共有

6 (ไม่ใช่คนเลวร้าย)

last update 最終更新日: 2025-05-13 16:57:53

ไม่ไช่คนเลวร้าย

"อ่า"น้ำกามสีขาวขุ่นพ่นเข้าไปในเกราะป้องกันเป็นรอบที่สาม ฉันยังคงนอนกัดฟันข่มความเจ็บปวดร่างกายโดยเฉพาะส่วนตรงนั้น

"พะ พอแล้วใช่ไหม"ฉันลืมตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายกับคนกำลังจะหมดเรี่ยวแรง

"หึ อึดดีหนิ"ชายหนุ่มบนร่างแสยะยิ้มร้ายก่อนที่จะถอนถอดท่อนเอ็นขนาดใหญ่ออกมา แล้วหลุบตามองที่กลางกายฉัน

"ยังไม่แหกเลย"ฉันเบิกตาโตจ้องหน้าคนตัวโตด้วยใจสั่น ๆ อย่าบอกนะว่าเขาจะทำอีก

"พอเถอะค่ะ นับไม่ไหวแล้ว"ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือน้ำตาคลอเบ้า

"ทนให้ได้!"ว่าจบคนตัวโตก็ถอดถุงยางอนามัยที่เต็มไปด้วยน้ำเชื้อสีขาวขุ่นออกแล้วหยิบอันใหม่ขึ้นมากัดมันด้วยปากแล้วสวมเข้าไปที่ท่อนเอ็นของเขาทันที สวบ!

"อื้ออ"ฉันร้องออกมาในลำคอรู้สึกว่าจะทนไม่ไหวต่อไปแล้ว มันหมดเรี่ยวแรง กล้ามเนื้อที่ขาล้าไปหมด ปึก ปึก ปึก เอวสอบถาโถมเข้ามาอย่างไม่ผ่อนแรง

"หึ"เจ้าของใบหน้าหล่อจ้องหน้าฉันขณะที่ท่อนอย่างยังคงกระแทกเข้าออกไม่หยุด ฉันสบตากับเขาที่กำลังจะปิดลง.

สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่สามารถผ่านมันไปได้

ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดที่ท่อนล่างมาก พอจะขยับกายก็ยิ่งเจ็บแสบไปหมดทั้งตัว แต่ก็พยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง แล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง สะดุดกับซองถุงยางอนามัยที่หล่นเกลื่อนกลาดทำให้รู้สึกซ้ำใจเป็นอย่างมาก หยดน้ำตาใส ๆ ก็รินไหลออกมา

ฉันก้มมองเรือนร่างตัวเองที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม ก็ยิ่งรู้สึกตอกย้ำว่าตัวเองไม่ใช่คนเดิมแล้ว ฉันได้เสียความสาวให้กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ แม้แต่ชื่อฉันก็ยังไม่รู้จัก

พอเท้าแตะที่พื้นก็รู้สึกว่ามันจะสั่นแทบจะไม่มีแรงเดิน แต่ฉันก็ฝืนพาตัวเองไปชำระสิ่งสกปรกออกจากตัวให้ได้ กว่าจะจัดการตัวเองเรียบร้อยฉันก็ต้องเสียน้ำตาไปนานพอสมควร บอกตรง ๆ ว่าพอเห็นตัวเองในกระจกก็รู้สึกว่ารับไม่ได้ ร่องรอยฟันคม รอยฟกซ้ำ เต็มลำคอและหน้าอกไปหมด ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่ามีกระเป๋าเสื้อผ้ารวมถึงกล่องข้าวของฉันตั้งอยู่ ฉันรีบตรงไปเปิดดูด้วยความแปลกใจแฝงด้วยความดีใจ ที่ข้าวของฉันมาอยู่ที่นี่ จึงรับเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ ก่อนที่จะสำรวจข้าวของ ซึ่งทุกอย่างไม่ได้หายไปไหนเลยสักชิ้นแม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของรุ่นพี่ใจดีคนนั้น หลังจากนั้นฉันก็สะพายกระเป๋าเสื้อผ้ายกกล่องมาที่หน้าประตูห้องเพื่อจะออกไปจากที่นี่ แต่ทว่า...

