"นี่คุณ ปล่อยฉันนะ" ฮันนี่เงยหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่า พยายามที่จะใช้มืออีกข้างแกะมือหนา แต่เจ้าของมือกลับเลือกที่จะยึดแน่นไม่ปล่อยพร้อมกับไหวไหล่ไปมา
"คุณ" "เธอมีคนอื่นเหรอฮันนี่ ไหนบอกว่าตัวเองดีนักหนาไง" อาร์ตจ้องหน้าแฟนสาวเขม็ง กรามบดเข้าหากันแน่นในตอนที่มองเห็นแขนเรียวถูกกุมไว้ด้วยมือของผู้ชายอีกคน "ฉันไม่เคยบอกว่าตัวเองดี แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่เอากับคนอื่นทั้งที่มีแฟนอยู่แล้วแน่นอน" "ฮันนี่!" "ไสหัวไป อย่ามายุ่งกับฉัน เราเลิกกัน" "มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกฮันนี่ คิดว่าสถานะอย่างเธอไปจากคนอย่างพี่ได้หรือไง" "ให้กระทืบให้ไหม" ออสตินเอ่ยถามพลางแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน ผลประโยชน์อยู่ข้างหน้า คนโง่เท่านั้นแหละที่จะไม่คว้าเอาไว้ "จัดไปดิ เอาให้จมตีน" ริมฝีปากเอิบอิ่มเอ่ยออกมาอย่างเลือดเย็น ขณะที่ลูกน้องคนสนิทของออสตินเริ่มงานทันที "ลูกน้องของฉันชื่ออาชา งานดีฝีมือใช้ได้ รู้ใช่ไหมว่าทุกอย่างมันมีราคาที่ต้องจ่าย" "หยุดโม้ก่อนได้ไหม สั่งสอนไอ้ผู้ชายเฮงซวยนี่ให้มันเลิกยุ่งกับฉัน แล้วเราค่อยมาตกลงกัน" "กระทืบมัน" สิ้นคำสั่ง อาร์ตถอยห่างด้วยความตกใจ ขณะที่อาชาตวัดขายาวถีบเข้าที่กลางกายของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว พลั่ก! "อ๊ากก แม่งเอ้ย!" นักธุรกิจหนุ่มล้มลงไม่เป็นท่า กลางลำกายไม่ใช่ที่ที่ควรแตะต้องกันง่ายๆ อาร์ตทิ้งตัวกุมกลางกายพลางหลุดใบหน้าเหยเก "สภาพนี้ ครั้งเดียวก็น่าจะพอนะครับ" อาชาหันมองหญิงสาวที่ยืนเคียงข้างผู้เป็นนาย น่าแปลกที่เธอกลับเลือกที่จะออกคำสั่งให้เขาบริหารขาและหน้าแข้งต่อไป "เอาอีก แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่มันทำกับฉัน คิดว่ารวย คิดว่ามีเงินแล้วจะกลายเป็นคนที่วิเศษที่คิดอยากทำอะไรก็ทำได้แบบนั้นหรือไง ถ้ายังอยากสืบพันธุ์กับใครก็ได้ก็บอกเลิกฉันสิวะ อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ได้เสียใจหรือน่าเจ็บใจเท่ากับการถูกนอกกายนอกใจแบบที่ผู้ชายเฮงซวยอย่างแกทำ!" "ฮะ ฮันนี่" พลั่ก! พลั่ก! "โอ๊ย" ภาพที่นักธุรกิจหนุ่มซึ่งใครต่อใครต่างรู้จักเขาในฐานะแฟนของเธอที่ยกแขนขึ้นมาตั้งการ์ด บดบังใบหน้าจากฝ่าเท้าที่กระแทกเข้าใส่ซ้ำๆ ฮันนี่ยกมือขึ้นตบแก้มของตัวเองเบาๆ เป็นเชิงเรียกสติพลางแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยมันทำให้เธอเจ็บก่อน มันก็สมควรแล้วที่จะได้รับความเจ็บปวดในรูปแบบเดียวกันกลับไป เวลาต่อมา "ขอบใจนะที่คุณอุตส่าห์ให้คนของคุณกระทืบคนให้ฉัน" ออสตินรับเครื่องดื่มจากมือลูกน้องคนสนิท มาเฟียหนุ่มพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าระหว่างหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าและผู้ชายที่ลูกน้องของเขาเพิ่งกระทืบมาอะไรเป็นอะไร แต่เรื่องนั้นมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสนใจสักเท่าไหร่ "พึ่งรู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะใจเด็ดมากขนาดนี้" "เอ่อ...