แม่ทัพสาวเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่พร้อมกับผู้ติดตาม ด้วยความเร่งรีบ
" แม่ทัพไป๋ องค์ชายสาม รวมถึงท่านทูต องค์รัชทายาทมีคำสั่งให้ข้าพาพวกท่านไปส่งที่ชายแดนโดยด่วน ข้าไม่มีเวลาอธิบายมาก เรารีบไปกันเถอะ " แม้ว่าอินหยวนจะพูดแบบนั้น แต่ก็มิมีผู้ใดขยับเขยื้อนเลยแม้แต่คนเดียว " จงหนานเกิดศึกภายใน แล้วเช่นนี้ พี่หญิงของข้าเล่า นางปลอดภัยดีหรือไม่ " " องค์ชายโปรดวางใจ ตอนนี้พระชายาอยู่ที่ตำหนักบูรพา มีเหล่าองครักษ์มากมายคอยคุ้มกัน นางไม่เป็นอะไรหรอกเพคะ พระนางทรงกำชับให้หม่อมฉันไปส่งองค์ชายให้ถึงชายแดน " องค์ชายสามได้ฟังเช่นนั้น ก็ยิ่งเป็นกังวลใจ มากกว่าเดิมอีก พี่สาวของเขากำลังเจอปัญหา จะให้เขาทิ้งนางแล้วหนีไปได้อย่าวไรกัน " เราไม่ไปหรอก " " จื่อหลง.....ซีหยางนางเป็นคนรอบคอบ ที่ให้เจ้าไปเพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นสงครามระหว่างแคว้น เจ้าคิดดู หากองค์ชายสามแห่วแคว้นเหลียง มีอันเป็นไปในจงหนาน เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วอีกอย่างคนขององค์ชายสี่ก็กำลังจับตาดูเราอยู่ องค์หญิงใหญ่เสียงเหล็กกล้ากระทบกันดังระงมไปทั่วทั้งตำหนัก พร้อมกับเสียงหวีดร้องแห่งความเจ็บปวดของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ องค์ชายสี่กับท่านตาของเขาช่างโหดเห*้ยมยิ่งนัก ล้อมตำหนักของฝ่าบาทเอาไว้ยังไม่พอ ยังจะส่งคนมาจับตัว พระชายาองค์รัชชายาทไปอีก เขาฉวยโอกาสในตอนที่หลิงกุ้ยเฟยผู้เป็นมารดาไปปฏิบัติธรรมบนเขาเสินหลัวทำการกบฏ เพราะรู้ดีว่ามารดาของเขาคงจะไม่เห็นชอบด้วยเป็นแน่ กู้ซีหยางนางย่างกลายผ่านซากศพของเหล่าทหารสกุลหลิงด้วยเท้าที่มั่นคง และไม่มีท่าทีหวาดหวั่นต่อภาพการมองเลือดตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย การสู้รบเช่นนี้นางเห็นมามากพอแล้ว และไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ดังนั้นนางคงต้องไปช่วยเขา " แม่ทัพฉู่ " " เพคะ " " หลิงกุ้ยเฟย ไม่เห็นด้วยกับการก่อกบฏครั้งนี้จริงหรือ " อินหยวนหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามของสตรีสูงศักดิ์ตรงหน้า ใบหน้าของนางนั้นเรียกเฉยไร้ซึ่งอาการหวาดกลัวแต่อย่างใด จากการที่เห็นพระชายาผู้นี้ร่
