บทที่ 91 : ขอเพียงเชื่อใจข้า เจ้าทำได้หรือไม่ “เดือดร้อนอย่างไรก็ไม่สมควร ให้เมื่อวานขายวันนี้ ขายหน้าจริง ๆ” หลัวเพ่ยอันเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องนี้มาก หันไปทางบุตรสาวของตน “เยว่เอ๋อร์ห้ามไปเล่นกับเด็กบ้านนั้นอีก !” “ท่านแม่ !” “เยว่เอ๋อร์ฟังแม่เจ้าเถอะ” คราวนี้ผู้ว่าการฉีกลับเห็นด้วยกับภรรยาของตนเอง ทำให้ฉีเฟินเยว่รู้สึกเสียใจยิ่งนัก นางกลับเข้าห้องแทบไม่อยากออกไปไหนอีกเลย อาจูกับเจียงฮุ่ยชิวได้แต่สงสารนาง แต่ก็เข้าใจเหตุผลของผู้ว่าการฉีกับภรรยา เรื่องบางเรื่องบ่าวไพร่อย่างพวกนาง ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน กระทั่งตอนเย็นฉีเฟินเยว่รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา นางคิดว่าหลินลู่ฉีเป็นคนมีเหตุผลมาก นางต้องถามอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง ทว่าพอก้าวออกจากเรือน กลับพบว่าสาวใช้ร่างใหญ่หน้าเรือนไม่ยอมให้นางออกไป บอกว่าเป็นคำสั่งของมารดาของนางเอง “เหลวไหลที่สุด นี่กลายเป็นว่าข้าถูกขังเอาไว้รึ ข้าทำผิดอะไรกัน !” ไม่ว่านางจะเอะอะโวยวายเพียงใด สาวใช้สองคนนั้นก็ไม่สนใจนางเลย “ได้ข้าจะจำหน้าพวกเจ้าไว้ !” นางโกรธเดินกระฟัดกระเฟียดกลับเข้าเรือน
บทที่ 90 : ข้าจะเอาไปขายให้หมดเจ้าค่ะ “ท่านลุงมีความโชคร้ายนั้นอยู่เจ้าค่ะ ไม่ได้มีเพียงท่านคนเดียว แต่ว่ายังไหลไปสู่คนในตระกูล หมายความว่าเหตุย่อมเกิดจากท่าน เรื่องอื่นข้าไม่รู้ข้ารู้สึกเพียงว่า โชคลาภเลือนหายไป กลับคืนสู่ความว่างเปล่าเจ้าค่ะ” เอ่ยแล้วหลินลู่ฉีก็มองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายดำมืดลง แววตาคล้ายจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึก “ข้าเพียงกล่าวเตือนท่านลุงด้วยความหวังดีเจ้าค่ะ โปรดระวังตัวด้วย” นางกล่าวแล้วย่อตัวคารวะ หันหลังกลับเข้าเรือนของตนเองไป แม้รู้ว่าคราวนี้ช่วยเหลือไม่ได้ แต่การได้เอ่ยเตือนออกไป ย่อมทำให้ก้อนหินในใจอันหนักอึ้งถูกวางลงแล้ว เมื่อกลับถึงเรือนพักตากอากาศของตนเอง ผู้ว่าการฉีเรียกฉีเฟินเยว่เข้าไปถามเรื่องหลินลู่ฉี เขาถึงได้รู้ความเป็นมาของนางอย่างละเอียด “เรื่องสหายอีกคนที่ชื่ออิ๋งอิ๋งของเจ้าเล่า” “ท่านพ่อของอิ๋งอิ๋งคือเจ้าของโรงเตี๊ยมเยว่ไหลเจ้าค่ะ” นางเริ่มเล่าเรื่องที่ซ่งอิ๋งอิ๋งเล่าให้นางฟังอย่างละเอียด แม้แต่การไปไหว้พระขอพรที่วัดหมิงซานก็ด้วย “แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ทางการเ
