Beranda / แฟนตาซี / ขวัญรดาลูกแม่ค้า / ตอนที่ 5 เจ้าทอง...กุมารน้อย

Share

ตอนที่ 5 เจ้าทอง...กุมารน้อย

           เช้าวันต่อมา...

            ก่อนที่แสงแรกของวันจะทันได้สาดส่องเข้ามาทางรอยรั่วของหลังคาสังกะสี...โสตประสาทของขวัญรดาก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก

            มันคือเสียงของกิจวัตรประจำวันที่เธอเคยได้ยินมาตลอดในวัยเด็ก...เสียงสับหยวกกล้วยเป็นจังหวะบนเขียงไม้เก่าเสียงครกกระทบสากที่ดังมาจากในครัวและเสียงกวาดบ้านที่ดังซ่า ๆ อยู่ไม่ไกล

            ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าผู้หญิงสองคนในบ้าน...แม่และอาม่าของเธอได้เริ่มต้นวันใหม่อันแสนวุ่นวายของพวกท่านแล้ว

            ขวัญรดาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นอย่างเชื่องช้า กลิ่นหอมของกระเทียมเจียวที่แม่กำลังเตรียมไว้สำหรับทำข้าวต้มลอยมาเตะจมูก แต่แล้ว...เมื่อลมระลอกหนึ่งพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้

            กลิ่นหอมของอาหารก็ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นอับชื้นปนกลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์...ของกลิ่นขี้หมูจากเล้าของเถ้าแก่เส็งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

            (เราไม่ได้ฝันไป...และเราได้กลับมายังอดีตแล้วจริง ๆ) ขวัญรดาคิดในใจพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกระคนดีใจ เพราะสิ่งเหล่านี้คือชีวิตจริงในอดีตของเธอนั่นเอง

            เด็กหญิงขยับตัวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ปลุกน้องชายที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ด้านข้างในมุ้งหลังเก่า ก่อนที่เธอจะมุดตัวออกจากมุ้งและเดินไปยังโอ่งน้ำขนาดเล็กที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของบ้านเพื่อล้างหน้าล้างตา

            ในขณะที่เธอกำลังวักน้ำขึ้นล้างหน้าอยู่นั้นเอง...หางตาของเธอก็พลันเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ที่ใต้ต้นไทรใหญ่หน้าบ้านที่ไร้ซึ่งรั้วกั้น

            ขวัญรดาใจกระตุกเล็กน้อย...ก่อนที่เธอจะจ้องมองร่างเล็กตรงหน้านั้นให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเธอเห็นว่าเขาเป็นเด็กชายตัวค่อนข้างผอมอายุน่าจะอยู่ราว ๆ สามถึงสี่ขวบท่อนบนไม่สวมเสื้อ...ส่วนท่อนล่างของเขาสวมโจงกระเบนสีแดงเก่าคร่ำคร่า

            และดูเหมือนว่าเด็กชายคนนั้นจะไม่ได้ยืนนิ่งอยู่เฉย ๆ แต่เขากำลังเดินตรงมาทางเธอเมื่อรับรู้ได้ว่าเธอเห็นเขา แต่มันเป็นการเดินที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก...เพราะมันดูเหมือนเป็นการลอยตัวเสียมากกว่า เนื่องจากเท้าเปลือยเปล่าของเขาไม่ได้สัมผัสพื้นดินเลย

            และเพียงชั่วพริบตา เขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว

            "เฮ้ย!"

            ขวัญรดาอุทานออกมาด้วยความตกใจ...เธอถอยหลังกรูดจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผิวเย็นเฉียบของตุ่มน้ำดินเผาอย่างจัง หัวใจของเด็กหญิงเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก เหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังจนเสื้อผ้าชื้นเหนอะหนะ

            (ผี! นี่เราเจอผีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอและตอนกลางวัน แสก ๆ แบบนี้ด้วย...มะ...มันจะเป็นไปได้ยังไง) เธอคิดอย่างสับสน

            แม้ว่าวิญญาณของเธอจะเป็นคุณยายวัยแปดสิบห้ามาก่อน แต่การเห็นผีเป็นตัวเป็นตนชัดเจนระดับ Full HD ขนาดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตทั้งสองชาติภพ ก็ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อได้เหมือนกัน!

