Share

บทที่ 4 อาหารฉลองการมีชีวิต

last update Last Updated: 2025-05-30 23:48:40

อาหารเย็นวันนี้ลี่หลินต้องการทำน้ำแกงหน่อไม้กระดูกหมู หมูสับผัดหน่อไม้ ปลาเผาเกลือ ส่วนข้าวคงต้องทำเป็นโจ๊กไปก่อน เพราะข้าวในบ้านมีเหลือให้กินได้อีกเพียงสองหรือสามวันเท่านั้น

“อ้ายฉิง เจ้าช่วยก่อไฟให้ข้าหน่อยเสร็จแล้วไปต้มโจ๊กด้วย ข้าจะทำอาหารเอง”

“ท่านจะทำหรือเจ้าคะให้ข้าทำเองดีกว่า ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ เพิ่งหายป่วยวันนี้เองอย่าพึ่งหักโหมนัก” อ้ายฉิงไม่เคยเห็นลี่หลินทำอาหาร นางกลัวว่าหากทำแล้วกินไม่ได้จะเสียของ อาหารในบ้านมีอยู่เพียงน้อยนิดต้องกินอยู่อย่างประหยัด

“เอ๊ะ ข้าบอกว่าจะทำเองทำไมเจ้าชอบขัดนัก ชอบกวนโทสะให้คนโมโหเล่นหรืออย่างไร ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้วจะไปแบ่งหมูมาทำอาหารเพิ่ม เจ้าทำตามที่ข้าบอกเลยนะอ้ายฉิง เข้าใจหรือไม่” พูดจบลี่หลินก็เดินถือชามสะบัดก้นออกไปข้างนอกอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ถึงนิสัยของนางจะดีขึ้นไม่ได้รู้สึกรังเกียจสามพี่น้องครอบครัวหยางแล้วก็ตามแต่อารมณ์ขี้โมโหยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับลี่หลิน

นางแก้นิสัยนี้ไม่ได้เพียงแค่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนิดหน่อยและรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองเท่านั้น ถ้าเป็นอีกโลกนางคงโดนคุณแม่กับคุณยายบ่นจนหูชาพร้อมด้วยการทำโทษให้หลาบจำอีกยกใหญ่

“พวกท่านจะทำอะไรหน่ะ” ลี่หลินเหลือบมองไปเห็น หยางหนิงเฉิงกำลังถือถังใส่เครื่องในหมูเดินออกไปจึงรีบร้องถาม นางว่าจะมาขอเนื้อหมูกับกระดูกหมูไปทำอาหารสักหน่อย

“ข้าจะเอาเครื่องในหมูไปฝังดิน เจ้าไม่ต้องกังวลข้าจะนำไปฝังให้ไกลจากตัวบ้านรับรองว่าไม่มีกลิ่นรบกวนแน่นอน”

“ท่านเอาไปทิ้งทำไม เอากลับมาเลยนะของพวกนี้ล้วนกินได้ทั้งนั้น” ลี่หลินออกคำสั่ง คนพวกนี้ช่างไม่รู้จักของกินเอาซะเลย มิน่าถึงได้อยู่อย่างอดอยากไม่มีอะไรกินกัน

“ข้าขอโทษ แม้ข้าจะเลี้ยงเจ้าได้ไม่ดีนัก แต่ข้าไม่อยากให้เจ้ากินของพวกนี้ มันทั้งคาวและสกปรก ไม่มีใครกินกันหรอก เจ้าเองก็ไม่ควรกินเช่นกัน พรุ่งนี้หากล่าสัตว์ได้ข้าจะซื้อของกินดีๆ มาฝาก” หยางหนิงเฉิงพูดกับลี่หลินด้วยท่าทีร้อนรนและรู้สึกผิด สีหน้าของเขาหม่นหมองลงไปหลายส่วน แม้เขากับนางจะแต่งงานกันด้วยเหตุผลไม่คาดคิดและลี่หลินเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร

ทว่าตอนนี้เขาถือว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นสามีของนาง เขาทำให้ลี่หลินอดอยากจนต้องกินของสกปรกพวกนี้เลยหรือ

