Share

ข้างห้องคือคนข้างใจ
ข้างห้องคือคนข้างใจ
Author: ห้องสมุดสายลมเหนือ

บทนำ

last update Last Updated: 2025-10-10 21:33:09

ฉันกับชีวิตใหม่เริ่มต้นด้วยกล่องกระดาษยี่สิบหกใบ เทปกาวสามม้วน และแมวอ้วนหนึ่งตัวชื่อ “โมจิ” ที่กำลังพยายามหนีออกจากกล่องเหมือนมันเป็นนักมายากลระดับโลก

“โมจิ หยุด! ถ้าแกหายไปตั้งแต่วันแรก แม่ไม่รับผิดชอบนะ” ฉัน มะปราง พูดกับมันพลางคีบปีกกล่องให้แน่นขึ้น

ลิฟต์ของคอนโดใหม่แวะรับคนทุกชั้น พนักงานขนของหน้าตาร่าเริงยิ่งกว่าฉันที่เป็นเจ้าของของเสียอีก เขาถามว่า “พี่อยู่ห้องไหนครับ”

“18A ค่ะ” ฉันตอบ พร้อมชูสติ๊กเกอร์สีชมพูที่แปะเลขห้องเอาไว้ทุกกล่องกันหลง คิดในใจว่า วันนี้ทั้งวันคงได้ยินเสียงเทปกาวฉีกกับเสียงตัวเองบ่น—อันไหนจะดังมากกว่ากันยังไม่รู้

เมื่อถึงชั้น 18 ประตูทางเดินยาวขาวสะอาดเหมือนโรงพยาบาล พนักงานวางกล่องเป็นแนวเรียบร้อย ฉันไขกุญแจแล้วรู้สึกขนลุกเล็ก ๆ กับความว่างเปล่าของห้องผนังเปลือย พื้นไม้ยังเงาวาว กลิ่นสีเคลือบและแสงบ่ายเอนเข้ามาไล่เงาดำไปตามมุม

“โมจิ อยู่ดี ๆ นะลูก เรามีชีวิตใหม่แล้ว เข้าใจมั้ย” ฉันพูดกับเจ้านายอ้วนในกล่องที่อยากจะพาไปสมัครเรียนพูดรู้เรื่อง

ไม่ถึงห้านาทีถัดมา เสียงเคาะประตูดัง “ก๊อก ๆ”

ฉันเปิดออกไป เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงประตูห้องฝั่งตรงข้าม สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีกากี หน้าตาสุขุมแบบคนไม่ค่อยพูด มือถือไขควงกับถุงสกรูเล็ก ๆ เหมือนช่าง แต่รองเท้าผ้าใบสะอาดเกินกว่าจะเป็นช่างที่ออกไซต์งานทั้งวัน

“ย้ายมาใหม่เหรอครับ” เขาถามเสียงเรียบ

“ใช่ค่ะ” ฉันยิ้ม “ขอโทษนะคะ ถ้าดังไปนิด…คือกล่องมันร้องเอง” ฉันชี้ไปที่กองกล่อง ส่วนหนึ่งสั่นนิด ๆ เพราะโมจิกำลังทดสอบแรงโน้มถ่วงโลกอยู่ข้างใน

เขามองกล่อง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “ผมชื่อภีม อยู่ห้อง 18B ข้าง ๆ กัน ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้”

“ขอบคุณค่ะ ฉันมะปรางค่ะ” ฉันยกมือไหว้แบบไทย ๆ พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ควบคุมชีวิตได้ ทั้งที่จริง ๆ น่าจะเริ่มจากควบคุมแมวก่อน

“แล้ว…อันนี้กำลังจะทำอะไร ซ่อมหรือคะ” ฉันชี้ไขควง

“ประตูผมมันเอี๊ยด ๆ นิดหน่อย” เขาตอบสั้น ๆ

“อ๋อ…ดีจังค่ะ ข้างห้องเป็นช่าง” ฉันเผลอพูดออกไป

เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่ใช่ช่างครับ แค่ชอบซ่อมของเอง” น้ำเสียงฟังดูใจดี ไม่รีบ ไม่ช้า

