“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว นี่ออกมาทำอะไรอีก” เขาเห็นแก้วนมวางในถาด
“ลักษณ์ตั้งใจออกมาอุ่นนมให้คุณค่ะ”
“พอได้แล้ว ไปนอนดีกว่า นานๆ ฉันจะกลับบ้านแต่วันนะ” ว่าแล้วเขาก็จับมือเธอเดินเข้าไปในห้องนอน
ร่างเล็กล้มตัวลงนอนพร้อมกับอีกคนที่ล้มลงเคียงข้าง ลักษณ์นันท์สัมผัสได้ถึงแรงกอดที่พชรรั้งตัวเธอเข้าไปในอ้อมแขน ลมหายใจอุ่นๆ รดลงที่ข้างใบหูและเรื่อยลงมาที่แก้มสาว ความอบอุ่นจากสัมผัสที่แสนคุ้นเคยซึ่งเขามอบให้เสมอ
“นอนเถอะ ทีหลังไม่ต้องทำอะไรให้ฉันขนาดนี้ ดูแลตัวเองบ้างนะ รู้ไหม” เสียงกระซิบที่อ่อนโยนและห่วงใยคือยาใจให้กับคนฟัง
“ที่ลักษณ์ทำ ยังไม่เท่าที่คุณเพชรทำให้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างเจียมตัว
“แค่ทำให้ฉันสบายใจ ไม่ทำอะไรวุ่นวายหรือทำให้ปวดหัวก็พอแล้ว”
ลักษณ์นันท์ขยับตัวเข้านอนหนุนแขนตามแรงรั้งของชายหนุ่ม ตอนนี้พชรกอดเธอไว้หลวมๆ แล้วก้มลงมาหอมหน้าผากอย่างสบายใจ
“เธออยู่แบบนี้มีความสุขไหม” จู่ๆ เขาก็ถาม
พชรกำลังคิดถึงเรื่องที่คุยกับมารดาเมื่อตอนหัวค่ำ แล้วก็อดคิดถึงคนในอ้อมกอดไม่ได้ หากเขาตกลงแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้จริงๆ แล้วลักษณ์นันท์จะอยู่อย่างไรต่อ
ชายหนุ่มยอมรับว่า ‘ขาด’ แม่สาวน้อยในอ้อมแขนไม่ได้เสียแล้ว ความสบายใจ ความสุขและความเป็นตัวเองโดยไม่ต้องฝืน ทุกอย่างเป็นได้เมื่ออยู่กับลักษณ์นันท์ พชรจึงไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานแม้แต่นิดเดียว เพราะรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้
‘สบายใจที่สุด’
“ทำไมคุณเพชรถามอย่างนั้นล่ะคะ” หญิงสาวย้อนถามกลับ
“ตอบมาก่อนซิว่า มีความสุขไหม” พชรรอฟังคำตอบ
“ลักษณ์ไม่เคยเสียใจที่อยู่กับคุณเพชรค่ะ” ลักษณ์นันท์ตอบเสียงดังฟังชัด
ในสายตาคนอื่นจะมองเธอว่าอย่างไร เมียน้อยหรือเมียเก็บ หรืออะไรก็ช่าง แต่ลักษ์นันท์ไม่เคยสนใจ เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เลือกและตัดสินใจที่จะเป็น ‘ผู้หญิงของพชร’ นั้น ไม่ได้มาจากการบังคับหรืออารมณ์ชั่ววูบแต่อย่างใด แต่มาจากความเต็มใจและจริงใจที่จะไม่เรียกร้องสิ่งใดจากเขา
วันที่บิดาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ชีวิตที่อ้างว้างโดดเดี่ยวบนโลกใบนี้เพียงลำพัง ผู้ชายคนนี้ก้าวลงจากรถคันหรูและใช้สองมือประคองอย่างอ่อนโยน พาเธอมาที่นี่เพื่อปลอบประโลมและบอกว่าจะรับผิดชอบชีวิตที่เหลือจากนี้
เขาให้ชีวิตใหม่ มอบรอยยิ้มและความสุขให้ในฐานะผู้ดูแลคนใหม่ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดนอกจากทำหน้าที่ผู้ดูแลปกป้องให้ดีที่สุด จวบจนกระทั่งลักษณ์นันท์เรียนจบเป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ พชรก็ฝากงานให้ทำในบริษัท
นั่นแหล่ะ เธอจึงเห็นว่าภายใต้ความอ่อนโยนที่เขามอบให้นั้น แท้จริงแล้วภาระที่หนักอึ้งและยิ่งใหญ่อยู่เต็มสองบ่าของผู้ชายคนนี้ ลักษณ์นันท์ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยงานอย่างไม่เกี่ยงงอน เพื่อตอบแทนความเมตตาที่พชรมีต่อเธอ
จนกระทั่ง...
