Share

20: ธุรกิจความงาม [1]

Author: Tuk Kung
last update Last Updated: 2025-08-26 15:50:48

ไป๋เหลียนออกมาจากร้านขายสมุนไพรได้ไม่นาน หญิงสาวก็ได้มาหยุดยืนหน้าหอนางโลมแห่งหนึ่ง หอฮวาเหมย ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสาวงามและศิลปะการแสดงหลายแขนง พวกนางสร้างชื่อให้กับเมืองเห่อเป่ยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะขึ้นชื่อเรื่องนายท่านทั้งหลายล้วนบ้านแตกเพราะสาวงามหอฮวาเหมย

ค่าตัวในแต่ละคืนของนางคณิกาดาวเด่นมิใช่น้อย ๆ กระนั้นคณิกาทั่วไปราคาของพวกนางก็ใช่ย่อยเช่นกัน หอฮวาเหมยจะแบ่งสาวงามเป็นสองจำพวก หนึ่งคือดาวเด่นพวกนางจะสามารถเลือกแขกเองได้ แม้มีเงินมากก็ใช่จะเรียกตัวให้มาปรนนิบัติได้

สองคือคณิกาทั่วไปพวกนางจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธแขก เมื่อแขกจ่ายเงินซื้อตัวในคืนนั้นไปแล้ว แม้คนคนนั้นเป็นบุรุษชอบใช้กำลังนิยมชมชอบความรุนแรง สิ่งที่นางคณิกาทั่วไปทำได้ก็เพียงแค่ต้องยอมรับชะตากรรม

หญิงสาวคิดว่าหอนางโลมเหมาะที่จะเป็นแหล่งการค้าชั้นดีของนางได้ เพราะสิ่งที่จะนำมาขายในวันนี้คือของจำเป็นที่เหล่าคณิกาล้วนต้องใช้ในทุกวัน ไป๋เหลียนจึงคาดหวังการค้าครั้งนี้ไว้มาก

“เดี๋ยวก่อนแม่นาง เจ้าไม่รู้หรือที่นี่คือหอนางโลม” ยามเฝ้าหน้าประตูยื่นมือออกมาขวางไว้ สอบถามให้แน่ชัด ด้วยหอฮวาเหมยมิใช่สถานที่ที่สตรีควรเข้า

หอนางโลมไม่ใช่ที่ที่สตรีทั่วไปจะเดินเข้าออกได้ตามใจ ทั้งเป็นสถานที่ที่เหล่าสตรีไม่ค่อยอยากจะย่างเท้าเข้ามาด้วยส่งผลต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูล โดยเฉพาะสตรีแรกแย้มเช่นนี้หากมีคนรู้จักเห็นเข้าก็พานจะเข้าใจผิดกันได้ ยกเว้นก็แต่สตรีที่มีสามีแล้วพวกนางมักจะมาหอฮวาเหมยจนชินตา เหตุผลก็มิใช่เรื่องแปลกใหม่ส่วนมากเพียงแค่มาตามสามีกลับบ้านก็เท่านั้น

“รู้เจ้าค่ะ”

“รู้แล้วเจ้ายังจะเข้าไปอีกหรือ หรือว่าเจ้าจะมา...” ยามเฝ้าประตูมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า หน้าตาหรือก็งดงาม การแต่งกายก็มิได้แย่ แต่เหตุไฉนถึงได้อยากมาขายเรือนร่างแลกเงิน

“ไม่ใช่นะเจ้าคะ ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด ข้าเป็นแม่ค้าขายเครื่องประทินผิวคุณภาพดีราคาถูก มาที่หอฮวาเหมยก็เพื่อจะมาเสนอขายสินค้าเจ้าค่ะ ข้าจะฝากขายกับร้านค้าอื่นแต่ถูกกดราคาเกินไป จำต้องเดินเร่ขายเองไม่มีหน้าร้าน พี่ชายถือว่าช่วยข้าสักครั้งเถอะนะ ขายไม่ได้ไม่เป็นไรข้าแค่อยากลองดูสักครั้ง” ไป๋เหลียนยัดเงินใส่มืออีกฝ่ายเพื่อเป็นค่าผ่านทาง นางทุ่มเงินไปกว่าครึ่งของทั้งหมดที่มีเพื่อการนี้โดยเฉพาะเชียวนะ อย่างไรเสียต้องได้อะไรกลับมาบ้างไม่มากก็น้อย