            สัญชาตญาณสั่งให้เธอวิ่งหนี แต่ร่างกายของเด็กห้าขวบกลับแข็งทื่อ...เธอทำได้เพียงยืนตัวสั่นพิงตุ่มน้ำพร้อมกับพยายามนึกถึงบทสวดมนต์ที่เคยสวดมา ทว่า...มันกลับจำไม่ได้นอกจากนะโมตัสสะ...

            ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเด็กชายตรงหน้าเองก็เหมือนจะตกใจกับท่าทีของเธอเช่นกัน เขายืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างลังเล ราวกับกลัวว่าจะทำให้เธอแตกตื่นไปมากกว่านี้

            เมื่อเห็นว่าวิญญาณตนนั้นไม่ได้มีท่าทีคุกคาม ความกลัวที่เคยพุ่งขึ้นสูงของขวัญรดาก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยสติของหญิงชรา เธอบังคับให้ตัวเองหายใจเข้าลึก ๆ พยายามประเมินสถานการณ์ตรงหน้า

            และตอนนั้นเองที่เธอได้สังเกตเห็นเด็กชายคนนั้นอย่างละเอียด...เขามีใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดู แต่กลับซีดเซียวไร้สีเลือด ดวงตากลมโตคู่สวยนั้นคลอหน่วยไปด้วยความเศร้าสร้อย และที่สำคัญ...เขากำลังยกมือเล็ก ๆ ขึ้นกุมท้องของตัวเอง

            "พี่สาว..." เสียงเล็กใสแฝงด้วยความแหบโหยดังขึ้นในหัวของเธอ "อย่ากลัวหนูเลย...หนูก็แค่หิว"

            คำพูดนั้นเหมือนน้ำเย็นที่ดับความหวาดกลัวในใจของขวัญรดาลงได้อย่างชะงัด...พร้อมกับภาพของผีที่น่ากลัวได้สลายไปในทันที เหลือเพียงภาพของเด็กน้อยที่น่าสงสารร้องขอข้าวกินอยู่ตรงหน้า สัญชาตญาณความเป็นย่าทวดของเธอเริ่มทำงานแทนที่ความตกใจ

            "เธอ...เป็นใคร" ขวัญรดาถามกลับไป แม้น้ำเสียงจะยังสั่นอยู่บ้างก็ตาม

            "หนูชื่อทอง...เป็นกุมารจ้ะ" เด็กชายตอบพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ "ไม่มีใครให้ข้าวกินมานานมากแล้ว หนูหิวมากเหลือเกิน"

            เขามองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง "แต่หนูรู้... ว่าพี่สาวเห็นหนู ถะ...ถ้าพี่สาวหาอะไรให้หนูกินนะ...หนูจะช่วยพี่สาวเป็นการตอบแทน! หนูสามารถเรียกลูกค้าได้นะ! หนูทำให้ของขายดีได้! หรือว่าจะให้หนูไปไล่ผีตัวอื่นก็ยังได้อีกเหมือนกัน"

            กุมารน้อยรีบเสนอขายความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ราวกับกลัวว่าโอกาสเดียวของตัวเองจะหลุดลอยไป

            ขวัญรดาฟังอย่างเงียบ ๆ ความกลัวหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความรู้สึกทึ่งและสงสารจับใจ เธอพยักหน้าช้า ๆ

            "ตกลง" เธอตอบเสียงเบา "เดี๋ยวฉันจะหาอะไรมาให้กิน... แต่ตอนนี้เธอต้องไปซ่อนก่อน เดี๋ยวแม่กับอาม่าฉันมาเห็น"

            "จริงนะ! พี่สาวสัญญาแล้วนะ!" ดวงตาของเจ้าทองเปล่งประกายขึ้นมาทันที

            "อืม สัญญา"

            "เย้! งั้นหนูจะรออยู่ตรงต้นไทรนะพี่สาว! อย่าลืมหนูนะ!" พูดจบ ร่างโปร่งแสงของเด็กน้อยก็สลายวับหายไปในอากาศ      โดยที่เจ้าตัวคงลืมไปแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นเขา

            ขวัญรดาปล่อยลมหายใจที่กลั้นไว้โดยไม่รู้ตัวออกมาเฮือกใหญ่ ขาของเธอยังคงสั่น...มือเล็กของเธอยกมือขึ้นทาบอกเพื่อระงับอาการใจเต้นของตัวเอง

            "ขวัญ! มากินข้าวต้มได้แล้วลูก!"