“ทำไมจะกินไม่ได้ สกปรกอะไรกัน พวกมันกินไม่ได้เพราะท่านทำไม่เป็นต่างหาก ข้าจะทำให้ดูว่ากินยังไง ไม่ต้องเอาไปทิ้งเลย ถ้าท่านไม่ยอมเชื่อฟังพวกเรามีเรื่องกันแน่” หยางหนิงเฉิงได้แต่ถอนหายใจเสียงเบาออกมา ในเมื่อลี่หลินพูดแบบนี้เขาจะทำอะไรได้ หากไม่อยากมีปัญหาก็ต้องยอมนาง

“ท่านเอากระดูกหมู เนื้อติดมันเล็กน้อย แล้วก็มันหมูสีขาวในถังมาให้ข้า ข้าจะเอาไปทำอาหาร ขาหมูเก็บไว้รมควัน เนื้อหมูเอาไว้ตากแห้ง ส่วนเครื่องในและหนังท่านเก็บไว้ในถังให้ข้าก่อน ข้าจะมาจัดการพวกมันพรุ่งนี้เช้า” เมื่อจัดแจงเสร็จลี่หลินก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารต่อทันที

นางใส่น้ำมันในกระทะเล็กน้อย ผัดกระเทียมที่สับไว้ให้มีกลิ่นหอม ใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหน่อไม้ ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลเล็กน้อยเพิ่มความกลมกล่อม ปิดท้ายด้วยใบหอมป่าเพื่อให้มีสีสันสวยงาม เสร็จแล้วจึงตักใส่จานพักไว้ กลิ่นหอมของผัดหน่อไม้ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องครัว

“พี่สะใภ้ ผัดหน่อไม้ของท่านกลิ่นหอมน่ากินเหลือเกินเจ้าค่ะ “อ้ายฉิงแทบน้ำลายไหลกับกลิ่นหอมของอาหาร

“แน่นอนอยู่แล้ว ของที่ข้าทำดีกว่าของที่คนอื่นทำเสมอ มื้อเย็นวันนี้มีน้ำแกงหน่อไม้กับปลาเผาด้วยนะ รับรองว่าเจ้าได้กินของอร่อยจนพุงกางเชียว” ลี่หลินเชิดหน้าขึ้นโอ้อวดอย่างอารมณ์ดี งานอดิเรกของนางในโลกอีกใบคือการตระเวนกินอาหารเชียวนะ นางชื่นชอบอาหารอร่อยเป็นชีวิตจิตใจ

หลังจากผัดหน่อไม้ลี่หลินก็ลงมือทำน้ำแกงกระดูกหมูต่อ นางตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่กระดูกหมูลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ จากนั้นช้อนฟองออกเพื่อให้น้ำซุปใส เติมหน่อไม้เพิ่มความหวานของน้ำซุปอีกนิดหน่อย ต้มต่อไปจนกระดูกหมูเปื่อยยุ่ยก็สามารถรับประทานได้

ในครัวของนางมีสองเตาไฟแต่ไม่มีตะแกรงสำหรับย่าง ลี่หลินจึงเลือกใช้ไม้ไผ่เสียบปลาแทน นางยัดขิง กระเทียมใส่ในท้องปลาเพื่อดับคาว ส่วนด้านนอกทาเกลือบางๆ แล้วนำไปย่างให้สุก ถึงแม้เครื่องปรุงและเครื่องเทศที่ใช้ทำอาหารจะมีอยู่อย่างจำกัดแต่ลี่หลินก็รังสรรค์เมนูออกมาได้ดีมาก

“อาหารเย็นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านอาบน้ำเสร็จหรือยัง มากินข้าวได้แล้ว” อ้ายฉิงโผล่หน้าออกไปเรียกบุรุษหนุ่มสองคนของบ้านเสียงใส พวกเขารีบเร่งอาบน้ำแต่งตัวกันยกใหญ่อย่างไม่คิด หากไม่ติดว่าต้องจัดการหมูให้เสร็จก่อนหนิงเฉิงกับอี้เฉินคงเข้าไปนั่งรอบนโต๊ะอาหารแล้ว กลิ่นหอมของมันทำให้กระเพาะส่งเสียงร้องโครกครากอยู่หลายครั้ง