“ข้าให้เจ้าอยู่ได้ชั่วครู่เท่านั้นเสร็จแล้วก็รีบออกมาเล่า ประเดี๋ยวนายหญิงรู้ข้าจะถูกลงโทษ”

“ขอบคุณท่านมากพี่ชาย ข้าจะไม่ลืมบุญคุณท่านเลย”

ชายเฝ้าหน้าประตูหอฮวาเหมยมองซ้ายแลขวา ก่อนจะกวักมือเรียกสาวใช้คนหนึ่งกระซิบกระซาบกันอยู่ชั่วครู่ ไม่นานนักสาวใช้ผู้นั้นจึงได้พาไป๋เหลียนเดินเข้าด้านในหอนางโลม ทว่าทางที่เข้าไปนั้นมิใช่หน้าร้าน แต่กลับเป็นหลังร้านที่มีเฉพาะคนในเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้

“ขอบคุณแม่นาง นี่ของตอบแทนเล็กน้อย ข้าให้เจ้า” หญิงสาวมอบขนมคุกกี้ให้สาวใช้นำทางหนึ่งกระปุกเล็ก เดิมทีจะให้เป็นเงินดังเช่นชายเฝ้าประตู ทว่าเงินที่เหลือก็มิได้มากมายนักหากให้ไปแล้วก็เท่ากับสิ้นเนื้อประดาตัว สิ่งที่ให้ได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นของกินที่สามารถเอาออกมาจากมิติวิเศษได้ก็เท่านั้น

“ท่านรอตรงนี้ก่อนนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าขอไปถามพวกพี่สาวก่อน หากพวกนางสนใจข้าจะพามาหาท่านเจ้าค่ะ”

หญิงรับใช้รับขนมมาด้วยความดีใจ แม้นางจะไม่เคยเห็นมาก่อนเลยก็ตามแต่เชื่อว่าน่าจะเป็นของดี ทั้งกลิ่นและหีบห่อก็ดูดีมีราคามากโข ได้เปล่ามาเช่นนี้ช่างโชคดีนัก นางพยักหน้าให้สตรีตรงหน้าก่อนจะปลีกตัวออกไป เพื่อไปแจ้งเหล่าพี่สาวนางโลมเข้ามาเลือกซื้อสินค้าตามที่คนเฝ้ายามฝากฝังเมื่อครู่

ทว่าคนที่สาวใช้เชิญชวนมานั้นกลับน้อยนิด ดูเหมือนพวกนางจะเป็นนางโลมระดับล่างด้วยซ้ำ สำหรับไป๋เหลียนแล้วจะอยู่ระดับไหนนางไม่สน ขอแค่มีเงินซื้อของจากนางก็พอ

“เจ้าหรือที่ว่ามีเครื่องประทินผิวมาขายให้พวกข้าน่ะ” หญิงคณิกานางหนึ่งสวมชุดแดงเอ่ยขึ้นทันทีที่มาถึง พวกนางกำลังแต่งตัวเตรียมพร้อมทำงานสำหรับค่ำคืนนี้ แต่ก็ถูกสาวใช้คะยั้นคะยอให้มาให้ได้ ตนจึงรับปากมาพบพอเป็นพิธีเท่านั้น

“เจ้าค่ะพี่สาว” ไป๋เหลียนรีบตอบรับทันทีพลางยิ้มรับ ดูจากสายตาหญิงคณิกาทั้งสามแล้วคงรู้สึกว่าตนไม่น่าเชื่อถือกระมัง