            เสียงเรียกของแม่ดังขึ้น ทำให้ขวัญรดาสะดุ้งอีกครั้ง เธอรีบขานรับแล้วเดินเข้าไปในบ้านด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นระรัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ในขณะเดียวกัน...สมองของเธอก็เริ่มวางแผนการบางอย่าง

            หลังจากที่มื้อเช้าอันแสนอบอุ่นจบลง ทุกคนในบ้านก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง

            ช่อฟ้ากับอาม่าช่วยกันเก็บล้างถ้วยชาม ในขณะที่มนตรีผู้เหนื่อยล้าจากการทำงานและการเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เส็งเมื่อคืน ก็ขอตัวเข้าไปงีบหลับเพื่อเอาแรงเตรียมตัวไปทำงานที่โรงเชือดอีกรอบในช่วงเย็นวันนี้...

            ซึ่งงานของเขาค่อนข้างจะหนักเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนเต็มที

            ขวัญรดาเห็นว่าเป็นโอกาสดี เธอรอจนไม่มีใครสนใจ ก่อนจะค่อย ๆ ตักข้าวต้มที่ยังพอเหลือติดก้นหม้อใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วแอบย่องออกจากบ้านไปอย่างเงียบเชียบ

            เธอวางถ้วยข้าวต้มไว้ที่ใต้ต้นไทรใหญ่ ตามที่กุมารน้อยตนนั้นได้บอกไว้ "ฉันเอาข้าวมาให้ตามสัญญาแล้วนะ... กินให้อิ่มล่ะ" เธอกระซิบกับสายลม ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าบ้านราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            ช่วงสายของวันนั้น ขวัญรดาได้รับหน้าที่ให้ดูแลน้องชายตัวเล็ก ในขณะเดียวกันอาม่าก็นั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน...พร้อมกับนำเสื้อผ้าเก่า ๆ ของคนในครอบครัวออกมากองไว้เพื่อเตรียมปะชุน เข็มในมือของหญิงวัยกลางคนขยับขึ้นลงอย่างชำนาญ ซ่อมแซมรอยขาดอย่างใส่ใจเพื่อยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าทุกตัวให้ได้นานมากที่สุด

            ขวัญรดานั่งมองภาพนั้นอย่างเงียบงันในหัวของเธอกำลังขบคิดหาหนทางทำมาหากินอย่างหนักหน่วง ภาพของแม่ที่ต้องเดินหาบปี๊บเศษอาหารที่ทั้งหนักและส่งกลิ่นเหม็น ภาพที่ต้องก้มหน้าก้มตาล้างคอกหมูที่สกปรก...

            เธอทนเห็นภาพเหล่านั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจาก งานที่หนักหนาสาหัสแต่กลับได้ค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด มันไม่คุ้มค่ากับสุขภาพและศักดิ์ศรีของแม่เลย

            แล้วสายตาของเธอก็เผลอมองเข้าไปในบ้าน...เห็นร่างของพ่อที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเสื่อ ทันใดนั้น...ภาพในความทรงจำจากอนาคตก็ฉายซ้อนขึ้นมาอย่างเจ็บปวด...ภาพของพ่อในวาระสุดท้ายที่ผ่ายผอม ภาพลำคอที่ถูกเจาะเป็นรูเพื่อต่อท่อช่วยหายใจ...

            เด็กหญิงกำหมัดเล็ก ๆ ของตนเอาไว้แน่น...ไม่! เธอจะไม่มีวันยอมให้อนาคตที่น่าเศร้าแบบนั้นเกิดขึ้นอีก!

            "พี่สาว..." ในขณะที่เธอกำลังคิดหาหนทางทำมาหากินอยู่นั้น เสียงเล็กใสก็ได้ดังขึ้นในห้วงความคิด ทำให้ขวัญรดาต้องหันไปมองข้างตัว

            เจ้าทองปรากฏตัวขึ้นในสภาพร่างโปร่งแสง นั่งยอง ๆ อยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้เขาดูมีเรี่ยวแรงและสดใสขึ้นมาก ดวงตากลมโตกำลังมองมาที่เธออย่างสงสัย

            "ทำไมพี่สาวทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ" กุมารน้อยเอียงคอถาม "มีอะไรให้หนูช่วยรึเปล่า"

