“เย่เอ๋อร์ข้าซื้อให้ เจ้าแค่รับไว้ก็พอ” หลินลู่ฉีตบบ่าเขาเบา ๆ นางหันไปทางคนงานอีกคนที่ว่างอยู่ “ข้าจำได้ว่ามีถุงเหอเปาของบุรุษอยู่ด้วย เจ้าเอาออกมาให้ข้าเลือกที”
“ได้เจ้าค่ะ” นางเดินเข้าไปเปิดตู้ลิ้นชัก นำถุงเหอเปาบุรุษที่อยู่ในนั้น ออกมาวางไว้บนชั้นให้ลูกค้าได้เลือก
“เย่เอ๋อร์ชอบใบไหนเลือกมาสักใบ ของบุรุษใช้สีเรียบ ๆ แต่เพราะเป็นของที่อยู่ในตรอกอิงฮวา จึงต้องมีดอกอิงฮวาเล็ก ๆ ปักไว้ เจ้าชอบสีไหนดำ เทา น้ำเงิน”
“ข้าชอบสีน้ำเงินเข้มอันนี้” เขาชี้ไปที่ถุงสีน้ำเงินเข้ม ปักดอกอิงฮวาสีชมพูเหลือบขาวเล็ก ๆ ไว้ เรียบง่ายแต่สวยหรู
“คิดราคารวมกันไปเลย” นางหยิบตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึง พับใส่เข้าไปด้านในถุงเหอเปาของฉีซุน
บทที่ 201 : เจ้านี่คือวุ้นอ้ายหยู่ “เย่เอ๋อร์ข้าซื้อให้ เจ้าแค่รับไว้ก็พอ” หลินลู่ฉีตบบ่าเขาเบา ๆ นางหันไปทางคนงานอีกคนที่ว่างอยู่ “ข้าจำได้ว่ามีถุงเหอเปาของบุรุษอยู่ด้วย เจ้าเอาออกมาให้ข้าเลือกที” “ได้เจ้าค่ะ” นางเดินเข้าไปเปิดตู้ลิ้นชัก นำถุงเหอเปาบุรุษที่อยู่ในนั้น ออกมาวางไว้บนชั้นให้ลูกค้าได้เลือก “เย่เอ๋อร์ชอบใบไหนเลือกมาสักใบ ของบุรุษใช้สีเรียบ ๆ แต่เพราะเป็นของที่อยู่ในตรอกอิงฮวา จึงต้องมีดอกอิงฮวาเล็ก ๆ ปักไว้ เจ้าชอบสีไหนดำ เทา น้ำเงิน” “ข้าชอบสีน้ำเงินเข้มอันนี้” เขาชี้ไปที่ถุงสีน้ำเงินเข้ม ปักดอกอิงฮวาสีชมพูเหลือบขาวเล็ก ๆ ไว้ เรียบง่ายแต่สวยหรู “คิดราคารวมกันไปเลย” นางหยิบตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึง พับใส่เข้าไปด้านในถุงเหอเปาของฉีซุน
บทที่ 200 : ได้ ๆ ขอรับ ข้าจะเกาะติดพี่สาวหลินไว้ ตรอกอิงฮวายังมีผู้คนพลุกพล่านไม่เคยเปลี่ยน ยิ่งยามนี้เข้าสู่หน้าดอกอิงฮวาบานสะพรั่ง บนต้นเต็มไปด้วยดอกสีชมพูเหลือบขาวทั่วทั้งตรอก เหล่าบัณฑิตหรือคู่รักต่างเดินทาง เข้ามาชื่นชมความงามของตรอกแห่งนี้ บางคนถึงกับเอาเก้าอี้มานั่งวาดภาพก็มี ซึ่งตรอกอิงฮวาภายหลังได้กำหนดให้เป็นถนนคนเดิน ช่วงเปิดทำการห้ามให้รถม้าวิ่งเข้าออกในตรอกแห่งนี้ หลินลู่ฉีได้ซื้อที่ดินในตรอกด้านข้าง สร้างเป็นลานสำหรับจอดรถม้า ทั้งยังสร้างโรงน้ำชาสำหรับคนขับรถม้า หรือเหล่าบุรุษที่ไม่ได้เดินเข้าไปในตรอก สามารถนั่งดื่มชาฆ่าเวลาไปพลาง ๆ หวงจื่อเหยารู้ว่าไม่สมควรบอกพวกเขา เรื่องหลินลู่ฉีเป็นเจ้าของตรอกอิงฮวา เกรงจะสร้างความกดดันให้คนตระกูลฉีมากเกินไป “ข้าเกรงว่าท่านลุงท่านป้า จะรำคาญตอนพวกข้าเลือกซื้อของ เอาเช่นนี้ดีหรือไม่พวกเราแยกย้ายกันเดินเล่น สั
