Share

ตกใจแทบตาย

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-08-17 02:03:01

“หึ เพียงแค่นี้พวกเจ้ายังหวาดกลัวจนเสียขวัญ แล้วต่อไปจะคุ้มครองนายหญิงได้อย่างไร” มันเอ่ยเสียงเย็นออกมาอย่างเหยียดหยาม

เยี่ยนอิงได้แต่ส่ายหัว มันคิดว่ามันเป็นแมวหรืออย่างไร มีผู้ใดบ้างที่ไม่กลัวเสือ อีกทั้งเสือที่พูดได้ แล้วยังตัวใหญ่กว่าเสือที่นางเคยพบเจอมาเสียด้วย

“ต่อไปนี้ พวกเจ้าต้องมาฝึกวรยุทธ์กับข้าทุกวัน ต้องตื่นยามอิ๋น (03.00-04.59 น.) เข้าใจหรือไม่” มันกดเสียงต่ำอย่างข่มขู่

“ขะ เข้าใจขอรับ” เสี่ยวชีเอ่ยเสียงสั่นด้วยความกลัว

ใบหน้าของเสี่ยวไป๋ที่กำลังแยกเขี้ยวขาว อยู่ห่างจากหน้าของเสี่ยวชีเพียงไม่กี่ชุ่น ต่อให้คนใจกล้าแค่ไหน ก็ต้องกลัวจนฉี่แทบราดอยู่ดี

“พอแล้วเสี่ยวไป๋ พวกเจ้าไปพักก่อนเถิด ยังต้องตื่นยามอิ๋นมาฝึกวรยุทธ์อีก หากมาสายระวังเสี่ยวไป๋จะเข้าไปกัดคอพวกเจ้าถึงในเรือน” เยี่ยนอิงเอ่ยข่มขู่อย่างขบขัน ก่อนจะลุกกลับไปที่เรือนของตนเอง

โดยมีซานเซินแล้วเสี่ยวไป๋เดินตามหลังนางไปด้วย กว่าคนทั้งห้าจะเรียกสติกลับมาได้ ก็กินเวลาอยู่หลายอึดใจ ต่างก็รีบร้อนกลับไปเข้าที่พักของตนอย่างรวดเร็ว

กลัวว่าหากรั้งอยู่นานกว่านี้ เสี่ยวไป๋คงได้กินพวกเขาทั้งห้าเป็นของหวานหลังอาหารมื้อเย็นเป็นแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   เจ้าต้องฝึกหนักกว่าผู้อื่น

    เยี่ยนอิงเห็นแววตาที่กังวลของซานเซิน จึงคิดว่าเขาห่วงเรื่องภาพลักษณ์ของตนเอง นางถึงได้เอ่ยออกมา“ข้าจะไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้เป็นอันขาดว่าหอเหว่ยซินเป็นการค้าของเราสองพี่น้อง เจ้าวางใจได้”“ต่อให้ผู้อื่นรู้ข้าก็ไม่กลัวว่าจะถูกมองเช่นใด เพียงแต่ว่า...ท่านเป็นสตรีต่อไปท่านจะต้องออกเรือน หากบ้านสามีรู้เข้าจะรังเกียจท่านรึไม่ หากท่านโดนรังแกข้าจะทำเช่นไร” ซานเซินเป็นห่วงพี่สาวเสียมากกว่า“หึหึ เจ้าคิดรึว่าข้าจะยอมให้ผู้ใดรังเกียจหรือรังแกข้าได้ เจ้าห่วงว่าข้าจะไปรังแกผู้ใดเถิด” เยี่ยนอิงอมยิ้มมองซานเซินอย่างแฝงไปด้วยความหมายตัวนางในตอนนี้กลายเป็นผู้ฝึกตนไปแล้ว แม้จะเป็นเพียงแค่เริ่มต้นก็ตาม แต่ต่อไปเล่า เรื่องความเก่งกาจของนางยังจะต้องกลัวว่าจะมีผู้ใดคิดรังแกอีกรึ“ไว้ข้าโตอีกหน่อย ข้าจะออกหน้าแทนท่านเอง”“เหอะ เจ้าตั้งใจเรียนไปเลย ข้าอยากได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวของเสนาบดี เจ้าทำให้พี่ได้หรือไม่เล่า” เยี่ยนอิงมองน้องชายอย่างหยอกล้อ“ข้าเพิ่งเข้าเรียนได้วันเดียว ท่านก็คาดหวังเสียสูงเช่นนี้” ซานเซินถอนหายใจออกมาแต่ภายภาคหน้าเรื่องที่สองพี่น้องหยอกล้อกันผู้ใดจะคิดว่าเป็นจริง เมื่อซานเซินกลายเป็นเสน