แม่ทัพสาวเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่พร้อมกับผู้ติดตาม ด้วยความเร่งรีบ " แม่ทัพไป๋ องค์ชายสาม รวมถึงท่านทูต องค์รัชทายาทมีคำสั่งให้ข้าพาพวกท่านไปส่งที่ชายแดนโดยด่วน ข้าไม่มีเวลาอธิบายมาก เรารีบไปกันเถอะ " แม้ว่าอินหยวนจะพูดแบบนั้น แต่ก็มิมีผู้ใดขยับเขยื้อนเลยแม้แต่คนเดียว " จงหนานเกิดศึกภายใน แล้วเช่นนี้ พี่หญิงของข้าเล่า นางปลอดภัยดีหรือไม่ " " องค์ชายโปรดวางใจ ตอนนี้พระชายาอยู่ที่ตำหนักบูรพา มีเหล่าองครักษ์มากมายคอยคุ้มกัน นางไม่เป็นอะไรหรอกเพคะ พระนางทรงกำชับให้หม่อมฉันไปส่งองค์ชายให้ถึงชายแดน " องค์ชายสามได้ฟังเช่นนั้น ก็ยิ่งเป็นกังวลใจ มากกว่าเดิมอีก พี่สาวของเขากำลังเจอปัญหา จะให้เขาทิ้งนางแล้วหนีไปได้อย่าวไรกัน " เราไม่ไปหรอก " " จื่อหลง.....ซีหยางนางเป็นคนรอบคอบ ที่ให้เจ้าไปเพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นสงครามระหว่างแคว้น เจ้าคิดดู หากองค์ชายสามแห่วแคว้นเหลียง มีอันเป็นไปในจงหนาน เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วอีกอย่างคนขององค์ชายสี่ก็กำลังจับตาดูเราอยู่ องค์หญิงใหญ่
จวนรับรองแคว้นจงหนาน จูหลงมองใบหน้าเคร่งขรึมของท่านผู้บัญชาการ ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่กลางห้อง นางเดินตามหลังเสี่ยวฮัวมา หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา " ท่านผู้บัญชาการ ข้าไม่ได้... " " ฮูหยินน้อยนางว่าอย่างไรบ้าง " ยังไม่ทันที่จูหลงจะได้เอ่ยจบ ท่านผู้บัญชาการก็เอ่ยถามขึ้นมาก่อน เหมือนกับว่าเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่านางมาได้อย่างไร " จดหมายเจ้าค่ะ " จูหลงเลือกที่จะยื่นจดหมายของนายหญิงให้กับท่านผู้บัญชาการแทน เขาจึงรับมันไว้ และมีกล่องไม้เล็ก ๆ อีกหนึ่งกล่อง ที่ฮูหยินน้อยฝากมาให้ " พวกเจ้าไปเถอะ " " เจ้าค่ะ " ไป๋มู่จินมองดูกล่องไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ และจดหมายในมือ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา คาดว่าจูหลง กับฮูหยินน้อยคงจะร่วมมือกันแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นต้าฉีคงจะต้องรายงานเขาแล้ว ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะรู้หรือยังว่าญาติผู้น้องของเขาแอบหนีมาที่นี่ เมื่อเปิดกล่องออกสิ่งแ
ภายในเรือนของสตรีตัวเล็กที่ได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ ภายในห้องลับของนางเต็มไปด้วยขวดน้ำหอมและแป้งฝุ่นมากมาย แต่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปใช้กันเพราะทุกอย่างล้วนผสมยาพิษร้าย แตกต่างกันออกไป จูหลงมองสิ่งของต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะสลับกับมองหน้าของสตรีผู้งดงามตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา " เลือกสิ จะมัวมองอะไรนักหนา " " เจ้า....ทำเอง ทั้งหมดเลยหรอ แล้ว..... " " ใช่ ข้าทำตั้งแต่อยู่ที่อำเภอชิงเหอ หลังจากตั้งครรภ์ก็ไม่ได้แตะต้องพวกมันอีก " " แล้ว......