คุยนิดหน่อยแล้วเขากลับไป ฉันปิดประตู หันกลับมาหากล่องลูกชายแล้วใจหายวาบ “โมจิ?” กล่องเปิดแง้ม ฝาตั้งขึ้นเหมือนธงประกาศชัยชนะของฝ่ายศัตรู

แมวหาย

ฉันวิ่งไปทั่วห้อง เช็คใต้เคาน์เตอร์ในครัว ใต้เตียงที่ยังไม่มีเตียง ตามซอกไม้บัว แล้วก็รู้สึกภูมิใจในความไร้ระเบียบของตัวเองที่ทำให้หาแมวไม่เจอ

ระหว่างที่กำลังจะร้องไห้ เสียงเล็บขูดพื้น “สก๊อบ ๆ” ดังมาจากด้านนอก ฉันวิ่งไปเปิดประตู—ภาพที่เห็นคือ โมจินั่งตาปรืออยู่หน้าห้อง 18B และข้าง ๆ กันมีหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์หูนอนสีน้ำตาลหนึ่งตัวนั่งเฝ้า มันยิ้ม เหมือนจะบอกว่า “ผมช่วยดูแลแมวให้ก่อนนะครับ”

ภีมเปิดประตูตามเสียง เขามองฉัน มองแมว มองหมา แล้วพูดสั้น ๆ “ของคุณใช่ไหม”

ฉันยืนหอบ “ใช่ค่ะ ขอโทษนะคะ โมจิมัน…มันมีวิญญาณเสรีภาพ” ฉันก้มลงจะอุ้ม แต่โกลเด้นรีทรีฟเวอร์หันมามองตาใส ๆ เหมือนกำลังขอคะแนนบุญ

“นี่โตโตะครับ” ภีมลูบหัวหมา “มันชอบนั่งเฝ้าประตูเหมือนเป็น รปภ. ประจำชั้น”

“สวัสดีโตโตะ ขอบคุณนะที่คุมตัวประกันไว้ให้” ฉันอุ้มโมจิที่ทำหน้าเหมือนฉันเป็นลูกหนี้

“ยินดีต้อนรับครับ” ภีมยิ้มบาง ๆ “ถ้าต้องยืมค้อน ไขควง หรือที่ยึดความสงบของชีวิต บอกได้”

ฉันหัวเราะ พูดไปทั้งที่แก้มร้อนนิด ๆ “งั้นยืมสิ่งสุดท้ายก่อนค่ะ”

วันแรกของฉันเลยจบลงด้วยการยืมยางมัดผมจากข้างห้อง (เพราะเหงื่อท่วมจนผมรุงรัง) กับการรู้ว่า ประตูห้อง 18B มี “ช่างสมัครเล่น” ใจดีที่เลี้ยงหมา และยิ้มน้อย ๆ เป็นนิสัย

โมจินอนกลิ้งบนพื้นเหมือนแพนเค้ก ฉันทิ้งตัวลงนั่งข้างกองกล่อง คิดว่าชีวิตใหม่ของฉันอาจเริ่มด้วยเสียงดังนิดหน่อย แต่น่าจะอบอุ่นกว่าที่คิด

อย่างน้อยก็มี รปภ. สี่ขา และข้างห้องที่ยืมยางมัดผมได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 16 พื้นที่ที่ไม่เหมือนเดิม