ก็เขาทำฉันก่อน แต่รับรองนะ ฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว" ที่ต้องพูดเพราะเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนจะเจอหน้าแฟนเก่าอย่างอาร์ต เธอกำลังเดินหนีเพื่อที่จะเอาตัวรอดจากผู้ชายคนนี้ เหตุผลเพราะดันไปได้ยินบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความลับหรือสิ่งที่ไม่ควรมีคนนอกรับรู้ "อ้อ คุณบอกว่าทุกอย่างมันมีราคาที่ต้องจ่าย วันนี้ที่ฉันรับงาน พี่ไมค์ต้องจ่ายฉันสองหมื่น เอาเป็นว่าฉันแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง ตอบแทนที่คุณช่วยฉันก็แล้วกัน" "เธอจะตอบแทนฉันด้วยเศษเงินแค่นั้นน่ะเหรอ" "เศษเงิน? อ้อ ลืมไป" ฮันนี่หัวเราะออกมาเบาๆ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทุกการกระทำของเธอ อยู่ในสายตาของคนสองคนตลอดเวลา "คุณรวยนี่นา เงินแค่นี้มันอาจจะไร้ค่าสำหรับคุณ ถ้าฉันจะขอให้คุณถือซะว่าช่วยผู้หญิงที่กำลังจนตรอก แบบนั้นพอได้ไหมคะ" คำขอที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาสร้างความแปลกใจให้กับออสตินอยู่ไม่น้อย มาเฟียหนุ่มกดปลายลิ้นที่มุมปากพลางตวัดสายตาไปยังลูกน้องคนสนิท อาชาส่ายหน้าเบาๆ ประวัติของฮันนี่ที่ถูกตรวจสอบโดยเร่งด่วน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนคนหนึ่งที่เคยหายไป น่าแปลกที่ใบหน้ามีส่วนที่คล้ายกัน "ฉันไม่ชอบถูกหลอกใช้" คนฟังเสียวสันหลังวาบ หญิงสาวเลือกที่จะคว้าแก้วเครื่องดื่มมาจรดที่ริมฝีปากตามด้วยการกระดกหนักๆ เพื่อดับกระหาย แอบยอมรับว่าคำพูดของเขามันทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจ "คะ คุณต้องการอะไร" "จำฉันให้ได้ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป" มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งที่ใบหน้าสะสวย แววตาของเธอมันช่างใสซื่อ แต่มันอาจจะเต็มไปด้วยมารยาหลายร้อยเล่มเกวียน "ห๊ะ..." เสียงตอบรับสั้นๆ ดับความมั่นใจของมาเฟียหนุ่มให้ลดฮวบ "นึกให้ออก จำฉันให้ได้แล้วยอมรับออกมา แล้วฉันจะปล่อยเธอไป" อาชาเบือนหน้าออกไปอีกทาง รู้ดีว่าหากผู้หญิงคนนี้จำผู้เป็นนายของเขาได้ เธอไม่มีวันถูกปล่อยตัวไปอย่างแน่นอน "คุณ คุณดูละครมากเกินไปหรือเปล่า เราไม่รู้จักกัน ฉันไม่รู้จักคุณ ฉันมาทำงานเพื่อหาตังค์ และฉันก็ยืนยันกับพี่ไมค์ชัดเจนแล้วว่าฉันไม่รับงานอื่นนอกเหนือจากการเอ็นเตอร์เทนธรรมดา เอางี้ปะ คุณปล่อยฉันไปซะแล้วฉันจะหายไปพร้อมกับความลับของคุณ" "เธอมีสิทธิ์ต่อรองกับฉันเมื่อไหร่? เอาตัวไป" "ดะ เดี๋ยวคุณ เรามาตกลงกันดีๆ ดีกว่าไหม คุณจะพาฉันไปไหน สองหมื่น คุณเอาเงินฉันไปหมดเลยก็ได้" "เก็บเศษเงินของเธอไว้กินข้าวเถอะ สิ่งที่ฉันต้องการจากเธอมันไม่ใช่เงิน" มาเฟียหนุ่ม กระแทกเครื่องดื่มลงบนเคาน์เตอร์ มือหนาจัดแจงสูทราคาแพงให้เข้าที่เข้าทาง ขณะที่ตัวของเธอถูกล็อคด้วยน้ำมือของชายหนุ่มที่ชื่อว่าอาชา เป็นอะไรที่บ้าบอชะมัดเมื่อคนที่อยู่ในละแวกข้างเคียงไม่มีใครให้ความสนใจหรือเข้ามายุ่งกับเธอเลย "คุณ คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น" มาเฟียหนุ่มเดินออกจากคลับหรู สายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวตวัดมองเจ้าของคลับอย่างไมเคิล เพราะความเสียดายที่มีในตัวฮันนี่ที่สั่งให้ไมเคิลมีความกล้า เลือกที่จะเดินเข้ามาหาแขกคนสำคัญซึ่งทำเงินให้เขาอยู่เสมอๆ อย่างจำใจ "เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ เด็กของผมทำอะไรให้คุณออสตินไม่พอใจหรือเปล่า" "พี่ไมค์ ช่วยฮันนี่ด้วย" "เท่าไหร่" ออสตินปรายตามองหญิงสาวที่อยู่ในการควบคุมของอาชาเพียงนิด ไมเคิลเข้าใจคำถามเป็นอย่างดีในขณะที่ฮันนี่เองก็เดือดดาลเช่นกัน "เป็นบ้าหรือไงคุณ คุณไม่มีสิทธิ์มาตั้งคำถามแบบนี้นะ พี่ไมค์ เราคุยกันเข้าใจแล้วนะ บอกให้เขาปล่อยฮันนี่สิ" "ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ถ้าคุณออสตินอยากได้น้องๆ กลับไปด้วย ผมจะหาคนอื่นที่เต็มจะ..." "ฉันจะเอาคนนี้ อยากได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน อยากได้เป็นสิ่งของ หรืออยากได้เป็นอะไรติดต่อคนของฉันมาภายหลังก็แล้วกัน" ขายาวสาวออกมาจากตรงนั้น ไม่มีใครขวางคนอย่างออสตินได้ เรื่องระหว่างเขา ซานย์ และผู้หญิงของซานย์ เป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น เขาจำเป็นต้องสะสางให้สิ้นซาก เผื่อว่าฝันร้ายบ้าบอนั่น มันจะหายออกไปจากชีวิตของเขาสักที "...คุณ พวกคุณเป็นใครและคุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่" ไร้เสียงตอบรับจากคนบนรถ อาชายังคงทำหน้าที่เป็นพลขับ ไม่แม้แต่จะเหลือบตามองกระจกมองหลังเพื่อมองภาพสะท้อนของคนที่อยู่บนนั้น "เอาตรงๆ เลยนะ หน้าตาคุณมันก็ใช้ได้ปะ ถ้าคุณมีอารมณ์และอยากได้ผู้หญิงไปปรนเปรอ คุณก็ควรเลือกผู้หญิงที่เต็มใจไปกับคุณสิ ทำไมคุณต้องมาใช้มุกบ้องตื้นแบบนี้กับฉันด้วย" "เธอไม่จำเป็นต้องเล่นละครตบตา ที่ตรงนี้มีแค่เธอและฉันเท่านั้น" "แล้วไงอ่ะ ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าใครหรือมีแค่คุณกับฉันสองคน สุดท้ายฉันก็ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร เราไม่รู้จักกัน" "เดี๋ยวก็รู้ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันเธอทำกับฉันแบบไหน ถึงเวลารื้อฟื้นความทรงจำเมื่อไหร่อย่ากลืนน้ำลายตัวเองก็แล้วกัน" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มที่มุมปาก ฮันนี่แทบกลั้นลมหายใจ เมื่อดวงตากลมประสานเข้ากับสายตาที่ยากเกินกว่าจะคาดเดา ------ คอมเมนต์สั้นๆ ก็เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ของเราแล้วค่ะ ช่วยคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันหน่อยนะคะ 💚"มันไม่เกินไปเหรอครับ" "มึงไม่เห็นเหรอว่ายัยนั่นปีนเกลียวกับกูแค่ไหน กูนอนด้วย ไม่ได้หมายความว่ากูจะยอมทุกอย่างนะอาชา" "แต่ตอนนี้ฝนแรงมากเลยนะครับ คนมองเยอะอีกต่างหาก" "ใครเข้ามาเสือกมึงก็บีบแตรไล่มัน" อาชาเผลอถอนลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขารู้ว่าการปล่อยปละละเลยทุกอย่างมากเกินไป ออสตินจะเสียการควบคุม แต่นี่มันก็เกินไป"ไม่สงสารเธอหน่อยเหรอครับ อย่างน้อยๆ คุณฮันนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฝันร้ายของนายหายไป" "ปกติมึงไม่ยุ่งขนาดนี้นะอาชา ยัยนั่นเป็นเมียมึงรึไง!" "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่ทำร้ายเธอแน่นอน" "..." "ไม่ใช่แค่กับคุณฮันนี่หรอกนะครับ แต่หมายถึงกับผู้หญิงทุกคน" "..." "รู้แหละครับว่านายไม่จริงจัง แต่ถ้ายังอยากได้จนยอมจ่ายถึงวันละสองหมื่น ดูแลเอาหน่อยครับ เดี๋ยวเธอจะเปลี่ยนใจ" อาชาจี้ได้อย่างถูกจุดมาเฟียหนุ่มไม่ยอมเสี่ยงหรอก เขาไม่ยอมเสี่ยงที่จะปล่อยเธอไปแน่หากยังไม่ได้พิสูจน์ว่าในวันที่ไม่มีผู้หญิงคนนี้จริงๆ ฝันร้ายมันจะยังอยู่หรือเปล่า"เปิดประตู" สุดท้ายออสตินก็เลือกที่จะเอ่ยคำนี้ออกมาคนสนิทของมาเฟียจัดการประตูให้เปิดออกอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็
ฮันนี่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ แต่กลับเจอกับอาชาที่ยืนรออยู่คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาหนักๆ สุดท้ายก็จำใจถามออกไป"มีอะไรอีก" "นายให้ผมมารับคุณฮันนี่ครับ รถจอดรออยู่ทางด้านโน้น เราไม่ควรปล่อยให้นายรอนาน" คนสนิทของมาเฟียผายมือไปอีกด้าน คิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงของเจ้านายคงไม่พอใจแน่"วันนี้ฉันมีเรียน และนี่มันก็มหา'ลัย เขาไม่ล้ำเส้นฉันเกินไปเหรอ?" "ผมเคลียร์กับอาจารย์ให้แล้วครับ รับรองว่าการไปกับนายมันจะไม่มีผลกระทบอะไร" "อ้อ...มีอำนาจเหลือเกินนะ คนอย่างเขาอยากได้อะไรเขาก็จะเอาให้ได้จริงๆ" ฮันนี่ยกมือขึ้นสางเส้นผมของตัวเองอย่างหงุด สุดท้ายก็ยอมเดินไปตามทิศทางที่อาชาบอกแต่โดยดีเครื่องปรับอากาศภายในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาชาเคลื่อยรถออกจากมหา'ลัย เป็นจังหวะที่ผู้เป็นเจ้านายของเขาเปิดประเด็นขึ้นมา"ทีหลังอย่าเดินหนีฉันแบบนั้นอีก ฉันไม่ชอบในสิ่งที่เธอทำ" "ฉันเองก็ไม่ชอบสิ่งที่คุณทำเหมือนกัน ฉันควรมีเวลาส่วนตัวของฉันบ้าง ที่นั่นเป็นมหา'ลัย มันไม่ควรมีใครต้องไปยืนทะเลาะกันจริงๆ" "อาชา" "ครับ" "จัดการไอ้เวรนั่นด้วย ทำให้มันหยุด และไม่กล้าเข้ามาทำให้ฉันรำคาญอีก" ฮันนี่ขมวดคิ้วทันที"คุณ
