ในขณะที่หล่อนกำลังนั่งจมดิ่งอยู่กับความทุกข์ทรมานของโชคชะตาอยู่นั้น ประตูห้องรับรองถูกเปิดออก พร้อมกับร่างสูงสง่าที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง
บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปในทันที เมื่อเขาปรากฏตัว ปริญญ์ก้าวเข้ามาอย่างมั่นคง แผ่ออร่าของอำนาจและความเย็นชาที่ชวนให้ผู้คนรอบข้างต้องเงียบกริบ
มัสยาตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาราวกับรูปสลัก พระเจ้าคงใช้เวลาบรรจงสร้างเขาขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน
โครงหน้าคมสัน คิ้วเข้มที่ขับให้ดวงตาเฉียบคมราวกับใบมีดดูดุกร้าวและทรงพลัง จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูปที่ดูหยิ่งผยองแต่ก็แฝงเสน่ห์อย่างประหลาด
ผิวขาวเนียนราวกับหินอ่อน ทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเขาช่างสมบูรณ์แบบเกินไป จนมัสยาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
หล่อนรู้ว่าเขาเป็นศัตรู เป็นผู้ชายที่บีบบังคับพ่อของหล่อนจนต้องส่งหล่อนมาอยู่ที่นี่
แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจของหล่อนกลับเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ความเย็นชาและอำนาจที่แผ่ออกจากตัวเขายิ่งทำให้หล่อนหวั่นไหว
หล่อนพยายามบอกตัวเองให้เกลียดเขา แต่กลับไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
ปริญญ์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าหล่อน ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองหล่อนจากศีรษะจรดปลายเท้า แววตาไร้ความรู้สึก ประเมินหล่อนอย่างไม่ปิดบัง แม้สายตานั้นจะเย็นชามาก แต่กลับแฝงอำนาจที่ทำให้หล่อนไม่สามารถต่อต้านได้
“ผมไม่มีเวลามาดูแลเด็กเหลาะแหละ ถ้าจะอยู่ที่นี่ คุณต้องทำงาน ไม่ใช่มาเป็นเจ้าหญิงรอให้คนมาประคบประหงม หวังว่าจะเข้าใจ” น้ำเสียงของเขาเยียบเย็นและเฉียบขาด
มัสยากำมือแน่น ความโกรธและความเสียใจประดังขึ้นมาพร้อมกัน น้ำเสียงของเขาบาดลึกลงไปถึงขั้วหัวใจ เพราะมันบอกอย่างชัดเจนว่า เขาไม่ได้เห็นหล่อนเป็นอะไรมากไปกว่า ภาระ ที่เขาต้องรับไว้เพราะข้อตกลงทางธุรกิจเท่านั้น
หญิงสาวอยากตอบโต้ อยากพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนไร้ค่าที่เขาคิด แต่ทว่าริมฝีปากกลับสั่นไหว ไม่มีเสียงใดหลุดออกมา
หล่อนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้อเสนอที่พ่อของหล่อนทำไว้ หล่อนรู้ดีว่าหนี้สินของบริษัทนั้นมากมายเพียงใด และเขาคือคนที่ครอบครัวของหล่อนไม่อาจปฏิเสธได้
มัสยาก้มหน้าลง ซ่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
หล่อนไม่ได้อยากมาที่นี่ ไม่อยากอยู่ภายใต้พันธะนี้
แต่ที่แย่ที่สุด... หล่อนไม่สามารถห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นแรงระรัว เมื่ออยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ได้เลย
ปริญญ์ปริญญ์ยืนกอดอก จ้องมองผู้หญิงตรงหน้านิ่ง ราวกับกำลังอ่านความคิดของหล่อนอยู่ ก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเย็นชา
“คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าคุณมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
มัสยาเงยหน้าขึ้น ดวงตาไหววูบเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาความสงบไว้ภายนอก
“นางบำเรอมั้งคะ” หล่อนประชดไม่ได้คิดจริงจัง
ปริญญ์แค่นหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ผมไม่เคยขัดสนเรื่องผู้หญิง”
มัสยากำมือแน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ
“งั้นคุณบีบให้ฉันมาที่นี่ทำไมคะ”
ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหล่อน ก่อนตอบเสียงเย็นชา
“ผมไม่ได้บีบ แต่เพราะพ่อของคุณเสนอใช้ตัวคุณมาชดใช้หนี้สินแทน มันไม่ใช่ความต้องการของผมเลยสักนิด”
มัสยากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก คำพูดของเขายิ่งทำให้หล่อนรู้สึกไร้ค่าในสายตาของเขา
ทุกคำพูดของเขาตอกย้ำว่าหล่อนไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่มีคุณค่าอะไรเลยนอกจากเป็นเครื่องมือชดใช้หนี้
มัสยาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยถาม
“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรคะ”
ปริญญ์จ้องหล่อนด้วยดวงตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส
“พนักงานในโรงแรม”
“คะ?”
มัสยาตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ หล่อนคาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเช่นนั้น
“ผมรู้ว่าคุณเป็นคุณหนู มีแต่คนตามใจ แต่ตอนนี้คุณต้องเข้าใจสถานการณ์เสียใหม่ เพราะคุณไม่ได้อยู่ในฐานะนั้นอีกแล้ว”
เขาหยุดนิดหนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงหนักแน่น
“คุณต้องทำงานชดใช้หนี้สิน”
มัสยากลั้นหายใจ ก่อนจะตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“แต่ฉันจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจและการตลาดนะ แล้วก็เก่งภาษาอังกฤษด้วย”
ปริญญ์หัวเราะในลำคออย่างเย็นชา
“ผมไม่สนใจว่าคุณจะจบอะไรมา แต่ตอนนี้คุณอยู่ในฐานะลูกหนี้ของผม ดังนั้นต้องเชื่อฟังคำสั่งของผม”
มัสยาเม้มริมฝีปากแน่น
“แต่เหตุผลของฉันมันฟังขึ้นนะคะ”
เขายิ้มเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
“แต่ผมไม่อยากฟัง”
หล่อนพูดไม่ออกกับคำตอบตรงไปตรงมาของเขา
“ผมจะให้คนพาคุณไปที่ห้องพัก แล้วพรุ่งนี้ก็เริ่มงานได้เลย”
หล่อนยังคงยืนอึ้งกับความเฉียบขาดของเขา
“อ้อ แล้วอย่าก่อเรื่องล่ะ เพราะถ้าคุณก่อเรื่อง หรือทำอะไรเสียหาย ยอดหนี้ของพ่อคุณก็จะถูกเพิ่มเข้าไปอีก ตามจำนวนความเสียหายที่คุณสร้างเอาไว้”
มัสยากัดริมฝีปากแน่น สายตาจ้องเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณนี่มันหน้าเลือดชัดๆ”
ปริญญ์ยิ้มเย็นชา แต่แววตากลับแข็งกระด้าง
“แล้วอย่าใช้คำพูดไม่สุภาพกับผม เพราะมันจะทำให้คุณได้รับใบเตือน และใบเตือนหนึ่งใบมีมูลค่าห้าพันบาท”
เขาพูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้หล่อนยืนอึ้งและเครียดอยู่ที่เดิม
จากนั้นก็มีพนักงานของเขาในชุดฟอร์มของโรงแรมเอ่ยขึ้น
“เชิญไปห้องพักค่ะ”
มัสยาจำใจเดินตามพนักงานออกจากห้องรับรอง
ตอนที่ 3.เส้นทางทอดยาวผ่านโถงทางเดินที่เงียบสงัด จนมาถึงอาคารอพาร์ตเมนต์สูงหกชั้นที่อยู่ด้านหลังของโรงแรมหรู ซึ่งถูกใช้เป็นที่พักของพนักงานเมื่อขึ้นบันไดไปถึงชั้นสาม พนักงานหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูให้มัสยาก้าวเข้าไปด้านใน ห้องพักขนาดเล็กที่มีเพียงเตียง โต๊ะเล็ก และหน้าต่างบานเดียว ความเรียบง่ายของมันตอกย้ำว่าหล่อนไม่ได้มาอยู่ที่นี่ในฐานะแขก แต่เป็นเพียงแค่พนักงานที่ต้องทำงานชดใช้หนี้สิ้นเท่านั้น“นี่คือห้องของคุณค่ะ”พนักงานกล่าวก่อนจะยื่นกุญแจให้“พักผ่อนให้เต็มที่นะคะ พรุ่งนี้คุณต้องเริ่มงานแต่เช้า”มัสยามองไปรอบห้อง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ อย่างปลงตกนี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่... ที่หล่อนไม่สามารถปฏิเสธได้สินะ ปริญญ์นั่งอยู่ในห้องพักหรูหราบนชั้นสูงสุดของโรงแรมที่เป็นของเขาเอง ห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นและโทนสีเข้ม เผยให้เห็นถึงความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราพื้นไม้สีเข้มขับให้เฟอร์นิเจอร์สีเทาและดำดูเคร่งขรึม ผนังบางส่วนถูกแทนที่ด้วยกระจกใสบานใหญ่ ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนเขามักเลือกค้างที่นี่ เพราะไม่ต้อง
