"...คนของเราส่งข่าวมา ผู้ชายคนนั้นตามพรรคพวกมาที่คลับของไมเคิลครับ" อาชารายงานผู้เป็นนายทันทีที่ได้รับข่าวสาร
ฮันนี่กลืนน้ำลายเหนียวลงคอหนักๆ แน่นอนว่านักธุรกิจอย่างอาร์ตเขามีพรรคพวกของเขาเหมือนกัน ยอมรับว่าเธอลืมข้อนี้ไปเสียสนิท เธอเลือกที่จะปล่อยให้คนของผู้ชายแปลกหน้าลงไม้ลงมือกับเขา ลืมคิดเสียสนิทว่าคนอย่างเขาจะต้องกลับมาเอาคืน และอาร์ตก็กลับมาเอาคืนเร็วเหลือเกิน! "ไปที่เพนต์เฮาส์" มาเฟียหนุ่มออกคำสั่ง ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้หลุดความรู้สึกใดๆ ออกมาทั้งนั้น ปราศจากความกังวล ออกจะไร้ความรู้สึกด้วยซ้ำไป หากจะบอกว่าออนตินไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทรายงานก็คงได้เช่นกัน "คุณ แล้วเรื่องเขาคนนั้นล่ะ" ฮันนี่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างชั่งใจ ยอมรับตรงๆ ว่าเธอเริ่มนั่งไม่ติดที่ "หลังจากที่เธอสร้างวีรกรรมเอาไว้ เป้าหมายของเธอมันก็กลายเป็นไอ้เวรนั่นถูกรึเปล่า?" "ห๊ะ! วีรกรรมอะไร? เอาไว้ก่อนเถอะ อาร์ตมีพวกพ้องอยู่พอสมควร ฉันลืมไปเลยว่าการทำแบบนั้นมันจะทำให้เขาโกรธมาก" "มันจะทำอะไรคนอย่างฉันได้" ฮันนี่รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่มันกลับเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพราะคำพูดประโยคถัดมาก็ส่งผลให้ตัวของเธอหดเกร็ง ลดลงเล็กมากเพราะความรู้สึกห่อเหี่ยวใจ "มันทำอะไรฉันไม่ได้...แต่กับเธอก็อาจจะไม่แน่" "คุณ ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ล่ะ" "เธอเป็นคนอนุญาตให้คนของฉันกระทืบมันนี่นา" ฮันนี่กลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ ถูกแหละ เธอเป็นคนอนุญาตให้คนของเขากระทืบแฟนเก่าเธอเอง! ลำพังตัวเธอคนเดียวคงไม่เท่าไหร่ แม่เธอล่ะ แม่เธอจะเดือดร้อนเพราะเขาไหม? "คุณ ความโกรธมันทำให้ฉันไตร่ตรองน้อยเกินไป คุณกล้าทำเขา คุณดูไม่กลัวเขา คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ" คำขอร้องส่งผลให้มาเฟียหนุ่มเปล่งเสียงให้เล็ดลอดผ่านลำคอ กรามหนาบดเข้าหากันแน่น ผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เป็นสาเหตุของฝันร้าย เขาควรปล่อยให้ตายไปซะ "...ฉันจะรับข้อเสนอของเธอมาพิจารณา ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ" ฮันนี่ห่อไหล่เข้าหากันพลางเบือนสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างคิดไม่ตก การบอกเลิกและตัดขาดจากผู้ชายเฮงซวย คือสิ่งที่เธออยากทำและเธอมั่นใจว่าเธอสามารถทำได้ แต่เธอดันพลาด โทสะที่มีมันทำให้เธอพลั้งปาก สั่งคนให้กระทืบเขา ลืมไปว่าเขาสามารถทำให้ความซวยมันบังเกิดกับชีวิตของเธอได้ตลอดเวลาเช่นกัน ฮันนี่นะฮันนี่! ไม่น่าเลยจริงๆ เพนต์เฮาส์ของออสติน ความหรูหราในโทนสีดำสนิทส่งผลให้ขนอ่อนลุกซู่ไปทั้งกาย ภายในห้องชุดเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา คงไม่สามารถประเมินราคาเป็นตัวเลขกลมๆ ได้ว่าที่แห่งนี้มันมีราคามากสักเท่าไหร่ เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องหยุดลง เป็นจังหวะที่คำถามถูกตั้งขึ้นมา "เธอจำที่นี่ได้รึเปล่า" ขนตางอนยาวที่โอบล้อมหน่วยตาสวยตวัดมองออกไปรอบๆ เพนต์เฮาส์หรู เอาตรงๆ แม้ไม่ต้องมองเธอก็ต้องตอบได้อย่างเต็มปากว่าเธอไม่รู้จักที่นี่ "ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะมาจำที่นี่ได้ยังไงในเมื่อฉันมาที่นี่เป็นครั้งแรก" "หึ..." มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน นิ้วยาวเลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท ออสตินมีวิธีเปิดปากผู้หญิงปากแข็งที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที "คะ คุณ คุณถอดเสื้อทำไมอ่ะ" "ผู้หญิงที่ขาดผู้ชายไม่ได้ เจอกลิ่นดีๆ แล้ววิ่งเข้าใส่ บางทีร่างกายของฉันมันอาจจะเงื้อมปากเธอให้เปิดได้เป็นอย่างดี" "ขาดผู้ชายไม่ได้? เดี๋ยวนะ เราเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นคุณมีสิทธิ์มากล่าวหาฉันแบบนี้ด้วยเหรอ" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มบนมุมปาก หนุ่มหล่อกระชากเสื้อเชิ้ตจากลำตัวหนา พร้อมกับการปามันทิ้งไปอีกทาง อวดร่างกายสมส่วนกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามให้ปรากฏแก่สายตา "บ้าเอ๊ย!" ฮันนี่ถอยหลังกรูด ตอนแรกเธอต้านทานเขาไม่ไหว ทางออกแรกคือคิดที่จะเจรจาอีกครั้งในตอนที่อยู่บนรถ สุดท้ายเรื่องราวของแฟนเก่าที่กำลังตามล่าเธอและคนที่ทำร้ายเขา ทำให้เธอต้องมาที่นี่อย่างไม่มีทางเลือก และตอนนี้เธอก็ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย "คะ คุณต้องการอะไรอ่ะ ตัวฉันงั้นเหรอ" "ฉันไม่เคยต้องการผู้หญิงอย่างเธอ มีแต่ผู้หญิงอย่างเธอนั่นแหละที่ต้องการฉัน" "ห๊ะ! บ้าบออะไรเนี่ย ฉันไม่ได้กระหายผู้ชายขนาดนั้นนะ ฉันมีแฟน และฉันก็พึ่งเลิกกับแฟนเพราะมันเฮงซวย คุณก็เห็นแล้วคุณใช้อะไรมาตัดสินฉันว่าฉันจะต้องการคุณ" หมับ~ ปึก~ "โอ๊ย!" ฮันนี่ร้องลั่น เมื่อข้อมือถูกกระชากอย่างแรงจนกระทั่งร่างบอบบางกระแทกเข้ากับร่างสมส่วนกำยำ ปลายจมูกเชิดรั้นฝังเข้ากับอกเปลือยขาว ผิวของเขามันช่างละเอียด โพรงจมูกสัมผัสกับกลิ่นตัวที่หอมสะอาดสะอ้านพานให้ใจดวงน้อยสั่นขึ้นมาอย่างหนัก ไม่เคยเลยที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ชายในระยะนี้ อุ้งมือหนาคว้าหมับที่ปลายคางมนก่อนจะดันให้เชิดขึ้น ส่งผลให้ดวงตากลมสวยประสานเข้ากับดวงตาคมกริบไปโดยปริยาย "จำได้รึเปล่าว่าเธอเคยยื่นข้อเสนออะไรให้กับฉัน" ฮันนี่สั่นศีรษะรัวๆ แม้มันจะทำได้อย่างยากลำบาก ใบหน้าของเธอแทบจะขยับไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็จำเป็นต้องปฏิเสธเพราะเธอไม่ได้รู้จักเขาจริงๆ นึกแล้วนึกอีก นึกยังไงก็ไม่มีทางนึกออก เธอไม่รู้จักเขา ไม่เคยพบหน้า ไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกันทั้งนั้น เธอต้องใช้อะไรอธิบายเขาถึงจะเข้าใจเธอ! "ถ้าเธอจำไม่ได้ ฉันก็จะเป็นคนทบทวนความจำให้กับเธอเอง" นัยน์ตาดำสนิทเกรี้ยวกราดจ้องมองที่เรียวปากเอิบอิ่ม