“ได้ขอรับคุณชายใหญ่ ข้าเองก็คิดเหมือนกับท่าน เกรงว่าจะมีเรื่องที่ยังไม่มีใครรู้ แต่ว่าใครอยู่เบื้องหลังนี่สิ ผ่านมานานหลายปีถึงเพียงนี้ การปกปิดตัวตนคงจะแนบเนียนไม่น้อย มิเช่นนั้นปัญหาเรื่องน้ำคงได้รับการแก้ไขไปนานแล้วขอรับ”“พวกพี่เตรียมม้ารอข้า เรื่องนี้พวกเราจะทำโดยพลการไม่ได้ พี่เจียวมิ่งไปพบท่า
“เย้ เย้ ในที่สุดก็จะได้ขี่ม้าเองเสียที พวกท่านให้ข้าฝึกอยู่ตั้งนาน แต่ไม่ยอมให้ขี่ม้าเองเอาแต่ให้นั่งอยู่ในรถม้า จนรากจะงอกออกมาอยู่แล้วเจ้าค่ะ”“น้องเล็กอย่าบ่นนักเลยที่พวกเราทำเช่นนั้น เพราะความปลอดภัยของเจ้าไม่ดีหรืออย่างไร ฮึ”“พี่รองท่านเองก็พูดได้สิ เพราะไม่ได้นั่งรถม้าไปตลอดทางเหมือนข้านี่นา
พูดคุยมาถึงตรงนี้ก้งเจี้ยกับเต๋อหลิน ก็กลับมาจากการไปสำราจเส้นทางน้ำของหมู่บ้านเว่ยเฟิง และหมู่บ้านจิ่นเผิงที่อยู่ถัดไปไม่ไกลพอดีกุบกับ กุบกับ หยู๊!!! ตุบ“นายท่านพวกข้าสองคนได้ไปสำรวจตามคำสั่งแล้วขอรับ”“ผลเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นกับน้ำที่ต้องไหลผ่านมาทางนี้”“เรียนนายท่าน พวกข้าได้ยินหัวหน้าหมู่บ
“หัวหน้าหมู่บ้านกู่ท่านกับชาวบ้านรอพวกข้าอยู่ตรงนี้ก่อน ข้ากับสหายจะไปดูลาดเลาว่าฝั่งนั้นส่งคนมาเฝ้าหรือไม่ หากมีคนคอยเฝ้าพวกข้าจะจัดการให้เรียบร้อย และจะส่งสัญญาณให้พวกท่านรู้”“ตกลง พวกข้าจะรออยู่ตรงนี้ พวกเจ้าทำงานตามสะดวกเถิด อย่าห่วงเลยพวกข้าจะไม่เป็นภาระเด็ดขาด” แม้ว่าในใจจะรู้สึกกลัวอยู่กับสิ
ในยามเช้าของวันใหม่คนที่มีความสุข กลับกลายเป็นหมู่บ้านเว่ยเฟิงและหมู่บ้านที่อยู่ถัดไป เพราะตอนนี้ในลำคลองหลังหมู่บ้านมีน้ำใสสะอาดอีกครั้ง แต่กู่เหวินเหยียนได้คิดถึงคำพูดของก้งเจี้ย ที่บอกตอนทำลายทำนบกั้นน้ำว่า ควรขุดเส้นทางน้ำให้ลึกและกว้างกว่าเดิมวันนี้จึงเรียกลูกบ้านมาหารือ และไปขอความร่วมมือจากห
“พี่ชาย ๆ ๆ รบกวนรายงานนายท่านที ว่าคนจากหมู่บ้านจิ่นเผิงมาขอพบ ข้ามีเรื่องด่วนมาก ๆ มารายงานให้กับนายท่านขอรับ”“เจ้ามาจากหมู่บ้านจิ่นเผิงรึ”“ใช่ขอรับ”“งั้นเดินตามข้าเข้าไปเถิดนายท่านเคยสั่งไว้แล้ว ถ้ามีคนจากหมู่บ้านนี้มาให้พาเข้าไปพบที่ห้องทำงาน”“ขอบคุณมากขอรับพี่ชาย”เมื่อมาถึงด้านหน้าห้องทำงา
“ดี อย่างน้อยอาจจะพอทุเลาความโกรธของใต้เท้าเมิ่งได้บ้าง ข้าต้องกลับเข้าเมืองหลวงแล้วพวกเจ้าตั้งใจทำงานให้ดี หากการเพาะปลูกกลับมาทำได้อีกครั้ง อย่างไรเสียเงินทองย่อมแบ่งปันให้พวกเจ้าเช่นเดิม”“ขอรับ /เจ้าค่ะ”เมื่อติงจื้อหยุนกลับออกจากหมู่บ้านก็ไม่หันหลังไปมองอีก แต่พอจะเดาได้ว่าชาวบ้านในตอนนี้ กำลัง
“นั่นมันเงินส่วนตัวของกระหม่อม มิใช่เงินของชาวบ้านพ่ะย่ะค่ะ คนของท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้ว โปรดคืนมันให้กระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“ติงจื้อหยุนหนอติงจื้อหยุน คนของข้าคอยจับตาดูเจ้าตั้งแต่รถม้าของเจ้า วิ่งเข้าไปภายในหมู่บ้านจิ่นเผิงแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขาทั้งสิ้น อย่าได้คิดหา
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”