ตอนที่ 4.มัสยาไม่รอช้า รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำด้วยความตกใจ ความรีบร้อนทำให้มือไม้สั่นไปหมด หล่อนไม่เคยอาบน้ำเร็วขนาดนี้มาก่อนในชีวิตทุกอย่างผ่านไปอย่างฉุกละหุกจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เส้นผมที่เคยใช้เวลาดูแลอย่างพิถีพิถัน ต้องรวบขึ้นอย่างลวกๆ เสื้อผ้าถูกสวมแบบเร่งรีบ และแทบไม่มีเวลาส่องกระจกดูความเรียบร้อยเลยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กระโปรงทรงเอ และเสื้อกั๊กสีกรมท่าทับด้านนอก นี่มันไม่ใช่ชุดที่หล่อนคุ้นเคย แต่หล่อนก็ไม่มีเวลามากพอที่จะมาคิดเรื่องนั้นในตอนนี้“เร็วค่ะ! ไปกันเถอะค่ะ!”ริสาเรียกก่อนจะดึงแขนมัสยาออกจากห้องมัสยากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามริสาไปตามทางเดิน แรงหอบทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนหัวใจจะเต้นไม่เป็นจังหวะนอกจากความรีบร้อนแล้ว หล่อนยังไม่ชินกับการต้องทำอะไรภายใต้เวลาจำกัดแบบนี้ด้วยเมื่อไปถึงโถงประชุมพนักงาน ทุกคนยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนอยู่ในชุดฟอร์มเหมือนกันหมด สร้างบรรยากาศที่เป็นทางการและเคร่งครัดมากและตรงหน้า...ปริญญ์ยืนอยู่ที่นั่น ร่างสูงสง่าของเขาแผ่ออร่าอำนาจที่ทำให้ทั้งห้องเงียบลงแทบจะทันที ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองพนักงานแต่ละคนราวกับจับผิด ไม่มีใครก
ตอนที่ 5.มัสยาตาโต “อีกสิบกว่าห้องเหรอ!?”ริสาพยักหน้าอย่างขำๆ“ค่ะ รีบไปกันเถอะค่ะ ก่อนที่หัวหน้าจะมาตรวจงาน”มัสยาถอนหายใจยาว แต่ก็พยายามฮึดสู้“โอเค ไปกันเถอะ”ทั้งสองเดินออกจากห้องพักแขกที่ทำเสร็จเรียบร้อยไป เพื่อไปทำความสะอาดห้องพักที่เหลืออีกสิบกว่าห้องต่อไปภายในห้องทำงานของปริญญ์พนักงานวัยกลางคนยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขาอย่างสงบเรียบร้อย ปริญญ์เหลือบมองขึ้นจากเอกสารตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เธอเป็นยังไงบ้างครับ”เขาคิดว่ามัสยาคงจะบ่น หรือไม่ก็ต้องสร้างปัญหาแน่ๆ เมื่อเขาให้งานแม่บ้านเป็นงานแรกของหล่อน“เธอทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ”ปริญญ์เลิกคิ้วขึ้น“ทำได้ทุกอย่าง?”“ใช่ค่ะ แม้จะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ แต่เธอก็พยายามซ้ำหลายครั้ง จนทำดีขึ้นมากค่ะ”เขาพิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะถามอีกครั้ง“เธอไม่บ่น ไม่งอแงเลยเหรอครับ”“ไม่เห็นมีบ่นอะไรเลยนะคะ เห็นหัวเราะกับริสาสนุกเลยล่ะค่ะ”ปริญญ์หรี่ตาลง แววตาครุ่นคิด“ไม่น่าเชื่อ”“ดิฉันไม่กล้าโกหกคุณปริญญ์หรอกค่ะ”“ผมไม่ได้ว่าคุณจันทร์โกหก ผมแค่ไม่อยากเชื่อว่า คุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่ออย่างมัสยา จะทำงานบ้านได้”“บางทีคุณปริญญ์อาจจะมอ
ตอนที่ 6.มัสยากำลังขะมักเขม้นอยู่กับการปูเตียงให้เรียบตึง หล่อนดึงผ้าปูเตียงขึ้นก่อนจะสอดปลายผ้าให้ตึงเรียบกับขอบฟูก แล้วลองใช้มือลูบดูเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ทว่ากลับยังไม่พอใจ หล่อนถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะดึงปลายผ้าออกแล้วลองใหม่อีกครั้ง“ต้องเรียบกว่านี้…”มัสยาพึมพำกับตัวเอง พลางคิดถึงคำแนะนำของริสา‘ต้องไม่มีรอยยับเลยนะมัสยา’หล่อนสูดลมหายใจลึกแล้วลองอีกครั้ง ขยับปลายนิ้วไล่ตามรอยผ้า ให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ หล่อนก็ยืดตัวขึ้น ยิ้มออกมาอย่างพอใจ“เราก็ทำได้เหมือนกันนี่นา”หญิงสาวพึมพำ พลางมองเตียงที่เรียบกริบสุดเพอร์เฟ็ค ก่อนจะเหลือบตามองไปยังประตูห้องน้ำ“เหลือทำความสะอาดห้องน้ำ ก็เสร็จงานห้องนี้แล้ว”หล่อนยิ้มบางๆ เพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนจะหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำมัสยาเริ่มขัดอ่างล้างหน้าอย่างคล่องแคล่ว ขณะเดียวกันก็ฮัมเพลงเบาๆ ไปด้วย เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายขึ้นในขณะนั้นเอง ปริญญ์ก็ก้าวเข้ามายืนที่หน้าประตูห้องพักที่เปิดค้างเอาไว้ เขาไม่ได้ตั้งใจเข้ามา แต่เมื่อผ่านมาทางนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะสอดส่องดูว่างานที่มัสย
