Masuk“….” เทียนหอมนั่งลงที่พื้นราวกับคนหมดแรง มือบางปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอจะแก้ปัญหาและผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง
“เหนื่อยมากไหม? มีอะไรก็พูดกับพี่ได้เสมอนะ ระบายมันออกมาไม่ต้องแบกมันไว้คนเดียวหรอก” พี่รหัสนั่งลงข้างๆ พร้อมกับคำพูดที่ดูใจเย็น “พี่เมล… ตอนนี้เทียนเหนื่อยมากเลย ชีวิตมันหนักไปหมดทั้งเรื่องค่าเทอม ทั้งเรื่องยายที่ต้องรักษา เทียนรู้สึกเหมือนตัวเองแบกทุกอย่างไว้คนเดียว พี่เมลรู้ไหมบางครั้งเทียนยังคิดเลยว่าจะไปต่อไหวหรือเปล่า” เทียนหอมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก “พี่เข้าใจนะเทียน แต่เทียนไม่จำเป็นต้องที่จะต้องแบกทุกอย่างไว้คนเดียว โลกนี้มันโหดร้ายก็จริงแต่บางครั้งเทียนก็ต้องยอมให้คนอื่นช่วยแบ่งเบาบ้างนะ” พี่รหัสยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่สายตาเต็มไปด้วยความสงสาร “เทียนอยากช่วยยาย เทียนอยากเรียนจบมหาวิทยาลัยให้ได้ แต่ทุกอย่างมันต้องใช้เงิน เทียนเคยคิดว่าการทำงานหนักจะพอ แต่ตอนนี้เทียนไม่แน่ใจแล้วว่าเทียนจะทำยังไงต่อ” เทียนหอมร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกที่ล้นอยู่ภายในใจ “ฟังนะเทียนหอม พี่มีงานที่อยากแนะนำ เป็นงานง่ายๆ ที่ได้เงินดี เทียนสนใจไปเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับไหม ที่นั่นลูกค้ารวยทิปเยอะ แค่บริการดีๆ หน่อย ทำงานแค่ไม่กี่ชั่วโมงเทียนอาจจะได้เงินหลายพันเลยนะ สนใจไหม?” พี่รหัสพูดด้วยน้ำเสียงสนับสนุน “งานกลางคืนเหรอคะ? เทียนไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนเลยนะ แต่... เทียนก็ต้องการเงิน เทียนอยากช่วยยายให้ได้มากกว่านี้ แล้วเทียนก็ไม่อยากจะล้มเลิกความฝันที่จะเรียนจบด้วย” เทียนหอมมองพี่รหัสด้วยสายตาลังเลพร้อมกับพูดเสียงเบา “เป็นงานกลางคืน แต่มันก็ไม่ได้ยากหรือเสี่ยงอะไรนะ แค่บริการดีลูกค้าก็พอใจแล้ว แล้วพี่จะช่วยดูแลให้เทียนปลอดภัยเอง ถ้าเทียนอยากลองก็ไปเจอกับพี่ที่ผับตอนเย็นนะ เดี๋ยวพี่จะฝากงานให้” พี่รหัสยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับตบไหล่เทียนหอมเบาๆ เทียนหอมนั่งนิ่งคิดสักพัก ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ได้ค่ะพี่เมล เทียนจะลองดู เทียนไม่ได้มีทางเลือกมากนัก แต่เทียนจะทำให้ดีที่สุดค่ะ” “งั้นเจอกันที่นี่นะ” เมลยื่นโทรศัพท์ที่เป็นรูปด้านหน้าผับให้เทียนหอมดู “ค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าตอบตกลงก่อนที่พี่รหัสจะขอตัวไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ หลังจากที่เทียนหอมตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของพี่รหัสเพื่อที่จะไปทำงานที่ผับ ความรู้สึกของเธอก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งอยู่ภายในใจ เธอรู้สึกกดดันและเหนื่อยล้าจากการที่ต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียว ความคิดต่างๆ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ เธอจะทำยังไงให้มีเงินพอสำหรับค่าเทอมและค่ารักษายาย เทียนหอมรู้สึกเหมือนกำลังถูกบีบให้เลือกเส้นทางที่ไม่เคยคิดจะก้าวเดินมาก่อน งานกลางคืนอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอวาดฝันไว้ แต่ความต้องการที่จะทำให้ยายมีชีวิตที่ดีและความหวังที่เธอจะเรียนจบพร้อมเพื่อน ทุกอย่างเป็นเหมือนแรงผลักดันให้เธอยอมทิ้งความลังเลและความภาคภูมิใจบางอย่างในตัวเองเอาไว้ ในขณะเดียวกันภายในใจของเทียนหอมก็เต็มไปด้วยความกลัวและความไม่แน่ใจ เธอกังวลว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างในโลกของงานกลางคืนและเธอก็กลัวที่จะถูกตัดสินหรือมองในแง่ลบจากคนรอบข้าง แต่ลึกๆ เธอก็สัญญากับตัวเองว่าเธอจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยไม่ให้กระทบต่อเกียรติและคุณค่าของตัวเอง ระหว่างทางเดินกลับบ้านเทียนหอมรู้สึกถึงน้ำหนักของการตัดสินใจครั้งนี้ เธอเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและพูดกับตัวเองเบาๆ ในใจว่า “หนูจะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่หนูจะทำเพื่อยายที่หนูรักมากที่สุด” เทียนหอมรู้ว่าชีวิตไม่เคยง่ายสำหรับเธอ แต่ทุกการเติบโตที่เธอเลือก คือการเดินไปสู่อนาคตที่เธอหวังแม้มันจะเต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรคมากมายแค่ไหน สุดท้ายเธอก็ต้องสู้ต่อไปอยู่ดี… .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