บทที่ 199 : เยว่เยว่ข้าคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว “ท่านพี่ข้าไม่คิดว่าเด็กฉีฉีในวันนั้นจะก้าวหน้าถึงเพียงนี้” หลัวเพ่ยอันลูบหมอนที่ปักด้วยด้ายราคาแพง ผ้าห่มไหมเย็นเนียนนุ่มมือ ดูก็รู้ว่าราคาไม่ถูกเลย “เยว่เอ๋อร์คบสหายได้ดี หากวันข้างหน้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ข้าคิดว่าฉีฉีคงไม่ทอดทิ้งนางเป็นแน่” ฉีหลี่จวินไม่เคยรู้สึกตัวเองด้อยค่าเท่านี้มาก่อน “ขนาดพี่ชายของนางยังสอบจิ้นซื่อผ่าน ได้ทำงานในกรมอาญา เจ้าคิดดูสิ ครอบครัวของพวกนางก้าวหน้าเพียงใด” “ท่านพี่เย่เอ๋อร์ของเราก็ยังพอมีความหวังอยู่นะ” “ก็ขอให้เป็นเช่นนั้น” ในห้องทำงานของหลินลู่ฉี เซี่ยเฉ
บทที่ 198 : เย๋เอ๋อร์ของเราโตมาอย่างดีเลย “พี่สาวข้าเป็นสหายกับนาง นางบอกว่าเรือนอยู่ตรอกเหอผิง แต่ว่าไม่รู้ว่าเรือนหลังไหน จะไปเคาะประตูทุกหลังก็เกรงใจ คุณชายท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่” เซี่ยเฉินฟู่มองไปที่รถม้า คนขับรถม้าไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปจริง ๆ สตรีนางหนึ่งยื่นหน้าออกมา พอเห็นเขาก็ตกใจผลุบหายเข้าไปใหม่ อะไรของนาง เขาหันกลับไปมองคนถามอีกครั้ง สายตายังจ้องจับผิดอยู่ “พวกเจ้าชื่อแซ่อะไร” ฉีซุนเย่เองก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจเช่นกัน เซี่ยเฉินฟู่กระแอมในคอเบา ๆ “นางเป็นพี่สาวข้า เพื่อความปลอดภัยของนางข้าต้องรู้ก่อนว่าใครมาหานาง” “พี่สาวของท่าน เช่นนั้นก็เรือนหลังนี้ใช่ไหม” ฉีซุนเย่ชี้ไปที่ด้านหลังของอีกฝ่าย
บทที่ 197 : ข้าไม่อยากเรียนหนังสือแล้ว เรียนไปก็เป็นภาระแก่ท่านพ่อท่านแม่ “เจ้าเห็นข้าเป็นคนอย่างไรกันแน่ ว่าไปเรื่องนี้ก็อันตรายอยู่ไม่น้อย หลายคนรู้ความสามารถของเจ้าแล้ว วันข้างหน้าอาจมีคนอยากได้ผลประโยชน์นี้” ตาแก่เหล่านั้นไม่ใช่จะพากัน มาสู่ขอนางไปเป็นลูกสะใภ้ของตนหรอกรึ เขาหวาดกลัวในความคิดของตนเอง หลินลู่ฉีมองตาเขาแล้วยกมุมปากเบา ๆ “พี่อี้หานไม่มีใครเอาผลประโยชน์จากข้าไปได้ หากข้าไม่เต็มใจมอบให้” นางเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ ซุนอี้หานก้มหน้าอมยิ้มเล็กน้อย เป็นเขาห่วงนางมากเกินไปเองสินะ “รุ่ยอ๋องต้องการลงทุนกับโรงผลิตของข้า แต่ข้าบอกไปแล้วว่าโรงผลิตสองแห่งนี้ ไม่สามารถให้พระองค์ร่วมลงทุนได้ จึงให้พระองค์ลงทุนในกิจการ ด้านการขนส่งสินค้าไปเมืองต่าง ๆ แทน” หลินลู่ฉีมองเขาแล้วเคาะนิ้วบนโต๊ะเบา ๆ “แล้วมีอะไ
บทที่ 196 : พวกเราติดหนี้บุญคุณนางอีกแล้ว เมื่อรุ่ยอ๋องตอบตกลงแล้ว หลินลู่ฉีจึงพาฉีเฟินเยว่กับเจียงฮุ่ยชิว เตรียมตัวออกจากค่ายทหาร โดยขอให้พวกเขาคืนรถขนผักของพวกนางมา นำกระดาษที่ถูกวาดขึ้นใหม่แบบผิด ๆ ให้ฉีเฟินเยว่นำกลับไปแลกตัวกับคนในครอบครัว “ฉีฉีมันจะได้ผลไหม ครอบครัวของข้าจะปลอดภัยหรือไม่” “ไม่ต้องกลัวข้าจะตามไปห่าง ๆ ระหว่างที่เจ้าเจรจากับพวกมัน ข้าจะลอบเข้าไปปล่อยคนเอง” “แค่เจ้าคนเดียวหรือ” “ไม่หรอกเดี๋ยวก็มีคนตามมาช่วยเอง” นางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เป็นอย่างที่นางเอ่ยจริง ๆ หยวนฉีหมิงนำกำลังคนตามหลังนางไปติด ๆ ซุนอี้หานกับหวงจื่อถงก็ไม่สามารถปล่อยให้หลินลู่ฉีเกิดอันตรายได้ ทั้งคู่ควบม้าตามหลังไปด้วย