ตอนที่ 7. ผิวของปริญญ์อุ่น… และนุ่มกว่าที่หล่อนคาดคิด‘หยุดคิดเดี๋ยวนี้นะ มัสยา’หล่อนด่าตัวเองในใจ พยายามสะบัดภาพเหล่านั้นออกจากหัว‘อย่าหวั่นไหวกับเขา เพราะเขาไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย นอกจากการใช้หนี้’แม้จะบอกตัวเองแบบนั้น แต่หัวใจของหล่อนกลับยังเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้ามองหล่อนเพียงแวบเดียวก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มัสยายืนถือถุงยาไว้แน่นในขณะที่ริสาที่นั่งมองอยู่ตลอดยิ้มกริ่ม ก่อนจะเอนตัวเข้ามาใกล้ แล้วเอ่ยแซว“นี่มันเรื่องใหญ่นะ มัสยา”ริสากระซิบเบาๆ“คุณปริญญ์ไม่เคยใส่ใจพนักงานถึงขนาดซื้อยามาให้แบบนี้เลยนะ เธอเป็นคนแรกเลยล่ะ”มัสยาหันขวับไปจ้องเพื่อนสาว “อย่าพูดอะไรบ้าๆ นะริสา เขาคงแค่... แค่ไม่อยากให้ฉันล้มป่วยจนทำงานไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”ริสาหัวเราะคิก “เหรอ? แต่ฉันว่ามันดูมากกว่านั้นนะ” ริสาหรี่ตาอย่างจับผิด“ปกติถ้าพนักงานคนไหนป่วย คุณปริญญ์ก็ไม่เคยสนใจอะไรขนาดนี้เลยนะ อย่างดีก็บอกให้ไปหาหมอ แต่กับเธอที่เพิ่งมาใหม่… มันดูแปลกๆ นะ”“อย่าคิดอะไรไร้สาระได้ไหม ริสา”มัสยาตอบกลับเสียงแข็ง แต่กลับรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าอก มือกำถุงยาแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว“จ้าๆ ฉัน
ตอนที่ 8.“ก็ทำให้มันดีๆ ล่ะ ฉันไม่ชอบอะไรที่ไม่สมบูรณ์แบบ”มัสยาพยักหน้าเล็กน้อย แล้วรีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด แต่ยังไม่ทันเริ่มต้น แขกคนนั้นก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง“เธอชื่ออะไร”มัสยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างสุภาพ“มัสยาค่ะ”“มัสยา? ฟังดูเป็นชื่อที่สูงส่งดีนี่ แต่ไม่น่าเชื่อว่า เจ้าของชื่อจะเป็นแค่พนักงานทำความสะอาด”หญิงคนนั้นหัวเราะเยาะ พลางยกแก้วชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์มัสยากำมือแน่น พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความโกรธ หล่อนไม่ใช่คนที่ปล่อยให้อารมณ์พาไปง่ายๆ แต่คำพูดเสียดสีเหล่านั้นก็เหมือนมีดกรีดลงกลางใจ“ขอโทษค่ะ ดิฉันขออนุญาตทำความสะอาดต่อนะคะ”หล่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พยายามรักษามารยาทอย่างถึงที่สุดแต่ดูเหมือนแขกวีไอพีจะไม่ได้พอใจง่ายๆ ผู้หญิงคนนั้นเบ้ปาก แล้ววางแก้วชาลงกับโต๊ะกระจกเสียงดัง ก่อนจะกวาดตามองมัสยาจากหัวจรดเท้า และแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ“ดูเธอสิ… สงสัยคงเคยเป็นคุณหนูที่เคยอยู่สุขสบายมาก่อนสินะ ถึงได้ดูเก้ๆ กังๆ กับงานแบบนี้”หล่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แล้วสะบัดไล่ๆ อย่างรังเกียจ“ตกต่ำถึงขั้นต้องมาเช็ดฝุ่นให้ฉันแบบนี้ คงทรมานแย่เลยล่ะสิ”มัสย
ตอนที่ 9.“คุณเรียกฉันมาพบ มีอะไรจะใช้เหรอคะ”ปริญญ์เอนตัวพิงเก้าอี้ มือข้างหนึ่งวางบนโต๊ะ ก่อนจะตอบเสียงเรียบ“เรื่องแขกวีไอพีเมื่อกลางวัน”มัสยารู้สึกเหมือนบางอย่างกระตุกในอก หล่อนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อลูกค้าคนนั้นพยายามเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของหล่อน“ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร” มัสยายืนกรานหนักแน่นปริญญ์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า“ผมรู้”มัสยาชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะตอบแบบนี้“ลูกค้าบางคนมีเงินมากก็จริง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะน่าคบ” เขาพูดต่อ พลางหมุนปากกาบนมือไปมา“ผมไม่แคร์หรอก ถ้าลูกค้าคนนั้นจะไม่พอใจ โรงแรมนี้ไม่จำเป็นต้องยอมทุกอย่างเพื่อคนที่ไม่มีเหตุผล”มัสยากระพริบตาช้าๆ มองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่ได้ปกป้องลูกค้าวีไอพีที่ขึ้นชื่อว่ามีอำนาจ แต่กลับแสดงออกว่าเห็นใจหล่อนมากกว่า“หมายความว่า…”ปริญญ์มองสบตากับหล่อน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงนัยบางอย่าง“ถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นอีก คุณสามารถอาละวาดได้เลย”มัสยาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง“คุณพูดจริงเหรอคะ”ปริญญ์เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ราวกับต้องการลดระยะห่างระหว่างกัน สายตาคมดึงดูดจนหล่อนแทบ
ตอนที่ 10.ภายในผับ มัสยายังพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของชายแปลกหน้า แต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ หล่อนเริ่มหมดแรง“ฉันบอกให้ปล่อย!”มัสยาร้องเสียงดัง จังหวะนั้นเองที่มือของหล่อนตวัดไปข้างหน้า และ…เพี๊ยะ!เสียงตบดังลั่นไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาหันขวับมามอง รวมถึงริสาที่ตกใจจนตาค้างชายคนนั้นจับแก้มตัวเอง ดวงตาเปลี่ยนเป็นโกรธจัด“อีบ้า! กล้าตบกูเหรอ!”เขายกมือขึ้นหมายจะเอาคืน แต่ยังไม่ทันได้แตะตัวมัสยา แรงกระชากมหาศาลก็พุ่งเข้ามาจากทางด้านข้างชายคนนั้นถูกดึงกระเด็นไปชนโต๊ะข้างๆ โดยแรงของปริญญ์ที่เพิ่งมาถึง เขายืนสูงตระหง่าน แววตาเย็นชา และเลือดเย็นจนไม่มีใครกล้าโต้แย้ง“ถ้าคุณแตะต้องเธออีกครั้ง ต่อจากนี้ไปคุณจะไม่มีโอกาสได้แตะต้องอะไรอีกเลย”น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยอำนาจที่ทำให้ร่างของชายแปลกหน้าชาวาบไปทั้งตัวมัสยาเงยหน้ามองเขา ตาพร่าเลือนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่หล่อนกลับรับรู้ได้ถึงความปลอดภัยที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขา“คุณ... ปริญญ์… มาทำอะไรที่นี่คะ”มัสยาพึมพำเบาๆ เสียงสั่นไหวปริญญ์กวาดตามองหล่อน ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ“เธอนี่มัน…”เขาหันไปสบตากับริสา“พาเธอออกไปได้แล้ว”แต่ยัง
ตอนที่ 27. ตอนอวสานเขายิ้ม “ใช่ครับ”หล่อนมองเขาตาปรอย “แต่ฉันเหนื่อยแล้วนะคะ”“อีกครั้งนะทูนหัว...”เขาเอ่ยอย่างอ้อนวอน ริมฝีปากร้อนกดจูบแผ่วเบาตามแนวไหล่ของหล่อน“ผมสัญญาว่าจบครั้งนี้แล้วผมจะหยุด...”แต่สุดท้าย... มันก็ไม่ได้จบแค่ครั้งเดียว เพราะปริญญ์ทำหล่อนทั้งคืน แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างบ้านไม้หลังใหญ่ของมัสยา เติมเต็มบรรยากาศให้สงบและอบอุ่น เสียงนกร้องแว่วจากสวนหลังบ้าน ยิ่งขับให้ช่วงเวลานี้ดูมีความหมายมากขึ้นมัสยานั่งเคียงข้างปริญญ์ในห้องรับแขก หัวใจเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ ขณะที่พ่อกับแม่ของหล่อนนั่งอยู่ตรงข้าม มองชายหนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นลูกเขยของพวกเขาด้วยความประหม่าเล็กน้อยเพราะปริญญ์ไม่ได้เป็นเพียงว่าที่ลูกเขยเท่านั้น... แต่ยังเคยเป็นเจ้าหนี้ของครอบครัวนี้ด้วยคุณไพบูลย์ สูดหายใจเข้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง“คุณปริญญ์แน่ใจหรือครับ”ปริญญ์สบตาชายสูงวัยตรงหน้า ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ผมแน่ใจ และมั่นใจมากครับว่าจะแต่งงานกับมัสยา”เขาหันไปมองหญิงสาวข้างกาย ก่อนจะยื่นมือไปกอบกุมมือของหล่อนแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน“
