"ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่เทียมหน้าเทียมตาใครในสังคม แต่ต้องการคนที่เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ไม่ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เราสองคนจะจับมือช่วยกันฝ่าฟันประคองครอบครัวของเราไปด้วยกัน ฉันขอให้การแต่งงานนี้คือเครื่องยืนยันว่า ฉันพร้อมจะสนับสนุนและช่วยสานฝันในสิ่งที่ลักษณ์ต้องการ ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของเธอด้วย ลักษณ์นันท์" "คุณเพชร" ลักษณ์นันท์กอดเขาตอบด้วยความซาบซึ้ง "ได้โปรดแบ่งพื้นที่ให้ฉันได้ยืนข้างๆ คอยเป็นกำลังใจยินดีด้วยในวันที่เธอมีความสุข ให้เราได้จับมือประคองกันไปในวันที่มีเรื่องร้ายๆ ได้ไหม ลักษณ์นันท์" ร่างเล็กในอ้อมกอดเขาสะท้านด้วยความตื้นตัน เขาเองก็ไม่คิดเลยว่าจุดเริ่มต้นของคำว่าครอบครัวคือคำว่าแบ่งปันความรู้สึก มันเป็นเช่นนี้ ดีเช่นนี้เอง "ที่นี้ตกลงแต่งงานได้แล้วใช่ไหม ยายเด็กดื้อ"
View Moreบทนำ
“คุณเพชร”
เสียงหวานครางเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา
ร่างสูงในสภาพเปลือยเปล่าทาบทับอยู่บนเรือนกายของเธอ ต่างฝ่ายต่างสานความสัมพันธ์ที่แนบแน่นด้วยความเต็มใจ สัมผัสที่ร้อนแรงเต็มไปด้วยความวาบหวามให้กับหัวใจ เนื้อตัวสั่นสะท้านเพราะแรงปลุกเร้าที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความเป็นเจ้าของ
“ลักษณ์”
เขากระซิบเรียกชื่ออย่างอ่อนหวาน ยามที่ไฟปรารถนาในกายลุกโชนเต็มที่ พชรพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้เตลิดเปิดเปิงไปกับความสนุกสนาน
ใช่ …
เขาเป็นผู้ชายที่ชื่นชอบในเรื่องบนเตียง แต่ต้องกับผู้หญิงที่พึงพอใจและยินดีจะร่วมทางไปจนถึงฝั่งฝันนะ เขาไม่ชอบการผูกมัดก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้กับทุกคนเสมอไป
‘ผู้หญิงของพชร’
ต้องรู้จักคำนิยามที่กำหนด และอยู่ภายใต้ขอบเขตนั้นอย่างไม่มีปากมีเสียง ซึ่ง ‘ลักษณ์นันท์’ มีคุณสมบัตินี้อย่างครบถ้วน
พชรบรรเลงจังหวะเพลงรักที่คุ้นเคยกับเธออย่างพลิ้วไหว กายสาวแอ่นกายตอบสนองอย่างถูกจังหวะ ต้องเรียกว่าลักษณ์นันท์เต็มใจและยินดีปรนนิบัติ ให้ผู้ชายคนนี้อิ่มเอมและมีความสุขที่สุด
ก็เขา ... คือเจ้าของชีวิตเธออย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
และจะไม่มีวันโกรธ หากว่าสักวันจะเขี่ยเธอให้พ้นไปจากชีวิต …
เขาคือผู้ชายคนแรก และคนสุดท้ายที่มอบกายถวายชีวิตให้
ไม่ว่าสิ่งใดที่เจ้าชีวิตต้องการ เธอก็พร้อมเต็มใจและยินดีเสมอ