ท่านผู้บัญชาการเขารู้ไหม " " ข้าคิดว่า...เขารู้นะ " จูหลงพยักหน้ารับ แล้วหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ขึ้นมาดู ข้างในเหมือนจะเป็นแป้งฝุ่นธรรมดา " นั่นคือผงนิทรา มีฤทธิ์ร้ายแรงหากเผลอใช้มากเกินไปคนที่สูดดมเข้าไปอาจจะหลับยาว 3 วัน 7 วันเลยก็ได้ " จูหลงที่กำลังจะยกขึ้นมาดมดู ถึงกับต้องปิดไว้แล้ววางลงที่เดิมทันที " ส่วนชาติทาปา
ท่ามกลางความมืดมิด ภายนอกจวนรับรองต่างแคว้น ยังมีเงาดำหลายสาย เคลื่อนไหวอยู่ภายนอก ในขณะที่คนด้านในยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง แม้ว่าสายตาและใบหน้าของพวกเขาจะยังคงสงบนิ่งอยู่ แต่ภายในหัวของพวกเขากำลังนับและคำนวณ จำนวนคนรวมทั้งวรยุทธ์ของพวกที่คิดจะลองของอยู่ " เฮ้อ......ราตรีนี้ไร้ซึ่งแสงจันทร์ แต่ก็ยังดีที่ยังมีดาวดวงน้อยพวกนี้ให้เชิยชม " องค์ชายสามเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ในแววตาของเขาปรากฏความเจ้าเล่ห์อยู่อย่างไม่ปิดบัง ไป๋มู่จินมองดูเขาแล้วก็กระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเขามองสบตากับเสี่ยวฮัวที่ยังยืนนิ่งอยู่เพื่อรอรับคำสั่ง " เสี่ยวฮัว เหลือเอาไว้ให้ข้าสอบสวนสักคนหน่อยก็แล้วกัน " " ขอรับ " " เฮ้.....เดี๋ยวสิศิษย์พี่ แค่องครักษ์เสี่ยวคนเดียวหรือ แล้วข้าหล่ะ " องค์ชายสามเอ่ยแย้งขึ้นเมื่อเห็นว่าเสี่ยวฮัวเดินออกไปแล้ว ส่วนลู่เกาหย่งก็ทำแค่จิบชาอย่างสบายใจ " หากองค์อยากออกไปเดินเล่นบ้างก็ตามใจ " " ออ....งั้นข้าไปล่ะนะ "
ซูหวินซีมองสบตากับสาวใช้คนสนิทของตน ที่พึ่งจะเดินเข้ามาหลังจากสาวใช้คนเมื่อครู่เดินออกไป " คนที่มาเป็นบุรุษ ท่าทางสูงส่งมาเลยเจ้าค่ะ แม้แต่ท่านรองแม่ทัพเองยังมิกล้าขวางเขาเลยเจ้าค่ะ แต่พวกเขาดูเหมือนจะไม่ถูกกันเท่าไหร่นักนะเจ้าคะ ข้ามองจากที่ไกล ๆ เห็นเพียงข้างหลังของคนผู้นั้น แต่ดูเหมือนว่า..... " " ว่าอะไร หลี่เจิน พูดมา " นางเอ่ยถามสาวใช้ของตนที่มีท่าทางแลก ๆ จะพูดก็ไม่พูด " คุณหนูจิน.....เอ่อ ฮูหยินหวังดูเหมือนจะรู้จัก กับคนผู้นั้นด้วยเจ้าค่ะ " ยิงฟังยิ่งงงไปกันใหญ่ว่าคนผู้นั้นพี่สาวใช้ของนางหมายถึงเป็นใครกันแน่ นางกับฟู่หลงพึ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ได้แต่ต้องไปดูเองเท่านั้นสินะ " ฮูหยิน ท่านเดินช้า ๆ หน่อยเจ้าค่ะ " หลี่เจินที่เดินตามหลังมาเอ่ยเตือน พักหลังมานี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีสาวใช้มาล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด คอยห้ามนู่นห้ามนี่ ทำอะไรนิดหน่อยก็ไม่ได้ นางก็แค่ท้องเองนะ คอยคุมอย่างกับนักโทษ " รู้แล้วน่าาา