ทั้งที่เขาไม่เคยบอก แต่เธอก็ช่างสังเกตและรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไรเสมอ ความใส่ใจของเธอทำให้เขาเคยตัว และชินกับการที่มีอีกฝ่ายอยู่ จนสุดท้ายก็เป็นความเบื่อหน่าย แล้วก็จบที่การแยกย้ายอย่างที่เกิดขึ้น
เขาควรตามเธอไป หรือไม่ก็ขอให้มิรันดาทบทวนการตัดสินใจอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะความโมโหที่ถูกอีกฝ่ายทวงเงินราวกับเขาเป็นลูกหนี้
“คิดอะไรอยู่เหรอคะพี่ดิว ทำไมพี่ไม่ทานอะไรเลยล่ะคะ”
จะให้กินอะไรเล่า บนโต๊ะมีแต่ซาซิมิ ของดิบทั้งนั้น หรือซูชิที่สั่งมาก็เป็นหน้าปลาสด กุ้งสด หมึกสด ปลาไหล อูนิ แล้วก็อะไรหน้าตาแปลกๆ เขากินได้ที่ไหนกัน
“มาค่ะ ลองชิมอันนี้ดีกว่า เห็นว่าเป็นเมนูแนะนำของเดือนนี้เลยนะคะ ซาชิมิปลาฮามาจิสดๆ เนื้อหวานนุ่มมากเลยนะคะ”
ไม่พูดเปล่า หญิงสาวยังหวังดีคีบปลาที่ว่าปาดวาซาบิกับโชยุมาจ่อให้ถึงปากอย่างเอาใจ ทำให้ดิฐกรยากจะปฏิเสธ เลยจำต้องอ้าปากรับอย่างเสียไม่ได้ แต่ทว่าพอเนื้อปลาดิบแตะที่ลิ้นเท่านั้น ความพะอืดพะอมก็พลันมาเยือน จนจะต้องรีบคายอาหารในปากออกมาแทบไม่ทัน
“อุ๊บ!”
“พี่ดิวเป็นอะไรคะ นี่ค่ะน้ำดื่มก่อนนะคะ”
ดิฐกรรีบคว้าแก้วชาเขียวขึ้นดื่มพรวดๆ แต่ทว่าแทนที่จะช่วยให้ดีขึ้น รสคาวในปากเมื่อเจอกับชาเขียวเข้าไปกลิ่นมันกลับตีขึ้นจมูกจนเขาทนไม่ไหวต้องรีบผุดลุกขึ้นและวิ่งหน้าตั้งไปห้องน้ำทันที
“พี่ดิวคะ จะไปไหนคะ เดี๋ยวสิคะ เอ๊ะ!” เจนิสาร้องเอะอะอย่างตกใจเมื่อเห็นหัวหน้าสุดหล่อปิดปากวิ่งแน่บไม่เหลียวหลัง
“เป็นบ้าอะไรของเขาเนี่ย” หญิงสาวบ่นพลางคีบอาหารที่ตนสั่งเข้าปากอย่างเสียอารมณ์
//////////////////
“ไหวไหมแก”
นิลุบลถามคนที่เอาแต่นั่งจ้วงชาบูเข้าปากทั้งน้ำตาที่ไหลพรากๆ อย่างเป็นห่วง ตั้งแต่ที่แม่เพื่อนสาวเดินกลับมาก็ไม่ยอมพูดยอมจา
“สบายมาก” คนพูดถอนสะอื้นฮัก พลางคีบปลาดอลลี่ลวกจุ่มน้ำจิ้มชาบูเข้าปากอย่างไม่รู้รส
อยากจะถามก็เกรงจะจี้ใจดำให้เพื่อนช้ำยิ่งกว่าเดิม ทำให้นิลุบลได้แต่นั่งมองตาปริบๆ จนอีกฝ่ายราตะเกียบลงเพราะไม่อาจกระเดือกอะไรเข้าไปได้อีก ไม่สิ อันที่จริงที่กระเดือกเข้าไปนั่นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคีบอะไรเข้าปากไปบ้าง
ทุกอย่างเป็นเพราะเขาคนเดียว
ไอ้ผัวห่วยแตกเอ๊ย...