ผู้ชายที่แสนอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษคนนี้ มีอิทธิพลในหัวใจเธอทุกตารางนิ้ว เหตุการณ์พลาดท่าในค่ำคืนนั้นของพชร ผู้หญิงใจร้ายที่คิดจะจับเขาด้วยวิธีสกปรก ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไป
ลักษณ์นันท์ใช้ตัวเองเป็นที่รองรับความทุกข์ทรมานของผู้มีพระคุณ เปลี่ยนสถานะเป็นผู้หญิงของเขาด้วยความเต็มใจมาจนกระทั่งทุกวันนี้ พชรไม่เคยผิดคำพูดที่จะดูแลเธอให้ดีนับจากวันนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจและความรักจากหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ของเธอคนนี้
“คุณเพชรคะ”
ลักษณ์นันท์สังเกตว่าอีกฝ่ายเงียบหายไปจึงร้องเรียกเขาเบาๆ พชรรู้สึกตัวได้สติคืนมา เขาหลับไปตอนไหนไม่รู้
“ถ้าง่วงก็นอนเถอะค่ะ” หญิงสาวขยับตัวออกห่างหวังจะให้อีกฝ่ายนอนสบายขึ้น
“นอน” ชายหนุ่มพูดเพียงสั้นๆ แล้วกอดเธอไว้เช่นนั้นไม่ยอมให้ห่างตัว
คืนนี้มีเพียงอ้อมกอดแสนธรรมดา ไม่มีไฟรักเผาผลาญเหมือนเช่นทุกคืนที่เคยเป็น ลักษณ์นันท์หลับตาลงอย่างอบอุ่นและมีความสุข ในขณะที่พชรรู้สึกว่า
นี่ซินะ ที่เรียกว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แบบนี้ก็ไม่ต้องการนางแก้วนางสวรรค์อะไรอีก ในเมื่อเขามีใครคนหนึ่งที่ทำ ให้มีความสุขได้ตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งเข้านอน
เพียงแต่...“ลักษณ์ เอ่อ” ลักษณ์นันท์ก้มหน้าไม่รู้จะพูดอย่างไรดี“ทำไมถึงไม่ตกลง ไม่มั่นใจฉันหรือไม่อยากอยู่กับฉันกันแน่” พชรเองก็เริ่มน้อยใจแล้วเหมือนกันลักษณ์นันท์ที่เขาเคยรู้จักไม่เป็นแบบนี้ หรือว่าช่วงเวลาห้าปีที่หายไป หากไม่มีกานพูลเป็นโซ่ทองคล้องใจ พชรอาจจะเสียเธอไปตลอดกาลก็ได้ เพียงแค่คิดถึงตรงนี้เขาก็อึดอัดหายใจไม่ออกแล้ว“คิดว่าฉันอยากแต่งงานเพราะลูกงั้นเหรอ” พชรถามตรงไปตรงมา ลักษณ์นันท์ไม่ตอบ การไม่ตอบของเธอทำให้เขาเอ่ยต่อไปว่า“กานพูลคือของขวัญที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ของเรา ฉันดีใจ เต็มใจ มีความสุขและอยากจะเฝ้ามองดูกานพูลเติบโตไปพร้อมๆ กับเธอนะ ลักษณ์นันท์” ชายหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือไว้“ลักษณ์รู้ค่ะ รู้ว่าคุณรักกานพูลมากแค่ไหน และลักษณ์ก็ขอบคุณที่คุณเพชรไม่เคยปล่อยมือเราสองคนแม่ลูกเลย เพียงแต่”“เพียงแต่อะไร” เขารีบถามซ้ำ“ลักษณ์อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ลักษณ์แข็งแรงและดูแลตัวเองได้ วันข้างหน้าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ลักษณ์จะดูแลลูกของเราได้เป็นอย่างดี”พชรพูดไม่ออกเพราะเข้าใจความคิดและความรู้สึกของหญิงสาว ในขณะที่ลักษณ์นันท์ก็ไม่รู้จะพูดคำไหนจากใจได้อีก เธออยากเป็นทั้งแม่ที
นี่เป็นครั้งแรกที่พชรรู้สึกประหม่าที่สุดในชีวิต เพราะเขาได้ตัดสินใจทำเรื่องใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ นั่นคือการขอลักษณ์นันท์แต่งงาน ฟังดูมันเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหลังกลับมาจากต่างประเทศเขาก็ตัดสินใจคุยกับคุณหญิงมุกดาตรงไปตรงมา เรื่องจัดการสองแม่ลูกให้ถูกต้องตามกฎหมายและประเพณี แต่ความมั่นใจที่คิดว่าทุกอย่างง่ายทลายลงเหลือศูนย์เมื่อมารดาเอ่ยว่า‘ฉันไม่ขัดเรื่องที่แกคิดจะทำเลย แต่แกเคยถามเจ้าตัวเขาไหมว่าอยากแต่งงานกับแกหรือเปล่า’‘ทำไมคุณแม่พูดแบบนั้นล่ะครับ ผมกับลักษณ์เป็นผัวเมียกัน มีลูกด้วยกัน แน่นอนว่าเราย่อมอยากแต่งงานกันอยู่แล้ว’‘เป็นแม่ของลูกก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเป็นเมียแกไปตลอดชีวิตนี่’ หญิงวัยกลางคนย้อน‘คุณแม่ บังคับหรือมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่าครับ’ คนฟังชักใจคอไม่ดี‘คนอย่างฉันตรงไปตรงมา ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ต้องมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรทั้งนั้น ถ้าแกอยากแต่งก็ทำให้ถูกต้อง ส่วนคนถูกขอจะแต่งหรือไม่แต่ง เรื่องนี้ฉันไม่รับรู้กับแกด้วยนะ’พชรคิดวนไปมาหลายวัน ยิ่งคิดความมั่นใจก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ จริงอย่างที่มารดาพูด เขาไม่เคยถามลักษณ์นันท์
“ลักษณ์ทราบค่ะ แต่ลักษณ์ไม่อยากรบกวนให้ใครต้องดูแลเราแม่ลูก” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาแล้วเอ่ยต่อว่า“พอคุณหญิงหายดีแล้ว ลักษณ์กับลูกก็จะไปค่ะ ส่วนคุณเพชรอาจจะอยากเจอลูกบ้าง ลักษณ์ขอความกรุณาให้พ่อลูกได้พบกันบ้างจะได้ไหมคะ เรื่องลักษณ์กับคุณเพชรจะไม่มีอะไรต่อไปแน่นอนค่ะ”ลักษณ์นันท์รู้ดีว่าคุณหญิงมุกดาคงไม่ยอมรับตนแน่ และเธอก็ไม่อยากเป็นสาเหตุให้ใครต้องผิดใจกัน แค่กานพูลเป็นที่ยอมรับ ได้รู้จัก ได้รับความรักจากพ่อและย่า แค่นี้ก็เกินสิ่งที่คาดฝันไว้แล้วสำหรับเธอและพชร เรื่องราวระหว่างซินเดอร์เรลล่ากับเจ้าชายไม่มีอยู่ในชีวิตจริง เธอกับเขาจะยังคงสถานะคำว่าพ่อและแม่ของกานพูลตลอดไป“นี่เธอคงมองว่าฉันเป็นย่าใจร้าย แม่ผัวจุ้นจ้านซินะ” น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนประชดในที“ฉันก็ไม่ได้หัวโบราณที่จะรับสิ่งที่ลูกตัวเองต้องการไม่ได้ และฉันก็ไม่ได้อยากให้เธอทิ้งความฝันเพื่อมาเป็นแม่เป็นเมียอย่างเดียว เธอควรคิดทำอะไรเพื่อเป็นความสุขของตัวเองบ้าง”“คุณหญิง” ลักษณ์นันท์ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้“เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่ได้เป็นคนผิดฝ่ายเดียว ไอ้ลูกไม่มีหัวคิดของฉันมันก็มีส่วนผิดด้วย ในเมื่อเลือกเส้นทา
คุณหญิงมุกดาไม่หลับแต่นอนมองหลานสาวที่กำลังเล่นกับมารดาอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มและเสียงหัวเราในวันนี้ ช่างต่างจากหลายวันที่ผ่านมาเหลือเกิน แม้นางจะดูแลมอบความรักเอาใจใส่แต่กานพูลก็มักจะถามถึงทั้งพ่อและแม่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับลักษณ์นันท์ด้วยแล้ว นางได้รู้ความเป็นไปจากปากของเด็กหญิงไม่น้อย“เงียบทำไม เล่นต่อซิ” คุณหญิงเอ่ยเมื่อเห็นลักษณ์นันท์ทำท่าให้บุตรสาวเบาเสียงหัวเราะลง“คุณหญิงต้องพักผ่อนมากๆ ลักษณ์พากานพูลไปข้างนอกดีไหมคะ” ลักษณ์นันท์อุ้มบุตรสาวเดินเข้ามาหาข้างเตียง“ฉันบอกเหรอว่าจะง่วง ถ้าเธอไม่เล่นกับกานพูล มาลูก มาเล่นกับย่าแทน” ว่าแล้วนางก็ทำท่าจะลุกขึ้น“อย่าค่ะ เดี๋ยวลักษณ์ดูกานพูลเอง คุณหญิงนอนเถอะค่ะ กานพูล เบาๆ เสียงหน่อยนะคะ ให้คุณย่าได้พักผ่อน” หญิงสาวหันมากำชับบุตรสาวอีกครั้ง จังหวะนั้นอาหารเย็นจากโรงพยาบาลก็มาพอดี“กินข้าวเลยไหมคะ” ลักษณ์นันท์ปล่อยบุตรสาวให้นั่งเล่นลำพัง แล้วเข้ามาดูแลคุณหญิงที่กำลังจะต้องกินข้าวกินยาตามเวลา“นี่ฉันป่วยจนกินอะไรไม่ได้เหรอเนี่ย” หญิงวัยกลางคนเห็นอาหารโรงพยาบาลแล้วถึงกับส่ายหน้า“คุณหญิงอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวลักษณ์จัดการให้” หญิงสาวเห็นกับข้