หมับ~ "อย่าเดินหนีฉัน!" ออสตินออกคำสั่งขณะบีบข้อมือเล็กเอาไว้แน่นเขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงจะใจอ่อนกับแฟนเก่าแค่ไหน ไม่รู้ว่าเธอจะชอบสิ่งที่ไอ้เวรนี่ทำหรือไม่ และไม่รู้ว่าเธอยังอยากลองกลับไปคบกับมันอีกหรือเปล่า สิ่งเดียวที่เขารู้ ตราบใดที่ฮันนี่ยังเป็นคนของเขา ใครไหนหน้าก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวาย"ฉันอายคน" "เธอไม่..." "ย้ำนะออสติน ฉันอายคนอื่น อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว คุณกลัวว่าคนอื่นจะมายุ่งกับของเล่นของคุณมันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอร้องเถอะนะ การที่คุณมาประกาศต่อหน้าคนอื่นว่าได้ฉันแล้ว มันทำให้คนอื่นรับรู้และตราหน้าว่าฉันโคตรง่ายเลย" ฮันนี่ปัดมือหนาออกห่างอย่างไม่ใยดีต่อให้จะสำเหนียกสถานะของตัวเองดีแค่ไหน ลึกๆ แล้วมันก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี"หึ ต่อให้มึงจะได้ตัวเขา มันก็ไม่ได้หมายความว่ามึงรู้จักเขาที่สุด" อาร์ตยิ้มเยาะ เขามั่นใจว่าเขารู้จักฮันนี่ดีในระดับหนึ่ง สีหน้าที่เธอแสดงมันออกมาเมื่อสักครู่บ่งบอกชัดเจนว่าเธอไม่พอใจ"เสือกไรกับกู" น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดและการกัดกรามจนเป็นสันนูน เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้อาชาที่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ รู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนายขอ
มหาวิทยาลัย"วิดวิ้ว~" เสียงแซวดังมาตามสายลมในยามที่ร่างแบบบางในชุดนักศึกษาที่กระโปรงทรงเอสั้นเพียงต้นขา เสื้อสีขาวสะอาดเรียบกริบพอดีตัวเป๊ะใบหน้าที่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่งแต้มด้วยความสำอางบางๆ วันนี้ฮันนี่ดัดผมเป็นลอนในช่วงปลาย ผิวทั้งตัวขาวละเอียดสมกับที่ดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดีและเข้าคลินิกเติมวิตามินผิวอยู่สม่ำเสมอ รองเท้าส้นเข็มที่ฮันนี่สวมใส่ส่งผลให้คนตัวเล็กดูเพียวขึ้นกว่าเก่า ไม่แปลกที่อดีตเคยเป็นถึงดาวคณะ"ฮันนี่ ทางนี้" โมจิโบกไม้โบกมือ กระตุ้นให้เพื่อนสาวที่สวยและฮอตมากของเธอดูโดดเด่นมากกว่าเก่า หนึ่งในสายตาหลายต่อหลายคู่มีดวงตากลมสวยของสาวสวยในกลุ่มของเดือนคณะที่มองตาม"วันนี้แกสวยจัง" "อะไรอ่ะ มาไม้ไหนไม่ทราบ" ฮันนี่ปลดกระเป๋าสะพายข้างออกมาบ่า วางลงบนโต๊ะตามด้วยการล้วงโทรศัพท์ออกมา"ความขาวออร่าเจิดจ้ามาตั้งแต่ไกลๆ แบบนี้ไหมนะ พี่แบงค์เจ้าของโชว์รูมรถถึงได้อยากให้โอกาสสาวสวยคนนี้ไปร่วมงาน""หืม? พี่แบงค์ ฉันเสียมารยาททิ้งเขาไว้แบบนั้นเขายังจะให้โอกาสฉันงั้นเหรอ" "ใช่จ้ะ เขายังรอแกอยู่นะ นี่...ถามจริงเถอะ ช่วงนี้แกเช็กดวงรายวันมาบ้างปะ รู้สึกว่าช่วงนี้แกขาขึ้นนะ ดวงดี