สัมผัสเร่าร้อนที่เขาเร่งเร้าให้ไปแตะขอบฝัน เสียงครางหวานหูอย่างสุขสมกับแรงตอบสนองที่ไม่ลดละ ไม่ช้าไม่นานพชรก็คำรามอย่างมีความสุขแล้วซบหน้าลงที่กลางอกอิ่มด้วยรอยยิ้ม
เธอหอบหายใจสะท้านด้วยความเหน็ดเหนื่อย และกอดรัดเขาไว้อย่างหวงแหนราวกับไม่อยากให้จากไปไหน ใบหน้าคมเงยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม เคลื่อนมาจูบเบาๆ ที่หน้าผากนวลของเธอ จากนั้นลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ปล่อยให้ลักษณ์นันท์ได้พักผ่อนสักพัก ก่อนจะต้องกลับมาทำหน้าที่
‘ผู้หญิงของพชร’ จนกว่าเขาจะพอใจ
บทที่ 1
“จอดตรงนี้เลยค่ะ”
สาวน้อยหน้าหวานบอกให้คนขับสุดหล่อชะลอความเร็วลงที่ข้างทางเหมือนเช่นทุกวัน ลักษณ์นันท์เตรียมตัวที่จะลงจากรถ แต่คนที่นั่งข้างๆ ฉุดมือเธอไว้
“อะไรคะ” เธอหันไปมองด้วยความสงสัย
“วันนี้ฉันต้องออกไปข้างนอกทั้งวัน เย็นนี้ก็มีนัดกินข้าวเย็นกับลูกค้าอีก เธอกลับไปรอที่คอนโดก่อนแล้วฉันจะตามไป อย่าลืมกินข้าวให้ตรงเวลาแล้วถ้าง่วงก็นอนก่อนเลยไม่ต้องรอ พอเสร็จธุระแล้วฉันจะรีบกลับไปหานะ” พูดจบเขาก็เคลื่อนตัวมาใกล้แล้วจูบเบาๆ ที่ข้างแก้มสาว
“ค่ะ”
ลักษณ์นันท์ยิ้มรับคำสั่งแล้วลงจากรถหยุดยืนมองจนกระทั่งรถเคลื่อนออกไป จากนั้นจึงค่อยๆ ก้าวเดินอย่างช้าๆ เป้าหมายคือตึกสูงใหญ่ที่อยู่ริมถนนไม่ไกลจากนี้ เจพีจิวเวอร์รี่กรุ๊ป บริษัทจิวเวอร์รี่ยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองไทยนั่นเอง
ใช้เวลาไม่นานลักษณ์นันท์ก็มาถึงจุดหมาย เธอใช้ชีวิตเฉกเช่นพนักงานคนอื่นทั่วไปได้อย่างกลมกลืน ไม่มีใครรู้เลยว่าก่อนหน้าที่จะถึงบริษัทนั้น สาวน้อยนั่งรถมากับใคร และมีสถานะไหนกับคนที่นั่งมาด้วย
ไม่มีใครรู้ …
และเธอเองก็ไม่ปรารถนาให้ใครรู้ว่า เบื้องหลังตำแหน่งเลขาส่วนตัวของท่านประธานนั้น ในทุกค่ำคืนหวานชื่นและเร่าร้อนมากแค่ไหน
ทุกวันลักษณ์นันท์จะให้พชรจอดรถก่อนจะถึงบริษัท ทั้งคู่แยกจากกันโดยคนหนึ่งขับรถคันหรูในฐานะท่านประธาน และอีกคนจะเดินเลาะริมฟุตบาทมาทำงานในฐานะเลขา เธอพอใจและเต็มใจที่จะทำเช่นนี้
แน่นอนว่าลักษณ์นันท์ไม่เคยรู้สึกว่านี่คือความลำบากใดๆ ทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกลับรู้สึกสบายใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกผิดปกติกับตน
“หนูลักษณ์ คุณเพชรไม่อยู่หรือจ้ะ” คุณทับทิม เลขาสาวใหญ่ของคุณหญิงมุกดา อดีตประธานบริษัทหรือก็คือมารดาของพชรเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
แม้ว่าคุณหญิงมุกดาจะยกกิจการทั้งหมดให้บุตรชายดูแลแล้วก็ตาม แต่คุณทับทิมก็ยังถือเป็นคนเก่าแก่ที่ยังทำงานอยู่ที่นี่ ในตำแหน่งเลขาท่านประธานใหญ่มีหน้าที่หลักคือทำตามคำสั่งคุณหญิงที่มีโดยตรงมายังพชร