แอ๊ดดดดด ประตูห้องเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใช่แล้วเขาก็คือผู้ชายคนที่พรากความสาวของฉันไปนั้นเอง กล่องในมือหล่นลงที่พื้นด้วยความตกใจ

"จะหนี?"เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาแล้วหลุบตามองกล่องที่ร่วงตกที่พื้น

"นับจะกลับบ้าน"ฉันบอกด้วยน้ำเสียงสั่นภายในใจรู้สึกกลัว ๆ ชายตรงหน้าเอามาก ๆ

"เธอมีบ้าน?"นั้นสิ ฉันไม่มีบ้าน แต่ยังไงฉันจะต้องออกไปจากที่นี่

"ปล่อยนับไปเถอะนะ คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว"ฉันจ้องหน้าเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า

"ยังไม่พอ"หัวใจฉันเต้นรัว ๆ เมื่อได้ยินคำพูดจากปากชายหนุ่มตรงหน้า

"เท่านี้ก็มากพอแล้ว ปล่อยนับไปเถอะนะขอร้อง"ฉันยกมือขึ้นไหว้เขาด้วยหยดน้ำตา

"...."ชายหนุ่มมองฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"ต้องให้นับทำยังไงถึงจะปล่อยนับไป...."

"แค่นอนอ้าขาให้ฉันทุกคืนจนกว่าฉันจะเบื่อ"ฉันกลืนน้ำลายลงคอแล้วยกมือปาดน้ำตา

"เหอะ..."ฉันแค่นหัวเราะออกมาอย่างรู้สึกสมเพชตัวเองชะมัด

"....แล้วนับจะได้อะไร"ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันพูดคำนี้ มันตันไปหมดไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาขอร้องเขาแล้ว.

"ถ้าเธอไม่คิดจะหนี เธอจะได้ทุกอย่างที่อยากได้"ฉันเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วกลั้วหัวเราะเบา ๆ คำพูดเขาเหมือนจะดูดี แต่มันก็ให้รู้สึกว่า คำว่าของแถม มันคงรวมถึงการเป็นนางบำเรอ เป็นของเล่นของคนรวย ๆ อย่างเขาด้วยสินะ

"แต่ถ้าเธอคิดจะหนีเมื่อไหร่ ฉันจะลากเธอกลับมาไม่ว่าจะเป็นที่สวรรค์หรือนรก"แล้วเค้นเสียงเอ่ยออกมาสีหน้าดุดัน.

"...."หัวใจฉันสั่นไปหมดเพราะรู้สึกกลัวจนขนลุก

"เอาของไปเก็บ แล้วออกมากับฉัน"ฉันเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูเรียบเฉย แฝงความเย็นชา

"คุณจะพานับไปไหน"

"อยากออกไปไม่ใช่เหรอ ฉันกำลังจะพาเธอออกไปไง"ฉันคลี่ยิ้มหวานให้เขา อย่างน้อยชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่ได้กักขังฉันไว้แต่ในห้อง ฉันยอมจำนนเก็บเสื้อผ้าข้าวของจนเรียบร้อย โดยมีเขายืนกอดอกมองเงียบ ๆ

"เสร็จแล้วค่ะ"ฉันเดินมายืนตรงหน้าชายหนุ่มร่างสูง เขาปรายตามองฉันหัวจรดเท้าแล้วส่ายหน้า

"ไป"ก่อนที่จะหันหลังเปิดประตูห้องเดินนำออกมา โดยมีฉันตามไปติด ๆ

"ว่าแต่ นับยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร"ฉันเดินไปเดินเคียงข้างเขาแล้วเอ่ยถาม.คนตัวโตหยุดชะงักแล้วหันมาที่ฉันหน้านิ่ง.

"รณ"เขาตอบกลับสั้น ๆ แล้วเอามือสอดไปในกระเป๋ากางเกงก้าวขายาว ๆ เดินนำไป

.

.

.