หนอย เพื่อนรุ่นน้องงั้นเหรอ ว่าจะไม่อารมณ์เสีย แต่พอคิดขึ้นมามันก็อดจี๊ดใจไม่ได้
“แก...กินอะไรก็ระวังตัวเล็กในท้องหน่อยดีกว่านะ”
คำเตือนของเพื่อนกระชากสติให้คิดถึงอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้อง ลูกจะรู้สึกอย่างไรหากได้ยินสิ่งที่พ่อพูดกับแม่ ไหนจะการกินประชดชีวิตของเธออีกล่ะ
“ฮือๆ ไอ้พี่ดิวบ้า ผัวเฮงซวย...” สุดท้ายความอัดอั้นก็ทำให้ฮอร์โมนคนท้องแปรปรวนจนฟูมฟายออกมาในที่สุด
“ใจเย็นๆ ก่อนแก อายเขา คนมองใหญ่แล้ว”
ลอบพลางหันไปมองรอบกายที่มีสายตาสอดรู้ของคนในร้านมองมาที่โต๊ะเธอ
“แก...ไอ้พี่ดิวมัน ฮึก...มันบอกว่าฉันงี่เง่า แล้วก็ยังแนะนำฉันกับกิ๊กใหม่ว่าเป็นแค่เพื่อนรุ่นน้อง ดูมันทำสิ ไอ้คนบ้าเอ๊ย แถมยังบอกว่าฉันน่าเบื่ออีกนะ คนปากหมา ฮือๆ”
นิลุบลได้ฟังก็แอบเคืองแทนเพื่อน ถ้าเป็นผัวที่บ้านเธอพูดอย่างที่ผัวเพื่อนพูดล่ะก็รับรองได้...
มันต้องตายอย่างเขียด!
“แกอย่าเพิ่งคิดมาก พี่ดิวเขาอาจพูดเพราะความโมโห เดี๋ยวอารมณ์เย็นลงเขาก็มาง้อแกเองแหละน่า”
“ง้อเหรอ! แกรู้ไหม ฉันลองทวงเงินฝากของเราส่วนที่เป็นของฉันมาหวังว่าเขาจะเอ่ยปากทัดทานบ้าง แต่เขากลับรีบโอนให้อย่างไว ไม่ง้อฉันสักนิดเลย เขาอยากเลิกกับฉันไปหาคนใหม่จะแย่แล้ว ฮือๆ”
“อะๆ งั้นแกก็ร้องไห้ให้พอแล้วกัน ถ้าชีวิตมันบัดซบนัก มีผัวมันก็ไม่รักดี ก็ระบายมันออกมาให้หมด เผื่อจะได้ดีขึ้น อยากกินอะไรอีกไหม ขนมหวานไหมหรือจะเอาบิงซูเผื่อช่วยได้ เดี๋ยวฉันกินเป็นเพื่อน”
พอห้ามไม่ฟัง ก็ยุส่งแม่งเลยจบๆ ไป แล้วก็ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อคนฟังถอนสะอื้น ปาดน้ำตาออกรัวๆ
“ไม่ร้องแล้ว ทำไมฉันต้องเสียน้ำตาให้คนบ้านั่นด้วย”
อ้าว! เป็นงั้นไป
นิลุบลแอบส่ายหน้าเบาๆ พลางหันไปกวักเรียกเด็กเสิร์ฟเพื่อสั่งขนมหวานมาปลอบใจคนอกหักรักคุด
หลังจากกินประชดชีวิตเสร็จมิรันดาก็พยายามรวบรวมสติกลับมา ในเมื่อคนเขาไม่รัก เธอจะทำอะไรได้ นอกจากปล่อยให้มันเป็นไป และทำใจยอมรับให้ได้ แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่
ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียว แต่มีเด็กน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกอีกคนที่ต้องรับผิดชอบหลังจากได้เงินจากเขามารวมกับเงินเก็บที่มีมันก็คงพอประทังได้สักระยะหนึ่ง แต่เท่าที่ได้ยินมาการเลี้ยงเด็กสักคนกว่าที่จะโตพอที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้มันต้องใช้เงินมากอยู่ จะมานั่งฟูมฟายไปก็ใช่เรื่อง ตัวเองอดไม่ว่าแต่เจ้าตัวเล็กที่ไร้ความผิดนี่จะมาอดด้วยไม่ได้
หลังจากคิดตก เธอก็รีบจัดการย้ายของออกจากคอนโดของเขาในวันต่อมา แอบหวังเล็กๆ ว่าเขาจะคิดได้แล้วกลับมาที่คอนโด แต่ก็เปล่าเลย
มิรันดาหันไปมองห้องที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรังรักระหว่างเธอและดิฐกรมาหลายปีอย่างใจหาย หากการตัดใจมันง่ายเหมือนตัดเส้นด้ายก็ดีสิ มองไปทางไหนก็เหมือนมีความทรงจำระหว่างเราทั่วห้อง จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เขาทำร้ายจิตใจเธออย่างเจ็บแสบ
