด่วนจากไปด้วยโรคร้าย และในวันที่เขากำลังจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เหล่าญาติของท่านพ่อก็มาคัดค้านกันอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนคิดว่าเด็กอายุ 15 ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ตระกูลไบร์ดัว แต่อีกเหตุผลหลักก็คือ หากพวกนั้นสามารถผลักเขาออกไปจากตำแหน่งและขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแทนได้ ทั้งอำนาจและเงินทองมากมายที่ท่านพ่อสร้างมาก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น“พินัยกรรมได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงเรื่องที่ข้าจะต้องได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลไบร์ดัว ฉะนั้นแล้วไม่มีเหตุผลอันใดที่ข้าจะต้องทนฟังเสียงของญาติที่กระหายในเงินทองและอำนาจ!!”เขาต้องแข็งแกร่ง ไมเนอร์บอกตัวเองเช่นนั้น หากอยากปกป้องตำแหน่งแกรนด์ ดยุคเอาไว้ ปกป้องท่านแม่และน้องชายเขาจะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาไม่ได้เมื่อพิ
จานีคกระตุกยิ้มที่มุมปาก..นี่เขายังมีของแบบนั้นเก็บเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานอีกอย่างนั้นหรือ? บางทีรสนิยมของท่านคาดินันอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองก็ได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยในการที่จะพิชิตใจเขาได้น่ะ“เรื่องนั้น..ข้าคิดว่าท่านแซลัสควรให้ข้าได้พักหรือว่าทำใจสักหน่อยนะคะ เพราะเมื่อวานนี้กว่าจะนำพาเจ้าแท่งสีเหลืองทองนั้นออกจากร่างกายได้..ข้าก็แทบจะตายเหมือนกัน..หากมันจะเอาออกยากเย็นเช่นนั้นท่านก็ควรจะบอกกล่าวกับข้าก่อนสิคะ..”เธอกะพริบตาเบาๆ เพื่อมองหน้าเขา การแสดงออกของจานีคนั้นสบายๆ มากกว่าทุกวัน นั่นทำให้แซลัสกำลังประเมินความคิดของเธออยู่..ปกติแล้วเธอจะเกร็งมากๆ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เขา แถมในแววตานั้นยังมีวี่แววความเกลียดชังฉายชัดออกมาอีกด้วยเขาไม่ชินกับจานีคที่ดูน่ารักและออดอ้อนคนนี้เลย หรือเธอคิดว่านี่นั่งข้างๆ ของเขานั้นปลอดภัย คงคิดว่าในห้องประชุมนี้มีผู้คนมากมาย และเขาคงไม่กล้าที่จะทำอะไรเธออย่างนั้นสินะประมาทเกินไปแล้วจานีค..เขาไม่ใช่คนที่จะยินยอมพลาดโอกาสทองในการทำให้ใบหน้านั้นเกิดการปั่นป่วนจนรอยยิ้มที่แสนมั่นใจนั่นจางหายไปจากใบหน้านั้น..แซลัสยกมือขึ้นมาเท้าคางเขากำลังอยู
แซลัสจ้องมองใบหน้าของจานีคไม่ละสายตา การพบเจอเธอไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรเลย เพราะเมื่อวานมีชื่อของเธอถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก อาจจะทำให้จานีคคิดว่าเธอควรมาเข้าร่วมประชุมเพื่อไม่ให้ชื่อของตัวเองถูกพูดถึงในทางไม่ดีเธอมาที่นี่ไม่แปลก แต่แปลกที่บุรุษที่เธอเดินมาด้วยคือเคาน์ดาโกแบท บุรุษผู้ได้ชื่อว่านอนกับสตรีไม่เลือกหน้า หรือว่านางอ่อนต่อโลกมากขนาดที่ว่าไม่รู้ชื่อเสียงที่เลวร้ายของท่านเคาน์กันนะ..มิรู้หรืออย่างไรว่าการเดินมากับบุรุษเช่นนั้นจะทำให้ชื่อเสียงของเธอยิ่งแปดเปื้อนมากกว่าเดิม“อันที่จริงข้าจัดเตรียมที่นั่งสำหรับท่านนักบุญหญิงของเราเอาไว้แล้ว..จานีคมานั่งตรงนี้สิ”ความรู้สึกขุ่นเคืองอัดแน่นเต็มอก แต่ แซลัสก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มแย้มให้แก่จานีคอยากปฏิเสธชะมัด แต่ก็นั่นแหละคำสั่งของเขาเธอขัดได้ที่ไหนกัน เมื่อข้อความสีแดงเด้งขึ้นมา เธอก็แทบไม่สามารถคงสติเอาไว้ได้เลยด้วยซ้ำ“ขออภัยด้วยนะคะท่านเคาน์..”เธอย่อตัวลงก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างๆ ท่านคาดินันแซลัส ฟลอยด์กัดฟันกรอด เขาอุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ ที่ถือครองเอาไว้ทั้งที เจ้าหัวเหลืองนี่กล้าดีอย่างไรมาแย่งนักบุญจานีคไปจากเขาน่ะเขาขึงตาใส่ค