ตอนที่ 26.“มัสยา...” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าหล่อนไม่ตอบ แต่จ้องเข้าไปในดวงตาเข้มที่สะท้อนภาพของหล่อนอยู่ในนั้น ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนอกกว้าง ลากไล้เบาๆ ผ่านเนื้อผ้าบางที่แนบไปกับกล้ามเนื้อของเขา“ผมกำลังทำอาหารให้คุณอยู่นะ...”ปริญญ์พยายามเตือนสติ แต่เสียงของเขากลับสั่นไหว“มีอย่างอื่นที่ฉันอยากกินมากกว่าอาหารค่ะ”หล่อนกระซิบข้างหูเขา ก่อนจะเขย่งปลายเท้า แล้วแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเขาอย่างจงใจเชิญชวนความอดทนอดกลั้นของปริญญ์แตกระเบิด ทุกอย่างพังทลายลงภายในเสี้ยววินาทีเขากระชากหล่อนเข้ามาแนบชิด แขนแข็งแกร่งโอบรัดร่างบางไว้แน่น จูบตอบกลับอย่างลึกซึ้งและเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนแทรกซึมเข้าไปในโพรงปากของหล่อน รุกเร้า ดูดดื่ม ราวกับต้องการลงโทษที่หล่อนเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสียงครางแผ่วหลุดออกจากลำคอของมัสยา มือของหล่อนเลื่อนไปเกาะเกี่ยวที่ต้นคอเขาแน่น ขณะที่ร่างกายแนบชิดกันจนไม่เหลือช่องว่างปริญญ์ถอนจูบออกเล็กน้อย มองหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยสายตาหลงใหลเต็มเปี่ยม“คุณกำลังเล่นกับไฟนะ มัสยา” เขากระซิบเสียงพร่ามัสยาหายใจหอบ ริมฝีปากบวมเจ่อจากจูบเมื่อครู่ ก่อนจะยิ้มมุมปาก“แล้วคุณจะดับมันไหมล่ะ”ปริญญ์คำรา
ตอนที่ 25. หลายวันต่อมา... มัสยาก้มหน้าก้มตาจัดเรียงชุดเครื่องดื่มต้อนรับแขกในล็อบบี้โรงแรม หวังจะทำตัวให้กลมกลืนไปกับพนักงานคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนความพยายามนั้นจะไร้ผลโดยสิ้นเชิงเพราะปริญญ์... ท่านประธานของโรงแรม กำลังเดินตามหล่อนแจ คอยอยู่ใกล้ไม่ห่าง ราวกับเงาตามติดตัว!“มัสยา คุณกินข้าวหรือยัง” เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังหล่อนสะดุ้งเฮือก หันมามองเขาตาโต“คุณมาทำอะไรตรงนี้คะ?”“ก็มาอยู่กับคุณไง”เขาตอบหน้าตาย พร้อมกับส่งรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยมาให้มัสยากวาดตามองรอบๆ พนักงานหลายคนเริ่มเหลือบมามอง กระซิบกระซาบกันเบาๆ ด้วยความสงสัยและแปลกใจสุดขีดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ท่านประธานเดินตามพนักงานแม่บ้าน? แถมยังทำหน้าราวกับลูกหมาที่อ้อนเจ้าของอีก!มัสยาสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามขยับตัวห่างจากเขา“คุณปริญญ์ กรุณาอย่าทำแบบนี้ค่ะ ฉันทำงานอยู่”“ผมรู้” เขาพยักหน้า “แต่คุณก็ต้องพักบ้าง ไปกินข้าวกับผมนะ”มัสยาถอนหายใจอย่างอ่อนใจ“ฉันยังทำงานไม่เสร็จค่ะ”ปริญญ์ไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของหล่อนเลยสักนิด ตรงกันข้าม เขากลับยื่นมือไปหยิบผ้าปัดฝุ่นจากมือของหล่อนแล้วถือเอาไว้เอง“ถ้าคุณจะ
ตอนที่ 24.หล่อนแตกระเบิดคาลิ้นของเขา ในขณะที่ร่องสาวก็มีนิ้วยาวถึงสองนิ้วกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในหล่อนเสียวเหลือเกิน...เสียวจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย...หลังจากหล่อนหลั่งรินเสร็จแล้ว เขาก็ขยับตัวออกห่าง และจัดการสลัดเสื้อผ้าออกไปมัสยาเขินอาย แต่ก็ไม่สามารถละสายตาจากเรือนร่างเปลือยสมบูรณ์แบบของเขาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว“คุณ... รูปร่างดีจังค่ะ...”“เพื่อคุณ...”คำพูดของเขาทั้งกระเส่าและหวานมาก พร้อมกับการก้าวกลับขึ้นมาบนเตียงอีกครั้งเมื่อเขาแนบชิดลงมาหา ไออุ่นจากร่างกายของเขาก็ทำให้หล่อนสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง ความเป็นชายของเขาดุนดันอยู่ที่ร่องสาวอย่างดุดัน“ผม... ทนไม่ไหวแล้ว มัสยา...”หล่อนยิ้มหวานให้เขา ยื่นปากไปจูบเขาเบาๆ อย่างเอาใจเขายิ้มตอบ ดวงตาปรือหวาน ก่อนจะสอดใส่เข้ามาอย่างดุดัน ครั้งเดียวมิดด้ามหล่อนห่อปากอุทานเสียว ความคับแน่นที่เกิดจากความใหญ่โตของเขาทำให้หล่อนเสียวสะท้านไปทั้งตัว“โอ้ววว ผมชอบอยู่ในตัวคุณ มัสยา...”เขากับหล่อนจ้องตากัน มองหน้ากัน ในขณะที่อวัยวะส่วนนั้นเชื่อมติดกันอยู่เขายิ้มหื่นกระหายให้หล่อน ก่อนจะกระแทกปากลงมาหาแรงๆ จูบอย่างเร่าร้อน แลกลิ้นกั