ดวงตาคู่งามหันไปสะดุดเข้ากับของสิ่งหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร
สร้อยที่มีจี้รูปหัวใจ ของขวัญชิ้นแรกที่เขาซื้อให้เพื่อมัดใจเธอไว้แทนคำสัญญาที่บัดนี้เขาทำไม่ได้วางอยู่ตรงนั้นอย่างอ้างว้าง หญิงสาวเดินตรงเข้าไปมองมันเป็นครั้งสุดท้ายอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะตัดใจเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่หยิบมันติดมือไปด้วย
ลาก่อน ของขวัญที่แสนรัก หากเขาไม่ต้องการก็ทิ้งเองแล้วกัน ทิ้งเหมือนที่ทิ้งเธอกับลูกนี่ไง
“ยิ้มปลื้มเมีย”“หา...”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาโอบเอวเธอเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ“ขอบคุณแทนน้องมิวด้วยนะครับ”ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันใด“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ น้องมิวก็ลูกแคทเหมือนกันนี่นา”นี่ก็อีก หลังจากที่เขาจดทะเบียนสมรสกับเธอ แคทรียาก็กลายเป็นแม่แคทของหนูน้อยของขวัญไปอีกคน แถมยังเข้ากับมิรันดาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียด้วย ซึ่งทำให้เขาสบายใจไปได้อีกเปราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงตามมาในภายหลังภาพความหวานชื่นระหว่างสองสามีภรรยาทำให้ใครต่อใครที่เห็นแอบชื่นชมในความเหมาะสม ยกเว้นก็เพียงแต่...เจนิสาชะงักไปนิดๆ เมื่อมองเห็นภาพสวีตของทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันผ่านไป โดยไม่ทันเห็นเธอที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ดิฐกรในวันนี้ทั้งภูมิฐานและดูมีฐานะดีเธอมันตาต่ำสิ้นดี!หากในวันนั้นเธอไม่คิดสั้นทิ้งดิฐกรมา วันนี้คนที่เดินควงแขนเขาก็คงเป็นเจนิสาคนนี้ เธอคงสุขสบายมีสามีรวย ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากน่าสมเพชต้องคอยรองมือรองเท้าให้ไอ้ผู้ชายสารเลวอย่างวรพลนั่นหญิงสาวกุมใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแมสก์และแว่นสีดำไว้ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยฟกช้ำท
หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแลอาการบาดเจ็บของดิฐกรก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอร้องให้คุณเมธาและคุณดารณีไปเจรจาสู่ขอแคทรียาถึงบ้าน“แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวอาจริงๆ” คุณราเมศร์ถามด้วยน้ำเสียงเข้มจนคนรอบข้างแอบลุ้นปนหวาดผวาแทนคนถูกถาม“แน่ใจครับ”“ไม่ใช่แค่อยากรับผิดชอบ”“ไม่ใช่ครับ”“ไม่ได้รักแบบน้องสาว”“ผมรักแคทแบบคนรักครับ ไม่ใช่น้องสาว” แคทรียาหันไปสบตากับคนพูดด้วยหัวใจที่พองโตคับอกคุณเมธาหันไปสบตากับภรรยาที่ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อได้ยินลูกชายตัวดีสารภาพรักสาวแบบเต็มปากเต็มคำ เห็นทีว่างานนี้เธอจะได้ลูกสะใภ้สมใจแม่สุดๆ“แล้วลูกล่ะยัยแคท อยากแต่งหรือเปล่า” คุณราเมศร์หันมาทางลูกสาว“แต่งค่ะ” หญิงสาวตอบโพล่งโดยไม่ต้องคิด ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่ค้อน“ไม่คิดอีกสักหน่อยเหรอ ถึงยังไงเราก็เป็นฝ่ายหญิงนะ” คุณราเมศร์อ่อนอกอ่อนใจกับความมั่นของลูกสาวคนเล็ก“ก็แคทคิดมาแล้ว ในเมื่อเราสองคนรักกัน แล้วยังต้องรออะไรล่ะคะ อีกอย่างถ้าแคทคิดมาก เดี๋ยวท้องโตกว่านี้ ก็แต่งชุดเจ้าสาวไม่สวยกันพอดี”“ท้องโต!” คุณราเมศร์อุทานลั่น ในขณ
“อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”ดิฐกรมองสบตาเธอนิ่ง มวลความรู้สึกมากมายอัดแน่นในอกของเขาจนแทบจะล้นทะลักออกมา เกรงว่าหากเขาไม่พูดตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก“พี่ไม่ใช่คนดี เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนโง่งี่เง่ามากๆ ด้วย”แคทรียาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่“ครั้งหนึ่งพี่เคยทำพลาดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวและกลัวการผูกมัด กลัวที่จะต้องแต่งงาน กลัวเสียอิสรภาพบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเสียคนที่พี่รักให้คนอื่นไปคนหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้พี่จะไม่ยอมเสียคนที่พี่รักไปอีก...”ราวกับเวลาหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำว่า ‘คนที่พี่รัก’ ของเขากระแทกใจเธออย่างจัง นั่นเขาหมายถึงใครกันคงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง“พี่รักแคท เราแต่งงานกันนะ”สาวมั่นถึงกับตะลึงงัน เมื่อเจอคำบอกรักแบบสายฟ้าแลบ“แล้วพี่มี่ล่ะ พี่ดิวลืมพี่มี่ได้แล้วเหรอ”“หึงเหรอ” คนเจ็บแกล้งตีหน้านิ่งถาม“หึงอะไร อย่ามาหลงตัวเองนะ”“งั้นพี่หลงเมียแทนได้ไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง“ไม่ต้องหึงแล้วตัวแสบ ระหว่างพี่กับมี่ เราเหลือแค่สถานะพ่อแม่ของน้องมิวเท่านั้น”เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากเขา ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่เคยได้ยินจากปากมิรัน
“ไม่! อย่าไปนะ อย่าทิ้งพี่...” ชายหนุ่มรีบรั้งเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กลัวว่าหากปล่อยให้เธอไป เขาจะไม่ได้พบเธออีก เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปต่อหน้า อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันทำให้เขารู้แล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้เสียชีวิตไป โชคดีแค่ไหนที่เขายังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาพบเธออีกครั้ง ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนมีค่า และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับความกลัวอย่างงี่เง่าของตัวเองอีก แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแคทรียามองสบสายตาเขานิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจหายตัวไปก็คิดว่าจะตัดใจและตัดเขาออกไปได้ เธออยากจะทำใจแข็งให้มากกว่านี้ อยากจะโกรธ อยากจะงอน อยากจะเล่นตัวให้มากกว่านี้ อยากจะหนีไปให้เขาร้อนรนตามหาให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องพังครืน เมื่อได้รู้ข่าวจากมิรันดาว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล เธอก็ลืมความขุ่นเคืองก่อนหน้าไปเสียสิ้น ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพของเขาที่เป็นตายเท่ากัน หัวใจก็เจ็บปวดแทบแหลกสลาย“พี่...” เสียงเขาเบาหวิวทำให้เธอต้องขยับเอียงหูเข้าไปใกล้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร“พี่ขอโทษ...” หญิงสาวชะงักเมื่อได้ยินคำเดียวกับใ