บทที่ 89 : ฉีฉีเจ้าอย่าได้โทษตัวเอง ไม่ช้าผู้ว่าการฉีกับคนที่อยู่ในห้องโถงต่างพากันวิ่งมาที่นี่ ให้ทหารที่แข็งแรงคนหนึ่ง ถือคบเพลิงมัดเชือกโรยตัวลงไปด้านล่างบ่อ ครอบครัวของหวงชางรีบเดินไปอยู่ด้านข้างหลินลู่ฉี ถามไถ่นางว่าเรื่องจริงหรือ นางทำเพียงพยักหน้าให้พวกเขา มองไปยังคนที่ลงไปช่วยคนในบ่อน้ำ “คุณชายน้อยอยู่ข้างล่างขอรับ !” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากก้นบ่อ ทำให้หัวอกคนเป็นพ่อแม่แทบแตกสลาย ต้องบอกว่าบ่อน้ำแห่งนี้อยู่ไกลจากเรือนของฉีซุนเย่ เขาตกลงไปด้วยความสูงไม่น้อย อีกทั้งยังแช่อยู่ในน้ำตั้งหนึ่งชั่วยาม “เย่เอ๋อร์ ๆ ๆ” หลัวเพ่ยอันร่ำไห้เรียกหาบุตรชายใจแทบขาด “ฮูหยินเดี๋ยวพวกเขาก็ช่วยเย่เอ๋อร์ขึ้นมาแล้ว เจ้าอย่าร้อง ๆ” ผู้ว่าการฉีกอดภรรยาของตนเองเอาไว้แน่น ฉีเฟินเยว่เองก็ลุ้นระทึกไปกับทุกคน ไม่ช้าร่างน้อย ๆ ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ถูกแบกขึ้นมาในสภาพไม่ได้สติ “เย่เอ๋อร์ !” หลัวเพ่ยอันกรีดเสียงร้องสุดแรง ก่อนเข่าอ่อนยวบลงไป “ฮูหยิน !” ผู้ว่าการฉีรีบอุ้มนางขึ้นไว้ “ท่านหมอมาแล้ว รีบพาคุณชายน้อ
บทที่ 88 : เยว่เยว่น้องชายเจ้าอยู่ในบ่อนี้ ! หวงชางแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ “อาอี้ข้าไม่สบายใจเลย พวกเราไปช่วยท่านผู้ว่าการฉี หาเย่เอ๋อร์ด้วยดีหรือไม่” “ข้าก็คิดแบบพี่ชาง พวกเจ้าว่าอย่างไร” ฉินซื่อหันไปถามเด็กอีกสามคน “ดีเจ้าค่ะ” เมื่อหลินลูฉีเอ่ยคำนี้ออกมา สองพี่น้องก็เห็นด้วยในทันที ครอบครัวของหวงชาง ยกเว้นหวงเพ่ยที่เฝ้าเรือน ต่างพาไปที่เรือนของผู้ว่าการฉี พร้อมแสดงตัวอยากช่วยหาฉีซุนเย่อีกแรง พ่อบ้านฉีรีบนำพวกเขาเข้าไปนั่งรอที่ห้องโถง ครู่หนึ่งผู้ว่าการฉีก็เดินออกมาพร้อมฮูหยินและบุตรสาว “ข้าน้อยหวงชางพาครอบครัวคารวะใต้เท้าขอรับ” หวงชางพาทุกคนคารวะผู้ว่าการฉีกับภรรยา “นั่งลง ๆ” ผู้ว่าการฉีผายมือเชิญทุกคนให้นั่งบนเก้าอี้ สีหน้าของท่านแลดูอิดโรยเป็นอย่างมาก “พ่อบ้านฉีบอกว่าพวกเจ้าอยากมาช่วยหาตามเย่เอ๋อร์อีกแรง” “เป็นเช่นนั้นขอรับ” “ตอนนี้คนของข้ากระจายกำลังกันออกไปตามหาแล้ว ไม่รบกวนพวกเจ้าหรอก เอ่อ เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด ข้าเห็นว่าบ้านเจ้ามีแต่เด็กกับสตรี ข้างนอกก็อากาศหนาวเหน็บ เลยจะแข็งแรงสู้ทหารเหล่านั้นได้”
