Masukเมื่อมาถึงบ้านเทียนหอมก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะได้ไปหายายนวลจันทร์ที่โรงพยาบาล เพราะวันนี้เธอต้องไปทำงานที่ผับต่ออีก หากเธอทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ เธอเชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้มาจะต้องดีมากแน่นอน
ร่างบางนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วยและจับมือยายนวลจันทร์เบาๆ ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ แต่เธอก็ยังคงยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจและเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีมากขึ้น “ยายคะ หนูจะทำงานให้หนักขึ้นอีกนิด เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะ” เธอกระซิบเบาๆ พร้อมลูบหลังมือยายที่อบอุ่นไปด้วยความรักเมื่อเห็นว่ายายนอนหลับอยู่ “ทำงานเสร็จหนูจะรีบกลับมาหายายนะ” เทียนหอมพูดเสียงเบาวันนี้เธอไม่มีเวลาที่จะอยู่กับยายนานๆ จนถึงเวลาที่ยายตื่นได้ เพราะเธอต้องรีบไปทำงานต่อ ร่างบางมองยายที่นอนหลับอยู่ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสงสาร ก่อนที่เธอจะเดินออกไป เมื่อไปถึงผับตามเวลาที่นัดหมาย เทียนหอมก็มองไปเห็นพี่รหัสที่กำลังยืนรอเธออยู่พร้อมกับรอยยิ้มที่ช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น “มาแล้วเหรอเทียนหอม?” พี่รหัสพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าตอบด้วยความตื่นเต้น เธอไม่เคยมาสถานที่แบบนี้เลยสักครั้ง เพราะตั้งแต่เด็กจนโตเธอก็มอบชีวิตให้กับการเรียนและการทำงาน ไม่มีเวลามาเที่ยวสถานที่แบบนี้เลย “ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวพี่พาไปคุยกับหัวหน้าแล้วจะบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง” เมลให้กำลังใจเผื่อจะทำให้เทียนหอมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง พี่รหัสพาเทียนหอมเข้าไปภายในผับก่อนจะเดินตรงไปยังห้องเก็บของซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของพนักงานที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม “สวัสดีค่ะพี่ภูมิ” เมลทักทายผู้ชายที่อยู่ในห้องด้วยท่าทางสนิทกัน “อ้าวเมล! ไม่เจอกันนานเลยนะ” ชายหนุ่มทักทายกลับ “เมลก็มาทุกวันแหละ แค่ไม่ได้เข้ามาทักทายพี่ภูมิเฉยๆ วันนี้เมลมีเรื่องอยากจะรบกวนนิดหน่อยค่ะ” เมลตอบก่อนจะพูดถึงธุระที่เธอมาในวันนี้ “เรื่องอะไรเหรอ?” ภูมิหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟถามกลับด้วยความสงสัย “เมลอยากฝากงานเด็กเสิร์ฟให้น้องค่ะ” เมลพูดอย่างตรงไปตรงมา เพราะเทียนหอมไม่ใช่คนแรกที่เธอมาฝากงานให้ “หน้าตาสวยๆ แบบนี้ทำไมเมลไม่ให้น้องไปทำงานด้วยละ” ภูมิมองสำรวจรุ่นน้องอีกคนก่อนจะถามขึ้นมา “เมลชวนแล้ว แต่น้องอยากเป็นเด็กเสิร์ฟค่ะ” เมลตอบกลับแบบไม่ต้องคิด เพราะทุกอย่างที่เธอพูดเป็นความจริงทั้งหมด “ได้สิ! พร้อมเริ่มงานวันนี้เลยไหม?” ภูมิไม่มีปัญหาอะไรจึงตอบตกลงรับรุ่นน้องอีกคนเข้าทำงาน “พร้อมค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าตอบ “ดี! งานที่ทำไม่ยากหรอก แค่เสิร์ฟกับดูแลลูกค้าให้ดี ถ้าสงสัยหรือมีคำถามอะไรมาถามพี่ได้เลย” ภูมิบอกด้วยท่าทางเป็นกันเอง “ค่ะ” “นี่คือชุดทำงานของน้อง เอาไปเปลี่ยนแล้วเริ่มงานได้เลย” หลังจากนั้นภูมิก็อธิบายเกี่ยวกับพื้นที่ที่เทียนหอมจะต้องดูแล รวมถึงกฎระเบียบที่ต้องทำเพิ่มเติมอีกด้วย “ขอบคุณค่ะ” เทียนหอมรับชุดมาด้วยท่าทางลังเลเล็กน้อย เธอไม่เคยใส่ชุดแบบนี้มาก่อนและมันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ แต่เธอก็พยายามสลัดความไม่มั่นใจออกไป “นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ถ้าหากเราตั้งใจทำเราจะพายายไปสู่อนาคตที่ดีกว่านี้ได้อย่างแน่นอน” เทียนหอมพยายามบอกตัวเองอย่างมีเหตุผล เธอต้องสู้และทำทุกอย่างเพื่อยายและเพื่อตัวเองให้ได้ เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จและพร้อมที่จะเริ่มงาน เทียนหอมก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ยากเกินไปอย่างที่เธอคิด ลูกค้าบางคนก็สุภาพและให้ทิปดี แต่ก็มีบ้างที่ทำให้เธอต้องฝืนยิ้ม เธอรับรู้ถึงความแตกต่างของโลกใบใหม่ในยามค่ำคืน แต่เธอก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับงานใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะเธอจะต้องทำงานนี้ไปอีกนาน ในใจของเทียนหอมเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เธอสัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจทำงานนี้ให้ดีที่สุด เพื่อหาเงินมาช่วยยายนวลจันทร์และสร้างชีวิตใหม่ที่เธอฝันเอาไว้ให้ได้ .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน มาร่วมเป็นกำลังใจให้เทียนหอมไปด้วยนะคะหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