ตอนที่ 23.ความร้อนระอุจากตัวเขาแผ่ซ่านผ่านผิวกายของหล่อน ความคิดทั้งหมดถูกพายุแห่งแรงปรารถนาพัดพาไปจนหมดสิ้นเขาลูบไล้แผ่นหลังของหล่อนอย่างแผ่วเบา แต่กลับทิ้งร่องรอยความเร่าร้อนไว้ทุกจุดที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัส ริมฝีปากของเขากดแนบลงมาอีกครั้ง คราวนี้ช้าลง ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น“ให้ผม... เอาคุณเถอะนะ...”มัสยาหลับตาอย่างยอมศิโรราบ ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในความต้องการของเขา และจูบตอบอย่างลืมตัวเขายังคงจูบหล่อนอย่างลึกซึ้ง ไม่เปิดโอกาสให้ได้หายใจ แขนแข็งแกร่งโอบรัดร่างบางของหล่อนแน่นราวกับกลัวว่าหล่อนจะหลุดลอยไป ริมฝีปากของเขาบดเบียดอย่างเร่งเร้า ดุดันและเอาแต่ใจในแบบที่หล่อนไม่เคยเผชิญมาก่อนมัสยาเริ่มหายใจไม่ทัน ริมฝีปากสาวบวมช้ำจากจูบที่ยาวนานและร้อนแรง แต่ถึงอย่างนั้น หล่อนก็ยังไม่มีแรงจะต่อต้านเขา ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะผลักเขาออกไปความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของหล่อน เผาผลาญทุกความลังเลที่ยังเหลืออยู่ให้มอดไหม้เขาค่อยๆ ดันหล่อนให้ถอยหลัง ทุกสัมผัสแนบเนียนราวกับต้องการให้หล่อนจมดิ่งไปกับเขาโดยไม่มีทางหวนกลับเท้าของหล่อนก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
ตอนที่ 22. เสียงเคาะประตูดังกังวานขึ้นในความเงียบของค่ำคืน มัสยาขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินไปเปิดอย่างระแวดระวัง แต่ทันทีที่บานประตูแง้มออก ร่างสูงของปริญญ์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ดวงตาคมกริบสะท้อนประกายบางอย่างที่ทำให้หัวใจของหล่อนกระตุกวูบ“คุณ... ปริญญ์...”มัสยาอุทานเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความตกใจ และยังไม่ทันได้ถอยหนี ปริญญ์ก็ใช้ร่างหนาของเขาดันประตูให้เปิดกว้าง ก่อนจะก้าวเข้ามาภายในห้องโดยไม่รอให้หล่อนอนุญาต“คุณปริญญ์! คุณจะทำอะไรคะ!”เขาไม่ตอบ เพียงแค่รวบร่างของหล่อนเข้าสู่อ้อมแขน แขนแข็งแกร่งโอบรัดร่างบางแน่นราวกับกลัวว่าจะหายไปดวงตาคมของเขาเต็มไปด้วยความอัดอั้น ความคิดถึง และความโหยหาที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ริมฝีปากของเขากดลงบนริมฝีปากของหล่อนอย่างกระหายจัด ลึกซึ้งและเรียกร้อง ราวกับต้องการหลอมรวมหล่อนให้เป็นส่วนหนึ่งเดียวกับเขามัสยาดิ้นรน แต่สัมผัสร้อนแรงของเขากลับทำให้หล่อนอ่อนแรงลงทุกขณะ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอกปริญญ์สัมผัสหล่อนราวกับคนที่อดอยากมานาน และตอนนี้กำลังปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา“ผมคิดถึงคุณ...”เสียงแหบพร่าของเขากระซิบข้างหู ก่อนที่เขาจะพยายามกดร่างหล่อน