“คุณเพชรมีนัดกับลูกค้าค่ะ คุณทับทิมมีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ” สาวน้อยรู้ดีว่าถ้าคุณทับทิมมาหา แสดงว่ามีธุระของคุณหญิงมุกดาสั่งมาแน่ๆ
“ฝากบอกคุณเพชรหน่อยว่า คุณหญิงมีธุระสำคัญจะพูดด้วย วันนี้ให้กลับบ้านเร็วหน่อยจ้ะ” ลักษณ์นันท์รับคำทันที พร้อมทั้งหาทางติดต่อเพื่อแจ้งให้พชรรู้ตามที่คุณทับทิมบอกมา
สาวน้อยนั่งอยู่ที่หน้าห้องท่านประธานเพียงลำพัง จนกระทั่งเวลาเลิกงาน ก็กลับบ้านตามปกติเหมือนพนักงานคนอื่นทั่วไป หลังเวลาเลิกงานแล้วคือความอิสระในความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง เวลาที่ทั้งคู่โหยหากันและกันมากที่สุด
เพียงแต่...“ลักษณ์ เอ่อ” ลักษณ์นันท์ก้มหน้าไม่รู้จะพูดอย่างไรดี“ทำไมถึงไม่ตกลง ไม่มั่นใจฉันหรือไม่อยากอยู่กับฉันกันแน่” พชรเองก็เริ่มน้อยใจแล้วเหมือนกันลักษณ์นันท์ที่เขาเคยรู้จักไม่เป็นแบบนี้ หรือว่าช่วงเวลาห้าปีที่หายไป หากไม่มีกานพูลเป็นโซ่ทองคล้องใจ พชรอาจจะเสียเธอไปตลอดกาลก็ได้ เพียงแค่คิดถึงตรงนี้เขาก็อึดอัดหายใจไม่ออกแล้ว“คิดว่าฉันอยากแต่งงานเพราะลูกงั้นเหรอ” พชรถามตรงไปตรงมา ลักษณ์นันท์ไม่ตอบ การไม่ตอบของเธอทำให้เขาเอ่ยต่อไปว่า“กานพูลคือของขวัญที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ของเรา ฉันดีใจ เต็มใจ มีความสุขและอยากจะเฝ้ามองดูกานพูลเติบโตไปพร้อมๆ กับเธอนะ ลักษณ์นันท์” ชายหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือไว้“ลักษณ์รู้ค่ะ รู้ว่าคุณรักกานพูลมากแค่ไหน และลักษณ์ก็ขอบคุณที่คุณเพชรไม่เคยปล่อยมือเราสองคนแม่ลูกเลย เพียงแต่”“เพียงแต่อะไร” เขารีบถามซ้ำ“ลักษณ์อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ลักษณ์แข็งแรงและดูแลตัวเองได้ วันข้างหน้าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ลักษณ์จะดูแลลูกของเราได้เป็นอย่างดี”พชรพูดไม่ออกเพราะเข้าใจความคิดและความรู้สึกของหญิงสาว ในขณะที่ลักษณ์นันท์ก็ไม่รู้จะพูดคำไหนจากใจได้อีก เธออยากเป็นทั้งแม่ที
นี่เป็นครั้งแรกที่พชรรู้สึกประหม่าที่สุดในชีวิต เพราะเขาได้ตัดสินใจทำเรื่องใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ นั่นคือการขอลักษณ์นันท์แต่งงาน ฟังดูมันเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหลังกลับมาจากต่างประเทศเขาก็ตัดสินใจคุยกับคุณหญิงมุกดาตรงไปตรงมา เรื่องจัดการสองแม่ลูกให้ถูกต้องตามกฎหมายและประเพณี แต่ความมั่นใจที่คิดว่าทุกอย่างง่ายทลายลงเหลือศูนย์เมื่อมารดาเอ่ยว่า‘ฉันไม่ขัดเรื่องที่แกคิดจะทำเลย แต่แกเคยถามเจ้าตัวเขาไหมว่าอยากแต่งงานกับแกหรือเปล่า’‘ทำไมคุณแม่พูดแบบนั้นล่ะครับ ผมกับลักษณ์เป็นผัวเมียกัน มีลูกด้วยกัน แน่นอนว่าเราย่อมอยากแต่งงานกันอยู่แล้ว’‘เป็นแม่ของลูกก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเป็นเมียแกไปตลอดชีวิตนี่’ หญิงวัยกลางคนย้อน‘คุณแม่ บังคับหรือมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่าครับ’ คนฟังชักใจคอไม่ดี‘คนอย่างฉันตรงไปตรงมา ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ต้องมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรทั้งนั้น ถ้าแกอยากแต่งก็ทำให้ถูกต้อง ส่วนคนถูกขอจะแต่งหรือไม่แต่ง เรื่องนี้ฉันไม่รับรู้กับแกด้วยนะ’พชรคิดวนไปมาหลายวัน ยิ่งคิดความมั่นใจก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ จริงอย่างที่มารดาพูด เขาไม่เคยถามลักษณ์นันท์
“ลักษณ์ทราบค่ะ แต่ลักษณ์ไม่อยากรบกวนให้ใครต้องดูแลเราแม่ลูก” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาแล้วเอ่ยต่อว่า“พอคุณหญิงหายดีแล้ว ลักษณ์กับลูกก็จะไปค่ะ ส่วนคุณเพชรอาจจะอยากเจอลูกบ้าง ลักษณ์ขอความกรุณาให้พ่อลูกได้พบกันบ้างจะได้ไหมคะ เรื่องลักษณ์กับคุณเพชรจะไม่มีอะไรต่อไปแน่นอนค่ะ”ลักษณ์นันท์รู้ดีว่าคุณหญิงมุกดาคงไม่ยอมรับตนแน่ และเธอก็ไม่อยากเป็นสาเหตุให้ใครต้องผิดใจกัน แค่กานพูลเป็นที่ยอมรับ ได้รู้จัก ได้รับความรักจากพ่อและย่า แค่นี้ก็เกินสิ่งที่คาดฝันไว้แล้วสำหรับเธอและพชร เรื่องราวระหว่างซินเดอร์เรลล่ากับเจ้าชายไม่มีอยู่ในชีวิตจริง เธอกับเขาจะยังคงสถานะคำว่าพ่อและแม่ของกานพูลตลอดไป“นี่เธอคงมองว่าฉันเป็นย่าใจร้าย แม่ผัวจุ้นจ้านซินะ” น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนประชดในที“ฉันก็ไม่ได้หัวโบราณที่จะรับสิ่งที่ลูกตัวเองต้องการไม่ได้ และฉันก็ไม่ได้อยากให้เธอทิ้งความฝันเพื่อมาเป็นแม่เป็นเมียอย่างเดียว เธอควรคิดทำอะไรเพื่อเป็นความสุขของตัวเองบ้าง”“คุณหญิง” ลักษณ์นันท์ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้“เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่ได้เป็นคนผิดฝ่ายเดียว ไอ้ลูกไม่มีหัวคิดของฉันมันก็มีส่วนผิดด้วย ในเมื่อเลือกเส้นทา