“จริงสิคะ มี่เลยรีบโทรมาบอกพี่ดิวก่อนนี่ไง พี่ดิวก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”ดิฐกรอยากจะโห่ร้องดังๆ กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน แคทรียากำลังจะกลับมา และในตอนนี้เขาก็มีคำตอบกับตัวเองแล้วเขารักเธอ! และจะไม่ยอมเสียเธอกับลูกไปเหมือนผู้ชายคนเมื่อกี้เด็ดขาดชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินดิฐกรรีบขึ้นรถและขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนขามาลิบลับ ตอนนี้เขามีความสุขล้นปรี่ มีความหวังเต็มเปี่ยม โลกที่มืดมนกลับสว่างไสวขึ้นเพียงคิดว่าจะได้พบแคทรียา ผู้หญิงที่เขารู้ตัวแล้วว่ารัก และไม่อยากเสียเธอไปไม่ว่าอย่างไรปรี๊น!!!ชายหนุ่มคิดเพลินจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีเสียงแตรดังลั่นมาจากที่ไกลๆ เขาจึงได้สติรีบหันไปมอง ก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ากำลังพุ่งตรงเข้ามา ดิฐกรตกใจสุดขีดจึงรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้จนรถแน่นิ่งไป พร้อมกับสติสัมปชัญญะของเขาที่ดับวูบไปในนาทีนั้นพร้อมกับสิ่งที่ติดค้างในหัวใจอยากเจอเธออีกสักครั้งหรือเขาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว...“พี่ดิว...พี่ดิว...” ดิฐกรได้ยินเสียงหวานคุ้นหูของใ
‘ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้มีความสุขกับเขาเสียที หรือต้องรอให้สูญเสียก่อนอีกครั้ง พี่ถึงจะคิดได้ว่าอะไรที่มีค่ากับชีวิต...’เท้าของเขาค่อยๆ ก้าวฝ่าทุกคนไปจนถึงร่างอันไร้วิญญาณที่นอนนิ่งคลุมผ้าขาวตรงหน้า“เข้าไม่ได้นะครับ คุณเป็นอะไรกับผู้เสียชีวิตครับ”คำว่าผู้เสียชีวิตทำให้เขารู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันใด ก่อนที่น้ำใสๆ จะรื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนทุกอย่างรอบกายพร่าเลือน หัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเขามันโง่! โง่ที่สุดในที่สุดความโง่งี่เง่านั่นก็พาให้เขาต้องพบกับจุดจบที่ต้องสูญเสียอีกครั้ง ครั้งแรกเป็นการจากเป็นที่ว่าเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า เพราะเขาจะไม่ได้พบเธออีกต่อไปแล้ว เพียงคิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนพร่าไปหมด‘แล้วถ้าแคทบอกว่าต้องการความรักจากพี่ ต้องการให้พี่แต่งงานกับแคท ต้องการให้พี่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแคท พี่ดิวทำได้ไหมล่ะ’คำถามนั่นย้อนกลับเข้ามาเล่นงานเขาในวันที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว“ผม...ผมเป็นสามีของเธอครับ” ริมฝีปากแห้งผากบอกออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบ