Home / รักโบราณ / ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน / ยอมขายให้ครั้งสุดท้าย

Share

ยอมขายให้ครั้งสุดท้าย

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-08-19 05:32:08

เมื่อนางหลับตาเข้าสมาธิ เสี่ยวไป๋มันก็วางอุ้งเท้าลงที่มือของเยี่ยนอิงที่วางอยู่บนหน้าขาของนาง ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยพลังปราณในตัวช่วยเร่งจุดตันเถียนที่ไม่ยอมเคลื่อนไหวอีกสี่จุดที่เหลือให้เคลื่อนที่เร็วขึ้น

เยี่ยนอิงเพ่งจิตไปที่จุดสีขาวทั้งห้าที่อยู่ภายในร่างกายของนาง ก่อนจะรวบรวมพลังปราณที่มีอยู่ในร่างกายทำให้จุดทั้งห้าเคลื่อนที่เข้าหากัน เมื่อมีเสี่ยวไป๋คอยปล่อยพลังปราณของมันอยู่ด้านข้าง

เรื่องทำให้จุดตันเถียนทั้งห้าไหลมารวมตัวกันก็ง่ายขึ้น เยี่ยนอิงไม่คิดว่าการดึงจุดตันเถียนทั้งห้าเข้ามารวมกันจะใช้เวลาจนเกือบจะถึงยามอิ๋นเลย ความรู้สึกของนางเหมือนเพียงจะผ่านมาได้เพียงสองชั่วยามเท่านั้น

“ผ่านไปเร็วนัก” เยี่ยนอิงบิดขี้เกียจตามความเคยชิน

“นายหญิง ท่านคงไม่รู้ว่าเวลาภายในมิติเดินเร็วกว่าด้านนอกมากนัก ด้านนอกหนึ่งวัน ภายในมิติก็ผ่านมาได้ห้าวันแล้ว”

“ห๊ะ!!! ข้านั่งนิ่งๆ เช่นนี้ทุกวันได้นานเพียงนั้นเลยรึ” เยี่ยนอิงร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ขอรับ” ที่เสี่ยวไป๋ไม่ได้บอก ก็ด้วยรู้ว่าเยี่ยนอิงจะต้องตกใจเช่นนี้

“ข้าก็คิดว่าเหตุใดถึงได้ดึงจุดตันเถียนได้เร็วนัก” ในตำราที่นางได้รับมาจากเสี่ยวไป๋

ผู้ฝึกตนแต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   เลื่อนได้ถึงสองขั้นเลยรึ

    พอถึงช่วงมื้อเย็น ป้าเหลียนกับอิงฮวาที่ไปรอเยี่ยนอิงอยู่หน้าห้องไม่เห็นนางจะออกมาสักที จึงได้เดินมาขอร้องเสี่ยวไป๋ให้เข้าไปตามเยี่ยนอิงนางออกมารับมื้อเย็น“นายหญิงจะไม่ออกมาจากห้องหลายวันหน่อย พวกเจ้ามิต้องเป็นห่วงนาง ข้าจะดูแลนางเอง ส่วนเรื่องภายในจวน พวกเจ้าก็จัดการไปตามเดิมที่นายหญิงเคยสั่งความไว้”“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” ป้าเหลียนพยักหน้าแล้วเดินไปบอกความกับลุงอีที่กำลังรอรายงานเรื่องปรับปรุงหอเหว่ยซินอยู่เสี่ยวไป๋จึงได้เรียกให้ป้าเหลียนและลุงอีตามมันเข้ามาภายในห้องโถง แล้วให้คนอื่นรออยู่ด้านนอกก่อน ด้านในห้องจึงมีแค่เสี่ยวไป๋ ซานเซิน ลุงอีและป้าเหลียนเท่านั้น“ลุงอี หากมีปัญหาปรับปรุงร้าน เจ้านำความมาบอกข้า ตอนนี้นายหญิงเก็บตัวเพื่อเลื่อนขั้นนางจะไม่ออกมาจากห้องจนกว่าจะแล้วเสร็จ”“เอ่อ...เลื่อนขั้น คุณหนูเหตุใดต้องเลื่อนขั้นขอรับ” ลุงอีที่เคยได้ยินเพียงขุนนางเท่านั้นที่จะเลื่อนขั้นได้ ยังไม่เคยได้ยินว่ามีงานอื่นที่สามารถเลื่อนขั้นได้มาก่อน จึงได้ถามเสี่ยวไป๋ออกมา“นายหญิง นางเป็นผู้ฝึกตน เรื่องนี้เจ้าควรจะรู้ไว้ นางคงจะต้องหายไปเก็บตัวบ่อย ต่อไปพวกเจ้าจะได้ไม่ถามให้มากความ”“ผู้ฝึกต