คุณหญิงมุกดาไม่หลับแต่นอนมองหลานสาวที่กำลังเล่นกับมารดาอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มและเสียงหัวเราในวันนี้ ช่างต่างจากหลายวันที่ผ่านมาเหลือเกิน แม้นางจะดูแลมอบความรักเอาใจใส่แต่กานพูลก็มักจะถามถึงทั้งพ่อและแม่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับลักษณ์นันท์ด้วยแล้ว นางได้รู้ความเป็นไปจากปากของเด็กหญิงไม่น้อย“เงียบทำไม เล่นต่อซิ” คุณหญิงเอ่ยเมื่อเห็นลักษณ์นันท์ทำท่าให้บุตรสาวเบาเสียงหัวเราะลง“คุณหญิงต้องพักผ่อนมากๆ ลักษณ์พากานพูลไปข้างนอกดีไหมคะ” ลักษณ์นันท์อุ้มบุตรสาวเดินเข้ามาหาข้างเตียง“ฉันบอกเหรอว่าจะง่วง ถ้าเธอไม่เล่นกับกานพูล มาลูก มาเล่นกับย่าแทน” ว่าแล้วนางก็ทำท่าจะลุกขึ้น“อย่าค่ะ เดี๋ยวลักษณ์ดูกานพูลเอง คุณหญิงนอนเถอะค่ะ กานพูล เบาๆ เสียงหน่อยนะคะ ให้คุณย่าได้พักผ่อน” หญิงสาวหันมากำชับบุตรสาวอีกครั้ง จังหวะนั้นอาหารเย็นจากโรงพยาบาลก็มาพอดี“กินข้าวเลยไหมคะ” ลักษณ์นันท์ปล่อยบุตรสาวให้นั่งเล่นลำพัง แล้วเข้ามาดูแลคุณหญิงที่กำลังจะต้องกินข้าวกินยาตามเวลา“นี่ฉันป่วยจนกินอะไรไม่ได้เหรอเนี่ย” หญิงวัยกลางคนเห็นอาหารโรงพยาบาลแล้วถึงกับส่ายหน้า“คุณหญิงอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวลักษณ์จัดการให้” หญิงสาวเห็นกับข้
โชคดีที่คุณหญิงมุกดาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก มีเพียงแค่อาการบอบช้ำตามเนื้อตัวที่เกิดจากการล้ม และโรคความดันโลหิตสูงที่กำเริบขึ้นมาทำให้เกิดอาการวูบกระทันหันดีที่รวิชมารับกรรณิการ์กลับบ้าน จึงอุ้มคุณหญิงมุกดาส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว พชรและลักษณ์นันท์ที่รู้ข่าวรีบตามมาทันที“กานพูล” ลักษณ์นันท์เห็นหน้าลูกก็โผเข้ากอดพชรห่วงมารดาก็ห่วง คิดถึงลูกก็คิดถึงจึงได้แต่กอดกันสามคนพ่อแม่ลูกให้หายโหยหา แล้วรีบเข้าไปดูคุณหญิงมุกดาที่นอนอยู่บนเตียงทันที“คุณแม่” พชรจับมือมารดามากุมไว้ เขาเห็นสีหน้าอิดโรยก็รู้ว่าท่าทางของนางเหนื่อยมาก“คุณแม่เป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมความดันถึงขึ้นได้ล่ะครับ”โรคประจำตัวของคุณหญิงมุกดาได้รับการดูแลจากแพทย์ประจำตัวเป็นอย่างดี อีกทั้งนางเองก็ดูแลสุขภาพตัวเองเช่นกัน แต่จู่ๆ อาการเกิดกำเริบขึ้นมา ทำให้พชรอดคิดไม่ได้ว่าตนเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้หรือเปล่า“ผมขอโทษครับ ถ้าทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจ” ชายหนุ่มก้มลงกราบที่กลางอกของมารดาลักษณ์นันท์ที่กอดเด็กหญิงกานพูลแนบอกเดินเข้ามายืนเคียงข้าง ทั้งสองสบตากันจากนั้นพชรก็อุ้มหนูน้อยไว้แทน หญิงสาวพนมมือไหว้ด้วยความนอบน้อมก้มลงกรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมากรรณิการ์มาพบคุณหญิงมุกดาเพื่อนำของหมั้นมาคืน