“บอกไว้ก่อนนะ หากเจ้าตั้งใจมาขายของแพง ๆ พวกเราไม่มีปัญญาซื้อหรอกนะ” สตรีชุดเขียวเข้มเดินตามหลังมารีบกล่าวเตือนเช่นกัน พวกนางเป็นแค่คณิกาที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ไม่เหมือนกับดาวเด่นได้รับค่าตอบแทนเป็นกอบเป็นกำในแต่ละคืน หากจะหวังขายได้มาก ๆ คงจะไม่ได้ ด้วยบางวันก็แทบจะไม่มีลูกค้าตกถึงท้อง

“ใช่แล้ว ที่พวกเรายอมมาก็เพราะเด็กคนนั้นไหว้วานมาหรอกนะ” หญิงคณิกาชุดส้มชี้ไปทางด้านเด็กสาวรับใช้ นางแค่มาให้เด็กคนนั้นสมใจอีกประเดี๋ยวก็จะกลับไปทำงาน มิได้จะมาซื้อของอะไรพวกนั้นแต่แรก

“ขอบคุณพี่สาวที่อุตส่าห์มาเจ้าค่ะ รับรองราคาไม่แพงแถมคุณภาพดีกว่าที่พวกท่านซื้อตามท้องตลาดแน่นอน ข้ายังมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกแถมคอร์สแต่งหน้าให้โดยไม่คิดเงินด้วยเจ้าค่ะ แต่ถ้ายังไม่สนใจซื้อก็ไม่เป็นไร แค่พี่สาวทั้งหลายยอมเสียเวลามาข้าก็ดีใจแล้วเจ้าค่ะ”

“คะ คอ คอด อะไรของเจ้าข้าไม่เคยได้ยิน พูดจาไม่รู้เรื่องเช่นนี้ข้าว่านางพูดมั่ว ๆ ชวนให้งงคิดจะหลอกพวกเราแล้วกระมัง” สตรีชุดแดงถึงกับหันไปถามสาวใช้ตัวดี มิรู้ว่าให้พวกนางมาพบใคร พูดจาก็ไม่รู้เรื่องเช่นนี้เป็นสตรีบ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ เสียเวลาทำมาหากินเสียจริง

“ข้าหมายถึงสอนวิธีแต่งหน้าเจ้าค่ะ” ไป๋เหลียนถึงกับต้องรีบอธิบายให้เข้าใจ เกรงว่าจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ นางเองก็ลืมไปว่าที่นี่ไม่ใช่โลกเดิมที่จะใช้คำสมัยใหม่ กระนั้นถึงจะบอกว่าจะสอนวิธีแต่งหน้านางเองก็ไม่เก่งเสียด้วย อย่างไรเสียก็พูดไปแล้วค่อยมาวัดผลเอาตอนสุดท้ายก็แล้วกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   26: เลิกกั๊ก...ก่อนนะเตง [2]

    “ท่าน ท่านแม่ทัพเป็นอะไรหรือไม่” หญิงสาวจับร่างแม่ทัพหนุ่มเขย่าเพื่อให้รู้สึกตัว ทว่าเขากลับนอนนิ่งไม่ไหวติง นางจึงดันกายหนาออกให้พ้นกาย ก่อนที่ร่างคนไม่ได้สติจะร่วงลงไปนอนอีกทางหญิงสาวถึงกับถอนหายใจ เมื่อชุดที่เขาใส่มานั้นมีรอยเลือดซึมออกมา หากให้เดาก็คงจะแค้นกันมากถึงกับไม่รอให้ร่างกายหายดี ดั้นด้นตามสืบเสาะหานางเจอจนได้สินาคราแรกก็ตั้งใจจะไม่เหลียวแลหันหลังหนี ทว่าเห็นสภาพเขาแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ทั้งยังเป็นคนที่นางตั้งใจจะมาหาเขาถึงที่นี่ ติ่งอย่างนางจะปล่อยไว้เช่นนั้นได้อย่างไร“เอาวะ ช่วยก็ช่วย”เมื่อสมองพ่ายแพ้ให้กับความต้องการก็จำต้องหันหลังกลับ จัดแจงให้คนเจ็บได้นอนในท่วงท่าที่สบาย จึงพบว่าอีกฝ่ายกำลังมีไข้อ่อน ๆ รวมไปถึงบาดแผลบางส่วนได้ปริแตกมีเลือดซึมออกมาไม่น้อยร่างบางออกไปตักน้ำใส่กะละมังเล็ก จากนั้นได้กลับมาพร้อมกับกะละมังและผ้าเช็ดตัวผืนน้อย แล้วจัดถอดชุดของหลี่มู่กวาออกเพื่อจะได้เช็ดตัวและทำแผลเสียใหม่ แผลของเขายังไม่หายดีนักนั่นจึงเป็นสาเหตุให้เขายังคงมีไข้เพราะพิษบาดแผล การทำแผลและทายานั้นไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้ ทว่าปัญหาใหญ่ก็คือจะทำอย่างไรถึงจะป้อนยาให้คนที่ไม่มีสติได