มาไคเผลอยิ้มที่มุมปาก เมื่อเขามองเห็นริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อยของท่านจานีค หลังจากอยู่ด้วยกันมาสักระยะมันทำให้เขาเข้าใจในทันทีว่าช่วงเวลานี้ คงกำลังมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้ท่านจานีคไม่พอใจ และไอ้เรื่องที่ว่านั่นก็ยืนทึ่มอยู่เบื้องหน้าของเขาหรือไม่..บางทีเขาควรจะพูดคุยกับพี่ชายให้รู้เรื่อง เพราะตัวของไมเนอร์ก็คงแบกความรู้สึกผิดเอาไว้เช่นเดียวกัน กับเขาท่านจานีคเป็นผู้ออกปากพูดคุยแต่กับไมเนอร์ที่ไม่ได้อยู่กับท่านจานีคตลอดเวลา..คงเป็นหน้าที่ของเขาสินะที่จะต้อง..พูดคุยกับพี่ชายให้เข้าใจ“บังเอิญจังเลยนะครับท่านนักบุญ..เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมเหมือนกันพอดีเลย หากว่าท่านไม่รังเกียจเช่นนั้นเข้าไปในนั้นพร้อมกันกับข้าดีไหมครับ”จานีคที่กำลังนึกโกรธทั้งไมเนอร์และมาไค เมื่อเธอมาเจอคนน่ารำคาญอย่างเคาน์ ฟลอยด์ ใจจริงเธออาจจะด่าเขานะ แต่..การใจร้อนไม่ใช่เรื่องที่ดี อีกทั้งในอนาคตเขาคือหนึ่งในตัวละครที่เธอต้องพิชิตใจด้วยนะสิ“ด้วยความยินดีค่ะท่านเคาน์”ฟลอยด์ยิ้มหน้าระรื่น ไม่เสียแรงจริงๆ ที่เขามาดักรออยู่ตรงนี้ บรรยากาศระหว่างท่านนักบุญหญิงและท่านแกรนด์ดยุคไม่ดีเท่าไหร่นัก นี่
มาไคยืนอยู่ด้านหลังของท่านนักบุญหญิงจานีค จากมุมที่เขายืนอยู่นี้สามารถมองเห็นแววตาที่ไม่ประสงค์ดีนั้นได้อย่างชัดเจน เขาไม่ชอบขุนนางผู้นี้แต่ก็มิอาจปฏิเสธการเข้าพบนี้ได้เช่นกันถึงเป็นเคาน์แต่ตระกูลดาโกแบทก็มีอำนาจมากพอสมควรในเรื่องของการค้าเรือสำเภาทุกลำในจักรวรรดิแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ติดชื่อของตระกูลดาโกแบทเอาไว้บนลำเรือทั้งนั้น เขาคิดว่าการที่ท่านนักบุญหญิงได้พูดคุยกับท่านเคาน์อาจจะส่งผลดีต่อตัวของท่านนักบุญหญิงเองแต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อสายตาที่มองมามันเต็มไปด้วยความรู้สึกหยาบช้า!จานีคยกแก้มน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เธอไม่มีร่องรอยของความหวั่นไหวใดๆ เลยถึงแม้ว่าจะนั่งตรงข้ามกับบุรุษที่ครองใจสตรีทั่วทั้งจักรวรรดิ..“อย่างที่ท่านนักบุญทราบว่านอกจากราชวงศ์ ตระกูลไบร์ดัว ก็มีตระกูลดาโกแบทของข้าเท่านั้นที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในงานวันชาติครั้งนี้ และ..ข้าคือผู้สนับสนุนหลักของวิหาร..เม็ดเงินมหาศาลที่ข้าสั่งให้ช่างปูผนังและหินอ่อนทั่วทุกพื้นที่ของเรือนพักท่านนักบุญ ก็คือความคิดของข้าทั้งนั้น..ข้าเอ่ยมาเช่นนั้นท่านน่าจะพอเดาได้แล้วใช่ไหมครับว่าข้าหมายถึงสิ
แซลัสยกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีทองไปไว้ที่ด้านหลัง เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีอำพันเหม่อมองออกไปยังเรือนพักส่วนที่เป็นหลังคาสีทองและสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังที่พักของนักบุญหญิง..แล้วแท่งอัญมณีที่เขาเป็นผู้กดแทรกมันเข้าไปในร่างกายของเธอ ยามนี้มันมิได้อยู่ในร่างกายของเธออีกต่อไปเขาแค่นหัวเราะออกมาพร้อมกับคลายชุดคลุมอาบน้ำที่กำลังสวมอยู่เพื่อให้ลมเย็นยามราตรีพัดผ่านร่างกายของเขาไก..