    “บางความเงียบอบอุ่นกว่าคำขอโอกาส” เสียงกาน้ำเดือดดังแผ่วในห้องครัวเล็ก ๆ ของคอนโด มะปรางเทกาแฟลงแก้ว กลิ่นหอมลอยปะทะจมูกพร้อมความรู้สึกที่ทั้งคุ้นและสั่นเบา ๆ ที่หน้าอก โมจิเดินมาคลอเคลียขา ส่งเสียง “เมี้ยว—” เหมือนรู้ว่าเจ้าของกำลังมีเรื่องกังวล “วันนี้แม่ต้องเจอคนเก่านะ” เธอก้มลงลูบหัวมันเบา ๆ “อย่าให้แม่ใจสั่นมากเลยนะโมจิ” เจ้าแมวตัวกลมตอบกลับด้วยเสียงเบา ๆ แล้วเดินไปนอนบนกระเป๋าผ้า เหมือนจะกันไม่ให้เธอออกจากห้อง โทรศัพท์สั่นเตือนบนโต๊ะภีม: วันนี้ทีมคุณมากี่คนครับ จะได้เตรียมโต๊ะ โตโตะจะได้ไม่เห่าใส่มะปรางเผลอยิ้ม ก่อนพิมพ์ตอบมะปราง: ห้าคนค่ะ รวมลูกค้าด้วย ขอบคุณมากนะคะ ยังไม่ทันวางโทรศัพท์ เสียงโทรเข้าดังขึ้น “มิ้นท์” โผล่มาเต็มจอ “ตื่นยัง ยัยโมจิใหญ่” น้ำเสียงคุ้นเคยดังสดใสแต่แฝงความห่วง “ตื่นแล้วสิ แต่ใจยังไม่พร้อมเจออดีตเท่าไร” “อย่าบอกนะว่ายังใจเต้นอยู่” “เต้นค่ะ...แต่เต้นเพราะกลัวจะทำหน้าตาไม่ถูก” “ดีแล้ว อย่างน้อยเธอก็ยังมีความรู้สึก แปลว่ายังไม่ด้าน” มะ

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 15 คุยงาน…หรือคุยเรา

    เสียงพิมพ์คีย์บอร์ดดังสลับกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่เป่าลมเบา ๆ ทั่วออฟฟิศ มะปรางนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิม ข้าง ๆ มีกองแฟ้มเอกสารและถ้วยกาแฟเย็นที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ แต่สายตากลับพร่าเพราะใจลอยไปถึงวันปิดกอง ภาพคนที่ยื่นแก้วกาแฟให้เธอด้วยรอยยิ้มเรียบง่ายยังคงวนเวียนในหัวไม่จาง เสียงแจ้งเตือนเมลเด้งขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่เธอถอนหายใจFrom: Natee S.Subject: Debrief Meeting – ขอเวลาคุยงานเพิ่มเติมครับ เธอมองชื่อผู้ส่งอยู่นาน มือที่จับเมาส์นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกดเปิดอย่างระมัดระวัง “ปรางครับ มีไอเดียอยากต่อยอดจากแคมเปญนี้นิดหน่อย พอมีเวลาคุยไหมครับ?” ถ้อยคำดูสุภาพ แต่ในใจของเธอกลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยในแบบเดียวกับเมื่อสองปีก่อน ตอนที่เขาใช้เสียงเดียวกันพูดว่า “ไว้ค่อยคุยกันนะ” ก่อนหายไปจากชีวิตเธอ มะปรางพิมพ์ตอบในโทนที่เป็นทางการที่สุด “ได้ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องงาน รบกวนแจ้งเวลาล่วงหน้า จะได้จัดตารางประชุมให้ค่ะ” ส่งเสร็จเธอรีบปิดเมล แล้วพยายามฝืนทำงานต่อ แต่สมาธิกลับหล่นหายไป

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 14 ทำงานด้วยกัน (2)