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   คนออกหน้าแทน

    เยี่ยนอิงอยู่ภายในห้องร่างแบบข้าวของอยู่นาน จนลุงอีกับเสี่ยวไป๋ซื้อคนพากลับมาที่เรือน อิงฮวาจึงได้มาตามนางออกไปเพื่อตรวจดู“อืม...ใช้ได้” บุรุษวัยกลางคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเยี่ยนอิง รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันแต่ก็แฝงไปด้วยอำนาจในตัวหากนางไม่รู้ว่าการว่าคนผู้นี้ทำงานเป็นทาสเลี้ยงม้าอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น ถูกขายทิ้งออกมาอยู่ถึงชายแดนเหนือนางคงไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นเพียงทาสอย่างแน่นอนด้านข้างของเขายังมีสตรีรูปร่างซูบผอม ทั้งบริเวณใบหน้าของนางยังมีแผลเป็นขนาดถึงสามชุ่นอยู่ที่แก้มข้างขวา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความงามของนางลดลงไปแม้แต่น้อย“พวกเจ้ามีนามว่าอันใด” เยี่ยนอิงเอ่ยถามเสียงเรียบ“ข้าน้อยไม่มีนามเป็นของตนเอง อยู่กับนายคนเก่าถูกเรียกว่าโก่วต้าขอรับ”“ข้าน้อยหรูหลัน เดิมเป็นนางคณิกาอยู่ที่หอเลี่ยงซิน แต่ถูกซื้อตัวไป รอยแผลที่เห็นบนใบหน้าของข้าน้อยเป็นฮูหยินของท่านใต้เท้าลงโทษ นางคงคิดว่าข้าน้อยใกล้สิ้นใจแล้วจึงได้ขายทิ้งออกมาเจ้าค่ะ” แววตาของนางเผยความเกลียดชังออกมาวูบหนึ่ง เมื่อนึกถึงผู้ที่ทิ้งรอยแผลไว้บนใบหน้าของนาง“โก่วต้า ข้าจะเปลี่ยนชื่อให้เจ้าใหม่ หรูหลันเจ้าอยากใช้น

