LOGINเจโรมนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่เคาน์เตอร์บาร์ในห้องพักของโรงแรมหรูระหว่างรอรับสายจากเหมือนแพรและเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาก็รีบกดรับสายเพราะอยากรู้ว่าแผนที่วางไว้เป็นไปตามที่คิดหรือเปล่า
“แพรเองนะคะคุณเจโรม”
“ครับ เป็นไงบ้างได้เจอพ่อไหม” เขาถามอย่างร้อนใจ
“ค่ะ แพรจอดรถตามจุดที่คุณบอก พอรถท่านผ่านท่านก็จอดแล้วลงมาทักทาย”
เหมือนแพรเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เจโรมฟังอย่างละเอียดเพราะนั่นหมายถึงเงินที่เธอจะได้จากเจโรมด้วย
“คุณเก่งมากครับ คุณคิดว่ามีโอกาสที่พ่อผมจะล้มเลิกงานแต่งไหม”
“ตอนนี้แพรยังตอบไม่ได้หรอกค่ะ แต่แพรจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดนะคะ”
“ถ้าแผนเราไปได้สวยและทุกอย่างสำเร็จผมจะให้เงินโบนัสคุณด้วยนะ”
“ขอบคุณมากนะคะแต่ตอนนี้แพรมีเรื่องหนักใจอย่างหนึ่งค่ะ”
“เรื่องอะไรครับ”
“ก็คุณอนันต์ชวนแพรให้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาของท่านค่ะ แต่แพรไม่เคยทำงานพวกนี้มาเลย แพรเคยทำแต่ประชาสัมพันธ์ค่ะหรือแพรจะปฏิเสธดีคะ”
“ไม่นะครับ เรื่องนี้ผมช่วยคุณได้” เจโรมเห็นเป็นโอกาสดีที่เหมือนแพรจะได้ใกล้ชิดกับบิดาของเขา
“แต่แพรกลัวจะทำงานได้ไม่ดี”
“คุณอยากทำงานนี้ไหมล่ะครับ เงินน่าจะดีกว่างานเดิมนะครับ”
“อยากสิคะ”
“ไม่ต้องกังวลครับ คุณบอกพ่อผมว่าขอเวลาเพื่อเตรียมตัวสักหนึ่งอาทิตย์ระหว่างนี้ผมจะให้คุณเรียนรู้งานเลขา คุณคิดว่ายังไงล่ะ”
“ถ้ามีคนสอนฉันก็คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ แต่ระหว่างนี้คุณก็ต้องติดต่อพ่อผมตลอดนะ อย่าเว้นช่วง”
“จะเป็นอะไรไหมคะ ถ้าหากว่าพรุ่งนี้ แพรจะแวะไปบอกเรื่องนี้กับท่านและถือโอกาสขอบคุณที่ท่านช่วยไว้เมื่อวาน”
“ดีมากครับคุณแพร ไปตอนใกล้เวลาพักนะครับ จะได้ชวนท่านออกมาทานอาหาร”
“คุณว่าท่านจะว่างไหมคะ”
“เรื่องนั้นผมจัดการเองครับ คุณแค่แต่งตัวสวยๆ ไปชวนท่านก็พอ พ่อผมชอบทาอาหารจีนนะครับ”
“แพรจะลองหาข้อมูลดูนะคะว่ามีร้านอาหารจีนที่ไหนละเมนูไหนน่าสนใจบ้าง”
“เยี่ยมไปเลยครับ ขอบคุณนะครับที่โทรมาแจ้งข่าว”
“ก็คุณเป็นเจ้านายนี่คะ คุณมีอะไรจะถามหรือบอกแพรเกี่ยวกับพ่อของคุณอีกไหมคะ”
“ตอนนี้ไม่มีครับ ผมขอวางสายก่อนนะครับคุณจะได้พัก”
“ค่ะคุณเจโรม”
ชายหนุ่มยิ้มหลังจากเหมือนแพรวางสายไปแล้ว แผนของเขากำลังก้าวหน้าไปอีกขั้น เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเหมือนแพรนั้นควบคุมได้ด้วยเงิน เมื่อวันที่แผนสำเร็จและบิดายกเลิกงานแต่งเหมือนแพรอาจจะเข้ามาแทนที่ศศิภัทรและเขาก็คงจะไม่ขัดขวางเพราะอย่างน้อยเหมือนแพรก็อายุพอๆ กับเขา
ชายหนุ่มเชื่อว่าถ้าเหมือนแพรไปวนเวียนอยู่ใกล้ๆ บิดาของเขาบ่อยๆ ศศิภัทรก็คงจะเริ่มไม่พอใจและอาจจะยอมถอยไปเอง
วันต่อมาเหมือนแพรไปหาคุณอนันต์ที่บริษัทส่งออก เธอสวมเดรสเข้ารูปสีครีมดูสวยสง่าแต่ก็แฝงไปด้วยความเซ็กซี่เพราะกระโปรงที่ยาวคลุมเข่านั้นมันแหวกขึ้นสูงเหนือต้นขา
ใบหน้าของเธอยิ้มแย้มเมื่อเดินมายังหน้าห้องทำงานของคุณอนันต์ประธานบริษัทส่งออกรายใหญ่ของเมืองไทย