พร้อมกับรับอาสาพชรและลักษณ์นันท์มาช่วยดูด้วยว่ากานพูลเป็นอย่างไรบ้าง“ป้าต้องขอโทษด้วยที่เจ้าเพชรทำตัวแบบนี้” คุณหญิงมุกดาเอ่ยคำแรก“แต่ป้าก็ยังอยากให้เราสองครอบครัวได้เกี่ยวดองกันจริงๆ นะ”“คุณป้าอย่าโทษตัวเองหรือใครเลยค่ะ เรื่องแบบนี้บังคับใจกันไม่ได้ ที่สำคัญรักใครแล้วได้อยู่กับคนที่รัก ถือเป็นความสุขที่แท้จริงของคนเรานะคะ ณิการ์กับพี่เพชรเหมาะเป็นพี่น้องกันมากกว่า” กรรณิการ์เอ่ยจากใจจริง“ความรักงั้นเหรอ” หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าแล้วเอ่ยต่อว่า“ความรักอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ ผัวเมียคู่ชีวิตต้องสนับสนุนค้ำคูนให้ต่างฝ่ายต่างเจริญเติบโตซึ่งกันและกัน หากวันหนึ่งวันใดเกิดอะไรขึ้นอีกคนก็ต้องพร้อมจะก้าวมาพยุงครอบครัวให้ผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้ แต่ดูนี่ซิ ตาเพชรทำอะไรตามใจตัวเอง คิดแต่สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่คิดถึงอนาคตเลยแม้แต่น้อย”“บางที เรื่องของอนาคตก็ต้องรอดูในเวลานั้นไหมคะ แต่เรื่องของปัจจุบันคือสิ่งที่เราจะพาตัวเองไปสู่อนาคตไม่ใช่เหรอคะ คุณป้า” กรรณิการ์สบตาคนตรงหน้าแล้วพูดจากใจว่า“คุณป้าห่วงและรักพี่เพชร อยากให้
รวิชเล่าเรื่องราวหลังคืนนั้นให้เขาฟังโดยละเอียด ทำให้รู้ว่าทั้งสองมีเงื่อนไขที่ตกลงกับคุณหญิงมุกดาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ลักษณ์นันท์ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองตั้งท้องแต่ตั้งใจจะไม่บอก รวิชจึงต้องรับหน้าที่ดูแลสองแม่ลูกจนทุกอย่างกระจ่างพชรไม่ถามเหตุผลมารดาว่าทำไมจึงทำเช่นนี้ เขารู้นิสัยคุณหญิงมุกดาดีว่าเป็นเช่นไร คำว่ารักษาหน้าตาและชื่อเสียงของตระกูลมาที่หนึ่ง จึงไม่แปลกเมื่อเรื่องลักษณ์นันท์กับรวิชซาลง คุณหญิงมุกดาจึงรีบจัดแจงให้เกิดการหมั้นระหว่างเขากับกรรณิการ์โดยเร็วที่สุด“เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว คุณแม่คงไม่ถามว่ากานพูลเป็นลูกใครนะครับ” พชรเอ่ยตรงไปตรงมา“แกคิดว่าฉันโง่หรือไง เจ้าเพชร” คุณหญิงมุกดาย้อนถามเสียงแข็งเด็กหญิงกานพูลจะเป็นลูกใครได้ ในเมื่อถอนเค้าโครงเกือบทั้งหมดของพชรออกมาขนาดนั้น นางไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล และไม่ทำอะไรที่เป็นเรื่องไร้สาระเช่นนั้นด้วย“ผมรู้ว่าคุณแม่กำลังหลงหลาน” พชรพูดด้วยรอยยิ้มอย่าว่าแต่คุณหญิงมุกดาหลงรักเด็กหญิงตัวน้อยเลย เขาเองทุกลมหายใจเข้าออกก็คิดถึงแต่ลูกสาวคนนี้ตลอดเวลา“ถ้าไง เรารับทุกคนเข้ามาอยู่ที่นี่ ทำอะไรให้ถูกต้องทั้งตามธรรมเนียมและตามกฎหมายดีไหมครับ”