"เธออยู่กับแม่เลี้ยง?"ระหว่างทางที่คุณรณกำลังขับรถพาฉันไปที่ไหนไม่รู้ถามก็ไม่บอก อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นแต่สายตามองไปที่ถนน

"ใช่ค่ะ..ก่อนที่พ่อนับจะเสียท่านได้โอนบ้านและที่ดินเป็นชื่อน้าออยหมดทุกอย่างเพราะท่านคิดว่าเธอจะสามารถดูแลได้..."เขาเปิดเรื่องมาก่อนฉันจึงเล่าเรื่องดราม่าตัวเองทันที เผื่อเขาจะเห็นใจ

"...แต่เธอไม่ได้ดูแลนับอย่างที่พ่อคาดหวัง น้าออยกับพี่เอยใช้เงินของพ่อจนหมดรวมถึงเงินเก็บไว้สำหรับให้นับเรียนด้วย นับถึงต้องออกมาทำงานเลี้ยงดูตัวเอง มิหนำซ้ำเธอยังขายบ้านและที่ดินพ่อแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศกันสองแม่ลูก ยังหลอกให้นับมาเป็นของแถมบ้า ๆ นี้อีก"

"เธอก็แต่งเรื่องเก่งนะ"ฉันหันขวับไปที่คนตัวโตแล้วขมวดคิ้วจนเป็นปม เขาไม่เชื่อ? บ้าจริงพูดจนคอแห้งยังไม่เชื่ออีก เห็นฉันเป็นนักแต่งนิยายหรือไง

"...."ฉันเบือนหน้ามองไปที่ข้างถนนผ่านกระจกใสแล้วลอบถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นบรรยากาศก็เงียบกริบ ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพูดไปคนฟังก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งคุณรณเลี้ยวรถเข้ามาที่ผับแห่งหนึ่ง ซึ่งมีป้ายขนาดใหญ่ติดชื่อผับอยู่ว่า KAI

พอรถจอดสนิท ฉันก็ปลดสายเบลล์กำลังจะเปิดประตูรถ

"ตามติดฉันไว้ห้ามห่างจากฉัน"เสียงทุ้มดังมาจากข้าง ๆ

"ค่ะ"ฉันตอบรับแต่ในใจก็รู้สึกสงสัย ทำไมต้องติดกับเขาด้วย แต่ช่างเถอะ

พอลงจากรถฉันก็เดินตามคุณรณไปแบบติด ๆ ตามคำสั่งแอบประชดไปด้วย ฉันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้านในที่กว้างขวางอย่างตื่นเต้น ปลั่ก! ฉันเดินชนแผ่นหลังกว้างเข้าอย่างจังเมื่อคนข้างหน้าหยุดเดินโดยที่ฉันไม่เห็นมัวแต่ตื่นเต้นที่ได้เข้ามาในผับครั้งแรก

"ดูตาม้าตาเรือบ้างสิ!"ชายหนุ่มร่างสูงหันมาตวาดใส่ฉัน

"ขอโทษค่ะ"เสียงพ่นลมหายใจของคนตัวโตก่อนจะหันไปคุยกับพนักงานที่ยืนอยู่

"เรียบร้อยดีไหม"

"เรียบร้อยดีครับ คุณเทมเข้ามาตรวจงานช่วงเย็นแล้วรอบนึง"

"อืม....ให้คนเอาเมนูอาหารขึ้นไปที่ห้องทำงานด้วย"ว่าจบคุณรณก็หันมาที่ฉันที่ยืนก้มหน้าอยู่

"ตามมา"พอเขาก้าวขาเดินฉันก็เดินตามไปติด ๆ

คุณรณพาฉันเข้ามาที่ห้องทำงาน เขาเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานใหญ่แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ ส่วนฉันยืนนิ่งอยู่หน้าประตู

"ไม่ได้เอาก้นมาหรือไง"

"คะ"ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา

"ไปนั่ง.."ตวัดสายตาไปที่โซฟา

"...เดี๋ยวจะมีคนเอาเมนูมาให้อยากกินอะไรก็สั่งเอา...แล้วก็อยู่เงียบ ๆ ด้วยฉันจะทำงาน"