แว๊บหนึ่งที่มาเฟียหนุ่มหงุดหงิดเพราะความดึงดูดของหญิงสาวเบื้องหน้า ความเด็ดเดี่ยวทว่ามีบางอย่างที่มากกว่านั้นในดวงตา ใบหน้าที่สวยเฉี่ยวจนหาตัวจับได้ยาก ทุกอย่างลงตัว มันไม่แปลกที่ซานย์ นายแพทย์หนุ่มจากโรงพยาบาลชื่อดังที่อดีตเคยเป็นเพื่อนรักของเขาจะรักผู้หญิงคนนี้จนหมดหัวใจ และไม่แปลกหากผู้ชายเฮงซวยที่เธอพูดถึงซึ่งมีดีกรีเป็นคนที่เธอเคยคบหาในภายหลังจะอาลัยอาวรณ์ เสียดายนักหนา หึงหวงแม้ในตอนที่เขาถึงตัวเธอด้วยการโดนข้อมือ มันไม่มีหรอก มันไม่มีอะไรแปลกเลย! "ข้อเสนอของเธอ มันคือการท้าทายให้ฉันลอง" "ละ ลอง...ลองอะไรอ่ะ" ดวงตากลมสวยสั่นระริก ไม่กล้าแม้จะขยับริมฝีปากเพื่อเอ่ยออกมาดังๆ กลัวเหลือเกินว่าหากเธอขยับปากมาจนเกินไป ปากของเธอมันจะสัมผัสและประกบเข้ากับริมฝีปากหยักได้รูปของชายแปลกหน้าที่เพิ่งจะพบเจอกัน "ลองช่วงชิมร่างกายทุกสัดส่วนของเธอ ลองเปิดรับเซ็กซ์ของเธอ ยอมรับสัมผัสจากเธอ นี่คือข้อเสนอของเธอ..." ------- เรื่องมันเป็นไงมาไงนะ รอลุ้นไปด้วยกันนะคะ ^^~"มันไม่เกินไปเหรอครับ" "มึงไม่เห็นเหรอว่ายัยนั่นปีนเกลียวกับกูแค่ไหน กูนอนด้วย ไม่ได้หมายความว่ากูจะยอมทุกอย่างนะอาชา" "แต่ตอนนี้ฝนแรงมากเลยนะครับ คนมองเยอะอีกต่างหาก" "ใครเข้ามาเสือกมึงก็บีบแตรไล่มัน" อาชาเผลอถอนลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขารู้ว่าการปล่อยปละละเลยทุกอย่างมากเกินไป ออสตินจะเสียการควบคุม แต่นี่มันก็เกินไป"ไม่สงสารเธอหน่อยเหรอครับ อย่างน้อยๆ คุณฮันนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฝันร้ายของนายหายไป" "ปกติมึงไม่ยุ่งขนาดนี้นะอาชา ยัยนั่นเป็นเมียมึงรึไง!" "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่ทำร้ายเธอแน่นอน" "..." "ไม่ใช่แค่กับคุณฮันนี่หรอกนะครับ แต่หมายถึงกับผู้หญิงทุกคน" "..." "รู้แหละครับว่านายไม่จริงจัง แต่ถ้ายังอยากได้จนยอมจ่ายถึงวันละสองหมื่น ดูแลเอาหน่อยครับ เดี๋ยวเธอจะเปลี่ยนใจ" อาชาจี้ได้อย่างถูกจุดมาเฟียหนุ่มไม่ยอมเสี่ยงหรอก เขาไม่ยอมเสี่ยงที่จะปล่อยเธอไปแน่หากยังไม่ได้พิสูจน์ว่าในวันที่ไม่มีผู้หญิงคนนี้จริงๆ ฝันร้ายมันจะยังอยู่หรือเปล่า"เปิดประตู" สุดท้ายออสตินก็เลือกที่จะเอ่ยคำนี้ออกมาคนสนิทของมาเฟียจัดการประตูให้เปิดออกอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็
ฮันนี่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ แต่กลับเจอกับอาชาที่ยืนรออยู่คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาหนักๆ สุดท้ายก็จำใจถามออกไป"มีอะไรอีก" "นายให้ผมมารับคุณฮันนี่ครับ รถจอดรออยู่ทางด้านโน้น เราไม่ควรปล่อยให้นายรอนาน" คนสนิทของมาเฟียผายมือไปอีกด้าน คิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงของเจ้านายคงไม่พอใจแน่"วันนี้ฉันมีเรียน และนี่มันก็มหา'ลัย เขาไม่ล้ำเส้นฉันเกินไปเหรอ?" "ผมเคลียร์กับอาจารย์ให้แล้วครับ รับรองว่าการไปกับนายมันจะไม่มีผลกระทบอะไร" "อ้อ...