“อ้ายฉิง เจ้าทำอาหารได้น่ากินมาก เอ๊ะ นี่มันหน่อไม้หนิ เจ้าไม่รู้หรือว่ามันมีพิษแถมรสชาติขมอีกต่างหาก ปลาตัวใหญ่นี่อีกเจ้าได้มันมาจากไหน” อี้เฉินเห็นว่าอาหารมีส่วนประกอบของหน่อไม้จึงเอ่ยถามน้องสาวด้วยสีหน้าไม่พอใจ นางเอาเนื้อหมูมาต้มและผัดกับหน่อไม้ได้ยังไง ทั้งขมทั้งมีพิษ

“ข้าไม่ได้ทำเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนทำ ทั้งหน่อไม้ทั้งปลาพี่สะใภ้หามาเองทั้งหมด” อ้ายฉิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทำไมพี่รองต้องว่านาง นางห้ามพี่สะใภ้ใหญ่ได้ที่ไหนมีแต่จะโดนด่ากลับมาสิไม่ว่า

“เจ้าทำอาหารพวกนี้จริงหรือ” หยางหนิงเฉิงเลิกคิ้วถามเมื่อได้ยินว่าลี่หลินเป็นคนทำอาหารทั้งหมด เขาประหลาดใจมาก

เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยแกมไปด้วยความประหลาดใจของทุกคนลี่หลินก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา

“ข้าทำอาหารทุกอย่างเอง อาหารพวกนี้กินได้ไม่มีพิษ พวกท่านไม่รู้วิธีกินหน่อไม้จึงทำให้มีรสขม แล้วแต่พวกท่านเลยว่าจะกินหรือไม่ ถ้าไม่กินก็ไปกินอย่างอื่น” ลี่หลินแสร้งทำเป็นโมโหขึ้นมา นางขี้เกียจอธิบายและหิวข้าวมาก ใครจะกินไม่กินก็ช่าง นางกินเองมีแต่ของอร่อยทั้งนั้น

“ข้ากิน ข้ากินเอง” เมื่อเห็นท่าทีโมโหของนางหยางหนิงเฉิงจึงรีบตักน้ำแกงหน่อไม้เข้าปากทันที เขาไม่อยากให้ลี่หลิน เสียน้ำใจอย่างน้อยนางก็เริ่มคิดได้ลุกขึ้นมาทำอาหาร

เมื่อน้ำแกงสัมผัสถูกปลายลิ้นหยางหนิงเฉิงก็ต้องตาโตกับรสชาติ น้ำแกงไม่ขมเลยแถมยังมีรสชาติหวานนิดๆ ติดปลายลิ้นออกมาอีกต่างหาก หน่อไม้กรอบนุ่ม กระดูกหมูเปื่อยยุ่ย รสชาติดีมาก

หยางหนิงเฉิงไม่รีรอเขาตักผัดหน่อไม้หมูสับขึ้นมาชิมต่ออย่างรวดเร็ว รสชาติหอม อร่อย กลมกล่อมมาก จากนั้นจึงเลื่อนไปยังปลาเผาเนื้อหวาน สดใหม่ ไม่คาว รสชาติของมันอร่อยกว่าที่เคยได้ลิ้มลองมา

เมื่อเห็นท่าทีของพี่ชายอี้เฉินกับอ้ายฉิงจึงตักอาหารขึ้นมากินบ้าง สองพี่น้องตกใจกับรสชาติอาหารจนเกือบสำลักออกมา ไม่นึกเลยว่าพี่สะใภ้ของพวกเขาจะมีฝีมือทำอาหารดีขนาดนี้

“พี่สะใภ้ อาหารที่ท่านทำอร่อยมาก ข้าไม่คิดว่าหน่อไม้จะทำออกมาได้อร่อยขนาดนี้ ท่านสอนข้าทำได้หรือไม่ หน่อไม้ในป่ามีเยอะแยะมาก ข้าคงมีอาหารอร่อยกินทั้งปี” อ้ายฉิงพูดด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขมาก ไม่มีใครกินหน่อไม้มีแค่ครอบครัวนางที่นำมากินได้ ไม่มีใครแย่งอาหารของนาง แค่คิดก็มีความสุขสุดๆ

“ข้าสอนเจ้าทำได้ อาหารมื้อนี้ถือว่าฉลองการหายป่วยและการมีชีวิตอีกครั้งของข้า ต่อไปนี้ชีวิตของพวกเราต้องดีขึ้นทุกวันอย่างแน่นอน” ลี่หลินเห็นทุกคนกินอาหารของนางอย่างมีความสุขก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อคนกินชมว่าอาหารอร่อยคนทำก็มีความสุข