"รับทราบค่ะ"ฉันตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มหวาน จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรเลยนะ ยังมีน้ำใจพาฉันมากินข้าวด้วย ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตู ฉันจึงเป็นคนไม่เปิด เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ยกถาดวิสกี้พร้อมกับแก้วและน้ำเปล่า

"เดี๋ยวนับช่วยค่ะ"ฉันรับถาดเครื่องดื่มจากพนักงานมาตั้งไว้ที่โต๊ะกระจกกลางโซฟา

"ขอบใจนะ เอานี่เมนู"พนักงานสาวเอ่ยพร้อมกับยื่นเมนูให้ฉัน แล้วไปรินวิสกี้ใส่แก้วเดินไปตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานคุณรณ

"คุณรณทานอะไรคะ นับจะได้สั่งให้"ฉันเปิดเมนูอาหารดูแล้วพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้มองไปที่เขา

"ไม่ต้อง..."

"....เธอสั่งของเธอเถอะ"ฉันละจากเมนูแล้วหันไปยิ้มให้เขา แล้วก็สั่งอาหารกับพนักงานเสิร์ฟมาสองสามอย่าง บอกเลยว่าหิวมาก พอพนักงานเสิร์ฟออกไปฉันก็นั่งอยู่เงียบ ๆ ไม่ให้รบกวนคนทำงาน ฉันเผลอหันไปที่คุณรณที่นั่งทำงานด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วมีจังหวะที่ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มไปด้วย เขามีใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาวราวกับลูกคุณหนู มีจมูกโด่งเป็นสันเข้ากับใบหน้า เขาดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลยนะ แต่แค่บ้ากามเท่านั้น

_________________

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   ตอนจบ(ของแถมที่มีค่า)nc+

    ของแถมที่มีค่า ตอนจบตอนนี้ฉันนั่งรถมากับคุณรณและมีลูกนั่งตักอยู่เพื่อจะไปดูงานที่บ่อนหลังจากที่ได้พากันไปเลือกชุดแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว พอมาถึงสามีของฉันก็รีบลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่ฉันนั่ง แล้วคว้าลูกชายของเขาไปอุ้ม"เติร์ดมากับพ่อ"เจ้าตัวน้อยฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้อยู่บนอ้อมแขนคนเป็นพ่อ ส่วนฉันก็ปลดเบลล์แล้วลงจากรถเดินตามสองพ่อลูกเข้าไปในบ่อน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ฉันเคยได้อาศัยอยู่อาจจะไม่นานแต่ก็คุ้นเคยดี"สวัสดีครับคุณรณ คุณนับ"เป็นผู้จัดการที่ดูแลบ่อนกล่าวทักทายเมื่อเราสองคนก้าวขาเข้าไปในออฟฟิศ"ที่นี่เรียบร้อยดีไหม"คุณรณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ"เรียบร้อยดีครับ"ผู้จัดการหนุ่มตอบในขณะที่เจ้าของบ่อนอุ้มลูกไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่ฉันจะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ"เอาเอกสารมาให้ผมดูหน่อย""ครับ"สิ้นเสียงผู้จัดการก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วยกหูโทรศัพท์ก่อนจะพูดเข้าไปในสาย"ให้คนเอาน้ำมาเสิร์ฟคุณรณกับภรรยา และขนมให้คุณเติร์ดหน่อย"พูดจบ ผู้จัดการก็วางสายแล้วหยิบแฟ้มเอกสารสองสามแฟ้มมาวางไว้ที่โต๊ะกระจกตรงหน้าคุณรณ แล้วนั่งบนโซฟาตรงข้าม"อุ้มลูก..พี่ตรวจงานแปบ"สามียื่นลูกชายมาให้ ฉันก็รีบลูก

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   46(มันถึงเวลาแล้ว)

    มันถึงเวลาแล้วตอนนี้ทุกคนต่างพากันรุมกันอุ้มเจ้าเทวดาตัวน้อยของฉันกันด้วยความเอ็นดู"หน้าเหมือนรณตอนเด็กเป๊ะ"เป็นคำพูดของแม่คุณรณที่ในขณะที่ฉันหยัดกายลุกขึ้นหลังโดยมีสามีหน้านิ่งคอยพยุงขึ้นแล้วเอาหลังพิงที่หัวเตียง ระหว่างนั้นก็มีการรับขวัญหลาน ต่างคนมีของมารับขวัญหลานกันทั่วหน้า แม้แต่หญิงสาวปริศนาที่อยู่ข้างพี่ทอยตลอด ฉันรู้สึกสงสัยว่าเธอเป็นใคร จึงเอ่ยถามคุณรณเบา ๆ"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอคะ"คุณพ่อป้ายแดงก็หันไปที่ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะหันกลับมาบอกว่า"แฟนใหม่ไอ้ทอยเห็นว่าชื่อ ไผ่""แฟนใหม่พี่ทอย? ไปมีตั้งแต่ตอนไหนนะ"ประโยคสุดท้ายฉันได้พึมพำออกมาเบา ๆ พอได้ยิน"มันก็คบ ๆ เลิก ๆ มาหลายคนแบบนี้แหละ บางคนพี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย มันก็เลิกไปซะก่อน"คุณรณหันไปที่พี่ชายแล้วบ่นพึมพำ"นินทาอะไรพี่ทอย"นั้นเป็นเสียงของเทมโปที่เดินล้วงกระเป๋ามาที่เตียงฉัน"เหอะ"คนเป็นพี่กลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ"พี่รณ รู้หรือยังว่าพี่ต้องรัก กลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว"เทมโปเข้ามากระซิบเบา ๆ ที่กลางวง ต้องรัก? เป็นใครกัน ในขณะที่คุณรณสั่นหัวพรืด"แล้วพี่ชายมึงรู้ยัง"คุณรณคงจะหมายถึงพี่ทอย เทมโปผงกหัว"รู้...แต่ไม่เห็นมี

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   (45)น้องเติร์ดมาแล้ว

    น้องเติร์ดมาแล้วตอนนี้อายุครรภ์ฉันได้แปดเดือนแล้ว อีกเดือนเดียวฉันก็จะได้เห็นหน้า น้องเติร์ด หรือ ด.ช.รัชชนันท์ แล้ว นั้นเป็นชื่อที่ฉันกับสามีสุดหล่อหน้านิ่งช่วยกันตั้ง.คุณรณดูแลฉันเป็นอย่างดี เขาทำงานแค่ที่คาสิโนตรงกันข้ามบ้านที่เราอยู่รวมถึงไปดูแลโรงแรมที่สร้างโดยที่ดินพ่อฉันที่เขาได้ซื้อไป แต่ตอนนี้โอนมาเป็นของฉันแล้ว โรงแรมที่สร้างนั้นก็เพื่อเอาไว้ให้นักเล่นพนันที่มาจากต่างชาติได้พัก ในส่วนที่ตรงนั้นทำเล และวิวดีมาก ไม่ใช่แค่นักเล่นพนัน ยังมีนักท่องเที่ยวมาพักด้วย ส่วนบ่อนคุณรณก็ขอให้พี่ทอยเข้าไปดูแลให้ก่อน เพราะต้องคอยดูแลฉันฉันอยู่บ้านก็ไม่ได้เหงาอะไรเพราะมีพี่นุชมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนลูกซุบ คุณรณเอาไปฝากไว้ที่บ้านแม่ของเขาไว้ พี่นุชจะอยู่กับฉันจนคุณรณเลิกงาน เธอถึงจะกลับ"คุณรณมาแล้ว"ฉันหันไปที่ประตูบ้านก็เห็นว่าที่คุณพ่อเดินเข้ามา พี่นุชลุกจากโซฟาไปช่วยถือสูทและกระเป๋าทำงานของเขา ส่วนฉันนั่งพุงพุ้ยอยู่บนโซฟา ลุกแทบไม่ขึ้นเนื่องจากว่าฉันเป็นคนตัวเล็กแล้วลูกในครรภ์ค่อนข้างตัวใหญ่สมบูรณ์ หมอจึงแนะนำให้ทำการผ่าคลอด ชายหนุ่มหน้านิ่งปลดเน็กไทหลวม ๆ แล้วเดินมานั่งข้างฉัน ก่อนที่จะ

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   44(จดทะเบียน)