อย่างน้อยเขาก็หวังว่าลมเย็นๆ นั่นจะช่วยทำให้ความเร่าร้อนที่อยู่ในใจจางหายไปได้บ้างเขาไม่อยากปล่อยเธอไป ไม่ได้อยากปล่อยมือจากร่างกายนั้นเลย..แต่เพราะการรั้งเอาไว้มันไม่มีประโยชน์..เขาทำร้าย ทรมาน บังคับ และอีกมากมายที่เขากระทำกับเธอเพื่อให้จานีคผู้นั้นตระหนักให้มากว่านางกำลังอยู่ในอุ้งมือของเขา อยากให้นางเห็นว่าเขาคือผู้กุมชีวิตของนางเอาไว้ อยากให้นางเทิดทูนบูชาเขาให้มาก..แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม คำกล่าวสรรเสริญที่ไร้ค่าไร้ราคาเพราะมันไม่ได้มาจากหัวใจ เธอยังคงต่อต้านเขาเท่าที่มือเล็กๆ ทั้งสองข้างนั้นจะมีแรง..หงุดหงิดชะมัด! หงุดหงิดอย่างถึงที่สุด หงุดหงิดจนไม่อยากจะทำอะไรเลย..ให้ตายสิ!!“ได้เวลาพักผ่อนแล้วนะครับท่า
หลังจากการปลดปล่อยสิ้นสุดลง ความร้อนก็ยังไม่หายไปจากร่างกาย สีหน้าของไมเนอร์สุขสมราวกับตกอยู่ในภวังค์ความสวยงามที่แท้จริงมิใช่ใบหน้าแต่ทว่ามันคือร่างกายและจิตใจของเธอต่างหาก สิ่งที่เย้าย้วนมิใช่ท่าทีหรือการแสดงออก แต่มันเสียงร้องครางแสนหวานที่ทำเอาเขาเกือบคลั่ง ความเบาสบายแผ่กระจายทั่วร่าง เมื่อละอองแห่งความสุขถูกปลดปล่อยออกมาไมเนอร์ฝังปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาซุกไปที่ซอกคอของเธอในยามนี้บางอย่างกำลังประจักษ์แจ้งแก่ใจ ว่าท่านจานีคนั้นเย้ายวนและมีเสน่ห์เป็นที่สุด“ติ้ง!!”“การแจ้งเตือนจากระบบค่ะ ค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นเพิ่มขึ้นมาจาก 35 เป็น 38 หน่วย ยินดีกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ หากค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นเพิ่มขึ้นถึง 40 หน่วย จะมีเควสพิเศษมาให้ทำเพื่อเพิ่มค่าความสามารถค่ะ ทั้งค่าความฉลาดและค่าพลังเวท พยายามเข้านะคะ”เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นมา จานีคไม่มีแรงแม้แต่จะปรือตาขึ้นมามองมันด้วยซ้ำ เธอกำลังเหนื่อยเป็นอย่างมาก วันนี้มันหนักหนามากเหลือเกินสำหรับเธอ และในยามนี้ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่งานของเธอก็ยังไม่จบ..ถึงแม้ว่าเธอจะเหนื่อยแต่คำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับท่านมาไคก
มือแกร่งแหวกเรียวขาออกกว้างขึ้น ใบหน้ายื่นเข้ามาในจุดนั้นระยะประชิด เขาแนบริมฝีปากลงไปบนก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นปาดเลียจากปุ่มเนื้อเล็กๆ ที่นูนขึ้นเพราะร่างกายไวต่อสัมผัสอยู่แล้วทำให้เพียงแค่ถูกลิ้นของเขาสัมผัสนิดหน่อย ร่างก็เหมือนกำลังลอยขึ้นสูงเลยริมฝีปากเจ้าเล่ห์พรมจูบตรงนั้น ทั้งยังดูดดุนพื้นที่น่าอายอีก“อะ..อึ่ก!!”เธอร้องครางออกมาเพราะดูเหมือนปลายนิ้วของไมเนอร์จะแตะสัมผัสลงไปบนแท่งสีทองที่อยู่ในร่างกาย เขาทำในเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนนั่นคือการขยับมัน..ไม่ได้ดึงออกแต่กลับขยับมันเบาๆ ให้เคลื่อนไวไปในร่างกายของเธอลิ้นของเขาละเลงบนส่วนนั้น สะกิดเลียกระทั่งเม็ดเสียวขยายใหญ่ ไมเนอร์รวบตัวของจานีคเอาไว้ไม่ยอมให้เธอถดหรือว่าถอยหนีมาไคละริมฝีปากนั้นออกจากกลีบปากที่แสนเย้ายวนของเธอ.. เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะให้ท่านจานีคพิงลงมาบนร่างกายของเขานี่ดูเหมือนกับว่ามาไคกำลังหวังดีแต่ไม่เลย เพราะมือของเขาสอดมาจากด้านหลังและมันกำลังบีบเคล้นลงไปบนก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง“อะ..อ๊า!!”บอกตามตรงว่าถึงแม้ว่าตัวเธอจะเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะได้ทำแบบสามคนสักที