หลังจากสงครามอาหารจบลง อาหารเย็นทั้งหมดของวันนี้ไม่หลงเหลือสักอย่างพวกมันถูกกวาดลงกระเพาะของทุกคนในบ้านจนพุงกาง

“ข้าไม่ได้กินอาหารอิ่มขนาดนี้มานานแล้ว พี่สะใภ้ท่านไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวข้าล้างจานเอง” อ้ายฉิงรับหน้าที่ล้างจานส่วนลี่หลินออกไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน

เมื่อกลับเข้ามาในบ้านลี่หลินก็เห็นสามีกับน้องชายของเขา นอนหลับด้วยกันในห้องโถงอย่างสบายใจ บ้านหลังนี้มีสองห้องนอน นางกับอ้ายฉิงอยู่คนละห้อง ส่วนหยางหนิงเฉิงหลังจากแต่งงานลี่หลินก็ไม่เคยให้เข้ามานอนในห้องด้วยสักครั้ง นางคิดอะไรอีกนิดหน่อยก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 40 ครอบครัวของเรา(ตอนจบ)

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ในที่สุดเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่ทุกคนรอคอยก็เวียนมาถึงอีกครั้ง สมาชิกตัวน้อยของตระกูลหยางตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้กันมาก นอกจากอั่งเปาซองสีแดงแล้วพวกยังได้ของเล่นชิ้นใหม่จากท่านอาด้วย“หยางลู่เสียน หยางลี่อิน พวกเจ้าสองคนเลิกก่อกวนแม่ได้หรือไม่” ลี่หลินถอนหายใจยืดยาวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเบื่อหน่าย วันนี้มื้อค่ำสำหรับปีใหม่ของนางยังไม่ไปไหนเลย ผู้ช่วยตัวน้อยสองคนเอาแต่แย่งเตรียมอาหารทั้งวัน“ท่านแม่ข้าอยากช่วยนี่ขอรับ” ลูกชายตัวดีตอบกลับเร็วพลันจนลี่หลินท้อใจ“เจ้าพาลี่อินไปช่วยท่านพ่อจัดสถานที่สำหรับปิ้งย่างดีกว่า อยู่กับแม่ในครัวน่าเบื่อจะตาย” ลี่หลินหาข้ออ้างให้ลูกสาวกับลูกชายยอมจากไปแต่โดยดี“จะดีหรือขอรับ” ลู่เสียนมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย“ข้าอยากอยู่กับท่านแม่” ลี่อินปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไม่คิด“เฮ้อ พวกเจ้าไม่รู้อะไร ทำงานในสวนสนุกมากนะ ได้วิ่งเล่นจับแมลงด้วย เมื่อเช้าดอกโม่ลี่ฮวาพึ่งผลิบาน หากนำมาจัดใส่แจกันคงส่งกลิ่นหอมไปทั่ว” ลี่หลินหลอกล่อไม่หยุด นางรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยชื่นชอบการจัดดอกไม้มากแค่ไหน“ว้าว ข้าอยากไปเล่นในสวนกับท่านพ่อเจ้าค่ะ” ลี่อินอุท

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 39 ความสุข

    “พวกเราเข้านอนกันเถอะดึกมากแล้ว”หยางหนิงเฉิงปลุกลี่หลินให้ตื่นจากภวังค์ เขาถอดเสื้อตัวนอกมาพาดไว้ข้างเตียงเพื่อระบายความร้อนโดยไม่สนใจนางสักนิด“อะ อืม”ลี่หลินเลื่อนลอยไปชั่วขณะ สายตาไม่รักดีของนางเหลือบไปเห็นมัดกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ที่โผล่พ้นเสื้อตัวในของหยางหนิงเฉิงออกมาพาให้เลือดสูบฉีดทั่วทั้งกาย ลี่หลินพยายามกลืนน้ำลายเหนียวฝืดคอลงไปอย่างยากลำบาก วันนี้หยางหนิงเฉิงวางแผนหลอกล่อนางหรืออย่างไร“หลินเออร์เจ้าไม่สบาย”หยางหนิงเฉิงตกใจมาก เขารีบพุ่งตัวมาประคองใบหน้าของลี่หลินเอาไว้อย่างแผ่วเบา“หะ หะ หืม ข้าสบายดี”ลี่หลินขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรสักนิด“สบายดีอะไร จมูกของเจ้ามีเลือดไหลออกมา”หยางหนิงเฉิงใช้ปลายนิ้วเช็ดเลือดบนจมูกลี่หลินเล็กน้อยก่อนหงายมือให้นางดู“ห๊า ละ เลือด ให้ตายเถอะ”ลี่หลินอุทานออกมาอย่างสิ้นหวัง นางเลือดกำเดาไหลเพราะแอบมองกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ของสามีเนี่ยนะ อยากจะบ้าตาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเลยเชียว“เจ้ารอก่อน เดี๋ยวข้าไปตามหมอมารักษา”หยางหนิงเฉิงร้อนรน“ไม่ต้อง ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก น้ำลายไม่ไหลออกมาด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว”ลี่หลินดึงแขนเขาไว้ก่อนปร