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ตกใจแทบตาย

    “หึ เพียงแค่นี้พวกเจ้ายังหวาดกลัวจนเสียขวัญ แล้วต่อไปจะคุ้มครองนายหญิงได้อย่างไร” มันเอ่ยเสียงเย็นออกมาอย่างเหยียดหยามเยี่ยนอิงได้แต่ส่ายหัว มันคิดว่ามันเป็นแมวหรืออย่างไร มีผู้ใดบ้างที่ไม่กลัวเสือ อีกทั้งเสือที่พูดได้ แล้วยังตัวใหญ่กว่าเสือที่นางเคยพบเจอมาเสียด้วย“ต่อไปนี้ พวกเจ้าต้องมาฝึกวรยุทธ์กับข้าทุกวัน ต้องตื่นยามอิ๋น (03.00-04.59 น.) เข้าใจหรือไม่” มันกดเสียงต่ำอย่างข่มขู่“ขะ เข้าใจขอรับ” เสี่ยวชีเอ่ยเสียงสั่นด้วยความกลัวใบหน้าของเสี่ยวไป๋ที่กำลังแยกเขี้ยวขาว อยู่ห่างจากหน้าของเสี่ยวชีเพียงไม่กี่ชุ่น ต่อให้คนใจกล้าแค่ไหน ก็ต้องกลัวจนฉี่แทบราดอยู่ดี“พอแล้วเสี่ยวไป๋ พวกเจ้าไปพักก่อนเถิด ยังต้องตื่นยามอิ๋นมาฝึกวรยุทธ์อีก หากมาสายระวังเสี่ยวไป๋จะเข้าไปกัดคอพวกเจ้าถึงในเรือน” เยี่ยนอิงเอ่ยข่มขู่อย่างขบขัน ก่อนจะลุกกลับไปที่เรือนของตนเองโดยมีซานเซินแล้วเสี่ยวไป๋เดินตามหลังนางไปด้วย กว่าคนทั้งห้าจะเรียกสติกลับมาได้ ก็กินเวลาอยู่หลายอึดใจ ต่างก็รีบร้อนกลับไปเข้าที่พักของตนอย่างรวดเร็วกลัวว่าหากรั้งอยู่นานกว่านี้ เสี่ยวไป๋คงได้กินพวกเขาทั้งห้าเป็นของหวานหลังอาหารมื้อเย็นเป็นแน่

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   มันคือหอนางโลมเก่า

    ในเมื่อหมดเรื่องที่จะสนทนาแล้ว หลิวเพ่ยหมินจำต้องเดินทางกลับไปที่จวนของเขา พร้อมกับโสมพันปีในมือสองหัวเยี่ยนอิงเมื่อส่งหลิวเพ่ยหมินกลับไปแล้ว นางก็เรียกป้าเหลียนมาสั่งความเรื่องให้นางทำอาหารมากเสียหน่อย“ป้าเหลียนวันนี้ทำอาหารมากเสียหน่อย ส่วนที่ท่านทำให้ข้ากับเซินเออร์ ก็ทำให้ทุกคนในจวนเหมือนกันไปเลย ข้าไม่หวงเรื่องกิน เรื่องอยู่” นางไม่สนใจว่าผู้เป็นนายต้องกินแต่ของดี ส่วนบ่าวจะต้องกินของเหลือจากผู้เป็นนายเท่านั้นในเมื่อเป็นมนุษย์เช่นกัน ทุกคนที่นางรับมาอยู่ด้วยมีสิทธิ์ที่จะกินดื่มเหมือนกับนางและน้องชาย หากพวกเขาซื่อสัตย์ต่อนางอย่างแท้จริง“ได้เจ้าค่ะ” ป้าเหลียนรับคำอย่างยินดี ก่อนจะออกไปจัดการทำอาหารให้เยี่ยนอิงมื้อเย็นในจวนตระกูลฟู่ ทั้งนายและบ่าวต่างนั่งร่วมกินอาหารด้วยกันอย่างสนุกสนาน ซานเซินฉีกยิ้มกว้างตลอดมื้ออาหาร เมื่อทุกคนต่างร่วมยินดีกับเขาด้วย“หากพวกท่านยังไม่หยุดชมข้า เท้าของข้าคงไม่ติดพื้นแล้วขอรับ” ซานเซินเกาหัวอย่างเขินอาย เขาเคยได้รับคำชื่นชมเช่นนี้เสียที่ไหน“หึหึ น้องชายข้าหน้าแดงหมดแล้ว พวกท่านที่เคยเป็นผู้คุ้มกันมาก่อน หากกินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้ามีเรื่อ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   มาให้โดนรีดไถ