            ขวัญรดาหันไปมองอาม่าที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่กับงานเย็บผ้า แล้วจึงหันมากระซิบกับสหายคนใหม่เสียงเบา

            "ฉันกำลังคิดอยู่...ว่าจะทำยังไงให้แม่ไม่ต้องไปทำงานที่เล้าหมูอีก"

            "งานที่เล้าหมูไม่ดีเหรอ" เจ้าทองถามอย่างไม่เข้าใจ

            "มันเป็นงานที่หนักและได้เงินน้อยเกินไป" ขวัญรดาตอบ "ฉันอยากให้แม่ได้ทำงานที่ดีกว่านี้...เราต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้"

            "หาเงินเหรอ..." เจ้าทองทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ให้หนูไปหยิบเงินของคนอื่นมาให้พี่สาวเอามั้ย!"

            "ไม่ได้นะเจ้าทอง!" ขวัญรดารีบปรามเสียงเข้ม "นั่นมันขโมย จะเป็นบาปเอานะ!"

            "โอ๊ะ...หนูขอโทษ" กุมารน้อยทำหน้าจ๋อย "ถ้างั้นเราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่สาว"

            คำถามนั้นทำให้ขวัญรดานิ่งไป...นั่นสิ แล้วเธอจะทำยังไงดี ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กห้าขวบที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความทรงจำจากอนาคต ระบบแมวกวักที่ยังไม่เข้าใจวิธีการใช้ดีพอและกุมารน้อยผู้หิวโหยที่นั่งอยู่ข้างเธอในตอนนี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 41 เส้นทางพรสวรรค์ของขวัญรดา

    หลายเดือนต่อมาในขณะที่การค้าของครอบครัวศิริเวชเจริญนั้นเป็นไปด้วยดี ในตอนนี้ช่อฟ้ากับสุ่นลั้งเริ่มสบายตัวมากขึ้น เนื่องจากคนทั้งคู่ได้ตัดสินใจแค่ทำของอยู่กับบ้านและให้ป้าพรกับป้าสมศรีเป็นคนออกไปขายแทนทางด้านดวงก็ยังคงทำหน้าที่พนักงานหาบของ...ของตนตามเดิม เพียงแค่...ตอนนี้เด็กหนุ่มไม่จำเป็นต้องเดินหาบตามบ้านอีกต่อไปแล้วทำเพียงแค่ออกไปขายตามตลาดนัดก็เพียงพอแต่สำหรับทางด้านงานของมนตรีที่กำลังช่วยเจ็กใช้ทำงานด้วยความขยันขันแข็งอยู่นั้น กลับได้เกิดปัญหาขึ้นบางอย่าง...เย็นวันหนึ่ง มนตรีกลับมาถึงบ้านด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดมากกว่าปกติ“เป็นอะไรไปป๊า” ช่อฟ้าเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงระหว่างมื้อเย็น“เฮ้อ! ก็เรื่องงานน่ะสิ” เขาถอนหายใจ “ลูกค้าคนล่าสุดเขาติมา... เขาว่าแบบบ้านของอาเจ็กมันซ้ำกับบ้านหลังอื่นในซอย...เขาอยากได้อะไรที่มันดูใหม่มากกว่านี้...แต่อาเจ็กแกก็มีแบบบ้านมาตรฐานอยู่ไม่กี่แบบ”ปัญหาเชิงธุรกิจนั้นทำให้ทุกคนในวงข้าวนิ่งเงียบไป...ขวัญรดาที่นั่งทำการบ้านอยู่ไม่ไกลได้ยินทุกอย่าง...และในตอนนี้จิตวิญญาณของคุณยายชาวสวนที่เคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิกพ

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 43 กำเนิดนักร้องเสียงทองตัวน้อย