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 38 ปล่อยวาง

    “พะ พ่อขอโทษ” นายอำเภอเล่อมู่ขอโทษลี่หลินด้วยน้ำตา ในบรรดาลูกสาวลูกชายของเขาไม่มีใครสามารถพึ่งพาได้เลย หลังจากหมดตัวทุกคนต่างพากันทยอยทิ้งเขา“การให้อภัยท่านเป็นเรื่องยากสำหรับข้า” ลี่หลินเบือนหน้าหนีอีกครั้ง น้ำตาของนางไหลรินออกมาหลังได้ยินคำขอโทษจากคนเป็นพ่อ“เจ้าไม่ให้อภัยพ่อก็ไม่เป็นไร แต่ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราสักครั้ง หากไม่มีเงินไปใช้หนี้บ่อนพนันข้ากับนางต้องถูกจับตัดแขนตัดขาเป็นขอทานข้างถนนแน่นอน” นายอำเภอเล่อมู่หันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างเป็นห่วง“เฮอะ ข้าเกลียดนางแทบเข้ากระดูกดำ ทำไมข้าต้องช่วย ท่านพ่อเคยรักข้าบ้างไหมเจ้าคะ เหตุใดถึงกล้าขอร้องออกมาอย่างไม่อาย” ลี่หลินตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด ผู้หญิงคนนี้ทำให้ชีวิตนางกับท่านแม่ต้องตกต่ำ“พะ พ่อ เอ่อ” นายอำเภอเล่อมู่เงียบงันไปพักใหญ่ เขาไม่แน่ใจว่าตนเองรักลี่หลินหรือไม่ ความผูกพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขากับนางมีเพียงน้อยนิด“ข้าขอโทษ ข้าไม่ดีเอง ข้ามันชั่วช้า ข้าไม่เคยทำหน้าที่แม่ให้เจ้าเลยตั้งแต่ฮูหยินใหญ่จากไป เป็นข้าที่ละเลยเจ้าและกีดกันความสัมพันธ์พ่อลูก ข้าเห็นแก่ตัวเองที่ไม่อยากแบ่งปันคนรักกับใคร ท่านแม่ของเจ้าสวยมาก นางเป็

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 37 เผชิญหน้า

    หยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉินเดินทางเข้าอำเภออยู่หลายเดือนเพื่อเตรียมตัวทำการค้า พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลหลายอย่างเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อหน้าร้าน การตกแต่ง การตั้งราคา การหาลูกจ้าง และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องจัดการ ลี่หลินแค่คอยให้คำแนะนำในบางครั้งเท่านั้น อีกไม่กี่วันร้านค้าตระกูลหยางก็พร้อมเปิดให้บริการแล้วหลังจากวางแผนขยายกิจการหยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉิน ก็เดินทางเข้าออกอำเภอเป็นว่าเล่น พวกเขาต้องเดินทางไปจัดการธุระบ่อยมาก การเดินทางเข้าอำเภอแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานถึงสองวัน ลี่หลินเลยต้องหอบผ้าหอบผ่อนมาช่วยอ้ายฉิงดูแลร้านค้า ในตำบลแทน“พี่สะใภ้ข้าเลือกชุดไหนดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงเดินถือเสื้อผ้าเข้ามาในห้องนอนของลี่หลินอย่างต้องการความช่วยเหลือ“อืม ไหนดูซิ” ลี่หลินเพ่งสายตามองเสื้อผ้าหลากหลายแบบตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด“ข้าควรใส่สีแดงเข้ม แดงอ่อน แดงทอง หรือแดงอมชมพูดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงคาดคั้นเอาคำตอบ นางนั่งเลือกอยู่นานแล้วแต่ยังเลือกไม่ได้สักที“สีแดงอมชมพูเหมาะกับเจ้า ใส่แล้วดูไม่แก่จนเกินไป” ลี่หลินแนะนำ“พี่สะใภ้ตาแหลมนัก ข้าเลือกชุดนี้เจ้าค่ะ” อ้ายฉิงพึงพอใจมาก นางเองก็คิดว่าใส่แล้ว