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ไม่นับว่าเป็นบุญคุณ

    หลิวเพ่ยหมินมองโสมในมือด้วยความตกตะลึง ไม่รู้ว่าตอนที่เยี่ยนอิงนางพบโสม นางใช้วิธีใดในการเก็บ โสมทุกหัวที่นางนำมาขายล้วนแต่เก็บรักษาได้เป็นอย่างดี ทั้งยังดูสมบูรณ์อย่างไร้ที่ติ จนเขาไม่อยากจะมอบให้สหายเสียแล้ว“ขอบคุณเจ้ามาก บุญคุณของเจ้าครั้งนี้ ข้าจะให้สหายมาขอบคุณเจ้าอีกครั้ง” เขายื่นตั๋วเงินห้าพันห้าร้อยตำลึงทองให้นาง“มิได้เจ้าค่ะ เป็นการทำการค้า ในเมื่อทำการแลกเปลี่ยนตามความพึงพอใจแล้ว ไม่นับว่าเป็นบุญคุณอันใดต่อกัน แต่ข้าก็คงจะช่วยเหลือท่านได้เพียงครั้งนี้ครั้งสุดท้ายเจ้าค่ะ” เยี่ยนอิงยังย้ำเรื่องที่นางไม่มีโสมขายให้หลิวเพ่ยหมินอีกแล้ว“ได้ ๆ ข้าเข้าใจแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องขอบคุณเจ้าอีกครั้ง อ้อ...เจ้าคิดจะทำสิ่งใด ถึงได้ซื้อทาสมามากเช่นนี้”หลิวเพ่ยหมินเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามาในจวนของนางครั้งนี้ ก็เห็นทาสที่นางซื้อมาใช้งานมากเกินกว่าห้าสิบคนแล้ว“ข้าคิดจะทำการค้าเจ้าค่ะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใด เพียงแค่ซื้อคนเข้ามาช่วยออกความคิดก่อน” เยี่ยนอิงยิ้มน้อยๆ อย่างมีมารยาท นางไม่ถือสาเรื่องที่หลิวเพ่ยหมินยุ่งเรื่องในจวนของนางหากเป็นนางไปจวนผู้อื่น ที่มีเจ้