    สามปีผ่านไปทุกชีวิตในครอบครัวศิริเวชเจริญได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง...จากร้านหาบเร่และรถเข็นเล็ก ๆ ในวันวาน บัดนี้ร้านแม่ช่อฟ้าได้กลายเป็นร้านข้าวแกงเจ้าประจำของชุมชนที่ทุกคนต่างรู้จักและชื่นชอบกิจการของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง เงินเก็บในสมุดบัญชีก็เริ่มมีมากขึ้นตามลำดับจากหยาดเหงื่อแรงกายของทุกคน และในตอนนี้ร้านข้าวแกงแม่ช่อฟ้าจากแม่ค้าตลาดนัดก็มีห้องแถวขนาดกลางเป็นของตัวเองเพิ่มขึ้นมาทางด้านของมนตรีชายหนุ่มก็ได้กลายเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างที่ใช้ไว้วางใจและให้คุมงานสำคัญแทน ชายหนุ่มเลิกดื่มเหล้าอย่างเด็ดขาด และกลายเป็นเสาหลักที่อบอุ่นและแข็งแกร่งของครอบครัว ส่วนช่อฟ้ากับสุ่นลั้งก็กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยผู้เป็นที่ยอมรับนับถือของคนในตลาดทางด้านขวัญรดาในวัยสิบปี ในปีนี้ซึ่งเป็นการเปิดภาคเรียนใหม่เด็กหญิงกำลังจะขึ้นไปอยู่ชั้นประถมปีที่ 6 อย่างมีความสุข เธอเป็นนักเรียนดีเด่นที่เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและในปีนี้... มนัสน้องชายตัวน้อยของเธอ...ก็ได้ก้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียนเดียวกันในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นที่เรียบร้อย แม้ว่ามนัสจะไม่ได้มีพร

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 42 ข้ามชั้นแบบงง ๆ

    “ใช่! ห้องของคุณนั่นแหละ” ครูใหญ่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดครูวิทยายังคงยืนอึ้งกับการตัดสินใจที่รวดเร็วของผู้บริหาร แต่ก็รีบพยักหน้ารับคำ “ครับท่าน...ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวไปแจ้งผู้ปกครองของเด็กก่อนนะครับ”ภายในห้องพักรับรองด้านนอก มนตรีและใช้กำลังนั่งรอผลคำตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ส่วนขวัญรดานั้นแม้ภายนอกของเธอจะยังคงนิ่งแต่ในใจก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้เช่นกันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับคนรอ...ความเงียบในห้องรับรองถูกกดทับด้วยความตึงเครียด มนตรีนั่งไม่ติดที่ เขาขยับตัวไปมา ลูบท้ายทอยตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าส่วนใช้แม้จะพยายามรักษาท่าทีให้สุขุม แต่การที่เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเป็นระยะ ๆ ก็บ่งบอกว่าเจ้าตัวเองก็กำลังลุ้นไม่แพ้กันมีเพียงขวัญรดาที่ยังคงนั่งนิ่ง... แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าปลายนิ้วเล็ก ๆ ของเธอกำลังจิกอยู่ที่กระโปรงนักเรียนจนแน่นและในที่สุดเสียงเปิดประตูห้องพักรับรองแห่งนี้ก็ดังขึ้น ทำให้ร่างของผู้ใหญ่ทั้งสองคนสะดุ้งเล็กน้อยและรีบลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติครูวิทยาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา... มันเป็นสีหน้าที่ผสมปนเป

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 40 เข้าสู่เส้นทางตลาดนัด

    และแล้วสามวันต่อมา...ซึ่งเป็นวันเสาร์ก็มาถึง วันนี้บ้านสวนหลังนี้คึกคักกันตั้งแต่ตีสามเลยทีเดียวเพราะเป็นวันที่ครอบครัวศิริเวชเจริญจะไปเปิดศึกที่ตลาดนัดลานต้นมะขามซึ่งบรรยากาศในครัววันนี้ได้แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เพราะนอกจากหม้อแกงและขนมหวานที่คุ้นเคยแล้ว วันนี้ยังมีเมนูใหม่แกะกล่องที่สุ่นลั้งและช่อฟ้าบรรจงทำขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย...นั่นคือรายการหมูพะโล้สูตรโบราณที่เคี่ยวจนน้ำเข้าเนื้อส่งกลิ่นหอมของเครื่องเทศจีนไปทั่ว และหมูสามชั้นต้ม ที่ต้มจนเปื่อยนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเด็ดกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่มนตรีเป็นคนปรุงเองกับมือ ซึ่งเมนูเหล่านี้แทบจะไม่มีใครทำขายตามตลาดนัดทั่วไป เพราะเป็นอาหารที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการทำสูง ส่วนฝ่ายขนมหวาน...ขวัญรดาก็ได้แสดงฝีมือในฐานะ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์เป็นครั้งแรก“แม่จ๋า...ทับทิมกรอบของเรา...ลองทำใส่แก้วพลาสติก ใส ๆ แบบนี้ดีไหมจ๊ะ” เธอนำเสนอ “เราจัดเรียงเป็นชั้น ๆ ให้เห็นเม็ดทับทิมสีแดงสด ตัดกับขนุนสีเหลืองทอง...มันจะดูน่ากินขึ้นเยอะเลย”ความคิดในการจัดวางสินค้าให้น่าสนใจนั้น เป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับคนในยุค

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 39 ความดวงดีของนายดวง?