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 36 ขยายกิจการ

    ร้านค้าตระกูลหยางเติบโตขึ้นทุกวันแบบก้าวกระโดด ตอนนี้ลี่หลินกับครอบครัวกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ของตำบลอย่างเป็นทางการแล้ว ครอบครัวหยางร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ สินค้าส่วนใหญ่ของลี่หลินมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในความเป็นจริงแล้วการค้าของครอบครัวหยางก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ พวกเขามีคู่แข่งมากมายและมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขไม่น้อย ทั้งเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า การตัดราคา ข่าวลือ การใส่ร้ายป้ายสี รวมไปถึงเรื่องราวจิปาถะหลายอย่าง พวกเขาสามารถก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้เพราะทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือกันคู่แข่งทางการค้ามีเข้ามาเรื่อยๆ แต่คนพวกก็ไม่สามารถเล่นงานลี่หลินได้เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นางผลิตเอง ลี่หลินทำการค้าจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำเน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทำให้คู่แข่งส่วนมากต้องล่าถอยออกไปเพราะยิ่งแข่งขันกับนางเท่าไหร่พวกเขายิ่งขาดทุนกิจการร้านเหล้าผลไม้ (ไวน์) ทำให้ครอบครัวหยางกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ขุนนางมากขึ้น ด้วยรสชาติที่แตกต่าง ดื่มง่าย มีระดับมากกว่าเหล้าทั่วไป ขุนนางน้อยใหญ่จึงกลายเป็นลูกค้าประจำอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมในการซื้อเป็นของฝากแก่ผู

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 35 ปัญหาของคนมีเงิน

    “อ้ายฉิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง”ลี่หลินตะโกนถามอย่างใจเย็น วันนี้นางกับอ้ายฉิงต้องนำของขวัญปีใหม่ไปเยี่ยมเยียนครอบครัวต้าไห่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของนางทุกคนล้วนได้รับของขวัญชิ้นนี้“เสร็จแล้วเจ้าค่ะพี่สะใภ้”อ้ายฉิงวิ่งลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างรวดเร็ว“รีบไปกันเถอะเสร็จแล้วจะได้เข้าเมืองกัน”ลี่หลินเอ่ยเร่ง วันนี้สองหนุ่มของบ้านต้องเข้าไปดูแลร้านค้ากันก่อนเพื่อให้ลี่หลินกับอ้ายฉิงจัดการธุระ“เจ้าค่ะ ท่านเอาของขวัญมาข้าถือเอง”อ้ายฉิงแย่งตะกร้าของขวัญในมือลี่หลินไปถืออย่างรวดเร็วก่อนเดินนำออกไปทั้งสองคนใช้เวลาเดินเพียงไม่นานก็มาถึงบ้านต้าไห่ ลี่หลินกวาดสายตามองรอบๆ อย่างพิจารณา บ้านของต้าไห่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากบ้านดินสภาพกลางเก่ากลางใหม่กลายเป็นเรือนสี่ประสานหลังใหญ่สวยงาม อ้ายฉิงเคาะประตูได้ไม่นานก็มีสาวรับใช้อายุน้อยนางหนึ่งออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี ลี่หลินกับอ้ายฉิงเดินตามสาวน้อยคนนั้นเข้าไปในเรือนหลังใหญ่ของบ้านอย่างแปลกใจ ว่ากันตามตรงกำไรจากการขายถ่านไม่เยอะเลยเมื่อเทียบกับกิจการทั้งหลายของลี่หลิน แต่ละเดือนนางได้รับผลกำไรประมาณ 30-50 ตำลึงทองเท่านั้น บ้านของต้าไห่เองก็น่าจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status