    จดทะเบียน"อืม พี่มั่นใจแล้วล่ะว่าเธอนั้นแหละที่พี่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วย"พอสิ้นเสียงหัวใจฉันก็เต้นโครมครามอย่างไม่มีจังหวะ และรู้สึกว่าดวงตาเกิดเห่อร้อนขึ้นราวกับกำลังจะหลั่งน้ำใส ๆ ออกมา"พะ พี่รณ..."ฉันเอ่ยเรียกชื่อว่าที่พ่อของลูกด้วยน้ำเสียงสั่นเทา"...ที่พี่พูดหมายความว่า""พี่เลือกเธอ"เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาแล้วเผยยิ้มบาง ๆ จากนั้นหยดน้ำตาฉันก็ไหลออกมาทันที มือหนาเอื้อมมาเช็ดหยดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ"นับ ดีใจที่สุดที่พี่เลือกนับ"ฉันพูดออกไปอย่างสะอึกสะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลไม่หยุด"ไม่ร้องนะครับ"น้ำเสียงทุ้มแฝงความอบอุ่นทำให้หัวใจฉันสั่นระรัว"ค่ะ"ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ คุณรณยกมือมาลูบหัวฉัน"จะเป็นแม่คนแล้วต้องไม่งอแงนะครับ"ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่จะมีคนคอยดูแลอย่างคุณรณคุณรณขับมาถึงบ้านหลังนึง ซึ่งใหญ่โตมาก ฉันรู้สึกตื่นตาและประหม่านิด ๆ กว่าคุณรณจะขับรถไปถึงที่จอดก็เกือบกิโล พื้นที่กว้างขวางสุด พอมาถึงที่จอดรถคุณรณก็ดับเครื่องยนต์แล้วหันมามองฉัน ตุ่บ ตุ่บ หัวใจฉันเต้นแรงมากด้วยอาการตื่นเต้น"ไม่ต้องตื่นเต้น พ่อแม่พี่ใจดี"ราวกับว่าจะรู้ว่าตอนนี้ฉันตื่นเต้นมา

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   43(มั่นใจ)

    มั่นใจRONระหว่างผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร ผมก็เผยยิ้มออกมาโดยไม่มีใครเห็น เพราะผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่รุ่นน้องคนที่เป็นรักแรกของผมคือ 'นับตังค์' ผมรู้สึกมีความสุขมากที่รู้ว่ารักแรกของผมตอนนี้กำลังจะเป็นแม่ของลูกอีกด้วยพอขึ้นมาบนห้องปิดประตูเรียบร้อยแล้ว นึกอะไรบางอย่างที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด จึงคว้าโทรศัพท์แล้วโทรหาไอ้ทอยพี่ชายต่างมารดาทันที ตื๊ด ตื๊ด(ว่าไง)"นับตังค์ท้อง"นั้นแหละคือสิ่งที่ผมจะทำ และไม่ได้จะบอกแค่ไอ้ทอยคนเดียว พรุ่งนี้หลังจากตรวจครรภ์เสร็จผมจะพาเธอไปเปิดตัวกับครอบครัว ที่ผมบอกกับทุกคนที่โต๊ะอาหารว่า มีคนที่จะใช้ชีวิตด้วยแล้ว นั้นก็คือนับตังค์ ผมมั่นใจแล้วล่ะ 'ผมรักเธอ'(อย่าบอกนะว่าแกทำนับท้อง)ไอ้ทอยพูดเข้ามาในสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแฝงความกังวล มันคงกลัวผมจะไม่รับผิดชอบนับตังค์แน่"อืม"ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ(แกต้องรับผิดชอบนะ ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูน้าเรอากับพ่อแน่)มันทำมาเป็นขู่ผม"งั้นฝากบอกด้วยนะว่าพรุ่งนี้จะพาลูกสะใภ้ไปไหว้"ทำไมรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมานะ เขินกับคำพูดตัวเอง?(ฮั่นแน่...สุดท้ายก็ตกหลุมรักของแถมแล้วสินะ)ไอ้พี่ชายตัวดีก็แซวผมขึ้นทันที

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   42(ไม่สำคัญ)