บทที่ 87 : คุณชายน้อยหายตัวไปรึ หลินลู่ฉีต้องหลอกล่อเด็กน้อยอย่างหนัก ให้เขายอมปล่อยมือจากกระโปรงของนางได้ ฉีซุนเย่ไม่อยากกลับเรือนไปกับพี่สาว เขาอยากอยู่ที่นี่กับหลินลู่ฉี สุดท้ายนางเลยต้องใช้ไม้แข็ง บอกว่าถ้าดื้อจะไม่ให้มาเล่นด้วยอีกแล้ว เด็กน้อยจึงยอมปล่อยมือ ให้พี่สาวอุ้มกลับไปแต่โดยดี ผู้ว่าการฉีเห็นของกินที่บุตรสาวหอบกลับมา ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมากจนผิดปกติ รีบเอ่ยถามถึงที่มาที่ไปของกินเหล่านี้ “ท่านพ่อสหายของข้ามาพักที่เรือนหลังข้าง ๆ นี้เอง” “สหายคนไหนของเจ้า” “จะคนไหนเสียอีกก็ลูกร้านค้าซินอี๋อย่างไร มากันทั้งบ้านเลยกระมัง” หลัวเพ่ยอันตอบแทน ผู้ว่าการฉีมองภรรยาของตนด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย “ฮูหยินเจ้าเองก็รู้รึ ว่าครอบครัวของสหายเยว่เออร์มาพักที่นี่ เหตุใดไม่พามาแนะนำให้ข้าได้รู้จัก” หลัวเพ่ยอันไหวตัวเล็กน้อย สามีของนางกำลังตำหนินางเรื่องมารยาท รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเสียใหม่ “ท่านพี่ข้าบังเอิญเจอพวกนางที่วัดหมิงซานพอดี ยามท่านพี่ออกมาพวกเขาก็ออกจากวัดไปแล้ว” “ท่านพ่อพี่สาวดีมาก ข้าชอบนาง
บทที่ 86 : ข้าไม่ใช่เด็กตะกละอย่างสองคนนั้น หวงจื่อเหยาเข้าไปอุ้มเด็กชายตัวน้อยอย่างเอ็นดู “เยว่เยว่น้องชายของเจ้าชื่ออะไร ทำไมน่ารักน่าชังเพียงนี้ เหมือนฉีฉีตอนเด็กเลย” หลินลู่ฉีถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูง มองเจ้าเด็กตัวเท่าเอวตรงหน้า นางเหมือนเขาตรงไหนกัน เด็กคนนี้อวบอ้วนน่ารักน่าชัง ส่วนนางตอนสามขวบนั้นผอมแห้งยิ่งนัก ฉีเฟินเยว่บีบแก้มน้องชายเบา ๆ “เขาชื่อฉีซุนเย่ ที่บ้านข้าเรียกเย่เอ๋อร์” ด้านห้องครัวอาจูกำลังช่วยฉินซื่อ ยกขนมของกินเล่นสำหรับเด็ก ๆ ออกมา ส่วนเจียงฮุ่ยชิวถูกหวงจื่อถงขอร้อง ให้ประลองฝีมือกับเขาดู ทั้งคู่จึงออกไปประลองฝีมือกันที่ด้านหลังเรือนตรงตีนเขา เพื่อไม่ให้ส่งเสียงรบกวนผู้อื่น โดยมีหวงเป่าตามไปด้วย ด้านหน้าเรือนพักตากอากาศมีศาลาใหญ่ไว้นั่งพักผ่อน เตาอุ่นขนาดใหญ่เตรียมพร้อมเอาไว้ เสื้อผ้าขนสัตว์ของเด็ก ๆ มีครบกันทุกคน ยิ่งได้เตาอันเล็กมาตั้งย่างขนมหมาสู่ เด็ก ๆ ยิ่งมีความสุขกัน อาจูคอยดูแลคุณชายน้อยของจวนไม่ให้คลาดสายตา สักพักใหญ่ ๆ เจียงฮุ่ยชิวก็กลับมา สีหน้าของนางแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่หวงจื่อถงกับหวงเป่านั