Share

บทที่ 3 หาของกิน

last update Last Updated: 2025-05-30 23:48:33

หลังจากทั้งสองคนขุดหน่อไม้ได้จำนวนหนึ่ง ลี่หลินจึงชวนอ้ายฉิงเดินลัดเลาะไปตามลำธาร เดินมาเพียงไม่นานแค่หนึ่งเค่อ (15 นาที) ก็เจอเข้ากับต้นน้ำสายใหญ่ที่ไหลลงสู่ลำธารสายเล็ก หลังบ้าน น้ำในลำธารใสสะอาดมาก มองเห็นฝูงปลาตัวเล็กตัวใหญ่แหวกว่ายอย่างสนุกสนาน พวกมันทำให้ลี่หลินดีใจจนเนื้อเต้น ปลาเยอะแยะขนาดนี้นางรอดตายแล้ว อย่างน้อยก็มีปลาให้กิน ทุกวัน ลี่หลินนึกถึงเมนูปลาเผาที่เคยเห็นในโลกนั้นแล้วน้ำลายไหล นางจะจับปลาตัวใหญ่มาทำปลาเผากินให้ได้เลยคอยดู

“อ้ายฉิงเอาตะกร้ามาข้าอยากจับปลา เจ้าช่วยข้ายกก้อนหินพวกนี้ขวางทางน้ำไว้ด้วย” ลี่หลินวางแผนจับปลาโดยการนำหินมาขวางทางน้ำไว้ทำเหมือนบ่อเลี้ยงปลา ปลาที่อยู่ในบ่อจะไม่สามารถหนีออกไปไหนได้ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยลี่หลินจึงใช้ตะกร้าช้อนตักปลาขึ้นมา

“พี่สะใภ้ ทำแบบนี้สามารถจับปลาได้จริงหรือเจ้าคะ” แม้ว่าไม่มั่นใจแต่อ้ายฉิงก็ยังช่วยลี่หลินยกก้อนหินขวางทางน้ำไว้ตามคำสั่ง ปลาว่ายน้ำเร็วมากมีน้อยคนนักที่จับพวกมันได้ แม้แต่พี่ใหญ่ที่เป็นพรานป่าเองก็เช่นกัน เขาทำได้เพียงไม่กี่ครั้ง

อ้ายฉิงตกใจจนพูดไม่ออกเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นพี่สะใภ้ใหญ่จับปลาได้แถมพวกมันยังไม่ตายอีกต่างหาก

“พวกเจ้าไม่กินปลากันหรือทำไมถึงมีเยอะแยะขนาดนี้ ไปเอาถังน้ำมาใส่ปลาหน่อย ถ้าได้เยอะข้าจะเก็บไว้ทำกับข้าววันอื่นด้วย” อ้ายฉิงรีบวิ่งกลับบ้านเพื่อนำถังมาใส่ปลา ส่วนลี่หลินยังวุ่นวายอยู่กับการจับอย่างเมามัน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นปลาเต็มถังเรียบร้อยแล้ว

“พี่สะใภ้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า พวกเราแบกกลับไม่ไหวแล้วเจ้าคะ” อ้ายฉิงบอกลี่หลินด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า วันนี้จับปลาได้เยอะมากนางจะทำกับข้าวให้พี่ใหญ่กับพี่รองกินจนอิ่มเลยหล่ะ แค่คิดก็มีความสุขสุดๆ จนหุบยิ้มไม่ได้

“แหม ยิ้มหน้าบานเชียวนะดีใจอะไรขนาดนั้น วันต่อไปข้าจับปลาให้เจ้าได้มากกว่านี้อีก ข้าขอลองขุดหลุมดักปลาไว้ก่อนเผื่อดักปลาได้ เสร็จแล้วพวกเราค่อยกลับบ้านกัน” เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มจนปากจะฉีกถึงรูหูของอ้ายฉิงลี่หลินก็อดเอ่ยแซวออกมาไม่ได้ พออีกฝ่ายไม่ได้ตอบโต้อะไรลี่หลินจึงลงมือขุดหลุมดักปลาต่อ

“เจ้าค่ะ” อ้ายฉิงได้แต่รับคำพลางจ้องมองการกระทำของพี่สะใภ้ใหญ่ หลังจากฟื้นไข้ขึ้นมาก็รีบเข้าป่าหาอาหารทันที

ปกติแล้วพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ยอมทำงานสิ่งใดเลย แม้กระทั่งเสื้อผ้าของตัวเองก็ไม่เคยซัก นางคงไม่ถูกผีสิงหรอกใช่ไหม อ้ายฉิงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจอย่างไม่อาจเอ่ยถามออกมาให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตได้ ดีแล้วที่พี่สะใภ้ใหญ่ของนางเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี อย่างน้อยพี่ใหญ่กับพี่รองก็ไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อน

“อ้ายฉิง เจ้ารู้จักหอมป่า กระเทียมป่า หัวขิงหรือไม่ อ้อ พริกด้วย ข้าอยากได้ต้องไปหาจากที่ใด” ภายในครัวมีเครื่องปรุงรสแค่เกลือ น้ำตาล และน้ำมันอีกเล็กน้อย เครื่องปรุงอย่างอื่นไม่มีเลยคงทำอาหารได้ไม่กี่อย่าง

“หอมป่า กระเทียมป่า กับหัวขิง ข้าขึ้นไปเก็บตรงตีนเขาได้เจ้าค่ะ แต่พริกนี่คือสิ่งใดข้าไม่รู้จัก”

“ช่างเถอะ เจ้าไปเก็บพวกมันมาให้ข้าหน่อย ข้าจะเตรียมของทำอาหาร” พูดจบลี่หลินก็หันไปปอกหน่อไม้ในตะกร้าอย่างชำนาญ นางจัดการล้างปลา ผ่าเอาเครื่องในออก เตรียมพร้อมไว้สำหรับทำอาหารเย็น

“พี่สะใภ้ของทั้งหมดวางไว้บนโต๊ะแล้วเจ้าค่ะ ท่านต้องการสิ่งใดอีกไหม” อ้ายฉิงใช้เวลาเพียงครึ่งเค่อก็ได้ของกลับมาครบตามที่ลี่หลินสั่ง ยกเว้นแค่พริกที่นางไม่รู้จัก

“ทำไมเจ้ากลับมาเร็วขนาดนี้ แล้วพี่ชายเจ้าหล่ะ ยังไม่กลับกันอีกหรือเลยยามเว่ยแล้วนะ”

“บ้านเราอยู่ใกล้ตีนเขา ข้าเดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้วเจ้าค่ะ พี่สะใภ้วันนี้พี่ใหญ่กับพี่รองคงล่าสัตว์ไม่ได้แน่เลย หากวันไหนล่าไม่ได้จะอยู่บนเขานานจนถึงยามเซินเจ้าค่ะ”

“อืม เจ้ามาช่วยข้าจุดไฟต้มหน่อไม้ก่อน หน่อไม้พวกนี้ต้องต้มให้จืดแล้วค่อยนำไปทำอาหาร วันนี้พวกเราเก็บมาได้เยอะมากข้าจะแบ่งบางส่วนไปตากแห้งเพื่อเก็บไว้กินหน้าหนาว” ทั้งสองคนช่วยกันจัดการกับหน่อไม้ที่เก็บมาจนถึงยามเซิน (15.00–16.59 น.) ก็ได้ยินเสียงผู้ชายสองคนเดินเข้ามา

“อาฉิง พวกข้ากลับมาแล้ว” ลี่หลินหันไปมองตามเสียงเรียกนั้นก็เจอเข้ากับหนุ่มน้อยรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาเกลี้ยงเกลา นามว่าหยางอี้เฉิน กำลังเดินเข้ามาในบ้าน ส่วนผู้ชายร่างใหญ่โต บึกบึน หน้าตาคมคาย จมูกโด่งคม ผิวสีแทนอีกคนที่แบกหมูป่าตามมาทีหลังคงเป็น หยางหนิงเฉิง สามีของนาง

“พี่ใหญ่พี่รอง วันนี้พวกท่านล่าหมูป่าได้” อ้ายฉิงอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น

“ใช่แล้ว ตอนแรกพวกเราโชคไม่ดีเอาเสียเลย ทั้งวันล่าได้แค่ไก่ป่าตัวเดียวกับกระต่ายป่าอีกสองตัวเท่านั้น แต่พอจะลงจากเขาดันได้ยินเสียงสัตว์ป่าต่อสู้กัน พวกข้าตามไปดูเห็นหมูป่าตัวนี้นอนจมกองเลือดอยู่จึงรีบแบกลงมา” อี้เฉินบรรยายอย่างละเอียดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า หมูป่าตัวหนึ่งราคาไม่น้อย

“หมูป่าตัวนี้คงเอาไปขายไม่ทันแล้วหล่ะ เวลานี้ไม่มีเกวียนเข้าเมืองเลย หากนำไปขายพรุ่งนี้เช้าเนื้อหมูก็ไม่สดได้ราคาต่ำมาก ข้าว่าพวกเราเก็บไว้กินดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยไปตรวจดูกับดักอีกรอบ” เมื่อหยางหนิงเฉิงพูดจบทุกคนได้แต่ทำหน้าเศร้าสร้อยออกมา หากดูจากสภาพหมูป่าที่มีรอยฟันเต็มตัวแถมเนื้อไม่สดเก็บไว้กินเองคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ

“ข้ากับอี้เฉินขอตัวไปจัดการหมูก่อน อ้ายฉิงเจ้าเตรียมอาหารเย็นเถอะเสร็จแล้วจะได้กินข้าวพักผ่อนกัน” หยางหนิงเฉิง พูดกับอ้ายฉิงก่อนจะปรายตามองลี่หลินที่ยืนถัดไปอีกเล็กน้อยเพียงแวบเดียวหนึ่งแล้วเดินจากไปพร้อมอี้เฉิน

เมื่อเห็นว่าทุกคนในบ้านทำเหมือนนางเป็นธาตุอากาศ ลี่หลินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร นางยืนอยู่ตรงนี้ยังกล้าเสแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นอยู่ได้ แต่ช่างเถอะ นางขี้เกียจหาเรื่องชวนทะเลาะกับพวกเขาตอนนี้ลี่หลินเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาบ้างแล้ว โจ๊กที่กินเข้าไปตอนเที่ยงแทบนับเม็ดข้าวได้จะไปอยู่ท้องได้ยังไง นางเดินเข้าครัวไปทำอาหารเย็นต่ออย่างอารมณ์ดี วันนี้มีวัตถุดิบเป็นเนื้อหมูเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างช่างน่าดีใจจริงๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 40 ครอบครัวของเรา(ตอนจบ)

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ในที่สุดเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่ทุกคนรอคอยก็เวียนมาถึงอีกครั้ง สมาชิกตัวน้อยของตระกูลหยางตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้กันมาก นอกจากอั่งเปาซองสีแดงแล้วพวกยังได้ของเล่นชิ้นใหม่จากท่านอาด้วย“หยางลู่เสียน หยางลี่อิน พวกเจ้าสองคนเลิกก่อกวนแม่ได้หรือไม่” ลี่หลินถอนหายใจยืดยาวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเบื่อหน่าย วันนี้มื้อค่ำสำหรับปีใหม่ของนางยังไม่ไปไหนเลย ผู้ช่วยตัวน้อยสองคนเอาแต่แย่งเตรียมอาหารทั้งวัน“ท่านแม่ข้าอยากช่วยนี่ขอรับ” ลูกชายตัวดีตอบกลับเร็วพลันจนลี่หลินท้อใจ“เจ้าพาลี่อินไปช่วยท่านพ่อจัดสถานที่สำหรับปิ้งย่างดีกว่า อยู่กับแม่ในครัวน่าเบื่อจะตาย” ลี่หลินหาข้ออ้างให้ลูกสาวกับลูกชายยอมจากไปแต่โดยดี“จะดีหรือขอรับ” ลู่เสียนมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย“ข้าอยากอยู่กับท่านแม่” ลี่อินปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไม่คิด“เฮ้อ พวกเจ้าไม่รู้อะไร ทำงานในสวนสนุกมากนะ ได้วิ่งเล่นจับแมลงด้วย เมื่อเช้าดอกโม่ลี่ฮวาพึ่งผลิบาน หากนำมาจัดใส่แจกันคงส่งกลิ่นหอมไปทั่ว” ลี่หลินหลอกล่อไม่หยุด นางรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยชื่นชอบการจัดดอกไม้มากแค่ไหน“ว้าว ข้าอยากไปเล่นในสวนกับท่านพ่อเจ้าค่ะ” ลี่อินอุท

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 39 ความสุข

    “พวกเราเข้านอนกันเถอะดึกมากแล้ว”หยางหนิงเฉิงปลุกลี่หลินให้ตื่นจากภวังค์ เขาถอดเสื้อตัวนอกมาพาดไว้ข้างเตียงเพื่อระบายความร้อนโดยไม่สนใจนางสักนิด“อะ อืม”ลี่หลินเลื่อนลอยไปชั่วขณะ สายตาไม่รักดีของนางเหลือบไปเห็นมัดกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ที่โผล่พ้นเสื้อตัวในของหยางหนิงเฉิงออกมาพาให้เลือดสูบฉีดทั่วทั้งกาย ลี่หลินพยายามกลืนน้ำลายเหนียวฝืดคอลงไปอย่างยากลำบาก วันนี้หยางหนิงเฉิงวางแผนหลอกล่อนางหรืออย่างไร“หลินเออร์เจ้าไม่สบาย”หยางหนิงเฉิงตกใจมาก เขารีบพุ่งตัวมาประคองใบหน้าของลี่หลินเอาไว้อย่างแผ่วเบา“หะ หะ หืม ข้าสบายดี”ลี่หลินขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรสักนิด“สบายดีอะไร จมูกของเจ้ามีเลือดไหลออกมา”หยางหนิงเฉิงใช้ปลายนิ้วเช็ดเลือดบนจมูกลี่หลินเล็กน้อยก่อนหงายมือให้นางดู“ห๊า ละ เลือด ให้ตายเถอะ”ลี่หลินอุทานออกมาอย่างสิ้นหวัง นางเลือดกำเดาไหลเพราะแอบมองกล้ามเนื้อวับๆ แวมๆ ของสามีเนี่ยนะ อยากจะบ้าตาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเลยเชียว“เจ้ารอก่อน เดี๋ยวข้าไปตามหมอมารักษา”หยางหนิงเฉิงร้อนรน“ไม่ต้อง ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก น้ำลายไม่ไหลออกมาด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว”ลี่หลินดึงแขนเขาไว้ก่อนปร

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 38 ปล่อยวาง

    “พะ พ่อขอโทษ” นายอำเภอเล่อมู่ขอโทษลี่หลินด้วยน้ำตา ในบรรดาลูกสาวลูกชายของเขาไม่มีใครสามารถพึ่งพาได้เลย หลังจากหมดตัวทุกคนต่างพากันทยอยทิ้งเขา“การให้อภัยท่านเป็นเรื่องยากสำหรับข้า” ลี่หลินเบือนหน้าหนีอีกครั้ง น้ำตาของนางไหลรินออกมาหลังได้ยินคำขอโทษจากคนเป็นพ่อ“เจ้าไม่ให้อภัยพ่อก็ไม่เป็นไร แต่ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราสักครั้ง หากไม่มีเงินไปใช้หนี้บ่อนพนันข้ากับนางต้องถูกจับตัดแขนตัดขาเป็นขอทานข้างถนนแน่นอน” นายอำเภอเล่อมู่หันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างเป็นห่วง“เฮอะ ข้าเกลียดนางแทบเข้ากระดูกดำ ทำไมข้าต้องช่วย ท่านพ่อเคยรักข้าบ้างไหมเจ้าคะ เหตุใดถึงกล้าขอร้องออกมาอย่างไม่อาย” ลี่หลินตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด ผู้หญิงคนนี้ทำให้ชีวิตนางกับท่านแม่ต้องตกต่ำ“พะ พ่อ เอ่อ” นายอำเภอเล่อมู่เงียบงันไปพักใหญ่ เขาไม่แน่ใจว่าตนเองรักลี่หลินหรือไม่ ความผูกพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขากับนางมีเพียงน้อยนิด“ข้าขอโทษ ข้าไม่ดีเอง ข้ามันชั่วช้า ข้าไม่เคยทำหน้าที่แม่ให้เจ้าเลยตั้งแต่ฮูหยินใหญ่จากไป เป็นข้าที่ละเลยเจ้าและกีดกันความสัมพันธ์พ่อลูก ข้าเห็นแก่ตัวเองที่ไม่อยากแบ่งปันคนรักกับใคร ท่านแม่ของเจ้าสวยมาก นางเป็

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 37 เผชิญหน้า

    หยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉินเดินทางเข้าอำเภออยู่หลายเดือนเพื่อเตรียมตัวทำการค้า พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลหลายอย่างเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อหน้าร้าน การตกแต่ง การตั้งราคา การหาลูกจ้าง และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องจัดการ ลี่หลินแค่คอยให้คำแนะนำในบางครั้งเท่านั้น อีกไม่กี่วันร้านค้าตระกูลหยางก็พร้อมเปิดให้บริการแล้วหลังจากวางแผนขยายกิจการหยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉิน ก็เดินทางเข้าออกอำเภอเป็นว่าเล่น พวกเขาต้องเดินทางไปจัดการธุระบ่อยมาก การเดินทางเข้าอำเภอแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานถึงสองวัน ลี่หลินเลยต้องหอบผ้าหอบผ่อนมาช่วยอ้ายฉิงดูแลร้านค้า ในตำบลแทน“พี่สะใภ้ข้าเลือกชุดไหนดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงเดินถือเสื้อผ้าเข้ามาในห้องนอนของลี่หลินอย่างต้องการความช่วยเหลือ“อืม ไหนดูซิ” ลี่หลินเพ่งสายตามองเสื้อผ้าหลากหลายแบบตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด“ข้าควรใส่สีแดงเข้ม แดงอ่อน แดงทอง หรือแดงอมชมพูดีเจ้าคะ” อ้ายฉิงคาดคั้นเอาคำตอบ นางนั่งเลือกอยู่นานแล้วแต่ยังเลือกไม่ได้สักที“สีแดงอมชมพูเหมาะกับเจ้า ใส่แล้วดูไม่แก่จนเกินไป” ลี่หลินแนะนำ“พี่สะใภ้ตาแหลมนัก ข้าเลือกชุดนี้เจ้าค่ะ” อ้ายฉิงพึงพอใจมาก นางเองก็คิดว่าใส่แล้ว

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 36 ขยายกิจการ

    ร้านค้าตระกูลหยางเติบโตขึ้นทุกวันแบบก้าวกระโดด ตอนนี้ลี่หลินกับครอบครัวกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ของตำบลอย่างเป็นทางการแล้ว ครอบครัวหยางร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ สินค้าส่วนใหญ่ของลี่หลินมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในความเป็นจริงแล้วการค้าของครอบครัวหยางก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ พวกเขามีคู่แข่งมากมายและมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขไม่น้อย ทั้งเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า การตัดราคา ข่าวลือ การใส่ร้ายป้ายสี รวมไปถึงเรื่องราวจิปาถะหลายอย่าง พวกเขาสามารถก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้เพราะทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือกันคู่แข่งทางการค้ามีเข้ามาเรื่อยๆ แต่คนพวกก็ไม่สามารถเล่นงานลี่หลินได้เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นางผลิตเอง ลี่หลินทำการค้าจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำเน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทำให้คู่แข่งส่วนมากต้องล่าถอยออกไปเพราะยิ่งแข่งขันกับนางเท่าไหร่พวกเขายิ่งขาดทุนกิจการร้านเหล้าผลไม้ (ไวน์) ทำให้ครอบครัวหยางกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ขุนนางมากขึ้น ด้วยรสชาติที่แตกต่าง ดื่มง่าย มีระดับมากกว่าเหล้าทั่วไป ขุนนางน้อยใหญ่จึงกลายเป็นลูกค้าประจำอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมในการซื้อเป็นของฝากแก่ผู

  • ข้าจะเป็นนางร้ายที่ผู้คนต้องอิจฉา   บทที่ 35 ปัญหาของคนมีเงิน

    “อ้ายฉิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง”ลี่หลินตะโกนถามอย่างใจเย็น วันนี้นางกับอ้ายฉิงต้องนำของขวัญปีใหม่ไปเยี่ยมเยียนครอบครัวต้าไห่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของนางทุกคนล้วนได้รับของขวัญชิ้นนี้“เสร็จแล้วเจ้าค่ะพี่สะใภ้”อ้ายฉิงวิ่งลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างรวดเร็ว“รีบไปกันเถอะเสร็จแล้วจะได้เข้าเมืองกัน”ลี่หลินเอ่ยเร่ง วันนี้สองหนุ่มของบ้านต้องเข้าไปดูแลร้านค้ากันก่อนเพื่อให้ลี่หลินกับอ้ายฉิงจัดการธุระ“เจ้าค่ะ ท่านเอาของขวัญมาข้าถือเอง”อ้ายฉิงแย่งตะกร้าของขวัญในมือลี่หลินไปถืออย่างรวดเร็วก่อนเดินนำออกไปทั้งสองคนใช้เวลาเดินเพียงไม่นานก็มาถึงบ้านต้าไห่ ลี่หลินกวาดสายตามองรอบๆ อย่างพิจารณา บ้านของต้าไห่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากบ้านดินสภาพกลางเก่ากลางใหม่กลายเป็นเรือนสี่ประสานหลังใหญ่สวยงาม อ้ายฉิงเคาะประตูได้ไม่นานก็มีสาวรับใช้อายุน้อยนางหนึ่งออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี ลี่หลินกับอ้ายฉิงเดินตามสาวน้อยคนนั้นเข้าไปในเรือนหลังใหญ่ของบ้านอย่างแปลกใจ ว่ากันตามตรงกำไรจากการขายถ่านไม่เยอะเลยเมื่อเทียบกับกิจการทั้งหลายของลี่หลิน แต่ละเดือนนางได้รับผลกำไรประมาณ 30-50 ตำลึงทองเท่านั้น บ้านของต้าไห่เองก็น่าจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status