    เมื่อทุกอย่างดูเข้าที่ เหตุการณ์ทดสอบเล็ก ๆ ก็โผล่มาอีกครั้ง ขณะตั้งไฟสองดวงไขว้กันเพื่อให้เงาแก้วดูมีมิติ อยู่ ๆ ไฟในโซนบาร์ก็กะพริบ “แป๊ะ” แล้วดับเงียบทั้งแถบ “อ่าว เบรกเกอร์ไปแล้วเหรอ” พีทร้อง ฉันหันขวับมองนาฬิกา เวลาเริ่มบีบ เพราะเรายังต้องเก็บช็อตสุดท้ายช่วงแสงเย็น ภีมถือไฟฉายเล็กออกมาทันทีเหมือนเตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว “ตรงนี้คงรับกำลังไฟของเครื่องชงกับไฟชุดหนึ่งตัวไม่ไหวครับ เดี๋ยวผมย้ายปลั๊กชุดไฟไปที่อื่นแทน แล้วใช้รีเฟล็กซ์แทนไฟหนึ่งดวง จะได้ไม่ดึงกระแสเกิน” เขาพูดจบก็ลงมือทันที จัดปลั๊กพ่วง เสียบ–ดึง–ลองสวิตช์อย่างใจเย็น ทีมงานที่เหลือช่วยจับรีเฟล็กซ์ขนาดกลาง ภายในห้านาทีไฟกลับมาสว่างแต่ไม่จ้าเกิน ได้ภาพในจออย่างที่อยากได้ “โห…เจ้าของร้านนี่แหละแก้ปัญหาเก่งกว่าช่างไฟอีก” พีทยกนิ้วให้ ฉันยืนมองภาพในจอแล้วหันไปมองเจ้าของร้านตัวจริง คนนั้นยืนเช็ดมือกับผ้าเช็ดบาร์เหมือนเดิม สีหน้าสงบเหมือนตอนชงกาแฟ นาทีนั้นหัวใจฉันนิ่งแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในกองถ่าย เร่งแค่ไหนก็มักจะมีความลนอยู่ในอากาศ แต่เขากลับทำให้ห้องนี้ห

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 14 ทำงานด้วยกัน (1)

    เช้าวันถัดจากทริปเล็ก ๆ ฉันตื่นก่อนนาฬิกาอีกครั้ง เหมือนร่างกายจำสัญญาเงียบ ๆ ระหว่างฉันกับเช้าว่าเราจะเริ่มวันด้วยความอุ่น ไม่ใช่ความรีบ ฉันชงดริปด้วยเมล็ด “ทุ่งหญ้ารุ่นพิเศษ ทริปเล็ก ๆ” ที่ภีมยื่นให้เมื่อคืนก่อน กลิ่นดอกไม้จาง ๆ ลอยขึ้น ปลายรสหวานเหมือนเสียงหัวเราะที่ยังค้างอยู่ในคอจากเมื่อวาน ฉันยกแก้วไปยืนที่ระเบียง เห็นประตูฝั่งตรงข้ามเลื่อนเปิดในเวลาแทบจะตรงกัน ภีมยกแก้วของเขาขึ้นนิด ๆ เราสองคนยิ้มให้กันอย่างไม่ต้องพูดอะไรมาก “วันนี้สู้ ๆ นะครับ” เขาพูดเบา ๆ แต่ได้ยินชัด “คุณด้วยค่ะ” ฉันตอบ ทั้งที่ในหัวเริ่มเรียงงานแบบผู้จัดการกองถ่ายฉบับเร่งด่วน เพราะวันนี้คือวันสำคัญ ทีมฉันต้องถ่ายทำคอนเทนต์ชุด “Warm is a Place” สำหรับลูกค้า และโลเกชันที่เลือกคือร้านของภีม…ที่เดิม หลังอาบน้ำแต่งตัว ฉันเปิดงานในโทรศัพท์ ไลน์กรุ๊ป “กองอุ่นจริง” (ตั้งชื่อตามคีย์เวิร์ด) เด้งข้อความจากพี่นนท์: “คอนเฟิร์ม 10:00 เริ่มเซ็ต ซีนแรกเปิดหน้าร้าน ซีนสองบาร์ ซีนสามโต๊ะไม้ ใครถึงก่อนช่วยแจ้ง” ฉันพิมพ์ตอบ “ฉันถึงก่อน 9:30 ไปเช็กลิสต์พร็อพกับเจ้าของร้านค่ะ” แล้

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 13 ทริปเล็ก ๆ (2)