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ยอมขายให้ครั้งสุดท้าย

    เมื่อนางหลับตาเข้าสมาธิ เสี่ยวไป๋มันก็วางอุ้งเท้าลงที่มือของเยี่ยนอิงที่วางอยู่บนหน้าขาของนาง ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยพลังปราณในตัวช่วยเร่งจุดตันเถียนที่ไม่ยอมเคลื่อนไหวอีกสี่จุดที่เหลือให้เคลื่อนที่เร็วขึ้นเยี่ยนอิงเพ่งจิตไปที่จุดสีขาวทั้งห้าที่อยู่ภายในร่างกายของนาง ก่อนจะรวบรวมพลังปราณที่มีอยู่ในร่างกายทำให้จุดทั้งห้าเคลื่อนที่เข้าหากัน เมื่อมีเสี่ยวไป๋คอยปล่อยพลังปราณของมันอยู่ด้านข้างเรื่องทำให้จุดตันเถียนทั้งห้าไหลมารวมตัวกันก็ง่ายขึ้น เยี่ยนอิงไม่คิดว่าการดึงจุดตันเถียนทั้งห้าเข้ามารวมกันจะใช้เวลาจนเกือบจะถึงยามอิ๋นเลย ความรู้สึกของนางเหมือนเพียงจะผ่านมาได้เพียงสองชั่วยามเท่านั้น“ผ่านไปเร็วนัก” เยี่ยนอิงบิดขี้เกียจตามความเคยชิน“นายหญิง ท่านคงไม่รู้ว่าเวลาภายในมิติเดินเร็วกว่าด้านนอกมากนัก ด้านนอกหนึ่งวัน ภายในมิติก็ผ่านมาได้ห้าวันแล้ว”“ห๊ะ!!! ข้านั่งนิ่งๆ เช่นนี้ทุกวันได้นานเพียงนั้นเลยรึ” เยี่ยนอิงร้องออกมาด้วยความตกใจ“ขอรับ” ที่เสี่ยวไป๋ไม่ได้บอก ก็ด้วยรู้ว่าเยี่ยนอิงจะต้องตกใจเช่นนี้“ข้าก็คิดว่าเหตุใดถึงได้ดึงจุดตันเถียนได้เร็วนัก” ในตำราที่นางได้รับมาจากเสี่ยวไป๋ผู้ฝึกตนแต

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ซื้อคนเพิ่ม

    ลุงอีกับเสี่ยวไป๋ ไปที่ร้านทำเครื่องเรือนต่อ ร้านเครื่องเรือนเมื่อเห็นแบบร่าง ก็มีท่าทีเช่นเดียวกับนายช่างปรับปรุงร้าน เขาขอซื้อแบบร่าง โดยเครื่องเรือนทั้งหมดในหอเหว่ยซินเขาจะทำให้โดยไม่คิดเงินแม้แต่เหรียญแดงเดียว“เรื่องนี้ข้าคงต้องไปถามผู้เป็นนายเสียก่อน” ลุงอีถอนหายใจออกมา หากเขารอบคอบสักนิด คงไม่ต้องย้อนกลับไปถามเยี่ยนอิงให้เสียเวลาเมื่อนัดแนะกันได้แล้วว่าพรุ่งนี้จะกลับมาใหม่อีกครั้ง ลุงอีกับเสี่ยวไป๋จึงได้ไปที่โรงค้าทาสที่อยู่ภายในตลาดพวกเขาซื้อคนกลับมามากถึงห้าสิบห้าคน โดยแบ่งเป็นบุรุษยี่สิบคน สตรีอีกสามสิบคน สตรีทุกคนล้วนแต่ถูกคัดเลือกจากความเก่งกาจหลายๆ ด้านของนางบางคนยังเคยเป็นคณิกาอยู่ในหอนางโลมมาก่อน เสี่ยวไป๋ก็เลือกซื้อกลับมาทั้งหมด และยังหาซื้อพ่อครัวและแม่ครัวมาด้วยอีกห้าคน เพื่อนำมาฝึกทำอาหารจนถูกปากเยี่ยนอิงเสียก่อนเยี่ยนอิงที่เห็นลุงอีกับเสี่ยวไป๋ซื้อคนมามากมายก็พยักหน้าอย่างพอใจ คนที่เข้ามาใหม่ทั้งห้าสิบห้าคนต่างก็ต้องตกใจ เมื่อแรกเริ่มคนที่ซื้อพวกตนมาเป็นชายชรา แต่ยามนี้ลุงอีที่กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมแล้วเป็นเพียงบุรุษวัยกลางคนจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร“เรื่อ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   เจ้าต้องฝึกหนักกว่าผู้อื่น