“สวัสดีค่ะ ฉันมาคุณอนันต์ค่ะ” เหมือนแพรทักทายเลขาหน้าห้องที่คิดว่าอีกไม่นานคงจะได้ร่วมงานกัน
“สวัสดีค่ะ คุณนัดไว้หรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้นัดค่ะ แต่คุณอนันต์บอกว่าถ้ามาแล้วก็เข้าพบท่านได้เลย ฉันชื่อเหมือนแพรค่ะ ไม่รู้ว่าท่านได้แจ้งไว้หรือเปล่า” หญิงสาวถามอย่างสุภาพ
“ถ้าเป็นคุณเหมือนแพรท่านสั่งไว้แล้วค่ะ ฉันขอแจ้งท่านก่อนนะคะ”
เลขาของคุณอนันต์ต่อสายตรงถึงท่านเมื่อวางสายแล้วก็ยิ้มให้กับเหมือนแพร
“คุณเข้าไปพบท่านได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” เหมือนแพรกล่าวของคุณก่อนจะเดินไปหน้าห้องเคาะประตูเพื่อเป็นมารยาทก่อนจะเปิดเข้าไป
“สวัสดีค่ะ แพรมารบกวนเวลาคุณหรือเปล่าคะ” หญิงสาวทักทายด้วยรอยยิ้มหวาน
“ไม่เลยครับ วันนี้งานผมไม่ยุ่งเท่าไหร่ เชิญนั่งโซฟาดีกว่านะครับ” คุณอนันต์ลุกจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานแล้วผายมือให้หญิงสาวไปนั่งที่มุมห้องที่จัดไว้เป็นมุมรับแขกเล็กๆ
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณแพรมาหาผมที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
“แพรจะมาขอบคุณเรื่องเมื่อวานค่ะ”
“เรื่องแค่นั้นเองคุณไม่ต้องมาขอบคุณถึงนี่ก็ได้”
“คุณอนันต์ทำเหมือนไม่อยากเจอแพร แพรต้องขอโทษด้วยนะคะ แพรทำให้คุณไม่พอใจใช่ไหม” เธอถามด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คุณแพรอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด ผมแค่ไม่อยากให้คุณเสียเวลา อีกอย่างเรื่องเมื่อวานมันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย คุณโทรมาก็ได้”
“แต่แพรอยากมาขอบคุณด้วยตัวเองค่ะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ แล้วรถคุณซ่อมเสร็จหรือยังครับ”
“ช่างบอกว่าน่าจะอีกหลายวันค่ะ”
“แล้วคุณแพรมายังไงครับ”
“แพรนั่งแท็กซี่มาคะ”
“โธ่...ไม่น่าลำบากเลยนะครับ”
“ไม่ลำบากเลยค่ะ ที่แพรมาวันนี้ก็อยากจะมาคุยเรื่องงานที่คุณอนันต์บอกแพรเมื่อวานด้วยค่ะ”
“คุณตกลงไหมครับ”
“ตกลงค่ะ แต่แพรขอเวลาสักอาทิตย์หนึ่งได้ไหมคะ ถึงตอนนั้นรถของแพรก็คงซ่อมเสร็จพอดี”
“ได้สิครับ คุณพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผมได้เลย ผมจะสั่งสาธิตผู้ช่วยของผมไว้นะครับ เขาจะเป็นคนจัดการเรื่องเอกสารและประสานงานกับฝ่ายบุคคลให้ ส่วนเรื่องเอกสารต่างๆ เดี๋ยวผมจะให้เขาติดต่อคุณแพรอีกที”
“ได้ค่ะ แพรขอบคุณมากๆ นะคะ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วคุณอนันต์ไปทานอาหารกับแพรหน่อยได้ไหมคะ แพรอยากเลี้ยงขอบคุณที่คุณช่วยแพรและยังให้แพรได้ทำงานที่นี่ด้วย”
“ผมเองก็กำลังหาเพื่อนทานอาหารอยู่พอดี”
“เดี๋ยวนะคะ แพรลืมไปค่ะ แพรว่าแพรไม่ชวนคุณดีกว่า”
“ทำไมล่ะครับ”
“แพรกลัวคุณจะมีปัญหากับแฟน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ซีซีเธอเข้าใจและไม่ขี้หึงครับ”
“แน่นะคะ”
“แน่สิครับ ว่าแต่คุณแพรอยากไปทานร้านไหนล่ะครับ”
“แพรอยากไปทานอาหารจีนค่ะ แถวนี้มีร้านที่เปิดมานานแล้ว แต่แพรยังไม่เคยไปทานเลยค่ะเพื่อนๆ ของแพรไม่ค่อยชอบทานอาหารจีนเท่าไหร่ แพรจะไปนั่งทานคนเดียวก็รู้สึกแปลกๆ ค่ะ”
“คุณแพรชอบทานอาหารจีนเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ คุณอนันต์ชอบไหมคะ”
“ชอบสิครับ”
“ดีจังเลยค่ะที่คุณชอบ”
“ถ้างั้นเราไปกันเลยไหมครับคุณแพร”
“เอ่อ...คุณอนันต์เรียกว่าแพรๆ เฉยๆ ก็ค่ะ คุณเป็นผู้ใหญ่กว่าแพรนะคะ แล้วอีกไม่นานแพรก็จะมาเป็นลูกน้องของคุณด้วยค่ะ”
“ก็ได้ครับแพร” คุณอนันต์ตอบด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เขาดีใจที่จะมีเพื่อนไปทานอาหารจีนด้วยกันเพราะที่ผ่านมาผู้หญิงที่เขาคบด้วยนั้นมักไม่ชอบและบ่นว่าอาหารเลี่ยนไม่ถูกปาก
การได้ไปทานอาหารที่ชอบกับผู้หญิงที่สวยและเซ็กซี่แบบนี้ก็ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
หลังจากทานอาหารกลางวันร่วมกันเสร็จแล้วเจโรมก็เป็นคนเริ่มต้นเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กับมารดาของหญิงสาวฟัง แต่เขาไม่ได้บอกว่านอนกับศศิภัทรไปแล้วเพราะรู้ว่าเรื่องนี้เธอไม่ต้องการให้ทางบ้านรู้คุณยุภาพรนั่งฟังอย่างตั้งใจเธอไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นหลักฐานที่ได้มาจากร้านจัดงานแต่งงานรวมถึงบัญชีเงินสดของน้องสาวที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนคุณยุภาพรก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด“พ่อผมฝากผมมาขอโทษคุณน้าและน้องสาวที่ทำให้ต้องอยู่กับความทุกข์ใจมานานหลายปี อันที่จริงพ่อผมก็อยากมาเจอคุณน้าดีนะ ครับแต่ผมห้ามไว้เพราะกลัวว่าท่านอาจจะทำให้อาการของคุณน้าทรุดลง” เจโรมพุดอย่างจริงใจ เขารู้สึกเห็นใจครอบครัวของศศิภัทรมากที่ต้องดูแลน้ายุวดีหลังจากท่านผิดหวังจากบิดาของเขาจนต้องเข้ารีบการรักษาในโรงพยาบาล“คุณทำถูกแล้วล่ะคุณเจโรมตอนนี้น้องสาวของน้าก็ทำใจได้แล้วน้าคิดว่าไม่ให้เธอเจอกับคุณอนันต์น่าจะดีกว่า แล้วคุณก็ไม่ต้องไปพูดนะคะว่าเป็นลูกชายของคุณอนันต์น้าอยากให้วดีเธอลืมเรื่องราวทุกอย่าง ตอนนี้แค่อาการทางกายของเธอก็แย่มากแล้ว”“ผมเข้าใจครับคุณน้าถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ผมจะช่วยส่วนเ
เช้าวันเสาร์ศศิภัทรกับมารดาช่วยกันดูแลยุวดีให้ทานอาหารจากนั้นหญิงสาวก็ขอตัวมารดามายังร้านกาแฟ เธอเดินเข้ามาในร้านตอนนี้มีลูกค้าอยู่ไม่กี่โต๊ะ หญิงสาวเลือกโต๊ะที่ติดริมหน้าต่างเพราะคิดว่าถ้าพิมพ์ดาวเดินเข้ามาจะเห็นเธอได้ทันทีขณะที่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือก็มีคนเดินเข้ามาในร้านแล้วมาหยุดตรงหน้าเมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นเธอก็ต้องตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่พิมพ์ดาวหากแต่เขาคือคนที่เธอคิดถึงมาตลอดหนึ่งเดือน“คุณเจโรม”“สวัสดีซีซีขอนั่งด้วยคนนะ”“ค่ะ” หญิงสาวตอบพลางพยักหน้า“สบายดีไหมซีซี”“สบายดีค่ะ คุณล่ะ”“ร่างกายผมสบายใจดีแต่ไม่สบายใจเท่าไหร่ คิดถึงคุณอยากเจอคุณมากรู้ไหม คุณล่ะ”“ก็เรื่อยๆ ค่ะ” ศศิภัทรตอบพลางก้มหน้า เธอไม่กล้าจะสบตาของเจโรมเพราะกลัวเขาจะเห็นความดีใจในแววตานั้น“ผมถามว่าคิดถึงผมหรือเปล่า”“ถ้าบอกว่าไม่คิดถึงก็คงจะเป็นการโกหก ซีซีก็คิดถึงคุณค่ะ”“คิดถึงแล้วจะบล็อกเบอร์โทรผมล่ะ”“ซีซีคิดว่าเราไม่จำเป็นจะต้องติดต่อกันอีก”“แต่เราคุยกันแล้วนะซีซี ตอนนี้ก็ครบหนึ่งเดือนผมจะมาฟังคำตอบว่าระหว่างเราจะเป็นยังไงต่อและผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่า ผมเจ้าขอคบกับคุณเป็นแฟน”“อะไรนะ”
