Masukแสงแดดในยามเช้าเริ่มสาดส่องเข้ามาทำให้เธอรู้สึกตัวตื่น เทียนหอมได้ยินเสียงบทสนทนาของพยาบาลสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับมองมาที่เตียงของยายเธอ เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างชัดเจนและเต็มไปด้วยความดูถูก
“คนไข้แบบนี้นะไม่มีเงินก็ไม่ต้องมารักษาหรอก เสียเวลาเปล่าๆ โรคชราแบบนี้รักษาไปก็เท่านั้น สุดท้ายก็เหมือนเดิมอยู่ดี” พยาบาลคนหนึ่งพูดพลางหัวเราะเบาๆ ราวกับว่าสิ่งที่พูดออกมาเป็นเรื่องปกติ “จริงสิ คนจนแบบนี้จะเอาเงินที่ไหนมาซื้ออาหารเสริมดีๆ หมอก็จัดวิตามินให้ไปตามหน้าที่ แต่จะช่วยอะไรได้ล่ะ?” พยาบาลอีกคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย เทียนหอมยืนฟังอยู่ที่ข้างเตียง ซึ่งเธอได้ยินเสียงของพยาบาลพูดคุยกันชัดเจนทุกประโยค น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอกำมือแน่นพยายามกลั้นความเจ็บปวดในใจ เธอรู้ดีว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ได้มีความหมายอะไร แต่สำหรับเธอมันเหมือนการตอกย้ำความจริงที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ร่างบางลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องผู้ป่วยไปยังระเบียง เทียนหอมกำมือแน่นก้มหน้าระบายความเจ็บปวดออกมาเป็นเสียงสะอื้นเบาๆ ความคิดในหัววนเวียนไปมาว่าเธอทำอะไรไม่ได้เลย เธอมีเพียงชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและภาระในแต่ละวัน ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนถูกบีบจนแทบจะหายใจไม่ออก “เทียนจะไม่ปล่อยให้ยายต้องลำบากอีกแล้ว ยายจะต้องอยู่กับเทียนไปนานๆ เทียนจะทำทุกอย่างเพื่อยาย ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะไม่ยุติธรรม แต่เทียนจะไม่ยอมแพ้” เทียนหอมพูดกับตัวเองเบาๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความหนักแน่น มือบางปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เทียนหอมพยายามเข้มแข็งและตั้งสติก่อนที่เธอจะเดินกลับเข้าไปหายายนวลจันทร์ที่เตียง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของยายที่หลับสนิท เธอก็รู้สึกถึงความรักและความผูกพันที่ทำให้เธอมีแรงสู้ต่อไป เธอจับมือยายเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ยายไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะดูแลยายให้ดีที่สุดค่ะ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน หนูจะไม่ยอมให้คำพูดของใครมาทำให้เราหมดกำลังใจเด็ดขาด” เทียนหอมยิ้มทั้งน้ำตา เธอพยายามซ่อนความเจ็บปวดในใจและพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “เงินเท่านั้นที่จะเปลี่ยนทุกอย่าง ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตเป็นแบบนี้อีกแล้ว ต่อไปฉันจะบูชาเงิน เงินจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้คุณภาพชีวิตของยายและฉันดีขึ้นได้ ฉันสัญญา” เทียนหอมบอกกับตัวเองอย่างหนักแน่น แม้ว่าเธอจะโกรธกับคำพูดของพยาบาลสองคนนั้นมาก แต่เธอก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ในตอนนี้ เธอเลือกที่จะเก็บความเจ็บปวดไว้ในใจ พร้อมกับตั้งเป้าหมายในชีวิตที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อหารายได้ให้มากที่สุด เธอจะทำงานหนัก เธอจะไม่ยอมให้ใครดูถูกเธอกับยายอีก “สักวันหนึ่งยายต้องได้รักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุด ยายต้องได้กินอาหารดีๆ และมีชีวิตที่สบายขึ้น หนูจะทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นจริงด้วยมือของหนูเอง” เทียนหอมพูดกับตัวเองเบาๆ แต่น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงผลักดันที่ไม่มีวันลดลง เทียนหอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ขยับผ้าห่มให้ยายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเพื่อสูดลมหายใจลึกๆ อีกครั้ง เธอจะไม่ยอมให้ความเศร้าหรือคำดูถูกของคนอื่นมาทำให้เธอหมดกำลังใจ เพราะตอนนี้เธอรู้แล้วว่าความฝันและเป้าหมายในชีวิตของเธอชัดเจนขึ้นกว่าเดิม .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ บางครั้งคำพูดคนก็เหมือนกับมีดที่กรีดลงกลางใจของเราได้เช่นกันหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