    หลังจากที่นายดวงเดินออกมาจากท้ายวัดและมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งตรงกันข้ามกับเส้นทางที่ช่อฟ้ากำลังจะไปขายข้าวราดแกงของตนและขนมกับพรในเวลานั้นเด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าการขายขนมของตนวันนี้เป็นเพราะความโชคดีของตนหรือว่าเพราะตุ๊กตาแมวกวักหน้ายิ้มกันแน่ เพราะทันทีที่ปากของเขาร้องตะโกนเรียกลูกค้าไปได้เพียงแค่ครั้งเดียว... และยังไม่ทันจะจบประโยคดีว่า...“ขนมจ้า! ขนมอร่อย ๆ มาแล้วจ้า! ปลากริมไข่...”“พ่อค้า! เดี๋ยว! หยุดก่อน!”เสียงเรียกจากหญิงวัยกลางคน...ได้ดังขึ้นจากหน้าบ้านหลังหนึ่ง ดวงรีบวางหาบลงทันที หญิงคนนั้นเดินเข้ามาดูขนมในหาบด้วยความสนใจก่อนจะขอซื้อปลากริมไข่เต่าไปลองชิมหนึ่งถ้วยและทันทีที่นางได้ชิมขนมเข้าไปคำแรก... ดวงตาของหญิงวัยกลางคนก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ!“อร่อย! อร่อยมาก! ไม่เคยกินปลากริมไข่เต่ารสชาตินี้มาก่อนเลย!” หล่อนกล่าวชมอย่างจริงใจ “พ่อหนุ่ม...ทำของอร่อยขนาดนี้ ทำไมไม่ไปขายที่ตลาดนัดเช้าตรงลานมะขามล่ะ ที่นั่นคนเยอะมากเลยนะ ของอร่อย ๆ แบบนี้ต้องขายดีแน่นอน”“ตลาดนัดเช้าเหรอครับป้า” ดวงทวนคำอย่างสนใจ“ใช่! เขามีก

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 38 ก้าวแรกของการเป็นเถ้าแก่

    และครอบครัวศิริเวชเจริญก็ไม่ปล่อยให้แผนการเป็นเพียงแค่ความฝัน...เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นมนตรีก็ใช้ทักษะช่างของตนสร้างป้ายไม้แผ่นใหม่ที่ดูสวยงามและแข็งแรงขึ้นมากกว่าเดิมและนอกจากที่เขาจะเขียนชื่อร้านแม่ช่อฟ้าและรายการอาหารคาวหวานที่ขายหน้าร้านแล้ว ที่มุมหนึ่งของป้ายยังมีข้อความเล็ก ๆ ที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า: “รับสมัครคนช่วยงานทำขนมและคนหาบขนมขาย (มีส่วนแบ่งให้)”ซึ่งป้ายประกาศนี้ของเขาก็ได้สร้างความประหลาดใจและความสนใจให้กับลูกค้าและเพื่อนบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก...พร้อมกับทุกคนต่างคิดเหมือนกันว่า...กิจการของครอบครัวนี้กำลังจะขยับขยายอีกแล้ว!เวลาผ่านไปไม่กี่วัน...ก็มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่กำลังว่างงานทยอยเดินทางมาสมัครกับสุ่นลั้งที่บ้านสวนเป็นจำนวนมาก ผิดจากแต่ก่อนที่ไม่เคยมีใครกล้าย่างกรายเข้ามาแถวนี้เพราะความกลัว ทว่าบัดนี้บ้านสวนหลังนี้กลับคึกคักขึ้นมากทีเดียวหญิงวัยกลางคนทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หล่อนสอบถามประวัติความเป็นมาของคนที่มาสมัครรวมถึงเหตุผลและเคยผ่านงานอะไรมาบ้างเพื่อดูถึงความขยันขันแข็งและคว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status