มีอำนาจเหลือเกินนะ คนอย่างเขาอยากได้อะไรเขาก็จะเอาให้ได้จริงๆ" ฮันนี่ยกมือขึ้นสางเส้นผมของตัวเองอย่างหงุด สุดท้ายก็ยอมเดินไปตามทิศทางที่อาชาบอกแต่โดยดีเครื่องปรับอากาศภายในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาชาเคลื่อยรถออกจากมหา'ลัย เป็นจังหวะที่ผู้เป็นเจ้านายของเขาเปิดประเด็นขึ้นมา"ทีหลังอย่าเดินหนีฉันแบบนั้นอีก ฉันไม่ชอบในสิ่งที่เธอทำ" "ฉันเองก็ไม่ชอบสิ่งที่คุณทำเหมือนกัน ฉันควรมีเวลาส่วนตัวของฉันบ้าง ที่นั่นเป็นมหา'ลัย มันไม่ควรมีใครต้องไปยืนทะเลาะกันจริงๆ" "อาชา" "ครับ" "จัดการไอ้เวรนั่นด้วย ทำให้มันหยุด และไม่กล้าเข้ามาทำให้ฉันรำคาญอีก" ฮันนี่ขมวดคิ้วทันที"คุณ
หมับ~ "อย่าเดินหนีฉัน!" ออสตินออกคำสั่งขณะบีบข้อมือเล็กเอาไว้แน่นเขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงจะใจอ่อนกับแฟนเก่าแค่ไหน ไม่รู้ว่าเธอจะชอบสิ่งที่ไอ้เวรนี่ทำหรือไม่ และไม่รู้ว่าเธอยังอยากลองกลับไปคบกับมันอีกหรือเปล่า สิ่งเดียวที่เขารู้ ตราบใดที่ฮันนี่ยังเป็นคนของเขา ใครไหนหน้าก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวาย"ฉันอายคน" "เธอไม่..." "ย้ำนะออสติน ฉันอายคนอื่น อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว คุณกลัวว่าคนอื่นจะมายุ่งกับของเล่นของคุณมันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอร้องเถอะนะ การที่คุณมาประกาศต่อหน้าคนอื่นว่าได้ฉันแล้ว มันทำให้คนอื่นรับรู้และตราหน้าว่าฉันโคตรง่ายเลย" ฮันนี่ปัดมือหนาออกห่างอย่างไม่ใยดีต่อให้จะสำเหนียกสถานะของตัวเองดีแค่ไหน ลึกๆ แล้วมันก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี"หึ ต่อให้มึงจะได้ตัวเขา มันก็ไม่ได้หมายความว่ามึงรู้จักเขาที่สุด" อาร์ตยิ้มเยาะ เขามั่นใจว่าเขารู้จักฮันนี่ดีในระดับหนึ่ง สีหน้าที่เธอแสดงมันออกมาเมื่อสักครู่บ่งบอกชัดเจนว่าเธอไม่พอใจ"เสือกไรกับกู" น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดและการกัดกรามจนเป็นสันนูน เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้อาชาที่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ รู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนายขอ
มหาวิทยาลัย"วิดวิ้ว~" เสียงแซวดังมาตามสายลมในยามที่ร่างแบบบางในชุดนักศึกษาที่กระโปรงทรงเอสั้นเพียงต้นขา เสื้อสีขาวสะอาดเรียบกริบพอดีตัวเป๊ะใบหน้าที่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่งแต้มด้วยความสำอางบางๆ วันนี้ฮันนี่ดัดผมเป็นลอนในช่วงปลาย ผิวทั้งตัวขาวละเอียดสมกับที่ดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดีและเข้าคลินิกเติมวิตามินผิวอยู่สม่ำเสมอ รองเท้าส้นเข็มที่ฮันนี่สวมใส่ส่งผลให้คนตัวเล็กดูเพียวขึ้นกว่าเก่า ไม่แปลกที่อดีตเคยเป็นถึงดาวคณะ"ฮันนี่ ทางนี้" โมจิโบกไม้โบกมือ กระตุ้นให้เพื่อนสาวที่สวยและฮอตมากของเธอดูโดดเด่นมากกว่าเก่า หนึ่งในสายตาหลายต่อหลายคู่มีดวงตากลมสวยของสาวสวยในกลุ่มของเดือนคณะที่มองตาม"วันนี้แกสวยจัง" "อะไรอ่ะ มาไม้ไหนไม่ทราบ" ฮันนี่ปลดกระเป๋าสะพายข้างออกมาบ่า วางลงบนโต๊ะตามด้วยการล้วงโทรศัพท์ออกมา"ความขาวออร่าเจิดจ้ามาตั้งแต่ไกลๆ แบบนี้ไหมนะ พี่แบงค์เจ้าของโชว์รูมรถถึงได้อยากให้โอกาสสาวสวยคนนี้ไปร่วมงาน""หืม? พี่แบงค์ ฉันเสียมารยาททิ้งเขาไว้แบบนั้นเขายังจะให้โอกาสฉันงั้นเหรอ" "ใช่จ้ะ เขายังรอแกอยู่นะ นี่...ถามจริงเถอะ ช่วงนี้แกเช็กดวงรายวันมาบ้างปะ รู้สึกว่าช่วงนี้แกขาขึ้นนะ ดวงดี