“พ่อรู้มั้ยการแต่งงานไม่ได้ถูกยกเลิก เธอยังคงเดินหน้าจัดงานแต่งงานต่อแล้วก็เสียใจมากที่วันงานไม่มีเจ้าบ่าว เธอเสียใจและอายมากถึงขั้นฆ่าตัวตาย”“อะไรนะนี่วดีฆ่าตัวตายอย่างงั้นเหรอ”“ครับ แต่เธอฆ่าตัวตายไม่สำเร็จจากนั้นก็เกิดอาการซึมเศร้าสุดท้ายก็ไปจบลงที่โรงพยาบาลจิตเวช”“มันจะเป็นไปได้ยังไง พ่อว่าเขาคุยกับเธอแล้วนะเราตกลงกันด้วยดี เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอยังจะเดินหน้าจัดงานแต่งงานต่อ แกลองไปถามหนูซีซีอีกทีนะว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ถ้าได้เจอกับเธอพ่อฝากขอโทษเธอด้วย พ่อไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นแต่พ่อคิดว่าพ่อกับเธอคุยกันจบแล้วจึงไม่ได้ติดตามข่าวสารของเธออีกเลยเธอ คงเสียใจมาก ตอนนั้นพ่อเองก็เสียใจเหมือนกันที่เลิกกับเธอ เป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่าที่หนูซีซีถึงอยากจะแต่งงานกับพ่อ”“พอเดาถูกแล้วครับ ซีซีอยากจัดงานแต่งงานใหญ่โตกับพ่อให้พ่อเชิญแขกอีกมาเยอะๆ แล้วเธอจะทำให้พ่ออับอายเหมือนอย่างน้าสาวของเธอครับ แต่แผนของเธอก็ไม่สำเร็จเพราะผมเข้ามาแทรก”“เพราะแบบนี้เองหนูซีซีถึงยอมแต่งงานกับพ่อทั้งที่อายุห่างกันมากขนาดนี้ เธอมีแผนนี่เอง ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าหน้าตาใสซื่ออย่างนั้นจะคิดทำเรื่องใ
เมื่อครบหนึ่งเดือนเจโรมก็รีบบินมาเมืองไทย เขาลงจากเครื่องก็รีบให้คนขับรถพามาส่งที่หอพักของศศิภัทรทันที แต่เมื่อมาถึงก็ต้องผิดหวังคนดูแลหอพักแจ้งว่าหญิงสาวย้ายออกไปจากที่นี่นานแล้วชายหนุ่มรีบหยิบโทรศัพท์กดโทรหาแต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติดเขาไม่รู้ว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวเพราะไม่ได้ตามสืบเรื่องราวของเธอต่อ เขาจึงโทรศัพท์ไปหาคุณสาธิตเพื่อขอที่อยู่ที่บ้านของหญิงสาวขณะที่เจโรมผมกำลังจะกลับขึ้นรถก็บังเอิญว่าเพื่อนของศศิภัทรเดินมาพอดี เขาจำเธอได้เพราะเคยเจอมาแล้วครั้งหนึ่ง“สวัสดีครับคุณพิมพ์ดาว”“สวัสดีค่ะ”“ผมชื่อเจโรม ผมเคยเจอตอนที่คุณมากับซีซี”“สวัสดีค่ะมีธุระอะไรเหรอคะ”“ผมมาหาซีซีแต่คนดูแลหอพักบอกว่าซีซีย้ายออกไปแล้ว คุณพอจะรู้มั้ยว่าซีซีย้ายไปอยู่ที่ไหน”“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ซีซีไม่ได้บอกที่อยู่ใหม่”“แต่คุณกับเธอเป็นเพื่อนสนิทกันนะครับ แปลกจังที่เธอไม่บอกคุณ”“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมซีซีถึงไม่บอก”“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปตามเธอที่บ้านก็ได้แม่ของเธอน่าจะรู้ว่าเธอย้ายไปอยู่ที่ไหน”“ไม่ได้นะคะคุณจะไปบ้านซีซีไม่ได้เด็ดขาด” พิมพ์ดาวรีบร้องห้าม“ทำไมล่ะ
ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ศศิภัทรกลับมาอยู่ที่บ้านเธอเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านและโรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลน้าสาวซึ่งตอนนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่แผนกอายุรกรรมของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแม้จะได้รับยานอกบัญชีที่มีราคาแสนแพงแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลยตอนนี้สภาพจิตใจของน้าสาวเธอดีขึ้นมากและไม่พูดถึงคุณอนันต์อีกนั่นก็ทำให้ศศิภัทรและมารดาของเธอสบายใจมาก แต่สิ่งที่เป็นกังวลตอนนี้ก็เป็นสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมไปเรื่อยๆ คุณหมอบอกให้ทั้งสองคนทำใจว่าอีกไม่นานคนไข้ก็คงจะต้องจากไป“ซีซีพรุ่งนี้วันหยุดของแม่ แม่จะมาดูแลน้าวดีเองนะ หนูพักผ่อนอยู่บ้านเถอะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ หนูไม่ได้เหนื่อยอะไรมากเรามาอยู่กับน้าสองคนก็ได้นะคะ น้าวดีจะได้ไม่เหงา ดีมั้ยคะน้า” หญิงสาวหันไปถามยุวดีที่นอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง“ขอบใจนะซีซี” ยุวดีพยายามฝืนยิ้ม“ซีซีแล้วเมื่อไหร่หนูจะกลับไปทำงานน่ะลูก ลางานมานานเป็นเดือนแบบนี้ทางโรงพยาบาลเขาจะไม่ว่าเอาเหรอ”“แม่คะอันที่จริงหนูลาออกแล้ว”“อะไรนะลูก ทำไมถึงลาออกล่ะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”“เปล่าหรอกค่ะแม่ที่หนูลาออกเพราะหนูจะไปสมัครทำงานที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ แต่พอดีแม่บอกว่าน้าป่วยหนูก็เลยยังไม่เป
“คุณไปไหนมาเหรอซีซี” เจโรมเริ่มถามเมื่อศศิภัทรขึ้นมานั่งบนรถ“ออกไปกินข้าวกับเพื่อนค่ะ แล้วคุณล่ะ”“ผมตั้งใจมาหาคุณ อันที่จริงอยากจะมาหาตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่เคลียร์งานอยู่”“แล้ววันนี้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ”“เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมคิดถึงคุณมากนะซีซี” ชายหนุ่มจับมือถือไว้อยากจะกอดเธอมาก่อนแต่ก็รู้สึกเกรงใจเพราะกลัวคนอื่นจะมาเห็น“คุณมาที่นี่เพื่อที่จะบอกว่าคิดถึงแค่นั้นเหรอคะ”“เปล่าผมอยากมาเห็นหน้าคุณด้วย ผมนอนไม่หลับเลยนะซีซีตั้งแต่ไม่มีคุณอยู่ด้วยมันทรมานมากๆ”“คุณเจโรมคะเราคุยกันแล้ว ซีซีเชื่อว่าเวลาจะทำให้เราสองคนลืมเรื่องทุกอย่างได้”“คุณคิดว่าจะลืมมันได้จริงๆ เหรอ”“ซีซีก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ก็จะพยายามให้มาก เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ คุณเข้าใจใช่ไหม”“ผมเข้าใจแต่ผมอยากให้เวลาซีซีลองทบทวนความรู้สึกของตัวเองนะ ว่าที่ผ่านมาเราสองคนรู้สึกยังไงแล้วผมจะมาฟังคำตอบหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน”“เอางั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบไปอย่างมั่นใจเพราะคิดว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนเธอน่าจะลืมเขาได้“ขอบคุณครับที่ให้โอกาส”“แต่ระหว่างนี้คุณอย่าติดต่อซีซีมาได้ไหม ถ้าครบหนึ่งเดือนซีซีจะให้คำตอบกับ