ตอนที่ 21.เขาไม่ปฏิเสธเลย!“ยะ... อย่า... อย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ”คุณปู่หัวเราะในลำคอ แววตาที่ทอดมองมัสยายังคงเต็มไปด้วยความเอ็นดูและพึงพอใจ“หน้าตาของฉันเหมือนคนชอบพูดล้อเล่นเหรอหนูมัสยา”มัสยานิ่งอึ้ง ในหัวกำลังปั่นป่วน หัวใจเต้นระรัว และพูดไม่ออก“ฉันยื่นข้อเสนอกับคุณไพบูลย์ พ่อของหนูไปแล้วว่าฉันต้องการให้หนูมาอยู่ข้างๆ หลานชายของฉันในฐานะภรรยา...”“เอ่อ...”ตอนนี้สมองของหล่อนเหมือนถูกรถสิบล้อร้อยคันวิ่งทับจนเละเทะ“แต่เจ้าหลานชายตัวดีของฉัน ดันอยากทดสอบหนูก่อน ก็เลยไม่บอกความจริง แล้วส่งหนูไปทำงานเป็นแม่บ้านน่ะ”มัสยาหันไปมองปริญญ์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ปากอิ่มสีแดงระเรื่อเผยอค้างนี่มันเรื่องอะไรกัน!“แต่ตอนนี้หลานชายของฉันยอมตกลงแล้วนะ ดังนั้นต่อจากนี้ไปหนูมัสยาไม่ต้องทำงานเป็นแม่บ้านแล้ว เพราะหนูคือผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาของเจ้าปริญญ์”มัสยาชะงัก หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจ ผสมความโกรธ หล่อนหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนพิงสะโพกกับขอบโต๊ะด้วยท่วงท่าสบายอกสบายใจด้วยแววตาขุ่นมัวไม่พอใจอย่างที่สุดนี่มันคือความจริงอย่างนั้นเหรอ?หล่อนกำมือแน่น ความน้อยใจแล่นเข้ามาถล่มหัวใจจนยับเยิน ไม่เหลือช
ตอนที่ 20.ปริญญ์นั่งมองแผ่นหลังบอบบางของมัสยาที่เดินออกไปจนลับสายตา ราวกับต้องการบันทึกภาพของหล่อนไว้ให้ลึกที่สุดในหัวใจรอยยิ้มบางแต้มขึ้นที่มุมปาก นัยน์ตาสีนิลสะท้อนความรู้สึกอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกได้มาก่อนแม้มัสยาจะเดินหายออกไปจากห้องนี้แล้ว แต่กลิ่นกายของหล่อนยังคงหลงเหลืออยู่ และความรู้สึกอ่อนนุ่มที่หล่อนฝากเอาไว้กับเขาก็ยังไม่ยอมเลือนหายไปและดูเหมือนมันจะเพิ่มขึ้นทุกวินาที...เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ปริญญ์สะดุ้งเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าจอและพบว่าคนที่โทรเข้ามาคือคุณปู่เขาถอนใจเบาๆ ก่อนกดรับสาย“ว่าไงครับคุณปู่”“เป็นยังไงบ้างไอ้หลานรัก”เสียงทุ้มของคุณปู่ดังขึ้นที่ปลายสาย“เรื่องหนูมัสยาไปถึงไหนแล้ว พอจะเลื่อนขั้นมาเป็นเมียของหลานได้หรือยัง”ปริญญ์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คำถามของปู่ทำให้เขาเผลอกำโทรศัพท์แน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากจะค่อยๆ ขยับตอบออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังและชัดเจน“ผมจะแต่งงานกับเธอครับ”ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ราวกับคุณปู่กำลังตกตะลึงไปกับคำตอบนั้น ก่อนที่เสียงเข้มจะดังขึ้นอีกครั้ง“ว่าไงนะ? หลานพูดจริงหรือเปล่า?”“จริงครับ” ปริญญ์ยืนยันคำเ
ตอนที่ 19.“ทำไมล่ะ เมื่อคืนผมก็เลีย...”คำตอบของเขาทำให้ไฟในร่างของมัสยาลุกโชน หล่อนพยายามหนีบต้นขาเข้าหากันแต่ก็ติดศีรษะของปริญญ์เขาใช้นิ้วมือแหวกกลีบสาวออก หยอกเย้ากับมันด้วยลีลาที่หล่อนต้องร่อนสะโพกขึ้นหา ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงมา และเลีย“อ๊ะ... อู๊ยยยยย... คุณปริญญ์... อย่าเลีย... พอเถอะค่ะ อ๊า...”“คุณหวานแบบนี้ ไม่ให้ผมเลียได้ยังไง มัสยา...”เขาพูดเสียงกระเส่าจนแทบฟังไม่เป็นคำ ก่อนจะตะโบมจูบและเลียไล้ร่องสาวหอมหวานของหล่อนด้วยความหื่นกระหายทั้งปาก ทั้งลิ้น และปลายนิ้วของเขาทั้งหยอกเย้าทั้งคุกคาม จนในที่สุดหล่อนก็ระเบิดความเสียวซ่านออกมาอย่างไร้ยางอายหล่อนเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง น้ำสวาทมากมายทะลักออกมาใส่ปากของปริญญ์ หล่อนสั่นเทิ้มเหมือนถูกจับเขย่าอยู่นานเกือบนาที จึงทิ้งบั้นท้ายลงแนบชิดกับเตียงนุ่มหน้าอกอวบอัดเต่งตึงของหล่อนสะท้อนขึ้นลง ขณะที่มีสายตาคมกริบที่เต็มไปด้วยความหิวกระหายของปริญญ์ช้อนมองขึ้นมา“ผมจะทำให้คุณเสร็จอีก มัสยา...”เสียงของเขาแหบพร่า กระเส่า และแผ่วเบา แต่กลับดังลั่นในหูของหล่อนเขาก้าวลงไปจากเตียง สลัดกางเกงขายาวออกไป ตามด้วยกางเกงในบ็อกเซอร์ จนเนื้อตัวเปลือย