โชคดีที่คุณหญิงมุกดาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก มีเพียงแค่อาการบอบช้ำตามเนื้อตัวที่เกิดจากการล้ม และโรคความดันโลหิตสูงที่กำเริบขึ้นมาทำให้เกิดอาการวูบกระทันหันดีที่รวิชมารับกรรณิการ์กลับบ้าน จึงอุ้มคุณหญิงมุกดาส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว พชรและลักษณ์นันท์ที่รู้ข่าวรีบตามมาทันที“กานพูล” ลักษณ์นันท์เห็นหน้าลูกก็โผเข้ากอดพชรห่วงมารดาก็ห่วง คิดถึงลูกก็คิดถึงจึงได้แต่กอดกันสามคนพ่อแม่ลูกให้หายโหยหา แล้วรีบเข้าไปดูคุณหญิงมุกดาที่นอนอยู่บนเตียงทันที“คุณแม่” พชรจับมือมารดามากุมไว้ เขาเห็นสีหน้าอิดโรยก็รู้ว่าท่าทางของนางเหนื่อยมาก“คุณแม่เป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมความดันถึงขึ้นได้ล่ะครับ”โรคประจำตัวของคุณหญิงมุกดาได้รับการดูแลจากแพทย์ประจำตัวเป็นอย่างดี อีกทั้งนางเองก็ดูแลสุขภาพตัวเองเช่นกัน แต่จู่ๆ อาการเกิดกำเริบขึ้นมา ทำให้พชรอดคิดไม่ได้ว่าตนเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้หรือเปล่า“ผมขอโทษครับ ถ้าทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจ” ชายหนุ่มก้มลงกราบที่กลางอกของมารดาลักษณ์นันท์ที่กอดเด็กหญิงกานพูลแนบอกเดินเข้ามายืนเคียงข้าง ทั้งสองสบตากันจากนั้นพชรก็อุ้มหนูน้อยไว้แทน หญิงสาวพนมมือไหว้ด้วยความนอบน้อมก้มลงกรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมากรรณิการ์มาพบคุณหญิงมุกดาเพื่อนำของหมั้นมาคืน พร้อมกับรับอาสาพชรและลักษณ์นันท์มาช่วยดูด้วยว่ากานพูลเป็นอย่างไรบ้าง“ป้าต้องขอโทษด้วยที่เจ้าเพชรทำตัวแบบนี้” คุณหญิงมุกดาเอ่ยคำแรก“แต่ป้าก็ยังอยากให้เราสองครอบครัวได้เกี่ยวดองกันจริงๆ นะ”“คุณป้าอย่าโทษตัวเองหรือใครเลยค่ะ เรื่องแบบนี้บังคับใจกันไม่ได้ ที่สำคัญรักใครแล้วได้อยู่กับคนที่รัก ถือเป็นความสุขที่แท้จริงของคนเรานะคะ ณิการ์กับพี่เพชรเหมาะเป็นพี่น้องกันมากกว่า” กรรณิการ์เอ่ยจากใจจริง“ความรักงั้นเหรอ” หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าแล้วเอ่ยต่อว่า“ความรักอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ ผัวเมียคู่ชีวิตต้องสนับสนุนค้ำคูนให้ต่างฝ่ายต่างเจริญเติบโตซึ่งกันและกัน หากวันหนึ่งวันใดเกิดอะไรขึ้นอีกคนก็ต้องพร้อมจะก้าวมาพยุงครอบครัวให้ผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้ แต่ดูนี่ซิ ตาเพชรทำอะไรตามใจตัวเอง คิดแต่สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่คิดถึงอนาคตเลยแม้แต่น้อย”“บางที เรื่องของอนาคตก็ต้องรอดูในเวลานั้นไหมคะ แต่เรื่องของปัจจุบันคือสิ่งที่เราจะพาตัวเองไปสู่อนาคตไม่ใช่เหรอคะ คุณป้า” กรรณิการ์สบตาคนตรงหน้าแล้วพูดจากใจว่า“คุณป้าห่วงและรักพี่เพชร อยากให้