Masuk“ยาย…” เทียนหอมเรียกชื่อยายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เมื่อเธอเห็นยายกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
“คุณเป็นญาติของคนไข้ใช่ไหมคะ?” เสียงของพยาบาลที่ใส่ชุดสีขาวสะอาดตาเดินเข้ามาถาม “ใช่ค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าตอบพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา “ทางเรากำลังรอญาติอยู่พอดี เชิญด้านนี้เลยค่ะ” พยาบาลผายมือไปอีกทางพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร เพราะถึงยังไงโรงพยาบาลเอกชนก็ต้องดูแลดีกว่าโรงพยาบาลรัฐอยู่แล้ว “ญาติของคุณยายนวลจันทร์มาแล้วค่ะ” พยาบาลพาเทียนหอมไปพบคุณหมอที่อยู่ภายในห้อง ซึ่งเป็นพื้นที่เอาไว้สำหรับแจ้งอาการคนไข้ให้ญาติได้ทราบ “คุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ พอดีคุณหมออยากให้คุณยายนอนดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักสองสามคืนก่อนจะได้ตรวจให้ละเอียดมากกว่านี้ค่ะ” คุณหมอที่นั่งรออยู่ภายในห้องบอกกับญาติคนป่วยทันที “ฉันเป็นหลานค่ะ ฉันต้องการย้ายยายไปโรงพยาบาลรัฐตามสิทธิ์รักษาของยาย ฉันไม่มีเงินพอที่จะรักษายายที่นี่นานได้ค่ะ” เทียนหอมถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดเสียงสั่น “ค่ะ งั้นรบกวนไปติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าห้องนะคะ” คุณหมอพอที่จะเข้าใจทุกอย่าง จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหากไม่มีเงินก็คงต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐตามสิทธิ์ “ค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินหน้าเศร้าออกไปที่หน้าห้องฉุกเฉิน “ติดต่อเรื่องอะไรคะ?” เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหน้าเอ่ยถามทันที “พอดีฉันอยากจะย้ายยายไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐตามสิทธิ์ค่ะ” เทียนหอมบอกจุดประสงค์ที่ต้องการด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ หากเธอเลือกได้เธอก็อยากจะรักษายายที่นี่มากกว่า แต่เธอก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่ารักษาของยายได้ “เราสามารถจัดการย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลรัฐได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับรถพยาบาลที่มารับและต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งคุณต้องชำระก่อนค่ะ” เจ้าหน้าที่พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะอธิบายไปตามขั้นตอน เทียนหอมขมวดคิ้วเป็นปม ความกดดันเริ่มครอบงำเพิ่มมากขึ้น เธอเปิดกระเป๋าสตางค์ดูเงินเก็บที่มีอยู่ แต่เงินจำนวนนั้นก็ไม่ได้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย “พี่คะ ฉันมีเงินอยู่แค่นี้จริงๆ ถ้าไม่พอ ฉันจะหาเพิ่มให้ แต่ตอนนี้ช่วยยายก่อนได้ไหมคะ?” เทียนหอมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าหน้าที่พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอ “ฉันเข้าใจสถานการณ์ค่ะ งั้นเราจะช่วยจัดการให้ แต่คุณต้องรีบหาเงินมาชำระภายหลังนะคะ” เจ้าหน้าที่ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ขอบคุณค่ะ ฉันจะรีบหาเงินมาจ่ายส่วนที่เหลือให้เร็วที่สุด ขอบคุณมากๆ นะคะ” เทียนหอมยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ด้วยความขอบคุณ น้ำตาไหลออกมาเมื่อรู้ว่าเธอสามารถช่วยยายนวลจันทร์ได้แล้ว เธอรีบเซ็นเอกสารและรอจนรถของทางโรงพยาบาลมาย้ายยายนวลจันทร์ไปยังโรงพยาบาลรัฐตามสิทธิ์รักษา ระหว่างการเดินทางเทียนหอมมองดูยายที่หลับสนิทบนเตียงพยาบาล เธอจับมือยายเบาๆ และพูดกับยายเสียงเบา “ยายไม่ต้องกังวลนะคะ หนูจะดูแลยายให้ดีที่สุด หนูสัญญา” หลังจากย้ายยายนวลจันทร์มาที่โรงพยาบาลรัฐ เทียนหอมก็นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยทั้งคืน แม้ความเหนื่อยล้าเกาะกุมไปทั้งร่างกายและหัวใจ แต่เธอก็ไม่อาจละสายตาจากยายได้ เทียนหอมจับมือหยาบกร้านของยายนวลจันทร์ที่เคยเป็นแรงสำคัญในชีวิตเอาไว้แน่น น้ำตาเริ่มคลอทุกครั้งที่มองใบหน้าซูบผอมของยาย ความเหนื่อยล้าทำให้เทียนหอมเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว… .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ🙏🏼หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