    เยี่ยนอิงเห็นแววตาที่กังวลของซานเซิน จึงคิดว่าเขาห่วงเรื่องภาพลักษณ์ของตนเอง นางถึงได้เอ่ยออกมา“ข้าจะไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้เป็นอันขาดว่าหอเหว่ยซินเป็นการค้าของเราสองพี่น้อง เจ้าวางใจได้”“ต่อให้ผู้อื่นรู้ข้าก็ไม่กลัวว่าจะถูกมองเช่นใด เพียงแต่ว่า...ท่านเป็นสตรีต่อไปท่านจะต้องออกเรือน หากบ้านสามีรู้เข้าจะรังเกียจท่านรึไม่ หากท่านโดนรังแกข้าจะทำเช่นไร” ซานเซินเป็นห่วงพี่สาวเสียมากกว่า“หึหึ เจ้าคิดรึว่าข้าจะยอมให้ผู้ใดรังเกียจหรือรังแกข้าได้ เจ้าห่วงว่าข้าจะไปรังแกผู้ใดเถิด” เยี่ยนอิงอมยิ้มมองซานเซินอย่างแฝงไปด้วยความหมายตัวนางในตอนนี้กลายเป็นผู้ฝึกตนไปแล้ว แม้จะเป็นเพียงแค่เริ่มต้นก็ตาม แต่ต่อไปเล่า เรื่องความเก่งกาจของนางยังจะต้องกลัวว่าจะมีผู้ใดคิดรังแกอีกรึ“ไว้ข้าโตอีกหน่อย ข้าจะออกหน้าแทนท่านเอง”“เหอะ เจ้าตั้งใจเรียนไปเลย ข้าอยากได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวของเสนาบดี เจ้าทำให้พี่ได้หรือไม่เล่า” เยี่ยนอิงมองน้องชายอย่างหยอกล้อ“ข้าเพิ่งเข้าเรียนได้วันเดียว ท่านก็คาดหวังเสียสูงเช่นนี้” ซานเซินถอนหายใจออกมาแต่ภายภาคหน้าเรื่องที่สองพี่น้องหยอกล้อกันผู้ใดจะคิดว่าเป็นจริง เมื่อซานเซินกลายเป็นเสน

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   คนออกหน้าแทน

    เยี่ยนอิงอยู่ภายในห้องร่างแบบข้าวของอยู่นาน จนลุงอีกับเสี่ยวไป๋ซื้อคนพากลับมาที่เรือน อิงฮวาจึงได้มาตามนางออกไปเพื่อตรวจดู“อืม...ใช้ได้” บุรุษวัยกลางคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเยี่ยนอิง รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันแต่ก็แฝงไปด้วยอำนาจในตัวหากนางไม่รู้ว่าการว่าคนผู้นี้ทำงานเป็นทาสเลี้ยงม้าอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น ถูกขายทิ้งออกมาอยู่ถึงชายแดนเหนือนางคงไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นเพียงทาสอย่างแน่นอนด้านข้างของเขายังมีสตรีรูปร่างซูบผอม ทั้งบริเวณใบหน้าของนางยังมีแผลเป็นขนาดถึงสามชุ่นอยู่ที่แก้มข้างขวา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความงามของนางลดลงไปแม้แต่น้อย“พวกเจ้ามีนามว่าอันใด” เยี่ยนอิงเอ่ยถามเสียงเรียบ“ข้าน้อยไม่มีนามเป็นของตนเอง อยู่กับนายคนเก่าถูกเรียกว่าโก่วต้าขอรับ”“ข้าน้อยหรูหลัน เดิมเป็นนางคณิกาอยู่ที่หอเลี่ยงซิน แต่ถูกซื้อตัวไป รอยแผลที่เห็นบนใบหน้าของข้าน้อยเป็นฮูหยินของท่านใต้เท้าลงโทษ นางคงคิดว่าข้าน้อยใกล้สิ้นใจแล้วจึงได้ขายทิ้งออกมาเจ้าค่ะ” แววตาของนางเผยความเกลียดชังออกมาวูบหนึ่ง เมื่อนึกถึงผู้ที่ทิ้งรอยแผลไว้บนใบหน้าของนาง“โก่วต้า ข้าจะเปลี่ยนชื่อให้เจ้าใหม่ หรูหลันเจ้าอยากใช้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status