    บัณฑิตไม่น้อยที่สนใจอยากจะรู้ว่าสตรีหน้าห้องอาจารย์หานเป็นผู้ใด แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ขวางทางเอาไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ตำแหน่งที่เยี่ยนอิงนั่งอยู่จะโทษนางก็ไม่ได้ที่ออกมานั่งล่อลวงบุรุษเช่นนี้ ด้วยอาจารย์หานกำลังทดสอบความรู้ของซานเซินอยู่ อีกทั้งนางก็ไม่ได้เดินเพ่นพ่านหรือส่งสายตายั่วยวนบัณฑิตเสียหน่อย“แม่นาง เชิญด้านในได้แล้วขอรับ” เจ้าหน้าที่มาเชิญเยี่ยนอิงให้เข้าไปในห้องอาจารย์หาน เมื่อการทดสอบของซานเซินเสร็จลงพอนางเข้าไปด้านในก็รู้ได้ทันทีว่าซานเซินคงได้เข้าเรียนอย่างแน่นอน ด้วยใบหน้าที่ฉีกยิ้มกว้างของเขา และแววตาของอาจารย์หานที่มองซานเซินอย่างพอใจ“ข้ารับน้องชายเจ้าเข้าเรียน อีกประเดี๋ยวเจ้าตามเจ้าหน้าที่ไปจ่ายค่าเรียนของปีนี้ ส่วนเรื่องตำราเครื่องเขียนเจ้าจะรีบของสำนักศึกษาหรือว่าจะจัดหามาเอง”“รับของที่สำนักศึกษาเลยเจ้าค่ะ”“แล้วจะพักอยู่ในสำนักศึกษาหรือไม่”เยี่ยนอิงหันไปเลิกคิ้วขอความเห็นจากซานเซิน“ศิษย์จะเดินทางไปกลับขอรับ จวนของศิษย์อยู่ห่างจากสำนักศึกษาเดินเท้าเพียงหนึ่งเค่อเท่านั้นขอรับ” ซานเซินเอ่ยตัดสินใจเอง“เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า พรุ่งนี้ก็มาเรียนได้เลย” อาจารย์หานพยักหน้าร

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   พาซานเซินไปสมัครเรียน

    พอรุ่งเช้า สองพี่น้องจัดการกินมื้อเช้าในมิติ ก่อนจะออกมาด้านนอก เจ้าหน้าที่ว่าการก็พาทาสทั้งยี่สิบคนมาที่จวนของนางพอดี“พวกเจ้ามีชื่อแซ่กันหรือไม่” นางเอ่ยถาม เมื่อคนทั้งยี่สิบมานั่งอยู่ตรงหน้าของนางภายในห้องโถงมีเพียงไม่กี่คนที่มีชื่อแซ่ของตนเอง คือกลุ่มบุรุษห้าคนที่เคยอยู่ในสำนักคุ้มกันภัยมาก่อน แต่ด้วยถูกใส่ร้ายจากผู้คุ้มกันในสำนักเดียวกัน ทำให้ทั้งห้าถูกขายออกมาเป็นทาส“เช่นนั้น ข้าจะให้พวกเจ้าใช้แซ่ฟู่ของข้า คนที่เหลือก็เช่นกัน นามเดิมก็ลืมไปเสีย ต่อไปข้าจะเรียกตามลำดับ อี เอ้อ อู๋...ก็แล้วกัน” นางชี้นิ้วไปตามลำดับอาวุโส ทำเช่นนี้นางจะจดจำได้ง่ายกว่า หากต้องคอยจำชื่อคนทั้งหมด“ขอรับ” บุรุษทั้งสิบสองคนต่างตอบรับคำของเยี่ยนอิง แม้นางจะเป็นเพียงแม่นางน้อย แต่อำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวก็กดข่มพวกเขาเอาไว้ได้อย่างดี“ส่วนพวกเจ้า...” นางชี้มือไปที่สตรีทั้งแปดคน ก่อนจะถอนหายใจออกมา นางไม่ชื่นชอบการตั้งชื่อให้ผู้ใดเลย“นายหญิง ท่านเรียกพวกนางตามชื่อดอกไม้ดีหรือไม่” เสี่ยวไป๋เอ่ยออกมาการที่มันเอ่ยออกมาเช่นนี้ ทำให้ทาสทั้งยี่สิบคนตื่นตระหนกไม่น้อย สตรีทั้งแปดเกือบจะกรีดร้องออกมา ยังดีที่พวกนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status