    ไม่สำคัญ"แม่..."พี่เอิงเอยอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะพาแม่ของเธอนั่งลงที่เก้าอี้"...พี่รณช่วยแม่เอยด้วย"เธอเอาฝ่ามือพัดที่หน้าแม่แล้วหันมาบอกกับคุณรณที่มองอยู่ด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่ฉันเองกับพี่นุชกำลังจะลุกจากเก้าอี้เพื่อจะไปดูด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอจะร้ายกับฉัน แต่พอเห็นเธอเป็นอะไรต่อหน้าแบบนี้ก็อดที่จะสงสารและเป็นห่วงไม่ได้"นับตังค์เธอไม่ต้อง...."แล้วเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาที่ฉัน"...ไปเอายาดมมา"ก่อนจะหันไปที่พี่นุชแล้วออกคำสั่งเสียงเรียบ"ค่ะ"พี่นุชเดินไปในทันที"พี่รณ..เอยคิดว่าแม่อาจจะต้องไปโรงพยาบาลนะคะ""ทำไมต้องไป แค่เป็นลมไม่ใช่เหรอ"ชายหนุ่มหน้านิ่งสวนกลับ"เอ่อ...ช่วงหลังมานี้แม่เอยทำงานหนักมักจะเป็นลมบ่อย ๆ แล้ววันนี้ยังต้องมาขนของให้นับอีก แม่คงจะเหนื่อยมาก"หันมามองขวางที่ฉัน ในขณะเดียวกันที่พี่นุชก็ถือแก้วร้อนที่มีควันขึ้นมา พร้อมกับยาดมมาด้วย"อะไรน่ะ"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าสงสัย"ยาหอมไง..พี่เห็นว่าน้าออยเป็นลมก็เลยต้มมาให้"พี่เอิงเอยไม่รับมองหน้าน้าออยที่นอนหลับตาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ฉันรู้ว่าเพราะอะไร"เอาให้แม่กินสิ"พี่นุชยื่นแก้วให้อึกครั้ง"แม่เอยไม่ชอบกินยาหอม

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   41(ขโมยมา?)

    ขโมยมา?หลังจากพี่เอิงเอยออกไป ฉันก็หันไปถามคุณรณด้วยความสงสัยต่อ"พี่เอยบอกว่าออกจากโรงเรียนเพราะนับ?""อืม"ชายหนุ่มหน้านิ่งตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ฉันได้ยินแบบนั้นก็ลอบหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่ใช่เรียนสำคัญ แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยว่าทำไมพี่เอิงเอยจะพูดเอาความดีเข้าตัวแบบนี้"หิวหรือยัง"นั้นเป็นเสียงของคุณรณที่เอ่ยถาม"นิดหน่อยค่ะ""งั้นเราลงไปทานข้าวกันเถอะ"พูดจบ คุณรณก็ลุกขึ้นจากโซฟา"ไม่รอทานพร้อมพี่เอยเหรอคะ"ฉันบอกออกไปด้วยความที่ยังน้อยใจ"ไม่ล่ะ ฉันหิว"พอสิ้นเสียงคุณรณก็เดินออกไปจากห้อง ส่วนฉันก็ต้องลุกเดินตามเขาไป ก็ได้สวนเข้ากับพี่เอิงเอย และน้าออย พอเห็นฉันก็พากันรีบคว้าแขนไปในห้องนอนเล็ก"มีอะไรกัน""แกบอกอะไรกับพี่รณหรือเปล่า"พี่เอิงเอยถามด้วยสีหน้าดูร้อนใจ"เรื่องที่พี่ไปโกหกเขาว่าออกจากโรงเรียนเพราะนับ?"ฉันรู้เลยจึงพูดขึ้น เธอคงจะกลัวว่าฉันจะไปบอกความจริงแน่ ๆ แต่ฉันไม่บอกหรอกเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"ใช่ แกได้ไปพูด....""นับไม่สนใจหรอกนะ นับก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย"ฉันแทรกพูดขึ้นแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ"เพราะแกท้องใช่ไหมพี่รณถึงได้เอาใจแก..บอกฉันมา!.""นับตังค์