ลักษณ์นันท์ใจหล่นไปถึงตาตุ่มเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกานพูล พชรรีบกดโทรศัพท์ไปหาคุณหญิงมุกดาแต่อีกฝ่ายไม่รับสาย เขาคว้ากุญแจรถแล้วพาลักษณ์นันท์ที่น้ำตาคลอลงลิฟต์ไปที่ลานจอดเพื่อกลับบ้านทันทีเมื่อสองสามีภรรยามาถึงห้องก็พบว่ากานพูลไม่อยู่ พี่เลี้ยงที่ดูแลบอกเพียงว่าเด็กหญิงไปกับคุณหญิงมุกดา และถ่ายทอดข้อความที่อีกฝ่ายฝากไว้ว่า‘กลับบ้าน’ทีแรกพชรคิดว่าจะโทรศัพท์เพื่อหยั่งเชิงมารดา แต่เมื่อคุณหญิงมุกดาไม่ยอมรับสาย ทำให้เขาตัดสินใจเผชิญหน้าทุกสิ่งเพื่อให้ได้ลูกคืน“ลูกไม่เป็นไรแน่ลักษณ์ คุณแม่ไม่ทำร้ายกานพูลหรอก” เขาปลอบใจคนนั่งข้างๆพชรมั่นใจว่ามารดาไม่ใจไม้ไส้ระกำทำร้ายหลานตัวเองแน่ แต่คงใช้วิธีนี้บีบบังคับให้เขากลับบ้านเป็นแน่ สงสารก็แต่ลักษณ์นันท์ที่คงเป็นห่วงกานพูล และกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับมารดาอีกครั้ง“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ ทุกอย่างต้องดี” พชรกุมมือของหญิงสาวไว้ ลักษณ์นันท์เชื่อเช่นนั้นและหวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายในที่สุดเด็กหญิงตรงหน้าละม้ายคล้ายพ่อตัวดีที่ทำเรื่องให้ปวดหัวหลายส่วน อีกทั้งท่าทีไร้เดียงสาที่น่าเอ็นดูทำให้คุณหญิงมุกดาหลงรักในพริบตา กานพูลกินขนมและเล่นของเล่นที
“แล้วคุณอารู้เรื่องนี้หรือยัง” พชรเอ่ยถาม“ณิการ์บอกคุณพ่อก่อนมาแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกตามตรง“คุณพ่อก็ตกใจ แต่ก็บอกว่ายินดีกับพี่เพชร คุณลักษณ์และก็น้องกานพูลด้วย คุณพ่อกระซิบว่าเอาใจช่วยให้ผ่านด่านคุณป้าได้ค่ะ”“เออ อันนี้แหล่ะเรื่องใหญ่” รวิชพยักหน้าเห็นด้วยใช่ นี่แหล่ะเรื่องใหญ่ของจริง พชรก็กำลังคิดหาวิธีรับมือกับเรื่องนี้เหมือนกัน“เพราะงั้นหาทางออกเรื่องคุณป้าดีกว่าค่ะ เรื่องณิการ์จิ๊บๆ มาก คุณลักษณ์ยิ้มหน่อย ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ” กรรณิการ์เอื้อมมือมากุมมือหญิงสาวไว้“ลักษณ์ขอโทษนะคะ แล้วก็ขอบคุณคุณณิการ์มากที่เข้าใจทุกอย่าง” ลักษณ์นันท์เอ่ยเสียงเครือ“ไม่ร้องค่ะ เลิกร้องได้แล้ว ของแบบนี้มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ณิการ์อยู่ข้างคุณลักษณ์ค่ะ เห็นคนเขารักกันมีความสุข เผื่อว่าฟ้าจะเมตตาให้ณิการ์เจอคนดีๆ ที่รักณิการ์จริงๆ ก็ได้นะคะ สาธุ” กรรณิการ์หัวเราะเบาๆ ทำให้บรรยากาศที่อึมครึมคลายลงรวิชยกแก้วกาแฟขึ้นชูพร้อมส่งสายตาชื่นชมให้คนพูด เจ้าของเรื่องจึงหยิบแก้วกาแฟขึ้นชูรับแล้วจิบอย่างมีความสุข“ต่อไปถ้าใครจะเข้ามาหาณิการ์ต้องผ่านด่านพี่ก่อน พี่จะเป็นพี่ชายที่คอยส
Comments