"อื้อออ!" ฝ่ามือเล็กขยุ้มผ้าปูที่นอนอย่างแรง พอๆ กับฝ่าเท้าที่จิกเกร็งลงบนบ่ากว้างเรี่ยวแรงของร่างกายดับวูบเมื่อริมฝีปากร้อนฉกชิมเข้ากับใจกลางความเป็นสาวในเวลาอันรวดเร็วนิ้วยาวเหยียดแหวกกลีบสีชมพูเรื่อ ลากปลายลิ้นไปกับเนินสามเหลี่ยมอวบนูนไร้ขนอ่อนตามด้วยการกดปลายนิ้วเข้าหาร่องแคบ กระทั้นเข้าลึกจนสุดความยาวของมันในครั้งเดียว"ออสติน..." เสียงครางเพราะความเสียวซ่านสร้างความพึงพอใจให้กับมาเฟียหนุ่มไม่น้อยดวงตาคมที่ประกายความพอใจตวัดขึ้นมองใบหน้าสะสวย กลีบปากร้อนบดเข้ากับจุดอ่อนไหว ขบเม้มสลับกับการตวัดปลายลิ้นทักทายแรงๆ"อ๊ายยยย!" ฮันนี่ปลดปล่อยมวลน้ำหวานออกมาอย่างสุดจะกลั้น มาเฟียหนุ่มรั้งปลายนิ้วที่ควานเข้ากับผนังอ่อนนุ่มจนกระทั่งเธอสุขสมกลับพลางยกยิ้มที่มุมปากไม่ลืมที่จะสอดปลายนิ้วที่เปรอะธารน้ำหวานเข้ามาในช่องปาก การดูดแรงๆ แล้วกลืนกินทำฮันนี่ตาโตทันที"บ้า คุณมันโรคจิต" "หึ" ออสตินไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าเท่าไหร่นัก หนุ่มหล่อหยัดตัวลุกจนเต็มความสูง ปลดเข็มขัดหนังพลางถอดกางเกงที่สวมใส่ จ่อความใหญ่โตเข้าหาช่องทางคับแคบ ก่อนจะอัดกระแทกเข้าใส่จนสุดความยาวของมันในครั้งเดียวปึก! "อ
"แม่..." ฮันนี่อมยิ้มให้กับคำพูดที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแม้กับอาร์ตแฟนเก่าที่เธอคบหามาเป็นปีๆ แม่ก็ไม่เคยชมจนออกนอกหน้าแบบนี้เหมือนกัน"ฮันนี่ ตักข้าวได้แล้วลูก" "ค่าา รับทราบค่ะ" คนที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาฉีกยิ้มกว้าง ฮันนี่รีบลุกขึ้นตักข้าว การเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาของอีกคนตลอดเวลา"แม่ว่าแบบเผ็ดก็อร่อยนะลูก รสจัดจ้าน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยน""ครับ" "นี่ คุณพูดกับแม่เยอะๆ หน่อยสิ ปกติแม่ไม่ค่อยคุยกับใครแบบนี้เลยนะ" "แม้กับแฟนเก่าเธอ?" ออสตินถามออกมาแบบซึ่งๆ หน้า เลยเป็นฮันนี่ที่เลิ่กลั่กก่อนจะรีบพยักหน้าออกมา"อือ" "หึ..." รอยยิ้มเย้ยหยันบนมุมปาก แสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยากจะเชื่อเท่าไหร่นักแต่ก็เอาเถอะ เรื่องนั้นค่อยเคลียร์ทีหลังก็แล้วกัน"แม่ขา กินเยอะๆ เลยนะ แม่ทำงานหนักทุกวันเลยอ่ะ" "ลูกคนนี้นี่ ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นสักหน่อย" "ไม่เชื่อหรอกค่ะ ยืนจับตะหลิวจนข้อมือร้าวหมดแล้วมั้ง คอยดูเถอะ วันไหนรวยขึ้นมา จะบังคับให้แม่เลิกขายของทันทีเลย แม่ต้องรับปากหนูด้วยนะ วันไหนรวย เราจะสวยและสบายไปด้วยกัน" "ดูพูดเข้า แม่ไม่เลิกหรอก ให้อยู่เฉยๆ แม่ทำไม่ได้หรอกนะ ลูกสาวแม่ตัวเล