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   40(ใครสั่งให้ย้าย)

    ใครสั่งให้ย้ายตอนนี้ฉันกำลังจัดเรียงข้าวของที่ขนย้ายมาจากห้องนอนใหญ่อยู่คนเดียวเพราะพี่นุชแยกตัวไปทำมื้อเย็นแล้ว ส่วนพี่เอิงเอยก็ถือวิสาสะพาน้าออยเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ซึ่งก็ไม่มีใครพูดห้ามอะไรเพราะถึงพูดไปเธอก็คงไม่ฟัง.ฉันเองก็ไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงด้วยปัง! ปัง! ฉันสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงทุบประตูห้อง ตามด้วยเสียงของสองแม่ลูก"นังนับ!""เปิดประตูสิ!"เฮ้อ..ฉันพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้ววางมือเดินไปเปิดประตู"มีอะไรคะ"ฉันเอ่ยอย่างเอือมระอา"ทำไมแกถึงยังหน้าด้านอยู่ที่นี่"นั้นเป็นคำถามของแม่เลี้ยง"..."ฉันไม่ตอบได้แต่ยืนจ้องหน้าเธอกัดฟันแน่น"แกมองฉันแบบนี้หมายความว่าอะไร""แกจะทำอะไรแม่ฉัน!"คนเป็นลูกสาวแทรกตัวมายืนตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าเอาเรื่อง"...."ฉันเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วลอบหายใจเบา ๆ"แกจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหรอก...ฉันจะให้พี่รณไล่แกออกจากบ้านนี้ไปแน่""ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม...นับจะได้ไปจัดของต่อ"ฉันไม่สนใจคำพูดของลูกสาวแม่เลี้ยง แล้วพยายามจะหลีกเลี่ยงทั้งคู่ ระหว่างที่กำลังจะเอื้อมไปปิดประตู"เอ๊ะ..นังนับนี่แกอ้วนขึ้น?"พี่เอิงเอยเป็นคนทักเธอได้หลุบตามองที่หน้าท้องของฉันที่มีนูน ๆ ออ

  • ก็แค่ของแถม (set..ก็แค่)   39(ต้องรู้ให้ได้)

    ต้องรู้ให้ได้หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จพอเปิดประตูออกมาก็พบกับความว่างเปล่าไร้ตัวตนพ่อของลูก จึงรีบสวมใส่เสื้อผ้าแล้วรีบลงมาจากห้อง.แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกเจ็บที่หัวใจราวกับมีคนเอามีดมาทิ่งแทง"นับไปทานข้าวสิ พี่ตักข้าวต้มไว้ให้แล้ว"พี่นุชเดินเข้ามาสะกิดที่ไหล่จนทำให้ฉันสะดุ้งรีบยกมือปาดน้ำตาที่มันคลอเบ้า"ให้พวกเขาทานกันไปก่อนดีกว่า...เดี๋ยวนับค่อยไปทานทีหลัง""เฮ้อ...ไม่รู้ว่ายัยเอยทำของใส่คุณรณหรือเปล่าทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนไปแบบนี้..."เธอถอนลมหายใจแล้วหันไปมองชายหญิงที่นั่งทานมื้อเช้าอย่างกะหนุงกะหนิงราวกับคนรักกัน"....ไม่แคร์นับบ้างเลยทั้งที่กำลังจะเป็นพ่อของลูกในทัองนับ""ช่างเขาเถอะพี่ นับคงไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขาและที่เขาดีกับนับก็เพราะ...ลูก"ฉันเอามือลูบที่ท้องแล้วก้มลงมองอย่างสะเทือนใจ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าคุณรณจะดูแลและดีลูกฉันหรือเปล่าถ้าหากเขาจะเลือกพี่เอิงเอยเป็นคู่ชีวิต แต่กับฉันแล้วไม่ว่าจะยังไงลูกก็คือสิ่งที่มีค่าและเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับฉัน"นับขึ้นไปบนห้องก่อนนะ ถ้าพวกเขาไปแล้วช่วยไปตามนับด้วย""จ๊ะ"พี่แม่บ้านตอบรับสั้น ๆ แต่ส

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status