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   25: เลิกกั๊ก...ก่อนนะเตง [1]

    ไป๋เหลียนถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อวิ่งมาถึงสะพานข้ามลำธาร เหลือแค่ข้ามสะพานนี้ไปก็เท่ากับนางเข้าเขตหมู่บ้าน ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายจากความกลัวได้ไม่น้อย ระหว่างเดินกลับบ้านก็เอาแต่คำนวณเงินค่าสมุนไพร จะดีแค่ไหนถ้าหาเงินได้หลายสิบตำลึงภายในหนึ่งวันหญ้าสมุนไพรเก็บได้มาประมาณหนึ่งกระสอบเห็นจะได้ น้ำหนักก็คงจะประมาณสิบชั่ง ชั่งละห้าร้อยอีแปะก็เท่ากับนางจะได้ห้าตำลึงเงินเชียวนะ เช่นนั้นหากนางเก็บมาขายอีกเรื่อย ๆ ก็มีเงินเก็บพอย้ายที่อยู่ได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงสามเดือนเมื่อพูดถึงเรื่องเงินที่จะได้ก็ทำเอาหญิงสาวอารมณ์ดียิ้มไม่หุบ ไป๋เหลียนกระโดดโลดเต้นพร้อมกับร้องเพลงเพิ่มจังหวะไปด้วย ไม่สนใจสายตาชาวบ้านที่ผ่านไปมาดูแคลนมองราวกับนางเป็นตัวประหลาด ต่อไปก็ไม่ต้องรอความตายแล้ว อย่าว่าแต่มีเงินหนีเลยในอนาคตนางก็จะร่ำรวยอยู่อย่างสุขสบายไปทั้งชาติบางช่วงบางตอนไป๋เหลียนหยุดออกวาดลวดลายเต้นไปกับบทเพลง ทั้งโยกทั้งเลื้อยอย่างไม่รู้จักเหนียมอาย กลับมาถึงบ้านได้ก็รีบวางกระบุงเก็บเข้าที่ก่อนจะฮัมเพลงเดินเข้าห้องนอน นางเหนียวตัวจะแย่อยากจะรีบหยิบผ้าเช็ดตัว ได้อาบน้ำแล้วนอนหลับสักงีบก็คงจะดี“เลิกกั๊

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   24: หาสมุนไพร [2]