"อื้อออ!" ฝ่ามือเล็กขยุ้มผ้าปูที่นอนอย่างแรง พอๆ กับฝ่าเท้าที่จิกเกร็งลงบนบ่ากว้างเรี่ยวแรงของร่างกายดับวูบเมื่อริมฝีปากร้อนฉกชิมเข้ากับใจกลางความเป็นสาวในเวลาอันรวดเร็วนิ้วยาวเหยียดแหวกกลีบสีชมพูเรื่อ ลากปลายลิ้นไปกับเนินสามเหลี่ยมอวบนูนไร้ขนอ่อนตามด้วยการกดปลายนิ้วเข้าหาร่องแคบ กระทั้นเข้าลึกจนสุดความยาวของมันในครั้งเดียว"ออสติน..." เสียงครางเพราะความเสียวซ่านสร้างความพึงพอใจให้กับมาเฟียหนุ่มไม่น้อยดวงตาคมที่ประกายความพอใจตวัดขึ้นมองใบหน้าสะสวย กลีบปากร้อนบดเข้ากับจุดอ่อนไหว ขบเม้มสลับกับการตวัดปลายลิ้นทักทายแรงๆ"อ๊ายยยย!" ฮันนี่ปลดปล่อยมวลน้ำหวานออกมาอย่างสุดจะกลั้น มาเฟียหนุ่มรั้งปลายนิ้วที่ควานเข้ากับผนังอ่อนนุ่มจนกระทั่งเธอสุขสมกลับพลางยกยิ้มที่มุมปากไม่ลืมที่จะสอดปลายนิ้วที่เปรอะธารน้ำหวานเข้ามาในช่องปาก การดูดแรงๆ แล้วกลืนกินทำฮันนี่ตาโตทันที"บ้า คุณมันโรคจิต" "หึ" ออสตินไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าเท่าไหร่นัก หนุ่มหล่อหยัดตัวลุกจนเต็มความสูง ปลดเข็มขัดหนังพลางถอดกางเกงที่สวมใส่ จ่อความใหญ่โตเข้าหาช่องทางคับแคบ ก่อนจะอัดกระแทกเข้าใส่จนสุดความยาวของมันในครั้งเดียวปึก! "อ
"แม่..." ฮันนี่อมยิ้มให้กับคำพูดที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแม้กับอาร์ตแฟนเก่าที่เธอคบหามาเป็นปีๆ แม่ก็ไม่เคยชมจนออกนอกหน้าแบบนี้เหมือนกัน"ฮันนี่ ตักข้าวได้แล้วลูก" "ค่าา รับทราบค่ะ" คนที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาฉีกยิ้มกว้าง ฮันนี่รีบลุกขึ้นตักข้าว การเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาของอีกคนตลอดเวลา"แม่ว่าแบบเผ็ดก็อร่อยนะลูก รสจัดจ้าน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยน""ครับ" "นี่ คุณพูดกับแม่เยอะๆ หน่อยสิ ปกติแม่ไม่ค่อยคุยกับใครแบบนี้เลยนะ" "แม้กับแฟนเก่าเธอ?" ออสตินถามออกมาแบบซึ่งๆ หน้า เลยเป็นฮันนี่ที่เลิ่กลั่กก่อนจะรีบพยักหน้าออกมา"อือ" "หึ..." รอยยิ้มเย้ยหยันบนมุมปาก แสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยากจะเชื่อเท่าไหร่นักแต่ก็เอาเถอะ เรื่องนั้นค่อยเคลียร์ทีหลังก็แล้วกัน"แม่ขา กินเยอะๆ เลยนะ แม่ทำงานหนักทุกวันเลยอ่ะ" "ลูกคนนี้นี่ ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นสักหน่อย" "ไม่เชื่อหรอกค่ะ ยืนจับตะหลิวจนข้อมือร้าวหมดแล้วมั้ง คอยดูเถอะ วันไหนรวยขึ้นมา จะบังคับให้แม่เลิกขายของทันทีเลย แม่ต้องรับปากหนูด้วยนะ วันไหนรวย เราจะสวยและสบายไปด้วยกัน" "ดูพูดเข้า แม่ไม่เลิกหรอก ให้อยู่เฉยๆ แม่ทำไม่ได้หรอกนะ ลูกสาวแม่ตัวเล