    เขาเงียบไปเล็กน้อยเหมือนเช็กหัวใจตัวเองก่อนพูด “เคยครับ แต่ภาพนั้นไม่ชัดเจนเท่าไหร่ รู้แค่ว่าถ้ามีมันคงเหมือนโต๊ะหนึ่งตัวที่คนในบ้านชอบกลับไปนั่งด้วยกัน มีเสียงหัวเราะของสัตว์เลี้ยง มีแก้วน้ำสองใบวางอยู่เสมอ” ฉันยิ้มกว้างกว่าคำถามที่ตั้งใจ “แก้วสองใบ…บนที่รองแก้วสองแผ่น” เขายิ้มกลับ “ครับ” เราลุกขึ้นไปเดินรอบบึงช้า ๆ หลังทานของว่าง ดอกหญ้าสีน้ำนมไหวตามลมเหมือนคนโบกมือทักทายจากสองฟากทาง ฉันเดินถือสายจูงโตโตะ ภีมสะพายตะกร้า ส่วนโมจิอย่างที่คาดขึ้นคานอนบนไหล่ภีมเหมือนราชินีบนราชรถ คนเดินสวนมาหลายคนอดทักไม่ได้ “น้องแมวเก่งจังเลยค่ะ” ภีมยิ้ม “จริง ๆ แล้วเก่งที่ยอมให้ผมแบกมากกว่าครับ” ฉันหัวเราะจนลืมว่าครู่หนึ่งก่อนหน้านี้ฉันเคยล้มกลิ้ง ความเขินจากเหตุการณ์เช้าแปรสภาพเป็นความจำที่น่ารักอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินครบรอบ เรากลับมาที่ผ้าปิกนิก ฉันวางโมจิลง มันเดินตรงไปตรวจคุณภาพอาหารบนจานภีมแล้วนั่งทับรายการกินเหมือนจะปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง โตโตะหมดแรงนิด ๆ นอนแผ่พุงเหยียดขาตรง ทำหน้าฟินราวกับเพิ่งชนะ

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 13 ทริปเล็ก ๆ (1)

    เช้าวันหยุดหลังคืนดาดฟ้าที่ใจเราเหมือนตกลงสัญญาเงียบ ๆ ฉันตื่นเร็วกว่าปกติทั้งที่ไม่มีนาฬิกาปลุก ลมเช้าจากระเบียงพัดกลิ่นกาแฟที่บดไว้เมื่อคืนโชยเข้ามา โมจิเดินมาวนรอบขาเหมือนนาฬิกาปลุกมีขน ฉันลูบหัวมันแล้วพูดกับตัวเองว่า วันนี้อยากทำอะไรช้า ๆ แบบไม่ต้องชนะเวลา พอเปิดประตูระเบียงก็เจอภีมยืนพาโตโตะออกมารับแดดจาง ๆ เขาส่งยิ้มแบบที่เคยทำ ยิ้มที่ไม่รีบให้คำตอบ แต่บอกว่าอยู่ข้าง ๆ “อรุณสวัสดิ์ครับ” “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ฉันตอบพร้อมยกแก้วน้ำให้โมจิดมเล่น แดดเช้าตีกับราวระเบียงเป็นริ้ว ๆ จนฉันเผลอหยุดมอง ภีมเอ่ยขึ้นเหมือนคิดไปพร้อมกับลม “วันนี้อากาศดี อยากลองพาโตโตะไปสวนสาธารณะนอกเมือง…คุณกับโมจิสนใจไปด้วยไหมครับ” คำชวนฟังดูง่าย แต่หัวใจฉันกลับทำงานซับซ้อนขึ้นมาทันที มันไม่ใช่แค่ไปสวน มันคือการออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่เราเคยอยู่ร่วมกัน จากโถงชั้น 18 ระเบียง โต๊ะโอ๊ค ไปสู่โลกกว้างที่เราไม่เคยใช้เวลาเป็น “พวกเรา” จริง ๆ มาก่อน ฉันลังเลเพียงเสี้ยววินาที ก่อนพยักหน้า “ไปค่ะ” โมจิตอบแทนด้วยการตดเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status