    หญิงสาวมองรอบป่าไผ่ไปสุดลูกหูลูกตา หน่อไม้ที่นี่มิได้เกิดขึ้นใกล้กอของมันเลย ทว่ามันกลับผุดขึ้นบนพื้นดินแพร่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณยามเห็นของกินก็ดันอดใจไม่ได้เป็นต้องปรี่เข้าไปเก็บ ถึงตอนนี้คิดไม่ออกจะเอาไปทำอะไรมากมาย ทว่านิสัยเสียดายของแก้ไม่หายสักที เก็บไว้ก่อนอย่างไรอยู่ในมิติวิเศษก็ไม่มีเน่าเสียมันต้องได้ใช้ประโยชน์ได้สักวัน“เงินทั้งนั้นเก็บไปก่อนดีกว่า”ทว่ายิ่งเก็บก็ยิ่งสนุกหน่อไม้ทั้งอ่อนและกรอบ ครู่เดียวก็ได้หน่อไม้กองโต หญิงสาวจัดการเก็บหน่อไม้ทั้งหมดเข้ามิติวิเศษ ก่อนจะออกเดินทางไปที่ลำธารหาสมุนไพรต่อเมื่อมาถึงจุดหมายไป๋เหลียนจึงได้มองหาหญ้าสมุนไพร กวาดตามองเพียงครู่ก็พบเข้ากับกลุ่มหญ้าเป้าหมาย ร่างบางนั่งลงพร้อมกับบรรจงถอนสมุนไพรที่เกิดปะปนกับหญ้าพิษและหญ้าชนิดอื่น ๆ โชคดีนักที่นางมีความสามารถพิเศษสามารถแยกแยะได้ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่แคล้วจะถอนผิดต้นเช่นกัน ด้วยหน้าตาสมุนไพรมิได้ต่างจากหญ้าทั่วไปมากนัก“เอ๊ะ ต้นอะไรน่ะ อย่างไรก็เป็นสมุนไพร เก็บไปก่อนประเดี๋ยวค่อยไปถามเถ้าแก่ป่าย” ตนหรือก็นึกว่าเป็นต้นผักชีล้อม คราแรกนึกว่าเป็นผักธรรมดาเสียอีกพอเห็นใกล้ ๆ กลับเป็นสมุนไพรเสี

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   23: หาสมุนไพร [1]

    หลังจากวันก่อนทำเงินจากการขายเครื่องสำอางได้ไม่น้อย คราวนี้ก็ได้เวลาต้องไปเก็บสมุนไพรส่งเถ้าแก่ป่าย ไป๋เหลียนเตรียมตัวเข้าป่าแต่เช้าตรู่ เวลาเหลือน้อยเข้าทุกทีนางจำต้องรีบหาเงินให้ได้มากที่สุด ร่างบางสะพายกระบุงขึ้นหลัง ปิดประตูรั้วบ้านให้แน่นหนา แล้วออกจากบ้านเดินทางเข้าป่าอย่างอารมณ์ดีไม่ให้อารมณ์ดีได้อย่างไร ในเมื่อนางสามารถทำให้คู่รักบ้านแตกได้สำเร็จ ข่าวเรื่องซูหนี่อึราดเหม็นหึ่งแพร่ไปทั่วหมู่บ้าน ผลจากการถูกล้อเลียนไม่หยุดหย่อน ทำให้วันต่อมาติงเฉิงประกาศขอยกเลิกการหมั้นทันที ด้วยรู้สึกอับอายเกินกว่าจะทนคบหาต่อไปได้อีก สองครอบครัวจึงแตกหักกันอย่างไม่สามารถต่อได้ติด ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเสียนี่กระไรทว่าอารมณ์ดีได้ไม่นานก็ต้องพบกับเรื่องน่ารำคาญใจ เมื่อนางเหลียงซูตั้งใจเข้ามาหาเรื่อง พาลใส่ทั้งที่ไป๋เหลียนยังไม่ทันจะได้ทำอะไรด้วยซ้ำ“ก็เหมาะสมกันดีนี่ มิน่าเล่าถึงได้ตัดกันไม่ขาดเสียที ที่แท้ก็เป็นคนประเภทเดียวกัน ดีนะลูกข้าเป็นคนดีสวรรค์ถึงได้คุ้มครองช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ส่วนสิ่งอัปมงคลก็สมควรแล้วที่จะอยู่ด้วยกัน เอ๊ะ! อะไรของเจ้าแม่พูดความจริง” นางเหลียงซูหิ้วตะกร้า

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   22: ธุรกิจความงาม [3]

    “แม่ค้าเจ้าชื่ออะไรหรือ ข้านามอวิ๋นซี แล้วเครื่องประทินผิวพวกนั้นเจ้าขายชิ้นละเท่าไร ไอ้ชอบข้าก็ชอบแต่เงินข้าไม่มีเยอะน่ะสิ” สตรีชุดแดงลดความหยิ่งยโสไปกว่าครึ่งพร้อมกับแนะนำตัวก่อนใคร ความจริงแล้วนางอยากได้ไว้ทั้งหมด ทว่าตำลึงเงินที่มีก็มิได้มากนัก เสียดายคงไม่สามารถซื้อได้ตามต้องการ“ข้านามจูถิง” สตรีชุดเขียวแนะนำตัวเป็นคนต่อไป นางติดใจแป้งผัดหน้ายิ่งนัก เนื้อละเอียดถูกใจเมื่อทาบนใบหน้ากลับดูกลืนไปกับผิว ไม่วอกไม่ลอกเหมือนอันเดิมที่เคยใช้“ส่วนข้านามลู่ฮวา” สตรีชุดส้มแนะนำตัวเป็นคนสุดท้าย ส่วนนางนั้นชอบดินสอเขียนคิ้ว ทั้งยังเพิ่งจะรู้ว่าของสิ่งนี้มิได้มีเพียงแค่สีดำเพียงอย่างเดียว ยังมีสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม หากเลือกใช้สีที่เข้ากับตัวเพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ใบหน้าเปลี่ยนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ“ข้าชื่อไป๋เหลียนเจ้าค่ะ ข้าขายให้พวกท่านไม่แพง ถือเสียว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราซื้อขายกัน ของทุกอย่างข้าขายให้พี่สาวชิ้นละร้อยอีแปะ นี่ข้าก็ขายขาดทุนมากแล้วนะเจ้าคะ ความจริงแล้วราคาเครื่องประทินผิวพวกนี้ข้าต้องขายชิ้นละหนึ่งตำลึง พี่สาวทั้งสามเป็นลูกค้าคนแรกข้าขายให้ถูกกว่าราคาทุน แต่ครั้งหน้าไ

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   21: ธุรกิจความงาม [2]

    “เจ้าเนี่ยนะ จะมาสอนพวกข้าแต่งหน้า” สตรีชุดเขียวมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะเดินสำรวจสตรีตรงหน้าอย่างตั้งใจ หน้าตาหรือก็จืดชืดแทบจะไม่แต่งแต้มอันใดบนใบหน้าเช่นนี้ จะสอนแต่งหน้าเป็นหรือ“ข้าว่ามีอะไรมาขายก็รีบ ๆ เอาออกมาเถอะ ประเดี๋ยวต้องไปทำงานแล้วไม่มีเวลามาฟังเจ้าพูดได้ทั้งวันหรอกนะ” สตรีชุดส้มกล่าวเตือนไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ นางไม่ได้ลูกค้าสามวันติดแล้ว หากวันนี้พลาดอีกเบี้ยเดือนนี้ไม่พอใช้เป็นแน่คนทั้งสามต่างก็เห็นพ้องต้องกัน พวกนางจะมาเสียเวลาไปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ยังแต่งหน้าแต่งตัวไม่เสร็จเสียด้วยซ้ำ ออกไปรับแขกไม่ทันกันพอดีหญิงสาวเห็นดังนั้นจึงล้วงเอาเครื่องสำอางในกระเป๋าออกมาวางเรียงรายบนโต๊ะ ของที่นำมาขายวันนี้ก็มีหลายอย่างเช่น ดินสอเขียนคิ้ว รองพื้น แป้งพับ แป้งฝุ่น ลิปสติก มาสคาร่า อายแชโดว์ แต่ละอย่างมิใช่แค่แบบเดียว ไป๋เหลียนนำออกมานำเสนอแทบจะทุกเฉดสีที่คิดว่าเข้ากับสตรีทั้งสาม“วันนี้เห็นว่าพวกพี่สาวรีบ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาข้าจะแต่งหน้าให้พวกท่านทุกคนและสอนไปด้วยเจ้าค่ะ ผู้ใดจะลองก่อนเจ้าคะ”“เช่นนั้นข้าขอก่อนแล้วกัน อย่างไรเสียข้าทำผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status